Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[อวยคลาส Lancer] ขุนพลพันธุ์ทิพย์เอ๋ยบอกข้าเถิด หอกใดล้ำเลิศในปฐพี? ติดต่อทีมงาน

  Longinus หอกแห่งโชคชะตา (13 คน)
  Gungnir หอกเจ้าแห่งการกวัดแกว่ง (5 คน)
  Amenonuhoko หอกเพชรแห่งสรวงสวรรค์ (0 คน)
  Spear of Lugh หอกแห่งเพลิงแดนไอร์แลนด์ (0 คน)
  Gae Bulg เกโบลก์ของชูคูลัน (3 คน)
  Gae Buidhe + Gae Dearg ( หอกกุหลาบทอง-แดง ) (3 คน)
  Leister of Poseiden หอกสามง่ามแห่งโพเซดอน (6 คน)
  Trishula Spear of Shiva (ตรีศูล หอกสามง่าม มหาศาสตราวุธแห่งพระศิวะและเทวีทุรคา) (11 คน)
  หอกอสรพิษแห่งแผ่นดินจีน (1 คน)
  สามหอกในตำนานเซนโกกุ ได้แก่ ทนโบกิริ-หอกพิฆาต(ตัด)แมลงปอ , โอเตงิเนะ และนิฮองเงะ (2 คน)

 29.55%
  Longinus หอกแห่งโชคชะตา (13 คน)
 11.36%
  Gungnir หอกเจ้าแห่งการกวัดแกว่ง (5 คน)
 0.00%
  Amenonuhoko หอกเพชรแห่งสรวงสวรรค์ (0 คน)
 0.00%
  Spear of Lugh หอกแห่งเพลิงแดนไอร์แลนด์ (0 คน)
 6.82%
  Gae Bulg เกโบลก์ของชูคูลัน (3 คน)
 6.82%
  Gae Buidhe + Gae Dearg ( หอกกุหลาบทอง-แดง ) (3 คน)
 13.64%
  Leister of Poseiden หอกสามง่ามแห่งโพเซดอน (6 คน)
 25.00%
  Trishula Spear of Shiva (ตรีศูล หอกสามง่าม มหาศาสตราวุธแห่งพระศิวะและเทวีทุรคา) (11 คน)
 2.27%
  หอกอสรพิษแห่งแผ่นดินจีน (1 คน)
 4.55%
  สามหอกในตำนานเซนโกกุ ได้แก่ ทนโบกิริ-หอกพิฆาต(ตัด)แมลงปอ , โอเตงิเนะ และนิฮองเงะ (2 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 44 คน


ตามไปอ่านข้อมูลข้างล่างนี้  จึงเป็นที่มาของกระทู้  ดังมีรายละเอียดคร่าวๆ ที่ย่นย่อมาไว้ที่นี้คือ

Lance of Longinus;
หอกแห่งโชคชะตา หรือ หอกแห่งลองกินัซ เป็นหอกที่ใช้แทงสีข้างของพระเยซูขณะถูกตรึงไม้กางเขน ชื่ออื่นๆของหอกนี้คือ  Spear of Destiny, Holy Spear, Lance of Longinus, Spear of Longinus or Spear of Christ  ซึ่ง ลองกินัซ (Longinus) ถูกยกย่องเป็นเซนท์ หลังจากตรึงกางเขนและสังหารพระเยซูและหันกลับมานับถือคริสต์ในท้ายสุด (น่าจะถือมาจากการที่ลองกินัซเปรียบเป็นหนึ่งในผู้ทำให้กระบวนการลงทัณฑ์แห่งพระเจ้าเสร็จสมบูรณ์)

Gungnir Spear of Odin
กุงนีร์ – หอกของมหาเทพบิดรโอดิน ชื่อกุงนีร์แปลว่า เจ้าแห่งการกวัดแกว่ง ( แต่ จขกท ชอบเรียกว่ากุนกุนิล นะ ) สัญลักษณ์แห่งผู้นำชิ้นสำคัญอีกชึ้นหนึ่งของมหาเทพโอดินผู้ยิ่งใหญ่ หอกนี้เป็นหนึ่งในของวิเศษโดยฝีมือของกลุ่มลูกหลานแห่ง อีวัลดี (Ivaldi) โดยช่างดวาร์ฟชื่อ ดวาลิน (Dvalin) หอกนี้มีฤทธิ์ปาไม่พลาดเป้า และมหาเทพบิดรโอดินใช้หอกกุงนีร์ในการรบกับหมาป่ายักษ์เฟนริล ในศึกแร็คนาร็อค จนสิ้นพระชนม์

อาเมะโนะนุโฮโค หอก(แบบที่เรียกว่า นากินาตะ)ของเทพอิซานางิและอิซานามิ เทพเจ้าทั้งสองผู้สร้างแผ่นดินแห่งแรกขึ้น  หอกอาเมะโนะนุโฮโค หมายถึง หอกเพชรแห่งสรวงสวรรค์

Spear of Lugh or Spear
หอกแห่งเพลิง(เป็นพระนามของเทพพระองค์หนึ่งตามตำนานไอริชด้วย) หอกนี้ถูกใช้ในการสู้รบกับดวงตาอสูร ซึ่งเป็นราชาแห่งชนเผ่ายักษ์ ถือเป็นหนึ่งในสี่สิ่งล้ำค่าแห่งไอร์แลนด์

Gae Bulg Spear of Cuchulainn
เกร์โบลก์ หอกของคูชูเลน วีรบุรุษแห่งตำนานไอริช มีสมญานามเช่น หอกรอยบาก, หอกทรงโปร่ง, ลูกดอกทรงโปร่ง หรืออาจจะหมายถึง หอกสายฟ้า ซึ่งมันสร้างมาจากกระดูกของอสุรกายจากท้องทะเลนาม คอยเชนน์ หอกนี้คูชูเลน ได้มาจากอาจารย์ซึ่งเป็นวีรสตรีนาม สคาแธช (Scathach)

Trishula Spear of Shiva
ตรีศูล หอกของพระศิวะ มหาเทพของฮินดู ตรีศูล มีนัยยะถึง อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นมหาศาสตราวุธของพระศิวะที่มีเรื่องเล่าและตำนานมากมาย หนึ่งในนั้นคือ อาวุธที่ทำตามโองการของพระศิวะในการตัดพระเศียรเดิมของพระพิฆเนศวร จนในที่สุดต้องใช้เศียรช้างมาชดเชยเพื่อทดแทนพระเศียรเดิม นอกจากนี้ ตรีศูลยังเป็นอาวุธของเจ้าแม่ทุรคาและพระนารายณ์อีกด้วย  ถือเป็นหอกอย่างหนึ่งที่มีปลายหอกเป็นลักษณะสามง่าม

หอกสามง่าม บางทีถูกเรียกว่า เลสเตอร์ (leister) หรือ กิ๊ก(gig) เป็นหอกศาสตราของโพเซดอน เทพเจ้าแห่งมหานที  ซึ่งหอกสามง่ามนี้ได้มาจากไซครอปจากท้องทะเล

หอกทั้งสามในตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งสร้างขึ้นจากฝีมือของช่างระดับตำนานของญี่ปุ่นได้แก่
1. Tonbogiri ทนโบกิริ หอกนามกระเดื่องว่า หอกพิฆาต(ตัด)แมลงปอ ตำนานเขาว่าบังเอิญมีแมลงปอบินมาเกาะด้านคมของใบมีดซึ่งมันคมกริบจนสามารถตัดแมลงปอตัวนั้นขาดเป็นสองท่อน  ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาวุธคู่กายของ ฮอนดะ ทาดะคาซึ หนึ่งในสุดยอดขุนพลของผู้ยิ่งใหญ่ของ โตกุงาวะ อิเอยาซุ
2. Otegine โอเตงิเนะ ... ยังไม่มีข้อมูล
3. Nihongo นิฮองเงะ หรือ นิปปอนเงะ หอกที่มีชื่อเสียงซึ่งถูกใช้ในราชสำนัก นิฮองเงะ โดยตามลำดับเป็นอาวุธของโชกุน อาชิคางะ โยชิอากิซึ่งพระจักรพรรดิมาซาชิอะกิเป็นผู้มอบให้ ถัดมากลายเป็นของโอดะ โนบุนากะ(จอมคนผู้พลิกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นคนหนึ่ง) และต่อมา โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ จากนั้นก็มาถึง มาซาโนริ ฟูกุชิมะ และท้ายสุด ทาเฮย์ โมริ ปัจจุบันมีแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองฟูกุโอกะ

เครดิตที่มาของรายละเอียด : http://writer.dek-d.com/emperors/story/viewlongc.php?id=310423&chapter=22

แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 00:19:15

แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 22:37:00

จากคุณ : หงส์อรุณ
เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 18:07:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com