ความคิดเห็นที่ 1 ผมไม่ทราบจริงๆว่าผมเป็นโอตาคุรึเปล่า 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน เล่นฟิตเนส ตีเทนนิส ในแต่ละวัน 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน -อันนี้จริงครับ 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -อันนี้จริงครับ ผมจำรายละเอียดพวก one piece หรือ Dragonball ได้ดีเลย 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   - รู้จักศัพท์ครับ แต่ไม่ชอบเสพแนวนี้ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า - ผมสนใจเสื้อผ้าหน้าผมครับ แต่เสียเงินกับเรื่องพวกนี้ไม่แพงมาก 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   - ไม่ชอบไปงานมีตติ้งครับ ถ้างานหนังสือละก็พอจะไปบ้างครับ แต่ชอบพวกงานมอเตอร์เอ็กโปหรือการแข่งขันเทนนิสมากกว่าครับ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ถามว่าชอบมั้ยก็ชอบครับ แต่ให้ตายก็สู้คนจริงๆไม่ได้ครับ จากคุณ : poon_win เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:47:34

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบเรียงไปเลยนะ (แต่ยังไงเราก็ว่าเราไม่ใช่โอตาคุ เพราะมีเรื่องอื่นที่สนใจอีกเยอะแยะ ไม่ได้ยึดติดกับการ์ตูนอย่างเดียว) 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? คุณสมบัติที่มีก็... 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   ที่เหลือมันไม่ใช่อ่ะ เพราะเราชอบซื้อเสื้อผ้า เงินหมดกับเกมมากกว่าการ์ตูน งานหนังสือชอบอยู่ แต่งานการ์ตูนก็ไปบ้างไม่ไปก็ไม่เป็นไร ชอบฟังเพลงและดูคอนเสิร์ตมากกว่า และมีแฟนแล้ว ไม่ได้ชอบเฉพาะ 2D สาว 3D อิ่มใจกว่าครับ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   -ไม่ได้ยอมรับนะ แต่อยากตอบอ่ะ เพราะคุณสมบัติคงมีไม่ถึง 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร -ไม่นะ เฉยๆ แฟนเราก็ชอบเรียกแบบนี้ "ไอ้โอตาคุ" โดนประจำ เวลาหมกมุ่นกับการ์ตูนหรือเกมแบบหน้ามืดอ่ะ 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ -ก็ไม่รู้อ่ะ เขาอยากใช้ก็ใช้ไป ไม่ได้คิดอะไรมาก 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     -มันคงเป็นสัน...เอ๊ย นิสัยส่วนตัวแต่ละคน 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร -ไม่หรอก พวกที่ขั้นรุนแรงขนาดนั้นคงเลยจากคำว่าโอตาคุไปแล้ว อาจจะเปลี่ยนเป็นคนบ้าหรือโรคจิตแทน 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   -ไม่เคยคิดว่ามันเท่นะ และไม่ได้อยากให้ใครมาสนใจ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน -บ้านเราคงไม่ค่อยถึงขั้นนั้นมาก ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรุนแรงอะไร ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเท่าไหร่นะ ก็อยู่ในที่ที่เฉพาะของเขากันน่ะ จากคุณ : รู้รึเปล่าว่าเค้าคือแมว เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:01:31

ความคิดเห็นที่ 3 1.1 - 1.7 ผมรวบรวมมาจาก ข้อสังเกตที่ว่าเป็นโอตาคุ จากที่เค้าให้คำนิยามกันเว็บบอร์ดการ์ตูนของต่างประเทศน่ะ ถ้ามีสัก 5 ข้อขึ้นไปก็น่าจะใช่ละมั้ง แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 16:13:10 จากคุณ : Sasadao เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:10:56

ความคิดเห็นที่ 4 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1-1.7 โดนเกือบหมดทุกข้อ - ไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าหรูๆราคาแผง แต่ชอบที่จะซื้อเสื้อถูกๆตามตลาดนัด - ดูหนังบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ชอบไปดูคอนเสิร์ตเพราะเกียดเสียงดังกับคนเยอะๆ แต่ชอบไปงานหนังสือ - เงินเดือนเก็บไว้ส่วนนึง ที่เหลือใช้ชื้อของที่อยากได้(ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าเกี่ยวกับการ์ตูน) - คนจริงๆก็ชอบ แต่ก็เหมือน ดารา นักร้อง คือ ได้แค่รู้จักแต่ไม่สามารถสนิทสนมได้ 2+3 ผมเรียกตัวเองว่า"พวกบ้าการ์ตูน" แต่ใครจะเรียกว่าโอตาคุ ก็ตามใจไม่ได้ว่าอะไร 4. เฉยๆ เพราะเป็นแค่ชื่อเรียก คนที่ดูถูกต่อให้ใช้ชื่อว่าอะไรก็โดนดูถูกอยู่ดี 5. ขอคำอธิบายของคำว่า"เรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไป"ด้วยครับ อย่าง ผมเดินไป-กลับ 1กิโลเมตร เพื่อไปซื้อการ์ตูน ถือว่าแปลกไหม แต่ถ้าจากที่ยกตัวอย่าง -  เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ถ้าซื้อจากร้านแล้วถือกลับบ้าน_______  ไม่แปลก ถือออกจากบ้านออกไปข้างนอกแล้วถือกลับมา________  แปลก - ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม_______แปลก - ขู่ทำร้ายเซย์ยู______อันตราย - ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ _______ไม่แปลก 6.  ไม่ครับ  ดูออกง่ายกว่าพวกที่ทำตัวเงียบๆขรึมๆไม่รู้คิดอะไร 7. อ้างอิงจากข้อ2+3 ผมเรียกตัวเองว่า"พวกบ้าการ์ตูน" 8. เท่าที่ดูตามท้องถนนทั่วไป ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรครับ จากคุณ : slamer เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:59:34

ความคิดเห็นที่ 5 ผมเรียกตัวเองว่า อนิเมสเปเชียลลิส ครับ 55555555+ จากคุณ : Ryu_jin_maru เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:05:43

ความคิดเห็นที่ 6 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ?  ไม่เคยคิด แต่ชอบมีคนยกตำแหน่งนี้ให้ 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน ตอบไม่ถูกเพราะว่ายังอ่านนิตยสาร นิยาย ไลท์โนเวล สารคดี ฟังเพลง เล่นเว็บบอร์ด ถ้าคิดดูแล้ว ก็ถือว่าใช้เวลาเยอะกว่าครึ่ง โดยเฉพาะหลายเดือนมานี้เล่นเกม Plants VS Zombies  1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน ไม่เคยถึงครึ่งเลย แล้วเครื่องเล่นเกมนับหรือเปล่า บางทีก็เก็บตังค์ หลายเดือนถึงจะซื้อได้สักเครื่อง 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ อย่าว่าแต่รายละเอียดพวก คนแต่ง คนพากย์ วันเกิดตัวละครเลย บางครั้งยังนึกชื่อตัวละครไม่ออกเสียด้วยซ้ำ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ ก็ชอบดูพวก H นะ แต่ยอมรับว่า หลายๆ เรื่องรับไม่ได้ ต่อให้แนวชอบ ยังไงๆ ก็ย่อมมีเรื่องนี้รับไม่ได้ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า ใช่ไม่ค่อยใส่ใจ แต่จะเก็บเงินไว้ซื้อของอื่นๆ โดยทั่วไป มากกว่าจะเป็น แค่เฉพาะการ์ตูน (เพราะไม่มีที่เก็บแล้ว) 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   ไม่ ถ้าไม่ลำบาก มีเวลาก็ไปได้ อยากดูคอนเสิร์ตมากกว่า แต่ค่าบัตรแพงสุดๆ  ที่สำคัญไม่ค่อยชอบที่คนเยอะๆ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! เคย อันนี้แน่นอน แต่ไม่ตลอดเวลา จริงๆ นับเวลาทั้งหมด น่าจะแค่สัก 5% ของเวลาทั้งหมด จริงๆ แล้วต้อง 3 D เท่านั้น ถ้าจับต้องได้ ยิ่งดีใหญ่ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   รู้ และไม่เคยยอมรับว่าเป็น 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร ตอนแรกก็เถียง หลังๆ ก็เลิก เบื่อเถียง 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ เฉยๆ คำบางคำ ความหมายดีๆ ก็ใช้ให้มันเลวๆ ความหมายเลวๆ กับใช้ให้มันดี เช่น โกงแต่ทำงาน เป็นต้น 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     อันนั้นคิดว่าเป็นแค่คนอยากโชว์พาว หรือว่าชั่วชีวิตหนึ่งอยากทำอะไร เพี้ยนๆ เล่น ที่สำคัญไม่เข้าใจเรื่องความคิดอ่านของคน "ญี่ปุ่น" อยู่แล้ว คิดไปก้เรื่อยเปื่อยไร้สาระอยู่ดี 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร ไม่เคยเห็นคนที่อาการหนักขนาดนั้นจริงๆ เคยรู้กลุ่มที่ชอบหนักๆ แต่งคอสพลย์ ทำอะไรเพี้ยนๆ ตามงานการ์ตูน แต่ตอนนอกงาน ก็เห็นเป็นคนธรรมดา คุยเรื่องการ์ตูนที่ชื่นชอบ เหมือนสาวๆ เม๊าท์ แตกเรื่องดารา 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   ไม่เคยบอก 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน แค่เกรียนอยากโชว์ กับพวกที่อยากทำอะไรบ้าบอๆ เพื่อดึง ความสนใจของคนอื่นเนื่องจากไม่มีความสามารถอะไร ที่สามารถอวดคนอื่นได้ จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:30:15

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนเราเรียกตัวเองว่า"คนชอบดูการ์ตูน"นะ555555555+ จากคุณ : น้องตีปสุดหล่อข้ามทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:43:24

ความคิดเห็นที่ 8 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน -ใช่ แต่ขึ้นอยู่กับสถานะและสภาพแวดล้อมตอนนั้นด้วย 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน -ใช่ 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -ใช่ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   -ใช่(หมายถึงรู้จักน่ะนะ) แต่ถ้าไม่ใช่แนวก็ไม่สนใจ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า -สนใจนิดนึง  ต้องรักษาฟอร์มของตัวเองไว้ 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   -ขึ้นอยู่กับว่าคอนเสิร์ตอะไร หนังอะไร และงานมีตติ้งอีเวนท์มีเนื้อหาเป็นอย่างไร 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! -เคย  แต่ไม่ถึงกับขนาดที่ว่าแต่งงานกับปลอกหมอนอะไรประมาณนั้น 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   -ทราบ แต่เราไม่ใช่โอตาคุ  เราคือ"คนชอบดูการ์ตูน" 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร -เคืองเล็กน้อยแต่อาจไม่ถึงขนาดโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ -โนคอมเมนท์ จะไปด่าคนที่เอาคำนี้ไปเผยแพร่ก็ไม่ได้ เพราะเค้าก็ไม่ได้พูดอะไรผิด(ถึงจะไม่ถูก100%ก็เถอะ)  หรือจะไปด่าคนที่รับฟังก็ไม่ได้ 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     -ขึ้นอยู่กับว่าทำอะไร ทำที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง และพฤติกรรมรุนแรงหรือไม่ เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ <<<<พิลึก ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม <<<<พิลึก ขู่ทำร้ายเซย์ยู<<<<อันนี้มีปัญหาทางจิต ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ<<<<ไม่พิลึก ใครมีเงินจะทำอะไรก็เรื่องของเขา หากไม่ผิดกฏหมายและไ่ปทำให้ใครเดือดร้อน  จะกว้านซื้อทั่วประเทศก็เชิญ 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร -โอตาคุมีหลายประเภท มีหลายแนว บางรายมาแนวWanna be บางรายมาเงียบ บางรายก็โอตาคุดี บางรายก็***ไปเลย 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   -ไม่เคยคิดว่ามันเท่และไม่เคยแสดงตัว  ปกติก็แอบๆอ่านการ์ตูนไม่ให้คนอื่นเห็นแล้ว กลัวเอาไปล้อ"โตป่านนี้แล้วยังจะอ่านการ์ตูนอีก บลาๆๆๆ"-*- 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน -ที่ออกมาโชว์ปลอกหมอนเรท18+เนี่ย เรียกWanna be อยากเป็นให้คนอื่นได้รับรู้ -คนที่เป็นจริงๆ เวลาอยู่ในสังคมทั่วไปดูไม่ค่อยออกหรอก  พวกนี้เงียบซะเนียนเลย  แต่ถ้าเจอสิ่งล่อตาล่อใจก็เริ่มเผยแล้ว แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 18:20:19 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 18:08:39 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 18:08:02 จากคุณ : น้องตีปสุดหล่อข้ามทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:04:53

ความคิดเห็นที่ 9 กุเกรียน จากคุณ : Ziron เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:47:52

ความคิดเห็นที่ 10 คือ บอกก่อนว่าเราไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุนะ เรายังไม่รู้เรื่องการ์ตูนมากถึงขั้นนั้น แต่จะตอบอ่ะ55 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน (ก็มีส่วนจริงนะ ปิดเทอมอ่านการ์ตูนตลอด แต่ถ้าเปิดเทอมคงไม่ได้) 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน (ยังไม่ถึงครึ่งค่ะ แต่ก็เยอะเหมือนกัน) 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ (ค่ะ จำได้ แต่จำละเอียดขนาดนั้นได้แค่เรื่องเดียว) 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ (รู้จักค่ะ อ่านได้แต่ไม่ใช่แนวที่ชอบ) 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า (ใส่ใจค่ะ) 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   (เราก็ชอบทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่างานหรือหนังนั้นๆมันน่าสนใจแค่ไหน) 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! (เคย และยังชอบ2Dมากกว่า) 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   (ทราบค่ะ แต่ตามที่บอกข้างต้นเราไม่คิดว่าเราเป็น 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร (ขึ้นอยู่กับเจตนาผู้พูด แต่ถ้าถามความรู้สึกแวบแรก ก็ไม่ชอบ) 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ (ส่วนตัวอยากให้ใช้ให้ถูกความหมายนะคะ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิด เพราะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร) 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     (บางเรื่องก็แล้วแต่เขาค่ะ ขอแค่หมอนข้างอย่าเป็นแบบว่า...แล้วก็ขู่เซย์ยูนี่ไม่ควร ) 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร (เราว่าถ้าเป็นแบบนั้น มันเกินกว่าโอตาคุแล้วนะ เกินกว่ามนุษย์คนนึงด้วย) 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   (เราไม่คิดว่าเราเป็นโอตาคุ แต่แค่จะให้รู้ว่าเราชอบการ์ตูนมากๆ ถ้าไม่สนิทจริง เราก็ไม่เปิดเผยนะ) 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน (ต้องแค่ไหนอ่ะ ถึงจะเรียกว่าโอตาคุ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าคนนั้นเป็นโอตาคุ เพราะบางคนแค่อยากเป็น ก็บอกว่าเป็น ดังนั้นเราคงตอบไม่ได้ว่าการแสดงออกของโอตาคุในไทยเป็นไง) แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 19:36:41 จากคุณ : อยากเกิดเป็นพุดดิ้ง (หิมะสีนํ้าเงิน) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:35:15

ความคิดเห็นที่ 11 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? ไม่เคยคิด และไม่อยากเป็น 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน ราวๆ 1/3 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน ราวๆ 1/5 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ จริงบ้าง 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ  ใช่ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า ไม่เชิง ไม่ได้ใส่ใจมาก แต่ก็แบ่งไว้สำหรับเสื้อผ้าด้วย 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต  ใช่ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! เคย 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   ทราบ แต่ไม่เคยยอมรับ ยกเว้นว่าจะพูดกันเล่นๆ 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร ดูเจตนาเป็นหลัก หากดูถูก หรือไม่รู้ความหมายจริงๆ ก็โกรธ แต่ถ้าแซวกันเล่นๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ ไม่ชอบมากกว่าครับ เพราะเด็กไทยสมัยนี้เรียกตัวเองว่าโอตาคุๆ ชอบนั่นชอบนี่ทั้งๆ ที่มันคือคำด่าตัวเองชัดๆ ว่าไม่มีอะไรดี 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     ใช้คำว่า ทำบ้าง ดีกว่า คือมีตรรกะแปลกๆ ไม่เหมือนคนทั่วไป 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร ใช่ อาจไม่ถึงขั้นเป็นภัย แต่น่ารำคาญ เช่นสปอยล์ตอนจบสำหรับคนไม่รู้จัก ที่กำลังจะหยิบการ์ตูนเรื่องนั้นๆ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม  ไม่เคยพูด จึงไม่เคยมีประสบการณ์ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน ทุเรศครับ จากคุณ : Kyonkun เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:39:00

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้เป็นโอตาคุ แต่ชอบการ์ตูน ผมว่าโอตาคุเมืองไทยส่วนใหญ่ยังพอรับได้ครับ เค้าแค่ชอบ ไม่ถึงกับบ้าคลั่งแบบญี่ปุ่น ขอตอบสัก1ข้อ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ต้องผู้หญิงจริงสิครับ!!!การ์ตูนเราซั่มได้ที่ใหน!!! จากคุณ : chanwitpop เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:39:48

ความคิดเห็นที่ 13 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ?   - เป็นทุกข้อครับ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ    - ทราบ ไม่ได้อยากเป็น และไม่ยอมรับด้วย 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร  - โกรธ แต่ถ้าเขาแค่แซวเล่นๆ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าด่าจริงจังนี่มีต่อย 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ  - คิดว่าแย่ครับ เพราะหัวข้อแล้ว มันหมายถึง "คำว่าโอตาคุ = + " แทนที่จะเป็น "คำว่าโอตาคุ = - " จึงจะทำให้มีคนเข้าใจผิดๆไปตลอดครับ 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ      - ไม่จำเป็นครับ ความชอบอยู่ส่วนความชอบ การดำเนินชีวิตก็อยู่ส่วนการดำเนินชีวิต ถ้าแยกแยะไม่ออกนี่ ไม่สมควรจะแม้แต่เรียกว่า Wanna Be ด้วยซ้ำไป 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร  - ใช่ครับ "ส่วนใหญ่" แต่ก็มีส่วนน้อย ที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ การเรียนรุ่งเรือง หน้าที่การงานรุ่งโรจน์ เพื่อนฝูงมากมี อยู่นะครับ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม    - โกรธยิ่งกว่าถูกด่าว่า "โอตาคุ" อีกครับ ถ้าคุณเข้าใจจริงๆ จะรู้ว่าอาการนี้ ไม่ใช่อยากเป็นก็เป็นได้ มันต้องอาศัยทั้งปัจจัยและจังหวะเวลา รวมทั้งความอ่อนไหวของจิตใจในตอนนั้นด้วย เช่น คนที่เพิ่งโดนหักอกมา สโหลสเหลกลับมาถึงบ้าน เจอการ์ตูนในทีวี พูดประมาณว่า "จะรักคุณตลอดไป" จะมีโอกาสเริ่มแสดงอาการได้มากครับ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน  - จะแสดงตัวยังไงก็ทำไป แต่ ต้องไม่ขัดหลักกฎหมาย ทำร้ายจิตใจคน กระทบกับสังคม และดับชีวิตที่เป็นอยู่ ก็พอครับ จากคุณ : JBoyMaso เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:54:40

ความคิดเห็นที่ 14 ๑.๑ ใข่ ถ้าตอนอยู่เมืองจีน แต่ถ้าตอนอยู่ไทยก็จะเจียดเวลาไปฝึกเทควันโด ขี่มอไซด้วย ๑.๒ แค่ประมาณ๑ใน๓ ๑.๓ จำเรื่องที่ชอบหรือสนใจได้ละเอียด มันแปลกตรงไหน ๑.๔ รู้แและเสพย์ด้วย แต่เฉพาะยูริและสาวดุ้ณเท่านั้น ๑.๕ ก็ยังสนอยู่ แต่ไม่ซื้อมากเท่านั้นเอง ๑.๖ ก็ไปหมดแหละ ที่เหลือคือการจัดคิวและความสำคัญ ถ้างานไหนมีจัดวันเดียว ก็ต้องไปงานนั้นก่อน  หนังยังดูรอบอื่นได้ ๑.๗ เคย เพราะสาว2d บางคนก็ตรงสเปกสาวที่ชอบในชีวิต ซึ่งชีวิตจริงผมก็ยังอยากมีแฟนอ ๒ ทราบ และบางทีก็ดูเหมือน (ทั้งที่รู้สึกเองและคนอื่นบอก) ๓ ไม่โกรธ ๔ ไม่มีความคิดเห็น ๕ คิดเหมือนคุณน้องตีปฯ แต่เรื่องกว้านซื้อนี้ ถ้าไม่ใช่ซื้อเพื่อเอาจำนวนไปแลกรางวัล อันนี้ขอเหอะ เห็นใจคนอื่นที่อยากซื้อบ้าง 6 บางที่ผมเรียกพวกนั้นว่า เกรียนที่เป็นโอตาคุ 7 ปรกติไม่เคยบอกคนอื่นว่าเป็นโอตาคุ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 20:12:58 จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:04:50

ความคิดเห็นที่ 15 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน -yes 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน -yes 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -yes (แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนไทป์มูนนะ รู้แค่งู ๆ ปลา ๆ ) 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   -yes 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า -yes แต่บางทีก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ คือ ถ้าอยู่บ้านก็แต่งเซอ ๆ แต่เวลาจะไปเจอคนข้างนอกก็จะพยายามแต่งให้ดูดีไว้ก่อน 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   -งานไม่ค่อยได้ออกเนื่องจากบ้านไกลแหล่งจัด ส่วนหนังจะไปดูถ้าเป็นเรื่องที่อยากดูจริง ๆ   1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! -อาจใช่ แต่ยังไงมันก็เป็นแค่ตัวการ์ตูนที่เอาไว้เติมเต็มความฝันและจินตนาการของเรา ไม่สามารถตอบสนองในโลกแห่งความจริงได้ ยังไงก็สู้คนจริง ๆ ไม่ได้ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   -ทราบ แต่ไม่เคยคิดอยากจะเป็นหรือให้ใครมาเรียก 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร -เฉย ๆ ถ้าเรียกแบบแซวเล่น ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าเรียกในเชิงล้อเลียนหรือเห็นเป็นเรื่องตลกเพียงเพราะเห็นเราคลุกคลีอยู่กับการ์ตูน(ประมาณทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต)นี่ก็มีเคือง 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     -ถึงบางคนจะโดนเรียกว่าโอตาคุแต่พฤติกรรมบางอย่างมันก็ไม่ได้สุดโต่งขนาดนั้นไปเสียหมดทุกคน ซึ่งโอตาคุมันก็มีทั้งที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป เช่น โอตาคุ A มีการมีงานทำ มีมนุษย์สัมพันธ์ สามารถใช้ชีวิตร่วมอยู่ในสังคมได้ไม่ต่างกับคนทั่วไป เพียงแต่ชอบการ์ตูนมากก็เท่านั้น โอตาคุ B เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่สนใจโลก  ไม่กล้าเข้าสังคม  หมกหมุ่นอยู่กับการ์ตูน (บางทีถ้าอาการหนักก็กลายเป็นฮิกกี้ไปเลย) แต่ถ้า  B ไปก่อเรื่องจนเป็นคดีขึ้นมากลายเป็นว่า A โดนหางเลขถูกเหมารวมไปด้วยซะงั้นว่า "พวกคลั่งการ์ตูน(โอตาคุ)นี่เป็นแบบนี้กันหมดทุกคนเลยรึ" 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร -เหมือนข้อ 5 คือมีบ้างแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแบบนั้น   7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   บอกไม่ถูกเพราะไม่เคยคิดอยากจะเป็น จากคุณ : Whiteface เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:26:12

ความคิดเห็นที่ 16 1.1 ใช่ แต่ก็แล้วแต่ช่วง บางช่วงก็อาจจะไม่แตะเลยเพราะไปทำกิจกรรมอื่น แต่ถ้าเป็นบางช่วง เช่นเกมออกใหม่ จะใช้เวลาเกือบทั้งหมดในส่วนนี้แทน 1.2 แบ่งเป็นสองประเด็น เงินเดือนหรือค่าขนม ถ้าคิดแค่ส่วนนี้เกินครึ่งแน่นอน แต่ถ้ารวมค่าอย่างอื่น เช่นค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง จะไม่เกินครึ่ง เพราะไม่ได้จ่ายเอง 1.3 ใช่ แต่ประเด็นที่ทำให้เป็นก็คือ ชอบอ่านและศึกษาวรรณกรรมทั้งหลายอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่เกมหรือการ์ตูน อีกทั้งมีความจำดีกับเรื่องประเภทนี้ จึงไม่่แปลกที่จะทำให้จำได้ 1.4 ถ้าชอบจะขยะแขยงทำไมง่ะ... 1.5 ไม่สนใจกับเรื่องค่านิยมหรือแฟชั่นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงใช่ 1.6   ไม่ได้ชอบไปงานมีตติ้งหรืออีเวนท์ แต่ถ้างานหนังสือที่มีหนังสือขายโอเค ส่วนดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ไม่ใช่แนว ไม่ไปดูหรอก 1.7 ยังไม่มีคนจริง ๆ ที่ให้รู้สึกชอบขนาดนั้น ส่วน 2D ก็ยังไม่มีระดับที่ถึงว่าคลั่งไคล้ ส่วนใหญ่เฉย ๆ มากกว่า ทว่าถ้าเทียบระหว่าง3Dกับ2D จะมี2D ที่ชอบมากกว่า3D ถ้าเจาะจงแค่เรื่องนี้ เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็นโอตาคุก็ได้ ทว่าหากดูภาพโดยรวมเราจะไม่ใช่โอตาคุแน่นอน เพราะสิ่งที่เราคลั่งไคล้ไม่ใช่การ์ตูน แต่เป็น "วรรณกรรม" ทั้งหมด การ์ตูนเป็นสิ่งหนึ่งของวรรณกรรม จึงไม่แปลกที่จะดูว่าเราคลั่งไคล้มันไปด้วย ดังนั้นเราว่า คำถามในส่วนนี้ยังมีไม่ครบและแยกโอตาคุการ์ตูนจริงกับประเภทคลั่งไคล้วรรณกรรมทุกประเภทได้ไม่ออกนะ ...ข้ออื่นต่อ 2. เราไม่เรียกว่าตัวเองเป็นโอตาคุนะ และทราบว่ามันอยู่ในแง่ที่ไม่ดี 3. ถ้าเรียกโดยไม่ได้คิดในแนวเหยียดหยามไม่โกรธและไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ก็นั่นแหละ อยากจะเข้าไปอธิบายความหมายคำว่าโอตาคุใหม่ให้เสียจริง 4. ก็เรื่องของเขา เหมือนกับคนไทยที่จะแต่งนิยายหรือเขียนการ์ตูนนำเสนอในมุมมองที่ว่าติ่งหรือเกรียนเป็นคนทั่วไป ไม่ได้ดีหรือเลว เราก็รู้สึกเฉย ๆ 5.  ไม่จำเป็น แต่โอตาคุจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้เข้ากับสังคมไม่ได้ แต่สังคมยังยอมรับได้ (เช่นพูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง หาเรื่องวกเข้าเรื่องการ์ตูนที่ชอบตลอดเหมือนสาวกแ*มเวย์) 6. คิดว่าเหมือนสาวกแ*มเวย์ที่ไม่มีเรื่องการชวนเข้าลัทธิ หรือหลอกขายของมาเกี่ยว 7. ...ก็สมควร บางคนชอบการ์ตูนตามกระแส เช่นรีบอร์ด ดีเกรย์แมน นารูโตะ อะไรที่ดูเท่ ๆ แบบสาว ๆ ชอบดารา ไม่ได้คลั่งไคล้การ์ตูนอย่างจริงจัง แค่ชอบแค่บางเรื่อง แถมยังไม่ได้รู้ดีในเรื่องนั้นอีก ก็กระแดะเรียกตัวเองว่าโอตาคุ มันทำให้ความหมายของคำนี้บิดเบือนไปหมด 8. ยังไม่เห็นโอตาคุของแท้แสดงตัวอะไรในสังคมไทย เห็นแต่คนที่ระริกระรี้อยากจะเป็นโอตาคุมาแสดงตัวในสังคมไทยเท่านั้น ซึ่งคนกลุ่มนี้แหละจะทำให้เกิดผลเสียกับชาวการ์ตูน เพราะความไม่รู้จริงแต่อยากเด่นอยากดังของตนเอง (เจอบางเคสที่อยากคอสเป็นตัวอะไรก็ได้ที่เท่ ๆ แต่ไม่สนว่าตัวละครนั้นจะเป็นใครมาจากเรื่องไหนที่ตนเองรู้จักหรือไม่) จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:57:18

ความคิดเห็นที่ 17 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน   - ไม่ เวลาส่วนใหญ่ผมหมดไปกับงานและครอบครัวครับ เวลาส่วนตัวมีอยู่ราวๆ 2-3 ชมเองไม่นับนอนนะ 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน - อันนี้เต็มๆ ใช่ 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ - ไม่ อ่านการ์ตูนไม่ค่อยสนใจรายละเอียดอะไรอยู่แล้วเน้นอ่านหรือดูสบายๆ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   - ใช่ ถ้าสายที่ชอบละก็นะ มันคือศิลปะ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า - ใช่ เพราะมีคนซื้อให้อยู่แล้ว 55 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   - ไม่ ชีวิตแทบจะไม่มีเวลาอยู่แล้วขึ้นไปแล้วจะเอาอะไรกิน 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ไม่ ใครคิดแบบนั้นแสดงว่ายังไม่รู้จักใช้ชีวิตให้คุ้มค่าพอ รวมแล้ว 3 ส่วน 7 แต้ม 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   - ผมไม่ใช่โอตาคุและไม่ชอบให้ถูกเรียกด้วย 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร - ไม่โกรธ เพราะโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า แล้วที่สำคัญในสังคมไทยคงไม่ด่าด้วยคำว่าโอตาคุแน่ๆ 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ - มันเหมือนการบัญญัติคำศัพท์ขึ้นมาเองในความหมายแบบไทยๆ ถ้าอยากจะใช้จริงๆในกลุ่มก็เชิญ แต่คุณกล้าเรียกตัวเองว่าโอตาคุต่อหน้าคนญี่ปุ่นไหมละ?????? 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     - คนมีหลายประเภท โอตาคุก็มีหลายประเภทเช่นกัน มีทั้งดีและไม่ดีเหมือนคนทั่วๆไปจะเหมาว่าโอตาคุนั้นเหมือนกันหมดคงไม่ได้แต่ความจริงว่าโอตาคุนั้นน่ารังเกียจในสังคมก็เหมือนเดิมอยู่ดี   6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร - ความเป็นโอตาคุนั้นไม่ได้น่ารังเกียจ แต่สิ่งที่น่ารังเกียจคือพฤติกรรมที่แสดงออกทางสังคมอย่างเช่น ตะโกนคุยเรื่องที่ชอบในกลุ่มด้วยเสียงดังๆแบบไม่แคร์สิ่งรอบข้าง แต่งตัวสกปรก สิ่งนี้ต่างหากที่ทำให้สังคมดูถูกโอตาคุ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   - ผมชอบถูกเรียกว่าโอตาคุอยู่แล้วจะบอกจากปากตัวเองทำไมว่าเป็นโอตาคุ  พวกที่ชอบบอกว่าตัวเองเป็นโอตาคุคือคนมีปมด้อยต้องการสร้างความสนใจเท่านั้นว่าอย่างน้อยตนเองก็มีดีในเรื่องที่ชอบทั้งที่มันไร้สาระสิ้นดี 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน - มีทั้งที่สร้างสรรค์และทำลายภาพพจน์ในกลุ่ม กลุ่มที่สร้างสรรค์คือกลุ่มคนที่ทำงานด้วยใจรัก สร้างอีเวนท์ต่างๆ จนสังคมไทยเราเริ่มยอมรับการมีอยู่ของกลุ่มคนกลุ่มนี้ เห็นได้จาก ค่ายการ์ตูนลิขสิทธิ์ที่มีในไทยเริ่มจัดอีเวนท์หรือของสมนาคุณแก่คนกลุ่มนี้อยุ่เรื่อยๆ ส่วนกลุ่มแย่ๆก็คือกลุ่มที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นโอตาคุแล้วทำเรื่องน่ารำคาญต่อสังคมอย่าง ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ ไม่เคารพกฎของสถานที่ ปากบอกรักการ์ตูนแต่ไม่เคยสนับสนุนของลิขสิทธิ์ในไทยเพื่อให้วงการการ์ตูนกว้างขึ้นด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่ดีสู้ของต้นตำหรับ ทั้งๆที่บางคนอ่านก็ไม่ออกฟังก็ไม่รู้เรื่องแท้ๆ ยิ่งบางคนบอกฝึกภาษา(อ่านซับ) ทั้งๆที่A-Z ยังไล่ไม่ถูกแท้ๆ  ซึ่งคนกลุ่มนี้มีมากมายพอๆกับสังคมที่เหลวแหลกในปัจจุบันนี้ กลุ่มที่ดีก็เปรียบเสมือนโอเอซิสสำหรับเหล่าโอตาคุนั่นเอง สรุป จะทำอะไรอย่าให้ใครเดือดร้อน คุณจะเรียกตัวเองว่าอะไรก็เชิญและทีมาตอบผมว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่โอตาคุหรอก เพราะแต่ละคำถามนี้ โอตาคุรู้ดีอยู่แล้วและพวกที่เป็นดั่งอาการตามที่แบบสอบถามคงจะไม่ชอบอ่านอะไรที่ยาวเหยียดขนาดนี้หรอก ยิ่งเป็นเรื่องของตัวเองด้วยแล้ว แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:14:06 จากคุณ : Gundam_A เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:10:29

ความคิดเห็นที่ 18 ก็จริงของคุณกันดั้ม A นะ เพราะส่วนนึงคนที่เข้าห้องเฉลิมไทย คงไม่ได้เข้าแต่เฉพาะการ์ตูน อาจจะต้องไปสอบถามตามบอร์ดปิดเกี่ยวกับการ์ตูนกันอีกที น่าจะมีความเป็นส่วนตัวและทำให้คนอยากจะตอบมากกว่าพันทิปที่เป็นบอร์ดเปิด จากคุณ : Sasadao เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:56:25

ความคิดเห็นที่ 19 คำถาม 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน - เวลาว่าง 8ชม หมดไปกับการนอน 2ชม กับการกินแต่ละวัน 4-6 ชม สำหรับเกมและการ์ตูน สรุปว่าเวลาว่างส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้กับเกมสินะ 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน - ไม่ครับ ส่วนใหญ่หมดไปกับเกม โมเดล  การตูนแค่เดือนละ3พัน 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -อันนี้ก็เกินไป 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   - การตูนโป๊คนเพิ่งอ่านก็สนุกกับมันได้ แสดงว่าอันนี้ไม่น่าจะเกี่ยว และผมเองก็ชอบทุกสายนะ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า - อันนี้น่าจะเป็นนิสัยผู้ชายส่วนใหญ่อยู่แล้วนา 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   -  ไม่สนใจหนังกับคอนเสริตน่ะ เลยดูเหมือนว่างานหนังสือน่าสนใจกว่าเยอะ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ไม่เคยครับ เพราะแค่คนจริงๆที่ชอบยังไม่เจอเลยอ่ะ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   - ไม่ยอมรับนะ ผมว่าแค่ Mania เฉยๆ 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร - ไม่โกรธ ไม่รู้สึก เฉยมากๆ คนพูดว่าโอตาคุแบบเข้าใจได้ อาจจะอาการหนักกว่าเราอีก 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ - ตามสบายเหอะ ใช้ไงก็ใช้ไป 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     - อืม ก็นะ เรื่องแบบนี้จะเกิดในไทยจริงๆสงสัยจะอีกนาน 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร - คำว่าเป็นภัยต่อสังคม มันต่างกันแต่ละสังคมนา บ้านเขาแค่เดินกอดหมอนข้าง ก็ดูไม่ดี บ้านเรานี่ช่างกลถือปืน สปาต้าไ่ม่หนักกว่าเรอะ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   - ไม่รู้ ที่รู้ๆไงๆก็ไม่ใช้ คนใช้ไม่เป็น คนเป็นไม่ใช้ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน - แสดงมันอย่างเต็มที่ไปเลยสิิ ถ้าคิดว่าสนุกกับมัน แค่อย่าสร้างปัญหาในสังคมก็พอ แล้วเรื่องดีๆ มันจะตามมาเอง จากคุณ : คนเลวไม่มีดี เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:09:15

ความคิดเห็นที่ 20 โอตาคุ หรือ ผู้คลั่งไคล้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ได้หมายความเกี่ยวกับหนังสือการ์ตูน หรือหนังการ์ตูน 1.1 เวลาว่างหลังจากหักออกจากโลกความจริง(งานบ้าน) ก็หมดไปกับการ์ตูนเช่า กับปาดกะทู้ 1.2 เรื่องเงินไม่เคยนับขอแค่ถูกใจถึงไหนถึงกัน แต่ต้องไม่โดนโก่งราคา ไม่งั้นยุติเจรจา      ยอมกินแกลบแต่ไม่ยอมกินหญ้า 1.3 จำแบบเอาไปสอบเอ็นทรานท์ ข้าพเจ้ายังไม่มีปัญญา แต่กลุ่มเพื่อนเข้าขั้นจำได้ทุกบรรทัด 1.4  อะไรเป็นงานศิลป์ อะไรเป็นงานอนาจาร  ต้องพิจารณาเปิดใจไม่ใช่เป็นแค่ผู้เสพโมเอะ 1.5  เสื้อผ้ารองเท้า ซื้อตามความจำเป็นถ้ามันพัง ยังไงคนเราก็ใส่ได้แค่ครั้งละชุด ครั้งละคู่ 1.6  งานมีตติ้ง งานหนังสือ จะไปต้องมีเป้าหมาย ทุกวันนี้ค่าบูทจัดแพง ลดราคายังไม่คุ้มค่ารถ       หลายงานจัดแล้ว ถือว่าไปเสียเที่ยว 1.7  ตัวละคร2D เป็นโลกอุดมคติ ถ้าหาเจอในโลกความจริง ก็ถือว่าชีวิตคุณได้กำไรแล้วล่ะ ส่วนตัวนั้น มีพวกมักง่าย ไม่เกรงใจคนอื่น พวกชอบโอ้อวด ชอบโชว์  อยู่ห่างไกลจากคำว่า ผู้คลั่งไคล้ ที่ต้องอนุรักษ์อย่างสร้างสรรค์  นำสิ่งที่ดีไปเผยแพร่ต่อชนรุ่นหลัง ส่วนอะไรไม่ดี ก็จัดเก็บเป็นระบบ รอให้วิสัยทัศน์ในอนาคตเป็นผู้ตัดสิน(ทายาทโอตาคุ) จากคุณ : archase เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 04:17:55

ความคิดเห็นที่ 21 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน ไม่ วันธรรมดาหลังจากทำงาน จะกลับมาทำภารกิจต่างๆในบ้าน และทานข้าว ประมาณ 3ชั่วโมง ดูอนิเม-คอนเสิร์ตAnisong-Jpop(Hello!Pro,AKB48 etc.) 2 ชั่วโมง อ่านบล็อคและทวิตของเซย์ยู+โอชิที่ชอบ-อัพเดตข่าวอนิเม 2ชั่วโมง ส่วนวันหยุด หากไม่ได้ไปไหน จะทำงานบ้านประมาณ 6ชั่วโมง(ซักผ้ารีดผ้าถูกบ้าน ใส่ปุ๋ยรดน้ำต้นไม้ ซ่อมแซมบ้าน) จากนั้นจะเอามังกะ-ไลท์โนเวลที่ซื้อไว้มาอ่าน ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วก็ดูอนิเม-คอนเสิร์ตAnisong-Jpop(Hello!Pro,AKB48 etc.) 4 ชั่วโมง อ่านบล็อคและทวิตของเซย์ยู+โอชิที่ชอบ-อัพเดตข่าวอนิเม 3-4 ชั่วโมง 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน ประมาณ 1 ใน 4 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ ไม่ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   ใช่ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า ถ้าอันไหนมันจำเป็นสำหรับการทำงานประจำ ก็ต้องซื้อ อันไหนซื้อแพงฟุ่มเฟือยก็จะไม่ซื้อ 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต  ถูกต้อง ปีนี้ดูหนังโรงไม่ถึง12เรื่อง(และส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูน) แต่ถ้าเป็นคอนเสิร์ต j-pop ผมไปตลอดนะ ถ้าไม่ติดภาระอะไร 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! เคย ฮารุฮิ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ  ผมมีพฤติกรรมเกือบคล้ายมากกว่า 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร เฉยๆ หากไม่ได้ไปทำอะไรผิด 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ ไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้ไปตามไล่ตามกัดอะไร ปล่อยไปตามกรรม 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ    เรื่องกอดหมอนหรือประกาศแต่งงานให้ชาวบ้านทราบ หรือขู่ทำร้ายเซย์ยู ผมไม่ทำอยู่แล้ว แต่ซื้อสินค้าซ้ำๆเพื่อสนับสนุนนักพากย์ ผมทำครับ ผมผิดตรงไหนอะ เงินผม 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร คนที่มองคนชอบการ์ตูนแล้วคิดว่าหมอนั่นเป็นโอตาคุป่วยทางจิต ผมว่าน่ารังเกียจมากกว่า ถ้าไม่ได้เอาชื่อโอตาคุไปแอบอ้างหลอกเงิน หลอกลวงชาวบ้านเพื่อผลประโยชน์ หรือทำผิดกฎหมายหรือจารีตประเพณีอะไร ก็ไม่ถือว่าเป็นภัยสังคม ถามจริงๆ อ่านการ์ตูน ดูอนิเมเฉยๆ แล้วมันทำให้คนอื่นตายหรือยังไง? หรืออ่านการ์ตูนแล้วทำให้ตึกรามบ้างช่องพังพินาศ ใช้การไม่ได้ หรือไฟไหม้เสียหายหรอ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   ผมไม่เคยบอกคนทั่วไปว่าผมเป็นโอตาคุ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน ปัจจุบัน เกรียน wannabe เยอะครับ โดยเฉพาะพวกโหลดเมะเถื่อนอ่านแสกนมังกะอย่างเดียวไม่ซื้อแท้ แถมยังเก็บแต่ฟิกจีนปลอมๆ ชูคอ ยกหางตนว่าเป็นโอตาคุเต็มขั้น แล้วไปทำอะไรเสื่อมๆสถานที่สาธารณะให้คนเขาสมเพช หรือปากดี...โชว์ความหื่นกระหายทางเพศจนเกินควรในเว็บบอร์ดเปิด  ระวังให้ดีเหอะ ทำอะไรไม่ดีไว้มากๆ จะถูกเหมารวมโดนคนเขาเกลียดกันทั้งสังคม ........... พวกเอ็งไม่เดือดร้อนอะไรหรอกพอโตไปก็เลิกอ่านเลิกดูแล้ว แต่คนผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วและยังอยู่ในแวดวงนี้ มันทำตัวลำบากนะเฟ้ย ปล. คหสต จากคุณ : Uon เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 09:09:08

ความคิดเห็นที่ 22 ลองตอบดู 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน - ถ้าปิดเทอมวันหนึ่งๆก็คงใช่ แต่ทำอย่างอื่นด้วย เช่นดูเซนไต ดูมวยปล้ำ WWE ดูละครทีวี นั่งไล่อ่านเว็บบอร์ด บลาๆๆๆ แต่เวลาเปิดเทอม อยู่หอ เน็ตกาก แถมเรียนหนัก ก็ไม่สะดวกจะทำอย่างที่บอก ของพวกนี้ก็เลยต้องลดลง   1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน - ใช่ แต่ยังเป็นเงินที่ขอพ่อแม่ใช้อยู่ ที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นเหนังสือการ์ตูน นอกนั้นก็ ไลท์โนเวล กับ DVD บ้างนิดหน่อย 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ - ถ้าเรื่องที่ชอบก็ใช่ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ - ถ้าเป็นงานออริจินัลก็ได้หมด ยกเว้น Yaoi ถ้าเป็นโดด้านมืดนี่เคยอ่าน แต่ปัจจุบันไม่อ่านแล้ว มันทำลายคุณค่างานต้นฉบับ   1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า - มีใส่ใจบ้างเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ปกติชอบใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นสบายๆ 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต - งานมีตติ้ง งานอีเวนท์แทบไม่เคยไป งานหนังสือการ์ตูนนี่ไปทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะชอบอยู่กับหนังสือ ส่วนดูหนังถ้าเป็นเรื่องที่ชอบก็ดู ส่วนคอนเสิร์ตถ้าฟรีแล้วเป็นนักร้องที่ชอบก็ดู 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ชอบคนจริงๆ แบบจับต้องได้ และไม่รู้สึกว่าคนจริงๆจะหน้าตาด้อยไปกว่าตัวการ์ตูนนะ 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   - ทราบ และไม่เคยยอมรับ 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร - มีเคืองบ้าง แต่ถ้าไม่มีเจตนาร้ายอะไรก็ไม่โกรธ 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ - คิดว่ามันแค่การตามกระแสกันมากกว่า คล้ายๆกับเวลาโฆษณาผิวขาวเอะอะก็แปะว่าเกาหลีตลอด 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     - ขู่ทำร้ายเซย์ยูนี่โรคจิต นอกนั้นถ้าเจอ ผมมองว่าเป็นแค่คนพิลึก 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร - คนเรามีทั้งคนดีและไม่ดี พวกน่ารังเกียจคือพวกที่แยกโลกความจริงไม่ออกมากว่า เช่นพวกเวลามีข่าวเซย์ยูมีแฟนแล้วเอาผลงานเค้ามาทำลาย ขู่ทำร้าย ขู่แบนงาน พวกนี้น่ารังเกียจ 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   - ผมไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็น 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน - แค่ค่านิยมผิดๆ กับการตามกระแส จากคุณ : หิมะตกในหน้าร้อน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 14:47:53

ความคิดเห็นที่ 23 วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ตั้งเพื่อเป็นพื้นที่ให้สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเป็น Otaku ได้มีโอกาสเปิดใจ ไม่ได้มีเจตนาเหมารวมคนทั้งห้องการ์ตูน ดังนั้นคนที่ไม่ใช่ ไม่ได้เป็น โปรดแสดงความเห็นอย่างสงบด้วยครับ คำถาม 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? -ไม่คิดว่าเป็นนะครับ น่าจะแค่มาเนีย >_< 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน -เล่นเกม อ่านการ์ตูน เสพเมะ วิ่ง เล่นเวจ ว่ายน้ำ 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน -ใช่แล้ว 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -จำได้บ้าง แต่ไม่ลงลึกรายละเอียดขนาดนั้นครับ 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   -เน้น hentai ครับ คิๆๆ 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า -ด้วยหน้าที่การงานต้องดูแลตัวเองบ้างครับ ก็ต้องจ่ายครับ 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   -ไม่ครับ ผมไม่ชอบคนเยอะๆ ชอบไปคอนเสิร์ตมากกว่า 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! -มีบ้างครับ ในตัวละครที่ดูแล้วโมเอะ แต่ชอบคนมากกว่ากอดแล้วให้ความรู้สึกดีกว่า 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   -ทราบครับ แต่ไม่ใช่โอตาคุ แค่มาเนีย 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร -ไม่ครับ ก็แค่ยิ้มตอบ (เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนความคิดของคนได้ครับ อยากคิดไงก็ตามสบาย ผมก็เป็นตัวผมอยู่ดี) 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ -ตามสบายครับ อยากสื่ออะไรก็ทำไป มันก็แค่คำหนึ่งคำครับ 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     -อย่างนั้นก็เกินไปครับ มันหลุดกรอบสังคม และก็คุกคามคนอื่นมากไปครับ 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร -ผมมองว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความเปราะบางทางจิตใจนะครับ ถ้าไม่ไปยุ่งกับคนอื่นก็ไม่รบกวนสังคมหรอกครับ แต่มองกลับกันเป็นฟันเฟืองหลักที่ทำให้โลกอนิเมะเฟื่องฟู ทำให้นายทุยกล้าลงทุน 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   -ไม่เคยบอกครับ 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน -ไม่ค่อยสนใจครับ อยากเป็นโอตาคุก็เป็นไป อยากแสดงออกอะไรก็ทำได้ในกรอบของสังคมและกฏหมาย จากคุณ : crazyyos เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 17:38:28

ความคิดเห็นที่ 24 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน -ถูกต้อง 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน -ใช่มั๊ง 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ -ถูกต้อง 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   -ถูกต้อง 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า -ถูกต้อง 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต -ถูกต้อง   1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! -ถูกต้อง 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   -ก็รู้อยู่ แต่ทัศนคติคนมันเปลี่ยนได้ตามเหตุปัจจัยหลายอย่าง จะไปถือสากับสิ่งที่ไม่แน่นอนทำไมครับ ถ้าเราไม่รู้สึกแย่กับมัน บวกกับมันสะดวกต่อการเรียกขานของคนส่วนใหญ่ ก็ไม่น่าเป็นปัญหา 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร -ไม่โกรธ เฉย ๆ 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ -ควรจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า คนทุกกลุ่มมองคำว่า Otaku ในแง่ใดบ้าง เพื่อให้แต่ละคนได้มีโอกาสพิจารณา และตัดสินใจว่า จะรู้สึกกับคำคำนี้อย่างไร 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ     -ไม่ควรทำ เพราะ พฤติกรรมสุดโต่งจะทำให้คนทั่วไปมองคนที่ทำเช่นนั้นในแง่ไม่ดี 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร -พวกเขาเป็นคนปกติที่รอบรู้ ชื่นชอบ หรือคลั่งไคล้ในบางสิ่งมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   -แค่เสียงนก เสียงกา ไม่ต้องเก็บไปคิด ถ้าทนคำเย้ยหยันว่า "บ้าการ์ตูนส์คือ เด็กไม่ยอมโต" ได้ จะทนคำเย้ยหยันอื่นไม่ได้เลยรึ อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย และไม่ผิดหลักศีลธรรม 8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน -หากอยากให้คำว่า Oaku ได้รับการยอมรับมากขึ้น ก็ต้องแสดงออกแต่พอดี ไม่มากจนเกินเหตุ จากคุณ : winger (winger) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 18:27:01

ความคิดเห็นที่ 25 1. ทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นโอตาคุ คุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือไม่ ? - ไม่คิด มีบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดอยู่ดี 1.1  ใช้เวลาว่างเกือบทั้งหมดไปกับการอ่านการ์ตูน ดูอนิเมะ เล่นเกม ในแต่ละวัน - ครึ่งนึง 1.2  ค่าขนมหรือเงินเดือนกว่าครึ่งของคุณหมดไปกับสินค้าจากการ์ตูน - ปีที่แล้ว ใช้เงินไปกับสินค้าประเภทการ์ตูน-เกม ประมาณ 20% ของรายได้ตลอดปี 1.3  คุณสามารถจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ตูนที่ชอบได้เกือบทุกอย่าง แม้แต่จักรวาลของไทป์มูนก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากสำหรับคุณ หากเป็นเรื่องที่สนใจและชอบ - จำได้ และแม่นกว่าพวกที่อวดว่าตัวเองเป็นโอตาคุด้วย 1.4  คุณรู้จักศัพท์เฉพาะ เช่น Hentai, Yuri, Yaoi และสามารถเสพงานเหล่านั้นได้ โดยไม่รู้สึกขยะแขยง หรือรังเกียจ หากเป็นสายที่คุณชอบ   - เป็นหนุ่มโสดมันก็ต้องมีกันบ้าง 1.5  คุณไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม ถ้าจะให้เสียเงินแพงๆ กับสิ่งเหล่านี้ ขอซื้อการ์ตูนดีกว่า - ไม่ค่อยใส่ใจกับแฟชั่น แต่ก็ไม่เคยคิดถึงขนาดว่าควรเอาเงินไปทำอย่างอื่น 1.6  คุณชอบไปงานมีตติ้ง งานอีเวนท์ งานหนังสือการ์ตูนต่างๆ มากกว่าการไปดูหนัง ดูคอนเสิร์ต   - ไม่ไปมันซักอย่าง... เกลียดสถานที่ที่มีคนเยอะ 1.7  คุณเคยรู้สึกชอบตัวละคร 2D มากกว่าคนจริงๆ แบบว่า ชอบ รักที่สุดเลยล่ะ ! - ผมเรียกพฤติกรรมแบบนั้นว่า "สูญเสียความเป็นคน" 2. คุณทราบหรือไม่ว่า โอตาคุ มีความหมายในแง่ลบและไม่ดี ในเมื่อทราบแล้ว ทำไมจึงยอมรับว่าตัวเองเป็น โอตาคุ   - ทราบ และไม่เคยยอมรับ 3. หากถูกเรียกว่า โอตาคุ คุณโกรธหรือไม่ อย่างไร - แล้วแต่บริบทของคนเรียก ผมจะโกรธก็ต่อเมื่อ "คนเรียกผมว่าโอตาคุด้วยความชื่นชม" และ "โดนโอตาคุวอนนาบีเรียกผมว่าเป็นพวกเดียวกับมัน" 4. คุณคิดอย่างไรกับการที่งานอีเวนท์เกี่ยวกับการ์ตูน และนิตยสารเกี่ยวกับการ์ตูนต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักเขียนโดจินชิที่นำคำว่า otaku ไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้คนภายนอกเข้าใจว่า โอตาคุ คือคนที่ชอบหลงใหลในการ์ตูนและอนิเมะ แทนที่จะมีความหมายไม่ดีอย่างที่บางคนเข้าใจ - รู้สึกว่ามันเป็นการพยายามสร้างกระแสและภาพลักษณ์แบรนด์ที่สิ้นคิด 5. คุณคิดว่าจำเป็นหรือไม่ที่ โอตาคุ ต้องทำเรื่องหลุดสามัญสำนึกของคนทั่วไปอย่างเช่น เดินกอดหมอนข้างตัวละครไปตามสถานที่ต่างๆ ประกาศแต่งงานกับตัวละครหญิงในเกม ขู่ทำร้ายเซย์ยู ซื้อสินค้าแบบเดียวกันซ้ำๆ นับร้อยกล่องเพื่อส่งเสริม นักพากย์ หรือตัวละครที่ชอบ 6. คุณคิดว่า otaku ส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่มีอาการป่วยทางจิต น่ารังเกียจ ชอบสร้างความเดือดร้อนและเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ อย่างไร 7. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อบอกว่า เป็นโอตาคุ แต่กลับถูกหาว่ากระแดะอยากเป็นเพราะคิดว่ามันเท่ กิ๊บเก๋ นึกว่าเป็นคำชม   8. คุณมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงออกของ โอตาคุ ด้านต่างๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน - ตอบเหมา : ในความคิดของผม โอตาคุ คือพวกที่หมกมุ่นจนขาดสามัญสำนึกทางสังคม พวกนี้เอาจริงๆแล้วน่าสงสารด้วยซ้ำ เพราะไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดเลยโดนสังคมกีดกัน แต่อย่าเอาไปเหมารวมกับพวก wanna be เพราะพวกนี้ไม่ได้ขาดสำนึกทางสังคม แค่พยายามเอาคำว่าโอตาคุบังหน้าเพื่อปิงบังความด้อยสมรรถภาพทางสังคมของตัวเองและพยายามทำตัวหลุดสามัญสำนึกเพื่อเรียกร้องความสนใจ ที่พบเห็นในไทย ถามว่ามีโอตาคุแท้ๆ มั้ย มีแน่นอน แต่คุณพบเจอไม่ได้ง่ายๆหรอก ถึงจะมีป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ก็เถอะ (ฮา) ที่เห็นแสดงออกส่วนใหญ่น่ะ wanna be ทั้งนั้น รวมทั้งพวกที่ชอบประกาศปาวๆว่าตัวเองเป็นโอตาคุด้วย โอตาคุจริงๆ เขาไม่มาเดือดร้อนหรอก ว่าสังคมรังเกียจพวกเขารึเปล่า เพราะพวกเขาน่ะ "หลุด" ไปแล้ว เขาไม่สนใจแล้วกับสายตาคนอื่น (แต่ไม่ต้องหลอกตัวเองด้วยเหตุผลนี้หรอกนะ ไม่สำเร็จหรอก) ผิดกับพวก wanna be ที่ดิ้นพราดๆ เวลาคำว่าโอตาคุโดนว่าเสียๆหายๆ เพราะอะไร? เพราะการ "พยายามทำตัวเป็นโอตาคุ" เป็นวิธีการสร้างคุณค่าให้ตนเองที่ขาดสมรรถภาพทางสังคมวิธีสุดท้ายที่คิดออกน่ะสิ เลยหวงแหนเสียเต็มประดา กว่าจะรู้ว่าเลือกเดินทางผิดก็ถลำลึกไปมากแล้วไง หึ หึ หึ จากคุณ : Lethe เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 10:51:22