[Skill: Presence Concealment Class]
แจ็คนั้นชอบที่จะเก็บตัวอยู่ในความมืดยามกลางคืนเสียมากกว่าเพราะมันสามารถช่วยปกปิดตัวตนของเธอได้เป็นอย่างดี และเนื่องจากรูปร่างและเสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งหลายของเธอนั้นมันค่อนข้างจะเปิดเผยสัดส่วน....ซึ่งเธอก็อายเรื่องนี้มาก ทำให้กลางวันนั้นเธอจะชอบทำตัวเป็นฮิคิโมริเก็บตัวอยู่ในบ้านหรือที่ซ่อนตลอดเลย แต่เมื่อต้องออกต่อสู้เธอยังมีทักษะ [Presence Concealment Class/ปิดซ่อนตนตัว] ที่เป็นความสามารถพรางตัวของแอสแซสซินในระดับสูง โดยแจ็คสามารถใช้ทักษะนี้ซ่อนตัวเธอได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดชนิดที่ว่าแม้แต่เซอร์แวนท์ด้วยกันยังไม่อาจรู้ตัวได้เลย มีเพียงแต่จุดอ่อนตามปกติเล็กน้อยตรงที่ความสามารถของทักษะนี้จะลดลงอย่างมากเมื่อเธอ "เจตนา" โจมตี... แต่สำหรับแจ็คแล้วเธอมีทักษะเฉพาะตัวบางอันของฆาตกรมาช่วยอีกทอดนึงนั่นคือ The Murderer of the Misty Night นั่นเอง
Note:
*** หากมองกันตรงๆ Skill PC ซึ่งเป็นของประจำคลาสแอสฯนี้มีดีมากในการ-หลบหนี-ซ่อนพราง-เดินทาง-รวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อหาจังหวะที่ฝ่ายคู่ต่อสู้ "เผลอ" ที่สุดก่อนการลอบโจมตีครับ (ไม่ใช่ปะทะกันตรงๆ) เพราะหากสู้กับวีรชนด้วยกันเอง เตรียมโจมตีเมื่อไหร่เซอร์แวนท์ฝ่ายตรงข้ามนั้นเก่งพอจะรู้ตัวแน่นอน (แหงแซะ วีรชนเหมือนกัน) แถมพลังต่อสู้จะสูงกว่าด้วย....จึงจะเห็นได้ว่าเป็นทักษะที่ผู้ใช้ต้องอดทนเอาเรื่องทีเดียวในสงครามจอกฯ
[Noble Phantasm: The Mist~ Darkened Misty Metropolis]
[Skill: Murderer of the Misty Night ]
ทักษะโดดเด่นเฉพาะจนกลายเป็นอาวุธวิเศษ (Noble Phantasm) ของหนูโลลิ Jack The Ripper เลยครับ กับชื่อที่ผมตั้งให้เองว่า "นครแห่งหมอกสีทมึน" และ "ฆาตกรแห่งสายหมอกยามราตรี" ซึ่งมาจากวีรกรรมการฆ่าคนต่อเนื่องแบบสะท้านโลกในลอนดอน ซึ่งเป็นทักษะจากคุณสมบัติฆาตกรของเธอมากกว่ามือสังหารโดยปกติในสงครามจอกฯ โดยเธอสามารถใช้ความสามารถนี้ในการโจมตีกับคู่ต่อสู้ได้ทุกแบบ ซึ่งหมอกมรณะนี้มีคุณสมบัติหลายอย่างทีเดียว และจะสามารถใช้ออกมาได้สำเร็จแน่นอนในยามกลางคืน...แต่ถ้าใช้ในเวลากลางวันจะต้องขึ้นกับค่า Luck อีกอย่างนึง
คุณสมบัติหลักที่น่าสนใจ เช่น
- คุณสมบัติเป็นเขตเวทมนต์ (Bounded Field) ที่เคลือบแน่นไปด้วยหมอกพลานาเข้มข้นสีทึม
- หมอกพลาน่าจะฆ่ามนุษย์ธรรมดาที่อยู่ในพื้นที่ได้ในไม่กี่นาที ส่วนผู้ใช้เวทนั้นอาจไม่ตายทันทีแต่จะถูกหกัดกร่อนทำลายไปเรื่อยๆ
- ระดับเซอร์แวนท์จะไม่ได้รับความเสียหาย แต่จะถูก Down Rank ด้านความเร็วต่างๆทั้งหมด และสูญเสียทรรศนะวิสัยภายในอนาเขตหมอกไป
- ผู้ที่จะรอดไปได้ต้องทักษะเวทมนต์ระดับ B หรือ "สัญชาติญาณ" ในระดับสูงเท่านั้น ด้วยการหลบหนีออกจากพื้นที่
- ผู้ใช้ความสามารถนี้ (Jack นั่นแหละ) สามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครได้รับผลกระทบ หรือให้ใครรอดจากผลกระทบของหมอก
- หากใช้ในขณะที่เป็น Berserker เธอจะปลดปล่อยความสามารถนี้ออกมาตลอดเวลา
ที่น่าคิดอีกอย่างก็คือ -- ความสามารถนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเธอกลายเป็นวิญญาณวีรชน-- แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะศาสตร์เวทที่เธอเคยใช้มาก่อนในระหว่างที่ยังมีชีวิต เพราะระหว่างที่เธอกำลังไล่ล่าหาเหยื่อนั้น มีเรื่องกล่าวขานกันว่า "เมื่อแจ็คมา~~หมอกจะหนาทึบโดยทันทีทันใด..." ซึ่งทำให้เธอสามารถเข้าประชิดเหยื่อได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น (ถึงระวังตัวก็ยากจะรู้ทิศทาง) โดยผู้คนจำนวนมากจะรู้ตัวได้ก็ต่อเมื่อเธอยืนพูดอยู่ตรงหน้าแบบประชิดตัวเท่านั้นเอง
Note:
หมอกเหล่านี้ เกิดจากตำนานสมัยช่วงปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ในยุโรปครับ ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับความหนาวเย็น~~ถึงแม้หน้าหนาวของอังกฤษจะทารุณมากก็เถอะ แต่เป็นเพราะมีการนำเครื่องจักรไอน้ำ/ ถ่านหิน และเชื้อเพลิงเผาไหม้ต่างๆเข้ามาเป็นปัจจัยการผลิตจำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษมากมายเช่น คาบอนมอนนอกไซด์, ซัลเฟอร์, ไอปรอท ปกคลุมเป็นหมอกไอร้อนไปทั่วจนบางทีถูกเรียกกันว่าเป็น "Mist of Death"
~~ และยังไปพ้องกับคำล้อเลียนของคนโบราณที่ขนานนามลอนดอนว่า "The Old Smoke" อีกด้วย โดย หมอกมรณะที่ว่านั้นถูกเปรียบเทียบเสมอกับเหตการณ์ไฟไหม้และควันพิษหนาทึบตลอดช่วงศตรวรรษที่ 19-20 โดยครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือช่วงปี 1952 ที่ฆ่าคนนับหมื่นๆคนได้เลยทีเดียว
โดยประวัติศาสตร์จริงๆสมัยนั้น ชาวบ้านมักเอ่ยถึงยามกลางคืนที่โรงงานมากมายเดินสายการผลิตพร้อมกันจนเกิดหมอกที่ทั้งเหม็น ทั้งแสบ ไปทั่วเมือง ซึ่งมลภาวะเหล่านี้เป็นต้นเหตให้ผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากความป่วยไข้ โดยเฉพาะในพื้นที่แออัดอย่างสลัมที่มีผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก
