ผมคิดว่ามันคงเป็นเพราะปริมาณที่ต่างกันระหว่างขาซ้ายตั้งแต่ข้อต่อกับขาขวาจากเข่าลงไป การเปลี่ยนร่างของคิสช็อตที่กินขาซ้ายของเธออย่างน่าทึ่ง จากครั้งแรกที่อายุ 10 ปี กลายเป็น 12 ปี ครั้งนี้ทั้งๆที่ผมรู้อยู่แล้วแท้ๆว่าร่างกายเธอจะเปลี่ยนไป แต่ผมก็ยังอดทึ่งไม่ได้อยู่ดี หลังจากที่เธอได้ขาซ้ายคืน เธอก็โตจนเกือบจะเท่าๆผม 17 ปี บางทีเธออาจจะสูงกว่าผมด้วยซ้ำ แน่นอนว่า ในช่วงระยะเวลาระหว่าง 10 ปี และ 17 ปี กระทั่งมนุษย์ก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างเห็นได้ชัด จาก'ช่วงเวลาที่ 2 ของลักษณะทางเพศ'บน'ช่วงระยะเวลาการเติมโต' หากจะให้ยกตัวอย่างอย่างเป็นรูปธรรม ก็คือหน้าอกของเธอที่ดูน่าประหลาดใจ ถ้าเธอไปคุยโวแล้วยืดอกเหมือนที่ผ่านๆมา มันคงเป็นอะไรที่ดูน่าหวาดกลัว แม้ว่าร่างกายของเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ในเวลาเดียวกันดีไซน์เสื้อผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นแบบที่ดูเก๋กว่าเดิมด้วย ผมที่ยาวกว่าเดิม ถูกรวบอยู่ในทรงโพนี่เทล ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ แต่ไม่ว่าเธอจะดูเป็นยังไง คิสช็อตก็มีอายุ 500 ปีมาตั้งแต่แรก "หืมห์" คิสช็อตกำลังพึงพอใจ ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถเก็บซ่อนความสุขเอาไว้ได้ แม้แต่ผมที่ทำหน้าที่เหมือน'แขนขา'ของเธอรู้สึกดีใจที่ได้เห็นเธอเป็นอย่างนั้น เพราะมันทำให้รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับที่ผมทำไป "เรารู้สึกว่าสภาพร่างกายเราตอนนี้ดีขึ้นมาก - จะเรียกได้ว่าเราเกือบจะกู้คืนพลังอมตะมาได้แล้ว" "งั้นเหรอ.......งั้นเธอคงเป็นคนจัดการการต่อสู้ไปถัดไปใช่ไหม?" "เปล่า โชคร้ายที่ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่สามารถใช้ความสามารถของแวมไพร์ได้ แค่หมายความว่าเราจะตายได้ยากกว่าเดิม เราอาจจะสู้ดราม่าเทอกี้ได้ แต่สภาพนี้เราคงไม่สามารถชนะเอพิโซด" คิสช็อตพูดด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก "ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากคู่ต่อสู้คือกิลโยตินคัตเตอร์" "............." หลังจากนั้น อย่างแรก ผมพาฮาเนกาว่าที่บาดแผลฟื้นตัวแล้วกลับบ้านในขณะที่ให้โอชิโนะคอยดูเอพิโซด จริงๆแล้วดูเหมือนว่าโอชิโนะจะไม่ค่อยอยากเจอกับฮาเนกาว่า(ตั้งแต่วันแรก โอชิโนะกับฮาเนกาว่ามักจะเวลาดคลาดกันเสมอ ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ที่ฮาเนกาว่าจะหลบหน้าเขา ดังนั้นเขาคือคนที่หลบหน้าเธอมากกว่าแน่นอน) เธอบอกว่า แล้วเจอกันพรุ่งนี้ แล้วเธอก็กลับบ้าน หลังจากที่เอพิโซดได้สติ เขา โอชิโนะและผมจัดการเคลียร์สนามกีฬาที่เละเทะ เราซ่อมหลุมที่เกิดจากกางเขนยักษ์และเอาทรายกลับไปไว้ในสนามทรายที่เดิม รวมทั้งชิ้นส่วนร่างกายของฮาเนกาว่าที่กระจัดกระจายด้วย(ไม่ว่าจะรอเท่าไหร่ มันก็ไม่ระเหยไป เรารวมไว้แล้วเอาไปฝั่งในแปลงปลูกดอกไม้แล้วเขียนป้ายไว้ว่า'สุสานของพีจัง' เจ้าของไอเดียคือผู้เชี่ยวชาญโอชิโนะเมเมะ ผมเองรู้สึกว่าเอาป้ายหลุมศพมาฝังไว้มันดูเป็นการทำเกินกว่าเหตุมากกว่ามุกตลก)ผมคงไม่บอกว่ามันกลับไปเหมือนแบบเดิม แต่อย่างน้อยก็ยังดีพอจะปิดบังเรื่องที่เกิดกับคนอื่นได้ "ชั้นแพ้แล้ว" เอพิโซดบอกพลางจากไป "เวรเอ้ย น่าขำจริงๆ ที่ชั้นถูกมือใหม่อย่างแกปราบเนี่ย" "............" "อย่าจ้องชั้นอย่างนั้น ชั้นขอโทษสำหรับเรื่องผู้หญิงคนนั้น ชั้นเครื่องร้อนเกินกว่าเหตุ แถมพูดตรงๆแล้ว งานของชั้นคือกำจัดผู้ติดตามไคอิคิลเลอร์ ชั้นไม่ควรจะไปยุ่งกับคนธรรมดา เอาล่ะ ยังไงชั้นก็แพ้ ถึงพูดไปยังไงมันก็คงไม่ทำให้ชั้นดูดีขึ้น แต่ว่า แกอย่าคิดว่าจะชนะกิลโยตินคัตเตอร์ด้วยวิธีต่อสู้แบบนั้นล่ะ ชั้นอาจจะดูบ้าคลั่ง แต่ความบ้าคลั่งของหมอนั่นมันคนระดับกัน" สุดท้ายเอพิโซดก็ทำตามข้อตกลง จริงๆแล้ว การต่อสู้นั้นในตอนที่ฮาเนกาว่าเข้ามาพัวพัน เอพิโซดโจมตีฮาเนกาว่า ผมพยายามจะฆ่าเอพิโซด ข้อตกลงมันได้หมดความหมายไปแล้ว แต่ว่า เขาก็ยอมคืนขาซ้ายคิสช็อต วันที่ 5 เมษาช่วงรุ่งสาง โอชิโนะกลับมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางที่ใส่ขาซ้ายของคิสช็อตไว้ คิสช็อตกินมันในทันที เธอกลายร่างเป็นอายุ 17 ปี "กิลโยตินคัตเตอร์--" ชายหัวเหมือนเม่นที่ใส่ชุดนักบวชคาทอลิก เพียงคนเดียว ที่ไม่มีอาวุธ "--เป็นคนแบบไหนกัน? ทั้งเธอและเอพิโซดถึงดูจะระวังเขามาก" "เรากำลังจะอธิบายอยู่นี่ไง "การอธิบายของเธอมันครุมเครือชะมัด มีตั้งหลายอย่างที่ผมเข้าใจหลังจากนั้น ช่วยอธิบายดีๆหน่อยสิ" พระอาทิตย์ของวันที่ 5 ขึ้นแล้ว ตราบใดที่เรายังอยู่ในห้องชั้น 2 ของโรงเรียนร้าง พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องแสงอาทิตย์ แต่ผมยังมีบางอย่างอยากจะถามคิสช็อตก่อนเธอจะนอน จริงๆแล้วผมเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน ยังไงก็ตาม โอชิโนะทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ และออกไปข้างนอกอีก เขาคงไปเจรจาครั้งสุดท้าย แม้จะเป็นไอ้บ้าที่ชอบพูดมาก แต่เขาก็เป็นคนที่ทำงานหนักจริงๆ ก็ผมจ่ายเงินให้เขานี่นะ เขาก็ต้องทำงานของเขาสิ แต่ว่า ผมอยากรู้จริงๆว่าเขานอนตอนไหนกัน "ถึงเราจะอธิบายตั้งแต่ลบถึงบวกไป มันก็คงไม่มีความหมายในทางปฏิบัติมากหรอก" "แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีความหมายสักหน่อยนี่ .....แล้วประโยคนั่นไม่ใช่จาก'ลบ'แต่มันต้อง'1'และ'บวก'คือ'10'ต่างหาก" จาก 1 ถึง 10 (ภาษาญี่ปุ่นจาก A-Z ในคันจิ 1 เหมือน - และ 10 เหมือน +) ผมพูด "กิลโยตินคัตเตอร์.....ตกลงว่าเขาเป็นมนุษย์?" "ใช่ เขาไม่ใช่แวมไพร์เหมือนดราม่าเทอกี้ แล้วก็ไม่ใช่ครึ่งแวมไพร์เหมือนเอพิโซด เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาแท้ๆ" "แต่เขาดูไม่เห็นเหมือนคนธรรมดาเลย" "อืม ใช่ ถูกแล้ว" คิสช็อตพูด "เขาเป็น....นวกบวช" "หา อย่าบอกนะว่าเขาเป็นหน่วยพิเศษของคริสตจักร" "ไม่ใช่แต่ใกล้เคียง" คริสช็อตส่ายหน้ากับคำพูดล้อเล่นของผม .....ตอนที่ผมเห็นเธอตอนอายุ 10 ปี กับอายุ 12 ปี ปกติแล้วผมไม่รู้สึกอะไร แต่พอเธออายุเท่าๆกับผมมันทำให้ผมรู้สึกประหม่า คิสช็อตน่ารักเหมือนกับตุ๊กตา .....บางทีเธอดูเหมือนตุ๊กตาต่างชาติ หรือเหมือนกับผู้ดีจากยุคกลางในหนัง บางทีอาจเป็นเพราะชุดของเธอที่ทำให้ผมคิดอย่างนี้ "เราไม่รู้ว่าจะอธิบายเป็นภาษาของประเทศนี้ได้เท่าไหร่..... เอาเถอะ แปลแบบทื่อๆคงก็พอแล้วล่ะ" "แปลแบบทื่อๆ?" "กิลโยตินคัตเตอร์เป็นอาร์คบิชอบของศาสนาใหม่ที่ไม่มีการบันทึกไว้บางศาสนา" "อ--อาร์คบิชอบ?" เขาเป็นคนใหญ่คนโตเหมือนกันนะเนี่ย อาร์คบิชอบตั้งแต่ยังหนุ่ม หากเขาเป็นมนุษย์ อายุเขาก็คงต้องสอดคล้องกับรูปลักษณ์ของเขา ใช่ไหม? "ศาสนานั่นไม่มีชื่อ เป็นองค์กรที่กระทั่งเราก็ไม่ค่อยรู้จัก แต่ว่ามีบางอย่างที่เราต้องบอกให้กระจ่าง ตามคำสอนของศาสนานั่น การคงอยู่ของไคอิไม่เป็นที่ยอมรับ" "โอ้......" ศาสนาใหม่ที่ไม่มีการบันทึกเหรอ หืม แต่ยังไงก็ตาม คิสช็อตอยู่มาตั้งแต่ 500 ปีที่แล้ว เธออาจจะเรียกศาสนาใหม่แม้ว่ามันจะเกิดในช่วงก่อนสงครามก็ได้ "กิลโยตินคัตเตอร์คือคนที่มีหน้าที่กำจัดไคอิที่ไม่ควรจะมีอยู่ตามศาสนานั่น หรือจะบอกว่า กิลโยตินคัตเตอร์ในขณะที่เขาเป็นอาร์คบิชอบก็ยังเป็นผู้บัญชาไอ้สิ่งที่เจ้าเรียกหน่วยพิเศษด้วยเช่นกัน" "งั้นเหรอ" "เขาคือผู้บังคับบัญชาเงาของหน่วยลับที่รับใช้ เงาที่ 4 ของหน้าที่สังคมมืด" "แปลทื่อเกินไปแล้วเฟ้ย" แปลให้มันเข้าใจง่ายหน่อยสิ "ยังไงก็ตาม....สุดท้ายเขาก็คือมนุษย์ ใช่ไหม? ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแวมไพร์ ใช่ไหม?" "เขาคือมนุษย์ที่ไม่ใช่ทั้งแวมไพร์และครึ่งแวมไพร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแวมไพร์ เจ้าอย่าลืมว่าเขาคือคนที่สามารถเอาแขนทั้งสองข้างของเราไปได้เชียว" "อืม" ดราม่าเทอกี้ ขาขวา เอพิโซด ขาซ้าย กิลโยตินคัตเตอร์ แขนซ้ายและขวา 2 ส่วน "ถึงแม้ตอนนั้นเราจะประมาท และสภาพร่างกายไม่พร้อมก็เถอะ" คิสช็อตแก้ตัวเป็นนัยๆ เอาเถอะ ผมจะไม่ยอกย้อนละกัน "ถ้าดราม่าเทอกี้ล่าแวมไพร์เพราะงาน และเอพิโซดเพราะความรู้สึกส่วนตัว งั้นกิลโยตินคัตเตอร์ก็ล่าแวมไพร์เพราะความเชื่อ สำหรับเราแล้วไอ้ความศรัทธาที่มันน่ารำคาญจริงๆ" งาน ความรู้สึกส่วนตัว ความเชื่อ คงจริงที่ความเชื่อนั้นดูน่าเป็นปัญหามากกว่าความรู้สึกส่วนตัว "เฮ้ แล้วผมควรทำไงดีล่ะ?" "เราจะให้ปล่อยเจ้าจัดการเอง จงชนะมาให้ได้" "............" เธออาจจะเป็นแวมไพร์ในตำนานประเภทที่ลุยทุกอย่างที่ขวางหน้าอะไรเถือกนั้น ยังไงก็ตาม หลังคิสช็อตพูดเสร็จ เธอก็หนีไปนอนเหมือนอย่างเคย เอิ่มมม เพราะเธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงรุ่นเดียวกับผม และเธอยังดูน่ารักมาก แต่เธอกลับนอนอย่างไม่ระวัดระวัง มันทำให้ผมรู้สึกลำบาก ผมรู้สึกเหมือนเธอกำลังยั่วผม ผมรู้สึกเหมือนหากไม่ทำอะไรลงไปมันจะเป็นการเสียมารยาท ผมรู้สึกเหมือนว่าผมต้องตั้งสติเอาไว้ให้มากๆ ".........เอาเถอะ" มันได้เวลาที่ผมต้องนอนแล้วเหมือนกัน ยังไงก็ตาม ถึงจะคิดเทคติกมากมายไปก็เท่านั้น ผมเข้าใจจากกรณีเอพิโซดดี แผนการณ์ห่วยๆคงได้แต่ทำให้ผมสับสนเข้าไปใหญ่ ผมจะต้องพลิกแพลงวิธีการต่อสู้เอง แม้มันจะยากเกินไปสำหรับผมก็เถอะ วันนี้หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ฮาเนกาว่าก็จะมาที่นี่เหมือนเคย ผมมีอะไรที่อยากจะพูดกับเธอ กว่าจะถึงตอนนั้นผมจะพักผ่อนและเตรียมร่างกายให้พร้อม ถึงแม้ร่างกายของแวมไพร์จะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดอยู่แล้วก็ตาม ถึงแม้ผมจะไม่นอนก็เถอะ แต่ถ้าจะให้ผมพูด มันก็คงเหมือนการพักผ่อนจิตใจ
จากคุณ |
:
Fate Linegod
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ม.ค. 55 21:50:39
|
|
|
|