จากที่ผมได้ดูละครและศึกษามานะครับ มีอะไรแย้งได้เลยเพราะนี่ก็อ่านมาจากตำราเช่นกัน
ละครไทยเกิดจากการละครนอก ละครใน รากฐานมาจากอินเดีย ทำให้ละครไทยออกแนวจักรๆวงศ์ๆ เอา(รส) มากกว่า(เรื่อง) พล็อตก็จะวิ่งประมาณ ชิกรักหักสวาท พ่อแง่:-)อนหรือปลอมตัวมาหารักแท้
โดยการจบของไทยจะออกแนวคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรในตอนจบโดยที่ไม่ค่อยหักมุม ต่างจากละครตะวันตกเพราะว่าทางตะวันตกถ้าคาดเดาได้เรตติ้งจะลดลง จึงต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด แต่ของไทยนั้นตรงกันข้ามเพราะมีทำจากบทประพันธ์ จากนสพ.ทำให้คนอ่านอยากเจอกับฉากนั้นๆทำให้ไม่อาจจะหักมุมได้มากมาย
ถ้าใครเคยดูของรัสเซียจะทราบว่าของเค้าเป็นอย่างไรโดยเฉพาะเก่าๆนะ ละครของแต่ละประเทศจะมีการปลูกฝังความคิด(คล้ายๆสะกดจิต)ด้วยกันทั้งนั้น เช่น
ฉากตบจูบ? พระเอกโดนนางเอกตบ=เป็นสัญลักษณ์ว่าผู้หญิงมีอำนาจกว่าผู้ชายในโลกแห่งจินตนาการ ส่วนพระเอกจูบคืน การจูบคือการคลี่คลายสถานการณ์แห่งการปะทะกันของอำนาจเพศ(ที่ชายเหนือหญิงในตอนสุดท้าย)
ฉากถูกปล้ำที่หลายๆคนข้องใจไม่อยากให้มี ส่วนใหญ่แล้วนางเอกจะเสียท่าให้พระเอกเป็นสัญลักษณ์ว่าพรหมจรรย์ของหญิง สุดท้ายต้องมี/ควรมีไว้เพื่อชายที่รักเท่านั้น!! (เป็นปรัชญาอันล้ำลึกจริงๆ)
อ่ะๆแต่สำหรับนางร้ายที่มักจะถูกข่มขืนแล้วเป็นบ้า! จะถือว่านั้นคือบทลงโทษแห่งการเป็นหญิงเลว!!ใคตรไม่ยุติธรรมเลย
พูดง่ายๆมันคล้ายๆกับการสะกดจิตคนในประเทศนั้นแหละ ด้วยคำถามที่ว่าทำไมธรรมะย่อมชนะอธรรม
หรือของตะวันตกอย่างอเมริกาก็อย่างตำรวจหรือนักตุ้มตุ่นส่วนใหญ่ที่จะกำจัดคนชั่วเท่านั้น นั้นแสดงว่าจริงๆแล้วไทยเรามีการบ่มเพาะและสอนใจเราโดยที่เราไม่รู้ตัวไม่ต่างจากประเทศอื่นๆเพียงแต่ว่าแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
อ้อแล้วก็คำถามที่ว่าละครไทยมันดูเว่อร์กว่าตะวันตก ผมเองจะขออธิบายว่าละครแบ่งง่ายคือเสมือนจริงกับห่างไกลจากความจริง ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าไทยเราอยู่ฝั่งไหนนะครับ
จากคุณ |
:
สุดเวลา
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ม.ค. 55 20:34:07
|
|
|
|