ความคิดเห็นที่ 1 1. ชื่อนี้ได้มาแต่ไหน? ที่มาของชื่อรางวัลออสการ์ที่เราเรียกกันติดปาก ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหนกันแน่(ชื่อจริงคือ ดิ อะคาเดมี่ย์ อะวอร์ดส์) แต่น่าจะมาจากหนึ่งในสามทฤษฏีเหล่านี้ 1. จาก มาร์กาเร็ท เฮอร์ริค บรรณาธิการสถาบันอะคาเดมี่ย์ที่ต่อมาเธอก็พัฒนาไปถึงขั้นผู้กำกับกิตติมศักดิ์นะคะ--ว่าไม่ได้ เธอบอกว่ารูปรางรางวัลคล้ายกับลุงเธอที่ชื่อออสการ์ เพียร์ซ 2. มาจากมุขตลกที่พูดกันเล่นๆในหมู่นักเขียนคอลัมน์วงการบันเทิงที่พูดว่า "Will you have a cigar, Oscar?" อันนี้ไม่น่าจะมีเค้าความจริงเท่าไหร่ 3. อันนี้น่าสนใจดี เบทที่ย์ เดวิส เคยพูดไว้ตอนรับรางวัลเป็นครั้งแรกในสาขานำหญิงปี 1935 จากหนัง Dangerous ว่า รางวัลนี้ทำให้เธอนึกไปถึงสามีเธอคือ ฮาร์มอน ออสการ์ เนลสัน จูเนียร์ ว่าคล้ายๆกันอย่างงี้แหละ--จะเชื่อทฤษฏีไหนก็แล้วแต่คุณ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:20:43

ความคิดเห็นที่ 2 ขอปาดนะครับ จากคุณ : เด็ดเดี่ยวที่จะโดดเด่น เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:22:44

ความคิดเห็นที่ 3 2. ตุ๊กตาสีทอง ออสการ์สีทองต้องใจนี้มีขนาดมาตราฐานสูง 13 นิ้วครึ่ง หนัก 8 ปอนด์ครึ่ง สนนราคาในการผลิตตกตัวละ 400 เหรียญ ตัวรางวัลทำจากโลหะบริแทนเนีบเคลือบทองแดง ดีบุก และเงิน แล้วเอาไปจุ่มในทอง 24 กะรัทเป็นอันเสร็จสรรพ รู้กันไว้เผื่อวันนึงได้เป็นเจ้าของ จะได้รู้ว่าทำไมรางวัลมันถึงได้หนักขนาดนั้น จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:26:59

ความคิดเห็นที่ 4 3. มีรางวัลร้อนๆมาขาย จากมูลค่าตัวละแค่ 400 เหรียญสหรัฐ แต่พอมีชื่อรางวัล ชื่อคนรับ และชื่อหนังประทับตราเข้าไป(ต้องถูกส่งไปลงชื่อที่สถาบันหลังได้รับรางวัลแล้ว) สนนราคาของตุ๊กตาออสการ์ก็กระโดดพรวดจนน่าตกใจ(และน่าขาย) และในบรรดาตุ๊กตาออสการ์ที่ถูกเอาไปประมูลแล้วทำเงินได้สูงที่สุดก็คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของวิมานลอย Gone With The Wind ที่มีคนบ้าซื้อไปตั้ง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:33:53

ความคิดเห็นที่ 5 4. 2 รางวัลจากบทเดียวกัน นักแสดงคนเดียวที่ได้รับรางวัลออสการ์ 2 ตัวในปีเดียวกันจากการแสดงบทเดียวกันคือ แฮโรลด์ รัสเซล ทหารผ่านศึกแขนพิการจากสงคราวโลกครั้งที่ 2 ในชีวิตจริงที่มารับบททหารในหนัง The Best Year Of Our Lives (1946) รางวัลแรกได้จากการชนะในสาจาสมทบชาย รางวัลที่ 2 เป็นออสการ์เกียรติยศที่ให้ในฐานะที่เขานำขวัญและกำลังใจมาให้เพื่อนทหารผ่านศึกคนอื่นๆ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:44:50

ความคิดเห็นที่ 6 ลง bookmark เรียบร้อยค่ะ กระทู้นี้ ขอบคุณ จขกท.นะคะ เพิ่งได้ไม่กี่เกร็ด เกาะขอบกระทู้รอต่อไป จากคุณ : เก้าอี้ที่ซ่อนเร้น เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:49:02

ความคิดเห็นที่ 7 5. หญิงเก่งเข้าชิงติดต่อหลายปี ถ้านิโคล คิดแมนได้เข้าชิงจาก Cold Mountain เธอนะเข้าชิงสาขานำหญิงติดต่อกัน 3 ปี นั่นว่าแน่แล้ว--แต่ของจริงอยู่ที่ 2 สาวดึกดำบรรพ์ที่ได้เเข้าชิงสาขานำหญิงต่อเนื่องแบบนัน สท๊อปไม่หยุดพักถึง 5 ปีด้วยกัน คนแรกคือดาราตาไข่ห่าน เบ็ทที่ย์ เดวิส จากช่วงปี 1938-42 คนที่ 2 คือ เกรียร์ การ์สัน จากช่วงปี 1941-45 แต่ดูจากการรับเล่นหนังของสาวหยวกนิคแล้วก็ไม่ยากนินะที่เธอจะก้าวมาเทียบรุ่น จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 21:53:46

ความคิดเห็นที่ 8 6. พี่น้อง 2 หนุ่มคล้องแขนกันมา--คนละปี พี่ชายน้องชายคู่เดียวที่เคยได้ชิงออสการ์ในสาขาการแสดงคือ ชายงามตระกูลฟีนิกซ์ คนพี่-ริเวอร์ ได้เข้าชิงสาขาสมทบชายจาก Running Of Empty ในปี 1988 ถัดมาอีก 12 ปีสุดหล่อคนน้อง-โยควินได้เข้าชิงสาขาสมทบชายเช่นกันจาก The Gladiator ทั้ง 2 พลาดรางวัลไปทั้งคู่ คนพี่ไม่มีโอกาสแก้ตัวเพราะลาโลกไปแล้ว ส่วนคนน้องยังมีความหวังถ้าเลือกบทดีๆ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:01:33

ความคิดเห็นที่ 9 7. หนังเข้าชิงมากที่สุด มีภาพยนตร์แค่ 2 เรื่องที่เข้าชิงแบบไม่เกรงใจหน้าไหนล่อเข้าไป 14 รางวัลคือ All About Eve ในปี 1950 และ Titanic ในปี 1997 ถ้าว่ากันถึงทุนการสร้างและความอลังการใหญ่ยักษ์ หนังอย่าง Titanic ก็สมควรอยู่หรอก แต่อย่าง All About Eve นี่นอกจากสาขาหนัง กำกับ การแสดง บทแล้วอย่างอื่นที่ชิงไม่หวาดไม่ไหวก็เพราะสมัยก่อนยังมีการแยกประเภทหนังขาว-ดำกับหนังสีไงล่ะ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:07:15

ความคิดเห็นที่ 10 8. หนังกวาดรางวัลเยอะที่สุด กวาดรางวัลไปแบบท่วมอ่วมอรทัยเรื่องละ 11 รางงวัลอยู่ 2 เรื่องเช่นกันคือ Ben-Her ในปี 1959 และแน่นอน Titanic ในปี 1997 ทั้ง 2 เรื่องเป็นประเภทอภิมหาภาพยนตร์ที่ทำมาเพื่อการเป็นหนังออสการ์ และเตรียมรับรางวัลจาก(เกือบ)ทุกสาขาที่มีการแจก จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:14:09

ความคิดเห็นที่ 11 9. สองศรีพี่น้องแย่งรางวัลนำหญิง พี่น้องสองศรีที่ได้เข้าชิงสาขาการแสดงในปีเดียวกันและสาขาเดียวกันมีอยู่สองครอบครัวและจากสาขานำหญิงทั้งคู่ คู่แรกคือ โอลิเวีย เดอ ฮาวินแลนด์(จาก  Hold back the Dawn) และ โจน ฟอนแทน(จาก Suspicion) ในปี 1941 คู่นี้มันส์มาก ยกแรกคนน้อง-โจน ชนะไปก่อน(เธอเป็นดาราจากหนังของ อัลเฟรด ฮิทช์ค็อกคนเดียวที่ได้ออสการ์ด้วย) ยกสองเกิดเหตุในปี 1946 เมื่อ โอลิเวีย ชนะจาก To Each His Own เธอเชิดใส่น้องสาวเมื่อฝ่ายหลังจะเข้าไปแสดงความยินดี.. ประมาณว่าจะเข้ามาแย่งซีนฉันเหรอค่ะ กลายเป็นกรณีเม้าธ์กันทั้งฮอลลีหวูดและทั้งสองก็ไม่พูดกันอีกหลายปี ยกสามโอลิเวอร์เป็นผู้ชนะไปอีกครั้งจาก The Heiress ในปี 1949 (มาทีหลังดังกว่าค่ะ) ส่วนศึกสายเลือดอีกตระกูลมาจากครอบครัวเรดเกรฟ ทั้งวาเนสซ่า (จาก Morgan!) และลินน์ (จาก Georgy Girl) ทั้งคู่ได้เข้าชิงสาขานำหญิงในปี 1966 แต่สองศรีปรองดองกันดีเพราะทานแห้วไปทั้งสองนาง ปล่อยให้อลิซเบธ เทย์เลอร์ (จาก Who's Afraid Of Virginia Woolf?) คว้ารางวัลไปแทน จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:30:30

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณที่นำมาโพสต์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ เมื่อก่อน ผมเองก็เป็นแฟนนิตยสารนี้เช่นกัน คุ้นๆ เรื่องเกร็ดออสการ์นี่ด้วย แต่ข้อมูลบางอย่างอาจไม่ update ปัจจุบันมีหนังที่ได้รับรางวัลสูงสุดจำนวน 11 รางวัลอยู่สามเรื่องด้วยกัน คือ Ben Hur (1959) Titanic (1997) The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) จากคุณ : mikey keynes เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:33:14

ความคิดเห็นที่ 13 10. หนังเอเชียผงาด แทบจะนับนิ้วได้สำหรับสาขาหนังภาษาต่างประเทศ ที่นอกจากจะได้รับการยอมรับในความเป็นสากลให้ชิงสาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมอย่างที่ควรเข้าชิงแล้ว ยังมีทีเด็ดในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งที่นั่ง แต่ที่เฉียบที่สุดคือ Crouching Tiger, Hidden Dragon หนังจากไต้หวัน เอาเชียผมดำตาดำอย่างพวกเรานี่เองประกาศศักดาเข้าชิงถึง 10 สาขาในปี 2000 ทั้งหนังภาษาต่างประเทศ หนังยอดเยี่ยม ผู้กำกับ(อั่ง ลี่) และคว้าไปสี่รางวัลคือ สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม คนตรีประกอบยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:38:45

ความคิดเห็นที่ 14 11. บทในฝัน บทที่ถูกนำมาแสดงแล้วทำให้นักแสดงได้เข้าชิงออสการ์มากที่สุดก็คือ บทพระเจ้าเฮนรี่ที่แปดของอังกฤษ นักแสดงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทนี้และรางวัลออสการ์ไล่มาก็มี ชาร์ล ลาฟทัน จาก  The Private Life Of Henry VIII ในปี 1932-33 ในสาขานำชาย(เป็นคนเดียวที่ชนะในบทนี้) โรเบิร์ท ชอว์ ดาราดาวร้ายที่เคยเข้าชิงจากบทนี้ในสาขาสมทบชายจาก A Men For All Seasons ในปี 1966  และริชาร์ด เบอร์ทัน เข้าชิงสาขานำชายจาก Anne Of Thousand Days ในปี 1969 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:46:49

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบหนังเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon มากค่ะ ทั้งความสามารถของดาราที่แสดงทุกคน ฉากการใช้กำลังภายในสู้รบทุกฉากงดงามที่สุด และเพลงประกอบที่ไพเราะ โดยผู้กำกับยอดเยี่ยมคนนี้ Ang Lee !! จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:51:27

ความคิดเห็นที่ 16 #10 The Lord of the Rings: The Return of the King ก็กวาดไป 11 รางวัลจากการเข้าชิง 11 รางวัลด้วยครับ แก้ไข เพิ่งเห็นว่า #12 บอกไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 22:55:42 จากคุณ : Tyrond เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:54:06

ความคิดเห็นที่ 17 12. บทเดียวกันทั้งสาวทั้งแก่แห่เข้าชิง บทบาทที่ต้องใช้นักแสดงถึงสองคนเล่นในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน คือเล่นเป็นตอนเด็กและตอนแก่แล้วนักแสดงทั้งสองกอดคอกระแตงไปชิงออสการ์ทั้งคู่มีอยู่สองเรื่อง(โดยทั้งสองเรื่องมีเคท วินสเล็ทรับบทเป็นช่วงสาว) เริ่มจากปี 1997 กับหนัง Titanic กับบทโรส เดวิทท์ บูเคเทอร์ซึ่งมีเคท วินสเล็ทเล่นเป็นตอนสาวสะพรั่งและกลอเรีย สจ๊วร์ทตอนหง่อมชรา ทั้งสองเข้าชิงสาขานำหญิงและสมทบหญิงตามลำดับ อีกเรื่องหนึ่งคือ Iris มีจูดี้ เดนซ์และเคท วินสเล็ทรับบทนักเขียน-ไอริส เมอร์ด็อกสองวัยและทั้งคู่เข้าชิงสาขานำหญิงและสมทบหญิงตามลำดับเช่นกัน--ข่าวร้ายก็คือ ไม่มีใครในเรื่องไหนได้เป็นเจ้าของออสการ์เลย จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:59:35

ความคิดเห็นที่ 18 13. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น มีพ่อลูกสองคู่ด้วยกันที่ได้ครองออสการ์สาขาการแสดงทั้งคู่ คู่แรกตระกูลฟอนดา คนลูกคือเจน ฟอนดา-เจ้าแม่แอโรบิค นำป่ะป๋าไปก่อนถึงสองช่วงตัว เธอได้เป็นดารานำหญิงยอดเยี่ยมจาก Klute ในปี 1971 และ Coming Home ในปี 1978 แล้วคุณพ่อเฮนรี่ย์ ฟอนดาก็ตามมาในสาขานำชายจากหนังเรียกน้ำตาอย่าง On Golden Pond ในปี 1981 ที่ป้าเจนลงมือเล่นเป็นลูกสาวในจอให้อีกด้วย อีกคู่คุณพ่อนำไปก่อน.. หลายปีด้วย ตั้งแต่ปี 1978 คือ จอน วอยซ์ ในสาขานำชายจาก Coming Home(ที่เล่นคู่กับเจน ฟอนดานั่นแหละ) 21 ปีผ่านไปคุณลูกโตขึ้นมาเป็นเชื้อไม่ทิ้งแถว คว้ารางวัลการแสดงเป็นว่าเล่นและที่เวทีออสการ์ แองเจลิน่า โจลี ก็ได้เป็นเจ้าของสาขาสมทบหญิงในปี 1999 จาก Girl, Interrupted จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 23:13:10

ความคิดเห็นที่ 19 14. หญิงเก่งเข้าชิงมากที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นดาราขายสำเนียง ไม่ว่าจะเล่นเป็นคนชาติเดนมาร์ค ออสเตรเลียน หรือมลรัฐภาคไหนๆของอเมริกา กรุณาส่งมาให้เจ๊เมอรีล สทรีพ ป้าแกจัดการได้หมดกรรมการออสการ์เองก็ชอบใจให้เธอได้เข้าชิงทั้งสาขานำและสาขาสมทบรวมแล้วได้ 13 ครั้ง(ล่าสุดจาก Adaptation ในปี 2002) นำหน้าคนรั้งตำแหน่งเก่าคือ แคทธารีน แฮพเบิร์นที่ครองสถิติชิง 12 ครั้งมาตั้งแต่ปี 1981 และในเมื่อแคทธารีนขอลาไปเล่นหนังในสวรรค์แล้วเมอรีลก็น่าจะยืดสถิติไปได้อีกนาน จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 23:30:32

ความคิดเห็นที่ 20 *14 ปัจจุบัน เมอรีลเข้าชิง 16 ครั้งแล้วนะครับจาก 1978 The Deer Hunter 1979 Kramer vs. Kramer 1981 The French Lieutenant's Woman 1982 Sophie's Choice 1983 Silkwood 1985 Out of Africa 1987 Ironweed 1988 A Cry in the Dark 1990 Postcards from the Edge 1995 The Bridges of Madison County 1998 One True Thing 1999 Music of the Heart 2002 Adaptation 2006 The Devil Wears Prada 2008 Doubt 2009 Julie & Julia จากคุณ : ผมชื่อ SnooKer นะครับ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 02:01:45

ความคิดเห็นที่ 21 สถิติเข้าชิงของป้าเมอรีล สตรีพ คงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างล่าสุด The Iron Lady ก็น่าจะได้เข้าชิงออสการ์ (หลังจากคว้าลูกโลกทองคำจากเรื่องนี้แล้ว) ป้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เจงๆๆ แสดงบทไหนก็องค์ลง จากคุณ : คิดตึ๋งมาก เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 02:05:24

ความคิดเห็นที่ 22 เด๋วพรุ่งนี้มาอ่านต่อนะครับ ไลค์ๆๆ จากคุณ : ผมชื่อ SnooKer นะครับ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 02:09:30

ความคิดเห็นที่ 23 มาลงชื่อว่าที่กระทู้แนะนำค่ะ  กระทู้ดีๆแบบนี้นานๆจะมีสักที จากคุณ : love mom so much เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 05:57:24

ความคิดเห็นที่ 24 15. ผู้กำกับที่รัก "ที่รักขา อยากได้ออสการ์จัง" "ไม่ต้องห่วงจ๊ะ เดี๋ยวพี่กำกับน้องเอง จะเคี้ยวให้ได้รางวัลเลยจ๊ะ" ใครจะไปรู้ว่าคุณน้าฟรานเชส แม็คดอร์มานด์ เคยออดอ้อนโจเอล โคเอนอย่างนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเธอเป็นผู้ชนะสาขาการแสดงเพียงคนเดียว(จาก Farco สาขานำหญิงปี 1996) ที่ได้รางวัลจากการกำกับของสามีตัวเอง แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 07:10:44 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:09:53

ความคิดเห็นที่ 25 16. สามี-ภรรยาคู่เก่ง คู่ผัวตัวเมียที่ได้รางวัลออสการ์สาขาการมีอยู่สามคู่ด้วยกันคือ ลอว์เร็นซ์ โอลิเวียร์ (นำชายจาก Hemlet ในปี 1948) และวิเวียน ลีห์ (นำหญิงจาก Gone With The Wind ในปี 1939 และเบิ้ลอีกรอบจาก A Streetcar Named Desire ในปี 1951) คู่ที่สอง พอล นิวแมน (จาก Color Of Money ในปี 1986) และโจแอน วู๊ดวาร์ด (จาก The Tree Faces Of Eve ในปี 1957) คู่ที่สามไมเคิล ดักลาส (จาก Wall Street ในปี 1987) และศรีภรรยาที่เพิ่งคว้ามาแบบอุ่นๆ แคเธอรีน ซีทา โจนส์ (จาก Chicago ในปี 2003) จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:21:43

ความคิดเห็นที่ 26 17. ผู้กำกับร่วม มีอยู่ครั้งเดียวในประวัติศาตร์การแจกรางวัลออสการ์ที่สาขาผู้กำกับมีผู้ชนะสองคน--ไม่ได้เสมอกัน แต่เขาช่วยกันกำกับเรื่องเดียวกันคือ เจอจโรม ร็อบบินส์ และ โรเบิร์ท ไวส์ จากการกำกับหนังเพลงเรื่องดัง West Side Story ในปี 1961 เป็นหนังเพลงที่ได้ออสการ์มากที่สุดถึง 10 ตัว คนแรกกำกับส่วนการออกแบบท่าเต้นและฉากที่ต้องมีการเต้นรำ ส่วนคนหลังกำกับส่วนทั่วไปและองค์ประกอบอื่นๆ สองคนกำกับเรื่องเดียวกันออสการ์ก็จดบันทึกแล้ว มาเจอแบบบ้านเราที่ใช้หกคนกำกับบ้างน่าจะไปลงกินเนสส์บุ๊คนะ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:45:22

ความคิดเห็นที่ 27 18. ผิดเพศจนได้ดี ปี 1983 เมื่อมีการประกาศผู้ชนะในสาขาสมทบหญิงมีผู้คนร้องว่า อ้าว!! ก็เพราะลินดา ฮันท์เล่นเป็นตากล้องหนุ่มตัวเตี้ยชาวอินโดนีเซียในหนัง The Year Of Living Dangerously นี่หว่า.. จะทำไมล่ะ เอาผู้หญิงมาเล่นเป็นผู้ชายนี่แหละ เล่นตามเพศมาตั้งนานไม่เห็นมีใครสนจเลยนี่นา จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:49:24

ความคิดเห็นที่ 28 19. เจ้าแม่ออสการ์ แคทธารีน เฮพเบิร์น เป็นเจ้าของออสการ์สาขาการแสดงมากที่สุดถึงสี่ตัว และทั้งสี่ตัวมาจากสาขานำหญิงล้วนๆไม่มีรางวัลสมทบมาปะปน เริ่มจาก Morning Glory ในปี 1932-33, Guess Who's Coming To Dinner? ในปี 1967, The Lion In Winter ในปี 1968, On Golden Pond 1981  แต่แชมป์นางนี้ไม่อีนังขังขอบอะไร เธอไม่เคยไปรับรางวัลที่งานพิธีเลยแม้ซักหนเดียว ครั้งเดียวที่เธอยอมไปงานออสการ์ก็เมื่อปี 1973 ในฐานะผู้เชิญรางวัลเกียรติยศ-ธัลเบิร์ก อวอร์ด ที่มอบให้ลอว์เร็นซ์ วินการ์แทน ผู้อำนวยการสร้างในหนังหลายๆเรื่องของเธอ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 07:57:44

ความคิดเห็นที่ 29 20.บทยดเยี่ยมทั้งที่ไม่มีคำพูดซักแอะ อัลเบิร์ท ลามอริสส์ เจาของบทหนัง The Red Balloon ผู้ชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 1956 ก็คงงงไม่น้อย เพราะว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีบมสนทนาแม่ซักกะแอะ อยากเห็นบทหนังเรื่องนี้จังว่าเขาเขียนกันว่ายังไง? จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:08:56

ความคิดเห็นที่ 30 21. อาวุโสที่สุด บ่อยครั้งที่ออสการ์ใจอ่อนกับผู้สูงอายุ บางคนก็ได้เข้าชิงเฉยๆ บางคนได้รางวัลไปแบบไม่หัวใจวายตายก็ดีแล้ว ในกลุ่มผู้เข้าชิงอาวุโสที่สุดคือ กลอเรีย สจ๊วร์ท ในสาขาสมทบหญิงปี 1997 จาก Titanic ส่วนในกลุ่มผู้ชนะต้องยกให้ เจสสิกา เทนดี่ย์  สาขานำหญิงจาก Driving Miss Daisy ปี 1989 ปูนนั้นแล้วยังตีบทกระจุยก็ต้องตบรางวัลให้บ้างล่ะ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:14:04

ความคิดเห็นที่ 31 22. เธอเท่านั้น มีนักแสดงเพียงคนเดียวที่ได้รางวัลสาขาการแสดงไปประดับบ้านสองตัวจากการกำกับของผู้กำกับคนเดียวกัน ก็คือ.. ไปให้คนอื่นกำกับก็งั้นๆ ต้องให้คนนี้แหละ ฉันถึงจะปล่อยพลังออกมาเต็มที่ เธอคือ ไดแอน เวียสท์ ดาราเสียงเล็กที่บางคนนึกว่าเป็นแม่ของเรเน่ เซลล์เวกเกอร์! ได้รางวัลออสการ์สาขาสมทบหญิงสองครั้งสองคราจาก Hannah And Her Sisters ในปี 1986 และ Bullets Over Broadway ในปี 1994 ผู้กำกับที่รับความดีความงามก็คือ หัวงู วู้ดดี้ย์ อัลเลน นั้นเอง จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:20:56

ความคิดเห็นที่ 32 23. ความประหลาดใจในสาขาหนังต่างประเทศ คณะกรรมการออสการ์มีรสนิยมแปลกๆ เอาการกับหนังต่างประเทศ คือชอบทำเป็นเมินหนังดังๆ แล้วไปขุดเอาหนังอะไรก็ไม่รู้มาให้รางวัลแทน ปีที่น่าเจ็บใจก็คือปี 1993 มีหนังจากเอเชียตั้งสามเรื่องที่หลุดเข้าไปชิงชัยในสาจาหนังดังกล่าวคือ Farewell, My Concobine(ฮ่องกง) The Scent Of Green Papaya(เวียดนาม) และ The Wedding Bunquet(ไต้หวัน) ที่ต่างก็แอบตอรางวัลลจากสถาบัยยักวิจารณ์ไปถึงเทศกาลหนังนานาประเทศ แต่พอมาถึงออสการ์ ผู้ชนะคือ Belle Epoque(สเปน) ที่ดำดินผุดมาจากไหนไม่มีมคร(อยาก)ทราบ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:28:32

ความคิดเห็นที่ 33 24. ผู้กำกับรุ่นเยาว์ อายุเฉลี่ยส่วนใหญ่ของผู้กำกับที่จะเข้าชิงไปถึงคว้ารางวัลได้คือปลายเลขสามเตรียมตัวรับเลขสี่ ประมาณว่าต้องโชกโชนมาในวงการมากพอสมควร แต่มีชายหนุ่มสองคนที่ได้เข้าชิงออสการ์ในวัยที่หลายๆ คนยังงมโข่งอยู่ในฮอลลิหวูดอยู่เลยมั้ง คนแรกคือ ออร์สัน เวล์ลสฺ จากหนังแห่งยอดความเป็นหนัง Citizen Kane ในปี 1941 ออร์สันเข้าชิงตอนเบญเพศเป๊ะ ส่วนคนที่มาทำลายสถิติตอนครึ่งศตวรรษให้หลังก็คือ จอห์น ซิงเกิลทัน ผู้กำกับผิวสีวัย 24 จาก Boyz N The Hood จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:42:44

ความคิดเห็นที่ 34 25. วันของหนังสยองขวัญ เสียงกรี๊ดจากการหวีดสยองอาจจะเรียกเงินได้ก็จริงแต่พอถึงเรื่องกล่อง กรุณาหลบไปก่อนนะค่ะ! หนังเขย่าขวัญ(เต็มตัว)เรื่องเดียวที่ไปถึงดวงดาวในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคือ The Silence Of The Lambs ในปี 1991 บางคนอาจจะรวมเอา Rebecca ของอัลเฟรด ฮิทช์ค็อก จากปี 1940 เข้าไปด้วยแต่เมื่อเทียบความเขย่าขวัญสั่นประสาทแล้ว คร.ฮันนิบาล เล็คเตอร์ ชนะไปหลายช่วงตับ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:50:00

ความคิดเห็นที่ 35 จาก ข้อ14 ใน คห.ที่ 19 และ ข้อมูลอัพเดท ใน คห.ที่ 15 ^ ^ หากเรื่อง The Iron Lady ได้เข้าชิงอีก...จะเป็นที่ 17  แล้ว...O_O เจ้าป้าเมอรีล...สุดยอดจริงๆ... แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 08:57:42 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 08:56:11 จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:54:03

ความคิดเห็นที่ 36 มาได้ครึ่งทางแล้ว นี่คงเป็นกระทู้ที่ใช้เวลาโพสนานที่สุดในพันทิปหรือป่าว จขกท. สู้ๆ ครับ (จะกลับมาอ่านอีกทีเมื่อโพสครบ 50 ข้อ) จากคุณ : FIndinGBeautYINNegativESpacES เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 08:58:52

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตกระทู้ดีกว่า...ชอบๆๆๆๆ....^__^ จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:02:52

ความคิดเห็นที่ 38 26. มันเป็นไปได้ยังไง ในยุคแรกๆมีหนังยอดเยี่ยมหลายเรื่องที่ผู้กำกับไม่ได้เข้าชิง แต่เมื่อการแจกรางวัลเข้าที่เข้าทางมีการยอมรับว่าหนังจะดีได้ก็เพราะมีผู้กำกับภาพยนตร์ที่ดีด้วย จากนั้นมาหนังที่ได้รางวัลใหญ่สุดคือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ต้องมีผู้กำกับคว้ารางวัลไปด้วยหรือไม่ก็เข้าชิงก็ยังดี แต่สำหรับ Driving Miss Daisy ของตลกประทับใจปี 1989 ที่เป็นหนังยอดเยี่ยมและเข้าชิงตั้ง 9 สาขา กลับไม่มีชื่อผู้กำกับชาวออซซี่-บรู๊ซ เบเรสฟอร์ดให้เห็นเลย บรรดาผู้เชิญรางวัลในปีนั้นเลยถือโอกาซแซวทุกครั้งที่มีช่อง ประมาณว่าหนังเรื่องนี้คงกำกับตัวเองมั้ง โอ๊ย.. กรรมการออสการ์คงเจ็บแสบหรอก จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:06:22

ความคิดเห็นที่ 39 คห. 36 ผมพิมพ์ช้าอะครับ แหะๆ ไงก็รออ่านจนครบ 50 เรื่องกันครับ  ^^ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:09:45

ความคิดเห็นที่ 40 27. ตระกูลออสการ์ ตระกูลออสการ์เป็นเจ้าของออสการ์กันมาถึงสามชั่วอายุคน ย้อนกลับไปในปี 1948 ตอนที่ผู้กำกับ จอห์น ฮุสตัน ได้เป็นผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก The Treasure Of Sierra Madre แถมยังกำกับพ่อตัวเอง วอลเทอร์ ฮุสทัน ได้สมทบชายจากหนังเรื่องนั้นไปด้วย(พ่อเคยบอกไว้ว่าเป็นผู้กำกับแล้วหาบทดีๆให้พ่อบ้างนะลูก) ม่อีกรุ่นหนึ่งก็ตอนปี 1985 ที่ จอห์น ฮุสทัน กำกับลูกสาวตัวเอง แองเจลิกา ฮุสทัน ได้สมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Prizzi's Honnor ตอนนี้ก็ต้องรอรุ่นลูกคุณป้าแองจี้มาสร้างสถิติต่อละ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:16:46

ความคิดเห็นที่ 41 28. ผู้เข้าชิงทั้ง 12 สาขาที่มีคนเข้าชิงมากที่สุดจากหนังเรื่องเดียวคือ สาขาดนตรีประกอบจากหนัง The Color Purple ในปี 1985 ไม่รู้ว่าขั้นตอนการทำงานทำกันยังไงแต่คนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้มีถึง 12 คน หนึ่งในนั้นนคือ ควินซีย์ โจนส์ โพรดิวเซอร์ชื่อดังที่มีผลงานเยี่ยมในการทำงานกับศิลปินระดับ ดอนน่า ซัมเมอร์, อรีธ่า แฟรงคลิน, แฟรง สิเนทรา, จอร์จ เบนสัน และป้าเคิ่ลมาแล้ว จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:36:33

ความคิดเห็นที่ 42 29. ปีทองของคนแก่ ปี 1981 อาจจะเป็นปีคนชราในแบบของฮอลลิหวูดก็ได้เพราะว่าสาขาการแสดงทั้งสี่ ผู้ชนะแต่ละท่านล้วนเข้าระดับไม้เท้าทองคำกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นนำชาย-เฮนรี่ย์ ฟอนดา จาก On Golden Pond (77 ปี), นำหญิง-แคทธารีน เฮพเบิร์น จาก On Golden Pond (72 ปี), สมทบชาย-จอห์น เกลกุด จาก Arlthurl (71 ปี), และสมทบหญิง-มัวรีน สเทเพิลทัน จาก Reds (56 ปี)เฉลี่ยอายุออกมาได้ 70 ปีครึ่ง เล่นเอางานนี้เป็นบ้านบางแคไปเลย จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:44:55

ความคิดเห็นที่ 43 30. เด็กมหัศจรรย์ ไม่ใช่จะรักแต่รุ่นดึก ออสการ์ก็เอ็นดูเด็กๆ เป็นเหมือนกัน ตั้งแต่ยุดแรกๆ ที่มีการแจกรางวัลพิเศษให้กับดาราเด็กมาถึงยุดที่เล็กพริกขี้หนูเข้ามาชิงกับผู้ใหญ่เลยก็ยังมี ถ้าเป็นผู้เข้าชิงที่เด็กที่สุดก็คือ จัสติน เฮนรี่ย์ หนูน้อยผู้น่ารักน่าชังเหลือเกิน(ในตอนนั้น) เข้าชิงสมทบชายตอนแปดขวบจาก Kramar VS Kramar ในปี 1978 แต่ถ้าเป็นผู้ชนะก็ต้องเป็น ทาทัม โอนีล สาวน้อยได้รับรางวัลสมทบหญิงตอนอายุสิบขวบจาก Paper Moon จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 09:55:06

ความคิดเห็นที่ 44 31. มนุษย์มากความสามารถ มีบุคคลมากความสามารถเหมาทำอะไรต่อมิอะไรในหนังเพียบอยู่สองคนที่เข้าชิงออสการ์ถึงสี่สาขาจากหนังเรื่องเดียว ทั้งอำนวยการสร้าง กำกับ เขียนบท และนำชาย คนแรกคือ ออร์สันเวลล์สฺ จาก Citizen Kane ในปี 1941 คนที่สอง วอร์เรน บิทที่ย์ ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องเจ้าชู้ประตูดินอย่างเดียว ทำได้ในปี 1978  จาก Heaven Can Wait และเหมาซ้ำอีกครั้งจาก Reds ในปี 1981 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 10:00:38

ความคิดเห็นที่ 45 32. ดีไซเนอร์สุดหรูก็มีเอี่ยว ในประวัติศาสตร์การแจกออสการ์สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม มีคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าชิงหลายครั้งแต่มีเพียครั้งดียวที่ดีไซเนอร์ดังจากห้องเสื้อแบรนด์เนมสุดหรูได้เข้าชิงคือ คริสเทียน ดิออร์ ตัวจริงฝีมือจริงจากเรื่อง Indiscretion Of American Wife หนังจากค่ายโคลัมเบียในปี 1954 ถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้ชนะแต่ก็เป็นสีสันที่น่าสนใจ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 10:08:26

ความคิดเห็นที่ 46 33. ครอบครัวคนตรี มีนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มีบิดามารดาเป็นเจ้าของรางวัลด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็นลูกไม้หล่นปุ๊ลงใต้ต้นหรือว่าเป็นความกดดันที่ฉันต้องทำให้ได้ก็ไม่รู้ แต่ว่าหนึ่งเดียวผู้นั้นก็คือ ไลซ่า มิลเนลลี่ เธอได้รางวัลสาขานำหญิงในปี 1972 จาก Cabaret ส่วนคุณพ่อผู้ให้กำเนิดก็คือ วินเซ็นท์ มิลเนลลี่ ได้รับรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก Gigi ในปี 1958 และคุณแม่ไม่ใช่ใครอื่น--เจ้าแม่แห่งดิว่าทั้งปวงทั้งโลกา จูดี้ย์ การ์แลนด์ ได้รางวัลออสการ์พิเศษในปี 1939 จาก The Wizard Of Ozที่น่าสังกตุคือทั้งสามคนได้รางวัลไปกอดก็จากหนังเพลงด้วยกันทั้งสิ้น จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 10:24:17

ความคิดเห็นที่ 47 34. ผู้ชนะร่วม สองครั้งเท่านั้นที่สาขาการแสดงมีการเสนอ (คือมีผู้ชนะสองคนน่ะ) ครั้งแรกคือสาขานำชายในปี 1931-32  วิลเลซ บีรี่ย์ จาก The Champ และ เฟรกดริก มาร์ช  จาก Dr.Jerkll and Mr.Hyde ส่วนครั้งที่สองเป็นที่ของฝ่ายหญิงบ้างกับสาขานำหญิงในปี 1968 แคทธารีน เฮ็พเบิร์น จาก The Lion In Winter คู่กับป้าบ้า-บาร์บรา สตรัยเซน จาก Funny Girl ว่ากันว่าป้าบ้าเพิ่งได้รับการอนุมัติเป็นสมาชิกของ The Academy Of Motion Pictures Arts And Sciences(ที่ส่งผลให้เธอมีสิทธิลงคะแนนโหวทด้วย) ก่อนหน้าการลงคะแนนไม่กี่วัน ไม่ต้องสงสัยว่าป้าบ้าโหวทคะแนนให้ใครใช่มั้ยล่ะ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 11:17:01

ความคิดเห็นที่ 48 35. ไปแล้วไม่ไปลับ นักแสดงคนเดียวที่เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์หลังจากที่ลาโลกมนุษย์นี้ไปแล้วคือ พีเทอร์ ฟินช์ จาก Network ในปี 1976 ในสาขาดารานำชาย พีเทอร์เสียชีวิต้มื่อเดือนมกราคมปี 1977 ที่โรงแรมเบเวอร์ลี่ย์ฮิลล์สฺ ก่อนงานแจกออสการ์ไม่กี่เดือน ภรรยาของเขาเป็นผู้ขึ้นไปรับรางวัลแทน จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 11:23:42

ความคิดเห็นที่ 49 36. ขวัญใจวัยโจ๋ผู้จากไปตลอดกาล นักแสดงที่ด่วนจากไปก่อนเวลาอันควรมากๆ(ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่ออายุแค่ 24 ปี) อย่าง เจมส์ ดีน ทำให้ภาพลักษณ์วัยรุ่นเจ้าปัญหาติดตัวไปตลอดกาลและเป็นไปได้ว่าในอีกหลายปีข้างหน้าวัยรุ่นชายอเมริกันชายหน้าตาดีมีปัญหายังจะมองเจมส์ ดีนเป็นขวัญใจของพวกเขาและหนัง Rebel Without A Cause (1955) ก็จะเป็นหนังที่ถูกใจวัยรุ่นทุกสมัย แต่จะมีใครเคยนึกบ้างมั้ยว่าเจมส์ ดีนอาจได้ตำแหน่งนักแสดงเจ้าบทบาทติดตัวไปอีกฉายาก็เป็นได้ ขนาดได้เล่นหนังดังๆ อยู่แค่สามเรื่อง เข้ายังได้เสนอชื่อเข้าชิงหลังหลังเสียชีวิตไปแล้วถึงสองครั้งในสาขานำชายปี 1955 กับ East Of Eden และในปี 1956  จากเรื่อง Giant นี่ถ้ายังเล่นหนังมาเรื่อยๆ บทดีๆ ของนักแสดงร่วมรุ่นอย่าง มาร์ลอน แบรนโด หรือ มอนท์โก เมอร์ี่ย์ คลิฟฟ์ อาจตกเป็นของเขาหลายเรื่องเชียวล่ะ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 11:34:52

ความคิดเห็นที่ 50 37. บทเดียวสาขาเดียว กฏเหล็กข้อหนึ่งที่กรรมการออสการ์ตั้งขึ้นมาก็คือ นักแสดงแต่ละคนมีสิทธิ์เข้าชิงจากบทนั้นแค่สาขาเดียวถ้างงว่าแล้วจะไปชิงหงงายๆ สาขาได้ยังไง--มีตัวอย่างฮะ--ของอย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1944 เมื่อบทบาทของ แบรรี่ย์ ฟิทช์ เจอรัลด์ จาก Going My Way ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างบทนำและสมทบ เจ้าตัวเลยได้เสนอชื่อเข้าชิงทั้งนำชายและสมทบชาย แล้วก็คว้ารางวัลสมทบชายไป ดีนะ.. ไม่ชนะไปทั้งสองสาขา แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 11:53:29 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 11:52:58

ความคิดเห็นที่ 51 38. กำกับดีมีชิงตั้งสองเรื่อง มีผู้กำกับเพียงสองคนเท่านั้นที่เด็ดดวงขนาดเข้าชิงซะสองเรื่องในปีเดียวกันเลย เริ่มจากไมเคิล เคอร์ทิซ จาก Angels With Dirty Faces และ Four Daughhters ในปี 1938(ซึ่งก็พลาดไปทั้งคู่ก่อนจะไปคว้ารางวัลในปี 1943 จากหนังรักอมตะ Casablanca) และหมาดๆ ไม่นานเท่าไหร่ในปี 2000 สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก แสดงความเก๋าด้วยการชิงควบจากทั้ง Erin Brockovich และ Traffic ก่อนจะได้รับรางวัลจากเรื่องหลัง จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:05:47

ความคิดเห็นที่ 52 อ้าว!! เอาใหม่รูปบ่ขึ้นซะงั้น จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:07:53

ความคิดเห็นที่ 53 39. มันเป็นอย่างงี้ได้ยังไง ในการแจกรางวัลออสการ์ปี 1972 คนที่ได้รับการถ่ายทอดสดและคนในงานต่างก็นึกว่าคืนนี้จะเป็นคืนแห่ง Cabaret ไปซะแล้ว หลังจากที่เขมือบรางวัลไปตั้งแต่หัวค่ำ ทั้งบันทึกเสียง กำกับศิลป์ ดนตรีประกอบ ลำดับภาพ กำกับภาพ สมทบชาย(โจเอล เกรย์) นำหญิง(ไลซ่า ไมเนลลี่) ผู้กำกับ(บ็อบ ฟอสส์) แต่พอมาถึงรางวัลใหญ่อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดันไปโดนเจ้าพ่อ The Godfather เป่าดับซะ Cabaret เลยกลายเป็นหนังที่คว้ารางวัลมากที่สุด--ที่ไม่ได้พ่วงรางวัลหนังยอดเยี่ยมเอาไว้ด้วย แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 12:15:34 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:15:09

ความคิดเห็นที่ 54 40. ปรากฏตัวบนจอสั้นที่สุด จอมขโมยซีนอย่าง จูดี้ เดนซ์ คว้ารางวัลสมทบหญิงได้จาก Shakespeare In Love ในปี 1998 จากการรับบทเป็นพระราชินีอลิซเบธที่หนึ่ง ทั้งที่คุณหญิงจูดี้โผล่มาแย่งซีนแย่งเสียงฮาได้ไม่กี่ฉากและรวมกันแล้วมีเวลาอยู่บนจอแค่ 8 นาที!! ส่วนรองแชมป์อันดับหนึ่งที่เก้านาทีคือ แอนโธนี่ย์ ควินน์ ได้สมทบชายจาก Lust For Live ในปี 1956 และรองอันดับสองออกมาสิบนาทีก็ได้รางวัลไปง่านๆ คือ เบียทริซ สเทรท จาก Network ในปี 1976 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:24:08

ความคิดเห็นที่ 55 41. หนึ่งเดียวที่ต้องการ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นหนังรวมดาราทั่วฟากฟ้าฮอลลิหวูดในสมัยนั้น แต่ Grand Hotel ที่ขนเอาทั้ง จอห์น แบร์รี่ย์มอร์, ไลโนเอล แบร์รี่ย์มอร์, โจน ครอวฟอร์ด, วอลเลซ เบียรี่ย์ และเกรทา การ์โบ นางเอกอมตะที่ปล่อยประโยคอมตะ "Leave me Alone!" ไว้ในหนังเรื่องนี้ด้วย กลับได้ชิงเพียงรางวัลเดียวกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของงานออสการ์ปี 1931-32 ข่าวดีก็คือ Grand Hotel ที่มาแบบข้ามาคนเดียวสามารถคว้ารางวัลไปได้ และยังไม่มีหนังเรื่องไหน(อยาก)ทำอย่างว่าเป็นเครื่องที่สอง จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 12:44:06

ความคิดเห็นที่ 56 42. พลาดหมดทั้ง 11 สาขา ตอนประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงก็น่าแฮปปี๊ดี๊ด๊าอยู่หรอก แหม.. ได้เข้าชิงตั้ง 11 สาขา แต่พอถึงวันประกาศผลรางวัลต้องปาดน้ำตาป้อยๆ ฝันสลายดอกฝ้ายบาน เพราะไม่มีแม้แต่รางวัลเดียวตกถึงมือ หนังที่ประสบชะตากรรฒที่ไม่มีใครอยากเจอมีอยู่สองเรื่องคือ The Turning Point หนังแวดวงนักเต้นรำในปี 1977 และเรื่องที่สองคือ The Color Purple หนังดราม่าเรื่องเยี่ยมของสตีเว่น สพีลเบิร์ก ที่ส่งให้ป้าเฉาก๋วย วู้พี่ โกล์ดเบิร์ก มาจุติในวงการในปี 1985 ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าตั้ง 11 ตัวเนี่ยนะ.. นกหมด!! จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 13:06:18

ความคิดเห็นที่ 57 43. คืนของคนผิวสี เกิดเป็นนักแสดงผิวสีในฮอลลิหวูดนี้แสนจะลำบากนอกจากจะได้บทที่ซ้ำซากแล้ว หนทางไปสู่ออสการ์ยังมีแค่แสงที่ริบหรี่ ต่อให้แอฟริกัน-อเมริกันที่คว้ารางวัลสาขาการแสดงก็ยังนับได้ภายในสิบนิ้วนี่แหละ ฉะนั้นวันที่ต้องจารึกไว้ก็คือการแจกรางวัลปี 2001 เป็นปีแรกที่ดารานำชายและหญิงเป็นคนผิวสีทั้งคู่ ฝ่ายชายคือ เดนเซล วอร์ชิงทัน จาก Training Day (ได้เป็นตัวที่สองหลังจากเคยได้สมทบชายจาก Glory ในปี 1989ป ฝ่ายหญิงคือ ฮัลลี่ แบร์รี่ย์ จาก Monster's Ball และแถมให้เป็นคืนของคนผิวสีจริงๆ ออสการ์เกียรติยศยังเป็นของ ซิดนี่ย์ พอยเทียร์ นักแสดงผิวสีคนแรกที่ได้ออสการ์นำชายจาก Littles Of The Field ในปี 1963 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 13:24:06

ความคิดเห็นที่ 58 44. ต่างชาติก็คว้ารางวัลเด่น คงจะเพราะอุปสรรค์ด้านภาษาเป็นสำคัญ นักแสดงจากหนังภาษาต่างประเทศถึงทำได้แค่ชิงแล้วก็ชิงอีก แต่ก็ยังดีที่มีนักแสดงตั้งสองคนที่สู่อุตส่าห์ทลายปราการได้และทั้งสองมาจากเมืองมักกะโรนีทั้งคู่ คนแรกคือ โซเฟีย ลอเรน นำหญิงยอดเยี่ยมที่สลัดคราบดาวยั่วมาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทใใน Town Women ในปี 1961 คนที่สองคือนักแสดงบ้าน้ำลาย โรแบร์โท เนิญญี่ ได้นำชายจาก Life Is Beautiful ในปี 1998 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 13:31:56

ความคิดเห็นที่ 59 45. คุณตัวเชิญทางนี้ หนึ่งในบทที่ออสการ์รักนักหนาคือบทโสเภณี จะชั้นสูง จะริทถนน หรือจะเป็นนางทางโทรศัพท์ออสการ์ก็ชอบมอบรางวัลให้ พวกเข้าชิงน่ะเยอะ พวกที่ได้ก็มีมากอย่าง ดอนนา รีด ดาราแสนดีที่พอพลิกบทบาทมาเป็นอีตัวใน From Here To Eternity (1953) เธอก็ได้สมทบหญิงไปเลย หรือในปี 1960 ทั้งนำหญิงและสมทบหญิงก็มาจากบทโสเภณีทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น อลิซเบธ เทย์เลอร์ จาก Butterfield 8 และ เซอร์ลี่ย์ โจนส์ จาก Elmer Gantry ที่น่าสนใจมีอยู่ปีหนึ่งที่ฝ่ายหญิงมีอาชีพอยู่คนละขั่วคือ แม่ชีและโสเภณี นั่นคือปี 1995 ที่ซูซาน ซาแรนดอนได้นำหญิงจากบท ซิสเทอร์เฮเลนใน Dead Man Walking และ ไมร่า ซอว์วี่โน่ ได้สมทบหญิงจากบทลินดา อีตัวเสียงแสบแก้วหูใน Mighty Aphrodite จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 13:42:43

ความคิดเห็นที่ 60 46. เจ้าพ่อออสการ์ตัวจริง ปูชนียบุคคลที่เป็นเศรษฐีออสการ์ตัวจริงคือ วอลท์ ดิสนี่ย์ผู้ให้กำเนิด Mickey Mouse และสรรค์สร้างหนังการ์ตูนอีกร้อยเรื่อง มีเด็กนับร้อยล้านที่ได้จินตานาการบรรเจิดเมื่อได้ดูหนังของคุณปู่ลอลท์ และออสการ์ก็ตอบแทนความดีนี้ด้วยการมอบรางวัลให้รวมแล้ว 26 ตัว ทั้งการ์ตูนสั้น สารคดี และรางวัลเกียรติยศ--คงอีกนาน(เป็นไปได้มั้ย?)กว่าจะมีใครมาโค่นสถิติลงได้ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 13:49:08

ความคิดเห็นที่ 61 47. หนังเรทเอ็กซ์ มีหนังปะหัวเรทเอ็กซ์เพียงเรืองเดียวที่ได้รับเกียรติยศสูงสุดให้ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม--ไม่ใช่กรรมการออสการ์ปีนี้ตัณหาพาไปอะไรหรอก แต่ Midnight Cowboy ของ จอห์น เซลซิงเกอร์ ที่แสดงนำโดย จอห์น วอยท์ และ ดิสทิน ฮอฟฟ์แมน ออกฉายโดยติดเรทเอ็กซ์เนื่องจากภาพโจ๋งครื้มและรุนแรงแฝงในหลายฉาก(สมัยนั้นยังไม่มีเรท NC-13)ใครหามาดูตอนนี้รับรองว่าต้องค้านว่าไม่เห็นเอ็กซ์ตรงไหน ก็แน่ล่ะ.. สมัยนั้นเข้ายังไม่มี Basic Instinct กับ Showgirls ให้ดูนี่ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 14:02:50

ความคิดเห็นที่ 62 48. นักแสดงเอเชีย ใครสงสัยว่านักแสดงเอเชียผมดำตาดำเมื่อไหร่จะได้สิทธิ์รับรางวัลออสการ์สาขาการแสดงบ้าง--รู้ไหมว่าเคยมีมาแล้วนะ--มีอยู่สองคนสองชาติ เริ่มที่สมทบหญิง มิโยชิ อุเมกิ จากหนัง Sayonara (คงไม่ต้องบอกว่าสัญชาติอะไร) ในปี 1957 ส่วนคนที่สองเป็นชาวเขมรชื่อ เฮียง เอส งอร์ จากหนัง The Killing Fields ปี 1984 ทั้งสองเรื่องต่างก็มีฉากหลังเป็นสงครามในเอเชีย จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 14:07:40

ความคิดเห็นที่ 63 49.คนเดียวก็เกินพอ ในปี 1975 มีสถิติขึ้นมากมาย  แต่ที่ประหลาดเข้าขั้นที่สุดน่าจะเป็นการเข้าชิงสาขานำชายของ เจมส์ วิทมอร์ จากหนัง Give' Em Hell. Harry! ที่บันทึกภาพจากการแสดงละครเวทีแล้วเอามาฉายในโรงหนัง(เพื่อให้สิทธิ์ชิงออสการ์.. แบบนี้ก็มีแฮะ!) ทั้งเรื่องเจมส์รับบทเป็นประธานาธิปดีแฮร์รี่ย์ ทรูแมน แกเล่นอยู่คนเดียวพร่ามอะไรไปตามเรื่อง แล้วก็เล่นได้เยี่ยมขนาดลูกสาวของท่าประธานาธิปดีตัวจริงยังต้องอุทานว่า "เหมือนพ่ออิชั้นม้าก มากค่ะ!" เรื่องนี้ก๋็เลยสร้างสถิติว่าเล่นโดนคนคนเดียวและได้เข้าชิงออสการ์ด้วย แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 14:15:23 จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 14:15:05

ความคิดเห็นที่ 64 นก คืออะไรครับ จากคุณ : OBERON เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 16:13:07

ความคิดเห็นที่ 65 คห. 64 นกคือ ชวด อด ไม่ได้อะไรเลยครับ ^^ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 16:32:14

ความคิดเห็นที่ 66 ข้อที่ ๕๐ ไปไหนเสียแล้วหนอ? รอตอบกระทู้คุณน้องหมาของผมชื่อมันเดย์ อยู่นะเนี่ย ดู Running on Empty แต่ลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว รู้แต่ว่ามาเห็นรูป River ก็ให้นึกเสียดาย...  :( สมัยก่อนดูละครเรื่องมารยาริษยาของ Exact แล้วสนุกดี แต่ซัก ๔-๕ ปีให้หลังได้ดู All about Eve แล้ว อืมมมมมมม....นะ James Dean จาก East of Eden ชอบฉากที่เข้าไปคุยกับพ่อ แล้วหันไปแกะเกาข้างฝาระหว่างคุยนี่ ดูเป็นธรรมชาติ น่ารักดี คือเหมือนคุยกันในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เหมือนกำลังเล่นหนังอยู่ ตอนที่ดู Ngor ในช่วงแรกๆ ของ The Killing Fields ยังคิดอยู่ว่า ไรวะ...วิ่งตามฝรั่งต้อยๆ ได้ออสก้าร์ได้ไงเนี่ย? แต่พอเข้ากลางเรื่องถึงได้เห็นว่าเขาได้ออสก้าร์ได้ไง...นี่แหละ อย่าเพิ่งตัดสินโดยที่ยังดูไม่จบ :(   (แต่ชอบเสียง Malkovich มาก เสียงหล่อเกินหน้าเกินตา...เกี่ยวกับเรื่องที่ตอบเรอะ???!!!) จากคุณ : Lightbody Snowman เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 17:42:39

ความคิดเห็นที่ 67 50. มาดอนน่าก็มา นักร้องระดับซุปเปอร์สตาร์ที่มีโอกาสได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทั้งในหนังเลยบนเวทีออสการ์ถึงสองครั้งก็คงจะมีแต่เจ็แม่ของเรานี่แหละ ครั้งแรกเธอขึ้นไปร้องเพลง Sooner Or Later(I Always Get My Man) จากหนัง Dick Tracy ในปี 1990 ด้วยการเลียนแบบมาริลิน มอนโร แล้วเพลงนั้นก็คว้ารางวัลไป(คนรับคือครูเพลงสตีเฟ่น ซอนเฮล์ม-คนแต่ง) ครั้งที่สองเธอขึ้นไปโก่งคอร้อง You Must Love Me จาก Evita ในปี 1996 แล้วเพลงนั้นก็ชนะไป(โดยมีเซอร์แอนดดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ และ ทิม ไรซ์ รับรางวัลด้านทำนองและเนื้อร้องตามลำดับ) ยังขาดอยู่แต่เจ๊เองที่ไม่เคยได้รับรางวัลตรงๆ เป็นของตัวเองซะที จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 18:48:48

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ Lightbody Snowman ครบ 50 แล้วนะครับ ^^ จากคุณ : น้องหมาของผมชื่อมันเดย์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 18:51:05

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ ขอเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ตระกูลออสการ์นอกจากตระกูล Huston แล้วที่เป็นตระกูลแรกแล้ว ก็มีตระกูล Coppola เป็นตระกูลที่สองนะครับ (Carmine Coppola, Francis Ford Coppola, Nicolas Cage, และ Sofia Coppola) จากคุณ : Apple101 เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:14:52

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณคุณน้องหมาของผมชื่อมันเดย์ ที่พิมพ์จนครบทั้ง ๕๐ ข้อ กระทู้มาราธอนจริง!!! ที่อ่านมาทั้งหมด ตอนนี้อยากดู The Red Balloon เป็นที่สุด จากคุณ : Lightbody Snowman เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 10:53:03

ความคิดเห็นที่ 71 ข้อ35 ไม่ได้มีคนเดียวนะครับ มีฮีธ เลดเจอร์ อีกคนครับ จากคุณ : From_CNX เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 23:04:30

ความคิดเห็นที่ 72 ข้อ35 ไปแล้วไม่ไปลับ นักแสดงคนเดียวที่เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์หลังจากที่ลาโลกมนุษย์นี้ไปแล้วคือ พีเทอร์ ฟินช์ จาก Network ในปี 1976 ในสาขาดารานำชาย พีเทอร์เสียชีวิต้มื่อเดือนมกราคมปี 1977 ที่โรงแรมเบเวอร์ลี่ย์ฮิลล์สฺ ก่อนงานแจกออสการ์ไม่กี่เดือน ภรรยาของเขาเป็นผู้ขึ้นไปรับรางวัลแทน . . . . . ตอนนี้เพิ่มฮีธ เลดเจอร์ อีกคน จากบทโจ๊กเกอร์ ได้รับออสการ์สมทบชาย 2009 ไปด้วยอีกคน จากคุณ : squidyying เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 23:49:18

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณมากครับ เพิ่งมาเห็นจริงๆ แปลกใจมากว่าทำไมไม่ได้กระทู้แนะนำ -.- จากคุณ : THANODOM (THANODOM) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 21:25:15

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านเพลินเลย ขอบคุณมากนะคะ โหวคให้ค่ะ จากคุณ : หม้อแกงเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 23:59:00

ความคิดเห็นที่ 75 ข้อ35ก่อนเลื่อนดูชื่อนักแสดงเราก็คิดว่าต้องเป็นฮีด เลดเจอร์แน่ๆเหมือนกัน ชอบข้อ43. คืนของคนผิวสี<<<ชอบทั้ง2คน เล่นเก่งและเล่นหนังมีเสน่ห์มาก จากคุณ : หนูวาลี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 13:10:42

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณครับ อ่านจนจบเลย จากคุณ : miumi เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 14:23:21

ความคิดเห็นที่ 77 ดีมากๆค่ะ อ่านละเอียดเลย ^^ จากคุณ : berry float เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 14:38:24