เราอยากดู Real Steel มากเสียจน....
|
 |
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเมื่อวาน ไปCentral พระราม 2 ก็อยาก ดูReal Steel ก็ไปถึง ประมาณ บ่ายสาม จ่อคิว โรงMajor เพื่อมาให้ โดน ฟันค่าตั๋ว (พักหลังรู้สึกว่าMajor ตั๋วแพง ไม่มีเหตุผลราคาหน้าตั๋วปรกติ190 ในขณะที่ SF120 เอง) ก็มีบัตร M gen อะไรนั่นหน่ะ ลด อีก20 บาทต่อที่ ก็ไปซื้อ ตั้งแต่บ่ายสามน ิดๆบอกน้องค่ะ เรื่องReal Steel Soundtrack รอบต่อไปกี่โมงเค้าก็บอกว่าห้า โมงแล้วก็มี บทสนทนาราคาตั๋ว กับการเลือกที่นั่งอีก 1 นาที พอดูที่นั่งแล้วโอ้แม่เจ้าไม่อยาก นั่งหน้าเลยบอกน้องเค้าน้องค่ะ พี่ขอดูรอบต่อไปได้ไหม มีกี่โมงเอาSound Trackนะอ๋อ รอบต่อ ไป 18:30 ครับรีบตอบ ทันควัน ก็โอเค มีที่ก็ สาละวนกับการเลือกที่นั่งและ ราคาตั๋วVip และธรรมดาอีกนิด หน่อยสุดท้ายตัดสินใจดู ธรรมดาพอก็มาชั่งใจเลือก ระหว่างD ข้างๆ กับE ตรงกลาง อีก30 วินาที ซื้อตั๋วเสร็จเพิ่งบ่ายสามครึ่งอีก ตั้ง3ชั่วโมงก็ไปเดินเล่น กินข้าว จ่ายค่าโทรศัพท์ ไปธนาคาร จนได้เวลาเข้าโรงก็ดูโฆษณาไป ตามปกติ จำไม่ได้ ว่ากินเวลาไป เท่าไหร่ หลังจากเพลงสรรเสริญ จบก็เข้าสู่หนังเริ่มต้นมาก็ฉาย ภาพทุ่งนาทุ่งหญ้าฉายพระเอก ขับรถไปเรื่อยๆ จนพระเอก จอดรถนั่งนิ่งๆในรถแปร๊ปหนึ่ง และตัดภาพไป ตอนเช้าพระเอก ลุกจากที่นอนด้วยอาการสร่ าง เมาเป็นเสียงโทสับและเสียง พระเอกร้อง ด้วยความรำคาญ ประมาณว่าเสียงครางจาก การ โดน โทสับปลุกและเสียงพระเอกหล่น จากเตียงเพื่อไปรับโทสับ พระเอก ร้อง"โอ๊ย" ยังงงงงฝรั่งอะไรร้องโอ๊ยและสัก พักโสตประสาทก็ได้ยินพี่ พันธมิตรพูดว่ารู้แล้วๆ มา แล้วๆ เราและเพื่อนหันมามองหน้ากัน อัตโนมัติและพูดว่า"เราซื้อ sound track ไม่ใช่เหรอ" จากนั้นลมเริ่มออกหูฉันเสียเวลา รอ 3ชั่วโมงกับค่าตั๋วอีก เกือบ200 เพื่อมาดูสิ่งที่ไม่ ต้องการเหรอนี่(เด๋วมาเล่าต่อ)
หลังจากนั้นพระเอกก็รัวภาษา ไทยต่อด้วยเสียงพันธมิตร เป็น ชุด แต่ตอนนั้น จิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวหล่ะควัก ตั๋วหนังขึ้นมาดู (เมื่อก่อนตั๋วหนัง จะมีเขียนว่า sub en.) ก็พบว่าในตั๋วหนังไม่ได้ระบุอะไร เกี่ยวกับภาษาก็เลยตัดสินใจเดิน ออกจากโรง เพราะรู้สึกว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง
ดันนั่งอยู่ตรงกลางซะด้วยสิหนัง เพิ่งเริ่มฉาย คนอื่นคงคิดว่า อีนี้ เป็นอะไรมากหรือเปล่า จะมาลุกจากโรงหนังตอนนี้พอ ออกจากหน้าโรงเปิดประตูปุ๊ป เจอ พนักงาน ของ Major พอดี 2 คน แบบพนักงานหน้าโรงที่ใส่เสื้อกั๊ก สีทองด้วยความที่ลมออกหู ก็ฉะ เลย "น้องค่ะพี่ว่าพี่แจ้งหน้า counter แล้วนะ ว่าพี่จะดู sound track แต่ นี้มันพากษ์ไทยอ่ะคะ" น้องผู้ชายคนนั้นก็แสนดีก็ดูตอบ สนองและบริการลูกค้าดี ก็แจ้งว่า แต่เรื่องนี้ไม่มี sound track เลย นะครับ "หา ไม่มี sound track"เลยเหรอ "ครับพี่ ที่สาขานี้ เรื่องนี้ไม่มี sound track เลย" ควันยิ่งออกหู แล้วบอกว่า "ถ้า อย่างนั้นยิ่งต้องแจ้งพี่ใหญ่เลย เพราะพี่เลือกรอบหนัง ถึง 2 รอบ และ ย้ำว่า พี่เอา sound track นะถึง 2 รอบ หรือเผลอๆ มากกว่าด้วย จากนั้นก็เล่าวิธีการซื้อตั๋วหนังให้ พนักงานท่านนั้นฟัง ตั้งแต่แรกว่า เจรจากับหน้า counter เรื่อง อะไรบ้าง
ก็พูดต่อว่า "เพราะพี่มาซื้อตั้งแต่ บ่ายสามมีรอบห้าโมง พี่เห็นมัน เต็ม ก็เลยมาเลือก หกโมงครึ่ง" ถ้าพี่ซื้อเลือกรอบหนังแค่ครั้งเดียว โอเค อาจจะฟังพลาดกันได้ แต่นี่ พี่เปลี่ยนรอบหนังถึง 2 รอบ และมั่นใจว่าย้ำมากกว่า 2 ครั้ง ว่า sound track นะ sound track นะ (นี่แปลว่า มันไม่ฟังตรูเลยนะเนี่ย) มิน่าหน้ายังกะตรูดไอ้เราก็คิดว่า หน้าตรูด เพราะตรูถามเยอะไป หน่อยเปล่า ก็แหม ตั๋วหนังสมัยนี้มันอะไรกัน บ้างก็ไม่รู้ vip ราคาหนึ่ง โรงดิจิตอลอีกราคา หนึ่งโรง soundby digital อะไร เนี่ยก็ราคาหนึ่ง ราคาโรงธรรมดา ที่นั่งปรกติก็ อีกราคาหนึ่ง คนก็งงสิ แล้วเดี๋ยวนี้มี 3 มิติ 4 มิติอะไรอี กอ่ะบางทีก็โรงแบบว่า เสียง digital แต่ภาพธรรมดา บางทีก็ภาพ digital เสียง double surrond อะไรอีกเนี่ย
(ต่อนะ) จากนั้นน้องผู้ชายที่แสนดี ก็พาไปเจอหน้า counter และ เหมือนพาไปเจอ ผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ไม่แน่ใจว่าเป็น manager หรือ เปล่าอ่ะนะก็น้องผู้หญิงก็ถามว่า เกิดอะไรขึ้น ก็เล่าให้ฟังใหม่เป็นรอบที่ 2 น้องผู้ หญิงเลยยืนยันว่าสาขานี้เรื่องนี้ ไม่มี sound track ได้ยินประโยคนนี้(อีกแระ) ลมจับ "เลย บอกน้องเค้าไปว่า"ถ้าอย่าง นั้นยิ่งต้องแจ้งพี่ ตั้งแต่รอบแรกห้าโมงแล้วว่าไม่มี sound track ไม่ใช่ปล่อยให้พี่ เลือกรอบหกโมงครึ่งอีก น้องผู้หญิงก็เลยขอโทษและแจ้ง ว่า ต้องการเปลี่ยนตั๋วหนังเป็น เรื่องอื่นไหม เลยบอกไปว่า ไม่อ่ะค่ะอยากดู เรื่องนี้ สามารถทำอะไรได้บ้าง คือ น่าจะแจ้งพี่ว่าไม่มี พี่ก็จะได้ ไปดู major อื่นก็ได้ พี่จะได้ไม่ ต้องรอถึงตั้งแต่บ่ายสามโมงกว่า เพื่อรอดูหนัง รอบ 6 โมงครึ่ง น้องผู้หญิงเลย แจ้งว่าจะคืนค่าตั๋วให้
เราก็เลยโอเคเพราะก็ไม่อยาก อะไรมาก คิดว่าอย่างน้อย เค้าคืน ค่าตั๋วให้ก็ถือว่าแฟร์ดี (เพียงแต่อาจจะหงุดหงิดเล็กน้อย ที่ต้องรอตั้ง 3 ชั่วโมง กว่าจะได้ดู แถมยังไม่ได้ดูอีก)
น้องผู้หญิงก็ถามว่าไม่ทราบว่า จำได้ไหมว่าซื้อ counter เบอร์ อะไร ด้วยความที่จำไม่ได้จริงๆจำได้ แต่ว่าประมาณกลางๆ เนี่ยแระ ไม่ 4-5 ก็ 6 ก็แจ้งน้องเค้าไปแบบนั้น ปรากฎว่าพอทำเรื่องคืนเงินเสร็จ เพื่อนก็บอกว่า เค้าจำได้แต่ เพื่อนเดินไปดูหน้าน้องคนขายคน นั้นแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่เพราะน่าจะมีการ เปลี่ยนกะกันแล้วหรือเปล่าไม่ แน่ใจ เพราะเห็นเพื่อนบอกว่า ชุดที่พนักงานใส่จะเป็นอีกสีหนึ่ง จากตอนบ่ายสามที่ซื้อ
สุดท้ายออกจาก central ทุ่มกว่า เพื่อไปดู SF ที่เดอะมอลล์บางแค รอบ 21.10 ดูเสร็จก็ห้าทุ่มครึ่ง เป็นอันสมใจอยาก
จบด้วยประการฉะนี้แล เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าวันหลังต้องย้ำ หลายๆ รอบว่า Soundtrack นะ
มิได้มีเจตนาเป็นอื่นใด นอกจากต้องการให้เป็นอุทาหรณ์
ไม่อยากให้เรื่องง่ายๆเช่นนี้ เกิดความเข้าใจผิดอีก
เราไม่ชอบดูหนังโรง ที่เป็นพากษ์ไทยนิ เสียตังค์เข้าไปดูในโรงเพราะ อยากได้ความมันส์ และความ สมจริง ปากพูดพร้อมเสียง แล้วแถมพากษ์ไทยในเมืองไทย เค้าตัดเสียง film original บาง ส่วนออกด้วย จะไปสมจริงอะไรถ้าเสียงพากษ์ ไทย ปรับปรุงให้รักษาเสียงอื่นๆ ในหนังก็คงดี ก็คงจะไม่เรื่องมากแบบนี้อ่ะแระ
ปล. ตั๋วหนังที่ SF ก็ไม่ได้ระบุแฮะ ว่าเป็น sub eng จากที่เมื่อก่อน เค้าจะระบุกันนี่หน่า
| จากคุณ |
:
Florist Blossom  
|
| เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 55 11:45:05
|
|
|
| 
