ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะเป็น อีโก้ ส่วนตัวของผู้ผลิต ประมาณว่า ข้าจะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้อลังการกว่าเดิม ไม่ได้คิดเลยว่า การไปทำสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด มันเสี่ยงแค่ไหน จากคุณ : กุลิลิ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:03:23

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องบางเรื่องพอย้ายประเภทของวรรณกรรม มันจะแป้กเอาน่ะ ตัวอย่างเช่นหนังหลาย ๆ เรื่องที่เอามาจากเกมหรือนวนิยาย ก็โดนแฟนกร่นด่าเสมอใช่ไหมล่ะ ? ยังไม่รวมถึงอนิเมะที่นำมาจากมังกะหรือนวนิยาย หลายครั้งก็บอกว่าทำได้ไม่ดีเท่าของเดิม หรือมังกะที่ทำต่อจากอนิเมะหรือนวนิยายเอง ก็บอกว่าสนุกไม่เท่าออริจินัลด้วยเช่นกัน ปัญหามันอยู่ที่การแปลงประเภทวรรณกรรม เพราะวรรณกรรมที่ดีเยี่ยมในประเภทนั้น ๆ การที่จะมาแปลงให้เป็นอีกประเภทมันทำได้ยาก เนื่องจากเทคนิคที่ทำให้เสพวรรณกรรมแต่ละประเภทแล้วสนุกมันจะไม่เหมือนกัน พอแปลงแล้ว มันจะต้องใช้เทคนิคใหม่ ส่วนเทคนิคเดิมมันจะใช้ไม่ได้ในทันที พูดตามตรง FF7 ก็เห่อกันในแฟนยุคใหม่มากกว่าแฟนยุคเก่านะ ...ทั้งตัวเกม และการทำอนิเมชั่นเลย แฟนยุคเก่าของ FF ไม่ปลื้ม FF7 สักเท่าไหร่ เพราะมันเริ่มหลุดธีมแฟนตาซียุคเก่าไป แฟน FF7 ที่เล่นเกม ก็ไม่ปลืม FF7AV สักเท่าไหร่ เพราะมันน่าจะจบตั้งแต่ตัวเกมแล้ว เราว่าถ้า FF ดันโดดลงมาทำอนิเมชั่นด้วย มันจะเจ๊งแหลกลาญเอา เรื่องพวกนี้ต้องคัดกรองให้ดีว่าจะหยิบส่วนไหนมาทำ เอามาแปลงโต้ง ๆ ไม่ได้หรอก จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:03:28

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าเกมส์ เกมส์นึงมันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากผสมกันมันเลยสนุก พอมาเป็นการ์ูตูนหลายๆ อย่างก็ถูกตัดทอนออกไป และมีบางอย่างเพิ่มเข้ามา ตรงส่วนนี้แหละ อาจจะให้ไม่สนุกอย่างที่คาดไว้ เหมือนเมื่อตอนเป็นเกมส์ จากคุณ : TrickOrTreat เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:06:19

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจะทำเอาภาค 8 มาทำเป็นซีรีส์เกาหลีก่อนเลยนะ จากคุณ : oommy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:12:18

ความคิดเห็นที่ 5 งั้นผมคงเป็นส่วนน้อยสินะ ที่เล่น FF7 ตั้งแต่สมัยเด็กๆนู้น จนได้มาดู FF7AC อยากบอกว่าชอบมากกก แล้วยิ่งตอนได้มาเล่น FF7CC โอ้โห ซึ้งสุดๆอ่ะ ไม่ชอบภาคเดียวใน FF7 คือภาค FF7DC เล่นแล้วเมาหัวมากอยากอ้วก -*- ส่วน FF ภาคอื่นผมชอบหมดตั้งแต่ 1-10,12 แต่ผมไม่ชอบภาค 13 สุดๆไม่รู้ทำไมเหมือนกัน จากคุณ : กับเธอตลอดไป เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:15:38

ความคิดเห็นที่ 6 เนื้อเรื่องของเกม โดยเฉพาะเกม RPG ส่วนใหญ่ของโลก จุดเด่นที่ทำให้ผู้เล่นชื่นชอบไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาอย่างเดียว แต่ระบบการเล่นและการนำเสนอในลูกเล่นแบบเกม มีส่วนช่วยอย่างมาก การนำเฉพาะความสนุก หรือจุดเด่นของเนื้อหามาทำ มันก็จะติดปัญหาเช่นเดียวกับพวกหนังสือวรรณกรรมครับ (ซึ่งมีจุดเด่นที่ การใช้ภาษาหนังสือ ให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการและเกิดความสุนทรีย์ในการอ่าน แต่พอเป็นภาพยนตร์สิ่งเหล่านั้นก็ต้องหายไป) จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนศาสตร์ในการนำเสนอ แล้วยังทำให้ผู้ชมได้เสพอรรถรสของมันได้ครบถ้วนหรือใกล้เคียงต้นฉบับเดิม อีกทั้งทุนในการสร้างอนิเมชั่น ก็ไม่ใช่น้อย แล้วมันก็มีความเสี่ยงที่สูง จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเนื้อหาของไฟนอลแต่ละภาค ยาวมาก ไม่สามารถทำเป็นเนื้อหาเดอะมูฟวี่ที่กระชับและจบในตัวเองได้ง่าย ๆ และหากจะทำเป็นซีรี่ยส์ฉายทีวีรายสัปดาห์ ก็เห็นกันอยู่ครับว่าคุณภาพมันไม่ถึง ความสวยงามที่คนหลงใหลในเกมก็เหลือไม่มากพอจะได้รับคำชืนชมได้ และอันที่จริงถึงผมจะชอบดูเช่นกัน แต่ก็มองเห็นว่า FF7AC เอง ก็ไม่ได้มีความเป็นหนังที่ดีเลย การวางพล็อต ลำดับภาพ บท และการกำกับ ยังขาดชั้นเชิงที่ควรจะมีในอนิเมภาพยนตร์อยู่มาก แต่จุดเด่นที่ได้รับความนิยมคืองานภาพ คิวบู๊แอคชั่น จากคอเกมบางกลุ่มที่เหนียวแน่นและการโปรโมตโฆษณาที่เยอะมากต่างหาก ว่าง่าย ๆ ก็คือมันเป็นภาพยนตร์แฟนเซอร์วิสมากกว่าภาพยนตร์ที่มีความเป็นภาพยนตร์ ส่วนตัวผมว่าหนังโรง Spirit Within ไม่ได้มีความผิดพลาดในแง่ของภาพยนตร์ครับ เพราะการเล่าเรื่อง ประเด็นสำคัญต่าง ๆ และคุณภาพ แม้ว่าการกำกับบทจะมีความบันเทิงต่ำไปหน่อย (แต่หนังอาร์ตฝรั่งเศสระดับรางวัลหลายเรื่องก็น่าเบื่อและซับซ้อนกว่านี้) แต่ Spirit Within ตอบโจทย์ความเป็นหนังได้ถูกต้องกว่า FF7AC เสียอีก แต่ความผิดพลาดของมันคือ การพยายามขายวงการหนังสากลด้วยการสร้างบรรยากาศหนังเป็นไซไฟและตัวละครที่ฝรั่งจัดจ้านต่างหาก ผมเห็นว่า ถ้าไฟนอลจะเป็นหนัง น่าจะมีทางเลือกเพียงแค่ 2 ทาง 1.ทำหนังภาคเสริมเอาใจแฟน ๆ แบบ FF7AC และงานภาพมีคุณภาพสูง มีความบันเทิงสูง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีและหากำไรได้ไม่ยาก แต่แบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมสร้างต่อยอดไฟนอลแฟนตาซีในทางวงการภาพยนตร์ได้ เพราะนั่นไม่ใช่ภาพยนตร์ (และจะเอาทั้งภาคมาทำซีรี่ยส์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะออกมาดีด้วยการลงทุนแบบอนิเมซีรี่ยส์ ดังเหตุผลข้างต้นครับ) 2.ทำหนังที่มีเนื้อหากระชับได้ใจความ จบในตัวเองได้ หรือไม่ถูกเปรียบเทียบกับเกมภาคใด ๆ อย่างเช่น Spirit Within หรือจะทำซีรี่ยส์ออริจินอลแบบ Unlimited (ซึ่งในญี่ปุ่นได้รับความนิยมพอสมควร) หากทำได้ดี เนื้อหาตอบโจทย์ความเป็นภาพยนตร์ (หรือซีรี่ยส์) มีคุณภาพสูง และมีความบันเทิง โดยรักษาเอกลักษณ์ของชื่อไฟนอลแฟนตาซีที่คนรู้จักเรื่องนี้ชื่นชอบ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ (แต่แน่นอนว่าต้องเสี่ยง ดังที่บอกไว้ข้างต้น) ตามนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 17:27:12 จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:24:09

ความคิดเห็นที่ 7 อยากให้เอา final fantasy 6 มาทำ หุ่นยนต์+เวทมนต์เป้นอะไรที่สุดยอดมากกกก จากคุณ : นกเพนกวินถลาแล่นลม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:26:28

ความคิดเห็นที่ 8 มีอีก จากคุณ : นกเพนกวินถลาแล่นลม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:32:38

ความคิดเห็นที่ 9 ที่เห็นชัดที่สุดเลยคือมันยาวเกินครับ ยิ่งถ้าตัดผมว่าความสนุกมันจะหายไปเยอะนะ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:36:52

ความคิดเห็นที่ 10 นั่นสิดราก้อนเควสยังมีหนังวสือการ์ตูนกับเขาเลย ทำไมฝัง FF ไม่มีหว่า หรือมันดีไซน์ฉากกอลังการจนวาดมือได้ยากเลยหาคนวาดไม่ได้ จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:37:26

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนตัวสุดๆ ตอนนี้ชอบ Type-0 มากๆ กำลังเล่นอย่างเมามัน แต่ถ้าเอาไปสร้างหนัง ถ้าเป็นภาพแบบซีจีก็โอเคนะ ไม่เอาคนจริงๆ เดี๋ยวรับไม่ได้ ทำอนิเมก็น่าสนอยู่ แต่ไม่รู้สิ อนิเมที่ทำจากเกม ถ้าเป็นเกมที่ยังไม่เคยเล่นก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเคยเล่นแล้ว ความน่าติดตามมันหายไปหน่อยนึงน่ะ สำหรับไฟนอล...ภาพสวยๆ ดึงดูดสายตา อาจจะเปลี่ยนใจอยากติดตามดูก็ได้ ก็มันชอบอ่ะนะ (เลือกไม่ถูกเลย) จากคุณ : รู้รึเปล่าว่าเค้าคือแมว เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:39:29

ความคิดเห็นที่ 12 จริงๆผมมองว่าการนำเกมมาทำเป็นหนังมันประสบความสำเร็จยาก ยากกว่าการเอานิยายมาทำเป็นหนังซะอีก เพราะจากเกมเราเปรียบเสมือนได้สวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนั้นๆ ถึงตัวเอกมันจะงี่เง่าน่ารำคาญขนาดไหน แต่ด้วยความที่มันเหมือนเป็นตัวเรา เราก็เลยไม่ได้รู้สึกขัดใจมาก แต่ถ้ากลายมาเป็นหนังแล้วตัวเอกงี่เง่าตัวเดิมออกมา เราจะกลับกลายเป็นหงุดหงิดเพราะนั่นไม่ใช่ตัวแทนของเราอีกต่อไป แต่กลายเป็นตัวละครที่แสดงบทให้เราดู ดังนั้นผมว่าการเอาเกมมาทำหนังนั้น มีแต่เสมอตัวกับห่วย คือถ้าทำมาโอเคก็เสมอตัวไป แต่ความประทับใจมันยากที่จะมีมากกว่าตอนเล่นเกมอยู่แล้วในความคิดผมด้วยเหตุผลตามที่กล่าวไปครับ ยิ่งเป็นเกมที่ดังสุดๆอย่าง FF ด้วยแล้วนี่ เป็นใครก็คงไม่อยากจะเสี่ยงละนะครับ และผมว่าก็อย่าทำเลยดีแล้วครับ จากคุณ : พี่หมีขั้วโลก เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:39:41

ความคิดเห็นที่ 13 #5 เคยติดตาม FF อยู่พักหนึ่ง เคยไปอยู่ที่ All-Final ด้วย (รวมถึง G-Console ตั้งแต่ยุคก่อตั้ง) ก็เห็นคนบ่นเรื่อง FF7AC มากกว่าที่ชมนะ และเราว่ามันทำให้บักคล้าวด้อยค่าไปด้วย เพราะมันน่าจะจบตั้งแต่ตอนจบเกมแล้ว ดันให้มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องรู้สึกผิดเรื่องของแอริสอีก... เราว่ามันไม่ใช่น่ะ ซึ่งคนที่ไม่ชอบ ไม่ชอบเพราะตรงจุดของเนื้อเรื่อง ซึ่งจะมักจะเป็นสาวกรุ่นเก่า ส่วนคนที่ชอบ จะชอบเพราะตรงจุดของกราฟฟิค และความเท่ของตัวละคร ซึ่งส่วนนี้จะเป็นสาวกรุ่นใหม่ เรายังไม่เห็นว่าคนที่พูดถึงเรื่อง FF7AC นี้ จะชอบที่เนื้อเรื่อง แต่ไม่ชอบที่กราฟฟิคกันเลยนะ (เพราะสาวกFFชอบที่เนื้อเรื่องอยู่แล้ว กราฟฟิคยังไงมันก็เป็นเรื่องรอง กราฟฟิคแย่ขนาดไหนก็ผ่านมาหมดแล้วนิ ที่พูดถึงกันก็เพราะเนื้อเรื่องล้วน ๆ) จากคุณ : ซ่อนนาม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:04:34

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนตัวคิดว่าเพราะซีรี่ย์ FF ยึดติดกับความเปลี่ยนแปลงครับ ความเปลี่ยนแปลงเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์นี้ อย่างตัวเกมก็มีการเปลี่ยนระบบทุกภาค ถ้าจะสร้างภาพยนตร์หรืออนิเมะออกมาแบบเป็นเรื่องเป็นราว ผมคิดว่า SQEN คงอยากจะทำเนื้อเรื่องใหม่มากกว่าที่จะเอาเนื้อเรื่องเดิมมาดัดแปลงหรือต่อยอด เพื่อที่มันจะกลายเป็นอีกภาคหนึ่งที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเองไปเลย (เพราะอย่างนั้นจึงออกมาเป็น Spirit Within ที่เจ๊ง ) อีกอย่างหนึ่งก็คือถ้าจะสร้างหนังหรืออนิเมะก็ต้องมั่นใจก่อนว่าสร้างแล้วไม่เจ๊ง มีคนดู อย่าง FF7 เป็นตัวเลือกที่ดี ฐานแฟนของภาคนี้มีเยอะ ภาคนี้ถูกยกให้เป็นภาคที่ยอดที่สุดสำหรับคนที่โตมาในยุค PS1 ส่วนใหญ่ คงเป็นเพราะกราฟฟิคกับเนื้อเรื่องที่ล้ำเกินในยุคนั้นด้วย แฟน ๆ เลยบูชากันใหญ่ ไม่แปลกอะไรถ้าออก Spin-offs มากี่ภาคก็ยังขายได้ .. แต่ที่จริง FF7 จะเห่อในหมู่แฟนยุคหลังจริง ๆ นั่นแหละ อย่างผมเองก็รู้สึกว่าภาคแรก ๆ กับภาค 9 สนุกกว่า แต่พวกเพื่อนที่เริ่มเล่น 7, 8 มาก่อนจะอวยสองภาคนี้กันสุด ๆ (แล้วพวกที่ชอบ 7 กับ 8 จะไม่ชอบ 9 กันซะเป็นส่วนใหญ่) จากคุณ : ยุวปัญญ์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:08:37

ความคิดเห็นที่ 15 บางอย่างก็ควรที่จะอยู่แค่เฉพาะตรงนั้น หากต่อยอดหรือเปลี่ยนแปลงจากของเดิมไป ความคุ้นเคยของคนจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง เกิดทำขึ้นมาแล้ว เจ๊ง ก็ไม่คุ้มค่าสักนิด สมมุติว่า เกมส์ทำออกมาประสบความสำเร็จอยู่แล้ว  แล้วจะเปลี่ยนไปทำหนังหรือการ์ตูนทำไม ? การ์ตูน/หนังเรื่องหนึ่ง ใช้ทุนอย่างต่ำ 300 ล้านเป็นอย่างต่ำ เอาทุนไปพัฒนาเกมส์ไม่ดีกว่าเหรอ จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:20:45

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบภาค 4, 5, 6, 7 และ 9 เกลียดภาค 8 ภาคอื่นไม่เคยเล่น ไม่มีความเห็นครับ จากคุณ : น้ำแข็งไสใส่นมข้นหวานรสเค็ม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:28:48

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่ามันทำยากมากเลยนะ เพราะมันยาว อีกอย่างเนื้อหาอยู่ในเกมไปหมด แล้วไม่รู้จะทำอะไรอ่ะครับ จากคุณ : digimarukung เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:40:47

ความคิดเห็นที่ 18 จะว่าไปก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะกันระหว่าง คนเสพกราฟฟิค กับคนเสพเนื้อเรื่องด้วยนินะ แต่ผมว่าขออะไรที่มันลงตัวๆพอดีๆดีกว้า -*- จากคุณ : Crestfall เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:46:46

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ว่า ffac เนื้อเรื่องมันห่วยมากเลยนะ คือถ้าไม่รู้จักหรือเคยเล่นมาก่อน คงจะแบบ ไรของมันฟะ ขนาดเคยเล่นผมก็ยังแอบรำคาญหลายฉากมาก - -' ทุกวันนี้ที่เปิดดู คือกรอไปดูฉากบู้อย่างเดียวเลย จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:04:36

ความคิดเห็นที่ 20 FF7AC ผมว่าเนื้อเรื่องจริง ๆ มันไม่ค่อยน่าดูเท่าไรนะ พอใส่ซับหมี่หยกเข้าไปเท่านั้นแหละ ขำกลิ้งฮาไม่บันยะบันยังเลย จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:55:58

ความคิดเห็นที่ 21 หลายๆอย่างมันไม่เหมาะครับ 1.เนื้อเรื่องและภาพต่างๆของแต่ละภาคเป็นเอกลักษณ์ของมันเกินไป การจะนำมาทำซักภาคต้องดูทั้งกลุ่มลูกค้า แนมโน้ม การหานักวาด สถานที่ลงการ์ตูน 2.การดำเนินเรื่องเป็นรูปแบบนิยาย ที่ค่อยๆเปิดไป ซึ่งยาวเกินไป ไม่เหมาะกับการเขียนเป็นตอนๆ ไป เพราะว่าหากไม่มีการพีคเป็นระยะหรือฐานลูกค้าที่ดี มันจะขายไม่รุ่ง ไม่คุ้มเสี่ยง 3.ที่เคยๆทำกันไปก็มีเฟลไปแล้วอย่าง ภาค 13 เทียบกับ DQ ที่แนวเรื่อง ธีมเป็นอะไรที่ง่าย เข้าถึงทุกวัย ฐานลูกค้าเก่าทั้ง โทริยามะ หรือเกมมันถาวรกว่า เลยทำได้ครับ จากคุณ : recnalxam เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:00:09

ความคิดเห็นที่ 22 ซัพหมี่หยกนั่นมันเนียนจริงๆ จากคุณ : Bluesardeen เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:25:04

ความคิดเห็นที่ 23 พูดถึงซับหมี่หยกยังฮาไม่หายเลย ตอนดูครั้งแรกถึงกับสำลัก 5 5 5 จากคุณ : กับเธอตลอดไป เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:05:20

ความคิดเห็นที่ 24 เพื่อไม่รู้กัน FF อนิเมมีครั้งแรกสมัยภาค5ครับ เป็นเรื่องในอีก200ปีหลังจากจบเนื้อเรื่องหลัก จากคุณ : GrooVe_(t -_-)t เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:43:07

ความคิดเห็นที่ 25 มุมมองของค่ายมากกว่า พวกเชื่อว่าคนไม่ชอบเนื้อเรื่องที่รู้อยู่แล้ว เลยไม่อยากทำ แต่เดิมยอดพวกเรื่องที่ทำตามต้นฉบับเป๊ะ ก็ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ อย่าง Tales of Abyss, Valkyria Chronicles หรือ Devil May Cry ตอนนี้ Persona 4 ขายดีแบบนั้น น่าจะเริ่มเปลี่ยนความคิดกันบ้าง ทั้งที่เดินเรื่องตามต้นฉบับเกือบหมด ถึง P4 จะออกแบบมาเพื่อการ์ตูนอยู่แล้วก็เถอะ แต่คงมีพวกที่คิดจะลองเอาเรื่องตัวเองไปทำมากขึ้น คห.15 ทุน 300 ล้านเยน อนิเมะมีงบสปอนเซอร์ช่วยเหลืออยู่ เอาจริงๆ ก็ไม่ต้องแบกรับภาระทั้งหมด ยิ่งไปขอพวกเกมที่มีผลิตภัณฑ์ของเล่น ไม่น่าจะหาสปอนเซอร์ยากแบบอนิเมะรอบดึก จากคุณ : Vortex เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:08:55

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้ภาค 4-5-6 อยู่ในใจ และเป็น original final fantasy ของผมไปแล้ว จากคุณ : centuryboy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:16:36

ความคิดเห็นที่ 27 ในฐานะคนเขียนนิยายแล้ว อยากบอกว่าการแปลงเนื้อหา FF มาทำการตูน จะอนิเมะ หรือมังกะ ต้องบอกเลยว่า "มันยากถึงยากมากครับ" ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับซีรีย์ดราก้อนเควสจะเห็นชัด ถ้าเราเป็นคนที่เล่นเกมทั้งสองตระกูลนี้แทบทุกภาค จะเห็นชัด ดราก้อนเควสมีลักษณะเหมือนนิยายผจญภัยชั้นเยี่ยม ที่เน้นถึง ความกล้าหาญ มิตรภาพ ความฝัน การเดินทางสู่โลกกว้าง และเรื่องราวของผู้คนต่างๆ ไฟนอลแฟนตาซีมีลักษณะเหมือนหนังซีรีย์ไซไฟแฟนตาซีชั้นเยี่ยม ที่เน้นความอลังการของโลก ฉาก การโฟกัสเน้นที่เหล่าตัวละครหลัก เน้นถึงปมซับซ้อน บทโรมานซ์ ผมว่าถ้าจะมีใครแปลงบทไฟนอลมาเป็นมังกะได้ คงประมาณ อจ.นาโอกิ อุราซาว่า ที่ชอบเล่าเรื่องราวการตูนแบบบทหนังเป็นบทๆ กับ คนเขียนบัสตาร์ด ที่เก่งในการวาดฉากอลังการ ส่วนอนิเมะไฟนอล จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:40:07

ความคิดเห็นที่ 28 ทำยากครับเนื้อเรื่องยาวมากๆขนาดเฉพาะเนื้อเรื่องไม่รวมฉากต่อสู้ ก็ล่อไป10ชั่วโมงแล้วเป็นอย่างน้อย FF7AC นี่ผมไม่ชอบเลยเหมือนเอาของเก่ามาขายทั้งที่มันควรจะจบไปแล้ว ไฟนอลมันมีหลายยุคนะ ภาค 7 นี่ฉีกแนวของภาค 6 ไปเยอะพอควร และภาค 8 ก็ฉีกออกไปยิ่งกว่าเดิมอีกและภาค 9  ก็รวมทุกอย่างและตัดบางอย่างจนมันสมดุล ที่เล่นมาชอบภาค 5 6 8 9 ภาค 7 นี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่( คนส่วนน้อยหรือเปล่าหว่า)   ยิ่งภาค 8 ยิ่งชอบ เป็นการส่วนตัวครับ ระบบแปลกเซตง่ายดี เหมือนไม่ใช่ไฟนอลเลยและที่สำคัญ กันเบลด เท่มาก^_^ แต่เล่นนานๆ ภาค  5 6 9 มีอะไรให้ทำเยอะกว่ามากๆ ( ภาค 8 เต็มที่แค่ไปไล่ ดูเอล ยึดไพ่ชาวบ้าน มาทุบทำอาวุธ เซตจังค์ชั่น) จากคุณ : ปีโป้รสมะนาว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:29:51

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบ 1-6 อ่ะครับ มันดูคลาสสิคดี โดยเฉพาะภาค 6 นี่สุดๆ เลย จากคุณ : Setzer Gabbiani เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 02:52:39

ความคิดเห็นที่ 30 ... ff 4   เหมาะมากกับการนำมาทำเป็นหนัง  แต่ไม่มีใครอยากทำเพราะเนื้อหาซ้ำซากเกินไป จากคุณ : ดาราวิปลาส เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:09:36

ความคิดเห็นที่ 31 คห.4 ทำไมต้องทำเป็นซี่รี่ย์เกาหลีก่อนละในเมื่อต้นฉบับเค้าเป็นญี่ปุ่น เอะอะอะไรก็เกาหลีไปหมด โดยส่วนตัวละไม่ชอบแบบนั้นเลย ไม่ได้มาก่อมาม่านะ แต่พอเห็นพิมพ์แบบนั้นละออกแนวไม่ชอบเท่านั้น ส่วน FF7AC ผมชอบมากนะ FF7 ผมเห็นสมัยประถมปลายเพื่อนพูดถึงเยอะ แต่ก็ไม่ได้สัมผัสอะไรมันมากนัก เพราะไม่มีเครื่องเล่น พอมาเป็น FF8 ผมกลับชอบมากกว่า FF7 อีก อาจเพราะภาพมันสวยกว่า เพลงเพราะมาก และเนื้อเรื่องแนวโรแมนติกก็ได้ ส่วน FF10 นี่ดราม่าได้โล่ อิอิ แต่ก็ชอบนะ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 15:46:55 จากคุณ : leeyuubun เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 15:41:59

ความคิดเห็นที่ 32 คห.14 ผมชอบทั้ง7 8 9 นะครับ ผมก็โตมากับภาค7นะ พอออกเป็น ac ผมว่าทำถูกใจผมเลย อีกทั้งผมชอบภาค9มากกว่าภาค8อีกนะมันแปลกดีชอบ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 20:23:20 จากคุณ : ปราชญ์ (kirayamato) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:21:32

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณทุกความเห็นครับ จากคุณ : 12elease เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:23:23

ความคิดเห็นที่ 34 ที่FF7 ได้เป็นอนิเมชั่นน่าจะเพราะว่ามีฐานแฟนๆเยอะที่สุด ทำแล้วไม่เจ๊งแน่ๆ จากคุณ : GrandOpera เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 17:18:18