ฉากตัดมาทางฝั่งซามีกับเลย์ลี่ที่ออกเรือมาตกปลากัน เลย์ลี่เห็นพี่สาวกระโดดโลดเต้นอยู่บนต้นไม้บนเนินก็พึมพำด้วยความอิจฉาเล็กๆ ว่าตัวเธอเองก็อยากลองปีนต้นไม้ต้นนั้นดูสักครั้งเหมือนกัน ซามีได้ยินเลย์ลี่พูดแบบนั้นก็ถามว่างั้นจะกลับเข้าฝั่งไปแจมกับเค้ามั้ยล่ะ เลย์ลี่ก็บอกปฏิเสธว่าไม่ต้อง ไหนๆ ก็ออกเรือมาตั้งไกลขนาดนี้แล้ว
บอกเสร็จก็หันไปนั่งเท้าคางตีหน้าหงุดหงิด แล้วบ่นอุบอิบถึงพ่อว่าคิดบ้าอะไรกันอยู่ถึงได้คิดจะจับเธอแต่งงานกับตาบ้านี่ ทำแบบนี้ไม่รักลูกสาวเลยรึไงกัน ซามีก็แย้งว่า ก็เพราะรู้ว่าเธอต้องบ่นแบบนั้น พ่อเธอถึงได้ให้ตัดสินใจเองไม่ใช่เรอะว่าจะแต่งกับใคร (ในสองคนนี้) เลย์ลี่ก็ย้อนว่า พูดแบบนี้ซามีอยากแต่งงานกับชั้นรึไง ซามีเงียบไปพักหนึ่งก็ตอบว่า "ก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน" เลย์ลี่ก็พูดต่อเสียงสะบัดๆ ว่า ถ้าอยากแต่งกับชั้น ชั้นแต่งด้วยก็ได้ เพราะถึงยังไงจะแต่งกับคนไหนก็ไม่ต่างกันอยู่แล้ว ซามีก็บ่นว่าเรื่องสำคัญแบบนี้อย่าพูดส่งเดชสิ โดนเตือนเอาแบบนั้น เลย์ลี่ก็หันขวับกลับมามองหน้าซามีอย่างไม่พอใจแล้วกระแทกใส่ว่า "ก็พวกนายน่ะจะคนไหนก็ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างกันเลยไม่ใช่รึไงเล่า" ก่อนจะสะบัดหน้ากลับไปทำหน้าบูดเหมือนเดิม
เจอผู้สาวเหวี่ยงใส่เอาซึ่งๆ หน้าแบบนี้ ซามีก็เท้าสะเอวแล้วอวดว่า "ชั้นพุ่งฉมวกเก่งกว่าพี่เฟ้ย"
ได้ยินอีกฝ่ายอวดฝีมือดังนั้น เลย์ลี่ก็หันขวับกลับมาอีกรอบทันที สีหน้าเปลี่ยนจากบูดบึ้งเป็นสนอกสนใจขึ้นมาทันควัน ซามีเห็นเลย์ลี่มีทีท่าสนใจดังนั้นก็ใส่ไข่เพิ่มเข้าไปอีกว่า "แค่ฉลามน่ะทีเดียวก็อยู่แล้ว" คำอวดอ้างของซามีทำเอาเลย์ลี่เดือดปุดขึ้นมาทันควัน ลุกขึ้นคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วเค้นถามว่าไปฝึกฝีมือจนเก่งขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ซามีก็ตอบแบบปัดๆ ส่งๆ ไปว่าก็ตอนนี้ไม่เหมือนตอนยังละอ่อนอยู่นี่หว่า เลย์ลี่ก็ทำท่าฮึดฮัดเหมือนขัดใจ แล้วบอกซามีว่าเธอเองก็อยากลองพุ่งฉมวกดูบ้างเหมือนกัน ซามีก็หยิบฉมวกส่งให้โดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ได้ฉมวกเสร็จ เลย์ลี่ก็ตั้งต้นเปิดศักราชพุ่งฉมวกใส่บรรดาปลาน้อยใหญ่ที่ว่ายอยู่รอบๆ เรือทันที แต่พุ่งไปกี่ครั้งก็จั่วลมตลอด ไม่ถูกปลาเลยแม้แต่ตัวเดียว แถมยังทำเสียงเอะอะจากการพุ่งฉมวกพลาดจนทำให้ปลารอบๆ เรือหนีไปหมดอีกต่างหาก เลยต้องเปลี่ยนที่จับปลาไปที่อื่นที่ห่างออกไป ซึ่งแน่นอนว่าผลก็ยังคงอยู่ที่ "จั่วลม" เหมือนเดิม
พลาดมากครั้งเข้า เลย์ลี่ก็โมโหจัด พาลโทษฉมวกหาว่าตัวฉมวกงอทำให้พุ่งไปไม่ตรงเป้า ซามีเลยจัดแจงสาธิตวิธีพุ่งฉมวกที่ถูกต้องให้ดูเป็นขวัญตา พร้อมสอนเคล็ดให้ว่าเวลาพุ่งอย่าพุ่งไปตรงตำแหน่งที่ปลาอยู่ แต่ต้องดูว่าปลาจะว่ายไปทางไหนถึงค่อยพุ่ง ฝีมือพุ่งฉมวกของซามีทำเอาเลย์ลี่ถึงกับเอ๋อรับประทานด้วยความทึ่ง ก่อนจะรับเอาฉมวกไปทดลองพุ่งตามเคล็ดที่ซามีสอนมาครั้งแล้วครั้งเล่า
-----------------------------------------------------
ฉากตัดอีกครั้ง ไปยังบ้านของไลล่ากับเลย์ลี่ในเวลากลางคืน สองแฝดก็มานอนคุยกันถึงเรื่องการออกเดทกับซามานและซามีเมื่อตอนกลางวัน และถามว่าอีกฝ่ายจะเลือกใคร ซึ่งไลล่าก็ตอบกลับแทบจะทันทีว่า "ชั้นจะเลือกซามาน" เพราะ "ซามานเข้าใจชั้นมากกว่า แล้วก็ฟังชั้นทุกเรื่องมากกว่า" ในขณะที่เลย์ลี่ก็ตอบกลับแทบจะทันทีเช่นกันว่า "ชั้นจะเลือกซามี" เพราะ "ชั้นคุยกับซามีแล้วสนุกกว่า ชั้นทำอะไรเค้าก็ไม่เคยบ่นสักคำ"
เมื่อตัดสินใจเลือกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็ดีดตัวพรวดขึ้นจากที่นอน แล้วแล่นไปบอกพ่อถึงการตัดสินใจของตัวเองทันที
---------------------------------------------------------
ฉากตัดมาทางบ้านของซามานกับซามีในเวลาเดียวกัน ทั้งคู่บอกพ่อถึงการตัดสินใจของตัวเอง (ซึ่งรายละเอียดก็ไม่ต่างอะไรกับที่ไลล่ากับเลย์ลี่แจ้นไปบอกพ่อเท่าไหร่นัก) พ่อของทั้งคู่ก็พยักหน้ารับแล้วบอกว่าพรุ่งนี้จะไปคุยกับพ่อของอีกฝ่ายให้ก็แล้วกัน
คุยกับพ่อเสร็จก็ถึงเวลาเข้านอนพอดี ทั้งคู่เลยจัดแจงปูเตียงแล้วเข้านอนพร้อมกัน ระหว่างที่นอนกันอยู่นั้น ซามีก็ถามซามานว่าทำไมถึงเลือกไลล่าล่ะ ซามานนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบแค่ว่า "ก็ไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร" (แต่แอบหน้าแดงนิดๆ ตอนพูด) ตอบเสร็จก็หันไปถามน้องชายกลับว่าแล้วนายล่ะ ทำไมถึงเลือกเลย์ลี่ล่ะ ซามีก็ตอบแค่ "ก็ไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร แค่คิดว่าต้องเป็นเลย์ลี่ล่ะมั้ง" เช่นกัน
------------------------------------------------
ฉากตัดมายังวันรุ่งขึ้น พ่อของทั้งสองฝ่ายต่างไปพูดคุยตกลงกันเรื่องการแต่งงาน ปล่อยให้สองแฝดกับไอ้หนุ่มทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันระหว่างทำงานตามสบาย จนเมื่องานเลิกก็ต่างแยกย้ายกันไปมีเวลาส่วนตัวของแต่ละคู่
เริ่มจากทางฝั่งซามีกับเลย์ลี่ ซามีพาเลย์ลี่มายังเนินใหญ่มีต้นไม้สูงเด่นแห่งเดียวกับที่ซามานกับไลล่ามาปีนต้นไม้ด้วยกันโดยห้ามเลย์ลี่บอกใครว่ามาที่นี่ เมื่อมาถึง เลย์ลี่ก็ถามซามีว่าตกลงพาเธอมาถึงนี่มีอะไรกันแน่ ซามีก็บอกบอกแค่ว่าตามมาเงียบๆ ก่อนก็แล้วกัน
จนเมื่อมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บนยอดเนิน ซามีก็หยิบเอาถุงผ้าเล็กๆ ออกมาจากผ้าโพกผมของตน แล้วเทเอาของบางอย่างที่อยู่ในนั้นออกมาใส่ฝ่ามือของตัวเอง แล้วยื่นส่งให้เลย์ลี่ดู
...ก้อนหินทรงกลมซึ่งสะท้อนสีนวลเป็นประกายงดงามรับกับแสงอาทิตย์ยามเย็น...
"ไข่มุกน่ะ" เจ้าหนุ่มบอกด้วยทีท่ากึ่งเขินเล็กน้อย เลย์ลี่ได้ยินเข้าก็ถึงกับตาลุกด้วยความตื่นเต้นตกใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ตัวเธอมีโอกาสได้เห็นรัตนชาติมีค่าเช่นนี้กับตาตัวเอง ซามีก็เล่าให้ฟังว่านี่เป็นไข่มุกที่เขาพบโดยบังเอิญในตัวหอยตัวหนึ่งซึ่งทอดแหจับมาได้ เป็นสมบัติลับชิ้นเดียวของเขาที่แม้แต่พ่อหรือพี่ชายก็ไม่รู้เรื่องนี้
"ตั้งใจว่าจะเก็บไว้ให้ผู้หญิงที่ชั้นจะแต่งงานด้วย...ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะต้องมาให้เธอ" เด็กหนุ่มบอกเลย์ลี่ อาการเคอะเขินเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น เหลือแต่แววจริงจังเท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในดวงตา "แต่ยังไงก็จะให้ละ"
ว่าจบก็หยิบเอาไข่มุกนั้นวางลงบนมือของเลย์ลี่อย่างเงียบๆ กิริยาของเจ้าหนุ่มทำเอาเลย์ลี่นิ่งอึ้ง ได้แต่มองไข่มุกเม็ดงามในมือตัวเองสลับกับหน้าเจ้าหนุ่มอยู่อย่างนั้นเป็นครู่ใหญ่ ก่อนที่ประโยคหนึ่งจะหลุดปากเด็กสาวออกมาอย่างแผ่วเบา
"ชั้นว่าชั้นเริ่มรักนายขึ้นมาแล้วละ"
คำพูดหวานผิดหูของผู้สาวกับกิริยาตาค้างเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์ทำเอาไอ้หนุ่มถึงกับสะดุ้งโหยงเหมือนถูกฟ้าผ่า ก่อนจะลนลานถามอีกฝ่ายว่าอยู่ดีๆ มาปากหวานใส่เขาทำไม เลย์ลี่ก็บอกว่านี่ชั้นพูดจริงจังนะ และบอกต่อว่าไม่รู้ทำไม อยู่ดีๆ ก็เห็นซามีเท่ขึ้นทีละน้อยๆ ทั้งผมกระเซิงๆ เต็มหัว ทั้งลูกตาที่ดูยังไงก็ไร้ความเด่นนั่น อยู่ดีๆ ก็ดูดีดูเท่ไปหมดในสายตาของชั้น
"นี่ๆ ถ้าชั้นโตขึ้นละก็ ต้องสูงขึ้นกว่านี้ หน้าอกก็ต้องใหญ่ขึ้นกว่านี้แน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ซามีจะดีใจมั้ย?" เด็กสาวถามไอ้หนุ่ม สายตายังคงเลื่อนลอยลุกโชนด้วยไฟเสน่หาเต็มเปี่ยม เล่นเอาไอ้หนุ่มถึงกับอดรนทนไม่ได้ต้องร้องปรามอีกฝ่ายให้ใจเย็นๆ ด้วยสีหน้าเหมือนเห็นอะไรน่าสยองขวัญแบบสุดๆ