 |
(วิจารณ์) โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ : ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก : นี่คือหนังโดราเอมอนที่มันที่สุด
|
 |
นี่คือภาคที่ได้รับการกล่าวขานว่าเอามาสร้างใหม่ได้มันส์ที่สุด , หลายคนรอคอยมากที่สุด และรอคอยฉากทำแผลริรูรุมากที่สุด! ผมกำลังพูดถึงภาคมูฟวี่ "ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก" ครับ
เนื้อเรื่อง
โนบิตะพบชิ้นส่วนหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ที่ขั้วโลกเหนือโดยบังเอิญ มันคือส่วนหนึ่งของแผนการทำลายล้างโลกจากกองทัพมนุษย์เหล็ก
วิจารณ์
ถ้าจะเทียบกับภาคที่นำมาสร้างใหม่และฉายโรงภาพยนต์นั้น มีอยู่ภาคหนึ่งที่ทำฉากทำลายล้างได้สะใจที่สุดและเร้าใจที่สุด ผมยกให้กับภาคอาณาจักรโฮ่งเหมียว แต่ตอนนี้ก็ได้พบแล้วว่า ภาคนี้คือภาคที่มีฉากทำลายล้างได้ยิ่งใหญ่ที่สุด หายนะมากที่สุด และสะใจที่สุด บางฉาก ฉากทำลายล้างทำได้เทียบเท่ากับหนังหุ่นยนต์หลายเรื่องเลยทีเดียว
เอาจริงๆ แล้วความพิเศษของตัวภาคนี้ที่นำมาสร้างใหม่นอกจากฉากทำลายล้างที่ทำออกมาเอาใจแฟนๆ สุดๆ แล้วก็จะมีการเปลี่ยนตัวละคร จากหุ่นยนต์ของซูเนโอะมาเป็นสมองกลของหุ่นยนต์ จิล (หรือที่พวกโนบิตะเรียกว่าซานตาครอส) แทน ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องที่เวิร์คมากทีเดียว เพราะเนื้อหามันสื่ออะไรได้มากกว่าเยอะมาก หรือรวมไปถึงการเปลี่ยนฉากบางฉากให้ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดก็สามารถสื่อความหมายได้ นับได้ว่าภาคนี้เป็นอีกภาคที่มีการเล่าเรื่องที่ "อาร์ต" มากๆ เป็นการพัฒนาการสร้างภาพยนต์เรื่องโดราเอมอนที่ทำให้ทันสมัยกับโลกยุคปัจจุบันมากขึ้น
แน่นอนว่าแนวทางในการดำเนินเรื่องนี้ยังไงก็ต้องปกป้องโลก แต่ถ้าดูดีๆ แล้ว สิ่งที่ตัวเนื้อหาแอบซ่อนเอาไว้ก็คือ คำว่าหัวใจของมนุษย์ มันเป็นสิ่งที่เราอาจจะเคยมองข้ามไป โลกทุกวันที่ต้องมีการแก่งแย่งแข่งขัน มันอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เราลืมคำว่าหัวใจมนุษย์ เนื้อหาตัวหนังทั้งที่มีการนำจากต้นฉบับเดิมหรือการปรับเปลี่ยนใหม่ก็ได้มีการสอนเราแล้วว่า ในตัวเลือกทั้งหมดทั้งในแง่ความเป็นจริงและศีลธรรม ท้ายสุดในบรรดาตัวเลือกที่ทำได้ เราจะเลือกข้อไหน ? หนังเล่นประเด็นและปลูกฝังไว้ในหัวของคนดูโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว ซึ่งผมก็หวังว่า สำหรับเด็กๆ ที่ได้ดูเรื่องนี้ จะจดจำเนื้อหาเหล่านั้นเอาไว้เมื่อเติบใหญ่ในอนาคต
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำออกมาได้เอาใจแฟนๆ โดราเอมอนอีกอย่างนั่นคิดว่าหลายคนคงจะชอบ อย่างแรกก็คือโนบิตะ ถ้าดูดีๆ จะบอกว่าโนบิตะในภาคนี้ทำออกมาได้ "โคตรเท่" ช่วงแรกๆ ของหนังแทบทุกภาค โนบิตะก็ยังเป็นเด็กตามปกติอยู่เหมือนเคย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตัวเนื้อหาหนังไม่ใช่ช่วงเวลาของต้นฉบับอีกแล้ว แต่มันเป็นช่วงเวลาที่โนบิตะผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมายจนทำให้เขามีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และคุณงามความดีตรงนี้ก็ต้องยกนิ้วให้กับคนที่รับบทพากษ์โนบิตะที่ครั้งนี้พากษ์เสียงโนบิตะออกมาได้ยอดเยี่ยมกว่าทุกภาค ความเท่ของโนบิตะนั้นเรียกได้ว่าหากมีในโลกเราจริงๆ คงทำเอาสาวๆ หลงเคลิ้มไปได้หลายคนเลยทีเดียว
ส่วนอีกประการนั่นก็คือ ฉากริรูรุ ซึ่งในภาคนี้เรียกได้ว่าเอาใจแฟนมาก เพราะว่าถ้าเทียบกับต้นฉบับเดิมแล้ว ริรูรุ โมเอะว่าเดิมมาก และสำคัญคือ รูปร่างของเธอเซ็กซี่กว่าเดิมเยอะ ริรูรุเป็นตัวละครหญิงที่ผมดูแล้วน่าจะเซ็กซี่ที่สุดในบรรดาภาพยนต์โดราเอมอนทั้งหมดเสียด้วยมั้ง เรียกได้ว่าต่อให้เธอเป็นสายลับ แต่ผมเชื่อว่าคนที่มาดูจะไม่เคยดูเนื้อเรื่องตอนนี้มาก่อน จะเกลียดเธอไม่ลงก็ได้ แอบเสียดายที่นี่มันเป็นหนังสำหรับเด็ก ฉากทำความสะอาดแผลของเธอเลยดู "ธรรมดา" ไปนิ๊ส (แหม๋ ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ไม่คิ๊ดเล้ย จิงจริ๊งงงงงง!)
สำหรับฉากต่อสู้นั้น ข้อเด่นของเรื่องนี้ก็คือมีฉากแอ็คชั่นและฉากไล่ล่าที่ทำออกมาแล้ว ในการดูหนังเรื่องนี้ซํ้าจะไม่น่าเบื่อ โดราเอมอนในบางภาค ฉากบางฉากทำออกมาได้น่าเบื่อเอาเรื่องชวนหลับได้ แต่ในภาคนี้ทำออกมาได้ตื่นเต้นกว่าเดิมและแทบจะทุกๆ นาทีที่จะสะกดให้ดูอยู่หน้าทีวีได้แม้ว่าจะดูหลายรอบก็ตาม (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบางคน) โดยเฉพาะฉากต่อสู้สุดท้ายที่ให้ความรู้สึกเหมือน The Two Tower เลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นอารมณ์เสี้ยวเดียวก็ตาม และก็น่าเสียดายที่ฉากสู้รบตอนท้ายทำออกมาสั้นไปหน่อย เพราะผมคิดว่าแฟนๆ โดราเอมอน คงอยากเห็นพวกโดราเอมอนไล่กระทืบพวกหุ่นยนต์ให้นานกว่านี้แน่ (เพราะปลุกอารมณ์นักสู้ของคนดูไปเรียบร้อยแล้ว)
ที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างก็คือเรื่องของภาพและเสียงที่ภาคนี้ทำออกมาได้สั่นสะเทือน อลัง และเร้าใจมากๆ ฉากระเบิดทำออกมาสมคุณภาพระบบเสียง 5.1 มากๆ นี่้ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าดูเวอร์ชั่นบลูเรย์ที่มีระบบเสียง 7.1 เสียงมันจะอลังขนาดไหน และนี่เป็นภาคที่ผมดูแล้ว ฉากตัวละครและฉากประกอบต่างๆ นั้นเข้ากันได้ดีไม่มีตัดขัดเลยซักฉากเดียว ทำให้ภาคนี้มีคุณค่าในงานศิลป์มากขึ้น
น่าเสียดายที่ดูดียังไงมันก็ยังมีข้อเสียออกมาให้ติกันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสมเหตุสมผลที่มันยังมีหลุดออกมาให้เห็นบ้าง หรือการพยายามเอาเนื้อเรื่องที่มีการดัดแปลงใหม่เชื่องโยงกับเนื้อเรื่องต้นฉบับที่ไม่ค่อยจะเข้ากันในบางฉาก แต่ถ้าหากมองข้ามสิ่งผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่มีไม่ถึง 8 % นี้แล้ว นี่คือภาพยนต์โดราเอมอนที่ทำออกมาทรงคุณค่าและสมกับการรอคอย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในภาคต่อไป จะต้องดียิ่งกว่านี้แน่ พวกเราจะคอยดูครับ
จุดเด่น
- ยังคงเนื้อหาต้นฉบับไว้ครบถ้วน
- ภาพ เสียง ไม่ต้องพูดถึง สุดยอด
- ยังแทรกคติสอนใจให้เด็กรุ่นใหม่ได้ดีเยี่ยม
- ฉากแอ็คชั่น ทำลายล้าง ไล่ล่าทำออกมาได้สุดยอด จนบางฉากเหมือนไม่ได้ดูเรื่องโดราเอมอนเลย
- โนบิตะโคตรเท่! ริรูรุโคตรเซ็กซี่! ตัวละครใหม่ฮาแตก จะมีอะไรแหล่มไปกว่านี้ไหม!
ข้อเสีย
- เมื่อไหร่เราจะได้มีแผ่นเวอร์ชั่นมีเสียงญี่ปุ่น , เบื้องหลัง หรือชุดลิมิตชื้อ ? ทำออกมาเหมือนเรื่องน้องสาวไปเลยครับ Rose แฟนๆ โดราเอมอนมีเป็นหมื่นทั้งประเทศ ของดีอยู่แล้วแหละ
- ฉากต่อสู้ตอนท้าย สั้นไปหน่อย ยังไม่หายสะใจเลย
| จากคุณ |
:
patiweshchan  
|
| เขียนเมื่อ |
:
18 ม.ค. 55 17:50:07
|
|
|
| |
