ความคิดเห็นที่ 1 เดอะ คอมมีเดียน เค้ายอมรับความจริงว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว และมันก็ไม่ได้สวยงาม และเค้าพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับมัน ดูเหมือนเค้าจะไม่สนใจใยดีว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจะถูกหรือผิด ขอแค่ยุติความขัดแย้งได้ก็พอ แต่พอเค้าได้มารับรู้แผนการณ์ของ ออสซี่ แมนดาส เค้ากลับเกิดมโนธรรมจิตสำนึกขึ้นมา!!! แสดงว่าเค้าก็มีสำนึกผิดชอบชั่วดีมาโดยตลอด แต่เค้ากลับเสแสร้งทำเหมือนว่าไม่แคร์ ... ผมคิดว่าเค้าคือคนที่รักมนุษย์มากที่สุด แต่เพราะผิดหวังในตัวมนุษย์ เค้าจึงมีพฤติกรรมที่รุนแรง ... เพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดรวดร้าว นับว่าเป็นบุคลิกที่ขัดแย้งกันในตัวเองอย่างรุนแรง ขนาด ออสซี่ แมนดาส ผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลกยังคิดไม่ถึง!!! สมแล้วที่ได้รับฉายาว่า เดอะ คอมมีเดียน จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 23:18:27

ความคิดเห็นที่ 2 ดร. แมนฮัตตัน เป็นผู้รู้ซึ้งถึงสัจธรรม เข้าใจมนุษย์ดี และเพราะเข้าใจมนุษย์ดีนี่แหละ ก็เลยเบื่อหน่ายความเป็นมนุษย์ ต้องการปลีกวิเวกไปอยู่ดาวอังคาร และละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปเสีย ผมคิดว่าเค้าเป็นคนดี มีอุดมการณ์ของฮีโร่ อยากจะทำให้โลกดีขึ้น และเค้ารู้ด้วยว่าโลกจะดีขึ้นได้ ก็เพราะจิตใจที่ดีงามของมนุษย์ แต่เพราะเค้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจมนุษย์ได้ เค้าก็เลยเลือกที่จะปล่อยวาง จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 23:21:05

ความคิดเห็นที่ 3 ออสซี่ แมนดาส ผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก เป็นฮีโร่ที่ยืนอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงมากที่สุด เค้าต้องการสร้างโลกที่สงบสุข โดยอาศัยพลังของ ดร. แมนฮัตตัน เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงจิตใจของมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์ช่วยกันสร้างโลกที่สงบสุขนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เค้าก็เลยอาศัยความจริงที่ว่ามนุษย์หวาดกลัวพลังของ ดร. แมนฮัตตัน เป็นปัจจัยในการสร้างโลกที่สงบสุข นับว่าเค้าทำได้สำเร็จ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ... แต่สุดท้าย ตอนจบของหนัง สื่อมวลชน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ ณ เวลานั้น กำลังหงุดหงิดว่าโลกมันสงบสุขเกินไป ไม่มีข่าวอะไรน่าตื่นเต้น แล้วก็ได้เห็นสมุดบันทึกของ รอชาร์ช ที่เค้าแอบนำไปทิ้งไว้ พออ่านสมุดบันทึกจบ คุณพี่สื่อมวลชนก็ทำตาลุกวาวเหมือนได้เห็นเหยื่ออันโอชะ ... ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผลต่อมาจะเป็นยังไง แม้แต่ผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถสร้างโลกที่สงบสุขอย่างแท้จริงได้ จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 23:32:05

ความคิดเห็นที่ 4 รอชาร์ช เป็นผู้ยึดถือความถูกต้อง ชนิดยอมหัก ไม่ยอมงอ เค้าไม่ยอมรับความสงบสุขที่เกิดขึ้นจากการกระทำของ ออสซี่ แมนดาส และเค้าก็ได้ทำลายความสงบสุขนั้นลง ด้วยการแอบทิ้งสมุดบันทึกของตัวเองให้สื่อมวลชน ความสงบสุขที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ แต่เค้ากลับไม่ยอมรับ ถึงตอนนี้ ผมชักไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองจะคล้อยตาม ออสซี่ แมนดาส ดี หรือ รอชาร์ช ดี ??? บางอย่างมันถูกต้องในแง่ของหลักการ หรือขนบธรรมเนียมที่ยึดถือกันมา แต่ผลลัพท์มันไม่ถูกต้อง ความสงบสุขมันไม่มีวันเกิดขึ้น แล้วเรายังจะยึดถือหลักการแบบนั้นต่อไปอีกหรือ ในเมื่อหลักการอันนั้น มันใช้ไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ??? เค้าอาจจะคิดว่ามนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะสร้างความสงบสุขขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความสงบสุขที่เกิดจากความกลัว ... ก็แล้วแต่ จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 23:41:51

ความคิดเห็นที่ 5 ไนท์อาวล์ เป็นฮีโร่ที่เหมือนฮีโร่ในจินตนาการ เป็นแบบที่มนุษย์ชอบวาดภาพว่าฮีโร่น่าจะเป็นอย่างนี้ ดูแล้วเหมือนเด็กๆ ที่อยากจะเล่นสนุก ออกไปปราบปรามเหล่าร้าย เพื่อความเท่ห์ เพื่อความสะใจ ยังไงก็ไม่รู้ พอเปรียบเทียบกับฮีโร่คนอื่นๆ แล้ว ผมว่า ไนท์อาวล์ งี่เง่าที่สุด ไร้สาระที่สุด ผมว่าเค้ายึดติดกับภาพลักษณ์ของฮีโร่ในจินตนาการมากเกินไป ไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และความเป็นไปของโลกเลย แม้แต่น้อย จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 23:52:21

ความคิดเห็นที่ 6 ซิลค์สเปคเตอร์ ... เป็นฮีโร่ตรงไหน??? เป็นลูกของ เดอะ คอมมีเดียน ได้กับ ไนท์อาวล์ ที่เป็นเพื่อนกับ เดอะ คอมมีเดียน ถ้าอย่างนั้น ไนท์อาวล์ มันก็เอาลูกของเพื่อนมาทำเมียน่ะสิ??? มีอยู่ฉากนึงที่ เดอะ คอมมีเดียน เข้ามาลูบใบหน้าของ ซิลค์สเปคเตอร์ และเธอก็ยินดี ไม่มีการขัดขืนด้วย คิดแล้วสยอง ... เกือบจะโดนพ่อตัวเองฟัน!!! จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 00:06:19

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนจบในสมุดข้อความของโรแชทเขียนว่าไงเหรอ แล้วมีผลอะไรตอนท้ายบ้าง ลืม จากคุณ : sax_pantip เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 01:45:18

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบตัวละคร 4 ตัวแรกมากๆ ในขณะที่ 2 ตัวสุดท้ายเราเบื่อทุกครั้งที่ปรากฏตัวออกมา แบบว่าจะมีบทมันไปทำไมวะงี่เง่า เป็นหนังที่เราชอบมากและชอบเกือบทุกๆตัวละคร ขนาดบทของ Silk Spectre (แม่ Silk Spectre II นะ) เรายังรู้สึกชอบเลย แต่ Nite Owl กับ Silk Spectre II นี่.... อย่าง  Nite Owl นี่ไม่ได้มีความเท่เลย หน้าตาก็เอิ่ม ไม่มีความหล่ออ่ะ เซ็กส์ซีนกับ Silk Spectre II คนอื่นว่าไงเราไม่รู้นะแต่เราอึดอัดมาก ไม่ได้ดูดีเซ็กซี่เล้ย จากคุณ : boiledmilk เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 02:15:54

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมองว่าทั้งรอชาร์ชกับออสซีเมนเดียส หวังจะเห็นโลกมีความสุขเหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าวิธีการให้ไปถึงเป้าประสงค์นั้นต่างกัน รอชาร์ชใช้วิธีเอาคนเลวออกไปให้หมดจากสังคม แล้วเชื่อว่าสังคมจะสงบสุข ขณะที่ออสซีเมนเดียสใช้ความกลัว สร้างศัตรูที่เหมือนไม่ใช่มนุษย์ เพื่อทำให้มนุษย์รักกัน แล้วเชื่อว่าสังคมจะสงบสุข ส่วนตัวผมเห็นว่าจิตใจมนุษย์เรามันไม่สำเร็จรูปครับ ไม่มีใครดีสุดขั้วชั่วสุดขีด ผู้คนที่รอชาร์ชเจออย่างที่เราเห็นในหนังมันอาจจะง่ายต่อการตัดสินใจกระทำการขั้นเด็ดขาดเพราะมันเลวชัดเจน แต่มนุษย์เดินดินคนธรรมดาทั่วไปที่มีทั้งดีเลวปะปนกันในตัว จะเอาอะไรไปตัดสินว่าคนเหล่านี้ควรอยู่หรือตาย จากมุมมองของสองตัวละครนี้ ผมเชื่อในสิ่งที่ออสซีเมนเดียสทำมากกว่าครับ จริงอยู่ว่าความสุขที่เกิดขึ้นมันอาจจะไม่ยั่งยืน เพราะถ้าความกลัวที่ถูกกดเอาไว้ได้รับการปลดปล่อยเมื่อไหร่ สังคมก็จะกลับมาเหมือนเดิม แต่สาเหตุที่ผมเชื่อเพราะผมเชื่อว่ามันคือสิ่งเกิดขึ้นได้จริง ทำได้จริงมากกว่าวิธีการที่รอชาร์ชทำซึ่งมันอุดมคติเกินไปครับ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 02:53:34 จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 02:52:55

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องนี้มันแฝงปรัชญาหลายๆอย่าง ซึ่งหลากหลายคนก็ตีความแตกต่างกันไป โดยส่วนตัวผมมองว่าฮีโร่แต่ละท่านเป็นตัวแทนของคนแต่ละกลุ่มในสังคม เดอะคอมมีเดียน เป็นพวกคนไม่คิดมาก มีชีวิตไปตามกระแสโลก ความเข้าใจโลกและปรับตัวให้เข้ากับมัน ทำให้เป็นคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดในเรื่อง แต่ลงท้าย การที่ปรับตัวไปมา กลับทำให้เป็นคนที่ซึมเศร้า เพราะไม่มีใครเข้าใจตัวคนที่แท้จริงของเค้า เป็นพวกคนเก่งที่ชอบทำอะไรคนเดียว และปากหนักบอกอะไรใครไม่ได้ ดร. แมนฮัทตัน เป็นพวกคนชั้นสูง การศึกษาสูง มีอำนาจ เป็นกลุ่มคนที่ทำอะไรมีอิมแพคต่อสังคมได้มาก แต่ด้วยความที่เป็นแบบนั้น ทำให้ไม่อยากทำอะไร และเบื่อหน่ายผู้คน ออสซีแมนเดียส เป็นตัวแทนของคนฉลาด คนเก่งที่ขาดจริยธรรม เป็นเหมือนซุปเปอร์แมนในมุมมองของคนทั่วไป จะแพ้ทางก็แต่พวกชนชั้นสูงที่มีอำนาจ (อย่าง ดร. แมนฮัทตัน) เป็นคนที่คิดทำอะไรมีระบบระเบียบ ถ้าเป็นคนดีก็ดีไป ถ้าเป็นคนชั่วก็ชั่วได้เหลือประมาณ คนแบบนี้อันตราย ต้องปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้ไว้ให้ได้ รอแช็ก เป็นชนชั้นแรงงาน เป็นหน่วยหลักที่ผลักดันสังคม ทำหน้าที่ตัวอย่างสุดความสามารถ อย่างสุดโต่ง พวกเชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ นั่นแหละ แต่ทำเข้าไปเถิด ทำให้ตาย ด้วยความสามารถที่มีอยู่อย่างจำกัด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมที่เหลือจะเยียวยาได้ ไนท์อาวล์ เป็นตัวแทนของคนมีสตางค์ มีการศึกษา แต่หมดไฟ อดีตที่เจิดจ้าของตัวเองนั้นอยู่เบื้องหลัง อนาคตจะทำอะไรต่อก็ไปไม่ถูก จับอะไรไม่เป็นไปหมด ต้องอาศัยแรงบันดาลใจ ในการทำอะไรดีดีออกมา ซิลค์สเปกเตอร์ เป็นคนไร้อุดมการณ์ ที่มีชีวิตอยู่เพื่อทำตามความคาดหวังของคนอื่น ว่าไปก็เหมือนเด็กที่ว่าง่าย พ่อแม่บอกให้ทำอะไรก็ทำ บอกให้เรียนอะไรก็เรียน ไม่ได้ดูตามความเหมาะสม และไม่รู้ว่าตัวเองต้องหการอะไรในชีวิต โตมาก็ไร้ความฝัน เอาชีวิตตัวไปผูกติดกับคนอื่น จากคุณ : คนตามสื่อ (คนตามสื่อ) เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 08:06:49

ความคิดเห็นที่ 11 จากมุมมองของสองตัวละครนี้ ผมเชื่อในสิ่งที่ออสซีเมนเดียสทำมากกว่าครับ ***** สังคมโลก ปัจจุบัน ก็ใช้วิธีเดียวกันเด๊ะๆ เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้ล้อเลียนสังคมโลกปัจจุบันนะแหละครับ หนังดี ฤ หนังน่าเบื่อ ขึ้นอยู่กับคนดูว่า เข้าใจสิ่งที่หนังแฝงเอาไว้ได้ไหม 666 ***** ถ้าดูแบบคนดูหนังทั่วๆ ไปก็จะคิดตาม จขกท แต่ถ้าคนดูหนังแบบวิเคราะห์ตามสิ่งที่แฝงอยู่ในตัวละครไปด้วย ก็จะคิดตาม คห10 สำหรับผม คิดตาม คห10 ครับ 666 ***** ไม่ต่างอะไรกับกันดั้มซีด+ซีดเดสทินี่ ถ้าดูแบบผิวเผิน ก็จะเป็นการ์ตูนหุ่นยนต์ตีกัน น่าเบื่อ แต่ถ้าวิเคราะห์ตามสิ่งที่แฝงอยู่ในตัวละครแต่ละตัวตามไปด้วยแล้ว นั่นคือ เรื่องการเมือง ที่สร้างขึ้นในรูปแบบของการ์ตูนเท่านั้นเอง ซึ่งเหมือนกับการเมืองในช่วงที่ผ่านมาเด๊ะๆ จะอยู่ฝ่ายไหนก็โดนหลอกใช้ทั้งสองฝ่ายนะแหละ 666 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 09:01:20 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 09:00:49

ความคิดเห็นที่ 12 เอาของผมมาแชร์มั่ง เขียนไว้ตั้งแต่หนังเข้า เชิญไปอ่านกันใน Blog ดีกว่า ยาวจัด + ภาพเยอะ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=navagan&month=03-2009&date=18&group=2&gblog=41 จากคุณ : navagan เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 12:01:36

ความคิดเห็นที่ 13 บังเอิญผมเป็นคนแบบรอแช็ก .. คงไม่ต้องบอกว่าชอบวิธีไหนมากกว่า จากคุณ : เหล้าขาวผสมน้ำแดง เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 12:28:41

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณ navagan ครับ จำได้ว่าเคยเอามาลงในพันทิปด้วย แต่มันหายไปแล้ว ผมเปิดหาไม่เจอ ดีใจที่ได้อ่านอีกครั้งครับ ^^ จากคุณ : Alecaster เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 12:34:11

ความคิดเห็นที่ 15 หนึ่งในหนังฮีโร่ที่เด็กๆไม่ควรดู.....-*- จากคุณ : Antornz เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 13:42:07

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบครับ หนังเรื่องนี้ ดูแล้วแฝงปรัชญาไว้เยอะมาก 1 หนังในดวงใจเลยล่ะ ผมชอบมุมมองของ คห.10 นะ ส่วนตัวเข้าใจเรื่องแต่ระบายออกมาเป็นคำพูดลำบากมาก ^__________^ จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 14:08:38

ความคิดเห็นที่ 17 หนึ่งในหนังเรื่องโปรด ว่าแล้วกลับไปนั้งดูอีกรอบดีกว่า จากคุณ : rabbit full armor เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 15:34:49

ความคิดเห็นที่ 18 หนึ่งในหนังฮีโร่ที่เด็กๆไม่ควรดู.....-*- จากคุณ : Antornz ***** ดีกว่าดู team amarica น่า 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 22:07:40

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยว่า คอมเมเดี้ยนมันซึนเดเระชัดๆ แกล้วเลวไปงั้นแหละจริงๆ อาจอ่อนโยนกว่าไนท์อาวล์ซะอีก ผมยังสงสัยอยู่เลยตอนที่มันยิงเมียชาวเวียดนามนั่นน่ะ มันตั้งใจให้ตายจริงๆ หรือมันกะจะแค่ยิงขู่(คิดว่าดร.แมนฮัตตันจะช่วยหยุดกระสุนให้) ส่วนเรื่องลูบหน้าผมว่าคอมเมเดี้ยนแค่คิดถึงลูกเฉยๆนะ ผมว่ามันไม่ได้เลวถึงขั้นจะวู้ฮูลูกตัวเองมั๊ง ตอนซิลค์สเปคเตอร์รุ่นแม่เข้าไปด่า ยังเกือบหลุดปากเลย "ผิดตรงไหนที่ผมจะคุยกับ.... กับลูกของเพื่อน" ผมว่ามันสื่อว่าแม้แต่คนอย่าง คอมเมเดี้ยนก็รักลูกมากกว่า ออกแนวอกุศลนะฉากนั้นน่ะ (ตอนจบก็ถือว่ามันได้รับกรรมแล้วล่ะ สุดท้ายก็ตายไปโดยไม่มีโอกาสได้แสดงความรักที่มีต่อลูก) แต่ตอนจบผมก็คิดว่ามันแอบตีไปได้สองแบบนั้น ออสซี่ผมไม่แน่ใจว่ามันกลับเข้าสังคมรึเปล่า ถ้ามันกลับเข้าสังคม คนฉลาดขนาดนั้นก็หาทางปกปิดหลังฐานได้แหละ ใส่ร้ายว่าบันทึกเป็นเรื่องดิสเครดิตอะไรก็แล้วแต่ สังคมจะเชื่อคำโกหกของออสซี่ หรือความจริงของรอชาร์ช ก็ต้องไปจินตนาการกันเอาเอง (แต่ที่แน่ๆ คือรอชาร์ชไม่ใช่ไอ้โง่บ้าพลังไม่ทันเกมอย่างที่ออสซี่คิดแน่ๆ) คห.11 จะว่าไป วิธีของดร.แมนฮัตตันกับ ลักส์ในกันดั้มก็คล้ายๆ กันอยู่นะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 00:42:40 จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 00:41:32

ความคิดเห็นที่ 20 Key ของเรื่อง คือ คำพูดทิ้งท้ายของแมนฮัตตันครับ "ไม่มีอะไรที่สิ้นสุด" คือสิ่งที่จริงแท้และแน่นอน ออสซีเมนเดียสอยากสร้างความสงบสุข และคิดว่าวางแผนการทุกอย่างอย่างดีที่สุดเพื่อการนั้นแล้ว  (บันทึกของรอว์เชคบอกแค่ว่าออสซี่แมนเดียสเกี่ยวข้องกับแผนทำลายฮีโร่ แต่ไม่ได้บอกถึงขนาดว่าออสซี่แมนเดียสตั้งใจจะทำอะไร) แต่ก็ไม่มีอะไรสิ้นสุด ไม่ว่าจะทำอย่างไร ปัญหาใหม่ ๆ ก็จะเข้ามาสู้สังคมเสมอ การ์ตูนเรื่องนี้สอนให้มนุษย์โลกรู้ว่า เราควรพึ่งตนเอง ไม่ใช่หวังให้เทวดาหน้าไหนมาช่วยแก้ปัญหาให้ เพราะเอาเข้าจริง ๆ เทวดาที่เข้ามาช่วยก็ไม่ได้หมายความเขาจะทำในสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ เพราะปัจจัยที่คน ๆ เดียวจะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นนั้นมันมีน้อยเกินกว่าจะทำให้ถูกใจคนทุกคนได้ เราเลยเจอการแก้ปัญหาแบบเอาตัวรอดไปก่อนของเหล่าผู้นำโลก แบบออสซี่แมนเดียสบ่อย ๆ เช่นล่าสุดคือการอัดฉีดเงินให้กรืซ เพื่อพยุงเศรษฐกิจโลก ทั้งที่มันไม่ได้แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ ดังนั้นคนเราทุกคนควรช่วยเหลือตนเอง และช่วยเหลือโลกเท่าที่จะทำได้ เพื่อพร้อมจะเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นและที่จะมาในอนาคตทุกรูปแบบบ ถ้าใครมีโอกาสซื้อแบบ 2 แผ่น แนะนำให้ดูสารคดีที่แถมมาให้ด้วยนะครับ เขาสรุปได้ดีมากว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนฮีโร่ที่ต่อต้านการเป็นฮีโร่ และการตัดสินใจแก้ปัญหาแบบศาลเตี้ย ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่ไม่รู้ว่า DC กินยาลืมเขย่าขวดหรือไงไม่ทราบ ถึงพยายามดัน WATCHMEN II ออกมา แฟน DC อย่างผมก็ได้แต่คิดในใจว่า เอิ่มมมมมม นะ เอาเวลาไปผลักดันฮีโร่ตัวเองให้มันดีกว่าปัจจุบันหน่อยดีกว่าไหม แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 55 22:34:56 จากคุณ : alcalshel เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 22:34:03

ความคิดเห็นที่ 21 หนังที่ไม่มีความลึกในบท ถึงตอนฉายจะดัง แต่ก็จะหายไปตามกาลเวลาไม่มีใครสนใจอีก แต่ถ้าหนังมีความลึกแฝงอยู่ ก็จะเป็นที่กล่าวถึงเรื่อยๆ อย่าง star war ถ้าดูเผินๆ ก็จะเป็นการแย่งชิงความเป็นใหญ่เท่านั้น แต่ถ้าดูให้เป็นก็จะรู้เลยว่า ทุกฉาก ทุกตัวละคร มีความหมายแฝงทั้งนั้น ซึ่งบางตัวละครทีบางคนไม่เข้าใจว่่ามีเอาไว้ทำไม แต่ถ้าเข้าใจ "พื้นฐานของสังคมประเทศลูกช่างฟ้อง"  ละก็ จะรู้เลยว่า ตัวละครที่หลายๆ คนบอกไม่สำคัญนั้น เป็นสิ่งที่ "ต้องมี" สำหรับสังคมประเทศลูกช่างฟ้องเลยน่า 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 22:45:56

ความคิดเห็นที่ 22 ผมชอบหนังที่มีอะไรให้พวกเราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมว่ามันประเทืองปัญญาดี ไม่รู้จะมีหนังที่น่าสนใจแบบนี้ให้ดูกันอีกเมื่อไหร่นะครับ ตอนสมัย The Matrix ก็เห็นวิเคราะห์กันเพลินไปเลย มันส์จริงๆ แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้เข้า Pantip เลยพลาดโอกาสอันดี เฮ้อ ... give หมดแระ จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 55 14:54:58

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนสมัย The Matrix ก็เห็นวิเคราะห์กันเพลินไปเลย มันส์จริงๆ แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้เข้า Pantip เลยพลาดโอกาสอันดี เฮ้อ ... give หมดแระ จากคุณ : jom_bk ***** นั่นก็อีกเรื่องที่มีความลึกในบท ใครจะดูแบบเผินๆ เหมือนหนังแอคชั่น ก็ได้ แต่ถ้าใครชอบตีความตามหนังไปด้วย ก็จะสนุกแบบปวดหัวกับสิ่งที่แฝงอยู่ในหนังไปอีกแบบ ผมก็ชอบดู ดูทีไรปวดหัวเวตาตีความที่แฝงอยู่ทุกที 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 01:31:26