What The Drama Can Change 'All The World's a Stage' โลกนี้คือโรงละคร เจ้าของประโยคอมตะที่ว่านี้คือ เชคสเปียร์ นักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ที่แม้เขาจะจากโลกนี้ไปนับร้อยปี แต่ก็นั่นแหละ อีกร้อยๆ ปีนับจากนี้ก็ไม่มีใครหาเหตุผลที่ดีกว่ามาหักล้างประโยคนั้นได้ เพราะกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นสัจธรรม
ใช่ โลกนี้คือโรงละคร และพวกเราทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ก็ไม่ใช่อะไรนอกจากตัวละครที่ต้องแสดงไปตามบทบาทที่ได้รับมา ส่วนตำแหน่งผู้กำกับนั้นบางคนเชื่อว่า เราคือผู้กำกับชีวิตของตัวเอง แต่บางคนก็เชื่อว่า เรามีโชคชะตาเป็นผู้กำกับที่มองไม่เห็นโต้แย้งไม่ได้ ซึ่งบางครั้งก็ใจร้ายไม่ให้เราผ่านแต่ละฉากไปได้ง่ายๆ แต่ให้เราเล่นซ้ำไปซ้ำมาจนเหนื่อยล้าและอยากเลิกเล่นให้รู้แล้วรู้รอด แต่สุดท้ายแล้ว ด่านหินเหล่านั้นกลับเป็นเหมือนบทเรียนชั้นดีที่ช่วยขัดเกลาหล่อหลอมให้เราเป็นนักแสดงที่มีฝีมือการแสดงเจิดจรัสที่สุดบนท้องฟ้าแห่งโลกละคร
'จ๋า' - ยศสินี ณ นคร สาวสวยวัย 32 ปี คนนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่เข้าข่ายกับสิ่งที่เราพูดมาทั้งหมดข้างต้น เธอเกี่ยวข้องกับละครมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพราะเธอเป็นทายาทของผู้จัดละครหญิงอย่าง มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช เจ้าของบริษัทผลิตละคร เมคเกอร์ กรุ๊ป ซึ่งเมื่อวันหนึ่งที่ผู้เป็นแม่ค่อยๆ วางมือและมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับลูกสาวคนโต จ๋า ยศสินี ก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีเกินกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด ในมุมนี้ของโลกแห่งละคร จ๋าก็ไม่ต่างอะไรกับตัวละครตัวหนึ่งที่ได้รับบทบาทใดมา ก็ต้องแสดงให้ดีที่สุดเท่าที่เหมาะสมกับตัวเธอเองเท่านั้น เพราะเธอเชื่อในเรื่องของการทำในสิ่งที่ใช่และชอบจริงๆ เพราะมันทำให้ชีวิตของเธอมีเฟสชั่น
ปัจจุบัน จ๋า ยศสินี มีละครที่ปั้นมากับมือแล้วหลายเรื่อง แต่เรื่องที่สร้างชื่อและฮือฮาที่สุดของเธอก็คือเรื่อง จำเลยรัก เงารักลวงใจ และล่าสุดคือธาราหิมาลัย หนึ่งในละครซีรีส์ชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขา ที่ทำให้หลายๆ คนสารภาพว่าติดละครกันงอมแงมเพราะพระ-นางในแต่ละเรื่องเล่นกันสมบทบาทเหลือเกิน แต่กว่าจะสร้างผลงานที่โดดเด่นออกมาเช่นนี้ จ๋า ยศสินี ยอมรับว่า เธอผ่านช่วงเวลาที่สาหัสที่สุดในการทำงานมาแล้ว "อาชีพผู้จัดละคร เป็นอาชีพที่ถ้าใครไม่รักจริงๆ คงทำงานนี้ไม่ได้"
ดราม่า น้ำเน่า ล้วนเป็นคำที่มีความหมายในแง่ลบเกี่ยวกับละครไทยทั้งสิ้น กระทั่งคำว่าดราม่ายังถูกนำมาใช้ในความหมายว่า ฟูมฟาย ไร้สาระ แต่สำหรับเธอแล้ว โลกของละครเป็นโลกที่ไม่ได้ไร้สาระเลย ตรงกันข้าม มันเป็นโลกที่มีสาระและสอนใจด้วยซ้ำ
"ละครมันก็เริ่มมาจากกิเลสของคน คือรัก โลภ โกรธ หลงนี่แหละ เราต้องรู้เพื่อเข้าใจ เข้าใจแล้ว เราก็จะไม่อินมาก เพราะถ้าไม่อยากให้ชีวิตมีปัญหาก็ต้องเรียนรู้ที่จะละมันไปบ้าง"
เอาเถอะไม่ว่ากลับบ้านไปคืนนี้คุณจะเปิดละครดูหรือเปล่า แต่เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า บทสัมภาษณ์นี้จะทำให้คุณดูละครด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป อย่างน้อยที่สุด คุณจะได้รู้ว่า ชีวิตคุณก็คือละครอีกเรื่องหนึ่งนั่นเอง
เครดิต บทสัมภาษณ์ : A DAY BULLETIN (น่าจะเป็นฉบับคนดังนะคะ) ฉบับ พฤศจิกายน 2553 นะคะ ภาพ: www.magazineDee.com
แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 01:33:02
จากคุณ |
:
Fairy_Engine
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ม.ค. 55 01:30:48
|
|
|
|