ความคิดเห็นที่ 1 ไมเคิล เบย์ ผลงานชิ้นต่อไป : PAIN AND GAIN (หรืออาจจะต่อด้วย TRANSFORMERS 4) เกือบสองทศวรรษมาแล้ว ที่เรารู้จักชื่อของ ไมเคิล เบย์ ในฐานะผู้กำกับจอมระห่ำ เน้นระเบิดภูเขา เผากระท่อมเป็นหลัก แต่หลังจากนี้ความเคยชินดังกล่าวจะเปลี่ยนไป เพราะผลงานการกำกับในเครดิตเรื่องต่อไปของเฮียจะเป็นงานที่เบาลงมาหน่อย ในแนวอาชญากรรมดราม่าปนตลกร้าย ที่จะทำให้คุณนึกไปถึงผลงานขึ้นหิ้งของพี่น้องโคเอ็นเรื่อง Fargo เลยทีเดียว เบย์จะพิสูจน์ให้ผู้ชมเห็นว่าเขาก็ไม่ได้เป็นแค่ผู้กำกับที่มีแต่ขายฉากแอ็คชั่นวินาศสันตะโรเท่านั้น เพราะเขาก็สามารถทำหนังอะไรที่ขายบท หรือไม่เน้นความแอ็คชั่นได้เหมือนกัน (ทั้งนี้ทั้งนั้น ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงก็ยังไม่อาจหยั่งรู้ได้) เบย์จะได้มาร์ค วอลเบิร์กและ เดอะ ร็อค มาเป็นนักแสดงนำหลักของหนังในบทของของกรรมกรสุดล่ำหุ่นขย้ำใจสาวที่ต้องเข้ามาพัวพันกัยเหตุฆาตกรรมครั้งใหญ่ในไมอามี่ ทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ในส่วนของรายที่มาทำหน้าที่รับผิดชอบบทหนังก็คือ คริสโตเฟอร์ มาร์คัส และ สตีเฟ่น แม็คฟีลี่ สองหัวหอกจาก Captain America นั่นเอง สำหรับตัวเลขทุนสร้างที่เบย์ได้มาในเรื่องนี้ก็เพียงแค่ 20 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น เทียบเท่ากับงาน Transformers ภาคล่าสุดที่เพิ่งผ่านไปในเครดิตของเขาแล้วก็เป็นรายได้ 1 ใน 10 เท่าเลย เบย์จะเริ่มต้นเดินหน้าถ่ายทำหนังเรื่องนี้ต้นปี 2012 ซึ่งก็น่าจะเป็นไปได้ที่หนังน่าจะออกฉายช่วงปี 2013 แต่สำหรับใครที่ถามไถ่กันมาว่าแล้วสรุป Transformers 4 จะเอายังไง จากที่เบย์ให้สัมภาษณ์ล่าสุด เขาก็ออกมายืนยันแล้วว่า ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะกลับไปกำกับหรือไม่ คงต้องรอประชุมใหญ่กับทีมผู้บริหารกันก่อนว่าจะเอายังไง เพราะฉะนั้นข่าวลือที่ว่าเบย์จะกลับมาแน่นอนแล้วก็ต้องโฮลด์กันไว้ก่อน !!! ยังไงก็รอดูหนังใหม่ฉีกแนวของเฮียเรื่องนี้กันไป ว่าจะกลายเป็นผู้สร้างหนังที่ทำหนังออกมาถูกใจนักวิจารณ์ขึ้นมาได้บ้างหรือไม่ !!!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:05:11

ความคิดเห็นที่ 2 สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผลงานชิ้นต่อไป : LINCOLN, ROBOPOCALYPSE ระหว่างที่รอลุ้นผลลัพธ์ในแง่บวกม๊ากมากของ Tin Tin และ War Horse ที่พร้อมจ่อคิวฉายโกยเงินและกล่องปลายปีนี้ ลุงสตีเว่น สปีลเบิร์กของหลายๆคนก็ยังไม่หยุดจัดหนักกันต่อไป หลังจากหายหน้าหายตามานับตั้งแต่ Indiana Jones เมื่อปี 2008 นู่นนน เพราะในขณะนี้ ลุงยังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์หนังเต็งกล่องอีกเรื่อง ที่อยู่ในสถานะการถ่ายทำกันอย่างขะมักเขม้น นั่นก็คือ LINCOLN หนังที่ลุงวางแผนจะสร้างตั้งแต่สองปีก่อน จนตอนนี้ทุกอย่างลงตัว และได้แดเนียล เดย์ ลูอิส สุดยอดพระเอกคุณภาพขวัญใจนักวิจารณ์มารับบทนำในฐานะ อับราฮัม ลินคอล์น ปธน.คนที่ 16 แห่งสหรัฐอเมริกา (ที่จะมีหนังซัมเมอร์ฟอร์มยักษ์ Abraham Lincoln : Vampire Hunter ที่จะพูดถึงเขาอีกเรื่องในปีหน้า) โดยหนังเองก็จะดัดแปลงมาจากนิยายขายดีเรื่อง Team of Rivals จากนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ ดอร์ริส กู้ดวินที่มาร่วมมือกับ โทนี่ คัชเนอร์แห่ง Munich ในการรีไรท์บทหนังเรื่องนี้ด้วย !! โจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์, ทอมมี่ ลี โจนส์, เจมส์ สเปเดอร์, จาเร็ด แฮร์ริส, แซลลี่ ฟีลด์, เดวิด แสตรทเธิร์น, จอห์น ฮอว์คส, แจ็คกี้ เอิร์ล เฮลี่ย์, ไมเคิล สตัลเบิร์ก ก็คือนักแสดงชุดใหญ๋ที่จะมาร่วมฟีทเจอริ่งในหนังเรื่องนี้ด้วย มีกำหนดเปิดตัวในอเมริกา ธันวาคมปี 2012 หมดงานเรื่องบนไปที่จะนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์สุดเครียดเอาใจเวทีรางวัล ก็มาถึงงานที่หลายคนรอคอยของลุงกันบ้าง เพราะถ้าจะพูดถึงเรื่องหลังสุดที่ลุงทำงานสไตล์นี้ก็ต้องย้อนไปถึง War of The Worlds เมื่อปี 2005 นู่นนนน !!! ใช่แล้ว งานชิ้นนี้จะเป็นการกลับมาจับงานไซไฟแอ็คชั่นมันส์อลังการในรอบ 7 ปีของลุงอีกครั้ง กับ ROBOPOCALYPSE โดยจะดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของ แดเนียล เอช วิลสันที่จะนำเสนอเรื่องราวของโลกมนุษย์หลังจากถูกครอบครองโดยเหล่าหุ่นยนต์ที่แข้งข้อและลุกขึ้นมาปฎิวัติมวลมนุษยชาติ !! แค่นึกภาพโลกหลังความล่มสลายในสไตล์ของลุงก็มันส์แล้ว !!! ที่สำคัญจะเป็นงานที่ดิสนี่ย์และฟ็อกซ์มาลงทุนร่วมกันภายใต้หลังคาดรีมเวิร์คสอีกด้วย แค่นี้ก็แทบทำให้สาวกพันธ์แท้ของลุง นั่งกันจนไม่ติดเก้าอี้ อยากให้ถึงปี 2013 เร็วๆ (โง้ยยย!! อีกตั้งนม ตั้งนาน!!) หนังมี ดรูว์ ก็อดดาร์ด ผู้กำกับที่กำลังจะมี The Cabin In The Woods หนังดองจมโหลของพ่อล่ำขย้ำใจสาว คริส เฮมสเวิร์ธออกฉายและเคยเป็นผู้เขียนบท Cloverfield มาเขียนบทหนังให้กับลุงด้วย มาลุ้นกันว่าจะออกมาเป็นยังไง 3 กรกฎาคม 2013 ลงฉายต้อนรับวันชาติ โปรแกรมยักษ์พันล้านนนน อลังการงานลุง !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:05:54

ความคิดเห็นที่ 3 มาร์ติน สกอร์เซซี่ ผลงานชิ้นต่อไป : SILENCE เปลี่ยนแนวสามร้อยหกสิบองศาไปกำกับ HUGO หนังสำหรับครอบครัวและก็กลายเป็นที่ตอบรับของคนดูและนักวิจารณ์ไปอย่างท่วมท้น (แม้รายได้จะมาในทางตรงกันข้ามไปซักหน่อย) ล่าสุดหลังจากเรื่องนี้ผ่านพ้น ลุงมาร์ตี้ของเราๆท่านๆ จะกลับไปจับงานหนังแนวถนัดที่จะขอย้อนยุคกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 17 โน่นแหน่ะกับเรื่อง SILENCE หนังที่หยิบเอานิยายขายดีเรื่อง Chinmoku เมื่อปี 1966 ของชูซาคุ เอ็นโดะมาดัดแปลง !! โดยเรื่องราวก็จะตีแผ่ชีวิตของ 2 นักบวชเยซูอิตที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ซึ่งระหว่างทางเหล่านักบวชก็ต้องพบเจอกับเรื่องราวและเหตุการณ์ความรุนแรงและนองเลือดมากมาย ได้ยินแบบนี้ ก็คงจะเป็นงานที่ลุงมาร์ติน คงทำออกมาถูกใจผู้ชมได้ไม่น้อย ยิ่งถ้าพูดถึงนักแสดงที่จะมาร่วมงานด้วยแล้ว น่าจะถูกใจเวทีรางวัลทั้งหลายเข้าขั้นเลยแหละ เพราะมีทั้ง แดเนียล เดย์ ลูอิส, เบนิซิโอ เดล โทโร่และ กาเอล การ์เซีย เบอร์นัล ในบทนำ !!! แต่ก่อนอื่นที่เราจะไปพบกับหนังเรื่องนั้น บ้านเราก็เตรียมพิสูจน์คุณภาพครั้งใหม่ของลุงกันก่อนกับ Hugo ที่ไม่รู้ว่าพออเมริกาไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้แบบนี้ ผู้จัดจำหน่ายบ้านเราอย่าง UIP จะถอดออกหรือเปล่า เพราะกำหนดฉายในบ้านเราก็ตั้ง 15 มีนาคมปีหน้านู่นนนน ลุ้นกันต่อไป !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:06:30

ความคิดเห็นที่ 4 โรเบิร์ต เซเม็คคิส ผลงานชิ้นต่อไป : FLIGHT โรเบิร์ต เซเม็คคิส เพิ่งจะมี Mars Needs Moms หนังในอาณัติการสร้างที่เจ๊งสนั่นลั่นโลกา จนหมอโรง'บาลไหนก็ไม่รับเย็บ ...(ก็หนังเล่นเก็บไปแค่ 38 ล้านดอลล่าร์ทั่วโลก จากทุนสร้างมหาศาลถึง 150 ล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว) นั่นส่งผลให้ Yellow Submarine แอนิเมชั่นเพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์เรื่องใหม่ที่เคยวางแผนสร้างและกำกับเอาไว้ของเฮียแก ต้องพับไปโดยปริยาย !! แต่วันนี้หลังจากตั้งตัวได้ เฮียแกก็เริ่มเดินหน้ากับงานใหม่ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับวงการเพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์อีกต่อไป เพราะงานในเครดิตเรื่องถัดไปของเฮียจะเป็นงานคนแสดงจริงที่เซเม็คคิส ไม่ได้จับมาตั้งแต่ Cast Away เมื่อปี 2000 โน่นแหนะ !!! สำหรับเรื่องนี้มีชื่อสั้นๆว่า FLIGHT หนังที่เขาจะได้ร่วมงานกับ เดนเซล วอชิงตัน เป็นครั้งแรก ซึ่เฮียดำเซล เอ๊ย เดนเซล ก็จะมาในบทนักบินมากประสบการณ์ที่หลังจากช่วยเหลือผู้โดยสารยกลำจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งหนึ่งได้ เขาก็กลายเป็นฮีโร่ของคนทั่วโลกไปทันที  แต่หลังจากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เริ่มต้นสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก ก็ได้พบข้อเท็จจริงอันน่าประหลาดใจกับตัวนักบินรายนี้ !!! นอกจากเฮียเดนเซลแล้วก็ยังมี ดอน ชีเดิล, จอห์น กู๊ดแมน, บรูซ กรีนวู้ด, เคลลี่ ไรลี่, เจมส์ แบดจ์ เดล, เมลิสสา ลีโอร่วมแสดง แต่ละรายรุ่นใหญ่ใจถึงทั้งนั้น ใครมีความรู้สึกเหมือนกันไหมว่า เซเม็คคิสเหมาะแก่การทำหนังคนแสดงจริงเสียมากกว่า ทั้ง Forrest Gump, What Lies Beneath หรือจะ Cast Away ต่างก็ทำให้ลายเซ็นต์ของเฮียแข็งแกร่งขึ้นมาเลยในเรื่องของการเป็นนักทำหนังแถวหน้า แต่พอเริ่มมาจับงานแอนิเมชั่นเพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์ อาทิ Polar Express, Beowulf และล่าสุดที่เงียบมากๆอย่าง A Christmas Carol คนแทบจะลืมกันไปเลยว่านี่เป็นผลงานจากเขา และก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่ากับตอนที่ทำหนังคนแสดงจริง เพราะฉะนั้นจากความล้มเหลวของ Mars Needs Moms ทำให้เราโชคดีที่อาจจะได้เห็นเฮียกลับมาเดินสายเดิมในการทำหนังที่เอาคนตัวเป็นๆมาเล่นหน้ากล้อง ...เริ่มจากเรื่องนี้ก็ไปลุ้นกันว่าฝีมือและลายเซ็นต์จะกลับมาโดดเด้งมากน้อยแค่ไหน !!! เชียร์ เชียร์ เชียร์ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:07:41

ความคิดเห็นที่ 5 ปีเตอร์ แจ็คสัน ผลงานชิ้นต่อไป : THE HOBBIT : AN UNEXPECTED JOURNEY (2012), THE HOBBIT : THERE AND BACK AGAIN (2013) เป็นผู้กำกับรายที่น่าเห็นใจที่สุด เพราะตั้งแต่หมดหนังเจ๊งสนั่นและล้มเหลวทุกทางอย่าง The Lovely Bones เฮียก็วุ่นอยู่กับโปรเจ็กต์ภาคก่อน Lord of The Rings ชุดนี้อยู่หลายปีดีดัก ตอนนั้นที่หนังกำลังเริ่มจะไปได้สวยก็มี กิลเลอร์โม เดล โธโร่ มานั่งแท่นผู้กำกับให้เฮีย แต่จนแล้วจนรอดปัญหาการเงินของเอ็มจีเอ็มก็ทำให้ทุกอย่างยืดเยื้อและบานปลาย จนนานเข้าพ่อกิลเลอร์โม ทนไม่ไหว เลยโบกมือบ๊ายบายโปรเจ็กต์ไปเสียอย่างนั้น ทั้งที่นั่งทำ Pre-Production หนังมาเป็นปีๆแล้ว งานนี้เฮียปีเตอร์ที่เคยคุมเชิงอยู่ก็ต้องลงมาจับงานด้วยตัวเอง เพราะจะไปหาใครมานั่งแทนก็ไม่ทันแล้ว !!! แต่ถึงกระนั้น ฟ้าหลังฝนก็ย่อมน่าจะสดใสกว่า แน่นอนว่าสาวกหนังสือของเจอาร์ อาร์ โทลคีนชุด The Hobbit หรือจะแฟนหนังตัวเอ้จาก The Lord of The Rings สามภาคแรกก็คงจะให้การตอบรับหนังสองภาคก่อนนี้กันเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็จะเป็นงานที่ทำให้เราๆท่านๆได้กลับไปพบกับแคแรกเตอร์ที่คุ้นเคยและสร้างความประทับใจให้มาแล้วในอดีตกันอีกครั้ง !!! มาก่อนในปี 2012 ก็คือตอนที่ชื่อ An Unexpected Journey หรือแปลตรงตัวทับศัพท์และความหมายก็คือ การเดินทางซึ่งไร้ความคาดหวัง... ไปดูกันว่าจุดเริ่มต้นของตำนานสงครามของเหล่าฮ็อบบิทและผองเพื่อนพลพรรคแห่งแหวนทั้งหลาย เริ่มต้นมาจากจุดใด กับแคแรกเตอร์ บิลโบ้ แบ็กกิ้นส์ ที่กลายมาเป็นบทนำในการเดินเรื่อง พาทุกคนเข้าสู่การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง รับหน้าที่แสดงโดย มาร์ติน ฟรีแมน !!! ส่วนใครที่รอว่าภาคนี้จะมีใครจาก LOTR กลับมาบ้าง ก็ไล่รายชื่อกันได้เลย ตั้งแต่ เคต แบลนเชตต์, เอไลจาห์ วู้ด, คริสโตเฟอร์ ลี, ออร์แลนโด บลูม (กรี๊ดสามสิบที !!! ปฎิบัติ !!!!), แอนดี้ เซอร์คิส (ผู้ยังซื่อสัตย์ต่อการเล่นเพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์อย่างต่อเนื่อง), เอียน แม็คเคลเลน ข่าวร้ายก็คือ แม่สาวหน้าใส ลิฟ ไทเลอร์ กับอัศวินรูปงาม วิกโก้ มอร์เตนเซ่น ไม่ได้กลับมาด้วยน่ะสิ T_T ....แต่ไม่เป็นไร แค่นี้ก็น่าจะอิ่มอยู่ เป็นเวลา 10 กว่าปีเลยทีเดียวที่ LOTR ได้ออกมาครองใจคุณผู้ชม และยังฝังอยู่ในส่วนลึกของความรู้สึกของผู้ชมที่มีต่อแคแรกเตอร์และเรื่องราวทั้งหลาย ลุ้นให้เสน่ห์ของหนังกลับมาในภาคนี้ด้วย รวมไปถึงความสนุก, CG และอะไรต่อมิอะไรที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการนำเสนอหนังในรูปแบบ 3D น่าจะทำให้ LOTR เวอร์ชั่นภาคก่อนชุดนี้เป็นที่ตอบรับได้ในวงกว้าง ไม่แพ้กันเลยก็อาจจะเป็นได้ !!! THE HOBBIT : AN UNEXPECTED JOURNEY ฉาย 14 ธันวาคม 2012 THE HOBBIT : THERE AND BACK AGAIN ฉาย 13 ธันวาคม 2013 ปล. 2 ภาคนี้ถ่ายทำควบคู่กันไปด้วยทุนสร้าง 500 ล้านดอลล่าร์ (ภาคละประมาณ 250 ล้านดอลล่าร์) จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:08:47

ความคิดเห็นที่ 6 ...แก้ไข แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:09:53 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:09:35

ความคิดเห็นที่ 7 คริสโตเฟอร์ โนแลน ผลงานชิ้นต่อไป : THE DARK KNIGHT RISES (2012) ไม่ว่าจะจับงานไหนก็ฮือฮาโห่เฮกันทุกเรื่องไป กับผู้กำกับที่ลายเซ็นต์ชัดเจนรายนี้ คริสโตเฟอร์ โนแลน จากงานขายไอเดียในเครดิตที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ ทำให้ชื่อของโนแลน กลายเป็นผู้กำกับแถวหน้าของฮอลลีวู้ดที่หาตัวจับได้ยากและฝีมือรับประกันคุณภาพได้สุดๆ แม้กระทั่งหนังฮีโร่ที่แทบจะไม่เคยมีใครคาดหมายว่าจะออกมาเป็นงานที่ไปถึงขั้นรางวี่รางวัลต่างๆอย่าง Batman พี่แกก็ทำได้ประสบความสำเร็จเอามากๆ จากภาคล่าสุด The Dark Knight ในปี 2008 ที่เป็นเจ้าของความฮิตในระดับถล่มทลายเป็นปรากฎการณ์ กวาดรายรับทั่วโลกไป 1001 ล้านดอลล่าร์ และขึ้นแท่นหนังฮีโร่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไปแล้วเรียบร้อยด้วยเช่นกัน มาภาคสุดท้ายที่ โนแลน ประกาศเอาไว้ว่าจะเป็นบทอวสานของอัศวินรัตติกาลรายนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีความกดดันในตัวเพิ่มขึ้น ในเมื่อภาคก่อน ประสบความสำเร็จแบบเหนือคาด และกระแส ฮีธ เล็ดเจอร์ ก็ได้ฉุดให้หนังเองพุ่งขึ้นไปอีกเท่าตัว การกลับมาในครั้งนี้โนแลนก็จะต้องหาจุดขาย จุดแข็งใหม่ ที่จะสามารถทำให้บรรดาแฟนเก่าและแฟนใหม่ตีตั๋วเข้ามาชมเรื่องนี้ได้ไม่แพ้ภาคก่อนในที่สุด และจุดขายที่ว่านั่นก็คือ หนังมาพร้อมไฟลท์บังคับสำหรับผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่ภาค 1 ว่าเรื่องนี้จะเป็นการปิดตำนานสำหรับแบทแมนเวอร์ชั่น คริสเตียน เบล เพราะฉะนั้นก็เป็นงานประเภทตีหัวเข้าบ้านสำหรับคอหนังที่ติดตามมาโดยตลอดอยู่แล้ว อีกหนึ่งจุดขายสำคัญก็คือ การได้เกสรับเชิญในภาคนี้เป็นใครที่คุณคาดไม่ถึง นั่นก็คือสาว แอนน์ ฮาทาเวย์ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโนแลน สำหรับหนังฮีโร่สุดดาร์คเรื่องนี้ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปแล้ว เมื่อสาวแอนน์ได้มาร่วมงานกับโนแลน และรับบทเป็นนางแมวป่า "แคทวูแมน" หรือในภาคมนุษย์ที่ชื่อ เซลิน่า ไคล์ ที่จะต้องมาร่วมมือกับแบทแมนในการแก้แค้นเป้าหมายส่วนตัวของเธอ นึกสภาพลีลาสาวแอนน์บู๊ดุเดือดในชุดหนัง นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่นั่นแหละคือสิ่งที่น่าสนใจ และเรียกร้องความสนใจคนดูได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งบทที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือตัวร้ายหลักในภาคนี้ที่โนแลนได้บรรจงเลือกมาเองกับมือ นั่นก็คือ ทอม ฮาร์ดี้ นักแสดงหนุ่มที่โนแลนติดใจบทบาทเขามาจากตอนร่วมงานกันใน Inception ด้วยร่างอันกำยำและใหญ่โต เขาเลยได้รับบทบาทเป็นจอมวายร้ายพลังมหากาฬที่เกินใครจะต้านทาน นามว่า "เบน" !!!! ซึ่งเมื่อหลายวันก่อน หนังก็ได้ปล่อยภาพนิ่งของเบน ออกมาให้ได้ยลกันแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวร้ายที่ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จะต้องจารึกไว้ !!!! นอกจากนี้หนังยังเหมือนเป็นการคืนสู้เหย้าของแก๊งค์นักแสดง Inception ก็ว่าได้ เพราะนอกจาก ฮาร์ดี้จะมารับบทหลักสำคัญในหนังแล้ว ก็ยังมี มาริยง โกติลลาร์ดและ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์ มาร่วมสร้างสีสันให้กับหนังด้วย -- เอาเป็นว่าคงไม่มีใครปฎิเสธงานบังคับฮิตของโนแลนเรื่องนี้เป็นอย่างแน่นอน หลังจากนี้ก็ทำได้แต่รอชมตัวอย่างใหม่ที่เตรียมปล่อยออกมา รวมไปถึงลุ้นกันว่าปรากฎการณ์ที่หนังจะสร้างได้ในภาคนี้จะฮือฮาฮัลเลวังก้า สักแค่ไหน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:10:08

ความคิดเห็นที่ 8 เจมส์ คาเมรอน ผลงานชิ้นต่อไป : TITANIC 3D (2012), AVATAR 2 (2014), AVATAR (2015) พิถีพิถันละเมียดละไมอีกราย ที่ความติสต์ทำให้เราต้องรอผลงานของเฮียไปจนถึงปี 2014 นู่นนนน จะมาหนังสองปีเรื่องไม่ได้ ผิดคอนเซ็ปต์ลุง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าลุงจะมีแรงทำหนังให้เราดูกันไปจนถึงปีไหน แต่อย่างไรก็แล้วแต่ปี 2014 ก็คือปีที่เราจะได้กลับไปแพนโดร่า และได้พบกับชาวนาวีกันอีกครั้งอย่างแน่นอนกับ AVATAR 2 ที่ภาคนี้จะพาคุณไปยังใจกลางทะเลสาป ณ ดวงดาวดังกล่าว ที่ที่นักรบนาวีทั้งหลายต้องต่อกรกับอสูรกายแมลงยักษ์หักเหลี่ยมโหดที่มาในแบบที่คุณคาดไม่ถึงนั่นเอง ลุงเจมส์บอกกับเราว่า เขามีแผนในการถ่ายทำภาค 2 และ 3 แบบต่อเนื่องกันไป เพราะฉะนั้นหนังก็จะเสร็จสิ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แล้วเราก็จะได้ดูกันปีต่อปีนั่นเอง !!! แต่เดี๋ยวก่อน !! ถ้าใครรอถึงปี 2014 ไม่ไหว ปีหน้าลุงเจมส์จะชวนเราไปดื่มด่ำกับมหากาพย์ความรักครั้งยิ่งใหญ่กับหนุ่มสาวต่างชนชั้นและวรรณะกันอีกครั้ง เรากำลังพูดถึง TITANIC สุดยอดภาพยนตร์ที่กลายเป็นปรากฎการณ์ในระดับเซอร์ไพรส์วงการทั้งในด้านรายรับและรางวัล คราวนี้กลับมาอีกครั้งด้วยไอเดียของป๋าในการคอนเวิร์ตหนังให้เป็น 3D แต่ถ้าใครคิดว่ามันจะออกมาธรรมดาเหมือนเรื่องอื่นๆ ลุงบอกให้คิดใหม่เสียก่อน เพราะระดับลุงแล้ว การทำหนัง 3D ถือเป็นหัวใจในสายงานของลุง มันต้องออกมาวิลิศมาหรา ฮาเรลูย่ามากกว่าเรื่องไหนๆอย่างแน่นอน งานนี้ใครที่ตามดูหนังตอนออกฉายครั้งแรกไม่ทัน เกิดไม่ทันแจ็คและโรส งานนี้ก็จะได้กลับเข้าไปซึมซับความประทับใจนั้นกันอีกครั้ง เรียกว่าเอาให้กระโดงเรือทิ่มตาแตกทะลุท้ายทอยกันไปเลย (0_0") !!! หนังพร้อมฉายในอเมริกา 6 เมษายนปีหน้า ช่วงเวลาที่เรือไททานิค ลำจริงเสียงจริงมีอายุครบ 100 ปีพอดิบพอดี !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:10:49

ความคิดเห็นที่ 9 เดวิด ฟินเชอร์ ผลงานชิ้นต่อไป : HOUSE OF CARDS (2012), 20,000 LEAGUES UNDER THE SEA: CAPTAIN NEMO (2013) หลังจากง่วนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตกับงานรีเมค Girl With The Dragon Tattoo และพร้อมจะออกฉายในเร็ววันนี้ ก็ได้เวลาที่ผู้กำกับแห่งยุค เดวิด ฟินเชอร์ จะหันไปจับงานหนังเรื่องต่อไปกันแล้ว แต่ก่อนหน้าที่เขาจะไปควานหาหนังโรงเรื่องใหม่ใส่เครดิต เฮียขอพักด้วยการไปกำกับซีรี่ย์สทางทีวีสักหน่อย นั่นก็คือ House of Cards ที่ฟินเชอร์จะรีเมคมาจากเวอร์ชั่นปี 1990 แล้วก็ได้เควิน สเปซี่ย์มาร่วมงานในฐานะผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงหลักของหนัง แน่นอนว่าหนังจะพูดถึงเรื่องแวดวงการเมืองของอังกฤษหลังจากช่วงสิ้นสุดยุคเรืองอำนาจของ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ !!! โดยมีกำหนดแพร่ภาพในช่วงปี 2012 หลังจากนั้น ฟินเชอร์ถึงจะไปจับงานหนังใหญ่อีกครั้ง และคราวนี้ก็เป็นที่ฮือฮาตรงที่ว่า งานใหม่ของเขาที่วางแผนจะกำกับนั้นเป็นหนังสัตว์ประหลาด !!~ ใช่แล้ว นี่จะเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ขายความอลังการงานสร้างครั้งแรกของฟินเชอร์เลยก็ว่าได้ !!! กับเรื่อง 20,000 LEAGUES UNDER THE SEA โดยฟินเชอร์จะได้กลับไปร่วมงานกับ แอนดรูว์ เควิน มือเขียนบทจากหนังเรื่อง Se7en ของเขา ที่มารับหน้าที่เขียนบทในหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน และด้วยความที่นี่คือหนังสัตว์ประหลาด แน่นอนว่าช็อตซีจีทั้งหลายจะถูกนำมาใช้ในหนังกว่า 70 % งานนี้เราอาจจะได้เห็นความแตกต่างที่น่าสนใจไม่น้อย ฟินเชอร์ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มีไอเดียในการใช้ซีจีได้เยี่ยมยอดคนหนึ่งของวงการ สังเกตจากหนังเรื่อง The Curious Case of Benjamin Button หรือฉากจบใน Fight Club ครั้งนี้แหละเขาก็จะได้ใช้โชว์ศักยภาพในส่วนนั้นแบบจริงๆจังๆเสียที จากงานฟอร์มไม่ยักษ์ใหญ่อะไรแต่เด่นด้วยความจริงจังของเนื้อเรื่อง มาสู่งานระดับท็อปฟอร์มขายความยิ่งใหญ่และทุนสร้าง งานนี้ฟินเชอร์จะทำออกมาได้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ต้องติดตาม !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:11:46

ความคิดเห็นที่ 10 เควนติน ทาแรนติโน่ ผลงานชิ้นต่อไป : DJANGO UNCHAINED (2012), KILL BILL : VOLUME 3 (2014) ประสบความสำเร็จจาก Inglorious Basterds ไปเมื่อ 2 ปีก่อน จนหลายคนบ่นถึงว่าเมื่อไหร่จะกลับมาสาดเลือดให้ได้ดูกันอีก ว่าแล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนใจ เพราะเควนติน ทาแรนติโน่ กำลังง่วนอยู่กับงานชิ้นใหม่ ที่รับรองว่าจะไม่ทำให้แฟนหนังของเขาผิดหวังอย่างแน่นอนกับเรื่องนี้ DJANGO UNCHAINED งานแนวคาวบอยเลือดสาด ที่เขาได้แรงบันดาลใจมาจากหนังซามูไรจิ้มจุ่มที่เขาเคยไปร่วมแสดงมาเมื่อ 5 ปีก่อนอย่าง Sukiyaki Western Django นั่นเอง ก่อนหน้าที่จะมาลงตัวด้วยชุดนักแสดงเซ็ทปัจจุบัน ทาแรนติโน่ เคยเกือบได้พระเอกผิวสีอย่าง วิลล์ สมิธ มาร่วมจอ แต่ด้วยคิวที่ไม่ลงตัว บทเด่นของเรื่องที่ชื่อ จังโก้ ทาสหนุ่มประจำเรื่องก็เลยมาออกหวยที่ เจมี่ ฟ็อกซ์แทน นอกจากนี้ยังมี ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่พลิกมาดจากหนุ่มหน้าเดียวมารับมาดร้ายสุดๆเป็นครั้งแรก ในฐานะหัวหน้าทาสจอมโฉด ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เคิร์ต รัซเซลที่เคยร่วมงานกับทาแรนติโน่มาแล้วใน Death Proof ก็มาร่วมงานด้วยในเรื่องนี้ โดยเสียบแทนเควิน คอสต์เนอร์ ที่ถอนตัวออกไป ซี้เก่าของทาแรนติโน่อีกหนึ่งรายที่ตามมาจาก Inglorious Basterds ด้วยนั่นก็คือ คริสตอฟ วอลท์ซ จากบทร้ายในเรื่องก่อนห้นา มาเรื่องนี้เขาจะได้บทเด่นเป็นนักล่าเงินรางวัล !!! นอกจากนี้ยังมีรายชื่อของ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิตต์, ซามูแอล แจ็คสัน, ซาช่า บารอน โคเอ็น, เจมส์ รีมาร์, เคอร์รี่ วอชิงตัน ร่วมแสดงด้วย !!! รายชื่อนักแสดงน่าสนใจ ตัวหนังก็คงจะเน้นความขึงขัง โหดดิบตามสไตล์ทาแรนติโน่อยู่แล้ว นี่คงจะเป็นผลงานที่ขึ้นท็อปลิสท์ในใจใครหลายคน กับการรอชมอย่างใจจดจ่อ !! ...แต่กว่าจะมาก็ตั้งปลายปี 2012 นู่นแหน่ะ รอกันต่อไป ถ้าโลกไม่แตกไปซะก่อนนะ อีกเรื่องที่ทาแรนติโน่ วางแผนสร้างเอาไว้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดอะไรมาก ก็คือการหยิบนางฟ้าซามูไร หรือ KILL BILL มาขยายความสร้างภาคสามกันต่อ โดยนักแสดงที่เข้าชื่อกลับมาแน่นอนก็มีเพียงแค่ อูม่า เธอร์แมน, ดารีล ฮันน่าห์และนิค ซานตาโน่ เท่านั้น ส่วนรายอื่นก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีใครบ้าง แต่ก็อย่างว่า ฮอลลีวู้ดมีการเปลี่ยนแปลงอะไรได้เสมอ ข่าวหนังเรื่องนี้ก็หยุดอัพเดตมาตั้งแต่เมื่อปีก่อนนู่น สุดท้ายแล้วไม่รู้จะอะไรยังไงต่อ ติดตามกันต่อไปแล้วกัน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:12:21

ความคิดเห็นที่ 11 เอ็ม ไนต์ ชยามาลาน ผลงานชิ้นต่อไป : ONE THOUSAND A.E. (2013) นับตั้งแต่ความล้มเหลวจาก The Last Airbender หนังที่เฮียมาโนช เอ็ม ไนต์ ชยามาลาน พยายามจะเปลี่ยนแนวไปจับงานสำหรับกลุ่มเป้าหมายครอบครัวเน้นความเป็นแฟนตาซี แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ กลายเป็นของเกลียดของนักวิจารณ์ทั่วแคว้น ส่วนรายรับก็แป้กในบ้าน ยังดีที่ได้รายรับรวมทั่วโลกมาช่วยให้หนังไม่เจ็บตัวมากนัก !! เฮียก็ไม่ได้กลับมาพร้อมหนังใหญ่ขายโรงเรื่องไหนอีกเลย จะมีก็แต่ไปนั่งแท่นโปรดิวซ์หนังเขย่าขวัญให้กับค่ายที่เพิ่งเปิดใหม่ที่ชื่อ Night Chronicles ที่เขาทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนด้วย และก็ปล่อยหนังเขย่าขวัญน้ำดีเรื่อง Devil ออกมาที่ทำใครหลายต่อหลายคนเข้าใจผิดกันไปต่างๆนานา ว่าเป็นหนังที่เขากำกับเอง เนื่องก็เพราะด้วยชื่อของเอ็ม ไนต์ ที่เอามาใช้ขายหนังออกสื่อยกใหญ่ แต่จริงๆแล้วเขาทำหน้าเป็นต้นกำเนิดไอเดียของหนังและนั่งแท่นโปรดิวซ์เท่านั้น !!! และสำหรับใครที่รอผลงานใหม่ของเขา ก็อาจจะต้องรอนานอีกนิดในช่วงนี้ เพราะกว่าเขาจะมาพร้อมผลงานใหม่อีกครั้งก็นู่นเลยปี 2013 ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่เขายังไม่เข็ดกับงานแนวฟอร์มยักษ์ฉีกแนว คราวนี้มาแบบไซไฟเต็มที่ กับเรื่อง ONE THOUSAND A.E ที่ขอว่าด้วยเรื่องราวของพ่อลูกคู่หนึ่งที่หลังจากยานอวกาศของพวกเขาขัดข้องกลางคัน ก็พบว่ามันไปตกบนดาวของเอเลี่ยนดวงหนึ่ง !! แหม่ คราวนี้จินตนาการของเอ็ม ไนต์ จะเอาอะไรมาเล่นกับเราอีก ก็ต้องมาลุ้นกัน จะออกมาแบนราบเหมือนกับหนัง ดิน น้ำ ลม ไฟ เรื่องก่อนหน้าหรือไม่ หรือเฮียจะเอาบทเรียนที่ได้รับไปใช้แก้ไขและปรับปรุงให้งานแนวๆนี้ของเฮียดีขึ้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป อ้อ กำลังจะบอกว่า หนังเรื่องนี้ของเฮียไม่ธรรมดานะจะบอกให้ เพราะได้ดาราระดับพันล้านอย่าง วิลล์ สมิธ มาเข้าชื่อในฐานะนักแสดงนำด้วยยยย เรียกได้ว่าสมิธมอบความไว้วางใจให้สุดๆ ร่วมด้วย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของสมิธเองด้วย กับหนุ่มน้อย จาเด็น ที่ได้มาร่วมเล่นกับพ่อด้วย ยังมี โซอี้ คราวิทซ์, โซฟี โอโคเนโด หนังวางแพลนฉายเอาไว้ที่ 7 มิถุนายน 2013 โปรแกรมยักษ์ประจำซัมเมอร์ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:13:31

ความคิดเห็นที่ 12 คลิ้นท์ อีสต์วู้ด ผลงานชิ้นต่อไป : A STAR IS BORN (2013) แก่แต่เก๋าตัวจริงเสียงจริง ยิ่งแก่ยิ่งทำหนังเก่ง แต่ปู่คลินท์ ดันเริ่มจะมาเป๋เอาช่วงหลังๆนี้ ทั้ง Hereafter ที่เงียบเกินเหตุ จนกระทั่งมาถึง J.Edgar หนังเต็งกล่อง ที่เพิ่งฉายไป แต่กลายเป็นเจ้าของคำวิจารณ์ในแง่ลบเป็นจำนวนมาก ซึ่งผิดวิสัยหนังของลุงสุดๆ ทั้งที่โปรโมตบทบาทของหนุ่มลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ซะดิบดีให้เป็นตัวเต็งบนเวทีรางวัล แต่ด้วยผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ทำให้ปู่ต้องม้วนเสื่อเก็บกลับบ้านไปในที่สุด !!! แต่นี่ก็ไม่ทำให้ปู่ย่อท้อ ปี 2013 ปู่ขอกลับมาอีกครั้งด้วยการฉีกแนวครั้งยิ่งใหญ่กับการกำกับหนังเพลงแนวโรแมนติคดราม่าเป็นครั้งแรก !!!! เอากะปู่สิ ไหนๆแนวดราม่ามาเต็มมันเริ่มจะไม่รุ่ง ก็แหกแหวกตลาดกันสักนิด เผื่อจะได้เกิดเปรี้ยงปร้างอีกครั้งเอาตอนแก่ หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า A STAR IS BORN หนังที่มีชื่อของสาวเสียงดีหุ่นสะบึม บียอนเซ่ โนวเลส เข้าชื่อในฐานะนักแสดงหลักของเรื่อง ร่วมกับหนุ่มลีโอ ที่ลุงขอใช้บริการอีกครั้งกับการเปลี่ยนแนวมาลงจอในงานโรแมนติคดราม่าในรอบหลายปีที่ผ่านมาของพ่อหนุ่มเค้าด้วยเช่นกัน !!! แต่หนังก็มีอันต้องดีเลย์ออกไปอีกสักระยะ เนื่องด้วยปัญหาที่สาวบี ตั้งท้องพอดี รวมทั้งหนุ่มลีโอก็ดันมาถอนตัวออกไปในเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน ฉะนั้นบทนำชายคนใหม่ก็เลยมาส้มหล่นที่ คริสเตียน เบล !!! ที่นานๆจะมาเห็นเล่นอะไรทำนองนี้กะเขาด้วย !! แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่าสรุปแล้ว เบลจะโอเคเซย์เยสหรือไม่ แล้วหนังจะเริ่มต้นถ่ายทำได้เมื่อไหร่ ก็คงต้องรอให้สาวบีคลอดให้เสร็จสรรพรับขวัญลูกชายคนแรกเสียก่อน เอาเป็นว่าถึงจะไม่เป็นรูปเป็นร่างในเร็ววันนี้ แต่นี่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการฮอลลีวู้ด ที่ควรจับตามองอย่างยิ่ง !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:14:15

ความคิดเห็นที่ 13 อัง ลี ผลงานชิ้นต่อไป : LIFE OF PI (2012) กระแทกใจคนดูกับ Brokeback Mountain, เล่นกับตัณหาและราคะในใจคนกับ Lust, Caution จนกระทั่งการปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองให้สุดโต่งใน Taking Woodstock ผู้กำกับเชื้อสายจีน อัง ลี แห่งหนังรางวัลขึ้นหิ้งอย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon จะกลับมาอีกทีปีหน้า พร้อมการเปลี่ยนแนวครั้งสำคัญ กับการมาจับหนังดราม่าผจญภัยเน้นกลุ่มเป้าหมายทุกเพศวัยเรื่อง LIFE OF PI ที่สร้างมาจากนิยายขายดีของ ยาน มาร์เทล ที่เล่าเรื่องราวของเด็กน้อยชาวอินเดีย ที่หลังจากเรือที่เขาโดยสารมาอัปปาง เขาก็ต้องออกเดินทางด้วยเรือชูชีพกับสัตว์ต่างชนิดมากมาย ทั้ง หมาป่าไฮยีนา, ม้าลาย, ลิงหรือแม้กระทั่งเสือเบงกอล นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาเขาไปพบกับการผจญภัย การใช้ไหวพริบและการเอาตัวรอด !!! ต้นฉบับเป็นนิยายที่มีผู้อ่านหนาแน่นอย่างมาก และได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นนิยายที่อ่านแล้วสนุก เพลิดเพลินดีทีเดียว มาอยู่ภายใต้อาณัติการสร้างของ ลี แบบนี้ น่าจะเวิร์คไม่น้อย แต่ก็ยังไม่เคยเห็นลายเซ็นต์การทำหนังแนวนี้ของลี เท่าไหร่ ก็คงต้องคอยลุ้นกันต่อไป หนังมีนักแสดงเชื้อสายอินเดียมาร่วมแสดงกันคับจอ ทั้งหนุ่ม เออร์ฟาน ข่าน, ทาบู, ซูราจ ชาร์มา ส่วนนักแสดงฮอลลีวู้ดที่ได้มาร่วมแจมในหนังเรื่องนี้ในฐานะนักแสดงรับเชิญด้วยนั่นก็คือ โทบี้ แมกไกวร์นั่นเอง !!! ...หนังพร้อมฉายในอเมริกา 21 ธันวาคม ปีหน้า !! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:15:05

ความคิดเห็นที่ 14 บาซ เลอห์แมน ผลงานชิ้นถัดไป : THE GREAT GATSBY (2012) เป็นรายที่กำกับหนังมาไม่เจอ แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงมาหลายทศวรรษ แต่แต่ละเรื่องก็มาพร้อมอะไรที่เด็ดและอลังการงานสร้างจริง และถึงแม้ Australia ผลงานทุ่มทุนสร้างขายซุปตาร์เรื่องล่าของลุงจะไม่ได้มาพร้อมความสำเร็จในแบบที่คาดหวังกันไว้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ลุงบาซย่อท้อ เพราะเรื่องใหม่ที่กำลังถ่ายทำกันอยู่ในตอนนี้อย่าง THE GREAT GATSBY ลุงก็ยังมาพร้อมทีมดาราซุปตาร์เช่นเคย รวมทั้งทุนสร้างในระดับ ร้อยกว่าล้านเช่นเคย !!! สำหรับหนังเรื่องนี้ ใครที่เป็นแฟนนิยายคลาสสิค หรือแฟนหนังรุ่นเก๋า ก็คงจะได้ยินชื่อหนังมาหลายครั้งหลายครา เพราะหนังดัดแปลงมาจากหนังสือของ เอฟ สก็อต ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนัง, ละครทีวี, ละครเวที อยู่หลายเวอร์ชั่นทีเดียว และครั้งล่าสุดนี้ก็จะทำให้แฟนหนังยุคใหม่ได้รู้จักกับตัวนิยายนี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ด้วยการตีความภายใต้ลายเซ็นต์ของลุงบาซเอง ที่เรื่องอารมณ์ความละเมียด รัญจวนใจ ในบริบทดราม่าโรแมนติก ไม่ต้องพูดถึง ลุงจัดให้แบบเต็มเหนี่ยวแน่นอน !!! หนังว่าด้วยเรื่องราวการเสียดสีสังคมของชาวอเมริกา ในยุคที่มีการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ โดยมีฉากหลังหลักอยู่ที่สังคมของชนชั้นสูงในนอร์ธชอร์ ลองไอร์แลนด์ และกรุงนิวยอร์ค ผ่านแคแรกเตอร์ของตัวเอกที่ชื่อ นิค คาร์ราเวย์ ชายหนุ่มที่มีพื้นเพจากตอนกลางทางตะวันตกของประเทศที่ย้ายมาอยู่ในลอง ไอร์แลนด์ และได้พบกับรูปแบบการใช้ชีวิตอันหรูหราและฟุ่มเฟือยของแกสบี้ เพื่อนบ้านผู้ลึกลับของเขา !! มาพูดถึงทีมนักแสดง บทนำของเรื่องตกเป็นของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (งานจะชุกไปไหนเนี่ยยยยะ !!!) ที่จะรับบทเป็น แกสบี้ ร่วมด้วย แครี่ มุลลิแกน, โทบี้ แมกไกวร์, เจ็มม่า วอร์ด, อิสล่า ฟิชเชอร์, โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน, คัลแลน แม็คออลิฟฟ์ --- 25 ธันวาคม 2012 ดีเดย์สำหรับใครที่รอผลงานของลุง หลังจากหายต๋อมไป 4 ปีเต็ม !!! จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เอาใจช่วย !!! แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:41:29 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:15:46

ความคิดเห็นที่ 15 โจเอล & อีธาน โคเอ็น ผลงานชิ้นต่อไป : INSIDE LLEWYN DAVIS (2013) ปกติไม่เคยต้องปล่อยให้รองานใหม่นานขนาดนี้ เพราะนับตั้งแต่ No Country For Old Men เป็นต้นมา สองพี่น้องหัวหอกผู้กำกับคุณภาพคับแก้วแห่งฮอลลีวู้ดรายนี้ก็มีงานให้เราได้ดูกันทุกที แต่ครั้งนี้รอนานเป็นพิเศษ หลังจากหมด True Grit ไป ก็ต้องรอไปอีก 3 ปีกว่าที่ทั้งคู่จะกลับมาพร้อมงานหนังเรื่องใหม่ในชื่อ INSIDE LLEWYN DAVIS ที่จะเป็นงานที่สองหนุ่มจะหันไปทำงานแนวดนตรีเน้นความเป็นดราม่าอิงชีวประวัติกันบ้าง โดยเรื่องนี้จะเล่าถึงดนตรีโฟล์คในช่วงปี 1960 ที่บรรยากาศหลักของเรื่องนั้นอยู่ที่หมู่บ้าน กรีนวิช โดยมีแคแรกเตอร์นำหลักของเรื่องเป็น เดฟ แวน รองค์ นักร้องเพลงโฟล์ค ที่เป็นเพื่อนกับนักร้องชื่อดังที่ชื่อ บ็อบ ดีแลน โดยเรื่องราวก็จะนำเสนอชีวิตของเขาผ่านประสบการณ์ที่เขาได้พบเจอในแวดวงดนตรี และบุคคลมีชื่อเสียงดังๆในอดีตทั้งหลาย ขายงานดราม่าจัดหนัก เน้นตลกร้ายบ้าง อาชญากรรมโหดอำมหิตบ้าง งานนี้จะได้เห็นลายเซ็นต์ของทั้งคู่ที่หันมาทำงานดราม่าเพียวๆ กันบ้าง น่าจะแปลกดี หนังมีชื่อของ จัสติน ทิมเบอร์เลต, แครี่ มุลลิแกน ในบทนำ และมีกำหนดเปิดกล้องกลางปีหน้า ก่อนจะออกฉาย 2013 !!! ถึงจะเปลี่ยนแนว แต่แน่นอนว่าจะต้องเป็นงานเต็งรางวัลตามสไตล์ของทั้งคู่อีกอย่างแน่นอน ฟีลเดียวกัย Walk The Line ของผู้กำกับ เจมส์ แมนโกลด์ นั้นแล !!!!... จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:16:11

ความคิดเห็นที่ 16 โรแลนด์ เอ็มเมอริช ผลงานชิ้นต่อไป : SINGULARITY (2013) เป็นอีกรายที่ขอเปลี่ยนแนวมาทำหนังสเกลเล็กกับเขาด้วย สำหรับโรแลนด์ เอ็มเมอริช ที่เพิ่งเปิดตัว Anonymous หนังที่เหมือนเป็นการพักเบรคงานบล็อกบัสเตอร์ถล่มบ้านเมืองของเขาไว้ชั่วคราว แต่ดันไม่เปรี้ยงปร้างสักเท่าไหร่ โรแลนด์ก็เลยอาจเกิดไอเดียว่า กลับไปทำหนังหายนะโลกแตกแหกปฐพีขยี้พิภพเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว ว่าแล้วผลงานชิ้นต่อไปของเขาก็เลยกลับมาสเกลใหญ่บะลั่กกั้กเหมือนเดิม หนังเรื่องที่ว่านี้คือ SINGULARITY ที่มาพร้อมทุนสร้างในระดับ 175 ล้านดอลล่าร์ OMG !!! งานฟอร์มยักษ์ในเงื้อมมือของโรแลนด์เป็นอะไรที่จะเรียกร้องความสนใจของคนดูได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับหนังก็ตาม แต่ที่แง้มๆออกมาสำหรับตัวหนังเอง เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์ในอนาคตอันไกลโพ้น โดยจะโฟกัสไปที่แคแรกเตอร์ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างกายของเขาได้รับการเยียวยาอาการบาดเจ็บจากเทคโนโลยีแขนงใหม่ที่ทำให้เขาได้รับพลังพิเศษมา และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการที่เขาจะต้องเป็นตัวแทนของมวลมนุษยชาติในการหยุดยั้งองค์กรผู้ชั่วร้ายที่หมายจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ในการครอบครองโลก และใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง !!! จากรายชื่อนักแสดงขั้นต้นที่มาเข้าชื่อเอาไว้ ก็ประกอบไปด้วย ลุค กริมส์, โลแกน มาร์แชล กรีน, โธมัส แม็กดอนเนลและ เบน บาร์นส (สารภาพว่ารู้จักแต่รายหลังสุดนี่แหละ - -") แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะมารับบทดังกล่าวไป เอาเป็นว่าแม้ตอนนี้โปรเจ็กต์จะดีเลย์ออกไประยะใหญ่ แต่หนังก็จะต้องเป็นโปรแกรมเพชรหนังพันล้านของโรแลนด์ ที่มาปลุกกระแสซีจีและความยิ่งใหญ่ของหนังไซไฟให้เราๆท่านๆ ได้ตื่นเต้นกันอีกอย่างแน่นอน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:16:39

ความคิดเห็นที่ 17 กิลเลอร์โม เดล โทโร่ ผลงานชิ้นต่อไป :PACIFIC RIM (2013) อาจจะดูหายหน้าหายฝีมือการจับกล้องไปนาน (เพราะมัวแต่ไปง่วนกับโปรเจ็กต์ The Hobbit จนกระทั่งหนังยืดเยื้อและเฮียแกก็ถอนตัวออกไป) แต่จริงๆแล้วกิลเลอร์โม ก็ยังเวียนว่ายนั่งแท่นโปรดิวเซอร์ให้กับหนังอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Don't Be Afraid of The Dark, Puss In Boots และที่กำลังจะมาในปีสองปีนี้ก็คือแอนิเมชั่น Rise of The Guardians ส่วนใครที่ถามหางานใหม่ในเครดิตการกำกับของแก ก็อีกไม่นานเกินรอ เพราะตอนนี้เฮียกำลังง่วนกับการเตรียมงานสร้างอยู่กับอภิมหาฟอร์มยักษ์สลักจิตที่ชื่อ PACIFIC RIM งานที่เน้นความเป็นไซไฟแฟนตาซีแบบเต็มสูบ โดยมีชื่อของ ไอดริส เอลบ้า, ชาร์ลี ฮันนัม, ชาร์ลี เดย์, รอน เพิร์ลแมน, วิลเล็ม แดโฟ เข้าชื่อในฐานะนักแสดงนำหลักของเรื่อง สำหรับเรื่องราวก็ว่าด้วยโลกมนุษย์ที่ต้องต้อนรับการมาเยือนของอสูรกายใหญ่ยักษ์มหึมา ที่หมายมั่นจะยึดครองโลก และมนุษย์เองก็ต้องหาทางสู้เพื่อเอาตัวรอดจากพวกมันด้วยการสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อต่อกร !!!! ฟังดูแล้วเหมือนหนังยอดมนุษย์ปราบก็อตซิลล่าก็ไม่ปาน แต่หนังก็น่าจะมีอะไรที่เป็นเซอร์ไพรส์คนดูได้ไม่ยาก ขึ้นชื่อว่ากิลเลอร์โม ผู้กำกับจอมบรรเจิดมาเป็นหัวเรือใหญ่ของหนังแบบนี้ด้วยแล้ว --- หนังเดินหน้าถ่ายทำกันไปแล้วเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หมดจากเรื่องนี้ไปก็ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นกัน เพราะยังไม่รู้ว่าเฮียกิลจะไปจับงานเรื่องไหนต่อ จะเป็น At The Mountains of Madness ที่ถูกระงับไปก่อนหน้าที่จะกลายมาเป็นหนังเรื่องนี้แทนหรือไม่ ต้องติดตาม !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:17:06

ความคิดเห็นที่ 18 จอร์จ ลูคัส ผลงานชิ้นต่อไป : STAR WARS : EPISODE 1 - THE PHANTOM MENACE 3D (2012) ใจคอจะไม่คิดไปจับงานหนังเรื่องอื่นนอกจาก Star Wars แล้วหรือไงก็ไม่รู้ สำหรับลุงเคราเขียว จอร์จ ลูคัส ที่หายนมหายหน้าไปนาน จนกระทั่งกลับมาล่าสุดพร้อมกับงานชิ้นใหม่ที่เอาน้ำพริกถ้วยเก่ามาตำใหม่ให้เด็กรุ่นใหม่ได้ชิมกันกับ STAR WARS EPISODE 1 : THE PHANTOM MENACE ที่ลุงขอเอามาคอนเวิร์ตให้เขายุคสมัย กลายเป็น 3D และขายโรงอีกครั้ง ระหว่างมหากาพย์สงครามแห่งโพ้นจักรวาลเรื่องนี้ของลุง กับหนังมหากาพย์ความรักสุดอมตะของป๋าเจมส์ คาเมรอน เรื่อง Titanic ไม่รู้ว่าของใครจะกลายเป็นหนัง 3D ที่ขายดีมากกว่ากัน !!! แต่รู้สึกว่าแฟนหนังเรื่องหลังที่รอคอยการกลับมาฉายโรงของหนังจะมีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แล้ว'ตาวอ ของลุงจอร์จ จะได้เกิดไหมเนี่ยะ ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไป !!! สำหรับผลงานใหม่ของลุงจอร์จ ถ้าพูดกันตอนนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไกลเกินจริงมาก เพราะแผนการณ์ของลุงนับจากนี้ก็คือ การคอนเวิร์ต STAR WARS ออกมาเป็น 3D ให้ครบทั้ง 6 ภาค เพื่อออกฉายปีละภาคนั่นเอง เริ่มจากปีหน้ามาพร้อมภาค 1 ปี 2013 ก็จะเป็น STAR WARS EPISODE 2 : ATTACK OF THE CLONES ไล่ยาวไปจนถึง ปี 2017 จนมหากาพย์ออกฉายใรูปแบบ 3D ครบทุกภาค นั่นแหละลุงถึงจะค่อยไปลุยงานใหม่ ที่ยังไง๊ ยังไงก็ไม่ยอมออกจาก Star Wars อยู่ดี เพราะลุงจะไปทำภาคต่อให้กับมหากาพย์สงครามแห่งพิภพแกแล็กซี่ชุดนี้นั่นแหละ โดยวางแผนจะสร้างออกมาอีกหนึ่ง ไตรภาค สานต่อยาวกันไปถึง 7 - 8 - 9 นู่นเลยยย เอาเป็นว่าถ้าลุงยังทำหนังไหวในช่วงเวลานั้น เราก็สัญญาว่าจะรอดู แต่อนาคตเป็นอะไรไม่แน่นอน เอา Star Wars มาคอนเวิร์ตให้ครบ 6 ภาค 6 ปีก่อนเถอะ แล้วค่อยว่ากันหลังจากนั้น !!! เอิ๊กๆๆๆๆ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:17:33

ความคิดเห็นที่ 19 พอล โธมัส แอนเดอร์สัน ผลงานชิ้นถัดไป : THE MASTER (2013) ปล่อยให้เราเฝ้ารอคอยผลงานใหม่ด้วยใจจดจ่อ จนผ่านไปแล้วเกือบ 5 ปีก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ดูกัน แต่ตอนนี้หลายคนคงใจชื้นขึ้นหน่อยที่รู้ว่างานใหม่เรื่องต่อไปของผู้กำกับหนุ่มหล่อ พอล โธมัส แอนเดอร์สันแห่ง There Will We Blood ถ่ายทำเสร็จแล้วเรียบร้อย หนังเรื่องนั้นก็คือ THE MASTER งานที่เป็นที่พูดถึงมานานแสนนาน ล่าสุดก็เป็นรูปเป็นร่างเสียที เรื่องนี้เรื่องราวของหนังจะจับประเด็นของลัทธิไซเอนโทโลจี้ !!! ที่มีคนดังมากมายนับถือ ทั้ง ทอม ครูซและ จอห์น ทราโวลตร้า ตัวอย่างของคนดังที่ลัทธิดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตในวงการของพวกเขาเป็นอย่างมาก พอลจะได้ ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน มารับบทนำของเรื่อง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งลัทธิที่ว่านี้ ร่วมด้วย ฮัวฆิน ฟินิกซ์, เอมี่ อดัมส์, ลอร่า เดิร์น, รามี่ มาเล็ค เห็นแค่ชื่อนักแสดงนำส่วนหนึ่งก็รู้แล้วว่านี่จะต้องเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมหนังที่ถูกลิสท์เข้าชื่อในฐานะหนังเต็งกล่องตามสไตล์ลายเซ็นต์งานคุณภาพของหนุ่มพอลอย่างแน่นอน !!! ใครที่คิดถึงเขาก็อดใจรอกันอีกนิด เพราะพอลเองเป็นประเภทที่กำกับหนังมาช้า แต่ชัวร์ ดูตัวอย่างจาก Magnolia, Boogie Nights, Punch-Drunk Love, There Will Be Blood แต่ละเรื่องไม่มีผิดหวังทั้งสิ้น จัดไป 2013 อีก 2 ปีกว่าๆเท่านั้นเอง จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:18:05

ความคิดเห็นที่ 20 พอล ดับบลิว เอส แอนเดอร์สัน ผลงานชิ้นต่อไป : RESIDENT EVIL : RETRIBUTION ผู้กำกับที่มักจะมีคนจับสลับกับรายด้านบน ด้วยชื่อที่มาในแนวเดียวกัน เว้นเสียก็แต่ชื่อกลางที่จะต้องมาแยกแยะให้ออกว่าใครเป็นใคร สำหรับรายนี้เรารู้จักกันดีในฐานะผู้กำกับหนังไซไฟเลือดสาด บาดอารมณ์ ที่มีผลงานในอดีตฮิตๆอย่าง Resident Evil ภาคแรก, Alien VS. Predator และอื่นๆอีกมากมาย ที่ครั้งหลังสุดเพิ่งจะเจ็บหนักไปสาหัสกับ The Three Musketeers งานเปลี่ยนแนวที่เจ๊งไม่เป็นท่า จนเฮียพอล ต้องกลับมาหางานเดิมๆอย่าง RESIDENT EVIL ภาคต่อในชื่อ RETRIBUTION ที่จะได้ร่วมงานกับเมียสุดสวยอย่าง มิลล่า โจโววิช อีกครั้ง (จริงๆก็ไม่ได้ห่างกันไปไหนหรอก เพราะตั้งแต่ปี 2010 ก็ร่วมงานกันมาตลอด ไม่เว้นแม้แต่ The Three Musketeers นั่นแหละ) ...หนังในภาคนี้ใครที่เป็นคอเกมส์ก็คงจะรอกันอย่างใจจดจ่อ แต่หลายคนก็อยากให้เฮียจับเกมส์อื่นมาขึ้นจอบ้าง และไม่รู้ว่าบทสรุปของผีชีวะที่เฮียแกดั้นด้นทำมาตั้งแต่ภาคแรก แล้วเว้นห่างภาค 2-3 เอาไว้ จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน หรือจะทำจนลูกบวช หลานเบียดเลย งั้นนี้ก็ต้องมาลุ้นกัน ...อ้อ แต่ถ้าใครที่ชอบความมันส์แบบดิบๆ เฮียแกกำลังโปรดิวซ์ DEATH RACE 3 อยู่ด้วยนะเออ ที่เตรียมออกมาเป็นหนังแผ่นให้เราได้ดูกันปีหน้า !! (ภาคสองมันออกเมื่อไหร่ฟะ ไม่ได้ตามข่าวเลย เร็วเกิ๊นนนน) จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:19:00

ความคิดเห็นที่ 21 เดวิด เยทส์ ผลงานชิ้นต่อไป : ST. NAZAIRE (2012) เขาคือผู้กำกับเชื้อสายอังกฤษที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักของใครมาก่อน จนกระทั่งการมากำกับ Harry Potter ภาคที่ 5 ตอน Order of The Phoenix ทำให้ชื่อของ เดวิด เยทส์ ติดตลาดขึ้นมาทันที และเป็นผู้กำกับที่เหล่าคนดู Harry ให้ความไว้วางใจเรื่อยมา จนกระทั่งสร้างความประทับใจได้ในภาคจบในที่สุด หลังจากนี้ชื่อของ เยทส์ ก็คงจะติดตลาดไปอีกสักพักใหญ่ๆ และกลายเป็นชื่อผู้กำกับที่ขายได้อย่างแน่นอน มาเรื่องถัดไป เยทส์จะหันไปจับกล้องหนังแนวสงครามเน้นดราม่ากันบ้างกับ ST. NAZAIRE หนังสงครามที่จะนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มทหารคอมมานโดอังกฤษที่บุกเข้าโจมตีท่าเรือ ST. NAZAIRE ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าเรื่องนี้ เยทส์ก็ยังร่วมงานกับวอร์เนอร์ เช่นเคย โดยมีกำหนดเปิดกล้องในช่วงต้นปีหน้า เพื่อให้ทันออกฉายในปีเดียวกัน แต่ในส่วนนักแสดง ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าเขาจะใช้บริการนักแสดงรายใดบ้าง คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป ในส่วนของผลงานหลังจากนั้น เยทส์มีความตั้งใจว่าจะนำเอาหนังจอแก้วของเขาเรื่อง SEX TRAFFIC มาดัดแปลงเป็นหนังจอเงินด้วยเช่นกัน มีผลงานในเครดิตฮิตๆระดับ Harry Potter แบบนี้ เยทส์คงจะเป็นผู้กำกับแถวหน้าของวงการไปได้อีกนานเลยทีเดียว แต่ต้องมาดูกันก่อนว่า ผลงานนอกเหนือจาก Harry ที่ว่านี้ จะออกมาและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับเขาได้มากน้อยแค่ไหน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:19:35

ความคิดเห็นที่ 22 เอ็ดการ์ ไรท์ ผลงานชิ้นต่อไป : ANT-MAN (2014) เอ็ดการ์ ไรท์ผู้กำกับหนังตลกคับแก้วอย่าง Scott Pilgrim VS The World, Hot Fuzz และ Shaun of The Dead กำลังจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการทำหน้าที่กำกับหนังฮีโร่เรื่องใหม่ให้กับมาร์เวล และจะเป็นหนึ่งในแคแรกเตอร์ของหนัง The Avengers ด้วย นั่นก็คือ ANT-MAN ฮีโร่ที่กว่าจะมีหนังขึ้นจอเป็นของตัวเองก็ล้าหลังเพื่อนร่วมรุ่นกันไปหลายช่วงตัว !! ไรท์ไม่แค่ทำหน้าที่กำกับหนังเท่านั้นแต่จะรับหน้าที่เขียนบทด้วย ...ANT-MAN แคแรกเตอร์ที่กลายร่างมาจากนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถพัฒนาตัวเองให้ตัวเล็กลงขนาดเท่ามดและแมลงได้ !!! และเขาเองก็เป็นหนึ่งในทีมพิทักษ์โลก โครงการ The Avengers ด้วย มาร์เวลอาจจะแอบมีเซอร์ไพรส์ในการยัดแคแรกเตอร์นี้เข้าไปในหนังด้วย ต้องไปรอดูว่าจะออกมาในรูปแบบไหน เพราะความตั้งใจแรกก็คือการใส่แคแรกเตอร์หนังลงไป เพื่อที่จะให้มีบทบาทในหนังใหญ่ได้ และกลับเข้ามาร่วมโครงการอย่างเป็นทางการใน The Avengers ภาคต่อ ต้องติดตามกันว่า ไรท์ หลังจากที่ทำหนังเล็กพริกขี้หนูมาเจอ มาเจองานช้างระดับบล็อกบัสเตอร์ที่มีแฟนทั่วโลกติดตาม จะสร้างฐานแฟนใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน และจะถึงเอาเสน่ห์การตัดต่อที่ถูกใจเด็กแนวมาใช้ในหนังเรื่องนี้หรือไม่ ต้องติดตาม ตอนนี้ไรท์แค่เข้าชื่อเอาไว้ในฐานะผู้ดูแลโปรเจกต์ ควบคู่ไปกับการร่างบทแรกของหนัง รอก็แต่ช่วงปีหน้าที่น่าจะเริ่มต้น Pre-Production ได้ และค่อยว่ากันว่าใครกันจะมารับบทเป็นนักแสดงนำของหนัง !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:20:56

ความคิดเห็นที่ 23 ทิม เบอร์ตัน ผลงานชิ้นต่อไป : DARK SHADOWS (2012), FRANKENWEENIE (2012) หลังรับทรัพย์ไปเละตุ้มเป๊ะจาก Alice In Wonderland งานที่ป๋าไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ โดยโกยไปกว่า 1024 ล้านดอลล่าร์ จากทุนสร้าง 200 ล้านดอลล่าร์ !!! เรียกได้ว่าเป็นความฮิตสูงสุดในเครดิตของป๋าตั้งแต่ทำหนังมา ล่าสุดหายแว๊บไปสองปี ป๋ากลับมาแล้วพร้อมงานในกลิ่นอายเดิมๆกับเรื่อง DARK SHADOWS หนังแนวเขย่าขวัญแฟนตาซีเน้นบรรยากาศกอธิคๆ ที่ดัดแปลงมาจากละครทีวีชื่อดังในอดีตที่ถูกรีเมคมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ที่ว่าถึงเรื่องราวของหนุ่มคาสโนว่านามว่า บาร์นาบัส ที่หลังจากไปหักอกแม่มดร้ายนางหนึ่งเข้า หล่อนก็สาปเขาให้กลายเป็นแวมไพร์ด้วยความแค้น และให้เขาถูกฝังทั้งเป็น เป็นเวลาสองร้อยกว่าปี ที่เขาถูกจองจำ จนกระทั่งเมื่อเขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคุ้นเคยก็เปลี่ยนไป รวมทั้งตระกูลของเขาเอง ที่กุมความลับอันดำมืดบางอย่างเอาไว้ ป๋าจะได้กลับมาร่วมงานกับนักแสดงคู่บุญ จอห์นนี่ เด็ปป์ อีกครั้ง ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของป๋าไปแล้ว รวมไปถึงหวานใจคุณนายเบอร์ตัน เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ ที่ก็มาโผล่สร้างสีสันในหนังป๋าทุกเรื่องไป นอกจากนี้ยังมี มิเชล ไฟเฟอร์, โคลอี้ มอร์เรทซ์ เป็นนักแสดงร่วมรายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ใครที่คิดถึงงานของป๋าสไตล์นี้ นี่จะเป็นอีกเรื่องที่ป๋าขอจัดเต็ม ตอนนี้หนังถ่ายทำเสร็จแล้วเรียบร้อย กำลังอยู่ในขั้นตอนโพสท์ โปรดักชั่น เหลือก็แต่ว่าจะปล่อยตัวอย่างออกมาให้เราได้ยลกันช่วงไหน หมดหนังคนแสดงจริงไป ป๋ายังเหลือหนังอีกเรื่องที่จะกลับไปคลุกวงในแวดวงสต็อปโมชั่นอีกครั้งกับแอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่ชื่อ FRANKENWEENIE งานที่ป๋าหยิบเอาหนังสั้นขาวดำของดิสนี่ย์ในอดีตมารีเมคใหม่ขยายเป็นหนังยาว และยังคงสไตล์เดิมด้วยการจะทำออกมาเป็นหนังขาวดำแต่สามมิติด้วย !! นับเป็นเซอร์ไพรส์ในวงการหนังครั้งแรกที่เราจะได้ดูหนังขาวดำแบบทะลุจอ !!! หนังว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หลังจากเจ้าตูบคู่ใจของเขามีอันต้องด่วนลาโลกไป แผนการชุบชีวิตมันด้วยวิธีเหนือธรรมชาติก็ทำให้เขาได้กลับมาพบกับเจ้าตูบแสนรักของเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมาพร้อมความปั่นป่วนมากมาย ที่ตามมาให้เราได้ขนพองสยองเกล้าเล่น !! ป๋าได้ วิโนน่า ไรเดอร์, แคทเธอรีน โอ ฮาร่า, มาร์ติน ชอร์ท, มาร์ติน แลนเดา มารับหน้าที่เป็นส่วนหลักสำคัญในการให้เสียงพากย์ !! ใครติดใจงานสต็อปโมชั่นของป๋าจากทั้ง Nightmare Before Christmas, The Corpse Bride ก็จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์สำคัญที่คุณจะได้ดื่มด่ำความแฟนตาซีปนสยองชวนประทับใจกันอีกครั้ง !!! ลายเซ็นต์สไตล์นี้ป๋าไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งสองเรื่องมีกำหนดฉายในอเมริกาปีหน้า DARK SHADOWS มาก่อนในวันที่ 11 พฤษภาคม ส่วน FRANKENWEENIE พร้อมฉาย 5 ตุลาคม ++ จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:21:58

ความคิดเห็นที่ 24 ริดลี่ย์ สก็อต ผลงานชิ้นต่อไป : PROMETHEUS (2012) เตรียมตัวกลับไปจับตำนานสร้างชื่อให้ตัวเองอีกครั้ง สำหรับ ริดลี่ย์ สก็อต ที่ขอนำเรื่องราวที่เป็นจุดกำเนิดของ Alien ทั้ง 4 ภาค มาขยายความในหนังเรื่องใหม่ของเขา PROMETHUES หนังที่จะพาสำรวจด้านมืดของอวกาศและความเขย่าขวัญสุดระทึก ที่เราๆท่านๆจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะได้พบอะไรบนนั้น หนังนำเสนอตัวเองในฐานะภาคก่อนเหตุการณ์ใน Alien จะเกิดขึ้นหลาย 10 ปี โฟกัสไปที่แก๊งค์นักบินอวกาศกลุ่มหนึ่งที่ได้ไปทำการสำรวจจักรวาลอันเวิ้งว้างและได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นที่มาของความสยองขวัญแห่งมวลมนุษยชาติ ชาร์ลีซ เธรอน จับมือกับ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ รับหน้าที่นำแสดงในหนังไซไฟเน้นความระทึกเรื่องนี้ คาดว่าริดลี่ย์ก็คงดึงลายเซ็นต์เก๋าๆออกมาใช้ และด้วยตัวหนังเองที่ปกปิดความลับอะไรไว้อีกมากมาย ทำให้หนังเรื่องนี้เรียกร้องความสนใจคนดูได้เป็นอย่างดีมากขึ้นไปอีก พิจารณาว่าช่วงหลังๆ ผลงานของริดลี่ย์ไม่ได้เป็นที่ฮือฮาเอาสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น Body of Lies ที่เข้าขั้นล้มเหลว หรือกระทั่ง Robin Hood งานที่แม้จะทำเงินไปมากอยู่ แต่กระแสปากต่อปากกลับเงียบเกินคาด การกลับมาในครั้งนี้ของริดลี่ย์ จะสามารถสร้างชื่อให้เขากลับมาเกริกเกียรติในวงการภาพยนตร์ได้อีกครั้งหรือไม่ ต้องตามเอาใจช่วย PROMETHEUS มีกำหนดเปิดตัวในอเมริกา 8 มิถุนายน 2012 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:22:40

ความคิดเห็นที่ 25 กอร์ เวอร์บินสกี้ ผลงานชิ้นต่อไป : THE LONE RANGER (2013) ดูท่าว่า กอร์ เวอร์บินสกี้ จะถูกใจอะไรแบบคาวบอยๆซะเหลือเกิน เพราะหลังจากแอนิเมชั่น Rango ที่กลิ่นคาวบอยตีจมูกตลบอบอวลเรื่องก่อนหน้า เขาก็จะกลับมาพร้อมกับหนังคาวบอยที่เป็นหนังคนแสดงจริงกันบ้างกับ THE LONE RANGER งานที่เรียกได้ว่าสร้างปัญหาให้กับผู้เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ เวอร์บินสกี้ เคยวางกำหนดฉายหนังเอาไว้ในช่วงปลายปี 2012 เพราะคิดว่าน่าจะเปิดกล้องได้ภายในปลายปีนี้ แต่ไปๆมาๆ หนังถูกเลื่อนการถ่ายทำแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากงบประมาณการสร้างของหนังบานปลาย 275 ล้านดอลล่าร์เป็นตัวเลขที่สูงเกินไป ดิสนี่ย์และเวอร์บินสกี้ รวมไปถึงโปรดิวเซอร์อย่าง เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ก็เลยต้องมาประชุมหารือกันใหม่ เพื่อหาข้อยุติในเรื่องตัวเลข จนกระทั่งล่าสุดได้ข้อสรุปแล้วว่า หนังจะเดินหน้าต่อไปด้วยทุนสร้างที่ลดมาถึงในระดับ 215 ล้านดอลล่าร์นั่นเอง !!! 60 ล้านดอลล่าร์ก็เป็นเหตุได้ !!! โดยหนังก็จะสามารถเปิดกล้องได้ชัวร์ๆแล้ววันที่ 6 ก.พ. ปีหน้า เรียกได้ว่าจะได้ดูกันซะทีสำหรับหนังผู้พิทักษ์แห่งเท็กซัสเรื่องนี้ ...และนี่จะเป็นอีกครั้งนึงที่เวอร์บินสกี้เองจะได้กลับไปร่วมงานกับนักแสดงคู่ซี้ อย่าง จอห์นนี่ เด็ปป์ (ซี้กับป๋าทิมแล้วยังมาซี้กับเวอร์บินสกี้อีก เพื่อนรักทั่ววงการจริงๆ) ที่จะมาในบทของวีรบุรุษผู้พิทักษ์ภายใต้หน้ากากแห่งเท็กซัส !!! นอกจากนี้ยังมี อาร์มี่ แฮมเมอร์, ทิโมธี่ ฮัตตัน, รูธ วิลสัน เข้าชื่อนักแสดงร่วมของเด็ปป์ในขณะนี้ !!! สามารถสานโปรเจ็กต์โจรสลัดน่านน้ำแคริเบียนให้ฮิตติดลมบนขึ้นหิ้งกลายเป็นตำนานได้แล้ว มาดูกันว่าเวอร์บินสกี้จะสามารถสร้างแฟรนไชส์ชุดใหม่ให้กับเครดิตได้หรือไม่ กับเรื่องนี้แหละ กำหนดเปิดตัวหนังวางเอาไว้ที่ 31 พฤษภาคม 2013 โปรแกรมยักษ์ประจำซัมเมอร์ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:23:14

ความคิดเห็นที่ 26 แซม ไรมี่ ผลงานชิ้นต่อไป : OZ: THE GREAT AND POWERFUL (2013) หลังจากเสียแฟรนไชส์ไอ้แมงมุมไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่น่าจะสร้างต่อไปได้อีกหลายภาค แซม ไรมี่ ก็ขอหันมาจับงานอื่น โดยฉีกแนวกันอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะไปคลุกวงในงานแนวแฟนตาซีเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวกันบ้าง กับการไปขุดคุ้ยชีวิตเบื้องลึกเบื้องหลังของผู้ชายที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก เขาก็คือ พ่อมดอ๊อซแห่ง Wizard of Oz นั่นเอง ที่งานนี้ไรมี่จะพาไปสัมผัสชีวิตก่อนที่อ๊อซจะกลายมาเป็นพ่อมดครองเมืองมหัศจรรย์ที่เรารู้กัน หนังเรื่องนี้ใช้ชื่อเรื่องว่า OZ: THE GREAT AND POWERFUL งานนี้เจมส์ ฟรังโก้ ได้รับมอบหมายไว้วางใจให้มารับบทนำดังกล่าวในฐานะหนุ่มที่ชื่อว่า อ๊อซ ที่ระหว่างทางโดยสารด้วยบอลลูนเขาก็ตกลงมากลางป่าแห่งหนึ่ง และหลังจากนั้นเขาก็ได้สถาปนาตนเองเป็นผู้ครองดินแดนแห่งนั้นเป็นต้นมา และเป็นที่มาของ ดินแดนแห่งอ๊อซนั่นเอง !!! ฟรังโก้จะได้สาวมากเสน่ห์ต่างรุ่นหลายนาง อาทิ มิล่า คูนิส, ราเชล ไวซ์, มิเชล วิลเลี่ยมส์, อบิเกล สเปนเซอร์, โจอี้ คิง มารับหน้าที่เป็นสีสันของเรื่อง ขณะนี้ไรมี่กำลังเดินหน้าถ่ายทำกันอย่างขะมักเขม้น โดยวางโปรแกรมเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มใหญ่ยักษ์ประจำปี 2013 ด้วยทุนสร้างมหาศาลในระดับ 200 ล้านดอลล่าร์ เราอาจจะคุ้นเคยฝีมือการทำหนังฮีโร่หรือหนังสยองขวัญโคตรตื่นเต้นของไรมี่มา แต่สำหรับลายเซ็นต์ในแง่มุมแฟนตาซีชวนฝัน อลังการงานสร้าเปิดจินตนาการไม่รู้จบ เราอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ก็เป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายที่ดี ที่ไรมี่จะได้โชว์อีกแง่มุมของตัวเขาเองให้ใครต่อใครได้เห็น ว่าไม่ว่าแนวไหนเขาก็ทำได้ !!! แต่เสียดายไม่หาย ที่ไอ้แมงมุมหลุดมือเฮียไปเนี่ยะสิ !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:24:17

ความคิดเห็นที่ 27 แก้ไข แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:25:47 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:25:34

ความคิดเห็นที่ 28 พอล กรีนกราส ผลงานชิ้นต่อไป :  A CAPTAIN'S DUTY (2013), FEAR INDEX (2014) หมดภาระ เจสัน บอร์นไป พลอ กรีนกราส ก็มืดแปดด้านไปช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มเดินเครื่องกำกับหนังเรื่องใหม่ โดยเรื่องที่จะมาก่อนในเครดิตของเขาก็คือ A CAPTAIN'S DUTY หนังที่เขาจะได้ร่วมงานกับยอดฝีมือ ทอม แฮงค์ ที่นับว่ายังเป็นดาราแม่เหล็กทรงคุณภาพของวงการอยู่ในตอนนี้ (แม้ช่วงหลังๆเฮียดูจะเสื่อมอานุภาพไปเล็กน้อย) หนังเรื่องนี้ก็อย่างที่ชื่อเรื่องบอกว่า หน้าที่และภารกิจของกัปตัน แต่กัปตันในที่นี้เป็นกัปตันเรือ ไม่ใช่เครื่องบิน แฮงค์รับบทเป็นฟิลลิป์ กัปตันเรือส่งสินค้า ที่เขาและลูกเรือถูกโจรสลัดโซมาเลียเข้ามาบุกปล้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ของเขา ที่ยอมแลกตัวเองเป็นตัวประกันเพื่อความปลอดภัยของลูกเรือทุกคน หนังประเภทเน้นแรงบันดาลใจฮึกเหิม ดูท่าว่ากรีนกราสจะทำออกมาได้ดีไม่น้อย พิจารณาจาก United 93 หนังที่ทำให้เราหายใจหายคอกันแทบไม่ทัน กับภารกิจสุดกระอักกระอ่วนและหดหู่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ..ณ ตอนนี้หนังมีชื่อแฮงค์เข้าชื่อในฐานะนักแสดงเพียงคนเดียว โดยบทอื่นก็ยังตามหากันต่อ หมดจาก A CAPTAIN'S DUTY กรีนกราสจะขอต่อด้วยการกำกับหนังทริลเลอร์อีกเรื่องที่ชื่อ FEAR INDEX ที่ว่าด้วยเรื่องราวของอัจฉริยะคนหนึ่งที่สามารถสร้างโปรแกรมเก็งกำไรให้กับธุรกิจและกลายมาเป็นเป้าหมายกับกลุ่มอาชญากรที่หมายมั่นจะครอบครองมันด้วยเช่นกัน จริงๆแล้วนิยายเรื่องนี้กำลังจะวางแผงในช่วงต้นปีหน้า แต่กรีนกราสขอจองมาทำเอาเป็นหนังก่อนใครเพื่อน แต่กว่าจะได้ดูจริงๆก็โน่นนน ปี 2014 เพราะต้องรอให้เฮียเสร็จหนังกัปตันของแฮงค์ด้านบนเสียก่อน !!! เป็นผู้กำกับอีกรายที่มีแต่งานดีๆ เข้ามาเวียนว่ายอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:26:16

ความคิดเห็นที่ 29 แซม เมนเดส ผลงานชิ้นต่อไป : BOND 23 : SKYFALL (2012) นี่ก็หายไปนานนมเนยเหมือนกัน สำหรับผู้กำกับคุณภาพขวัญใจนักวิจารณ์ นับตั้งแต่ผลงานฟอร์มเล็กพริกขี้หนู ที่เราอาจจะลืมไปแล้วว่าเป็นผลงานเฮียแก อย่าง Away We Go ล่าสุดแซม เมนเดส พร้อมแล้ว กับหนังเรื่องใหม่ที่คราวนี้ขอจัดเต็มด้วยแนวแอ็คชั่นมันส์ทะลุเดือดเลือดพล่าน เพราะงานที่เขาเลือกนั้นก็คือการไปคลุกวงใน เจมส์ บอนด์ ตอนใหม่นั่นเอง ที่จะได้ร่วมงานกับเหี่ยวฟ้าอย่างแดเนียล เคร็ก ที่ก่อนหน้าที่เคยมีข่าวว่าหนังน่าจะถ่ายทำได้เร็วกว่านี้ และเปิดฉายในช่วงปีนี้ แต่ไปๆมาๆ ก็ดีเลย์ออกไปด้วยปัญหาบางประการ ล่าสุดก็เลยเลื่อนไปปีหน้านู่นกว่าที่เราจะได้ดูกัน หนังเจมส์ บอนด์ภาคนี้ใช้ชื่อว่า SKYFALL ซึ่งขณะนี้เมนเดสก็กำลังเดินกล้องถ่ายทำกันอย่างขะมักเขม้น ในส่วนของนักแสดงก็ทำท่าว่าลงตัวหมดแล้วทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นแคแรกเตอร์ของสาวบอนด์ที่ในภาคนี้ได้ นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส อย่าง เบเรนิซ มาร์โลเอ มารับหน้าที่ไป นอกจากนี้ยังมีเบน วิชอว์แห่ง Perfume มารับหน้าที่เป็น คิว หนุ่มนักประดิษฐ์อาวุธยุทธโธสุดล้ำสมัยให้กับบอนด์ด้วยเช่นกัน ร่วมด้วย จูดี้ เดนซ์, ฆาเวียร์ บาร์เด็ม (รายนี้มาในมาดวายร้ายประจำเรื่อง), นาโอมี่ แฮร์ริส, อัลเบิร์ต ฟินนี่ย์, เฮเลน แม็คโครรี่ ...ถึงจะมาช้า แต่ก็มาชัวร์ และแว่วๆว่า นี่อาจจะเป็นเจมส์ บอนด์ภาคสุดท้ายของลุงเหี่ยวฟ้า แดเนียล เคร็กแล้วด้วย จะจริงเท็จเช่นไรต้องติดตาม หนังมีกำหนดเปิดตัวในอเมริกา 9 พฤศจิกายน 2012 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:27:28

ความคิดเห็นที่ 30 แก้ไข แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:28:47 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:28:14

ความคิดเห็นที่ 31 แดนนี่ บอยล์ ผลงานชิ้นต่อไป : TRANCE (2013) จาก Trainspotting หนังที่ทำให้เราดำดิ่งไปสู่ความโสมมของสังคมมนุษย์ เรื่อยๆมากระทั่งหนังอีกมากมายหลายแนวที่แดนนี่ บอยล์ เลือกสรรในการสร้างและกำกับให้เราได้ชมความยอดเยี่ยมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 28 Days Later, Millions, Sunshine จวบจนกระทั่งมาถึงหนังเอาใจนักวิจารณ์อย่าง Slumdog Millionaire และ 127 Hours ซึ่งก็เป็นจุดที่ทำให้บอยล์ กลายเป็นชื่อการันตีความคุณภาพในหนังและเป็นผู้กำกับขวัญใจนักวิจารณ์เรื่อยมา ไม่ว่าแนวไหน เฮียจัดให้ โดนใจหมด มาเรื่องล่าสุดบอยล์ ขอหันมาจับอีกแนวนึง กับ TRANCE งานแนวโจรกรรม !!!! ซึ่งจะเป็นการนำเอาหนังทีวีอังกฤษชื่อดังในอดีตมารีเมคใหม่ โดยจะเล่าเรื่องราวของผู้ช่วยสำนักงานประมูลที่วางแผนปล้นงานศิลปะชิ้นหนึ่งกับเพื่อนของเขา แต่ดันมีเรื่องให้ต้องปวดกบาล เมื่อระหว่างที่เขากำลังจะสำเร็จแผนนั้น ความจำเขาก็ดันมาเสื่อมซะก่อน ซึ่งทำให้เขาลืมว่าภาพวาดที่ขโมยมานั้นซ่อนเอาไว้ไหน !!! แหม่ หยั่งกะละครไทยเลยทีเดียว เรื่องนี้บอยล์จะได้ร่วมงานกับนักแสดงหนุ่มอังกฤษสุดหล่อ เจมส์ แม็คอะวอย ร่วมด้วย วินเซนท์ คาสเซล, โรซาริโอ ดอว์สัน ขณะนี้หนังถ่ายทำกันเสร็จแล้วเรียบร้อย รอเปิดตัวอย่างเดียวในช่วงปี 2012 ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ดูกันช่วงไหน ดูจะห่างไกลการเป็นหนังเต็งกล่องแฮะ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เฮียกลับมาทำงานเอาใจตลาดบ้าง ลุ้นกันต่อไปว่าจะเด็ดสะระตี่สักแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 23:42:12 จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:29:16

ความคิดเห็นที่ 32 ปิดท้่ายด้วยยยย ... อัลฟองโซ่ คัวรอน ผลงานชิ้นต่อไป : GRAVITY (2012) เพิ่งได้มีโอกาสนั่งชม Children of Men อีกรอบ ต้องยอมรับอีกครั้งเลยว่าผู้กำกับรายนี้ มีวิสัยทัศน์ในการทำหนังที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งของวงการเลยทีเดียว หนังที่ดูทรงพลังและแข็งแกร่งเรื่องเยี่ยมในเครดิตเรื่องนี้ คัวรอนสามารถถ่ายทอดออกมาในแบบที่ทำให้เราเข้าถึงแก่นของหนังได้อย่างเต็มที่ และด้วยการถ่ายทำแบบวันช็อตหลายต่อหลายซีน ที่น้อยนักจะมีผู้กำกับสักคนใช้มันเป็นจุดขายในงานของตัวเอง เพราะมาพร้อมความเสี่ยงหลายด้าน แต่คัวรอนทำมันออกมาได้ดี และสมบูรณ์แบบมากๆ !! จากผลงานในเครดิตที่เรียกได้ว่ามากันทุกแนวไม่ว่าจะเป็นงานแฟนตาซีใน Harry Potter And The Prisoner of Azkaban หรือจะหนังโร้ดทริปเน้นมิตรภาพวัยรุ่นใน Y Tu Mama Tambien ไม่เว้นแม้แต่หนังรักสุดละเมียด ภาพสวยบรรเจิดศรี ยมาภัยมากๆ กับเรื่อง Great Expectations นั่นเอง !! และต้องไม่ลืมว่าผู้ชายคนนี้เคยตีความหนังสือในดวงใจใครหลายคนอย่าง A Little Princess ให้ออกมาเป็นหนังที่ดูสนุกมากๆด้วยเช่นกัน !! แต่ละเรื่อง ก็การันตีได้แล้วว่า คัวรอนเป็นผู้กำกับที่น่าจับตามองต่อจากนี้จริงๆ อีกไม่นานรางวัลใหญ่ๆก็จะตกมาอยู่ในมือของเขาอย่างแน่นอน มาปีหน้า คัวรอนจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากหายไปนาน 4 ปีเต็ม !!! กับงานหนังจอใหญ่ นับตั้งแต่ Children of Men นั่นแหละ คราวนี้ขอฉีกแนวไปทำเรื่องราวตื่นเต้นในห้วงอวกาศกันบ้างกับเรื่อง GRAVITY หนังที่จะได้ชื่อของ จอร์จ คลูนี่ย์ และ แซนดร้า บูลล็อค มาเป็นจุดขายหลักของเรื่อง พร้อมด้วยเรื่องราวชวนตื่นระทึกที่ว่าด้วย สองนักบินอวกาศที่ต้องพบกับหายนะครั้งสำคัญบนสถานีนอกโลก หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงที่ส่งผลให้พวกเขาต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง !!! แค่ได้สองนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์มาเจอกัน ในบรรยากาศที่แปลกและแตกต่างจากงานที่ทั้งคู่เคยเล่นกันมาแบบนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นงานที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง (คลูนี่ย์จริงๆแล้วเคยโผล่ไปอวกาศแล้วรอบนึงกับ Solaris แต่ผลลัพธ์กลายเป็นแป้กสนิท!!) แถมยังได้ผู้กำกับระดับคัวรอนมารับผิดชอบ เตรียมชมซีนวันช็อตกระแทกใจกันได้เลย หนังมีกำหนดเปิดตัวในอเมริกา 21 พฤศจิกายน ปีหน้า !!! จากคุณ : Filmzlap เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:30:22

ความคิดเห็นที่ 33 หนังที่ โรแลนด์ เอ็มเมอริช จะกำกับ เรื่อง SINGULARITY ทั้งชื่อ ทั้งพล็อต เหมือนเกม Singularity (ชื่อเดียวกัน) มากๆเลย น่าจะใช่เลยแหละ โรแลนด์ เอ็มเมอริช กำลังจะสร้างหนังจากเกม 555+ มีอีก 1 เกมแล้วที่โดนจับมาขึ้นหนัง ผมเคยเล่นจบแล้ว ก็สนุกใช้ได้ จบได้ 3 แบบ ตัวเอกมีอาวุธติดมือ ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งของให้ กลายเป็นเก่าและใหม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องของกระแสกาลเวลา แบบพวก แนวไทม์แมชชีน ย้อนเวลาไปมาอะไรแบบเนี้ย จากคุณ : Nogo007 เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:44:30

ความคิดเห็นที่ 35 รอดู 1.จอช ลูคัส 2. โนแลน 3. ทาเรนติโน่ จากคุณ : Mikaela Witwicky เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 13:08:59

ความคิดเห็นที่ 36 แล้ว เจอรรี่ บรัคไฮเมอร์ ไม่มีผลงานเลยเหรอ ?? จากคุณ : ต๊าก กะ ตุ๊ยพูดว่า เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 14:09:03

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ อำนวยการสร้าง The Lone Ranger ไง จากคุณ : rabbit hole เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 15:32:53

ความคิดเห็นที่ 38 JJ Abrams จาก Super8 แล้วจะมีเรื่องอะไรต่อไปครับ จากคุณ : ilovesassygirl เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 19:40:23

ความคิดเห็นที่ 39 อยากส่งกระทู้นี้ขึ้นกระทู้แนะนำ เบียดกับเด็กญี่ปุงหน่อยครับ แล้วผู้กำกับที่เก่งที่สุดในโลกยังไม่มีโครงการหรือครับ จากคุณ : แห้วกับใบบัวบก เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:26:42

ความคิดเห็นที่ 40 รอดูเควนติน กับลุงทิม เบอตันจ้า จากคุณ : forest princess เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 14:46:31

ความคิดเห็นที่ 41 รอโนแลน เควนติน ได้อ่านสมใจ ^^ อยากอ่านของดาร์เรน อารานอฟสกี้ และโจ ไรท์ มั่งอ้ะ จากคุณ : p_nijitet เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 54 10:15:25