^
^
คุณแน๊ตค่ะ กะว่าจะไม่พูดเรื่องขอต้นรำกลัวสปอย์คนอื่น ได้แต่พูดอ้อม แต่เห็นว่าทุกคนดูแล้วงั้นขอจัดเต็มด้วยคนนะค่ะ กริ๊ดดดดดดดดค่ะ RDJ จัดเต็ม
มีงอนกันมากมาย มีการถามวประมาณว่าจะเลือกฉันหรือหล่อน ไปฮันนีมูนกันเองลั่นล้าที่ปารีสแหนะ ไหนจะจัดการ Irene Adler ออกพ้นทาง อย่างกับการ์ตูน Clamp ที่ว่าสุดท้ายก็เหลือแต่พระเอกมาลั้นล้ากันเอง ส่วนนางเอกหายไปกลางเรื่อง
แต่เสียใจมากที่พี่บทไมคร์อฟดูจืดมากๆ ถ้าไม่มีมุขเดินในบ้านอันนั้นที่แมรี่เห็นแล้วอยากตาย ก็แบบว่าไม่มีก็ได้ มอรีอาร์ตี้ก็ปรากฏตัวได้ไม่แรงเท่าไหร่
ขอบคุณค่ะคุณเงาะ ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่มีอะไรมาฝาก
ก็คงมีเรื่องชวนกริ๊ดของ magazine Starpics (หน้าปก Girl with The Dragon Tatoo)ของไทยเราที่ลงคอลัมน์
BBC Sherlock กับ Tinker Tailor Soldier Spy แบบเป็นทางการซะที
กริ็ดดดดดดดดด ^^
แน่นอนว่าเพราะมีเรื่อง Sherlock Holmes หนังโรงเป็นเรื่องหลัก
เลยมี BBC Sherlock มาเสริม
แต่ว่าการเขียนนี้มีัน Y มากๆ แถมใดันใช้รูปตัดต่อให้มันดู Y ยิ่งขึ้น (รูปข้างล่างค่ะ ของจริงยืนห่างกันนะ) นี้ไม่ใช่แค่พวกเราที่จิ้นใช่ไหม
เราขอยกมาทั้งดุ้นละกัน
Sherlock
ซีรี่ย์ของอังกฤษทางช่อง BBC ซีซั่นแรกมีทั้งหมด 3 ตอน ตอนละ 90 นาที
แม้ว่าจะมีแค่ 3 ตอน แต่ก็ก่อปรากฏการณ์ใหม่ในหมู่แฟน เชอร์ล็อก โฮล์มส์ เพราะเป็นการจับเอาเชอร์ล็อกมาใช้ชิวิตอยู่ในยุคปัจุบัน เช่น ใช้โทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสาร เชอร์ล็อกมีบล็อกของตัวเอง ส่วนหมอวัตสันก็เขียนบล็อคเล่าเรื่องของเชอร์ล็อกอีกที รูปแบบการนำเสนอก็เก๋ไก๋ ปกติแล้วเชอร์ล็อกจะพล่ามเอาว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบ้าง แต่คราวนี้คนดูจะได้เห็นในสิ่งที่เชอร์ล็อกคิดเป็นอักษรที่หน่าจอเลย
นอกเหนือจากการนำเสนอและเรื่องราวที่สนุกสนานแล้ว ประเด็นที่ขาดไม่ได้คือความสัมพันธ์ของเชอร์ล็อกและจอห์น (ในเรื่องนี้เปลี่ยนมาเรียกชื่อต้นกับแทนนามสกุลแล้ว) ที่จะว่าไปแล้วกลายเป็นเวอร์ชั่นที่ 'เกย์' ที่สุดที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ แม้ว่าผู้สร้างและเขียนบท สตีเฟ่น มอฟแฟท และ มาร์คเกทิสส์ จะยืนยันว่าเชอร์ล็อกไม่ใช่เกย์ก็ตาม และกล่าวอีกว่าในยุคสมัยนี้ การที่ผู้ชายสองคนอยู่ด้วยกัน ก็ต้องมีคนตั้งคำถามอยู่แล้วว่าเกย์หรือเปล่า แม้เกย์จะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วก็ตาม
ตัวซีรีย์ประสบความสำเร็จอย่างมากส่งผลให้คู่หู เบนาดิคต์ คัมเบอร์บาธ (เชอร์ล็อก) และ มาร์ติน ฟรีแมน (จอห์น) โดดเด่นมากขึ้น จนไปเตะตาปีเตอร์แจ็คสัน และคว้าเอาตัว ฟรีแมน มาเล่นใน The Hobbit ส่วนคัมเบอร์บาธก็ขอตามมาด้วย ด้วยการพากย์เสียงเป็นมังกรสม็อก
ฟรีแมน ผู้มีร่างไซส์ขนาดฮ็อบบิทยังตีบทแตกในบทหมอวัตสัน ถึงขนาดได้รับรางวัลบาฟต้า สาขานักแสดงสมทบชายจากเรื่องนี้ ส่วนสำคัญที่เขาคิดว่าทำให้แตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นคือ บทบาทของเขาไม่ใช่เป็นแค่ตัวลูกคู่ (side-kick) อีกต่อไป แต่ก้าวเขามาเป็นคนสำคัญในชีวิตของเชอร์ล็อก
"แน่นอนล่ะว่านี้เป็นเรื่องของเชอร์ล็อกเป็นหลักครับ แต่มันมีความเท่าเทียมกันมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นในเรื่องความสัมพันธ์ ผมรู้ว่า สตีเฟ่น และ มาร์ค ต่างก็อยากให้ความสำคัญอันดับแรกอยู่ที่ความสัมพันธ์มกกว่าสิ่งอื่นใด"
"มันเป็นเรื่องของการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เป็นเรื่องของสิ่งที่ทำให้พวกเขาผูกพันกัน สิ่งที่แสดงถึงว่าพวกเขารักกันจริงๆ นะ มันเป็นเรื่องที่เกย์ที่สุดในประวัติศาสตร์โทรทัศน์เลยนะ ผู้คนชอบพูดถึงเรื่องนี้กัน และผมก็แฮปปี้กับมันนะ! มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่รักกัน แม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่บิดๆ เบี้ยวๆ ในบ้างครั้งก็ตาม แต่ความสัมพันธ์นี้มันเวิร์คสำหรับพวกเขา พวกเขาได้ผลลัพธ์จากความสัมพันธ์แบบนี้"
นอกจากนี้ยังมีเรื่อง House M.D. และเรื่อง Sherlock Holmes เวอร์ชั่นหนังแผ่นของ The Asylum ที่ได้ Gareth David-Loyd ณ Torchwood มาเล่นเป็นหมอวัตสันด้วย
แฟนชาวไทยก็หาเล่มนี้มาอ่านนะค่ะ มันเหมือนว่า BBC Sherlock เริ่มมีตัวตนเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วไปแล้ว หวังว่าจะได้เห็นแผ่นลิขสิทธิ์ในอนาคต
แถมเล่มนี้เราก็ได้มี TTSS มาอ่านมีข้อมูลศัพท์แสลงที่ใช้ภายในหน่วย MI6 ด้วย เช่น
The Competition = MI5
The Cousins = CIA
Scalphunters = เจ้าหน้าที่ลอบสังหาร
คุ้มค่ะเล่มนี้ แถมมีรูปพี่เบนอีกอิๆๆ ^^
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 23:20:13
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 23:17:14
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 23:11:28