|
PSYCHOanalysis : Brokeback Mountain : ข้าม เขา เพื่อรัก เรา
|
|
PSYCHOanalysis Brokeback Mountain : ข้าม เขา เพื่อรัก เรา ในปีค.ศ. 2005 ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในวงการภาพยนตร์โลก นั่นก็คือการเปิดตัวอย่างสง่างามของหนังเกย์กระแสหลักอย่าง Brokeback Mountain ซึ่งงานคุณภาพชิ้นนี้ได้กระแสการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากทั้งผู้ชมที่เป็นเกย์ และไม่เป็นเกย์ ได้รางวัลทั้งเงิน ทั้งกล่องจากหลากหลายสถาบันการประกวดภาพยนตร์ทั่วโลก กระแสการยอมรับของฝูงชนส่งผลให้ผู้กำกับพร้อมทั้งคณะนักแสดงต่างลอยละลิ่วติดลมบนเพื่อจารึกไว้เป็นอีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของหนังเพศทางเลือก
หุบเขาเร้นรักมันมีดีอะไร? นี่มันหนังฟันดาบชัดๆ จะมัวเสียเวลาไปดูชายหนุ่มบรรจงจูบกันทำไมฟะ?
...เสียตาเปล่าๆ นะหมอ
Brokeback Mountain กวาดรางวัลทั่วโลกมาได้ถึง 71 รางวัล และเสนอชื่อเข้าชิงอีกนับไม่ถ้วน ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรดีจริง ก็คงจะไม่สามารถชนะใจกรรมการได้มากมาย และคงไม่สามารถปลุกความกล้าของผู้ผลิตหนังให้ลงทุนสร้างหนังเพศทางเลือกตามมาติดๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชมที่มีรสนิยมทางเพศแตกต่างไปจากความสัมพันธ์ ชาย หญิง ได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกเสพภาพยนตร์ตามความสนใจของตนมากขึ้นกว่าในยุค Pre Brokeback Era
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านบอกว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกย์สักหน่อย มันคือหนัง Bisexual ต่างหาก (โว้ย!) แต่ไม่ว่าท่านจะตัดสินใจจำแนก Brokeback เป็นหนังประเภทใด แต่เราก็สรุปรวมได้ว่า Brokeback Mountain คือหนัง Romantic Drama ที่สามารถสะท้อนความรู้สึก / ความคาดหวัง / มุมมองของสังคมต่อ ชนกลุ่มน้อย ทั้งในจอ และนอกจอได้อย่างออกรส
สังคมในจอนั้นเป็นยุค 60s ซึ่งยังเป็นยุคที่ไม่ยอมรับกลุ่มชายรักชาย และมีการต่อต้านอย่างรุนแรงถึงกับต้องฆ่าแกงเอาชีวิตกันด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์บนหลักเหตุผลที่อ้างขึ้นมาว่า พวกนั้นไม่ใช่พวกเรา...คนที่ไม่ใช่พวกเราคือศัตรู...ศัตรูคือสิ่งที่ต้องกำจัด...ถ้ากำจัดรสนิยมชายรักชายออกไปไม่ได้...ก็กำจัดพวกนั้น (แม่ม) เลย
...ซึ่งทั้งหมดนี้มีรากฐานแนวคิดพัฒนามาจากการล่าแม่มดในยุคกลาง
...ใช่ครับ...ตั้งแต่ยุคกลาง...
...กาลเวลาผ่านไป...แต่มนุษย์กลับยังไม่พัฒนาขึ้นเลย...
ส่วนสังคมนอกจอนั้นเป็นยุค Millennium สังคมมีการยอมรับความแตกต่างทางเพศมากขึ้นกว่าก่อน แต่หลังจากที่หุบเขาเร้นรักได้เปิดตัวสู่สายตาชาวโลก ก็มีแรงกระทบอย่างรุนแรงจากหลายฝ่ายที่อ้างว่าพิทักษ์สิทธิ์ในความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณมนุษย์ เช่น สมาคม Focus on the Family (FOTF) และสมาคม Concerned Women for America (CWFA) ต่างออกมาตีอกชกหัวว่าการผลิตและฉายหนังชายรักชายเรื่องนี้เปรียบได้กับเป็นความอับยศอดสูของหมู่มวลมนุษยชาติ
...อะไรจะขนาดนั้นครับพี่...
...ก็ยังพูดได้เป็นครั้งที่สองว่า...กาลเวลาผ่านไป...แต่มนุษย์กลับยังไม่พัฒนาขึ้นเลย...
สมาคมหนึ่งที่ชื่อ National Association for Research & Therapy of Homosexuality (NARTH) ถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่า ตูข้านี่แหละ จะเป็นคนลบล้างความผิดบาปของมนุษย์ที่หลงผิดจนกลายเป็นเกย์ให้จงได้ และอ้างว่าตนมีทีมนักจิตบำบัดชั้นเลิศที่จะทำการรักษาให้มันผู้นั้นรอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชที่มีชื่อว่า Homosexuality
เฮ้ย! การเป็นเกย์ ตุ๊ด แต๋วนี่มันรักษาได้ด้วยเหรอหมอ?
ในวงการแพทย์ปัจจุบันค้นพบแล้วว่ารสนิยมทางเพศที่นอกเหนือไปจากชาย-หญิงนั้น เขาเรียก Sexual Variation ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งความผิดปกติของโครงสร้างสมอง, ระดับสารเคมีที่ไม่สมดุล, สิ่งแวดล้อมของการเลี้ยงดูในวัยเด็ก, และรอยแผลในใจของจิตใต้สำนึก
การรักษาคือกระบวนการที่จะทำให้คุณ และคนที่คุณรักยอมรับกับ ตัวตนของคุณ เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ที่เป็นรูปแบบเฉพาะ พร้อมทั้งเป็นสมาชิกที่ร่วมพัฒนาสังคมมนุษย์ให้เติบใหญ่ เปิดกว้างทางความคิด ยอมรับความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
...ไม่ใช่จะมาเฆี่ยนตีให้กลับตัวกลับใจกลายเป็นแมนเหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจ
หนึ่งในปมที่เป็นรอยแผลเป็นคอยกัดกินหัวใจของ Ennis Del Mar ซึ่งรับบทโดยสุดยอดนักแสดง Heath Ledger ที่ล่วงลับไปแล้วอย่างน่าเสียดายคือความทรงจำที่เปรียบได้กับฝันร้ายที่พ่อมอบให้ในวัยเด็ก จนส่งผลให้ Ennis ในวัยหนุ่มกลายเป็นคนขาดความมั่นใจในอัตลักษณ์ของตน ถึงกับกลายเป็นบุคลิกบุรุษเก็บกดที่ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมาอย่างมั่นใจ
...ความทรงจำที่ว่าคือ ตุ๊ดโดนรุมตื๊บจนตายอนาถ...
การกลัวเสียงหยาบกร้านห้าวหาญดุจชายชาตรีของ Ennis คือผลสะท้อนแห่งความหวาดหวั่นว่าคนอื่นจะสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงในจิตใต้สำนึก จนสะท้อนออกมาเป็น Symbolic ทางพฤติกรรมที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่อาจจะควบคุมได้ ส่งผลให้เขาต้องหนีไปจากความรักความสัมพันธ์ที่เขามอบให้แด่ Jack Twist ที่รับบทโดย Jake Gyllenhaal
แต่สำหรับ Jack เองนั้นไม่ได้มีรอยแผลในใจเหมือนกับ Ennis ทำให้ Jack สามารถปรับตัว และยอมรับกับความรู้สึกหลงไหลในบุรุษเพศของตนได้มากกว่า Ennis ผู้ เก็บกด แต่ดันไป กด Jack ในฉากเต้นท์กลางลมหนาวอันลือลั่น!?! (ฮา)
Jack นั้นพยายามฝ่า เขา แห่งอุปสรรค เพื่อให้รัก เรา สามารถดำรงอยู่บน เขา Brokeback
แต่ด้วยปมอันปวดร้าวของ Ennis ทำให้ เขา ไม่กล้าข้าม เขา เพื่อรักของ เรา
Ennis เลือกใช้วิธีที่จะหนีต่อความรู้สึกสัมพันธ์สวาทที่เกิดขึ้น เขาแสร้งหลอกตัวเองโดยการหนีไปมีลูกเมีย เพื่อสร้างบทบาทอันจอมปลอมในหน้าที่บุรุษเพศพ่วงพันธะความรับผิดชอบด้วยตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวผู้กำยำพร้อมพรั่งด้วยความเป็นแมนสีลูกกวาด
แต่ลึกๆ แล้ว Ennis ไม่สามารถยอมรับในภาพลักษณ์ที่บิดเบี้ยวของตนเองและพยายามทุกวิถีทางที่จะปิดบังความต้องการ เขา ที่พร่ำร้องกู่ตะโกนในใจอย่างปวดร้าว
ในยุคสมัยนั้นการออกมาประกาศตนว่าข้าเป็นชายรักชายนะโว้ย (Coming Out) นั้นเปรียบได้กับการฆ่าตัวตายชัดๆ
การออกมากู่ร้องให้โลกรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงนั้นเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในยุคสมัยปัจจุบัน บรรดานักร้อง นักแสดง คนเด่นดังในสังคมต่างตบเท้าเข้าร่วมสมาคมชายรักชายอย่างเปิดเผย หลายคนหลังประกาศก็มีปฏิกิริยาตอบรับจากแฟนคลับเพียงแค่ ไม่เห็นต้องออกมาบอกเลยอีหอยหลอด พวกกรูรู้มานานแล้วเฟร้ย!!!
ในกระบวนการยอมรับเพศรสที่แตกต่าง (Coming Out) นั้น ต้องอาศัยความกล้าหาญ และความเชื่อมั่นในตนเองอย่างมากที่จะตัดสินใจกัดฟันเดินทางข้าม เขา ในจิตใจที่ก่อตัวสูงใหญ่ดุจอุปสรรคปราการหลักแห่งชีวิต
แต่เมื่อ เขา สามารถก้าวข้ามผ่านกำแพงขวากหนามที่คอยทิ่มแทงชีวิตอย่างเจ็บปวดไปได้ อนาคตที่เรืองรองและความหวังแห่งอิสระก็ถูกเปิดออกพร้อมต้อนรับด้วยแสงสว่างอันแสนอบอุ่นของรุ่งอรุณในวันใหม่...
...ดินแดนแห่งสวรรค์กำลังรอคอยเหล่าบรรดาผู้กล้าให้เดินทางมาถึง...
แล้วคุณล่ะ...อยู่ที่ส่วนใดของหุบเขาแห่งนี้
จากคุณ |
:
nuchnin
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ธ.ค. 54 00:04:37
|
|
|
| |