เด็กรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 30 -32 ปี คงไม่ทันเห็นพระราชกรณียกิจของในหลวง ว่าพระองค์ท่านทรงตรากตรำทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศมากมายเพียงใด
จะว่าไปแล้ว... ในหลวงเป็นฮีโร่ของเราคนหนึ่งเลยนะ ทรงมีพระปรีชาสามารถรอบด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นการกีฬา การประดิษฐ์คิดค้น ด้านศิลปะในแขนงต่าง ๆ วาดรูป ถ่ายภาพ หรือแม้แต่ด้านดนตรีก็สุดยอด ฯลฯ นี่คือคนคนเดียวนะ ทำอะไรได้เยอะแยะมากมายอย่างกับ 100 คน และสิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่แค่เพียงทำได้หรือได้ทำเท่านั้น แต่ทุกอย่างเข้าขั้นยอดเยี่ยมเกือบหมดทุกชิ้นงานเลย แสดงว่าในหลวงท่านต้องทำการบ้านอย่างหนักหน่วง ต้องศึกษาอย่างลึกซึ้งให้ถึงแก่น สุดยอดมาก ๆ ในหลวงของเรา
ปล. สังเกตุมานานหลายสิบปีละ ทำไมไม่เคยเห็นในหลวงทรงประพาสไปต่างประเทศเลย ตอนที่พระวรกายยังแข็งแรงก็ไม่เห็น สะกิดถามเพื่อนฝูงหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 40-50 ปี เขาก็บอกไม่เคยเห็นเหมือนกัน . . |
|
|
เมื่อแรกที่ในหลวงทรงเถลิงถวัลยราชสมบัตินั้น ตามธรรมเนียมพระมหากษัตริย์เมื่อทรงขึ้นครองราชย์ ก็จะเสด็จประพาสต่างประเทศเพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรี ในหลวงของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อพระองค์ท่านทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว ก็เสด็จฯประพาสพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เป็นเวลานานเลยค่ะ เพราะเสด็จฯประพาสแทบทุกประเทศที่เรามีความสัมพันธ์ทางการฑูต
และ หลังจากนั้นแล้ว ก็ไม่เคยเสด็จฯประพาสต่างประเทศอีกเลย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงมีพระราชนิพนธ์เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินประพาสต่างแดนครั้งนั้นไว้นะคะ เป็นเล่มหนามากเลยค่ะ และพระองค์ท่านก็ได้ทรงบันทึกเกี่ยวกับการนี้ไว้ว่าในหลวงทรงมีพระราชดำรัสว่า "เราคือกษัตริย์ของประเทศไทย ชีวิตของเราแต่นี้ต่อไปก็เพื่อทำงานให้กับแผ่นดินตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชน ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ดังนั้นหากใครอยากพบกับเรา ก็มาพบเราได้ในแผ่นดินไทย แต่เราจะไม่ทิ้งแผ่นดินไทยไปที่ไหนอีกเลย"
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในหลวงของพวกเรา ก็ไม่เคยเสด็จฯประพาสต่างประเทศอีกเลยค่ะ หากจะต้องมีการเสด็จในระดับพระราชวงศ์ชั้นสูง สมเด็จฯ ก็จะทรงเป็นผู้
อีกประการหนึ่ง โดยกฎหมายและกฎมณเฑียรบาล หากพระมหากษัตริย์เสด็จฯยังต่างประเทศ หรือทรงผนวช ต้องมีผู้สำเร็จราชการด้วยค่ะ (นี่คือเหตุผลว่า เมืื่อครั้งที่ในหลวงทรงผนวช สมเด็จฯ ท่านจึงทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และเราึจึงออกพระนามสมเด็จฯ ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ)