ความคิดเห็นที่ 1 คงไม่มีใครอยากได้ออสการ์แล้วงานหด คนในวงการต้องศึกษาตัวพ่อตัวแม่ อย่างเมอรีล สตรีพ ครับ จากคุณ : รักเรเน่ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:02:25

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่อยากได้ดีกว่า เพราะมันจะมาพร้อมความกดดัน 555+ จากคุณ : ฟ้าไม่ให้มีรัก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:02:40

ความคิดเห็นที่ 3 อืม แล้วแต่ดาราท่านนั้นด้วยมากกว่าค่ะ วงการฮอลลี่วู๊ดเอง นอกจากฝีมือ ความดัง เรื่องเส้นสายก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความต่อเนื่องของงาน ถ้าได้อย่างน้อยเกียรติประวัติก็อยู่ไปชั่วลูกหลาน แต่ถ้าไม่ได้ มีงานต่อเนื่อง อีกหน่อยชื่อเสียงก็หายไปตามกาลเวลาอยู่ดี ถ้าเลือก ขอได้บทดีๆ มีความสำคัญ คนพูดถึง กล่าวขาน กันต่อเนื่องดีกว่าค่ะ จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:09:30

ความคิดเห็นที่ 4 อยากได้รางวัลราสแบร์รี่ มากกว่า จากคุณ : montes เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:10:09

ความคิดเห็นที่ 5 อยากได้เงินกับแฟนมากกว่า จากคุณ : surfboard เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:19:19

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าไม่เกี่ยวหรอก .. เดอนิโร่ สตรีฟ แฮงค์ โครล สเปซี่ เดนเซล แล้วอีกเยอะก็ยังอยู่ อยู่ที่การเลือกรับงานมากกว่า ประมาณถ้าหนังตลาดก็ขอกึ่งคุณภาพ นึดนึง (ระดับนี้เค้าจะมีเอเย่นดูแลอยู่นิ) ไม่ใช่ไปเล่นหนังยิงภูเขาแบบมิร่าหรือฮัลล์ จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:24:52

ความคิดเห็นที่ 8 โอ๊ย ไม่เอาหรอก รางวัลออสก้า เป็นนางเอกไทยโกยเรตติ้งให้กับช่องดีกว่า จากคุณ : annaraquetsexy เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:34:45

ความคิดเห็นที่ 9 ขอตอบแบบ ตอบตรงๆ เลยนะคะ ตอบข้อ 1 ยังอยากได้ค่ะ ถึงต่อไปจะ อับแสง ก็ยังดี ที่ได้มาครอบครอง มันคงไม่ได้ ได้กันง่ายๆ ใช่มั้ยคะ ออสก้าร์ เนี่ย กว่าเราจะได้ เราก็คงโลดแล่นในจอ มากพอสมควรแล้ว คือตอบง่ายๆ กว่านี้ ชีวิตดารา วันนึงมันก็ต้อง อับแสง อยู่ดี ก่อนที่จะอับแสง ได้ครอบครอง ซักครั้ง ก็ยังดีอะ ดีกว่า ไม่ได้อะค่ะ จากคุณ : liumother เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:38:22

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่จริงค่ะ ดูเจ้าป้าเมอรีล สตรีพสิคะได้มาถึง 2 ตัวแล้ว แถมยังมีชื่อเข้าชิงตัวที่ 3 อยู่ทุกปี จากคุณ : ฉันมันเป็นแค่ไส้ติ่ง เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:38:44

ความคิดเห็นที่ 11 อยากได้สิ เพราะมันคือการยอมรับอย่างหนึ่งที่เป็นรูปธรรมน่ะ เก็บเอาไว้ชื่นชม แล้วชื่นใจ :) จากคุณ : กุบกับ1 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 13:45:46

ความคิดเห็นที่ 12 แต่สำหรับความคิดเรา ดาราที่ได้ออสการ์ในวัยที่ไม่เยอะก็อาจจะมีมีติดๆดับๆ ขึ้นๆลง บางทีก็หายไปบางทีก็กลับมาดังใหม่ในหนังตลาดก็มีให้เห็นเยอะไป เช่น จูเลีย โรเบริต์  ชาริช เธียรอน แต่จะให้ดังเจิดจรัสเหมือนเดิมคงยาก อีกประเภทคือได้แล้วดับไปเลย กลับมาอีกหลายครั้งก็ไม่เปรี้ยง เช่น กวินเน็ท พัทโธทว์ นิโคล คิดแมน ไม่ว่าหนังจะตลาดยังไงก็ไม่เกิด และประเภทสุดท้าย ดังแบบไม่สุด เล่นก็ไม่เข้าตากรรมการ อย่าว่าแต่จะได้ออสการ์ แค่เข้าชิงยังไม่มีโอกาสเลย แบบนี้มีเยอะนะ เป็นคุณเลือกแบบไหน จากคุณ : จอมสับขาระดับโลก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:09:52

ความคิดเห็นที่ 13 อยากได้ ดาราที่ได้ออสก้าร์ตอนอายุยังน้อยอาจจะมีติดๆดับๆบ้าง  แต่พอแก่ตัวลงจะมีบทส่งมาเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่ตัวเด่น แต่ก็มีโอกาสไปปรากฏตัวในหนังโชว์บารมีดาราออสก้าร์อยู่เรื่อยๆ  ดีกว่าดาราดังๆที่ไม่ได้ออสก้าร์เลย ซึ่งจะกลายเป็นดาราที่ถูกลืมตอนแก่ ออสก้าร์มันเป็นรางวัลที่ปอบปูล่าร์สุดในโลกภาพยนตร์แล้วน่ะเราว่า.. จากคุณ : สาวน้อย ร้อยกระบวนท่า เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 14:37:30

ความคิดเห็นที่ 14 เอา 1 อ่ะ ถึงงานจะน้อยลง แต่หลังจากได้รางวัลจะมีคำนำหน้าชื่อเป็น Academy Award (R) winner ................. ไปตลอดชีวิตการแสดง เก๋จะตาย แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 15:12:30 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 54 15:12:01 จากคุณ : กระจิ๊ดฤทธิ์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 15:11:28

ความคิดเห็นที่ 15 ดาราออสการ์หลายคนยังอยู่ได้ มีชื่อเสียง และหนังแต่ละเรื่องของเค้าก็ดีๆ ทั้งนั้น เช่น ลุงทอม แฮงส์, เจ้าป้าเมอรีล, เคท วินสเลท, จูเรีย โรเบิร์ต, รัลเซล โครว์ แต่ดาราออสการ์บางคนก็เงียบ ดรอปลงเรื่อยๆ จนบางครั้งเกือบจะลืมว่าเป้นดาราออสการ์ เช่น เฮลี่ เบอร์รี่, กวินเนท พัลโทรว์, นิโคล คิดแมน ผมว่ามันแล้วแต่การเลือกรับงาน และฝีมือของแต่ละคนมากกว่า จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 16:30:28

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าไม่เห็นเกี่ยวเลยนะ ได้ออสการ์แล้วงานหด บางคนยิ่งได้ออสการ์ งานก็ยิ่งมา หรือบางคนแทบไม่มีใครในวงการรู้จัก แต่พอมีชื่อถูกเสนอเข้าชิง แค่นั้นแหละงานก็มาเรื่อยๆ อยู่ที่ดาราฉลาดเลือกหนังที่จะแสดงมากกว่า และ agent+เส้นสาย ที่ทำงานให้ต้องเก่งด้วยแหละ ผมว่าอาถรรพ์ นำหญิงหากได้ออสการ์ แล้วจะต้องหย่ากับผัว ยังเฮี้ยนกว่าอีก จากคุณ : ZaTanBoy เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 17:44:54

ความคิดเห็นที่ 17 อาจจะเป็นที่ความกดดันก็ได้ค่ะที่ทำให้งานหด  อย่างรางวัลดารานำหญิง-ชายยอดเยี่ยม เรื่องต่อๆไป เค้าก็ต้องเลือกเฟ้นบทให้สมกับศักดิ์ศรีเจ้าของรางวัล ภาพลักษณ์   ค่าตัวอัพขึ้นหลายเท่า อาจทำให้คนสร้างหนังขยาดไปเลย ประมาณหนังฟอร์มเล็กอย่าหวังไปเชิญ  (บางทีดาราอาจอยากให้เชิญ)  แต่มันก็เป็นรางวัลที่ดาราแทบทุกคนใฝ่ฝัน เหมือนเป็นจุดสูงสุดของอาชีพ เห็นเป็นรูปธรรม ขนาดตัวตายไปแล้วลูกหลานยังยืดได้เลยค่ะ จากคุณ : love mom so much เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 18:59:01

ความคิดเห็นที่ 18 คือ ผมว่า ออสการ์ ของเขามันมีความหมายมากนะครับ  ประหนึ่งถ้วยบอลโลก ไอ้ที่คิดว่าจะเลือกว่าเอาไม่เอาได้นี่ มัน ออสการ์ บ้านเราแล้วครับ  เล่นละครหรือหนังสักเรื่อง ถ้าคนแจกจะปั้น  มันก็แจก เลยดูไม่มีค่า จากคุณ : picassoinhell เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 19:57:27

ความคิดเห็นที่ 19 สมัยก่อนใครได้เข้าชิงออสการ์จะเป็นตัวช่วยจุดกระแสให้หนังดังขึ้น ในปัจจุบันนี้ก็มีบางเรื่องที่ได้รับผลกระทบทั้งดี (Million Dollar Baby, The King's Speech, The Blind Side, etc.) และไม่ช่วยอะไรเลย (The Hurt Locker) จะเห็นว่าถ้าใครได้ออสการ์สมัยก่อนจะเป็นที่พูดถึงมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนคนไม่ได้ถ้าไม่ดังจริงก็จะลืมไปเลยว่ามีตัวตน แต่ผมเห็นว่าถ้ามีฝีมือซะอย่างไงๆ ก็ไม่ดับหรอกครับ Jack Nicholson ก็ตั้งสามออสการ์ ตัวสุดท้ายที่ได้จาก As Good as It Gets ก็อายุปาไปเท่าไหร่ปัจจุบันก็มีหนังเรื่อยๆ ไม่ต้องพูดถึงเจ้าป้าเมอรีลที่พอแสดงเรื่องอะไรก็ตามคนก็ตามไปดูและหวังใจให้ได้ออสการ์ (ส่วนเรื่องเข้าชิงก็นอนมาตลอด) Cate B./Kate W. คนแรกได้จาก The Aviator ก็ไม่เห็นจะดับแสงไปไหนมีหนังในเข้าชิงออสการ์ตลอด บางปีไม่รู้จะให้เข้าชิงจากเรื่องอะไรเพราะมีเยอะเกิน ส่วนคนหลังชิงมาหกครั้งพอได้จาก The Reader ปี 2008 พอมาปีนี้มีหนังเข้าฉาย 2 + มินิซีรี่ย์ 1 (เรื่องนึงไปประชันกับโจดี้ ฟอสเตอร์----คนนี้สองออสการ์แต่ก็มีหนังเรื่อยๆ แถมฮิตเล็กๆ ตลอด) ถ้าจะให้ดูตัวอย่างคนได้ออสการ์แล้วดับ ขอเชิญ F. Murray Abraham (Amadeus), Louise Fletcher (One Flew Over the Cuckoo's Nest) สองคนนี้เป็นตัวอย่างของการได้รับออสการ์ปุปดับอนาจหายไปจากวงการตลอดกาลของจริง ส่วนออสการ์นำหญิงที่หลายคนเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์ โดยเฉพาะคนที่ทุกคนตกยกมาเป็นตัวอย่าง อย่างเจ้าแม่หนังล่ม นิโคล คิดแมน ก็นะก่อนออสการ์เธอคือมิสซิสครูซ ที่นักวิจารณ์เริ่มปลื้มใน To Die For 1995, ออสการ์เริ่มปลื้มใน Moulin Rouge! 2001, ได้ออสการ์ The Hours 2002 หลังจากนั้นเธอก็มีหนังออกมาทุกปี บารมีจากออสการ์/นายทุนเชื่อว่ามีชื่อเธอก็ขายได้ แต่หนังดันล่มทุกปี จนกระทั่ง Rabbit Hole พอจะมาช่วยได้ ขอยกสัดส่วนหนังที่แสดงต่อปี โดยไม่นับ The Hours ก่อนได้ออสการ์ 20 ปี 22 เรื่อง สมทบหญิงเป็นส่วนใหญ่ หลังได้ออสการ์ 9 ปี 19 เรื่อง นำหญิงทุกเรื่อง ผมว่าเธอไม่ดับหรอก จริงมั้ย? ของ Hally Berry ก็คล้ายๆ กันนี้แหละ หลังออสการ์ทุกคนดังขึ้นแน่ๆ และมีงานทำมากขึ้นแน่ๆ แต่อาจไม่หายากถ้ายังมีแต่หนังไม่ทำเงิน สรุปก็คือผมว่าได้ออสการ์มีอนาตตชัวร์ (ความเห็นมั่วๆ ส่วนตัวครับผม) จากคุณ : Tyrond เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 01:25:46

ความคิดเห็นที่ 20 เลือก 1 คะ เพราะชื่อยังได้อยู่ตลอดไป ส่วน 2 มันเป็นแค่ช่วงหนึ่งของชีวิต ผ่านไปอีกรุ่น ใครจะจำได้ หนังออสการ์ คนจะดูตลอด รื้อฟื้นตลอด แต่หนังตลาดใครจะมารื้อฟื้น นอกจากคนที่ชอบดาราคนนั้นๆ จากคุณ : tempopo เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 07:08:21

ความคิดเห็นที่ 21 ขอรอให้เจอกับตัวเองก่อน แล้วจะมาบอก อิอิ จากคุณ : Hirino เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 12:10:33