หนังเก่าท่านมุ้ย มันน่าอัศจรรย์ใจจริง

หลายคนคงจำบรรยากาศโรงหนังในยุคปลาย ๒๕๑๐ ต่อต้น ๒๕๒๐ ได้ ผมเกิดไม่ทันแต่คุณแม่เล่าว่ามีหนังดีๆเยอะ จากผกก เช่น ท่านมุ้ย มจ ชาตรีเฉลิม ยุคล ช่วงที่โตมาผมได้มาดูหนังหลายเรื่อของท่านและหนึ่งในเรื่องโปรดปรานคือ เทพธิดาโรงแรม ที่นำแสดงโดย คุณวิยะดา คุณสรพงศ์ คุณสมภพ

เทพธิดาโรงแรม เป็นหนังที่ถ้าใช้ภาษาคำ ผกา มาพูดก็คือ ท่านมุ้ยจับเอาชุดความคิดเรื่องสตรีศึกษา สตรีนิยม และ ชนบทศึกษามาเป็นบริบทหลักในการสร้างหนังเรื่องนี้ และ แขก เอ๊ย ผมคิดว่าท่านเสนอได้แจ่มจัดมาก

การแคสนักแสดงในสมัยก่อนผมเองก็ไม่ทราบว่ามีขั้นตอนอย่างไร แต่ คุณวิยะดา ในบทมาลี นั้น มีทั้งความยั่วยวน แรด ก๋ากั่น น่าสงสาร โง่ และ มีการเรียนรู้โลก ซึ่งในทางการแสดงเขาคงเรียกว่าเป็นตัวละครที่กลม มีมิติ อะไรทำนองนั้น เราคงเดาออกว่าเรื่องเริ่มจากชีโดนหลอกมาขายตัว แต่จริงหนังนำเสนอแบบโต้งๆว่าชีชอบเสพเซ็กส์ ซึ่งเป็นการเสนอคนจริง ผู้หญิงจริงๆที่ไม่เห็นต้องมา ดจร ว่า เราเป็นกุลสตรีต้องไม่เปิดเผย ต้องอายๆ ทั้งที่ในเรื่องมาลีเป็นสาวเหนือ ที่คนไทยมีชุดความคิดว่า อ่อนแอ ตกเป็นเหยื่อ ชายโฉดเสมอ (ซึ่งผมก็สงสัยว่าทำไมหนุ่มเหนือไม่ค่อยช่วยสาวเหนือก่อนจะโดนหลอกในนิยาย) แต่มาลี ชอบการมีเพศสัมพันธ์ และ ในที่สุดก็โดนหลอกมาขายตัว ซึ่งผมคิดว่าท่านมุ้ยสร้างคาแรกเตอร์ให้มาลี ไม่น่าสงสารจนเกินไป

เมื่อมาเจอโทน แมงดาในซ่อง ที่แสดงโดยพี่เอก สรพงษ์ วิญญาณสตรีศึกษา คำผกาภาคหนังก็ออกมาในหลายฉาก เช่น พี่โทนมีปมทางจิต เห็นกะหรี่โดนทรมานจะสงสารแต่ก็ต้องทำ (ซึ่งคาดได้ว่ามาจากการที่มีแม่เป็นสาวบริการ) ผู้หญิงเป็นเหยื่อของผู้ชาย มีแมงดาโรคจิตที่ชอบทำร้ายผูหญิงและใช้ความรุนแรงที่ตนได้เปรียบมา "ข่ม" ให้ผุ้หญิงบริการนั้นไม่สามารขัด "ขืน" ได้ น่าเศร้าเวลาเห็นฉากเหล่านี้ แต่มันเป็นวาทกรรมของการขายบริการทางเพศในหนังไทยไปซะนานแสนนาน

พี่โทนโอ้โลมมาลี ชมว่า "สวย" "ฉลาด" "มีทักษะ"  นี่ก็เป็นอีกมิติแห่งการกดขี่ทางเพศในวิธีทำแบบนุ่มนวล ท่านมุ้ยเสนอได้ดีมาก หากใครได้ชมฉากที่โทนพามาลีไปซื้อวิทยุ ผมว่ามันมีความตื้นตันในฉากไม่แพ้ ฉากสินจัยกินไข่พะโล้ในรักแห่งสยาม เพียงแต่ต่างกรรม ต่างวาระกัน


ต่อมาซ่องโดนทลายมาลี เตลิดเปิดเปิง ไปทั่วเมือง ฉากนี้คุณอูมเล่นได้แรงกับสีหน้าของ โสเภณีสิ้นหวัง แต่ไม่กลับบ้าน เพราะ ชุดความคิดแบบสาวบ้านนาต้องประสบความสำเร็จก่อนกลับบ้านนอกครอบคลุมเธออยู่ (คำผกามาอีกแล้ว) ต่อมาหนังก็พามาลีกลับไปโรงแรมอีก และ มาลีก็ต้องผ่านผู้ชายที่มีมิติทางอำนาจ เงิน กายภาพ ปัญญา ที่เหนือกว่าเธอ ไม่ว่าจะเป็น หมอทำแท้ง แท๊กซี่ แมงดา ท่าน โอ๊ย ท่านมุ้ยท่านเลือกตัวละครแสบๆ สะท้อนพลังแหง เจ้าโลก ในหนังได้เยี่ยมมาก ผู้ชายไม่ได้มีแต่กามารมณ์เป็นแรงขับ แต่ในเรื่องเสนอว่าผู้หญิงอาจจะชอบรับบทบาท ผู้รับ ให้ผู้ชายรุกไล่ เช่น มาลี มีทางเลือกมากขึ้นแต่ชีก็มีความสุขกับการโดนรุกรานในโรงแรม จนกระทั่ง...


หนังนำเสนอชายซื่อ ซึ่งดูแล้วพระเอ๊ก พระเอกมาก เขามารักมาลี ที่เริ่มหันไปเรียนตัดเสื้อเพราะคิดว่าตัวเองไม่อยากขายตัวไปจนแก่ (เห็นมะ ตัวละครมีพัฒนาการซะแล้ว) แต่ วิมานของชีก็พังเพราะ ผู้ชายก็คือผู้ชาย เทพบุตรไปนอนกกกับสาวอื่นให้นางเอกเรา ช้ำ แต่ นับว่าฉากนี้เป็นพัฒนาการของมาลี เพราะมันนำไปสู่ฉากจบที่มาลี เลือกที่จะไม่เป็นฝ่ายนอนรับอย่างเดียว ชีตัดสินใจสู้โดยสัญญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลือกนุ่งกางเกง และ สายตาของคุณวิยะดานั้น ทำให้คนดูซี๊ดซ๊าดและปรบมือให้กับการแสดงของเธอ

ที่เขียนมานี่เหมือนบ่นเนอะ แต่คิดถึงหนังท่ายมุ้ย แนวนี้อีกจัง มันเป็นกระจกสะท้อนสังคม และ ทำให้ผู้ดูได้คิดอะไรต่อ มันมีผลกระทบ พลัง และ ปัญญา

เมื่อไรเราจะได้ดูอะไรแนวนี้กันอีกหนอ

จากคุณ	: Dr.Art
เขียนเมื่อ	: 17 ธ.ค. 54 15:34:29