ความคิดเห็นที่ 1 1 . ขายดารา :  ตรงตัว สั้นกระชับตรงไปตรงมาเลยคือ ขายดารา เนื้อหาโฆษณาไม่สำคัญเท่ากับการได้เห็นหน้าดารา ไม่ว่าจะออกมายืน นั่ง เดิน พูด อะไรก็ตามที ... โฆษณาพวกนี้จะทำให้คนดูเอาไปพูดต่อๆกันได้ง่าย และ ติดตา ติดหู เช่น ... ไปร้านขายของ "พี่คะ ครีมอันใหม่ที่อั้มโฆษณาอ่ะมาหรือยังคะ" เป็นต้น จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 05:53:41

ความคิดเห็นที่ 2 รออ่านค่ะ ^^ จากคุณ : Lifeisnotbliss เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:00:33

ความคิดเห็นที่ 3 2. ขายแรงบรรดาลใจ/เหตุการณ์จริง โฆษณาประเภทนี้ ไม่ว่าจะทำออกมากี่ชุดต่อกี่ชุดล้วนแล้วแต่ถูกใจผู้ชมทั้งสิ้น หากมีการเล่าเรื่องที่ดี เพราะข้อได้เปรียบของโฆษณาประเภทนี้คือ "สร้างจากเรื่องจริง" (ไม่ว่าจะจริงมากจริงน้อยก็ตาม) ทำให้คนดูรู้สึกว่า ยังมีเรื่องดีๆอยู่บนโลกที่แสนเหี่ยวเฉาใบนี้ นั่นคือทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับโฆษณา โฆษณาบางตัวก็ทำได้ซึ้งกินใจ น้ำตาไหลพรากจนต้องบอกต่อ แต่ข้อเสียของโฆษณาปรเภทนี้คือ ... บ่อยครั้งที่คนดูก็จำไม่ได้ว่าเป็นโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าอะไร T-T (เช่นโฆษณาตัวนี้ ตอนดูครั้งแรกเราร้องไห้เลย เจอมากับตัว ซึ้งเลย T-T) จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:04:38

ความคิดเห็นที่ 4 3. ขายเด็ก/ครอบครัวสุขสันต์ โฆษณาประเภทนี้ได้เปรียบตรงที่นำเอาความน่ารักของ เด็กๆ น่ารักๆ ใสๆ มาช่วยเป็นแรงส่งเสริมให้ตัวสินค้าดูน่าเชื่อถือมากขึ้น (สำหรับสินค้าปรเภทที่เกี่ยวกับเด็กโดยตรง) กลับกันสินค้าบางประเภทก็ใช้ความน่ารักของเด็กๆ ให้เกิดภาพจำของแบรนด์ หรือ ความสุขสันต์ของครอบครัวทำให้คนดูรู้สึกถึงความอบอุ่น และเข้าถึงได้ง่ายของแบรนด์อีกด้วย จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:26:15

ความคิดเห็นที่ 5 4. ขายสโลแกน/ชื่อแบรนด์ ในระยะหลังเห็นโฆษณาแบบนี้ค่อนข้างบ่อยในไทย ซึ่งแม้จะไม่ใช่ว่าเมืองไทยไม่มีโฆษณาแบบนี้มาก่อน แต่อย่างน้อยโฆษณายุคก่อนๆก็มีศิลปะในการนำเสนอมากกว่าในปัจจุบัน จุดอ่อนของโฆษณาประเภทนี้คือ หาก Copy Writer เลือก Wording ที่จะใช้ในโฆษณามาได้ไม่โดนใจพอ.. โฆษณาประเภทนี้จะกลายเป็นน่ารำคาณไป โดยปริยาย ขณะเดียวกัน ความน่ารำคาณนี้เองกลับเป็นจุดแข็งของโฆษณา ที่ในระยะหลังสินค้าหลายๆแบรนด์จะหันมาใช้จุดแข็ง-จุดขายประเภทนี้มากยิ่งขึ้น นั่นคือ "การช่วงชิงพื้นที่โฆษณาในหัวของลูกค้า" ยิ่งลูกค้ารำคาณโฆษณาของแบรนด์มากเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะยิ่งจำได้แบรนด์ และสินค้าได้มากขึ้นตามไปด้วย...เช่น... "นี่ไงๆ ไอ้ยี่ห้อนี่แหละที่มันโฆษณา ชักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆห่านไรไม่รู้" เป็นต้น  จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:35:14

ความคิดเห็นที่ 6 5. ขายความอนุรักษ์ ในระยะหลังมานี้ ประเทศไทยเองก็ตามกระแสโลกในเรื่องของการอนุรักษ์มากขึ้น หลายแบรนด์พยายามปรับและผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลไปถึงตัวโฆษณาของสินค้าเองด้วย โฆษณาประเภทนี้มีข้อดีตรงที่ ภาพลักษณ์ขององค์กรและสินค้าจะพุ่งพรวดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขึ้นมาทันที และความฉลาดของโฆษณาประเภทนี้คือ การสับขาหลอกคนดูด้วยการไม่พูดถึงความดีของตัวสินค้าหรือองค์มากจนทำให้คนดูรู้สึกว่า โฆษณากำลังพยายามขายของ หรือ สร้างภาพลักษณ์อยู่ แต่ขณะเดียวกัน คนดูจะรู้สึกไปเองโดยปริยายว่า "เอ้ย ไอ้บริษัทนี้แมร่ม...โคตร ECO เลยว่ะ"  จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:45:32

ความคิดเห็นที่ 7 6. ขายค่านิยม โฆษณาประเภทนี้มักตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็น "อุดมคติ" และ "ความเพอร์เฟค" ที่มีความเชื่อว่า ต้อง สวย รวย เก๋ เท่ ผิวขาว จึงจะดี แต่ไม่มุ่งเน้นที่คุณค่าของตัวตนในบุคคล แม้ในระยะหลังโฆษณาเหยียดผิว/เพศ ประเภทนี้จะเจอผู้บริโภคด่าไปเยอะ จนไม่กล้าทำแบบที่เกินจริงออกมาอีก แต่กระนั้น ยอดขายของสินค้าประเภทนี้ก็ยังขายดิบขายดีอยู่ดี (เข้าทำนองด่าแต่ซื้อ) อยากสวย อยากหล่อ อยากขาว อยากผอม อยากดูดี อยากเป็นผู้ที่ถูกเลือก...แดร๊กสินค้าของเราสิคะ.... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 06:52:58

ความคิดเห็นที่ 8 7. ขายมิตรภาพ/สถานที่ท่องเที่ยว แม้หัวข้อทั้งสองจะดูเหมือนไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่นัก แต่โฆษณาหลายๆตัวก็มักจะนำทั้งสองข้อไปผูกด้วยกันเสมอ โฆษณาประเภทนี้มักจะพยายามชี้ให้เห็นถึงประโยชน์มากกว่าโทษของสินค้า (เพราะสินค้าที่มีธีมโฆษณาประเภทนี้มักเป็นสินค้าประเภทที่มีข้อกำจัดด้านการขายและโฆษณา) ซึ่งยอมรับว่าโฆษณาประเภทนี้ในปัจจุบันทำได้ดีมากๆ แบบที่ไม่ต้องไปพึ่งเรื่องจริงดราม่าซึ้งๆ ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความ "ใกล้ชิด" ขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันบางโฆษณาก็จะใช้สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามๆมาช่วยส่งเสริมให้สินค้าดูมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น .... (จริงๆโฆษณาตัวนี้เป็นตัวเก่า โฆษณาตัวใหม่ๆก็มี แต่ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่) จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:07:51

ความคิดเห็นที่ 9 8. ขาย Idea / ความ Abstract อันที่จริงไม่รู้จะอธิบายโฆษณาในหัวข้อนี้ว่าอะไร เพราะโฆษณาประเภทนี้มีหลายรูปแบบมากๆ แต่โดยหลักๆแล้วเป็นโฆษณาประเภทที่ขายไอเดีย และ ความอาร์ตล้วนๆ ซึ่งโฆษณาประเภทนี้มีจุดอ่อนคือ ถ้าไม่ดัง ก็ดับไปเลย ... ไม่มีใครพูดถึง เพราะโฆษณาประเภทอื่นๆแม้จะมีเนื้อหาแย่ หรือ น่ารำคาณขนาดไหน แต่ก็มักจะมีดารามาช่วยได้เสมอ แต่โฆษณาประเภทนี้ต้องพึ่ง ไอเดีย เนื้อหา และ มันสมองของคนคิดโฆษณาล้วนๆ ว่าจะถ่ายทอดออกมาได้ดีขนาดไหน ... พักนี้ไม่ค่อยได้เห็นโฆษณาแบบนี้เท่าไหร่นัก .... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:26:36

ความคิดเห็นที่ 10 9. ขายเกาหลี อันดับนี้มาแบบเรื่อยๆ ชิวๆ ซิวเงินกระจาย...เป็นที่ทราบๆกันว่าตอนนี้กระแสเกาหลีในบ้านเรามันดีแค่ไหน และการที่เด็กไทยรู้จักดารานักร้องเกาหลีมากกว่าดาราไทยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก กระแสเกาหลีฟีเวอร์ระบาดไปทุกหนแห่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งวงการโฆษณาเอง โฆษณาบางชิ้นบอกงดต่อสัญญากับดาราไทยเจ้าประจำ หันไปใช้บริการของนอกกันเป็นแถบๆ เพราะต้านกระแสนี้ไม่ไหว จนต้องโดดเข้าไปร่วมวงด้วยจริงๆ เพราะโฆษณาประเภทนี้ทำมาเพื่อสร้างอิมแพคโดยตรงกับเป้าหมายหลักคือ "แฟนคลับ" ซึ่งสินค้าที่ออกมารุ่นนนั้นรับประกันยอดขายได้ 200% (อาจจะเว่อร์เกินไปแต่ก็ขายได้เยอะมากๆนั่นแหละ) ด้วยการส่งเสริมการขายไม่ว่าจะเป็นการซื้อครบเท่านี้ๆ ได้ร่วมชิงบัตรมีตติ้งกับศิลปินเป็นต้น... แล้วขอบอกว่าพลังซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้สูงมากกกกก... การอิมพอร์ตดาราเกาหลีเข้ามาเป็นนายแบบนางแบบโฆษณาจึงเป็นเรื่องที่คุ้มแสนคุ้ม.... ปล.อิชั้นก็เป็นแฟนคลับเกาหลีค่ะ เลยเข้าใจวัฏจักร... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:34:20

ความคิดเห็นที่ 11 10. ขายของ / ให้ความรู้ อันที่จริงทุกๆโฆษณานั้นมันก็ต้อง ทำเพื่อขายสินค้าอยู่แล้ว แต่ไอ้โฆษณาประเภทขายแบบโต้งๆนั้นหายากเหลือเกิน จะมาบอกตรงๆว่า ฉันจะเอาเงินแกนั่นไม่มีเสียหล่ะ และกับโฆษณาประเภทให้ความรู้ ซึ่งโฆษณาประเภทหลังนี้ส่วนใหญ่มักเป็นของภาครัฐเสียมากกว่า และ หลังๆมักจะมีไอเดียบรรเจิดเลิศล้ำ แบบที่เป็นชุดยอดฮิตติดตลาด ให้บอกต่อกันหลายต่อหลายชุด ทั้งของเท่าที่พอรู้จักก็เป็นโฆษณาแทบทุกชุดของ สสส.นั่นเอง โฆษณาประเภทนี้คือ จะ "เตือนตรงๆ" "ขายตรงๆ" "บอกตรงๆ" ชัดถ้อยชัดคำ จำง่าย.... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:41:15

ความคิดเห็นที่ 12 จบแล้ว อันที่จริงเขียนไว้อีกแบบนึง แต่ดันก็อปปี้ผิด หายหมดเลย T-T ต่อไปจะนำเสนอโฆษณาชุดเด็ดๆที่พึ่งไปเจอมาจาก สสส. ค่ะ เป็นชุดที่ผลิตตอนช่วงน้ำท่วม ชอบชุดนี้ตรงที่ได้ คุณต่าย นักเขียนการ์ตูนมือดีจาก ขายหัวเราะมาทำภาพประกอบให้ ดูเข้าใจง่าย และ ดีสุดๆเลย ชื่อชุด "ท่วมด้วยช่วยกัน" ค่ะ ตอนที่ 1 : บำบัดความคิดเสีย จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:45:40

ความคิดเห็นที่ 13 "ท่วมด้วยช่วยกัน" ตอนที่ 2 : ช่างหัวมัน   จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:47:03

ความคิดเห็นที่ 14 "ท่วมด้วยช่วยกัน" ตอนที่ 3 : กันทรุด จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:49:25

ความคิดเห็นที่ 15 "ท่วมด้วยช่วยกัน" ตอนที่ 4 : เพิ่มพลังชีวิต จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:50:42

ความคิดเห็นที่ 16 แบ่งได้ละเอียดดีครับ^^ ต้องขอขอบคุณที่นำมาให้ได้อ่านกัน อยากเสริมแค่นิดเดียวว่า การทำโฆษณา หรือ PR เค้าจะกำหนดวัตถุประสงค์ไว้แต่ต้นแล้วครับว่าต้องการอะไร 1.ให้คนเห็นโฆษณา 2.ให้คนจำโฆษณาได้ 3.หันมาใช้สินค้า ฯลฯ อย่างกรณีโฆษณาที่ 2 ที่เป็นเรื่องราวชีวิต ซึ้งแต่จำ product ไม่ได้ แต่ถ้าวัตถุประสงค์ของโฆษณาชุดนี้คือ "ต้องการให้คนรู้จัก และเห็นโฆษณานี้ก็พอ" แล้วผลออกมาว่ากลุ่มเป้าหมายเกิน X% เคยเห็นและจำได้ว่าโฆษณานี้เกี่ยวกับอะไร ถึงจะจำ product ไม่ได้ก็ตาม แต่ถือว่าโฆษณาตัวนั้นประสบความสำเร็จครับ (ปล.เราก็งูๆ ปลาๆ ด้านนี้ แต่อยากช่วยเสริม อิอิ) จากคุณ : องค์ชายแห่งชิลลา เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:52:20

ความคิดเห็นที่ 17 ส่วนนี่เป็นโฆษณาประเภท "กำลังใจ" จากอีกหนึ่งบริษัทประกันที่ไม่แน่ใจว่าได้ออกอากาศทางทีวีหรือเปล่า เพราะเห็นว่าค่อนข้างยาว.. ลองดูค่ะ จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:53:11

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้เป็นโฆษณาเลื่อนการแสดงที่........เท่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในประเทศไทย เพราะนายแบบมันเท่น่ะ...นี่เข้าข่าย ขายดาราสินะ ฮ่าๆๆ จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:56:43

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นอีกตัวที่เข้าข่าย...อาร์ตมาก.. จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 07:58:09

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้นี้เกิดจาก เห็นทวิตเตอร์ของพี่คนนี้ เลยเข้ามาดูโฆษณา เพราะไม่ได้ดูทีวีนาน... ^^ ตัวนี้เข้าข่าย อนุรักษ์+ขายดารา... ฮ่าาาาา จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 08:00:32

ความคิดเห็นที่ 21 โฆษณาเกี่ยวกับเพื่อนที่เห็นช่วงนี้คือ ตัวนี้ค่ะ... เท่มากกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 08:02:43

ความคิดเห็นที่ 22 อีกตัว ที่นึกออก... จากคุณ : city of the damn เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 08:03:36

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วอันที่วิ่งเข้าสัมภาษณ์ในห้องน้ำอะ แบบไหน แบบ10 แต่ขายไม่ได้ป่าว น่ารำคาญไงไม่รู้ จากคุณ : psychowat (psychowat) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 08:15:49

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบๆ ชอบอันนี้ ไม่รู้เข้าข่ายอันที่ 10 หรือเปล่า จากคุณ : Cinnamomum_T เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 08:54:12

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้นี้ดีมีสาระน่าสนใจ...^_^ โหวตดีกว่า.... จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 09:48:28

ความคิดเห็นที่ 26 มีอยู่ช่วงนึง วงการโฆษณาไทยโดดเด่นขนาดที่ว่า ช่วงตัดเข้าโฆษณา ยังสามารถดึงผู้ชมไม่ให้เปลี่ยนช่องจากรีโมทได้เลย และทำได้ดีกว่าต่างประเทศด้วย แต่มาหลังๆนี่ออกๆจะจืดลงเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 10:44:21

ความคิดเห็นที่ 27 ขาดไปอันนึงครับ โฆษณาที่ขายการก็อปปี้ของนอกมาทั้งดุ้น แบบชาชักนั่นแหละ ทั้งภาพทั้งเสียง  จากคุณ : dayong เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 11:20:13

ความคิดเห็นที่ 28 แบบนี้อยู่ในกลุ่มขายไอเดียไหมคะ  เราค่อนข้างชอบนะ จากคุณ : เคลิ้มสมาคม เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 11:38:27

ความคิดเห็นที่ 29 กระทู้เริ่ดเว่ย ชอบมาก จากคุณ : forever_young เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 14:22:46

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดสร้างสรรค์ลดลงพอๆกับที่ละครบ้านเราเน้นแต่รีเมคล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี หรือคนเดี๋ยวนี้ชอบผลิตและเสพความบันเทิงแบบง่ายๆ จบแล้วจบกัน ปล. เอียนเรื่องขายเกาหลีเหมือนกัน คนไทยกันเองนี่แหละไปเชิดชูเขาเสียโอเว่อร์ โหวตให้นะคะทู้นี้ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 55 14:37:08 จากคุณ : mini_me_yo เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 14:36:21

ความคิดเห็นที่ 31 อันนี้ขายอะไรครับ จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 21:14:58

ความคิดเห็นที่ 32 ที่บอกว่ายิ่งรำคาญยิ่งขายได้นี่ ไม่จริงอย่างยิ่ง เคยมีเพื่อนจะหยิบน้ำยี่ห้อนึง ก็บอกมัน ไอ้นี่มันที่โฆษณาน่ารำคาญชิบหอนนั่นไง แล้วมันก็วาง จากคุณ : นายข่วย เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 23:09:06

ความคิดเห็นที่ 33 เราก็ชอบ โฆกษาivy นะ เราว่าเจ๊งดี จากคุณ : shinkyo เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 23:55:33