Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(T-Winds) "ทามิ โคจิมะ" ภริยาทูตญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่อง "ป๊อปไม่ป๊อป" ติดต่อทีมงาน

วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 35 ฉบับที่ 4376  ประชาชาติธุรกิจ


"ทามิ โคจิมะ" ภริยาทูตญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่อง "ป๊อปไม่ป๊อป"





เมื่อกล่าวถึงคลื่นลูกที่ 1 เรื่องของวัฒนธรรมบันเทิงแล้ว ต้องยกให้กับกระแสจากทางฝั่งตะวันตก เพราะเป็นกระแสที่มีอิทธิพลต่อโลกเป็นอย่างมาก ศิลปินอย่าง เอลวิส เพลสลีย์, เดอะบีตเทิลส์, หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ได้ส่งผลกระทบและเป็นต้นแบบให้กับวัฒนธรรมบันเทิงในยุคหลังอย่างมากมายทีเดียว

ถ้าย้อนกลับไปมากกว่า 10 ปีก่อน คลื่นลูกที่ 2 อย่างกระแส J-pop ในเมืองไทย และหลายประเทศทั่วโลก นับว่าเป็นกระแสที่มาแรงมาก

คล้อยหลังความยิ่งใหญ่ของ J-pop มาอีกเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น คลื่นลูกที่ 3 อย่างกระแส K-pop ก็สามารถแย่งชิงความยิ่งใหญ่มาจากกระแส J-pop ได้อย่างสวยงาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ประเทศไทย

ในช่วงไม่กี่ปีผ่านมาต้องยอมรับเลยว่า กระแส K-pop ในบ้านเรามาแรงมาก ละครโทรทัศน์จากที่เมื่อก่อนเราจะเห็นเพียงแค่ ละครไทย, ละครจีน และละครญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ปัจจุบันถ้าไม่ใช่ละครไทยที่จับจองช่วงเวลาหลังข่าว หรือไพรมไทม์ (prime time) กันตามปกติอยู่แล้ว ละครที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นละครนำเข้าจากเกาหลี ด้านวงการเพลง ถ้าไม่นับรายการเพลงที่เพิ่มช่วงเวลามาเพื่อเปิดเพลงเกาหลี เพื่อเอาใจบรรดาแฟนคลับกันแล้ว แนวเพลง และรูปแบบของวงการเพลงไทยก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เกิดวงบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ป สไตล์เกาหลีให้เห็นอย่างมากมาย พร้อมกับคำต่อท้ายว่า "เราไม่ได้ก๊อป"

อาจจะจริงที่วงเหล่านั้นไม่ได้ก๊อป เพราะการที่กระแส K-pop มาแรงจนแทบจะครองเมืองไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรจะมีคนหรือกลุ่มคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระแส K-pop

เพราะแม้แต่วงดนตรีเกาหลี หรือแม้กระทั่งสื่อบันเทิงอื่น ๆ ของเกาหลีในปัจจุบันยังถูกมองว่าเป็นของปลอม หรือของทำเหมือนอยู่ดี ต่างจากกระแส J-pop ที่ไม่ว่ายังไงก็ถูกมองว่าเป็นของแท้อยู่วันยังค่ำ

ในเรื่องนี้ "มาดามทามิ โคจิมะ" ภริยาทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า "ความจริงแล้วในเรื่องนี้ต้องบอกว่า ไม่มีอะไรที่เป็นของแท้หรือของเทียม หรือใครก๊อปใครหรอก น่าจะอยู่ที่กระแสสังคมในตอนนั้นมากกว่า ว่าอะไรกำลังมาแรง ซึ่งพอเขาเห็นอะไรกำลังมาแรง เขาก็ต้องทำแบบนั้นบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเขาก็จะไปแข่งขันกับใครไม่ได้ และก็จะตามกระแสสังคมไม่ทัน"

เมื่อพูดถึงกระแส J-pop และ K-pop แล้ว แต่ถ้าไม่พูดถึงกระแส T-pop (Thai population) ของเราก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถึงกระแส T-pop ในบ้านเราจะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก

ผิดกับในประเทศเพื่อนบ้านของเราที่กระแส T-pop ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นในไต้หวัน, อินโดนีเซีย, จีน หรือแม้กระทั่งในญี่ปุ่น T-pop ก็สามารถเข้าไปสอดแทรกในตลาดแดนปลาดิบได้บ้าง แม้ว่าจะไม่แพร่หลายในวงกว้างก็ตาม

"สื่อบันเทิงไทยที่ดังไปถึงญี่ปุ่นก็พอจะมีบ้างนะ แต่ไม่เยอะมาก เท่าที่รู้คือศิลปินของไทยที่ดังไปถึงญี่ปุ่นก็น่าจะเป็นพี่เบิร์ด ธงชัย แมคอินไตย์ เพราะเป็นศิลปินที่คนญี่ปุ่นรู้จักเป็นอย่างดี และโดยส่วนตัวเองก็ชอบ" มาดามทามิพูดถึงกระแส T-pop ในญี่ปุ่นให้เราฟัง

แม้ว่ากระแส T-pop ในญี่ปุ่นจะไม่แรง แต่ถ้าข้ามน้ำมาบนประเทศจีนแล้ว จะเห็นได้ว่าความนิยมในกระแส T-pop แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่จีน สื่อบันเทิงอย่างละครไทยกลับได้รับความนิยมอย่างเหนือความคาดหมาย เรียกได้ว่าแซงหน้าละครจากญี่ปุ่นหรือเกาหลีไปหลายช่วงตัว สังเกตได้จากข้อมูลการสำรวจความนิยมละครโทรทัศน์จากรายการแห่งหนึ่งในประเทศจีน พบว่ามีผู้โหวตให้ละครเกาหลีและละครญี่ปุ่นพอ ๆ กัน คือจำนวน 2,000 กว่าคะแนน แต่ละครไทยกลับมีผลโหวตมากถึง 8,000 กว่าคะแนนเลยทีเดียว

โดยเหตุผลหลัก ๆ ที่ละครไทยในจีนแซงหน้าญี่ปุ่นและเกาหลี เว็บไซต์โซหูของประเทศจีนได้กล่าวถึงในประเด็นนี้ไว้ว่า ละครไทย

ดำเนินเรื่องอย่างแหลมคม เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติกแต่ไม่ลามก มีอารมณ์ขันแต่ไม่ไร้รสนิยม และที่สำคัญมีเนื้อหาสอดคล้องกับรสนิยมชาวจีน ทั้งยังมีดาราที่เป็นลูกครึ่งเยอะกว่า หากเทียบกับละครเกาหลี ญี่ปุ่น

เมื่อดูจากกระแส T-pop ในปัจจุบันนี้แล้ว อาจจะยังพูดได้ว่ากระแส T-pop ยังเป็นกระแสอินดี้ในโลกของเราอยู่ แต่ถ้าวิเคราะห์จากการตีตลาดในจีนซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมหาศาลได้ ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ T-pop ที่จะเดินทางไปสู่สายตาของคนทั้งโลก และก็ยังอาจจะเร็วไปที่จะพูดว่า T-pop จะกลายมาเป็นคลื่นลูกที่ 4 ของวัฒนธรรมบันเทิงโลก แต่ถ้าบรรดา

ผู้จัดทั้งหลายในเมืองไทยสามารถรักษามาตรฐานและพัฒนามาตรฐานของสื่อบันเทิงไทยขึ้นไปอยู่เรื่อย ๆ พร้อมทั้งภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เชื่อว่าการที่จะเราจะได้เห็น T-pop กลายเป็นคลื่นลูกที่ 4 ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝัน

"ไม่เชื่อก็ลองดู K-pop ของเกาหลีสิ"

ที่มา:http://www.prachachat.net/old/view_news.php?newsid=02dlf03191254&sectionid=0225&day=2011-12-19

จากคุณ : doodeky
เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 10:04:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com