MORE 02.2012
การเดินทางกำลังจะเริ่มต้น
ยามาชิตะ โทโมฮิสะ, พร้อม
ยามาชิตะซังผู้ถอนตัวจากวง NEWS ที่ร่วมงานกันมากว่า 8 ปี และเริ่มต้นใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยว
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินเส้นทางนี้ และอะไรคือจุดหมายในเส้นทางที่เขาเลือก
ผมไม่สามารถลบเลือนเวลา 8 ปีที่เดินมาในฐานะส่วนหนึ่งของ NEWS ได้
เดบิวซีดีเมื่ออายุ 18 หลังจากนั้นจึงได้มีการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะออกจากกลุ่มที่ทำงานร่วมกันมาแปดปี
ในปี 2006 ที่ผมได้แสดงบทนำครั้งแรกเรื่องคุโรซากิน่ะ ยามาซากิ ซึโตมุซังที่แสดงด้วยสอนผมว่า ระเบิดอารมณ์หรือความรู้สึกของเธอออกมา แสดงตัวตนออกมา เค้าก็สอนเรื่องการแสดงล่ะครับ แต่ว่ามันทำให้กลับมาคิดจริงจังเรื่องการดำเนินชีวิตตัวเอง ประมาณว่า จากนี้ไปผมจะซื่อตรงกับสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เพื่อความสุนทรีย์ของชีวิตน่ะครับ ก็ทำตามนั้นมันก็ไม่ได้ต้องใช้ความพยายามมากมายอะไร แต่ก็ค่อยๆได้เรียนรู้ว่าบางครั้งมันก็จำเป็นที่ต้องใช้ความกล้าหาญในการละทิ้งบ้างอย่างออกไปบ้าง
เรามองเห็นการปรากฏขึ้นของ"Yamashita-ryuu.bigaku" [Yamashita school esthetics-สุนทรียะในการดำเนินชีวิตแบบยามาชิตะ ไหม?] ในวิถีทางที่เกี่ยวข้องกับผู้คน
ผมไม่เคยขอคำแนะนำจากเพื่อนหรือจากครอบครัวในการเริ่มต้นทำอะไรหรอกครับ เรื่องการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรนั่นผมตัดสินใจของผมคนเดียวทั้งหมด อย่างเรื่องที่จะออกมาทำงานเดี่ยวเต็มตัว ทั้งโทมะ เรียวจังหรือจินก็รู้ผ่านการประกาศทางบริษัทเหมือนกัน เราอยู่กันคนละทางแล้วก็มีโลกที่ต่างกันน่ะ สำหรับผมแล้วพวกเค้าเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วก็สนุกด้วยกันนอกจากเวลางานล่ะ
จากคำพูดของเขาที่แสดงออกว่าเห็นเป้าหมายในอนาคตของตัวเองและพร้อมจะมุ่งหน้าไปโดยไม่ลังเลแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางเวลาที่จิตใจหวั่นไหว
ตอนนี้ก็ต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียวแล้ว ก็อยากจะรู้สึกเฟรชเหมือนเริ่มต้นจากศูนย์เลย แต่ว่ามันไม่มีทางที่ผมจะมองข้ามเส้นทางที่เดินมาตั้งไกลได้หรอกครับ เพราะมันเต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ที่มีค่า บางครั้งผมก็กังวลนะครับว่าผมจะไปต่อได้ไหม แต่พักหลังนี้ เวลาเริ่มมีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาก็จะไปเขียนนิกกิล่ะ เรื่องหนังที่ได้ดูหรือว่าอะไรก็ตาม ผมรู้สึกเหมือนว่าได้ระบายอะไรบางอย่างออกไปบ้างมันก็ทำให้สบายใจขึ้นมาได้
นอกไปจากนิกกิแล้ว เขาก็เริ่มรับรู้ความสำคัญของการเผชิญหน้ากับตัวเอง
เดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา ผมขับรถข้ามทวีปอเมริกาประมาณ 2 สัปดาห์ คือก็เป็นถ่ายทำรายการทีวีล่ะ แต่ว่าผมก็มีส่วนกำหนดเรื่องนี้ ผมไม่เคยเดินทางยาวๆแบบนี้เลย แล้วก็เคยสงสัยว่าคนเราจะเปลี่ยนไปได้จริงๆเหรอหลังจากการเดินทาง ซึ่งผมก็รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ! ผมรู้ชัดเลยว่าสิ่งที่สำคัญกับผมจริงๆแล้วคืออะไร ก็คืองาน ครอบครัวแล้วก็เพื่อน แล้วก็ได้รู้อีกว่าการที่จะปกป้องสิ่งสำคัญทั้งสามสิ่งนี้ไว้น่ะ บางครั้งมันก็จำเป็นที่จะต้องลดความอยากในเรื่องอื่นๆ เพราะว่าคนเราเวลาละโลภน่ะ เค้าไม่มีทางมองเห็นสิ่งสำคัญหรอกใช่ไหมล่ะ
อีกอย่างก็คือไม่ว่าใครจะเรียกผมว่าอะไร ศิลปิน, นักแสดง, ไอดอล หรืออะไรก็ตามแต่ผมก็คือผม การเรียนรู้ความเป็น ยามาชิตะ โทโมฮิสะ ทำให้ผมเข้าใจว่าผมต้องการจะถ่ายทอดพลังด้านบวกให้กับผู้คน ช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มต้นอะไรบางอย่างมันเป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุดเลยแต่ว่าถ้าเรามัวแต่คิดอยู่ในหัว เราก็ไม่มีทางรู้คำตอบ เพราะงั้นผมจึงตัดสินใจเดินทางครั้งนี้
ยามาชิตะซังซึ่งปกติแล้วค่อนข้างเป็นคนเขินอายอย่างสุดโต่งกับผู้คน แต่ธีมในตอนนี้ของเขาคือ ความรักต่อมนุษย์
การทำความรู้จักกันเป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงเมื่อเจอกันครั้งแรกๆ เพราะงั้นเราก็จะลังเลที่จะเข้าไปรู้จัก แต่ถ้าเราเริ่มเปิดใจ ก็เป็นได้ว่าอีกฝ่ายก็น่าจะเปิดใจให้เราด้วย ในกองถ่ายละครเรื่องใหม่นี้ผมตั้งใจว่าจะเป็นฝ่ายเข้าไปทำความรู้จักคนอื่นก่อนล่ะ แต่ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่คล่องที่จะทำตัวแบบนั้น แต่ว่าในกองนี้มีจิเนนคุง (Hey! Say! JUMP)ด้วย ก็คงต้องลองดูว่าผมจะเป็นรุ่นพี่ที่ดีได้ไหม (หัวเราะ)
ก้าวต่อไปของยามาชิตะซัง ในปี 2012 นี้เขาพร้อมแล้ว
ปีใหม่นี้ก็ต้องเริ่มด้วยการไปไหว้ศาลเจ้าล่ะ ผมเป็นคนประเภทที่อยากจะมีสติในทุกๆช่วงเปลี่ยนผ่านน่ะ เพราะงั้นถ้าไม่ได้ไปก็จะรู้สึกไม่ดี ทุกๆปีผมก็ไม่เคยพลาดการไปไหว้สุสานก่อนเทศกาลโอบังเลยนะ การที่มีเราอยู่ในตอนนี้ก็เพราะว่ามีบรรพบุรุษนี่นา ก็เลยต้องแสดงความเคารพให้เห็น ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะว่าผมจะเป็นคนหัวโบราณน่ะ (หัวเราะ)
คุณโปรดิวเซอร์ Suzue Hideki อธิบายถึงรายการนี่้ไว้ว่า
ในฐานะที่เค้าเลือกเดินทางเป็นศิลปินเดี่ยวเอง ผมอยากจะบันทึกและถ่ายทอดให้เห็นว่ายามาชิตะซังจะเปลี่ยนแปลงแล้วก็เติบโตขึ้นอย่างไรภายใต้ธรรมชาติของอเมริกา
คุณหัวหน้าโปรดิวเซอร์ยังกล่าวต่อว่า ทีแรกเขาก็ดูกังวลมาก แต่ว่า เขาแข็งแกร่งแล้วก็หนักแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ พอกลับมาน่ะดูยังกับว่าเค้าเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเลย
20 พฤศจิกายน Suzue Hideki ทวิตว่า
วันศุกร์ที่ผ่านมาผมไปรับใครบางคนที่นาริตะ คนที่ก่อนจะไปนั้นกังวลแทบบ้า แต่กลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง กอดกับสตาฟฟ์ที่ไปด้วยแน่นแทบจะไม่อยากจากกัน
ภาพนั้นประทับใจผมมาก
พวกเราต้องได้ผลงานมาสเตอร์พีซแน่!
=================
ไฟล์เอาไว้บ้านหน้าเนอะ 