ความคิดเห็นที่ 1 1 คำจ้างวานจากเฮนริก วังเกอร์ มิเกล บลอมควิสต์ นักเขียนมือฉมังของนิตยสารมิลเลนเนียม มีปัญหากับฮันส์ เอริก เวนเนอร์สตอร์ม ซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสวีเดน เพราะดันไปเขียนแฉเรื่องธุรกิจมืด ของเวนเนอร์สตอร์ม แต่กลับกลายเป็นว่า เวนเนอร์สตอร์ม วางหมากไว้แล้ว จงใจปล่อยข้อมูลปลอม ล่อให้พระเอกมาติดกับ สุดท้ายมิเกล ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งชื่อเสียง ระหว่างที่มิเกลไม่รู้จะหาทางออกยังไง ก็มีการติดต่อจาก เฮนริก วังเกอร์ อดีตซีอีโอ ของวังเกอร์ คอเปอร์เรชั่น ว่าจ้างให้ตามหา แฮร์เรียต หลานสาวที่หายสาบสูญไป เฮนริก วังเกอร์ ยื่นเงื่อนไขว่า ถ้ามิเกล (ซึ่งมีทักษะในการค้นข้อมูลที่ยอดเยี่ยม) สามารถค้นพบแฮร์เรียตได้ นอกจากจะให้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว เขาจะให้ข้อมูลลับของเวนเนอร์สตอร์ม ที่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืด และมีการฟอกเงินจริงๆ มิเกล ตอบรับข้อเสนอและย้ายจากสตอล์กโฮล์ม มาอยู่ที่เฮเดสตัดเมืองเหนือเมืองหนาว พักติดกับครอบครัววังเกอร์ เพื่อสืบข้อมูล แต่ยิ่งสืบ ก็ได้ข้อมูลประมาณหนึ่ง แต่ไปต่อไม่ได้ ทำให้เขาต้องหาผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญในการค้นคว้า และสุดท้ายก็ไปได้ตัว ลิสเบ็ธ ซาลันเดอร์ สาวนักแฮกเกอร์อัจฉริยะ ที่มีรอยสักรูปมังกรบริเวณแผ่นหลัง ลิสเบ็ธอายุ 23 แล้ว แต่มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ จึงอยู่ในความคุ้มครองของรัฐ ต้องมีผู้ปกครอง (Guardian) คอยรายงานพฤติกรรมเสมอ ทีนี้หลังจาก โฮลเกอร์ พาล์มเกร็น ผู้ปกครองคนเดิมไม่สบาย รัฐจึงส่งลิสเบ็ธให้ผู้ปกครองคนใหม่คือ นิลส์ เบอร์แมน ซึ่งเป็นคนของรัฐไว้คอยดูแลความประพฤติ (ไอ้อ้วนคนนั้นน่ะล่ะ !) แต่ นิลส์ กลายเป็นพวกบ้ากาม และพยายามข่มขืนลิสเบ็ธ ซึ่งสุดท้ายถึงจะโดนข่มขืน แต่ลิสเบ็ธ ก็อ่านเกมขาดกว่า จัดการแบล็คเมล์ นิลส์ ซะ เลยไม่มีปัญหาทั้งกับรัฐ และเรื่องเงินอีกต่อไป มิเกล เดินทางมาสตอกโฮล์มส เพื่อเจรจากับลิสเบ็ธให้ช่วยสืบคดีฆาตกรรม ลิสเบ็ธตกลง และ ย้ายมาอยู่ที่เฮเดสตัด เพื่อช่วยสืบคดีด้วยกัน ว่า "แฮร์เรียต" หายไปไหน จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 20:57:06

ความคิดเห็นที่ 2 2 การหายไปของแฮร์เรียต  เฮนริก วังเกอร์ วัย 82 มีปมในใจเพียงอย่างเดียวคือ ไม่รู้ว่าหลานสาวที่รัก "แฮร์เรียต" หายไปไหนตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ในวันงานเทศกาลธรรมดาประจำปีของหมู่บ้าน อยู่ๆแฮร์เรียตก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  คืนแรกหลายคนคาดว่าอาจไม่มีอะไรรุนแรง แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีใครเจอแฮร์เรียต จึงมีการระดมหาอย่างหนักเป็นสัปดาห์ ทั้งทางบก และทางน้ำ แต่ก็ไม่มีวี่แววอะไรเลย  สิ่งที่เฮนริกมั่นใจคือ การหายไปของแฮร์เรียต ต้องเกี่ยวกับตระกูลวังเกอร์อย่างแน่นอน อาจมีใครสักคนฆ่าหรือลักพาตัว ไม่ใช่แค่ เฮนริก แต่คนในตระกูลวังเกอร์ อยากรู้คำตอบว่าแฮร์เรียตหายไปไหน โดยเฉพาะมาร์ติน พี่ชายแท้ๆของแฮร์เรียต ที่เป็นซีอีโอของบริษัทวังเกอร์ในขณะนี้ เป็นคนที่ดูเหมือนยังไม่สามารถลืมน้องสาวตัวเองได้เลย (ทั้งคู่มีพ่อเดียวกันชื่อก็อตต์ฟรีต ซึ่งเคยเป็นซีอีโอของวังเกอร์ คอปอเรชั่น)  ความเศร้าของมาร์ตินในวัยเด็กนั้น พ่อ (ก็อตต์ฟรีต) เมาตกน้ำตาย และหลังจากนั้นอีกแค่ไม่นานนัก น้องสาวแฮร์เรียตก็มาหายสาบสูญไปอีก เขาจึงไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตาม หนทางการสืบก็ดูจะตีบตัน เพราะแม้กระทั่งแอนนิต้า วังเกอร์ ลูกพี่ลูกน้องของแฮร์เรียต ซึ่งว่ากันว่าสนิทกับแฮร์เรียตที่สุด แถมหน้าตาก็คล้ายกัน (ปัจจุบันย้ายไปอยู่ลอนดอนแล้ว) ไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย  ขณะที่ เซซิเลีย พี่สาวของแอนนิต้า ก็ข่มขู่ให้มิเกลเลิกยุ่งกับคดีนี้อยู่ทุกวัน   มิเกล บลอมควิสต์ ถึงไม่ค่อยได้รับความช่วยเหลือ แต่เขาก็พยายามสืบค้นข้อมูล และไปเจอสมุดบันทึกของแฮร์เรียต ที่เขียนตัวอักษรย่อไว้ด้านหลัง   ลิสเบ็ธ สรุปความได้ว่า ชื่อต่างๆนั้นเป็นหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมในหลายๆเมืองที่สวีเดน ซึ่งดูๆแล้วไม่มีความเชื่อมโยงกันเลย แต่จริงๆแล้วความเชื่อมโยงคือ หญิงสาวที่ถูกฆ่าทุกคนเป็นชาวยิว และขั้นตอนการฆ่าจะอ้างอิงจากไบเบิ้ลเสมอ ซึ่งลิสเบ็ธ สรุปได้ว่า คนที่ฆ่าต้องเป็นกลุ่มคนคลั่งนาซีอย่างรุนแรง (นาซีสังหารยิวล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 )  เท่ากับว่าตอนนี้ มีสองคดี ที่โผล่มาคู่ขนานกัน คือ ฆาตกรสาวยิวต่อเนื่อง และ คดีการหายตัวของแฮร์เรียต  ลิสเบ็ธวิเคราะห์ว่า บางทีแฮร์เรียต (ซึ่งว่ากันว่าเป็นคนฉลาด) อาจสืบคดีจนรู้ฆาตกรจึงถูกฆ่าปิดปาก  หลักฐานคือรูปถ่ายในอดีต ที่งานเทศกาล มีคนจับภาพได้ว่า ทันทีที่แฮร์เรียตเห็นใครบางคน ที่ยืนในถนนฝั่งตรงข้าม สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปและเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนับจากคืนวันนั้น  ขณะเดียวกัน ระหว่างที่สืบคดีอยู่ โดยไม่รู้ตัว ลิสเบ็ธ สาวรอยสักมังกร แอบหลงชอบมิเกล และทั้งคู่ก็ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างเร่าร้อน และถึงใจ  จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:00:35

ความคิดเห็นที่ 3 3 ปิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ฆาตกรที่สังหารหญิงสาวชาวยิว ถึงแม้จะดูออกว่าเป็นคนเดียวกัน แต่น่าเหลือเชื่อว่า เขาฆ่าคนไปทั่วประเทศ ทำให้ลิสเบ็ธบีบข้อมูลลงมาได้แคบลงว่า ต้องเป็นคน ที่เดินทางบ่อย ลิสเบ็ธได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลของวังเกอร์ คอเปอร์เรชั่น และเธอก็ปะติดปะต่อข้อมูลจนได้เห็นภาพชัดเจน ทุกครั้งที่ก็อตต์ฟรีต เดินทางไปที่ไหน จะมีหญิงสาวโดนฆ่าเสมอ ทำให้เธอมั่นใจแล้วว่า ก็อตต์ฟรีต พ่อของมาร์ติน และแฮร์เรียต คือฆาตกรต่อเนื่อง  แต่คำถามคือ เมื่อก็อตต์ฟรีตตายไปอย่างกะทันหันจากการเมาแล้วตกน้ำ ทำไมยังมีคดีฆาตกรรมแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีก ?  ในที่สุดคำตอบก็ลงตัว Like Father Like Son คนที่สานต่องานฆาตกรรม ของก็อตต์ฟรีต ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ มาร์ติน วังเกอร์ ซีอีโอคนปัจจุบัน และพี่ชายแฮร์เรียตนั่นเอง ! ขณะที่ลิสเบ็ธรู้ตัวคนร้าย 100% มิเกลก็สืบคดีในมุมของตัวเองและมั่นใจว่า มาร์ติน น่าจะเป็นคนร้ายเช่นกัน  เขาเดินทางไปที่บ้านมาร์ตินเพื่อสืบข้อมูลเพิ่ม แต่เคราะห์ร้ายที่โดน มาร์ตินจับตัวไว้ได้ และจับทรมาน เตรียมที่จะเป็นเหยื่อสังหารรายใหม่ ความจริงเปิดเผยแล้ว ว่ามาร์ติน ความจริงคือฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งฆ่าคนได้แนบเนียนยิ่งกว่า ก็อตต์ฟรีตผู้พ่อเสียอีก  มิเกล โดนทรมาน และกำลังจะหมดลมหายใจ มาร์ตินจึงได้ถามคำถามหนึ่งไป ว่า สุดท้ายแล้ว มิเกล เจอแฮร์เรียตหรือไม่ ?  มิเกล เข้าใจว่าแฮร์เรียต ก็เป็นอีกหนึ่งเหยื่อของมาร์ติน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มาร์ตินเองไม่ได้ฆ่าน้องสาวของตัวเอง  ก่อนมิเกลจะโดนแขวนคอ ลิสเบ็ธมาช่วยได้ทันแบบจวนเจียน มาร์ตินพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอด แต่สุดท้ายก็ขับรถเสียหลักพุ่งล้ม รถระเบิดและต้องเสียชีวิตในที่สุด และแล้ว คดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ปิดฉากลงได้สำเร็จ แต่ทว่า การค้นหาแฮร์เรียตยังคงไม่มีวี่แวว  ถ้าเธอไม่ได้ถูกฆ่า แล้วเธอไปไหน ? ถ้าเธอไม่ได้ถูกฆ่า แล้วเธอหนีออกไปจากเฮเดสตัด และหมู่บ้านที่ทุกคนรู้จักกันโดยไม่มีคนเห็นได้อย่างไร ?  จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:05:54

ความคิดเห็นที่ 4 4 แฮร์เรียต วังเกอร์  มิเกล มั่นใจว่าคนที่รู้เรื่องแฮร์เรียตดีที่สุด คือแอนนิต้า คนที่สนิทที่สุดกับแฮร์เรียต เขาจึงเดินทางไปลอนดอนเพื่อวางแผนล่อให้แอนนิต้าติดกับ ลิสเบ็ธ ติดสัญญาณดักข้อมูลอินเตอร์เนต เพื่อดูว่าแอนนิต้าจะมีปฏิกริยาอย่างไร เมื่อมิเกลเดินเข้าไปบอกข่าวว่า มาร์ติน วังเกอร์ เสียชีวิตแล้ว แต่ปรากฎว่าถึงรู้ข่าว เธอก็ไม่ติดต่อแฮร์เรียตเลย ราวกับว่า แฮร์เรียตไม่มีตัวตนอยู่จริงๆ หรือไ่ม่ก็ตายไปแล้ว มิเกล วิเคราะห์สถานการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เขาเห็นถึงความแตกต่างของ แฮร์เรียต กับแอนนิต้า ทั้งคู่คล้ายกันมาก แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน และเขาก็ได้รู้ว่า จริงๆแล้ว แอนนิต้าที่อยู่ในลอนดอนนั่นล่ะ คือ แฮร์เรียต ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 40 ปีก่อน ประเด็นของเรื่องทั้งหมดคลี่คลายจากปากของแฮร์เรียต เริ่มตั้งแต่ในวัยเด็ก แฮร์เรียต โดนก็อตต์ฟรีตผู้พ่อข่มขืนมาตลอด  ก็อตต์ฟรีตนั้นคือโรคจิตเต็มขั้น ที่ฉากหน้าเป็นซีอีโอบริษัทใหญ่ แต่ฉากหลังทั้งเป็นฆาตกร และมีรสนิยมข่มขืนลูกในไส้ของตัวเอง แต่ในวันหนึ่ง ก็อตต์ฟรีตเมาอย่างรุนแรง และเกิดการต่อสู้กับแฮร์เรียต ทำให้แฮร์เรียตได้จังหวะป้องกันตัวเอง และสุดท้ายก็อตต์ฟรีตก็ตกน้ำเสียชีวิตไป อย่างไรก็ตาม มาร์ติน วังเกอร์ พี่ชายของเธอ ก็ดูเหมือนจะสืบเชื้อชั่วมาต่อ เมื่อกลายเป็นคนที่ข่มขืนเธอต่อจากพ่อตัวเอง  หลังจากมาร์ติน ส่งไปเรียนโรงเรียนประจำที่อุปซาล่า ทำให้แฮร์เรียตเริ่มคิดว่าชีวิตเธออาจจะมีความสุขได้อีกครั้ง  เธอมีคุณอาที่รักเธอด้วยใจจริงอย่างเฮนริก เธอมีลูกพี่ลูกน้องที่เข้าใจเธออย่างแอนนิต้า  แต่ทว่า ในวันงานเทศกาลประจำปีของหมู่บ้าน มาร์ติน ได้กลับมาที่เฮเดสตัดอีกครั้ง และ แฮร์เรียตก็รู้ได้ทันทีว่านรกของเธอยังไม่จบลง ในวันนั้นเอง แฮร์เรียตวางแผนหนีออกจากบ้าน ด้วยการร่วมมือกับแอนนิต้า เธอไม่เอาของอะไรติดตัวไปแม้แต่อย่างเดียว เพื่อให้ดูสมจริง ให้ทุกคนคิดว่าเธอถูกฆ่า  แฮร์เรียต แอบอยู่ในที่เงียบๆระหว่างช่วงกลางดึก และเมื่อเช้ารุ่งขึ้น เธอแอบนอนในกระโปรงหลังของรถแอนนิต้า เพื่อเดินทางไปสตอกโฮล์ม กว่าที่ตำรวจจะมาค้นหา แฮร์เรียตอย่างจริงจังก็สายเกินไปแล้ว ไม่มีใครเห็นเธออีกต่อไป ด้วยความที่หน้าคล้ายกัน ทำให้แอนนิต้า อ้อนวอนสามีของเธอ ให้พาแฮร์เรียต เดินทางไปลอนดอน โดยใช้พาสปอร์ตของแอนนิต้า  ไม่มีใครจับได้ แฮร์เรียตจึงมาอยู่ในลอนดอนนับตั้งแต่นั้น  ขณะที่ในวันหนึ่ง แอนนิต้า กับสามีโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ ต้องเสียชีวิตทั้งคู่ จึงไม่มีใครรู้ความจริงของแฮร์เรียตอีกเลย และเธอก็ใช้ชีวิตในชื่อของแอนนิต้ามาตลอด 40 ปี  จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:10:30

ความคิดเห็นที่ 5 5 ล้างแค้นเวนเนอร์สตอร์ม  ในที่สุดหลังจากคดีคลี่คลายลง มิเกล พา แอนนิต้า (หรือตัวจริงคือแฮร์เรียต) กลับมาที่เฮเดสตัดอีกครั้ง เธอก็ได้เจอกับคุณอาเฮนริก วังเกอร์ ที่คิดถึงเธอมาตลอด 40 ปี  ภารกิจของมิเกล กับ ลิสเบ็ธ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งสิ่งที่มิเกลได้รับตอบแทนก็คือ เงินมหาศาล และ ข้อมูลเรื่องการทุจริต และฟอกเงินของเวนเนอร์สตอร์ม ปัญหาคือหลักฐานที่จะเอาผิดนั้นมีอายุ 35 ปีแล้ว และศาลไม่รับฟ้องแน่นอน  อย่างไรก็ตาม ลิสเบ็ธ ซึ่งตอนนี้หลงรักมิเกลไปแล้ว ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการโค่นล้มเวนเนอร์สตอร์ม ด้วยการเจาะไปในฐานข้อมูลลับ และได้ข้อมูลมาว่า เวนเนอร์สตอร์ม มีธุรกิจเถื่อนกับมาเฟีย และทำการฟอกเงิน โดยมีบัญชีซ่อนไว้ที่หลายๆธนาคารในยุโรป มิเกล ได้ใช้ข้อมูลของลิสเบ็ธมาเขียนเป็นบทความในนิตยสารมิลเลนเนียม และกลายเป็นเรื่องฮิตที่สุดทันที เพราะแน่นอนทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ไม่มีใครรู้เท่านั้นว่า มิเกลได้ข้อมูลนี้มาจากไหน ลิสเบ็ธ แฮกข้อมูลต่อไปจนได้รหัสในการถอนเงินทุกบัญชี ทุกธนาคาร ของเวนเนอร์สตอร์ม ที่เกี่ยวพันกับมาเฟียไว้ในมือ และสิ่งที่เธอทำก็คือปลอมตัว ก่อนจะใช้พาสปอร์ตปลอมเดินทางไปทั่วยุโรป เพื่อถอนเงินในบัญชีออกให้เกลี้ยง และในระยะเวลาแค่เดือนเดียว เวนเนอร์สตอร์มก็ต้องสูญเงินไปมากกว่า 2 พันล้านยูโร  มาเฟียในยุโรปเข้าใจว่า เวนเนอร์สตอร์ม พยายามจะตุกติก จึงส่งคนไปสังหาร และสุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยดี คนที่เกี่ยวข้องกับเวนเนอร์สตอร์ม ไม่คิดจะมายุ่งวุ่นวายกับมิเกลอีกต่อไป จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:13:03

ความคิดเห็นที่ 6 6 ความรักที่สวนทางกัน  ลิสเบ็ธนั้นเป็นไบ เซ็กช่วล เธอมีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับหลายคน แต่ ณ เวลานี้ เธอหลงรักมิเกล บลอมควิสต์จริงๆ ถึงปากจะไม่พูด แต่การทำทุกอย่างเพื่อมิเกล มันก็น่าจะแสดงออกให้เห็นได้ไม่ใช่หรือ ?  เซ็กส์ที่เร่าร้อน .. การช่วยชีวิตมิเกล .. การโค่นเวนเนอร์สตอร์ม  ลิสเบ็ธ แทบไม่เคยทำอะไรเพื่อใคร แต่ในค่ำคืนวันคริสต์มาส เธอได้สั่งเสื้อแจ๊กเก็ตเพื่อนำไปมอบให้กับมิเกล  แต่ก่อนที่เธอจะยื่นให้  มิเกลได้เดินออกมาจากสำนักพิมพ์มิลเลนเนียม กับ เอริก้า เบอร์เกอร์ บรรณาธิการของนิตยสารมิลเลียนเนียม ทั้งคู่เป็นชู้รักกัน  และเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มิเกล คงไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนอย่างที่เธอคิดเลย  ว่าแล้ว ลิสเบ็ธ ก็โยนของขวัญนั้นทิ้งอย่างบอบช้ำ ก่อนจะขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจหายลับไปกับหิมะในคืนวันคริสต์มาส  จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:19:31

ความคิดเห็นที่ 7 จบแล้วครับ รอให้มีภาคใหม่ออกมาเร็วๆ ถ้ามันส์แบบนี้ก็อยากดูอีกนะ จากคุณ : ปล่อยใจ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:21:38

ความคิดเห็นที่ 8 ไปดูมาแล้วค่ะ ไม่ได้อ่านหนังสือ และไม่ได้ดูฉบับสวีเดน พอมาดูฉบับเมกาเลย งงๆไปบ้าง :) แต่สรุปก็ชอบ(เหมือนกัน)ค่ะ จากคุณ : Paul Erdos เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:22:58

ความคิดเห็นที่ 9 ผมไปดูมาวันนี้ออกมาจากโรงก็ยังงงๆเหมือนกัน ได้อ่านกระทู้นี้แล้วเข้าใจ 100% ชอบเรื่องนี้มากว่าจะหาฉบับสวีเดนมาดู ขอบคุณครับ จากคุณ : vol.8 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:29:56

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบบบบ  ลิสเบ๊ธเท่ห์มากๆอ่ะ จากคุณ : stupid_turtle เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 21:50:58

ความคิดเห็นที่ 11 แนะนำดูต้นฉบับของสวีเดน ลิสเบ๊ธเ่ห์กว่านี้ รอยสักการดำเนินเรื่องเจ๊งกว่าเยอะ จากคุณ : manta_anne เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 23:02:13

ความคิดเห็นที่ 12 แล้วเรื่องทั้งหมดมันจบแค่ลิสเบ็ทโยนของขวัญทิ้งแค่นั้นเหรอครับ ยังมีต่อหรือเปล่า? จากคุณ : เพื่อนคาคาชิ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 23:17:24

ความคิดเห็นที่ 13 ลิสเบ็ทเข้มแข็งมาก จากคุณ : dream2dream เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 23:44:08

ความคิดเห็นที่ 14 พระเอกใจร้ายยยยยยย จากคุณ : ZeXmO เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 00:02:38

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบเช่นกันค่ะ แต่ชอบของสวีเดนมากกว่านิดนึง ของผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ ความรุนแรงไม่โหดเท่าของสวีเดน อันนั้นดูแล้วแค้นแทนนางเอกมากๆๆๆ กรณีของผู้ปกครองคนใหม่ รายละเอียดบางอย่างก็แตกต่างกันนิดหน่อย (แต่แอบเดาได้ว่าใครคือแฮเรียต ^^)  นางเอกบางมุมสวยมาก จบแบบนี้ มีเฮิร์ตนะคะเนี่ย 55  ....หวังว่าจะได้ดูทั้งสามภาค แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 00:50:24 จากคุณ : mmmsaka เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 00:38:58

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่งกลับมาจากการดูสดๆร้อนๆ เข้าใจมั้ง ไม่เข้าใจมั้ง พอมาอ่านกระทู้นี้แล้ว เข้าใจ 100% แถมทำให้ผมหลงรักหนังเรื่องนี้เข้าเต็มๆ 1,000% และถ้ามีภาคต่อก็จะติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่มีพลาดแน่นอน 10,000% จากคุณ : meemie989 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 01:24:07

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็อิ้งตอนจบที่นางเอกไปแอบรักพระเอกนี่แหล่ะครับ ทั้งๆที่เราชมอยู่นั้น นางไม่มีทีท่าจะชอบพระเอกเลย แต่ตอนที่นางเอกจะล้างแค้นเวนเนอร์สตอร์ม ผมก็เริ่มเอะใจแล้วว่า ทำไมต้องลงทุนถึงขนาดนั้น ตอนจบ ปวดจิ๊ดมาก จากคุณ : OasisFX เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 02:35:32

ความคิดเห็นที่ 18 ดูมาเมื่อคืน หนังทำดีมาก อยากให้ทำหนังเล่มสองกับสามออกมากเร็วๆจัง หนังสือหนาปึกเลยอ่ะ ถ้าตามหนังสือ คนที่อยู่ลอนดอนคือแอนนิต้า แฮร์เลียตอยู่ออสเตรเลีย หลังจากแอนนิต้ารู้เรื่องอุบัติเหตุ ก็ติดต่อแฮร์เลียต .... แต่เราว่าจบแบบที่หนังจบ twist ดีกว่า :-) แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 10:14:48 จากคุณ : Shupedoo (SHUPEDOO) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 10:11:48

ความคิดเห็นที่ 19 ดูมาเมื่อวาน หนังยาวมาก หนังสนุก ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับ มีที่มาที่ไป ข้อด้อยอย่างนึงคือ ตัวหนังมีหลายประเด็นมากไป คนดูอาจตามไม่ทันได้ แต่อ่านกระทู้นี้แล้วทุกอย่างเคลียร์ จากคุณ : Jason 13 Friday เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 10:36:36

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าไม่ได้เข้าใจผิด ฉบับฮอลิวูด ทำเหมือน ลิชเบธรักมิเกลมากกว่า แต่ฉบับสวีเดนเหมือนมิเกล รักลิชฯมากกว่านิสนึง จากคุณ : ลมหนาวใต้ภูผา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 12:40:39

ความคิดเห็นที่ 21 คห. 20 ใช่ค่ะ ฉบับสวีเดน มิเกลน่าจะปิ๊งลิซฯ มากกว่า เพราะหลังจากมี sex กัน เช้ามา มิเกลมองลิซฯ ตาเยิ้มเลย แต่ลิซฯ กินมื้อเช้าไม่สนใจเลย จากคุณ : BabyRed เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 14:27:52

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคห.20&21 เราว่าลิซสวีเดนเท่ห์ ลิซออลลี่วู๊ดเหมือนสก๊อยโดยเฉพาะรอยสัก จากคุณ : manta_anne เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:18:16

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วไม่มีใครแจ้งว่าแอนนิต้าตายเลยหรือครับ หมายถึงใบมรณะบัตรไรงี้ แล้วอย่างนี้ถ้าแอนนี้ต้าตายไปแล้ว แล้วแฮเรียตซึ่งเป็นแอนนีต้าตัวปลอม จะเดินทางไปไหนมาไหนเค้าไม่สงสัยเลยหรอว่า ผีเดินทางได้ 55+ จากคุณ : เจี๋ยมเจี๊ยม เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 17:43:31

ความคิดเห็นที่ 24 ของสวีเดนนางเอกดูสมจริงอ่ะ ถึงภายนอกจะไม่เยอะเท่า แต่เธอแต่งเป็นสาวฮ้าวแล้วขึ้นกว่าในความคิดเรา แรกๆดูไม่ชอบนางเอกเลยจะแมนไปไหน แต่ดูๆไปแล้วเริ่มรัก นางเอกน่ารักอ่ะ ยิ่งดูยิ่งชอบ ตอนจบก็สวยมากๆ แต่สวีเดนเราว่าจบสวยนะ สงสัยว่ามันจบไม่เหมือนกันหรอ งง จากคุณ : dne เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 18:42:39

ความคิดเห็นที่ 25 ภาคต่อไปอยากให้พระเอกไปเจอแจ๊คเก็ตในกองขยะอ่ะ  55555 เราชอบเวอร์ชั่นนี้น่ะ เพราะไม่เคยดูก่อนหน้า มันสนุกครบเครื่องดีอ่ะ ลิชเบ็ธแบบนี้ล่ะ ดูแล้วเข้าถึงดี แบบงงๆ ฮา ลิชเบ็ธเป็นตัวแทนหญิงที่แอบรักเค้าข้างเดียว โดนจริงอะไรจริง อิๆ ผู้หญิงหน้ามึนๆ ตึงๆนี่แหละ เวลาแอบรักใครก็เจ็บมากๆทุกที เหมือนมีเกราะของตัวเองตั้งเด่นอยู่ แบบไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่แคร์ แต่ก็เจ็บน่ะเว้ย เข้าตัวเอง T^T แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 21:02:22 จากคุณ : "เธอใช่ไหมคนที่ฉันรอ" เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 21:01:49

ความคิดเห็นที่ 26 คห 25 แอบคิดอยากให้เจอเจคเก็ตในถังขยะแบบเรา 555+ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 21:18:55

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วหอบหายใจถี่ไปกับมันขนาดนี้ ชอบมากอะ อยากหาหนังสือมาอ่านซะแล้วสิ จากคุณ : หวานเว่อร์ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 23:15:05

ความคิดเห็นที่ 28 ยังไม่ได้ดูฉบับใหม่นะฮะ เคยแต่ดูของสวีเดน และชอบมาก ถ้าเนื้อเรื่องในรีเมคเป็นไปตามที่ จขกท.กล่าว ก็คงจะเปลี่ยนจากเดิมไปพอสมควร ที่ จขกท.เล่ามานั้น เรากลับรู้สึกว่าต้นฉบับมีความสมเหตุสมผลกว่่าในหลายจุดอยู่ เดี๋ยวจะมาว่าความแตกต่างไล่ไปทีละข้อเลยละกัน (อิงจากความทรงจำที่ดูมาซักพักนึงแล้วนะฮะ ผิดพลาดประการใดเพิ่มเติมได้นะฮะ) 1.เฮนริก วังเกอร์ ยื่นเงื่อนไขว่า ถ้ามิเกล (ซึ่งมีทักษะในการค้นข้อมูลที่ยอดเยี่ยม) สามารถค้นพบแฮร์เรียตได้ นอกจากจะให้เงินจำนวนมหาศาลแล้ว เขาจะให้ข้อมูลลับของเวนเนอร์สตอร์ม ที่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจมืด และมีการฟอกเงินจริงๆ ///ข้อนี้ เฮนริก ยื่นเงื่อนไขแค่ให้มิเกลมาสืบระหว่างรอพิจารณาคดีของเขา(3 เดือน) โดยเสนอค่าจ้างอย่างงาม และให้เหตุผลว่าอย่างน้อยมิเกลคงจะอยากถอยออกมาจากที่ที่เขาอยู่ และพ้กเรื่องปัญหาของมิเกลเองซักพัก( อยู่เฉยๆฟุ้งซ่าน และทำอะไรไม่ได้ หนีมานอกเมืองและหาเงินใช้น่าจะดีกว่า) และอีกเหตุผลที่สำคัญคือ แฮร์เรียตและมิเกลมีความหลังร่วมกันอยู่ นั่นคือในวัยเด็กของมิเกลนั้น ขณะที่เคยมีโอกาสมาอยู่ที่เมืองนี้ช่วงระยะหนึ่ง แฮร์เรียตเธอเป็นพี่เลี้ยงดูแลเขาอยู่(จำความสัมพันธ์ระหว่างบ้านของมิเกลและตระกูลวังเกอร์ไม่ค่อยได้แล้วฮะ) 2. มิเกล ตอบรับข้อเสนอและย้ายจากสตอล์กโฮล์ม มาอยู่ที่เฮเดสตัดเมืองเหนือเมืองหนาว พักติดกับครอบครัววังเกอร์ เพื่อสืบข้อมูล แต่ยิ่งสืบ ก็ได้ข้อมูลประมาณหนึ่ง แต่ไปต่อไม่ได้ ทำให้เขาต้องหาผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญในการค้นคว้า และสุดท้ายก็ไปได้ตัว ลิสเบ็ธ ซาลันเดอร์ สาวนักแฮกเกอร์อัจฉริยะ ที่มีรอยสักรูปมังกรบริเวณแผ่นหลัง ///มิเกลสืบจนได้ข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติมมากกว่าที่เฮนริกพยายามค้นหามา 40 ปี ซึ่งหลักฐานสำคัญคือไดอารี่ของแฮเรียต ที่มีชื่อและตัวเลขอยู่เป็นปริศนาคาใจ ขณะที่มาถึงทางตันนั้นเอง ลิสเบ็ธ ซึ่งทำงานเป็นนักหาข้อมูลรับจ้าง โดยอาศัยความสามารถด้านแฮ๊กเกอร์เป็นสำคัญ ผู้เคยรับจ้างจากเฮนริกในการสืบค้นเรื่องราวของมิเกลก่อนที่เฮนริกจะตัดสินใจเรียกมิเกลเข้ามาสืบหาหลานสาวและได้ทราบจากการ หาข้อมูลของลิสเบธว่าเฮนริกเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีดังกล่าว ลิสเบ็ธนั้นเองด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงได้แฮ๊กเข้าคอมพิวเตอร์ของมิเกลต่อมาเรื่อยๆจึงได้ทราบความว่า มิเกลถูกเฮนริกจ้างวานให้ทำอะไร และด้วยความรอบรู้ในไบเบิลของเธอ ทำให้เธอทราบทันทีว่า ตัวเลขในไดอารี่ที่เธอแฮ๊คได้จากคอมพ์ของมิเกลนั้น คือตัวบทข้อความในคำภีร์ไบเบิล เธอจึงแอบส่งอีเมลลับแจ้งปริศนาของตัวเลขแก่มิเกล โดยไม่บอกว่าตนเองเป็นใคร มิเกลจึงยิงคำถามไปสู่เฮนริก ว่าใครคือตัวช่วยของเขา เฮนริกแจ้งว่ามิเกลเท่านั้นที่พวกเขาจ้างมาสืบสวน แต่เฮนริกก็พอเดาออกว่าคนที่มิเกลหมายถึงคือใคร มิเกลจึงตามหาลิสเบธ เพื่อมาช่วยงานของเขาให้ง่ายขึ้นทันที แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 09:17:53 จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:01:01

ความคิดเห็นที่ 29 3. ไม่ใช่แค่ เฮนริก แต่คนในตระกูลวังเกอร์ อยากรู้คำตอบว่าแฮร์เรียตหายไปไหน โดยเฉพาะมาร์ติน พี่ชายแท้ๆของแฮร์เรียต ที่เป็นซีอีโอของบริษัทวังเกอร์ในขณะนี้ เป็นคนที่ดูเหมือนยังไม่สามารถลืมน้องสาวตัวเองได้เลย (ทั้งคู่มีพ่อเดียวกันชื่อก็อตต์ฟรีต ซึ่งเคยเป็นซีอีโอของวังเกอร์ คอปอเรชั่น)  ความเศร้าของมาร์ตินในวัยเด็กนั้น พ่อ (ก็อตต์ฟรีต) เมาตกน้ำตาย และหลังจากนั้นอีกแค่ไม่นานนัก น้องสาวแฮร์เรียตก็มาหายสาบสูญไปอีก เขาจึงไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียว /// ฉบับสวีเดน ทุกคนในตระกูลวังเกอร์ ณ ขณะนั้น นอกจากเฮนริกแล้ว ไม่มีใครที่จะใส่ใจการหายตัวไปของแฮร์เรียตอีกเลย แม้กระทั่งข่มขู่ให้มิเกลยกเลิกการค้นหาซะ (ซึ่งนั่นยิ่งย้ำให้ความอยากรู้ของมิเกลยิ่งมากขึ้นตามไปอีก) มาร์ตินพี่ชายของแฮร์เรียตนั้นก็ไม่ต่างไปจากวังเกอร์คนอื่นๆ ดีที่ว่าเขายังคงเป็นมิตรและต้อนรับมิเกลในระดับหนึ่ง ซึ่งถึงพ่อของเขาจะตายไปแล้วก็ตาม แม่ของเขา(และแฮร์เรียต)ยังคงมีชีวิตอยู่ 4. อย่างไรก็ตาม หนทางการสืบก็ดูจะตีบตัน เพราะแม้กระทั่งแอนนิต้า วังเกอร์ ลูกพี่ลูกน้องของแฮร์เรียต ซึ่งว่ากันว่าสนิทกับแฮร์เรียตที่สุด แถมหน้าตาก็คล้ายกัน (ปัจจุบันย้ายไปอยู่ลอนดอนแล้ว) ไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย  ///แอนนิต้า ย้ายไปอยู่ที่ลอนดอน หลังจากแฮเรียตหายตัวไป และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งหลายปีมาแล้ว จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:12:48

ความคิดเห็นที่ 30 5. ทุกครั้งที่ก็อตต์ฟรีต เดินทางไปที่ไหน จะมีหญิงสาวโดนฆ่าเสมอ ทำให้เธอมั่นใจแล้วว่า ก็อตต์ฟรีต พ่อของมาร์ติน และแฮร์เรียต คือฆาตกรต่อเนื่อง  ///ฉบับสวีเดน เมื่อทั้งมิเกลและลิสเบธได้เงื่อนงำ เป็นเพราะในตระกูลวังเกอร์นั้น ในเจเนอร์เรชั่นรุ่นปู่ จะมีสามทหารเสือพี่น้องที่บ้าคลั่งนาซี ซึ่งเมื่อตัดตัวเลือกได้แล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่หนึ่งในสามนั้นเองที่เป็นฆาตกรฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวยิว ซึ่งคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในสามพี่น้องตระกูลวังเกอร์ ตอนนี้ก็เป็นแค่ตาแก่สติไม่เต็มเต็งเพียงคนเดียวเท่านั้น มิเกลจึงวัดดวงโดยแอบบุกเข้าไปในบ้านเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ลิสเบธก็เข้าไปหาข้อมูลจากบัญชีของตระกูลอีกทาง เพราะมั่นใจว่าคนร้ายย่อมเป็นคนที่เดินทางบ่อย น่าจะพบประวัติใดๆในรายการของบัญชีบ้าง ซึ่งนั่นเองทำให้เธอได้พบเรื่องราวที่หักมุมเข้าเต็มเปา 6. ขณะที่ลิสเบ็ธรู้ตัวคนร้าย 100% มิเกลก็สืบคดีในมุมของตัวเองและมั่นใจว่า มาร์ติน น่าจะเป็นคนร้ายเช่นกัน  เขาเดินทางไปที่บ้านมาร์ตินเพื่อสืบข้อมูลเพิ่ม แต่เคราะห์ร้ายที่โดน มาร์ตินจับตัวไว้ได้ และจับทรมาน เตรียมที่จะเป็นเหยื่อสังหารรายใหม่ ///ฉบับสวีเดน ขณะที่มิเกลเข้าไปค้นบ้านของตาแก่ฮาโรล วังเกอร์ หนึ่งในสามพี่น้องนาซีที่ยังมีชีวิตอยู่(ไม่แน่ใจเรื่องชื่อนะฮะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย) ก็ถูกจับได้โดยฮาโรลที่มาพร้อมปืนลูกซองในมือ เขาคิดว่า มิเกลเป็นพวกนักข่าวบ้าๆบอๆที่จ้องจะขุดคุ้ยข่าวที่เขาเคยเป็นนาซีในวัยหนุ่ม และอย่างไม่คาดคิด มิเกลก็รอดตัวออกมาได้ด้วยการช่วยเหลือจากมาร์ติน มาร์ตินจึงพามิเกลกลับไปที่บ้านของเขาเพื่อดูแลบาดแผลกระสุนถากศีรษะจากฝีมือของฮาโรล และนั่นเองทำให้มิเกลฉุกคิดได้แว๊บนึงว่าเหตุใดมาร์ตินไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้ จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 09:48:50

ความคิดเห็นที่ 31 7. มิเกล วิเคราะห์สถานการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เขาเห็นถึงความแตกต่างของ แฮร์เรียต กับแอนนิต้า ทั้งคู่คล้ายกันมาก แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน และเขาก็ได้รู้ว่า จริงๆแล้ว แอนนิต้าที่อยู่ในลอนดอนนั่นล่ะ คือ แฮร์เรียต ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 40 ปีก่อน ///ฉบับสวีเดน มิเกลแก้ปมปริศนา จากหลักฐานเรื่องสร้อยที่แฮร์เรียตสวมอยู่นั่นเอง เขาจำได้ในวัยเด็กว่าแฮร์เรียตเป็นคนสวมสร้อยเส้นนี้ ซึ่งตรงกับผู้หญิงในฟิล์มสุดท้ายที่มีภาพของแฮเรียตที่ทุกคนเข้าใจว่าเธออยู่ในเกาะแห่งนี้ก่อนที่อุบัติเหตุบนสะพาน จะทำให้เกาะปิดตาย เขาได้เห็นสร้อยเส้นนี้อีกครั้งบนคอของซิซีเลียผู้ต่อต้านการค้นหาของเขามาตลอด มิเกลจึงเคยปักใจเชื่อว่าซิซีเลียอาจมีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับการตายของแฮร์เรียตอย่างแน่นอน เมื่อเขาตัดสินใจถามซิซีเลียแบบดับเครื่องชน มิเกลจึงได้รู้ว่าสร้อยเส้นนี้ไม่เคยเป็นของแฮร์เรียตเลย ซิซีเลียได้มันมาเป็นมรดกจากพี่สาวของเธอ นั่นคือแอนนิตานั่นเอง! มิเกลก็กระจ่างในที่สุดว่า ผู้หญิงในฟิล์มม้วนนั้นไม่ใช่แฮเรียต แต่เป็นแอนนิต้า  เขารู้ในที่สุดว่าความจำของเขาคลาดเคลื่อน ผู้หญิงที่สวมสร้อยเส้นนี้ที่เขาเคยเห็นในวัยเด็ก นั่นคือแอนนิต้าซึ่งมีหน้าตาคล้ายแฮร์เรียตเป็นอย่างมากนั่นเอง เพราะฉะนั้นต้องมีเหตุผลบางอย่างที่แอนนิต้าปกปิดกับคนอื่นมาตลอดว่าผู้หญิงในภาพคือเธอเองไม่ใช่แฮร์เรียต ทั้งๆที่เธอไม่ใช่ฆาตกร(เพราะเธอตายก่อนในขณะที่ฆาตกรรมต่อเนื่องยังคงดำเนินอยู่) มิเกลและลิสเบธจึงสืบหาเรื่องของแอนนิต้าต่อไป จึงได้พบว่า มีคนใช้ชื่อแอนนิต้า วังเกอร์เข้าไปอพยพและอาศัยอยู่ในออสเตรเลียเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว และนั่นแปลว่าพวกเขามาถูกทาง แอนนิตาในออสเตรเลียนั่นคือแฮร์เรียตนั่นเอง ซึ่งแอนนิตาคือผู้ช่วยในแผนหลบหนีออกจากเกาะของแฮร์เรียตจากพ่อและพี่ชายสารเลวของเธอ และแอนนิต้าไม่เคยบอกความลับเรื่องนี้แก่ใครเลย จนกระทั่งเธอเสียชีวิตลงด้วยมะเร็งไม่กี่ปีต่อมาที่ลอนดอน แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 11:04:16 จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 10:19:52

ความคิดเห็นที่ 32 8.ภารกิจของมิเกล กับ ลิสเบ็ธ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งสิ่งที่มิเกลได้รับตอบแทนก็คือ เงินมหาศาล และ ข้อมูลเรื่องการทุจริต และฟอกเงินของเวนเนอร์สตอร์ม ปัญหาคือหลักฐานที่จะเอาผิดนั้นมีอายุ 35 ปีแล้ว และศาลไม่รับฟ้องแน่นอน  ///ฉบับสวีเดน เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นมิเกลกลับมารับโทษอยู่ในเรือนจำ และเขาไม่ได้พบหรือติดต่อจากลิสเบธอีกเลย ลิสเบธกลับไปพบกับแม่ของเธอที่อยู่ในสถานบำบัดทางจิตเวช(คงเพื่อfixปมในหัวใจตั้งแต่วัยเด็ก)แม่ของเธอไม่เคยคิดโทษเธอเลย ขณะเดียวกัน ลิสเบธก็ใช้ความสามารถพิเศษของเธอเจาะข้อมูลล้วงลับตับแตกข้อมูลฉาวของเวนเนอร์สตอร์ม และนำไปให้มิเกลในคุก และได้ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารมิลเลเนี่ยมของมิเกล มิเกลได้รับอิสรภาพอีกครั้ง 9. ความรักที่สวนทางกัน  ลิสเบ็ธนั้นเป็นไบ เซ็กช่วล เธอมีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับหลายคน แต่ ณ เวลานี้ เธอหลงรักมิเกล บลอมควิสต์จริงๆ ถึงปากจะไม่พูด แต่การทำทุกอย่างเพื่อมิเกล มันก็น่าจะแสดงออกให้เห็นได้ไม่ใช่หรือ ?  เซ็กส์ที่เร่าร้อน .. การช่วยชีวิตมิเกล .. การโค่นเวนเนอร์สตอร์ม  ลิสเบ็ธ แทบไม่เคยทำอะไรเพื่อใคร แต่ในค่ำคืนวันคริสต์มาส เธอได้สั่งเสื้อแจ๊กเก็ตเพื่อนำไปมอบให้กับมิเกล  แต่ก่อนที่เธอจะยื่นให้  มิเกลได้เดินออกมาจากสำนักพิมพ์มิลเลนเนียม กับ เอริก้า เบอร์เกอร์ บรรณาธิการของนิตยสารมิลเลียนเนียม ทั้งคู่เป็นชู้รักกัน  และเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มิเกล คงไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนอย่างที่เธอคิดเลย  ว่าแล้ว ลิสเบ็ธ ก็โยนของขวัญนั้นทิ้งอย่างบอบช้ำ ก่อนจะขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจหายลับไปกับหิมะในคืนวันคริสต์มาส  ///ฉบับสวีเดน ไม่สามารถสังเกตได้จากการแสดงออกของลิสเบธได้เลยว่่าเธอรักมิเกล  หากจะมองว่าเธอเห็นเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้ มากที่สุดก็แค่เพื่อนรักที่เข้าถึงความรู้สึกด้านที่อ่อนโยนในหัวใจของเธอได้ก็แค่นั้น เป็น friend with benefit เซ็กซ์แต่ไม่ผูกมัด มิเกลซะอีกที่ดูเหมือนจะตกหลุมรักเธอขั้นโหยหา เห็นได้จากตอนที่ลิสเบธเอาหลักฐานไปให้มิเกลในคุก เธอไม่ได้ยี่หระกับเยื่อใยของมิเกลเลยแม้แต่น้อย แล้วเธอก็เดินจากไปชนิดที่ไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอคิดอย่างไร แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไร? จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 10:43:29

ความคิดเห็นที่ 33 เนื้อเรื่องอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึง ก็ตรงกับที่จขกท.คุณ ปล่อยใจ เล่าไว้ ตามนั้นเลยฮะ ขอขอบคุณคุณ ปล่อยใจ ด้วยนะฮะ ยอดเยี่ยมมากฮะ จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 10:46:45

ความคิดเห็นที่ 34 ไหงผมกลับคิดต่างกับคห. 20&21 หว่า... ผมคิดว่าในฉบับสวีเดน Lisbeth สนใจในตัว Mikael มากกว่าในฉบับมะกันรีเมคเพราะเธอสนใจในตัว Mikael มาตั้งแต่แรกแล้ว สังเกตได้จากการที่เธอยังคงแฮ็คข้อมูลในคอมของ Mikael ออกมาดูอยู่เรื่อยๆทั้งๆที่เธอก็ทำงานที่ได้รับหมอบหมายจากตัวแทนของ Vanger เสร็จไปแล้วเรียบร้อย แถมเธอยังช่วยส่งเบาะแส(ตัวเลขของบทในพระคัมภีร์)ให้ Mikael ผ่านทางเมล์ทั้งๆที่เธอไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปข้องเกี่ยวอะไรกับการสืบสวนของ Mikael เลยด้วยซ้ำ Lisbeth ในฉบับสวีเดนจะมาซึนแตกเอาก็ตอนที่ Mikael จับได้ว่าเธอเป็นพวกมีความทรงจำแบบภาพถ่าย หลังจากนั้นเสร็จความสัมพันธ์ของคู่นี้ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคตอนที่ Lisbeth บอกกับแม่ของเธอ(แบบเปรยๆ)เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ Mikael และจูบอันร้อนแรงหลังจากที่เธอเอาข้อมูลเกี่ยวกับคดี Wennestrom ไปให้ Mikael ในคุก ในขณะที่ Lisbeth ในฉบับมะกันรีเมคจะมาเริ่มสนใจในตัว Mikael เอาก็ตอนที่ Mikael มาตามตัวเธอให้ไปช่วยสืบคดีด้วยกัน ไม่ได้สนใจตั้งแต่แรกแบบ Lisbeth ฉบับสวีเดนเพราะ Lisbeth ฉบับมะกันรีเมคตอนแรกมอง Mikael ว่าเป็นเพียงแค่งานแฮ็คธรรมดาๆอีกงานหนึ่งเท่านั้น Lisbeth ฉบับมะกันจะเริ่มแสดงออกถึงความสนใจในตัว Mikael เป็นครั้งแรกเลยก็ตอนที่เธอออกปากกับ Mikael ว่าเธอชอบร่วมงานกับเขา(ไม่รวมตอนที่ทั้งสองหลับนอนกันครั้งแรกหรือครั้งไหนๆก็ตามในหนังเพราะนั่นมันออกแนว Friends with Benefits มากกว่าการแสดงความรัก) หลังจากนั้นเสร็จเธอก็เก็บอาการและมุ่งสมาธิไปที่การสืบสวนคดีตลอด(จะมีออกอาการเล็กๆน้อยๆก็ตอนที่ Lisbeth แอบเปิดดูรูปถ่ายของ Mikael กับลูกสาว)จนกระทั่งองก์สุดท้ายของหนังตอนที่เธอบอกกับพ่อเลี้ยงของเธอ(แบบเปรยๆเหมือนกับที่ Lisbeth ฉบับสวีเดนบอกแม่)เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ Mikael ที่เผยให้เห็นถึงความจริงจังที่เธอมีต่อความสัมพันธ์ของเธอกับ Mikael ก่อนที่จะมาซึนแตกกระจาย(โดยที่ Mikael ไม่มีโอกาสได้เห็นแบบในฉบับสวีเดน)ด้วยการซื้อเสื้อแจ็คเก็ตราคาแพงให้เป็นของขวัญก่อนที่จะทิ้งลงถังขยะไปเพราะเห็นภาพบาดตาบาดใจที่ Mikael เดินกอด Erika Burger ในวันคริสต์มาสหิมะตก แต่...ผมก็ยังเห็นด้วยกับคห.20&21 ในส่วนของ Mikael ที่ว่า Mikael ฉบับสวีเดนดูจะรัก Lisbeth มากกว่า Mikael ฉบับรีเมคมะกัน เพราะในหนังฉบับสวีเดนหลังจากที่ไขคดีการหายตัวไปของ Harriet เสร็จแล้วก็ไม่มีการพูดถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่าง Mikael กับ Erika Burger อีกเลย คือ Mikael มีแต่ Lisbeth คนเดียว ในขณะที่ในฉบับรีเมคมะกัน ตัวจริงของ Mikael คือ Erika Burger มาตลอด Lisbeth เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงาม(ที่มีอะไรกันมากกว่าเพื่อนเป็นบางครั้งบางคราว)ก็เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้ก็ช่วยเพิ่มปมดราม่าให้กับตัวละครของ Lisbeth ฉบับรีเมคมะกันยิ่งขึ้นไปอีกในแง่ที่ว่าไม่ว่าจะยังไง เธอก็ต้องเจ็บจากปวดเพราะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"ผู้ชาย"อยู่ร่ำไป(เพียงแต่ครั้งก่อนๆ"เจ็บกาย"...ครั้งนี้"เจ็บใจ") แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 15:44:04 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 13:32:17 จากคุณ : Apple101 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 13:00:50

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากดูหนังก็ตามอ่านเกือบทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ค่ะ เพราะชอบตั้งแต่อ่านหนังสือจนได้ชมฉบับ hollywood ส่วนฉบับสวีเดนยังไม่ไดู้ดูค่ะ เท่าที่อ่านทุกความเห็น หนังทั้งสองเรื่องมีการตีความบางฉากบางตอนแตกต่างจากหนังสือค่ะ ทำให้อยากรีบไปหาหนังฉบับสวีเดนมาดูเลยค่ะ จากคุณ : Iced Cappuccino เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 20:16:39

ความคิดเห็นที่ 36 สุดยอดทั้ง 2 แบบครับ ดูแล้วทั้งฮาและสงสารอัยการในภาคสามมาก จากคุณ : tror ikke det for du se เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 20:43:01

ความคิดเห็นที่ 37 จากความเห็นคุณ apple101 นะฮะ เรากลับคิดว่า ลิสเบธที่แฮ็กข้อมูลของมิเกลต่อไปทั้งๆที่งานจบลงไปแล้ว เป็นความอยากรู้อยากเห็นในเชิงความเป็นแฮกเกอร์ซะมากกว่า ซึ่งถึงคนๆนั้นไม่ใช่มิเกล เธอก็คงจะทำแบบนี้อยู่ดี อย่างมากที่สุด เราคิดว่าเธอจะสนใจมิเกลก็แค่มิเกลนั้นเป็นคนดังที่ติดคดีแล้วเธอรู้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอจึงใคร่รู้ว่าทางวังเกอร์ต้องการรู้ข้อมูลของมิเกลไปเพื่ออะไร ซึ่งไม่น่่าจะเป็นความสนใจมิเกลในแง่ของชู้สาวแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด ลิสเบธที่ยอมทลายกำแพงที่ปิดกั้นตัวเองจากผู้อื่นของเธอ เพราะเธอได้รับรู้ว่า มิเกลเป็นผู้ชายดีๆคนนึง ที่เป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ซึ่งในชีวิตของเธอไม่เคยเจอกับผู้ชายสันดานดีซักคน แม้กระทั่งพ่อแท้ๆของเธอเอง จากคุณ : oath_peach เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 21:48:19

ความคิดเห็นที่ 38 กรี๊ดดดดดดด นึกว่าเราคิดไปเองคนเดี่ยวเรื่องภาคต่อไปอยากให้พระเอกไปเจอแจ๊คเก็ตในกองขยะอ่ะ มีแนวร่วมแล้วค่ะ คุณ  "เธอใช่ไหมคนที่ฉันรอ" 555+ จริงๆแล้ว อิฉันไม่ได้ติดละครไทยมากไปนะค่ะ  แต่แค่อยากให้ มิเกล บลอมควิสต์ รู้ว่า  ลิสเบ็ธ ซาลันเดอร์ ทำหลายๆอย่างเพื่อเค้าจริงๆ 555+ มีใครเห็นแบบเรา บ้างเป่าว่า ลิสเบ็ธ ซาลันเดอร์ นาง แอบถักเปียเก๋ๆ ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : สวยหมาหอน เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 01:04:23