ความคิดเห็นที่ 1 ในฐานะที่ดู Sherlock ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้ แต่แค่อยากจะบอกว่า เพื่อนเราคนอังกฤษบางคนก็บอกว่า ซีรี่ย์ทางฝั่งอเมกา มักจะเวอร์เกิน อย่างพวก CSI อะไรเทือกๆนี้ เพราะตอนนั้นเราเคยบอกว่า ชอบดู ER ที่ Cahnnel4 เอามาฉายมากกว่า Casualty ของ itv แต่อยู่ไปเรากลับชอบซีรี่ย์อังกฤษนะ ถ้าตลกก็จิกกัดอย่างเมามัน แล้วก็ชอบสำเนียงด้วยมั้งคะ จากคุณ : jangs เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 18:01:16

ความคิดเห็นที่ 2 จุดแดงๆมันคือปืนเลเซอร์ไงคะ คือถ้าขยับหรือทำอะไรที่คนร้ายไม่พอใจ ก็จะยิงเข้าโฮล์มทันที   เราว่ามันก็น่ากลัวนะ ยิ่งคนเล็งอยู่ไหนก็ไม่รู้อีก  ความตายอยู่แค่เอื้อมเลยค่ะ พวกมือปืนที่ซุ่มเล็งผ่านตึกก็จะทำแบบนี้กันค่ะ เล็งแล้วยิงเลย เข้าหัวตายทันที เอาผ้ามารัดคอ จะสามารถอำพรางศพได้ง่ายกว่าค่ะ  จะอำพรางว่าโฮล์มแขวนคอตายเองก็ได้ แต่เอาปืนยิง มันอำพรางยากนะคะ ไหนจะวิถีกระสุน มือข้างที่โฮล์มถนัด เขม่าดินปืน ระยะการยิง ลักษณะแผลที่เกิดจากการยิง คราบเลือกที่กระเด็น ถ้าจะฆ่าแบบไม่สนใจอะไร เดินไปยิงโฮล์มระหว่างทางกลับบ้านเวิร์คกว่าอีกค่ะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:30:00

ความคิดเห็นที่ 3 รู้ค่ะว่าจุดแดงๆคือเลเซอร์จาก sniper แต่เราคิดว่า Sherlock นี่ไม่มีอะไรอื่นเหรอ คือพอ Watson ล็อคคอ Moriarty ได้แล้วก็เป็นเป้านิ่งเลย เราคงจะติด Series US ตามคห.1ว่าไว้มั๊ง แบบพระเอกอ่ะ มันต้องมีอะไรซักอย่างสิ อย่าง่ายนัก ส่วนเรื่องผ้ารัดคอ คดีแกงค์ ฯลฯ เอริ่มมมม มันดูไม่เหมาะกับยุคสมัยอ่ะค่ะ แล้วถ้าสืบคดีมากกว่านี้ได้ อย่างคดีกินยา ที่ดูยากมากว่าจะเป็นฆาตกรรมได้ยังไง บทเรื่องนี้ดูแล้วให้ความรู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรอีกนิด ตามความรู้สึกเรา ความซับซ้อนของคดี อะไรที่ขนาดต้องใช้ Sherlock อะไรที่ตำรวจไม่สามารถ มันไม่น่าเฉลยง่ายแบบนี้ มันดูธรรมดาไปอ่ะ แล้วตำรวจอีกคนที่ประมาณตอนที่ 2 ที่มาทำคดีแทน Lestrade อ่ะ ตอนแรกเราคิดว่าตานี่น่าจะมีอะไรดีๆ แบบซ่อนเงื่อนซักหน่อย ไปๆมาๆนี่เป็นตัวประกอบแบบ annoying ใช่มั๊ยเนี่ย - -" สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ เท่าที่เราดูคือ Surprise ที่ว่า Jim คือ Jim Moriarty นั่นแหละค่ะ ตอนเปิดเผยตัว มีปลอมตัวเป็น gay??? พอเผยตัวแล้วเราคิดนิดนึงว่า ไม่ได้ปลอมหรอกมั๊ง ตัวจริงก็แอบด้วยรึเปล่า เหมือนจังเนาะ ส่วนการเปิดตัว Mycroft นี่เราไม่แปลกใจ เพราะคิดว่า jackpot ไม่น่ามาเร็วขนาดนี้ แต่เอริ่มนิดหน่อย กับเรื่องโทรศัพท์เรื่องไปรับตัว Watson ฯลฯ เยอะมากคุณพี่ชาย คือเราดู Series แนวนี้มักคิดเสมอว่า มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ อะไรที่ทำให้ชั้นอึ้ง ทึ่ง แบบว่า โอ้ววว ช็อคซีนีม่า ประมาณนั้น พอเรื่องไหนไม่เจอก็คิดว่าอะไรกันแค่นี้เองเหรอ ไม่นะ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิ ทั้งเรื่องนี้เหมือนซีรีย์ย้อนยุค ที่มีฉากหลังเป็นยุคปัจจุบัน แถม gadget ที่ดูทันสมัย จริงๆนี่อาจจะเป็นสิ่ง ที่ผู้สร้างต้องการก็ได้มั๊ง แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 20:59:56 จากคุณ : vilandra เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 20:57:58

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องนี้มันเกี่ยวกพันด้านความสัมพันธ์คะหว่างเชอร์ล็อกกับจอห์นด้วยค่ะ เราว่ามันสื่อหลายๆอย่างนะ ที่ถามว่าจอห์นล็อกคอมอริอาร์ตี้ให้ แล้วทำไมเชอร์ล็อกไม่ทำอะไร คือเชอร์ล็อกรู้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่าต้องมีสไนเปอร์ซุ่มอยู่ (ดูจากกรณีก่อนๆหน้า ตัวประกันทุกคนโดนเล็งเตรียมไว้เสมอ โดยเฉพาะกรณีคุณยายที่โดนยิงตายเลย) หมอล็อกให้แต่มีสไนเปอร์อยู่ + ตัวหมอเองก็ห้อยระเบิดเป็นพวง เลยทำอะไรมอริอาร์ตี้ไม่ได้ ครั้นจะหนีก็ต้องทิ้งจอห์นอีก ซึ่งเชอร์ล็อกไม่ทำ เลยเป็นประเด็นให้มอริอาร์ตี้พูดขึ้นมาไงคะ "ที่ว่าไม่มีหัวใจน่ะไม่จริงซักหน่อย" ส่วนที่ว่า "พอจุดแดงๆย้ายไปที่หน้าผาก Sherlock เท่านั้น Watson ก็บ้อท่า" อันนี้ก็เหมือนกับเชอร์ล็อกเลยค่ะ จอห์นเองพอเห็นเพื่อนโดนเล็งแบบนั้นที่ว่าจะสละตัวเองให้เชอร์ล็อกหนีตอนแรกก็หยุดเลย เพราะจากกรณีก่อนๆหน้าเห็นได้เลยว่ามอริอาร์ตี้เอาจริงแน่ พลาดขึ้นมาเชอร์ล็อกก็โดนเป่าสมองกระจาย อีกอย่างเรื่องนี้เราว่ามันเน้นการสืบมากกว่าบู๊น่ะค่ะ เชอร์ล็อกเองก็แค่นักสืบคนนึงที่ฉลาดมากๆๆ ส่วนหมอก็แค่อดีตทหารที่ต้องเกษียณก่อนวัยเพราะบาดเจ็บ มาเจอไรเฟิลระเบิดขนาดนี้ ทำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบก่อนนิดนึง พลาดไปก็จบเลย ส่วนเรื่องอื่น พูดยากแฮะ ผกก.เขาสร้างโดยหยิบยกเอาต้นฉบับมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยน่ะค่ะ ครั้นว่าจะเปลี่ยนมากไปกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว เพราะต้องอ้างอิงถึงคดีจากต้นฉบับด้วย บางอย่างเลยอาจจะดูแปลกๆไปบ้าง ส่วนพวกตำรวจ...คือในนิยายก็แทบจะเป็นตัวประกอบอยู่แล้ว (ไม่สิ เราว่าเป็นเลยล่ะ) จริงๆเราว่าเขาก็เพิ่มบทให้ฝั่งตำรวจเยอะแล้วนะคะเนี่ย โดยเฉพาะทีมของเลสตราทน่ะค่ะ ในนิยายตอนเราอ่านนี่แทบไม่มีพูดถึง เห็นบ่อยหน่อยก็เลสตราทนี่แหละ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:39:02 แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 21:35:08 จากคุณ : แม่ยก Castiel เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:33:32

ความคิดเห็นที่ 5 ผกก.เขาสร้างโดยหยิบยกเอาต้นฉบับมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยน่ะค่ะ ครั้นว่าจะเปลี่ยนมากไปกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว เพราะต้องอ้างอิงถึงคดีจากต้นฉบับด้วย บางอย่างเลยอาจจะดูแปลกๆไปบ้าง ------------------------------------------- ถ้าตามเหตุผลนี้ก็เข้าใจค่ะ เพราะก็นึกๆอยู่เหมือนกันว่าอยากให้ได้กลิ่นอายของเดิม จากคุณ : vilandra เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 21:44:44

ความคิดเห็นที่ 6 แต่เราดูแล้วกลับชอบมาก ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ ((ตอนแรกเราแอบปรามาสนิดๆว่าทำเป็นยุคปัจจุบันแล้วจะสนุกเหรอ)) เราชอบตรงที่ Sherlock เวอร์ชั่นนี้เป็นยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังได้กลิ่นอายของเดิมนี่แหละ [เว้นเสียแต่ Sherlock เวอร์ชั่นนี้น่าหมั่นไส้มาก มากกว่าในหนังสือและ Robert Downey, Jr. เสียอีก :P] เรื่องที่ใช้ผ้ารัดคอ เราคิดว่าคนร้ายไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่แบบให้คนอื่นข้างนอกรู้นะ ไม่งั้นถ้าใช้ปืนก็เสียงดัง เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ต้องตามสืบอีก เจ้าของบ้านเป็นใคร แล้วตำรวจก็ต้องคุ้มครองผู้หญิงคนนั้นอีก ทำให้คนร้ายเข้าถึงตัวยากขึ้น ไม่ได้โกรธน้า แค่อยากอธิบายว่าทำไมเราถึงชอบเรื่องนี้ แต่ก็เข้าใจว่าความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ :) จากคุณ : Reinz (Xiii) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:36:40

ความคิดเห็นที่ 7 เราก็รู้สึกเหมือนกันคะ ว่าแบบ มันยังไปได้กว่านี้ อีกเยอะมากกกกกกกกกก แต่เวอร์ชั่นนี้ มันก็แบบโค ตะ ระ เว่อร์เลยนะ อย่างเช่น นำเข้าคนจากจีน เพื่อปีนขึ้นตึก เพื่อไปฆ่าคน  (เอาปืนส่องง่ายกว่ามั้ย) หรือ ซ่อนสัญลักษณ์ ไว้ใน ตึกที่พ่นกาฟิกตี้ (ประเด็นมันอยู่ที่เอาศพไปให้รถไฟชนอ่ะคะ แล้วมาโยงกะสัญลักษ์ให้ เรางง) หรือ แค่เห็นสีชมพู ก็รู้แล้วว่า เป็นพวกสื่อมวลชน (อันนี้งงกะเฮียสุดแล้ว) โดยเฉพาะเฮีย ไม่รู้เรื่องดาว แต่ มานึกดาวออกในนาทีสุดท้าย อันนี้เราก็แบบ อ๋อเหรอ? so what แต่พอเห็นพระเอกใส่ชุดตำรวจแล้ว หล่อจัง สูงด้วย ก็มัวสนใจแต่พระเอก พอพระเอกพูดเรื่องดาว ก็เออ คิดว่า จริงมั้ง แต่ตัวเอง หล่อนะ 555 ดูครั้งแรกก็รู้สึก เว่อร์จิ๊บหาย   ครั้งต่อๆ ไป ดูแต่หน้าหล่อ (เราชอบหน้าแบบนี้อ่ะนะคะ ถึงจะละม้ายคล้ายโคทึก แต่ก็รักจริงๆ) และหุ่นของพระเอกที่สูงเพรียวแต่แอบบึก ทำให้อื้อหื้อ ชวนน้ำลายไหล  แล้วยังโค้ทตัวเท่ห์ กับเชิ้ตพอดีตัวอีก โอ้ย >///< กรี้ดอย่างเดียว ลืมหมดทุกอย่าง นอกเรื่องมากแล้ว กลับๆๆๆ ความสนุก มันอยู่ตรงนี้คะ เหมือนที่ความเห็นบนๆ พูดอ่ะแหละ ตรงที่มันยังคงเนื้อหาของบทประพันธ์ดั้งเดิม   ซึ่งมันประยุกต์เข้ากับเหตุการณ์ได้อย่างแนบเนียน ไม่กระโดดแม้แต่น้อย ของแบบนี้มันแล้วแต่คนชอบอ่ะคะ เราไม่น่านั่งโกรธ ทำไม คนเราชอบไม่เหมือนกัน ตัวเราเอง เวลาดู ซีรีย์ดังๆ บางเรื่อง เช่น Glee ก็แบบ กรอๆ ไป ดูแต่เพลง เพราะรำคาน ความดราม่าไร้สาระ(มากด้วย) ในบางตอน คำถามที่ว่า ซีรีย์UK น่าเบื่อแบบนี้ไหม บอกได้เลย ว่า ซีรีย์UK น่าเบื่อได้ยิ่งกว่านี้อีกคะ ชอล็อกอันนี้ เป็น TOP ของเขาแล้ว ถ้าคุณว่าชอล็อกไม่สนุก เรื่องอื่น คุณก็ต้องว่าไม่สนุก แต่ .. บางคนเช่นเรา กลับชื่นชอบ ซีรีย์ UK มากกว่า USA น่ะคะ มันสนุกในแบบของมัน เฉิ่มจริง แต่ขอให้มีซับเหอะ ดูยังไง ก็สนุก ชอบๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 54 23:57:39 จากคุณ : หวานใจนายโหด เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:54:49

ความคิดเห็นที่ 8 ทุกคนพูดไปหมดแล้วแหละเนอะ แหะๆๆ แต่ที่เราชอบเวอร์ชั่นนี้มากที่สุดก็เพราะมันได้กลิ่นอายของต้นฉบับแหละค่ะ เราทึ่งกับคนเขียนบทจริงๆ นะที่สามารถเอาต้นฉบับมาประยุกต์กับยุคปัจจุบันได้ลงตัวขนาดนี้ หลายๆ อย่างที่จขกทบอกมาบางอันเราก็เห็นด้วยนะคะว่าเออมันน่าจะมีอะไรต่อไปได้อีก แต่บางอย่างที่มันง่ายเกิน บางครั้งมันก็ดูสมจริงกว่านะคะว่ามั้ย เพราะในชีวิตคนเรามันก็ไม่เวอร์เหมือนในบทละครอยู่แล้ว แต่ถ้าดูซีรี่ย์เพื่อเอาความเวอร์ก็อีกเรื่องนึง ส่วนเรื่องซีรี่ย์ฝั่ง UK กับ US เราไม่ออกความเห็น เพราะเราดูทั้งสองฝั่งแต่ไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไหร่ ก็ชอบทั้งสองฝั่ง เราชอบเป็นเรื่องๆ ไม่ค่อยแยกแยะว่ามาจากฝั่งไหน แหะๆ จากคุณ : namiki เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 00:37:33

ความคิดเห็นที่ 9 ซีรีย์เรื่องนี้ เราชอบมากเลยนะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่เคยอ่านนิยาย หรือบทประพันธ์อะไรทั้งนั้น พอมาดูซีรีย์ ก็เลยดูแบบเปิดรับไปเต็มๆ ไม่ได้นึกเปรียบเทียบกับนิยายดั้งเดิม เชอร์ล็อคน่าจะมีจุดเด่นเรื่องการสืบสวนสอบสวนมากกว่า ที่เด่นอีกอย่างสำหรับเราคือบทพูดของตัวละครแต่ละตัว โดนใจเรามาก แล้วตัวเอกคือพี่เบน ก็แสดงได้ดีด้วย ทำให้เราจับบุคลิคของเชอร์ล็อคได้ทั้งๆที่ไม่เคยอ่านนิยายว่าเป็นคนยังไง ในจำนวน 3 ตอน ชอบ study in pink มากที่สุด ส่วนตอนอื่นเฉยๆ ถ้าไปเทียบกับซีรีย์ฝั่งเมกา จะคนละแนวเลย ของเมกาจะสนุกตื่นเต้นมากกว่า และบางเรื่องก็เว่อร์โครตๆ อย่าง CSI เวลาสืบคดี จะมีทีมเก็บหลักฐานมาพิสูจน์เช็คโน่นเช็คนี่ ทำให้สาวต่อไปได้ถึงผู้ร้าย (ที่เวอร์ก็ตรงนี้แหละ เพราะบางอย่างมันยังทำไม่ได้อ่ะนะ แต่ก็เข้าใจว่าจะเอาอะไรกับหนังมากมาย) มาเทียบกับเชอร์ล๊อค จะไปแบบเรื่อยๆเนิบๆ บทโอเคนะ ไม่ได้แย่อะไร ไม่ได้เว่อร์มากมาย รับได้ ส่วนด้านบนที่คุยเรื่องดวงดาว อันนั้นกว่าจะไขปริศนาได้ นานเกินปกติไปติ๊ดดด เพราะตัวพระเอกไม่รู้ว่าโลกหมุนรอบอาทิตย์ หรืออาทิตย์หมุนรอบโลก (จริงๆพี่แกน่าจะรู้แหละ แต่ไม่สนใจจะจำมากกว่า เพราะบอกแล้วว่าเอาสมองไว้จำเรื่องที่มีประโยชน์) เชอร์ล็อคเขาก็ไม่รู้เหมือนเดิมนะ แต่ที่นึกขึ้นมาได้ เพราะระหว่างที่ต่อสู้กับคนร่างยักษ์ มันจะมีเสียงพากษ์เรื่องดาวเปิดทิ้งไว้ แล้วเชอร์ล็อคได้ยิน ก็เลยเอามาตอบ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 07:42:49

ความคิดเห็นที่ 10 คดีที่สองเราว่ามันออกจะโฉ่งฉ่างนะคะ ยิงกันก็ยังมี ถึงได้ว่าการใช้ผ้ารัดคอเนี่ยมันเอริ่ม..... ป่านนี้เค้ารู้กันทั่วแล้วว่ามีคดี Sherlock เองก็ประสานงานกับตำรวจอยู่ ถ้า Sherlock ตายไปโดยโดนผ้ารัดคอ ตำรวจคงไม่ซื่อคิดว่าฆ่าตัวตายหรอก แบบ Sherlock เนี่ยนะแขวนคอตาย?? จริงๆอยากให้มีคดีใหม่ๆบ้างนะคะ ให้มันอัพเดทบ้าง ส่วนตอนนี้สงสัยว่า Sarah จะไม่ใช่ Sarah ว่าแต่ Sherlock เนี่ย เราไม่คิดว่าเค้าหล่อหรือหน้าตาดีนะ Watson นี่ก็ไม่หล่อแถมยังเหี่ยวย่น เพียงแต่ตัว Sherlock จะมีลักษณะเฉพาะตัวประมาณมีเอกลักษณ์น่ะค่ะ แอบคิดว่าเกลียดทรงผมเค้าจังเลย ก็ไม่รู้ว่าถ้าเป็นผมทรงอื่นจะดีขึ้นหรือแย่ลง? Series ฝั่ง US เราว่ามันทำให้เราเชื่อได้ว่าทำได้จริง ถึงแม้ว่าจะไม่จริงก็ตาม ถึงมันจะไม่ได้ไวปานสายฟ้าแบบตรวจวิเคราะห์ได้ภายใน 2-3 นาที อย่างในหนัง แต่ผู้ชมก็เชื่อว่ามันทำได้จริง แม้ว่าการตรวจ DNA อย่างเดียวจะใช้เวลา 2 เดือนในความจริงก็เหอะ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าฝั่ง US จะดูสมจริงไปหมดทุกอย่าง เวอร์ๆก็เพียบเพียงแต่ส่วนตัวเราคิดว่า ส่วนใหญ่เค้าทำให้เราเชื่อได้ว่าเป็นไปได้น่ะ ตอนดู Castle ยังคิดว่าเวอร์ชะมัดแต่แบบมันทำมาให้ดูฮาๆ หรือแม้แต่ Chuck นี่ก็ Comedy สุดๆ แบบอย่าไปจริงๆจังมาก แต่มันคือแนวเรื่องแบบนั้นไง ส่วนใหญ่ที่เราคิดว่ามันน้อยไป อยากได้มากกว่า คือเราจะติดว่า Sherlock น่ะพระเอกนะ ควรมากกว่านี้อีกนิด มีอะไรกว่านี้อีกหน่อย ในเมื่อ present ว่า Sherlock ไม่แคร์สื่อ ออกไปในแนวหลงตัวเองด้วยซ้ำ ว่าเก่งจริง ไม่อิงสตันท์ ก็ควรมี trick อะไรมาโชว์กว่านี้ ไม่ใช่เรื่องบู๊ นะคะ อันนั้นเราก็ว่าไม่แปลกที่ Sherlock จะยิงปืนได้ห่วยมาก ในขณะที่ Watson เป็นแพทย์ทหาร แต่ทักษะยิงปืนเทพสุดๆ ถ้า Season 2 ออก คงได้ตามไปตอบกระทู้แบบ real time กันนะคะ ^^ จากคุณ : vilandra เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 11:56:44

ความคิดเห็นที่ 11 พิมพ์ยาว ยาว กันทั้งนั้น  แต่ส่วนตัวต้องบอกว่าชอบอ่าน ทุกเวอร์ชั่น การ์ตูนก็อ่าน พอมาเป็นหนัง ก็ดู ซี่รี่ย์ก็ดู ซีรีย์ที่เห็นเป็นฝั่ง UK ก็รู้สึกว่ามันมีกลิ่นไอของความเป็นเชอร์ล็อค โฮมส์นะ บรรยากาศ ลอนดอน ชื้นแฉะ ตัวโฮมส์ ผอมๆ คือเราว่า คนนี้ใช่นะ หมอวัตสันตอนแรกก็ดูเตี้ยไปหน่อย แต่ก็หลัง โอเค  เนื้อเรื่อง ก็เห็นถึงความพยายาม ของผู้จัดที่ต้องการนำเสอ ตามเนื้อเรื่องเดิมแต่ สถานะการณ์เป็นปัจจุบัน ก็ยัง ว่าทำไม มอริอาตี้ ออกมาเร็วจังแล้วจะเป็นไงต่อ ต้องรอดู ภาค 2 นี่แหละ .. จากคุณ : หางหวาย เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:08:23

ความคิดเห็นที่ 12 ก็ ถ้าว่ากันตามเหตุผลอย่างคุณ vilandra ว่ามาก็ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ ดีซะอีกที่มีคนเข้ามาถกเถียงหลายๆ แง่มุม จะว่าไปแล้ว Sherlock นี่เป็นเรื่องแรกของซีรีส์อังกฤษเลยที่มีโอกาสดู (ถ้าไม่นับ Doctor Who ตอนแรกสุดที่ดูจนลืมไปแล้วถึงได้กลับมาดูอีกรอบหลังจากดู Sherlock จบ) สองเรื่องนี้มีอะไรที่คล้ายๆ กันอยู่อย่างนึงก็คือมันไม่ค่อยจะ practical เท่าไหร่ ตัวนิยายมันยังดูน่าเชื่อกว่าหน่อยเลย อ่ะ อย่าง A Study in Pink เงี้ย ถามหน่อยว่าเจ้าพ่อมอริอาร์ตี้จะเอาเงินมาให้คนขับแท็กซี่ที่เล่น Russian Roulette กับผู้โดยสารโดยใช้ยาพิษแทนปืนไปเพื่ออะไร ในเมื่อมอริอาร์ตี้ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงที่ต้องการให้รัฐบาลมาสนใจอยู่แล้ว ตรงกันข้ามซะอีก พี่แกชอบหลบอยู่นอกสปอตไลท์จะตายไป น่าจะเปลี่ยนจุดมุ่งหมายหน่อย ให้มันดูน่าสะพรึงกลัวมากกว่านี้ ไม่ก็ทำให้น่าเห็นใจเหมือนกับนิยายต้นฉบับไปเลย ฆ่าเพราะล้างแค้นให้คนรักตัวเอง ฆ่าเพราะจำเป็น ฯลฯ ไม่ใช่เพราะฆ่าเอามันแบบสุ่ม อะไรกั๊นน (ที่ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าเป็นคดีฆาตกรรม เราว่าเป็นเพราะว่าเชอร์ล็อกสงสัยตั้งแต่แรกแล้วมากกว่า เพราะว่าศพของแต่ละคนก็อยู่ในที่ๆ เจ้าตัวไม่ได้มีธุระอะไรที่ต้องไปอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว + การสอบปากคำพยาน + RACHE ที่คนสุดท้ายเอาเล็บขูดไว้ ฮึดสู้ตอนลมหายใจเฮือกสุดท้าย อะไรงี้มั้งคะ) ส่วน The Blind Banker ซึ่งเป็นตอนที่แฟนๆ คนไทยและต่างชาติเห็นพ้องต้องกันว่ามันแย่ที่สุดจากสามตอนนี้ก็มีหลายจุดที่บ่นได้ไม่จบไม่สิ้น เห็นสมุดหน้าเหลืองวางเปียกฝนอยู่หน้าบ้านคนก็ไปปีนห้องเค้าเฉยเลย เค้าอาจจะเป็นพวกขี้เกียจออกมาเก็บข้าวของหน้าบ้านก็ได้ ไม่ใช่ว่า อุ๊ย ต้องลุกออกจากร้านอาหารเพื่อไปสืบเดี๋ยวนั้น มันเป็นการเดาที่ขาดน้ำหนักไปนิด เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเลยโดนเลย เป็นไงล่ะ นี่ขนาดยังไม่ได้พูดถึงเรื่อง discrimination กับแอคติ้งของแม่นางซูหลินที่ทำให้เราเพลียใจมาก ส่วนตอนสุดท้าย ไม่มีอะไรจะบ่นเท่าไหร่ (จริงๆ คือคิดไม่ออกแล้ว) อ้อ มีการปรากฎตัวของมอริอาร์ตี้ที่ทำให้คนดูอย่างเราช็อกและงงมากๆ ว่าเฮ้ย แปลกมาก แปลกจนน่ากลัว แล้วก็โกเล็ม ไม่ชอบโกเล็มเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไม จุดที่ไม่ชอบผ่านไป มาพูดถึงจุดที่ทำให้คนดูดาษๆ อย่างเราชอบจนต้องกลับไปขุดนิยายต้นฉบับมาอ่านอีกรอบกันบ้าง เราชอบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากนิยายที่คนเขียนใส่เข้ามาในเรื่องแบบเนียนๆ ค่ะ ทั้ง - ของแต่งฉากและไอ้นู่นไอ้นี่รอบๆ ตัวอย่างเช่น กะโหลก มีดพับ เครือข่ายคนจรจัดที่เข้ามาแทนแก๊งเด็ก บีบีกะอีเมลแทนโทรเลข - นิสัยแปลกๆ ของเชอร์ล็อกที่ไม่ค่อยกินข้าว ไม่ค่อยนอน ติดนิโคติน ชอบนั่งเหม่อเพราะคิดคดีจนเพลิน นั่งท่าพนมมือ นั่งยองๆ บนเก้าอี้ นั่งเอาคางเกยเข่า (แต่เชอร์ล็อกในนิยายไม่ปากแมวกับผู้หญิงนะ) - หมอวัตสันค่ะ ในนิยายหมอไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่เลย ไมครอฟต์ด้วย เป็นข้าราชการ "ชั้นผู้น้อย" ในรัฐบาลอังกฤษที่อ่านเกมได้ขาดกว่าเชอร์ล็อกซะอีก รู้สึกดีที่คุณพี่ชายมีบทกับเขาบ้าง - สองดารานำเล่นได้เข้าขากันดีมากๆ ตอนนี้เลยไปตามดูงานเก่าๆ ของเบเนดิกต์ รู้สึกเลยว่าคนๆ นี้ทำได้หลายอย่างจริงๆ ส่วนมาร์ตินรอแป๊บนึงแล้วกัน ^^ สุดท้ายนี้ ไม่เคืองหรอกค่ะ เพราะมีบางจุดที่เราก็เห็นด้วยกับคุณ vilandra แต่ถ้าบอกว่า Robert Downey Jr. เล่นเป็นโฮล์มสได้ดีกว่าล่ะก็ อันนี้อาจมีเคืองนิดหน่อย :P จากคุณ : แม่ยก Benedict :P (G i f t b o x) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 16:37:12

ความคิดเห็นที่ 13 เราอ่านฉบับนิยายมาก่อนค่ะ เราว่าเวอร์ชั่นนี้ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับต้นฉบับมากกว่าหนังโรงเยอะเลย เพราะจุดเด่นของนิยายคือการอนุมานและการสังเกตของโฮมล์ส ดังนั้นถ้าจะมาใช้เทคโนโลยีหรือนิติวิทยาศาสตร์มากๆแบบCSIเราว่ามันอาจจะไม่ได้อารมณ์เรื่องนี้อ่ะค่ะ ส่วนเรื่องคดีเราเห็นด้วยว่ามันอ่อนไป อย่างตอนคดีย่อยโบท้อกส์ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นจากบาดทะยัก อืม......สองโรคนี้มันต่างกันมากจนไม่คิดว่าแพทย์จะวินิจฉัยผิดได้เลยนะ แล้วก็คิดว่าตอน Blind Banker มันไม่ค่อยดีเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ชอบเรื่องนี้คือ มุขตลก (เราว่ามันตลกจริงๆนะ), ความเกรียนของเชอร์ล้อค, หมอวัตสันตบมุข และพี่ไมครอฟท์โชว์เหนือค่ะ จากคุณ : ลิงลี่ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 22:41:34

ความคิดเห็นที่ 14 เราเป็นแฟนหนังสือโฮล์มสมาตั้งแต่เด็กนะคะ อ่านมาทุกเรื่องที่เซอร์โคแนน ดอยล์แต่ง เราเพิ่งรู้จักซีรี่ส์เรื่องนี้จากห้องนี้ (หลังจากเขาฉายจบซีซั่นไปแล้ว) หลังจากดูเชอร์ล็อก โฮล์มส เวอร์ชั่นโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ซึ่งเวอร์ชั่นนี้น่าผิดหวังมากกกกกกก รู้สึกว่าให้จู๊ด ลอร์เป็นโฮล์มสเองยังดีกว่า พอมาดูฉบัับเบเนดิคเลยไม่ค่อยหวัง ยิ่งรู้ว่าปรับเป็นยุคปัจจุบันยิ่งไม่คิดอะไรเลย ปรากฏว่าดีกว่าที่คิดไว้มาก อย่างน้อยๆ คือการพยายามตีความให้โฮล์มสเป็นนักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเข้ากับยุคสมัย คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือต้นฉบับ ขออธิบายนิดนึงว่าการที่โฮล์มสสามารถมองคนทะลุในเวลาแป๊บเดียวนั้นคือลักษณะตัวละครที่ท่านเซอร์สร้างไว้ และนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดในฉบับเบเนดิคที่คงเอาไว้อย่างซื่อสัตย์ ไม่ใช่ปรับเป็นพระเอกนักบู๊ แบบฉบับฮอลลีวู้ด โฮล์มสในหนังสือเป็นนักมวย นักปลอมตัว แม่นปืน และสีไวโอลินเก่ง ซึ่งฉบับเบเนดิคก็มีหมด และเราค่อนข้างพอใจที่ไม่ได้เอาใช้พร่ำเพรื่อ ส่วนข้อเสียเรื่องติดยา เราก็ดีใจเหมือนกันที่ฉบับสมัยใหม่เอามาปรับแค่นิโคตินแพช สิ่งที่เราติดเรื่องเดียวคือมอริอาติ ซึ่งสำหรับเรานะ ในฉบับนี้บุคลิกดูไม่เก๋าพอจะก่อการร้ายเลย ดูอ่อนยังไงไม่รู้ ส่วนเรื่องจิ้นวายกับหมอ แรกๆ รับไม่ได้ หลังๆ เราเริ่มรู้สึกว่ามีประเด็น 55 ได้กลับไปดูงานเบเนดิคเรื่องเก่าๆ ที่เราเคยผ่านตา รู้สึกขำมากที่เคยดูนายคนนี้มาก็หลายเรื่องแต่ทำไมจำไม่ได้ก็ไม่รู้ ^^' จากคุณ : RitaChiang เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:49:09

ความคิดเห็นที่ 15 เราเป็นคนที่ชอบ Sherlock Holmes มาก อ่านนิยาย ดูหนัง series และการ์ตูน เกือบทุกเวอร์ชั่นที่หาได้ ส่วนตัวคิดว่าของ BBC Sherlock ทำได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุด รองลงมาก็ชอบเวอร์ชั่น Granada ของ Jeremy Brett อะนะ ส่วนของฝั่ง US/Canada นี้ก้ได้ดูเวอร์ชั่น Matt Frewer เป็นเวอร์ชั่นที่ก็ ok แต่ค่อนข้างแห้งแล้งถ้าเทียบกับของคนอื่นๆ ตอนนี้กำลังหาดู version Russia   BBC Sherlock มันมีกลิ่นอาย ที่เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะของต้นฉบับแล้วนักแสดงก็เล่นได้ดีทุกคนค่ะ เห็นด้วยค่ะ ตอน The blind banker อย่างเดียวที่ไม่ปลื้ม เพราะไม่ค่อย make sense แต่ตอนอื่นเราว่าสนุกมาก มากกว่าที่คิด เพราะเจอหนังโรงทำให้เสียใจและใจหายพอสมควร แบบว่าเหมือนยืมชื่อ Sherlock Holmes มาหากินนะค่ะ ทั้ง Robert Downey Jr และ Jude Laws เล่นหนังเก่ง แต่มันไม่ใช่ Holmes กับ Watson แบบที่รู้สึกได้ในนิยาย มันขาดๆอะไรบางอย่างไป จึงไม่ทำให้เรารักตัวละครแบบที่เรารักในนิยาย ส่วนเรื่องงงว่าทำไมโฮล์มทำไมมองปุบรู้ปับ ก็เป็นเอกลักษณ์ความสามารถพิเศษจริงๆของเขาตามนิยายค่ะ มันไม่ได้เวอร์หรืออะไร แต่เป็นการชั่งสังเกตและเปรียบเทียบเหมือนการทดลองที่ต้องเทียบและอาศัยการสังเกตบ่อยนะค่ะ ถ้าเวอร์คงเป็นของหนังโรงนะแหละที่คิดได้ว่าจะออกหมัดท่าไหนต่อไป คงเป็นอันนี้ละมั่งที่ทำให้เราไม่ชอบหนังโรง ส่วนทำไมตำรวจไม่รู้เรื่องเลย เราว่าถ้าให้เวลาตำรวจสืบก็รู้แหละค่ะ แต่มันจะเสียเวลามากๆ เชอร์ล็อคมองและคิดอะไรเร็วกว่านะค่ะ อีกอย่างตอน The Study in Pink คนดูจะรู้เรื่อง Taxi และข้อมูลหลายๆอย่างเพราะฉายให้เราได้เห็น แต่ตำรวจไม่เห็นเลยไม่รู้ค่ะ แถมถ้าใครอ่านนิยายมาแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนร้าย BBC Sherlock นี้เนื่อเรื่องการสืบสวนเราว่าเป็นเรื่องรองนะค่ะ เรื่องนี้จะเป็นแบบ character centric มากกว่า story centric ซึ่งจะไม่เห็นบ่อยนักในหนัง Hollywood ทั่วไป ซึ่ง character centrc ก็เป็นตามนิยายต้นฉบับค่ะ เราจะเห็นการพัฒนาของตัวละครและในแง้ความคิดด้วย เนื้อเรื่องเหมือเป็นแค่เหตุการ์ณที่ให้ตัวละครเผชิญและแสดงออกมาในแง่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละตัวละครค่ะ และแน่นอนว่าท่เรารักนิยาย Sherlock Holmes เพราะความที่คิดนอกกรอบทำตัวไม่เหมือนใครค่ะ อาจจะดูไม่สมจริงในชีวิตจริง แต่มันเป็นเสน่ห์อย่างนึงค่ะ แต่ตัวเชอร์ล็อคเองก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน ทำให้เรารู้สึกได้ว่าก็เป็นมนุษย์คนนึงเหมือนกัน เหมือนเด็กที่ฉลาดแต่ฉลาดวิชาเดียวอย่างงี้อะค่ะ ในนิยายเองก็ไม่ได้เทพหรือมีลูกไม้มางัดเยอะแยะแบบในหนังโรง แล้วก็ถ้าทำให้สมจริงทุกอย่างแบบ series สืบสวน US มัจะออกเชิง techinical เกินไปและก็มีเกลื่อนไปหมด มันก็คงหน้าเบื่อนะค่ะที่ต้องดูอะไรซ้ำๆใกล้เคียงกัน ^^ ส่วนเรื่องหน้าตานักแสดง อย่าหวังอะไรกับหน้าตาหนักแสดงหนังหรือละครฝั่งยุโรปเลยค่ะ เขาเน้นฝีมือล้วนๆ ไม่เน้นขายหน้าตาอย่างพวก OC หรือ Gossip Girl หรอกค่ะ (มีคนดูแล้วงงว่า สาวๆโดนแกล้งขนาดนั้น แสดงว่าเศร้าร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด) มันเหมือนคนเดินดินทั่วไป ไม่ต้อวมีรัศมีดารานะค่ะ แบบว่าถ้าดู series US แล้วบางทีเราว่าตำรวจทำไมสวยหรือหล่อเกินจัง ผมไม่เสียทรงตอนไล่ผู้ร้ายเลยอิๆๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะค่ะ ถ้าไม่ชอบ เราแค่บอกมุมมองเราเท่านั้นนะค่ะ ขอให้ดุ series ให้สนุกนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 00:50:16 จากคุณ : Kwanie (kwanie) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:48:45

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนที่ 2 The Blind Banker เป็นตอนทื่อ่อนที่สุด  ดูแล้วละเหี่ยใจ -_-" แต่ทั่วๆไปสนุกดี  ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะรู้สึกเหมือนว่าคนสร้างเขาตั้งใจจะแฝงความเชยๆ เฉิ่มๆ ย้อนยุคเข้าไปอยู่แล้วอะนะ ส่วนตัวนักแสดง Benedict เล่นเป็น Sherlock ได้โดนทรีนมาก เราไม่เคยอ่านหนังสือแต่เราชอบ Sherlock ของ Benedict มากกว่า Downey Jr. คือ Sherlock US. มันต่อสู้เก่งโคดเว่อร์  ซึ่งคาแรคเตอร์แบบนี้มีให้เห็นเยอะแยะใน Hollywood ละ มันก็เลยเฉยๆงัย แต่ Sherlock BBC มันดูไม่ใช่พระเอ๊ก พระเอก ดูมันแปลกๆดี กวนๆ ปากเสียและไม่ได้ดีเวอร์ ดูแล้วเลยรู้สึกรักตัวละคร Sherlock BBC มากกว่า  เพราะมันรู้สึกว่าใกล้ชิดได้มากกว่า (ขำตอนที่ Sherlock ไปวิจารณ์จิมว่าเป็นเกย์  แถมยังบอกว่าซาร่าห์ว่าหวังดีจะได้ไม่เสียเวลา ดูมันกวนทรีนมั้ยล่ะ 5555) จากคุณ : Writing to Reach You เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 16:41:19

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ชอบก็ไปสร้างเองเลยครับ เอาให้ผมอึ้ง ทึ่ง ไปเลยนะ (โกรธ) จากคุณ : Winters16 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 04:13:36

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งดูจบสดๆร้อนๆ ชอบมากๆค่ะ เราว่ากำลังดีแล้ว อย่าได้อะไรไปกว่านี้เลย Sherlock เป็นนักสืบที่ใช้หลักอนุมาน ไม่ใช่ประเภทเจมส์ บอนด์หรืออะไรเทือกๆนั้น ที่เราบอกว่าแค่นี้กำลังดีแล้ว ก็เพราะว่าเบื่ออะไรที่มันเห็นได้เยอะแล้วจากพวกหนังฮอลลีวู้ดนี่แหละค่ะ ถ้า Sherlock ออกมาแนว CSI ไรพวกนี้ เราคงไม่ดู จากคุณ : ~In.A.Hive~ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:08:48

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าอ่านโฮล์มแบบนิยายมานะ แล้วจะรู้ว่าเป็นซี่รี่ย์ทำเป็นยุคปัจจุบันมันฮา มันไม่ทิ้งจากนิยายเท่าไรนัก โดยเฉพาะช่วงที่โฮล์มวิเคราะห์นิสัยพี่ชายของวัตสัน โดยดูโทรศัพท์ กับแบบดั้งเดิมคือดูนาฬิกาพก เป็นอะไรที่ฮาแล้วฮาอีก ทำไปได้ 55555&nbsp;<img src จากคุณ : เคปัง (เคปัง) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 01:15:06

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบเวอร์ชั่นนี้มาก ชอบตรงการนำเสนอกับการอ้างอิงเนื้อหาเดิม เรามองว่าเค้านำเสนอได้เก๋ดีอีกอย่างเชอร์ล็อคเป็นนักสืบเน้นใช้หัวนะถ้าบู๊มากไปมันจะไม่ใช่เอกลักษณ์ของโฮล์มเอาน่ะสิ จากคุณ : Living In The Blue Sky เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 00:20:14

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามองในแง่ข้อผิดพลาด ที่ซีรี่ย์ยังไม่เพอร์เฟค มีอยู่เยอะเลย ความไม่สมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง การเชื่อมโยงเหตุการณ์ ตัวละครไม่หล่อ ไม่เหมือนจินตนาการ มอริอาตี้ เหมือนเกย์จริงๆ ยิ่งกว่าปลอม ฯลฯ แต่ถ้ามองในแง่ของเอาตัว Sherlock ที่โคนันดอยสร้างไว้ มาปรับให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ก็โอเคนะ แม้หลายอย่างจะอ่อนไป แต่ยังคงบุคลิกบ้าๆ บอๆ ของเชอร์ล็อค ไว้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ความสามารถในการวิเคราห์คนจากการสังเกตุ นิสัยเล็กๆ น้อยๆ ของเชอร์ล็อคโฮล์ม ตอนดูแรกๆ ทำใจไม่ค่อยได้ ที่หน้าตาเชอร์ล็อคกะหมอวัตสันเลือกมาเช่นนี้ เพราะตั้งแต่อ่านงานโคนันดอล์ยมาทุกเรื่อง จินตนาการทั้ง 2 ไว้ดีกว่านี้มาก แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว ดีกว่าไม่มีให้ดู แม้จะดูเชอร์ล็อกติงต๊องกว่าหนังสือ อย่างเปิดเรื่องมา Study in Scarlet แปลงเป็น Study in Pink อะไรแบบนี้ คำว่า Scarlet กะ Pink มันคนละเรื่องไปเลย ฟังแล้วต๊องขึ้นมาทันที แต่ก็ดีที่เนื้อหาไม่เหมือนเดิมเป๊ะ อย่างคำว่า RACHE ที่แปลว่าแก้แค้นโผล่ขึ้นมา ให้รู้ว่ามีความเชื่อมโยงแบบเก่า แต่ไม่ทั้งหมด มันเป็นแค่รหัสของชื่อราเชล ตลกดี เอาเป็นว่า ก็ผ่านนะ ที่อย่างน้อยมีให้ดู ถ้าเต็ม 10 ให้เวอร์ชั่นอังกฤษไปเลย 6.5 ดีกว่า Sherlock ฉบับ Hollywood ที่เสียความรู้สึกสุดๆ เชอร์ล็อคดูบ้าบิ่น บ้ากาม หน้าแก่ ฯลฯ จำได้ว่าตอนเปิดตัว Irene Adler หนังสือบอกว่าเป็น Most Beautiful Creature แล้ว Sherlock ก็ไม่ได้ปิ๊งจริงจัง ขนาดเป็นนางเอกที่นอนด้วยอย่างในหนังโรง เห็นตัวละครฉบับ Hollywood แต่ละคน บอกได้คำเดียวว่า ไม่คิดจะดูภาคไหนๆ อีกเลย จากคุณ : geekgal เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 55 17:23:36