อันดับ 1 ตะวันเดือด ปกติไม่ชอบละครบู๊และไม่ตั้งใจจะดูเรื่องนี้ด้วย แต่บังเอิญเปิดทิ้งไว้ผ่านไปเบรคแรก ไม่ดูไม่ได้แล้ว กล้าคิดกล้าทำละครที่มีเนื้อหาเปลกแหวกแนว บทโทรทัศน์เยี่ยม โปรดักชั่นดี ภาพสวย เนื้อเรื่องสนุก ชวนติดตาม ทุกคนคือนักแสดงนำ เป็นมนุษย์มี 2 ด้าน รวบรวมนักแสดงหน้าเก่าและใหม่และเฉลี่ยบทได้ดี นักแสดงเล่นดี โดยเฉพาะเดชา ถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่ก็ตาม
อันดับ 2 สามหนุ่มเนื้อทอง เนื้อเรื่องดูเป็นเรื่องจริงที่พบเห็นได้ตามสังคมทั่วไป ที่มนุษย์มีทั้งดีและชั่วปะปนกันไป เหมือนซีรีย์ต่างประเทศ เรื่องนี้เราคิดว่าเขากล้าที่ให้นักแสดงที่ได้ชื่อเป็นพระเอกนางเอกมีความดีและความเลว ไม่ได้นำเสนอว่าเป็นคนดีถึงขนาดน่าจะได้รางวัลโนเบล แต่ในขณะเดียวกันพระนางคู่หนึ่งก็ฉุดรั้งเราให้คิดถึงเรื่องศีลธรรม ให้เราดูเป็นแบบอย่าง และท้ายที่สุดคู่นั้นก็ดูเหมือนจะลงตัวที่สุดในบรรดาคู่อื่น นักแสดงที่รับบทร้าย ก็แสดงดีมาก สำหรับแหนม คือนางร้ายที่ถ้าเป็นละครเรื่องอื่น หลายคนคงอยากจะเอาเปลือกทุเรียนไปตบ แต่ว่าบทโทรทัศน์นำเสนอ 2 ด้านของแหนม ทำให้เธอกลายเป็นนางร้ายที่น่าสงสารในเวลาเดียวกัน ส่วนปรานต์บอกว่าได้คำเดียวว่า เลวได้ใจมาก แต่ว่าคนแบบนี้เราเชื่อว่ามีจริงๆในสังคม
อันดับ 3 รอยมาร เรื่องนี้หลายคนประทับใจกับบู้บี้ แต่ส่วนตัวเราชอบเมธาวีมาก จริงอยู่ที่นิสัยอย่างเมธาวี ไม่น่ารัก ไม่น่าคบหาเท่าไหร่ แต่เมธาวีเป็นเหมือนคนที่ถูกลืมไปในครอบครัว เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องทำตัวให้เด่นทั้งเรื่องเรียน การงาน การวางตัว เพื่อที่จะได้เป็นที่ภาคภูมิใจสำหรับคนในบ้าน เพราะในความคิดของเธอนั้นไม่ว่า บี จะทำตัวแย่ขนาดไหน อย่างไรก็ยังเป็นที่ 1 จิตสำนึกจึงสั่งเธอให้เป็นที่ 1 ให้ได้ คนแบบนี้ เราว่าน่าสงสารมาก แล้วยังต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายที่สุดสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง เรื่องนี้เราชอบความอบอุ่นของคุณย่า ถึงแม้ว่าจะดูลำเอียง รักหลานไม่เท่ากันไปบ้าง แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่า นี่ล่ะย่าที่เราพบเห็นได้จริงทั่วไป
อันกับ 4 เพลิงทรนง เรื่องนี้ยอมรับว่าดูผ่านๆไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ ดูไปเล่นเนตไป ทำอย่างอื่นพลาง แต่เนื้อหาไม่มีอะไรเลย แค่คนๆหนึ่งที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ คล้ายเรื่องผยอง แต่การเล่าเรื่องนุ่มนวล แต่สำหรับเราที่ไม่เคยชอบมาริโอ้เลย ต้องคิดกลับไปว่า ต้องลองมองดูใหม่เสียแล้ว
อันดับ 5 เกมร้ายเกมรัก เรื่องนี้ก็ดูผ่านๆเหมือนกัน เพราะเพื่อนเปิดเราเลยต้องดูตามไปด้วย ทั้งที่ตอนแรกดูทุกตอนจบกระทั่งนางเอกต้องได้รับการรักษาจนจำความได้นั่นล่ะ ถึงได้เลิกมอง ฟังแต่เสียงแล้วกัน สำหรับเราถ้าพูดแบบไม่รักษาน้ำใจแฟนคลับละครเรื่องนี้ คงต้องบอกว่า ไม่ควรเลือกหนังสือเล่มนี้มาทำเป็นละครตั้งแต่แรกด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เพราะว่าเนื้อเรื่องเดิมๆไม่มีอะไร แต่เรารู้สึกว่านักเขียนทั้งบทโทรทัศน์และเจ้าของบทประพันธ์ขาดความใส่ใจในเนื้อหามากเกินไป เหมือนอยากจะเขียนอะไรก็เขียน ทำให้เรื่องนี้ขาดความกลมกล่อม หลายท่านบอกว่าบทเรื่องนี้ดีกว่าหนังสือแล้ว แต่สำหรับเราการทำงานมันไม่ใช่แค่ทำดี แต่ต้องดีที่สุด หลายคนบอกว่าพลอตเรื่องละครไทยก็แบบนี้ล่ะ เดิมๆวนไปเวียนมา แต่เราขอยกนักเขียนสัก 2-3 ท่านให้ท่านพิจารณา คือ คุณหญิงวินิตา คุณหญิงวิมล คุณฉัตรชัย ถึงแม้พลอตมันจะซ้ำกัน แต่ชั้นเชิงทำให้งานออกมาแตกต่างและน่าสนใจ และสำหรับบทโทรทัศน์ ดอกส้มสีทอง คือละครที่มีเนื้อหาตลาดและแรง แต่หลายคนกลับยอมรับว่า เนื้อหาดีมาก เราว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้จัดจะเลือกบทประพันธ์ที่นำมาใช้สร้างละครให้ถี่ถ้วนและพิถีพิถันมากกว่านี้
จากคุณ |
:
เนว่า
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ม.ค. 55 13:30:41
|
|
|
|