[TRANS] 111216 ละครเรื่องใหม่ "Miss Ripley" บุกญี่ปุ่นแล้ว! สัมภาษณ์พิเศษกับนักแสดง ปาร์ค ยูชอน
ดีวีดีของละครจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ปาร์ค ยูชอน ซึ่งได้รับคำชมมากมายในฐานะนักแสดง ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายทำให้เราฟังที่ The Banyan Tree Club & Spa Seoul ซึ่งเป็นโรงแรมที่เป็นสถานที่ถ่ายทำสำหรับ "Miss Ripley"
✮ แสดงในขณะที่นึกถึง "สถานการณ์ของความรักครั้งแรก" ✮
"ซง ยูฮยอน ซึ่งผมสะท้อนความไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความรักเลย เขาเป็นคนที่ครุ่นคิดปัญหาของตัวเองและไม่พูดถึงมันกับคนอื่น" นี่คือสิ่งที่ยูชอนพูดถึงสำหรับบทบาทใน Miss Ripley ตามคำอธิบายของเขา ยูฮยอนเป็นลูกของคุณแม่ชาวญี่ปุ่นและคุณพ่อชาวเกาหลี และคุณแม่ของเขาก็เสียตั้งแต่เขาอายุเก้าขวบ หลังจากนั้น เขาก็เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโตเกียวและมีชื่อญี่ปุ่นว่า ยูทากะ รวมถึงชื่อเกาหลี ยูฮยอน คุณพ่อของเขาแต่งงานใหม่และหวังว่าลูกชายจะขึ้นมาบริหารธุรกิจต่อไป ถ้าหากนี่เป็นละครทั่วไป ตัวละครหลักก็จะต้องต่อต้านคุณพ่อและปฏิเสธที่จะขึ้นบริหารธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ซง ยูฮยอน เป็นผู้ชายตรงไปตรงมาซึ่งเติบโตมาด้วยมารยาทที่เพรียบพร้อม และคงเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เขาบังเอิญพบกับ จาง มีรี ที่หอพักนักศึกษาและเกิดรักแรกพบ สีหน้าของเขาในตอนนั้นคงเป็นสีหน้าที่แท้จริงของความไร้เดียงสาของยูฮยอน โดยทิ้งความรู้สึกไว้อย่างลึกซึ้ง
"ผู้กำกับบอกว่าสำหรับ ซง ยูฮยอน แล้ว จาง มีรี คือรักแรกของเขา เพราะฉะนั้น เขาก็เลยอยากให้ผมแสดงอารมณ์ของการตกหลุมรักเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ตอนที่ผมแสดง ผมไม่ได้คิดถึงรักแรก แต่ผมจดจ่ออยู่กับบุคลิกของยูฮยอนแล้วจึงแสดงอารมณ์ออกมา" เมื่อเทียบกับ ซง ยูฮยอน ผู้อ่อนต่อโลก ถึงแม้ตัวเองจะอยู่ที่หอพักนักศึกษา แต่ จาง มีรี ก็รู้สึกว่า "ผู้ชายที่อาศัยอยู่ในหอพักนักศึกษาจะต้องจนแน่ๆ" ดังนั้น ก่อนหน้าที่เธอจะรู้ว่าเขาคือทายาทเครือบริษัท เธอจึงปฏิบัติกับยูฮยอนด้วยความเย็นชามาตลอด เพื่อหลบหนีจากอดีตที่ขมขื่น เธอโกหกว่าตัวเองจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโตเกียวและกำลังเริ่มทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เธอคบกับทั้ง จาง มยองฮุน ซึ่งเป็นตัวละครของ คิม ซึงวู และ ซง ยูฮยอน ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้เธอจะเป็นนางเอกแต่บทบาทของเธอก็มีภาพลักษณ์ของ "หญิงสาวที่ชั่วร้าย" อยู่อย่างชัดเจน
"ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ถูกคนอย่างมีรีหลอกหลวงแน่นอน เมื่อมีที่มีอะไรบางอย่างที่แปลกๆสักนิดเกี่ยวกับการกระทำหรือคำพูดของเธอ ผมก็จะสามารถบอกได้ว่ามันคือการโกหก อ๊ะ ไม่สิ มีบางครั้งที่ผมก็ดูไม่ออกเหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าคุณถามผมว่าผมเป็นคนที่โดนหลอกง่ายหรือเปล่า แล้วผมดูเหมือนคนที่จะถูกหลอกได้ง่ายไหมล่ะครับ? ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่เคยโดนหลอกมาก่อน และผมก็จับโกหกได้ทันทีที่เห็น เวลาที่คุยกับทีมงาน ผมสามารถบอกได้ทันทีว่าพวกเขากำลังโกหกหรือไม่ แต่ถ้าหากการโดนหลอกโดยแฟนสาว? อืม...ถ้าแบบนั้นผมอาจจะมองไม่ออกก็ได้ครับ (หัวเราะ) ผมคิดว่าคุณแม่ของผมคงบอกว่า "ลูกยังไม่ถึงจุดนั้น(ที่จะมองออก)""
การบอกด้วยใบหน้าไร้เดียงสาว่าเขาจะไม่ถูกหลอกได้ แต่แล้วก็บอกว่าเขาอาจจะถูกหลอก ความบริสุทธิ์ของ ปาร์ค ยูชอน ดูเหมือนจะเหมาะกับบุคลิกของ ซง ยูฮยอน ได้อย่างดี
ในละคร ซง ยูฮยอน ตกหลุมรัก จาง มีรี และแสดงออกมาตรงๆ แต่เมื่อคิดดูดีๆ ซง ยูฮยอน ไม่รู้ว่าเธอเติบโตมาอย่างไรและมีนิสัยอย่างไร นอกจากนี้ มีรีก็ไม่ได้แสดงความสนใจในตัวเขาในตอนแรก เธอปฏิบัติกับเขาด้วยความเย็นชา ผลักไสเขาออกไปไกลๆ และถึงแม้จะโดนปฏิบัติด้วยเยี่ยงนี้ แต่เขาก็ยังแสดงความรู้สึกที่มีต่อเธออย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้เพื่อนของมีรีอย่าง มุน ฮีจู (รับบทโดย คัง ฮเยจอง) จะแสดงความสนใจในตัวยูฮยอน แต่เขาก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
"ผมคิดว่าใครๆก็สามารถมีรักแรกพบได้ แต่นั่นจะนำไปสู่ความรักหรือไม่ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ส่วนตัวแล้วผมหวังว่าความรักจะสามารถคงอยู่ได้นานและค่อยๆพัฒนาไปทีละน้อย แน่นอนว่าถ้าหากผมเจอคนที่ชอบ ผมก็จะพยายามให้เธอเห็นเสน่ห์ของผมเต็มที่ ซง ยูฮยอน เป็นคนมองโลกในแง่ดีและเราก็คล้ายกันในมุมนั้น แต่ในเรื่องของวิธีพิเศษอย่าง 'ถ้าทำแบบนี้ จะต้องชนะใจเธอได้แน่ๆ' ผมไม่มีครับ (หัวเราะ)"
"การชนะใจคนๆหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้าถามผมว่าควรจะทำอะไรให้ใครบางคนประทับใจ ผมก็ไม่มีคำตอบเช่นกันครับ"
* * * * *
✮ ถ้าอย่างนั้น คุณเคยลองคิดดูไหมว่าคุณจะทำให้ใครสักคนประทับใจด้วยการเป็นนักแสดงได้อย่างไร? ✮
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดถึงมาก่อน ผมหมายถึง การที่ผมไม่เคยนึกถึงมันมาก่อนคือสาเหตุที่ทำให้ประทับใจผู้ชมไม่ใช่เหรอครับ? การทำสิ่งต่างๆโดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้คนประทับใจ ในฐานะนักแสดง ผมคิดว่ามันต่างออกไปเล็กน้อย บุคลิกของ ซง ยูฮยอน ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เป็นคนที่ไม่มีแรงผลักดันอะไรแบบนั้น ตอนที่ผมอ่านบท สิ่งที่ดึงดูดผมสู่บทบาทของ ซง ยูฮยอน เป็นอย่างแรกก็คือนิสัยที่ตรงไปตรงมาถึงที่สุดของเขา ผมเองก็เป็นแบบนั้น และหลังจากการเดบิวต์เป็นนักแสดงของผม ผมก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ทุกรูปแบบและก็มักจะทุ่มเทเต็มร้อย ดังนั้น ผมเลยรู้สึกว่ายูฮยอนกับผมคล้ายกันมาก ทำให้รู้สึกสนใจเขา เมื่อเทียบกับเนื้อเรื่องของละคร การยอมรับบทบาทของยูฮยอนถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าครับ"
* * * * *
✮ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเปลี่ยนแปลงที่ลึกลับสุขุมเป็นเรื่องที่ยากมาก ✮
ในตอนแรก ซง ยูฮยอน เชื่อในตัวมีรีทุกอย่างโดยไม่มีข้อสงสัยใด และได้รู้ความจริงเกี่ยวกับมีรีในครึ่งหลังของละคร ซึ่งทำให้โลกของยูฮยอนสั่นคลอน ความไม่แน่นอนในช่วงนี้ของละครนั้นน่าระทึกใจ "ถึงแม้บุคลิกและทัศนคติของ ซง ยูฮยอน จะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ส่วนหนึ่งของเขาก็กลายเป็นความเย็นชา ถ้าหากยูฮยอนเปลี่ยนความรู้สึกและทัศนคติได้ทั้งหมดหลังจากรู้เรื่องการโกหกของมีรี มันก็จะถ่ายทอดออกมาได้ง่ายกว่า แต่การแสดงให้เห็นอารมณ์ปกติโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างเพียงน้อยนิด ถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ"
* * * * *
✮ ปาร์ค ยูชอน สามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนแต่สุขุมนี้ได้อย่างดีผ่านทางการแสดงของเขา ในด้านการแสดง อะไรคือจุดที่เขาต้องคอยระวัง? ✮
"นอกจากแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกและสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาแล้ว ผมก็ยังโฟกัสเรื่องการถ่ายทอดประโยคที่พูดในแบบของผมเองด้วย สำหรับผม ผมเป็นพวกที่ "ถือบทไว้ในมือจนนาทีสุดท้ายเพื่อการซ้อม" แต่สำหรับบทบาทนี้ ผมให้ความสนใจในเรื่องของการผสมผสานบุคลิกของ ซง ยูฮยอน กับตัวเองมากกว่า" ในระหว่างการถ่ายทำ มีบางครั้งที่เขาบังเอิญแสดงตัวตนของ ซง ยูฮยอน แทนตัวเองแวบหนึ่งในชีวิตประจำวัน "ซง ยูฮยอน แต่งตัวดีอยู่ตลอดเวลา ดูสง่างามและมารยาทเพรียบพร้อม เพราะฉะนั้น ในระหว่างการถ่ายทำ ผมเลยรักษาการวางตัวดีไปโดยปริยาย แม้แต่วิธีถือแก้วขณะดื่มแชมเปญก็ดีกว่าปกติ (หัวเราะ) ด้วยวิธีต่างๆเหล่านี้ การกระทำของ ซง ยูฮยอน เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมครับ"
* * * * *
✮ การถ่ายทำที่ Banyan Tree เป็นเรื่องยาก แต่ก็ได้สร้างความทรงจำมากมาย
อีกจุดหนึ่งที่ต้องคอยจับตามองในละครเรื่องนี้ก็คือ ฉากร้องไห้ของยูฮยอน ✮
"ตอนที่ผมอ่านบท มีฉากที่ยูฮยอนต้องร้องไห้ด้วย ถ้าหากเป็นผม ผมจะไม่ร้องไห้(ในฉากเหล่านี้) ในทางกลับกัน มีบางสถานการณ์ที่ยูฮยอนไม่ร้องไห้ แต่ผมกลับรู้สึกอยากร้องไห้ นี่ทำให้การถ่ายทำเป็นเรื่องที่ยาก ตอนที่อ่านบท ผมรู้สึกอยากร้องไห้แต่กลับต้องถ่ายทอดอารมณ์ที่แตกต่างออกไปตอนที่ถ่ายทำจริงๆ นี่คือเหตุผลที่การแสดงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไงล่ะครับ"
* * * * *
✮ ถึงแม้เนื้องเรื่องของละครดำเนินไปอย่างระทึกใจ แต่ก็มีเหตุการณ์มากมายที่มีความหมาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ ✮
"ซง ยูฮยอน ทำงานในโรงแรม เราจึงใช้เวลามากมายที่ Banyan Tree ซึ่งเป็นโรงแรมที่เรากำลังอยู่ตอนนี้ ตรงทางเดินในโรงแรมแห่งนี้ เราได้ถ่ายฉากที่(ยูฮยอน)พบกับ มุน ฮีจู ซึ่งเป็นตัวละครของ คัง ฮเยจอง เป็นครั้งแรก และมันก็เป็นฉากที่ยากมาก นี่เป็นฉากที่ มุน ฮีจุน ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้าน ทำน้ำยาทำความสะอาดหกใส่ยูฮยอน แต่สำหรับส่วนนี้ เราถ่ายทำฉาก 'น้ำยาทำความสะอาด' แยกไปอีกที และคนที่เทน้ำยาทำความสะอาดใส่ผมก็ไม่ใช่ คัง ฮเยจอง แต่เป็นผู้กำกับการถ่ายภาพ ผู้กำกับการถ่ายภาพบอกด้วยความกระตือรือร้นว่า 'นี่เป็นสิ่งที่ฉันทำได้ดีล่ะ' (หัวเราะ) แต่น้ำยาเข้าตาผมและมันก็แสบมาก นอกจากนี้ ตรงทางเดินที่เราถ่ายทำก็แคบมาก มันก็เต็มไปด้วยนักแสดงและทีมงานรวมกันทั้งหมดกว่า 30 คน อากาศเลยร้อนมากและมันก็สุดจะทน แค่นึกถึงก็เป็นเรื่องที่ยากแล้วครับ"
"ภาพลักษณ์ของผมในตอนแรกและตอนสุดท้ายแตกต่างกัน ผมหวังว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงพัฒนาการของผมนะครับ"
* * * * *
✮ สำหรับคุณแล้ว บทนำในละครเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นที่สองต่อจาก SungKyunKwan Scandal เมื่อเทียบกับสมัยก่อน คุณคิดว่าความคิดของคุณเปลี่ยนไปอย่างไร? ✮
เนื่องจาก "SungKyunKwan Scandal" เป็นครั้งแรกของผมในการถ่ายละคร ผมเลยคิดว่าผู้ชมให้การยอมรับมากกว่า หรือจะบอกว่า เพราะเป็นการแสดงครั้งแรกของผม พวกเขาเลยใจดีและปกป้องผมมากกว่าก็ได้ แต่สำหรับงานชิ้นที่สอง นี่แตกต่างออกไป ถึงแม้พวกเขาจะเป็นแฟนคลับ แต่จำนวนคนที่คอยจับตามองผมอย่างพินิจพิเคราะห์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน นี่หมายความว่าผมรู้สึกกดดันมากขึ้น แต่เพราะผมตั้งใจอย่างมากจริงๆสำหรับละครเรื่องนี้ ผมก็เลยดีใจมากเวลาได้รับคำชม
* * * * *
✮ พูดตามความเป็นจริง อะไรคือเสน่ห์ของ Miss Ripley? ✮
ผมตัดผมประมาณตอนที่ 11 จริงๆแล้วผมควรจะตัดผมตั้งแต่เริ่มทำงานที่โรงแรม แต่จังหวะมันไม่ลงตัว ความจริงผมคิดว่าผมค่อนข้างอ้วนเวลาที่ตัดผมสั้นก่อนหน้านี้ และนั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมการตัดผมสั้นของผมถึงเป็นเรื่องที่ล้มเหลว นี่คือสาเหตุที่ผมอยากท้าทาย(การตัดผมสั้น)อีกครั้ง อยากลองตัดดูในละคร ผมคิดว่ามันเหมาะกับผมมากขึ้นแล้วในตอนนี้ คุณคิดยังไงครับ? (หัวเราะ)
(จิ๊บตอบให้ หล่อมากค่ะ กร๊ากกกกกกก)
ถ้าพูดอย่างจริงจัง เนื่องจากนี่เป็นผลงานชิ้นที่สองของผม ผมแสดงด้วยความคิดส่วนหนึ่งที่คิดว่าทักษะการแสดงของผมยังบกพร่องอยู่มาก แต่การแสดงด้วยความแน่วแน่ว่าต้องตั้งใจให้มากขึ้น ผมคิดว่า "เมื่อเปรียบเทียบตอนแรกกับตอนสุดท้าย ผมแตกต่างไปมากเลยไม่ใช่เหรอ?" ผมอยากจะให้ทุกคนได้เห็นพัฒนาการของผม และนี่คือสิ่งที่ผมหวังจะนำมาให้แฟนๆครับ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ
Source : [BaiduMicky + Korean Drama DVD & Blu-Ray]
Translated & Shared by : dongbangdata.net
แปลไทย: @minnappe (http://twitter.com/minnappe)