ความคิดเห็นที่ 1 อันดับ 10  เป็นหนังเข้าใหม่ประจำสัปดาห์ ในฐานะหนังสายลับรวมพลังดารา(ยอดฝีมิอ) อย่าง Tinker, Tailor, Soldier, Spy ที่คำวิจารณ์ในด้านบวก และตัวหนังเต็งรางวัลในหลายๆ รายการ ก็เลยช่วยให้หนังได้เข้าฉายในบ้านเราเสียที (ถึงแม้จะจำกัดโรงก็เถอะ) สัปดาห์แรก หนังทำเงินเปิดตัวไปที่  4 แสนบาท ถือว่าเยอะพอสมควร จากโรงฉายที่หนังมีอยู่ในมือ แม้จะเอาไปเปรียบกับหนังสายลับเรื่องก่อนๆ หน้าทั้งหลายไม่ได้ (เอาง่ายๆ ก็อย่าง Mission Impossible 4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ก็เรียกได้ว่า เปิดตัวในวงกว้าง และตลาดกลุ่มใหญ่กว่ามากๆ!) แต่ถ้าลองเทียบกับหนังแนวเดียวกันในวงจำกัด อย่างเช่น The American ที่เปิดตัวเพียงโรงเดียวด้วยรายได้ 1 แสนบาท ก็ถือว่าไม่เลวเลย ขณะที่ผลงานของดารานำแต่ละคนก็ถือได้ว่า เปิดตัวในวงกว้างกันทั้งนั้น อย่างป๋าแกรี่ โอลด์แมน ผลงานเรื่องก่อนหน้าที่โชว์ตัวเยอะๆ หน่อยก็คงหนีไม่พ้น Red Riding Hood ซึ่งก็เปิดตัวไปพอสมควรตามสไตล์หนังวงกว้าง ที่ 4.6 ล้านบาท หรือป๋า โคลิน เฟิร์ธ ที่เพิ่งมีหนังดีกรีออสการ์ อย่าง The King's Speech ก็เปิดตัวในวงจำกัดไปแบบถล่มทลายที่ 8 แสนบาท กระแสในด้านบวก (แม้จะยังเงียบไปซักหน่อย) ก็น่าจะช่วยให้หนังยืนโรงเก็บเงินต่อไปได้ไม่ยาก! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:22:50

ความคิดเห็นที่ 2 หมดวันปีใหม่ก็เลยร่วงเป็นธรรมดา สำหรับหนังวันปีใหม่ รวมดารา อย่าง New Year’s Eve ที่ไหลลงมาเกือบท้ายตาราง ใน อันดับ 9 ก็น่าเสียใจแทนหนังที่น่าจะเรียกความสนใจจากคนดูในช่วงปีใหม่ได้มากกว่านี้ ทันทีที่เทศกาลหมดลง ความสนใจของคนดูก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดา สัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปกว่า 60 % เก็บเงินไปอีก 1.2 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ ผองดารา(ฝรั่ง) ส่งความสุขไปแล้ว 6.7 ล้านบาท นอกจากจะห่างไกลหนังปีใหม่อีกเรื่องที่ฉายพร้อมกันแบบสุดกู่!! หนังยังทำได้น้อยกว่า หนังปลุกกระแสรวมดาราช่วงเทศกาล อย่าง Valentine's Day ที่อาจไม่ถึงกับฮิตถล่มทลายเหมือนในบ้านเกิด แต่ก็เก็บเกี่ยวไปได้พอสมควร ที่ 16.7 ล้านบาท ก็ไม่รู้ว่า ยังจะมีวันอะไรให้ผู้กำกับได้เล่นต่ออีกหรือเปล่า??? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:23:14

ความคิดเห็นที่ 3 นี่ก็ร่วง แต่ลงแรงผิดคาด สำหรับ Sherlock Holmes: A Game of Shadows ที่อุตส่าห์ทรงตัวได้ดีเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่มาสัปดาห์นี้  หลุด Top 3 ไหลลงมาถึง อันดับ 8 เลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเพราะโดนสูบโรงมากเกินคาด (จากรายได้ที่ได้น้อยเกินคาด!) ด้วยหรือเปล่า ทำให้สัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปถึง 77%! เก็บไปอีก 1.9 ล้านบาท รวมสามสัปดาห์ ยอดนักสืบ สืบ สู้ ฟัดไปแล้ว 39.4 ล้านบาท กลายเป็นว่าทั้งๆ ที่อุตส่าห์ทรงตัวดีจนน่าจะเข้าใกล้หลัก 50 ล้านได้ไม่ยาก กลับกลายเป็นว่าตอนนี้แค่หลัก 45 ล้านก็ถือว่าโหดไปเลย ตอนนี้หนังก็คงแทบจะเข้าใกล้ Sherlock Holmes ภาคแรก อย่างที่หวังไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องหลังปิดคดีเอาไว้ที่ 56.5 ล้านบาท รวมไปถึง Iron Man ทั้งสองภาค ที่ทำไว้สูงกว่ามากๆ ด้วยเช่นกัน (ภาคแรกปิดไว้(เคย)ไม่ไกลมาก ที่ 79.6 ล้านบาท ส่วนภาคสองทำได้มากกว่าเกือบ 2 เท่า!!) งานนี้ไม่รู้ว่าเราจะได้เห็นภาค 3 กันง่ายๆ หรือเปล่า?? (แต่ดูจากรายรับทั่วโลกล่าสุดแล้ว ก็ยังพอมีหวังขึ้นมาอีกเยอะแหละครับ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:23:34

ความคิดเห็นที่ 4 นี่ก็อีกหนึ่งเรื่อง ที่ไหลลงมาตามๆ กัน สู่ อันดับ 7 (แต่ทำได้ดีกว่าหน่อย) สำหรับ สุดยอดสายลับ พลังอึด Mission : Impossible - Ghost Protocol ที่ยังคงได้รับแรงเชียร์อย่างเนื่อง แต่ดูเหมือนว่าผลกระทบจากหนังใหม่ๆ ก็ยังคงส่งผลมากอยู่ดี เนื่องจากสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปถึง 70% เก็บไปอีก 2.3 ล้านบาท รวมสามสัปดาห์ ยอดสายลับ จารกรรมเงินคนดูไปแล้ว 101 ล้านบาท (ส่วนในบล็อกของคุณ Alexkh บอกไว้ที่ 103.3 ล้านบาท น่าจะใกล้เคียงกว่าครับ)[b] ก็ขอบอกไว้อีกครั้ง ในเมื่อหนังสามารถผ่านหลัก 100 ล้านได้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเป็นเรื่องที่ 9 ของปี 2554 เข้าไปแล้วที่สามารถทำได้ ซึ่งบันไดขึ้นต่อไปสำหรับหนังอาจจะก้าวยากหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส นั่นคือการแซง [b] The Twilight Saga: Breaking Dawn Part 1 ขึ้นไปแทนที่ในอันดับ 8 ให้ได้ (โดยเรื่องหนังทำเงินในสัปดาห์ล่าสุดไว้ที่ 105.3 ล้านบาท) ยังจะดูมีความเป็นไปได้มากกว่าการขึ้นไปสู่ยอดบัลลังก์หนังสายลับประจำบ้านเรา ที่ยังคงมีสองขาใหญ่ (มาอย่างยาวนาน)คุมอยู่ อย่าง Mission: Impossible III และ Die Another Day   ที่เคยเบียดกันจนใจหายใจคว่ำ แล้วก็หยุดอยู่ที่ 107.3 และ 108.5 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่าหากหนังแซงทั้งสองเรื่องนี้ไปได้ นั่นก็จะแปลว่าหนังจะสามารถแซง Pirates of the Caribbean 4   ซึ่งหยุดตัวเองไว้ที่ 108 ล้านบาท โดยอัตโนมัติ (ซะงั้น!!) แต่นั่นก็ถือว่าเป็นฝันที่ยังต้องหวังอยู่อีกพอสมควร ในเมื่อกองทัพหนังใหญ่กำลังจะกรูทัพเข้ามา ยอดสายลับของเราจะสามารถไต่หนีได้รึเปล่า??? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:24:02

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากฉายรอบพิเศษไป ก็กระโดดขึ้นมาจากท้ายตางราง สู่ อันดับ 6 จนได้ สำหรับ The Girl with the Dragon Tattoo ที่หลายคนอาจจะเรียกว่าเป็นการ “ตีความใหม่” โดยผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ จากนิยายสวีเดนสุดขายดี ที่ถือเป็นการขึ้นจอครั้งแรกในแบบฉบับฮอลลิวู้ด แม้ว่าหนังจะได้รับการโหมโปรโมตมากอยู่ไม่น้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าหนังก็ยังคงเป้นที่สนใจของคนดูกลุ่มจำกัดอยู่เช่นเดิม ดูจากรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกของหนัง ที่ทำไปเพียง  2.8 ล้านบาท รวมกับรอบเปิดฉายพิเศษด้วยแล้ว หนังจึงทำเงินไปทั้งสิ้น 3.2 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างน้อยกว่าที่คิดพอสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังไม่ใช่แนวตลาดวงกว้างอยู่แล้ว แม้ว่าเมื่อลองเทียบกับหนังของผู้กำกับฟินเชอร์ทั้งหลาย ก็กลายเป็นว่า ร่วงลงมาพอสมควรทีเดียว ตั้งแต่ผลงานเรื่องก่อนหน้าที่ได้ใจวัยรุ่นไปเต็มๆ อย่าง The Social Network ก็อาการไม่แพ้กัน แต่ก็เปิดตัวได้มากกว่าอยู่ดี ที่ 4 ล้านบาท หรือย้อนกลับไปก่อนหน้าอีกซักนิด ก็คือ The Curious Case of Benjamin Button ที่แรงทั้งพลังดารา และพลังเอฟเฟ็ค เลยช่วยให้หนังทำให้มากขึ้นมาอีกหน่อย ที่ 6.5 ล้านบาท แต่ถึงอย่างไรก็ยังล้มแชมป์เปิดตัวของฟินเชอร์ อย่าง Panic Room ไม่ได้อยู่ดี เพราะเรื่องหลังเคยเปิดตัวไว้ไม่มาก แต่ก็ไม่มีคนมาล้ม(ซะที!) ที่สามวัน 10 ล้านบาท ส่วนพระอก แดเนี่ยล เคร็ก ปีที่แล้วอาจจะเนื้อหอมหน่อย แต่หนังก็ไม่เปรี้ยงทั้งคู่ ทั้ง Panic Room ที่เปิดตัวไปแบบจุ๋มจิ๋มในบ้านเราเพียง 2.4 ล้านบาท หรือฟอร์มใหญ่อย่าง Cowboys & Aliens ก็หนีน้ำท่วมซะจนกระแสหาย เหลือเพียง 14.5 ล้านบาท อย่างน้อยหนังก็ยังได้รับคำชมอยู่พอสมควร หวังว่ากระแสบวกจะช่วยดันหนังได้ไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆของผู้กำกับนะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:24:23

ความคิดเห็นที่ 6 ร่วงลงมาเพียงหนึ่งอันดับ สำหรับการ์ตูน โมชั่นแคปเจอร์ The Adventures of Tintin ตกลงมาอยู่ใน อันดับ 4 ที่แม้จะไม่มีคู่แข่งมาชนอย่างจังๆ แต่ดูเหมือนว่าเมื่อหมดหน้าเทศกาล ก็พลอยทำให้รายได้ของหนังลดลงไปค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สัปดาห์นี้ หนังทำเงินร่วงลงมาถึง 60% เก็บไปอีก 3ล้านบาท รวมสองสัปดาห์  ตินตินออกล่าขุมทรัพย์(คนดู) ไปแล้ว 15.7 ล้านบาท [b] ก็ถือว่ากลางๆ ไม่ต่ำ ไม่สูงเท่าไหร่สำหรับแอนิเมชั่นในบ้านเราเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งหนังจากค่ายใหญ่ส่วนมากก็สามารถผ่านหลัก 10 ล้านได้อย่างง่ายๆ ด้วยกันทั้งนั้น (จะมีก็คงแค่ [b]Happy Feet Two และ Arthur Christmas ที่ไปไม่ถึงจุดนั้น ด้วยรายรับล่าสุดเพียงแค่ 8 และ 3.5 ล้านบาท ตามลำดับเท่านั้น!) โดยในขณะนี้ หนังติดอยู่ในอันดับ 6 ของแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดประจำปี 2554 (แซงหน้า Rango ซึ่งจอดหมดแรงเดินอยู่ที่ 15.3 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มแอนิเมชั่นแนวโมชั่นแคปเจอร์ ที่เข้าฉายในบ้านเรามาแล้วทั้งหมด 6 เรื่อง แม้หนังจะหมดสิทธิ์แซง Beowulf เจ้าบัลลังก์ของกลุ่มนี้ ซึ่งปิดตัวไว้ถึงอันดับต้นๆ ของแอนิเมชั่นในบ้านเรา ที่ 47.1 ล้านบาท แต่ก็ใช่ว่าอันดับรองลงมาจะหมูๆ ให้ได้ไต่ขึ้นไป (ถึงแม้ช่องว่างจะห่างจากแชมป์มากก็เถอะ!) เพราะทั้ง The Polar Express และ A Christmas Carol ต่างก็ปิดตัวในระดับ 20 ล้านขึ้นไปทั้งคู่ (21 และ 20 ล้านบาท ตามลำดับ) ที่แซงไปได้ในสัปดาห์นี้ก็เลยมีเพียง Monster House เท่านั้น ปิดตัวไว้เพียง 12.2 ล้านบาท ก็ต้องยอมรับว่าต่อให้ฟอร์มใหญ่ ขายชื่อใคร เทคนิคยิ่งใหญ่แค่ไหนมาก็เถอะ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่า “แอนิเมชั่น” ในบ้านเราด้วยแล้ว ก็พากันจอดแทบทุกรายแหละ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:25:44

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับ 4 เป็นหนังใหม่ประจำสัปดาห์ ในฐานะหนังเอเชียเรื่องแรกของปีนี้ในบ้านเรา อย่าง The Flying Swords of Dragon Gate ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ฉีเคอะ ที่ได้พระเอกนักบู๊ชื่อก้อง เจ็ท ลี มาร่วมงานกันอีกครั้ง ขึ้นชื่อว่าผู้กำกับฉีเคอะแล้ว กลับมาครั้งนี้ ย่อมไม่ธรรมดา(??) เพราะกลับมาพร้อมกับหนังกำลังภายในฟอร์มยักษ์สามมิติ ที่กำลังโกยเงินไปน่าดูในประเทศจีน แต่ก็อย่างว่าสำหรับบ้านเราแล้ว กระแสหนังจีนก็ค่อนข้างแผ่วลงไปมากพอสมควร (ถึงจะฟอร์มยักษ์มากแค่ไหนก็ยังจอด ไม่ต้องรอแจวมาหลายเรื่องแล้ว!!) ไม่น่าแปลกใจที่สัปดาห์แรก หนังจะทำเงินไปเพียง 3.1 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างน้อยผิดฟอร์มเฮียแกไปพอสมควร ทั้งๆ ที่มีลูกเล่นสามมิติมาช่วยเรียกคนดูด้วยแล้ว แต่ดูเหมือนจุดขายของหนังจะยังแรงไม่พอ เมื่อเทียบกับสามมิติเอเชียเรื่องอื่นๆ ทั้งยาจกชู True Legend สามมิติกำลังภายในเรื่องแรก เคยเปิดตัวสูงกว่าเท่าตัว ที่ 7 ล้านบาท หรือสามมิติสุดฮือฮาอย่าง  3D Sex and Zen ก็เคยสร้างสถิติหนังเอเชียเปิดตัวสูงสุดเมื่อปีก่อน ที่ 11.5 ล้านบาท มาแล้ว หากลองเทียบกับหนังเอเชียของเฮีย เจ็ท ลี ในบ้านเราด้วยกันแล้ว ถือว่าทำได้น้อยมากในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ สดๆ ร้อนๆ เลยเมื่อปีก่อน ก็คือเรื่อง The Sorcerer and the White Snake ก็ยังทำเงินได้เยอะกว่ามาก ในระดับต้นๆ ของหนังเอเชียปีก่อนทีเดียว ด้วยรายได้เปิดตัว 5.7 ล้านบาท หรือลองเมียงมองมาทางฝั่งหนังฮอลลิวู้ดบ้าง เรื่องล่าสุดของเฮียแก อย่าง The Expendables ที่แม้จะไม่ได้นำเดี่ยว แต่เฮียแกบทก็เด่นพอสมควร เปิดตัวในบ้านเราไปพอประมาณ ที่ 14.2 ล้านบาท (ซึ่งดูท่าแล้ว ไร้วี่แววที่จะมีหนังของเฮียแกมาถล่มสถิติหนังเอเชียของเฮียแก อย่าง Hero ที่เคยเปิดตัวไว้นานมากแล้ว ที่ สามวัน 20 ล้านบาท) ส่วนผู้กำกับฉีเคอะ หลังจากที่พอใจชื้นขึ้นมาบ้าง หลังจากแอบเปรี้ยงไปไม่น้อย กับ Detective Dee ที่ในบ้านเรา แม้จะเปิดตัวเงียบเหงากว่าเยอะ ที่ 4.9 ล้านบาท แต่ถึงยังไงก็ยังมากกว่าเรื่องล่าสุดของป๋าแกอยู่ดีนั่นแหละ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:26:15

ความคิดเห็นที่ 8 อีกหนึ่งหนังใหม่ที่ไต่ขึ้นมาสูงเกินคาด สำหรับหนังแนวหายนะ-ไซไฟ The Darkest Hour เปิดตัวเข้ามาถึง อันดับ 3 ที่ได้บรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาว มาหนีตายกลางกรุงมอสโคว จากเหล่าเอเลี่ยน(พันธุ์พิลึก)ถล่มโลก แม้หนังจะทำเงินไปแบบอ่อนแรงพอสมควรในหลายๆ ประเทศ (รวมทั้งในอเมริกา) แต่ดูเหมือนว่า ในบ้านเรานั้น หนังดูเหมือนจะได้รับความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ดูจากสุดสัปดาห์แรก หนังสูบเงินจากคนดูไปแล้ว 8.2 ล้านบาท แม้ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว สำหรับหนังที่ฟอร์มก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก ก็คงไม่จำเป็นต้องไปเทียบกับบรรดาหนังเอเลี่ยนถล่มโลกเรื่องก่อนหน้าในปีที่แล้วทั้งหลาย เพราะฟอร์มนั้นต่างกันมากอย่างชักเจนอยู่แล้ว (ไม่ว่าจะทั้ง Transformer 3, Battle: Los Angeles ก็เรียกได้ว่า เปิดตัวห่างไกลกันสุดๆ จะใกล้เคียงหน่อยก็คงเป็น Cowboys & Aliens ที่เจอพิษเลื่อนซะจนฟอร์มหงอ เปิดตัวไปที่ 14.5 ล้านบาท) แต่ถึงจะเอามาเทียบกับหนังฟอร์มรองๆ ด้วยกันก็ยังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ อยู่ ดูได้จากเอเลี่ยนถล่มโลกฟอร์มรองเรื่องก่อนหน้า อย่าง Skyline ที่ไม่ง้อดาราดัง แต่อัดเอฟเฟ็คระดับหนังฟอร์มใหญ่จนดูดเงินเปิดตัวจากบ้าน เราไปได้ไม่น้อย ที่ 23 ล้านบาท ส่วนค่อนไปทางน้อยก็เห็นจะเป็น The Fourth Kind ที่ออกแนวเรียลลิตี้ ไม่เน้นอลังซักเท่าไหร่ (แต่พอขายสาวมิล่า โจโววิชได้บ้าง) หนังเลยเปิดตัวไปจุ๋มจิ๋มเพียง 2.2 ล้านบาท เท่านั้น แม้จะเปิดตัวได้ดี แต่กระแสปากต่อปากของหนัง ออกมาในเชิงลบซะเป็นส่วนใหญ่ งานนี้ ถึงไม่มีคู่แข่งใหญ่ๆ มาชน ก็อาจมีสิทธิ์ทรุดลงไปเองได้ล่ะ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:27:37

ความคิดเห็นที่ 9 จะหมัดหนักแค่ไหน แต่ถึงยังไงก็ยังคงกระชากแชมป์ลงมาไม่ได้อยู่ดี สำหรับกำปั้นเหล็กReal Steel ที่ยังคงติดแหง็กอยู่ใน อันดับ 2 อีกสมัย ที่แม้จะแพ้ไปในด้านอันดับ แต่ในเรื่องกระแสแล้ว กลับชนะใจคนดูได้อย่างล้นหลาม (ราวกับ Rocky ก็ไม่ปานแฮะ!!) ซึ่งสิ่งที่พิสูจน์ความแรงของหนังได้ ก็คือตัวเลขรายได้สัปดาห์ที่สองของหนังเอง ในยกที่สอง หนังอ่อนแรงลงไป 35% เท่านั้น! เก็บเงินไปอีก 15 ล้านบาท ครบสองยก หนังชกคู่แข่งคว่ำไปแล้ว 55.6 ล้านบาท ถือว่าดีมากๆ เลยทีเดียวสำหรับหนังที่เปิดตัวด้วยตัวเลขค่แนข้างเยอะเช่นนี้ ซึ่งหนังเปิดตัวเกิน 20 ล้านเรื่องสุดท้ายที่ทำเงินลดลงไม่ถึงครึ่งเช่นนี้ ก็คงต้องย้อนกลับไปไกลหน่อยถึงเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยพระเอกของเดือนนั้นอย่าง Johnny English Reborn เคยทำเงินลดลงไปที่ 50% เป๊ะๆ พอดี! หรือที่ชัวร์กว่านี้หน่อยก็ต้องย้อนไปถึงปลายพฤษภา-ต้นมิถุนาปีก่อนนู่น สำหรับอีกหนึ่งหนังยอดฮิต นั่นคือ Kung Fu Panda 2 นั่นเอง (ที่ 48%) แม้แรงฮึดจะเยอะ แต่การที่เป็นมวยกระดูกคนละเบอร์แล้ว ต่อให้ฮึดอีกกี่ยกก็คงไปท้าต่อกรหุ่นรุ่นพี่อย่าง Transformer ไม่ได้จริงๆ (เพราะแต่ละภาคเค้าทำกันในระดับ 100 ล้านขึ้นไปโน่น!! ภาคน้อยที่สุด อย่าง b]Transformer[/b] ภาคแรก ยังซัดไปถึง 152 ล้านบาทโน่นแน่ะ!!!) แต่ถ้าลองดูในเครดิตของป๋าแจ็คแมน ในบ้านเรา ก็ยังพอใจชื้นขึ้นมาหน่อย เพราะหนังฟอร์มทใหญ่ของป๋า ต่างก็ทำเงินสัปดาห์ที่สองลดลงกันเกินครึ่งค่อนทั้งนั้น เรื่องที่หนังยังพอไต่ผ่านได้ก็คงเป็น Van Helsing ที่แม้จะเคยเปิดตัวมากกว่าพอสมควร แต่รายได้ที่ร่วงลงฮวบฮาบ (64%!!) ก็พอทำเอาเจ้าหุ่นมีแรงฮึดที่จะผ่านไปแบบง่ายๆ หน่อย ส่วนการที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่าง X-Men ตระกูลดังของป๋า ก็เริ่มมีแสงแห่งความหวังไม่น้อย จากภาคแรก ซึ่งปิดตัวไว้ต่ำที่สุด ที่ 70 ล้านบาท และภาค Origins: Wolverine ที่นำออกไปอีกไม่ไกลนัก ที่ 79.8 ล้านบาท ดูเหมือนจะยังมีเวลาอีกพอประมาณให้หนังได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการไต่ขึ้นไปให้ถึง แม้คู่แข่งไซส์หนักใกล้จะดาหน้ากันมาขึ้นสังเวียนอยู่รอมร่อ แต่งานนี้ หากมั่นใจในคุณภาพตัวเอง และเสียงเชียร์จากแฟนๆ ยังคงดังกึกก้อง ถึงจะเริ่มอ่อนแรง แต่ก็คงต้องเดินหน้า สู้ไม่ถอยกันต่อไปแล้วล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:28:26

ความคิดเห็นที่ 10 ยังคงเกาะ อันดับ 1 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น สำหรับหนังฉลองปีใหม่ รวมดาว อย่าง ส.ค.ส. สวีทตี้ ที่ถ้าเปรียบเป็นคู่ชกชิงสังเวียนแล้วล่ะก็ ฝ่ายสวีทตี้คงเหมือนกับชนะคะแนนมาได้แบบฉิวเฉียด แต่สภาพบอบช้ำ แทบล้มทั้งยืนกันเลยทีเดียว!! เพราะสัปดาห์นี้ หนังส่งความสุขลดลงไปเกือบครึ่ง เหลืออยู่ที่ 16.2 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ พากันมาทิ้งตัว(เรียกตังค์)ไปแล้ว 68.4 ล้านบาท หลายคนอาจจะดูเหมือนว่าไม่ได้เยอะแยะอะไร ในเมื่อมีหนังทำเงินลดลงมากกว่าที่สวีทตี้เป็นอยู่ เกินครึ่งค่อนซะเยอะแยะไป (เพราะรายได้สัปดาห์ที่สองของหนัง เมื่อเทียบกับหนังไทยปี 2554 ด้วยกัน ก็ยังคงมากพอสมควรทีเดียว ถึงขนาดเลื่อนขึ้นมาติดอยู่ อันดับ 4 เลยทีเดียว (จากรายได้เปิดตัวอันดับ 6) ตามหลัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทั้ง 2 ภาค และ ลัดดาแลนด์ เท่านั้น ซึ่งเรื่องหลังก็ทำเอาไว้ห่างพอสมควร ที่ 20.5 ล้านบาท) แต่เมื่อลองมาเทียบกับหนังคุณยอร์ชในอดีตด้วยกันแล้ว รายได้ที่ลดลงปริ่มๆ ครึ่งนึง กลายเป็นอะไรที่ดูฮวบฮาบขึ้นมาทันตาพิกล! ซึ่งน่าสนใจมากๆ ตรงที่หนังของคุณยอร์ชแต่ละเรื่องนั้น ต่างก็ทำรายได้ตกลงน้อยกันแทบจะทุกเรื่อง (ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า หนังเรื่องแรกของคุณยอร์ช ที่ทำรายได้เรียกได้ว่า “หักปากกาเซียน” ทุกสำนัก ด้วยการทำรายได้สัปดาห์ที่ 2 “เพิ่มขึ้น” เกือบ 10%!! ขณะที่ต่ำที่สุด ตกเป็นของ โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า หนังเรื่องเดียวในเครดิตคุณยอร์ช ที่ทำรายได้ตกลงมาก “เกินครึ่ง” จากสัปดาห์เปิดตัว (ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก) ที่ 52%) เอาเป็นว่าทั้ง สุดเขต สเลดเป็ด และ 32 ธันวา ต่างก็เป็นเจ้าของรายรับ ในสัปดาห์ที่สองไม่ต่ำว่า 20 ล้านบาท ด้วยกันทั้งคู่ นอกจากสวีทตี้จะชวด 100 ล้านเป็นที่เรียกร้อยแล้ว หลัก 90 ล้านก็เรียกได้ว่ารีบหรี่เต็มทน แม้หนังยังพอมีโอกาสให้ได้เก็บเงินอีก 1 สัปดาห์เต็มๆ แต่ดูจากกำลังขาของหนังเอง ก็คงเป็นไปได้ยากที่หนังจะเก็บโอกาสทองให้กับตัวเองได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย อาการของหนังเลยถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ลดลงจากสองเรื่องก่อนหน้า หลังจากเรื่องที่แล้วผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว) งานนี้ไม่รู้ว่ากระแสที่ค่อนข้างก้ำกึ่งของหนังจะส่งผลไปถึงภาคต่อกลายๆ ของหนัง ที่วางพังฉายเอาไว้เดือนหน้า อย่าง วาเลนไทน์ สวีทตี้ มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อย ก็ขออย่าให้ร่วงหนักเหมือน โหดหน้าเหี่ยว 966 ตามในกราฟก็เป็นพอล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:28:54

ความคิดเห็นที่ 11 แม้สวีทตี้ กับกำปั้นเหล็ก ยังคงเป็นหัวเรือหลักได้ต่อไป แต่ด้วยหนังใหม่ที่ไม่เปรี้ยง Top 10 สัปดาห์นี้  เลยทำเงินลดลงไปเหลือที่ 54.1 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (82.5 ล้านบาท) ไป 35% และน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (62.6 ล้านบาท) ไปเพียง 14% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ สุดเขต สเลดเป็ด ครองแชมป์ต่ออีกสมัยแบบสบายๆ ด้วยรายได้อีก 22.6 ล้านบาท โดยมี หอแต๋วแตก แหวกชิมิ ฟอร์มเต็งเปิดปี เปิดตัวแบบห่างๆ ที่ 15.1 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:29:13

ความคิดเห็นที่ 12 สุดสัปดาห์หน้า ยังคงเต็มไปด้วยกองทัพหนังใหม่เข้าฉาย ที่เยอะซะจนไม่รู้ว่าจะพากันฉุดมือขึ้นสู่แสงสว่าง หรือจะเหยียบกันเองตายคาโปรแกรมกันแน่!!! เอาเป็นว่าแม้จะเยอะ แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนโดดเด่นถึงขั้นเต็งนำโด่งมาแต่ไกลให้เห็นเลยทีเดียว ไล่เรียงรายชื่อก็ประกอบไปด้วย หนังหนีน้ำข้ามปี ของค่ายพระนครฟิลม์ ที่ได้หนุ่มมาริโอ มาสวมบทลูกผู้ชายพันธุ์นักเลง ในหนังชื่อล่อแหลม(เซ็นเซอร์) ”มรึง-กู เพื่อนกันจนวันตาย” หนังใหม่จากค่ายสาระแน ที่ได้เฮียเปิ้ล ควงเด็กปั้นขึ้นจออีกครั้ง ในหนังรอม-คอม  ”รักเว้ยเฮ้ย!” หนังแอ็กชั่น ของหนุ่มหล่อล่ำ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ที่ต้องมาเฉือนคมกับพ่อค้ายา ใน ”Contraband” หนังเต็งรางวัลทุกเวทีของสาว มิเชลล์ วิลเลียมส์ ถอดวิญญาณมาสวมบทอดีตเซ็กซ์ซิมโบลผู้ล่วงลับ อย่าง ”My Week with Marilyn” หนังรอม-คอมหนีน้ำข้ามปี ที่แป้กสนั่นในบ้านเกิดมาแล้ว (ทั้งๆ ที่ดารานำก็มีชื่อพอตัวกันทั้งคู่แล้วนะ!) อย่าง ” What's Your Number?” หนังกลางสมรภูมิ ที่ได้ดาว(เคย)ดัง อย่างเฮีย วาล คิลเมอร์ มาร่วมแสดงด้วย ใน ”5 Days Of War” และ หนังแอ็กชั่นสังเวียนเดือด ของสองพี่น้องต่างอุดมการณ์ (ที่ได้หนุ่มเนื้อหอม ทอม ฮาร์ดี้ มาเป็นจุดขาย) ในหนังจำกัดโรง ”Warrior” (โอย! เยอะมาก ชักมึน = =”) ท้ายที่สุดแล้ว คนดูจะรักหนังใหม่มากแค่ไหนเว้ยเฮ้ย!!!??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.boxofficemojo.com/intl/thailand/?yr=2012&wk=1&currency=local&p=.htm http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=movietalk&month=01-2012&date=09&group=5&gblog=61 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:29:57

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ จากคุณ : Lionel Messi เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 00:11:21

ความคิดเห็นที่ 14 *** ติดตามตลอดครับ ขอบคุณครับที่มารายงานพร้อมกราฟฟิกน่ารักๆ *** จากคุณ : สมาชิกหน้าเหลือง เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 00:30:52

ความคิดเห็นที่ 15 ดูกี่ครั้งก็แอบฮากับกราฟที่ใส่หน้าตัวละครทุกที จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 01:05:31

ความคิดเห็นที่ 16 หนังใหม่มีเรื่องเดียวที่อยากดู คือ My Week with Marilyn จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 06:43:19

ความคิดเห็นที่ 17 ข้อมูลแน่นและเป๊ะเหมือนเดิม ชอบมากที่สุดก็ตรงกราฟเปรียบเทียบรายได้หนังนี่แหล่ะ จากคุณ : Barry Banana Caramel เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 09:48:58

ความคิดเห็นที่ 18 รอ My Week with Marilyn ที่สกาล่าครับ จากคุณ : yamato_waki เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 09:49:40

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่อยากเชื่อ ผมว่า The Darkest Hour มันหนังเกรด C ด้วยซ้ำ ดาราก็ไม่ดัง เรื่องราวก็น้ำเน่าสุดๆ เป็นหนังทำเงินได้ยังไง? จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 11:11:41

ความคิดเห็นที่ 20 REAL STEEL จะ แซง สคส ใน อาทิตย์หน้าได้ไม๊น้ออออ ลุ้น ๆ ๆ จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 11:23:21

ความคิดเห็นที่ 21 หนังเข้าเยอะจัง ดูไม่ทันเลย คุคุ จากคุณ : น้องพยาธิ (moshita) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 12:00:19

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ แต่สงสัยมานานแล้วล่ะว่า สุดเขตเนี่ย ทำไมมันได้รายได้เยอะแบบนั้น ผมดูแผ่นแล้วก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมาย เอ๊ะ รึว่าเปนพลังของพระเอก จากคุณ : คนคายาก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 14:03:05

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณค่ะ Tinker Tailor Soldier Spy หนังเรื่อยๆ พูดเยอะแต่ละสายตาไม่ได้ ขนาดดูตอนง่วงยังไม่กล้าหลับทั้งที่อยากหลับใจจะขาด ดึงเราได้อยู่หมัดเลย ส่วนเสาร์อาทิตย์นี้วางแผนไว้สำหรับ Warrior ดูจากตัวอย่างแล้วคงถูกใจเราไม่น้อย แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 15:37:10 จากคุณ : LightenUp เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 15:35:05

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องสุดเขต นี่ผมว่าเกิดจากหลายๆ ปัจจัยครับ 1. หนังได้อานิสงค์จากกระแสของ 32 ธันวา มาช่วย (เหมือนตอนที่ โปงลางสะดิ้ง ได้กระแสจาก แสบสนิทมาช่วยให้หนังเปิดตัวได้แรง) 2. พลังดาราของคุณเป้ตอนนั้นก็ไม่ใช่น้อย เพราะเพิ่งเปรี้ยงไปจากบทคอมเมดี้ จากละคร แจ๋วใจร้ายฯ สุดเขตเลยเป็นหนังเรื่องแรกที่คุณเป้ที่พลิกมาเล่นแนวตลก (ส่วนสาวยิปโซก็แอบขโมยซีนใน 32 ธันวา ไม่น้อย) 3. พลังสาวตุ๊กกี้ ที่เพิ่งมีบทนำมาหมาดๆ จาก เจ้าหญิงขายกบ 4. จังหวะหนังเข้าฉายค่อนข้างดี เพราะบ้านเราก็เพิ่งมีหนังรอม-คอมยอดฮิตไปเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า อย่าง กวน มึน โฮ คนดูเลยยังไม่อิ่มที่จะลิ้มรสหนังแนวนี้ต่อ (แถมฉายในช่วงวันหยุดปีใหม่ ที่คนดูต้องการคลายเครียด เก็บเงินเพิ่มได้อีกเยอะ) 5.หน้าหนังค่อนข้างแหวกแนว มีเอกลักษณ์ และขายมากสำหรับคนดูทั่วๆไป ส่วนรายได้ Real Steel ดูจากกำลังขาแล้ว ยังไงก็น่าจะแซง สวีทตี้แน่นอนครับในสัปดาห์หน้า (แต่ระยะยาวคงยากหน่อย) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 16:27:54

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านมัน เหมือนเดิมครับ เหมือนหนังสงครามเเย่ชิงตำเเหน่งและนำ้มัน(เงิน) จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 07:54:59

ความคิดเห็นที่ 26 สัปดาห์หน้าจะพิสูจน์ ทฤษฏี ราคากับ จำนวนคนดูสำหรับหรับหนังไทย สองเรื่องที่เข้าใหม่ครับ ว่าจะรอดกับราคาค่าตั๋วที่ขึ้นขนาดนี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 07:56:57