สำหรับละครจักรๆวงศ์ๆ เรื่องใหม่ "ไชยเชษฐ์" ออกอากาศไปวันแรก ทำให้ผิดหวังมากๆ ก็ขอเป็นเสียงหนึ่งต้องการสะท้อนไปถึงผู้จัดของสามเศียรนะคะ ว่าคุณทำอะไรลงไป
เนื้อหารายละเอียด ดัดแปลงนิทานพื้นบ้านจนดูเหมือนคนละเรื่องกันเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดคือบทโทรทัศน์ ไม่รู้ว่าคนเขียนบทกับผู้กำกับประสานงานยังไง
ใช้ตรรกะ อะไรไม่ทราบ คะ
1. นางฟ้าทะเลาะกันด้วยการ ขัดขากันล้ม เหมือนการ ประกวดมิสบ้านนา หรือ ? พื้นฐานของเทวดานางฟ้าย่อมมีจิตใจที่ดีงามจึงจะกำเนิดเป็นนางฟ้าได้
ถามว่ากิเลสยังมีมั้ย มี แต่ตามความเข้าใจที่เราพอจะพอศึกษาข้อมูลมาบ้าง การเทวดาหรือนางฟ้าทะเลาะกัน คงไม่ใช้วิธีดังกล่าว
ถ้าสู้ก็สู้กันเลยซึ่งๆหน้า ต่อให้เป็นนางฟ้าก็เถอะ คงไม่มาผลักกันหรือตบตีกันเหมือน ละครหลังข่าวแน่ๆ ตรงนี้ไม่ทราบว่า ผู้ใหญ่ ปล่อยผ่านมาได้ยังไงไม่ทราบ
2. บทของนางฟ้าที่มาเกิดใหม่แล้วมาแค่นฆ่ากัน มันจะทำให้ความแค้นมันสลายลงตรงไหนเหรอ เราคิดว่ากลับยิ่งทำให้ผูกอาฆาตจองเวร
กันต่อไปจบสิ้นมากกว่า และที่สำคัญ บทของน้องทั้งสองคนนี่แทบจะไม่ต่างจากเจ้าหญิงพิกุลทองเลยแม้แต่น้อย
3. ตรงบทของไชษเชษฐ์ตอนเด็ก บทพูดของเสด็จพ่อเสด็จแม่ขัดแย้งกับการกระทำของลูกมาก
ตรงนี้คงต้องถามผู้กำกับด้วย นะคะว่าปล่อยออกมาได้ยังไง ตรงที่ไชยเชษฐ์ชนะพี่เลี้ยงคนสนิทพอแพ้สั่งให้เป็น ควาย และต้องมีเขาด้วย
แต่บทพูดของพ่อแม่กลับชมว่า ลูกฉลาดและมีเมตตา ต่อไปคงเป็นกษัตริย์ที่ดีแน่ๆ งงนะเนี่ย การกระทำสวนทางกับบทพูดโดยสิ้นเชิง
ควาเมตตาที่สื่ออกมา คือบังคับพี่เลี้ยงที่แพ้ตนเป็นควายหรือ ?
4. บทพูดของแม่ไชยเชษฐ์ ที่พูดว่าต่อไปจะหาเมียให้ลูก แล้วให้พวกนางมาช่วงชิงเพื่อเป็นมเหสี ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด
อึ้งจนพูดไม่ออก มีแม่ที่ไหนคิดอย่างนี้ได้บ้าง สร้างปัญหาให้ลูกตั้งแต่ยังเด็ก ถ้าจะบอกว่าจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้ก็ไม่ควรใช้คำว่า "ช่วงชิง" นะคะ
5. จากที่ดูตัวอย่างตอนต่อไป เข้าใจว่าการใส่ร้ายเรื่องวางยากัน แล้วขับไล่ลูกเมียออกจากวังโดยไม่มีการไต่ถามที่มาที่ไป มันไร้เหตุผลสิ้นดี
อย่างน้อยการเขียนบทควรเคารพคนดูบ้างนะคะ เขียนเหมือนคนดูไม่มีสมองจะคิดตาม
6. เนื้อหาโดยรวมไม่มีความสร้างสรรค์ วนเวียนแต่เรื่องชิงรักหักสวาทแย่งผู้ชายกัน ไม่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ย่ำยีบทประพันธ์เดิมจนไม่เหลือเค้าเดิม ขาดคุณค่าในการยกระดับจิตใจคนดูเหมือนที่เคยทำมาแต่เก่าก่อน
ยิ่งทำยิ่งแย่ ตรรกะผิดเพี้ยน มากขึ้นทุกทีๆ
ปล. มีอย่างเดียวที่คิดว่าทำได้ คือฉากพระอินทร์บนสวรรค์อลังการ ซีจีสวยแบบพอดีไม่เฝอเหมือนที่เคยเป็น
สุดท้ายขอฝากไว้ สำหรับน้องๆที่กำลังศึกษาเล่าเรียน ถ้าหากได้เรียนเรื่องไชยเชษฐ์ ขอให้อ่านข้อมูลเรื่องย่อจากในวรรณคดีเท่านั้นนะคะ
อย่าติดภาพจากในละครเวอร์ชั่นนี้แล้วเอาไปตอบข้อสอบเป็นอันขาด
เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะสอบตกได้
...............................................................................
Edit : ขอชี้แจงเกี่ยวกับความเข้าใจของเราเรื่องเทวดานางฟ้า จากความเห็นที่ 18 ขอเอามาแปะไว้ที่หัวกระทู้เลยด้วยเลยละกันนะคะ
ขอตอบความเห็นที่ 18 เราทราบค่ะว่านางฟ้ามีหลายชั้น
ซึ่งตามท้องเรื่องที่ออกอากาศ นางฟ้าที่เป็นนางเอกและนางร้ายในเรื่อง
อาจจะอยู่ชั้นดาวดึงส์หรือชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงมีกิเลสอยู่ ต่างจากนางฟ้าเทวดาในชั้นพรหม
แต่ สิ่งที่เราบอกว่า กิริยา การแสดงออกของนางฟ้าที่อิจฉากันนั้น
เค้าใช้วิธีการเช่น "ขัดขากันล้ม" หรือคะ ในวรรณคดี หรือ ตำนาน
เทวดานางฟ้า เมื่อมีข้อขัดแย้ง หรือไม่ลงกัน เค้าจะใช้การต่อสู้กันซึ่งๆหน้า
ถ้าเรื่องใหญ่หน่อย ก็อาจจะเกิดเป็นสงคราม แต่ไม่ใช่นางฟ้าขัดขากันแล้วผลักกันไปมาแบบที่สามเศียรสื่ออกมานี้ เราบอกว่า พื้นฐานคนที่จะเกิดไปนางฟ้าเทวดาได้ต้องมีจิตใจที่ดีงาม ถูกมั้ยคะ แต่นางฟ้าคนที่ต้องเกิดเป็นตัวอิจฉาไม่มีเลยแม้แต่น้อยอย่างน้อยในการวางคาแร็กตัวละคร ก็ไม่ควรขัดแย้งกับความเป็นจริงที่เป็นที่ยอมรับกันบ้างไม่ใช่นึกอยากใส่อะไรเข้ามาก็ใส่ โดยไม่ดูพื้นฐานตัวละครเลย ไม่งั้นโบราณเค้าจะสอนเด็กเหรอว่าคนที่เกิดเป็นเทวดานางฟ้าได้ จะต้องทำความดี มีจิตใจที่โอบอ้อม เมตตากรุณา นางฟ้าเทวดาทำผิด ต้องลงมาชดใช้กรรมก็จริง แต่เราคิดกลไกที่ต้องลงมาชดใช้นั้นไม่ใช่มาเกิดเพื่อที่จะมาจองล้างจองผลาญกันต่อในชาติภพใหม่แล้วอย่างนี้มันจจะสิ้นสุดกรรมกันได้ยังไงยิ่งทำให้กรรมต่อเนื่องไปในชาติภพข้างหน้าอีก
ในส่วนของตัวละครที่มีความรุนแรง ที่บอกว่าต้องการจะสื่อในแง่ลบนั้นเราเข้าใจค่ะแต่สิ่งที่สามเศียรสะท้อนออกมา คือการใช้ถ้อยคำ กิริยาอาการ ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งยกตัวอย่างเช่น
"ถ้าแกไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงฉันก็ไม่ต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองไปแล้ว
เพราะแกคนเดียว แบร ๆๆๆๆๆ !!!"
นี่มันเป็น คำพูดของเด็กที่อายุเพียง 6-7 เหรอคะคิดได้ขนาดนี้เลยเหรอเด็กวัยนี้ การจะสะท้อนกรรมดีกรรมชั่ว ไม่จำเป็นต้องเขียนบทออกมาในลักษณะนี้ ก็ได้ไม่ใช่เหรอคะมีวิธีอื่นถมเถไป และสิ่งที่วิจารณ์คือรายละเอียดที่ออกอากาศมาในตอนแรก ซึ่งมีข้อตำหนิติเตียนมากมายแต่ส่วนที่จะออกอากาศต่อมันอาจจะดีขึ้นหรือเลวลงเราก็ไม่รู้ รู้แต่เราตำหนิในสิ่งเราเห็น ณ ตอนนี้เท่านั้นไม่ได้เหมารวมทั้งเรื่อง แต่ถ้าให้เราเดาเนื้อเรื่องนี้ของสามเศียรในตอนต้นของเรื่องนางเอกจะโดนรังแกทั้งเรื่องแล้วตอนจบนางฟ้าที่มาเกิดเป็นนางร้ายจะถูกธรณีสูบ เหมือนกับทุกเรื่องที่ผ่านมา แล้วคุณลองคิดดูว่า ถ้ามันเป็นเช่นนั้นความแค้นที่นางร้ายมีต่อนางเอกเมื่อลงนรกไปแล้ว จะคลายความแค้นลงได้มั้ย อันนี้แค่เป็นการสมมุติและคาดเดานะคะหวังว่าคงไม่เป็นอย่างที่เรา คิดใช่มั้ยคะ สามเศียร ? หรือว่าตอนจบนางฟ้าที่เป็นตัวร้ายคิดได้กลับบำเพ็ญกุศล จน บรรลุอรหันต์ แต่ขอบอกว่าในความเป็นจริงแล้ว she จะต้องไปชดใช้กรรมก่อนค่ะเพราะต่อให้เป็นพระอรหันต์แต่ถ้าไม่เข้าสู่กระแสนิพพาน ก็หนีกรรมไม่พ้น...
และสุดท้ายสิ่งที่เราต้องการย้ำอีกครั้งและขอถามคุณกลับว่าการแสดงออก
ซึ่งความอาฆาตพยาบาทด้วยการตบตีและขัดขากันเหมือนละครหลังข่าว
มันใช่กิริยาของนางฟ้าจริงๆหรือคะ คุณคิดว่านางฟ้าจำอย่างนั้นจริงๆเหรอ
แล้วถ้าสังเกต นางฟ้าที่ทะเลาะกัน ไม่ได้มีแค่สององค์ที่ต้องลงไปเกิด มีคนอื่นด้วยที่เป็นฝ่ายสนับสนุน แต่พวกนั้นกลับไม่โดนลงโทษด้วย งงมั้ยล่ะ
สิ่งหนึ่งที่เราคิดทุกคนคงรู้ ว่าคุณธรรมของผู้ได้ขึ้นว่าเป็นเทวดา คือ "ความละอายและเกรงตัวต่อบาป"แต่สิ่งที่สามเศียรทำละครเรื่องนี้ออกมา กลับ บิดเบือนความเชื่อนั้นโดยสิ้นเชิง
อ่อเกือบลืมในส่วนที่หลายความเห็นพูดถึงผู้กำกับ เราคิดว่าคงโทษเค้าคนเดียวไม่ได้ต้องโทษคนที่มีอำนาจจริงๆมากกว่า เพราะผู้กำกับคนนี้เค้ากำกับ
ละครจักรๆวงศ์ๆ มาหลายเรื่องนะคะ และก็เป็นเรื่องที่ยังคงตราตรึงใจกล่าวถึงมาจนทุกวันนี้ไม่ว่า จะเป็น มณีนพเก้า น้ำใจแม่ สี่ยอดกุมาร นางสิบสอง เทพสามฤดู และอีกหลายๆเรื่องฯลฯแต่สิ่งที่มันทำให้ ละครจักรๆวงศ์ๆ มันแย่ลงขนาดนี้เพราะความเห็นแก่ได้ ของผู้จัดมากกว่า ที่มุ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจมาก่อนคุณค่าและสิ่งดีงามมอบให้กับคนดู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องย่อพระไชยเชษฐ์ ตามวรรณคดี
ไชยเชษฐ์ เป็นนิทานพื้นบ้านสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีผู้นำนิทานเรื่องนี้มาเล่นเป็นละครเพราะเป็นเรื่องสนุก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงนำนิทานเรื่องไชยเชษฐ์มาพระราชนิพนธ์เป็นบทละครนอก เดิมละครนอกเป็นละครที่ราษฎรเล่นกัน ให้ผู้ชายแสดงเป็นตัวละครทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องไชยเชษฐ์เพื่อให้เป็นบทละครนอกของหลวง และทรงให้ผู้หญิงที่เป็นละครหลวงแสดงอย่างละครนอก
เนื้อเรื่อง
ท้าวอภัยนุราชเจ้าเมือง เวสาลี มีพระธิดาองค์หนึ่ง ประทานนามว่า นางจำปาทอง เพราะเมื่อนางร้องไห้จะมีดอกจำปาทองร่วงลงมา ครั้นนางจำปาทองเจริญวัยขึ้น นางได้นำไข่จระเข้าจากสระในสวนมาฟักจนเป็นตัวและเลี้ยงจระเข้ไว้ในวัง ครั้นจระเข้เติบใหญ่ขึ้น ก็ดุร้ายตามวิสัยของมัน มันเที่ยวไล่กัดชาวเมืองจนชาวเมืองเดือดร้อนไปทั่ว ท้าวอภัยนุราชทรงขัดเคืองจึงขับไล่นางจำปาทองออกจากเมืองเวสาลี นางแมวซึ่งเป็นแมวที่นางจำปาทองเลี้ยงไว้ได้ติดตามนางไปด้วย นางจำปางทองกับนางแมวเดินซัดเซพเนจรอยู่ในป่า ไปพบยักษ์ตนหนึ่งชื่อ นนทยักษ์ ซึ่งกำลังจะไปเฝ้าท้าวสิงหล นางตกใจกลัวจึงวิ่งหนีไปพบพระฤๅษี พระฤๅษีช่วยนางไว้ นางจำปาทองกับนางแมวจึงขออาศัยอยู่รับใช้พระฤๅษีในป่านั้น
ท้าวสิงหลเป็นยักษ์ครองเมืองสิงหล ไม่มีโอรสและธิดา คืนหนึ่งท้าวสิงหลบรรเทาหลับและทรงพระสุบินว่า มียักษ์ตนหนึ่งมาจากป่านำดอกจำปามาถวาย ดอกจำปามีสีเหลือเหมือนทองคำงามยิ่งนัก ท้าวสิงหลจึงทรงให้โหรทำนายพระสุบิน โหรทำนายว่าท้าวสิงหลจะได้พระธิดา วันนั้นนนทยักษ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหลและทูลว่าพบหญิงสาวอาศัยอยู่กับพระฤๅษีที่ในป่า ท้าวสิงหลจึงเสด็จไปหาพระฤๅษี และขอนางจำปาทองมาเป็นธิดา ประทานนามว่านางสุวิญชา
ฝ่ายพระไชยเชษฐ์เป็นโอรสเจ้าเมืองเหมันต์ พระไชยเชษฐ์มีพระสนมอยู่ 7 คน วันหนึ่งพระองค์เสด็จประพาสป่า และหลงทางเข้าไปในสวนเมืองสิงหล นางสุวิญชา มาเที่ยวชมสวนพบพระไชยเชษฐ์จึงนำความทูลให้ท้าวสิงหลทราบ ท้าวสิงหลให้พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้า พระไชยเชษฐ์จึงทูลขอรับราชการในเมืองสิงหล ต่อมามีข้าศึกยกทัพมาตีเมืองสิงหล พระไชยเชษฐ์อาสาสู้ศึกจนชนะ ท้าวสิงหลจึงทรงยกนางสุวิญชาให้เป็นชายาพระไชยเชษฐ์ พระไชยเชษฐ์จึงพานางสุวิญชากลับเมืองเหมันต์
ฝ่ายนางสนมทั้ง 7 คนริษยานางสุวิญชาที่พระไชยเชษฐ์รักนางสุวิญชามากกว่า ครั้นนางสุวิญชาทรงครรภ์จวนจะถึงกำหนดคลอดนางสนมทั้ง 7 คน ก็ออกอุบายว่ามีช้างเผือกอยู่ในป่า พระไชยเชษฐ์จึงออกไปคล้องช้างเผือก ฝ่ายนางสุวิญชาคลอดลูกเป็นกุมารมีศรกับพระขรรค์ติดดัวมาด้วย นางสนมทั้ง 7 คน นำพระกุมารใส่หีบไปฝังที่ใต้ต้นไทรในป่า เทวดาประจำต้นไม้ช่วยชีวิตพระกุมารไว้ เมื่อพระไชยเชษฐ์เสด็จกลับจากคล้องช้างเผือก นางสนมทั้ง 7 คน ทูลว่านางสุวิญชาคลอดลูกเป็นท่อนไม้ พระไชยเชษฐ์จึงขับไล่นางสุวิญชาออกจากเมือง ขณะที่นางสุวิญชาคลอดกุมารนั้น นางแมวแอบเห็นการกระทำของนางสนมทั้ง 7 คน จึงพานางสุวิญชาไปขุดหีบที่ใต้ต้นไทร แล้วพาพระกุมารกลับไปเมืองสิงหล ท้าวสิงหลตั้งชื่อพระกุมารว่า พระนารายณ์ธิเบศร์
ต่อมาพระไชยเชษฐ์ทรงรู้ความจริงว่านางสุวิญชาถูกใส่ร้าย จึงออกติดตามนางสุวิญชาไปเมืองสิงหลและได้พบพระนารายณ์ธิเบศร์ ซึ่งกำลังประพาศป่ากับพระพี่เลี้ยง พระไชยเชษฐ์เห็นพระนารายณ์ธิเบศร์เป็นเด็กน่ารัก มีหน้าตาคล้ายพระองค์ก็มั่นใจว่าเป็นพระโอรส จึงเข้าไปขออุ้มและเอาขนมนมเนยให้ พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธว่าเป็นคนแปลกหน้า จึงไม่ให้จับต้องและไม่ยอมเสวยขนม
พระนารายณ์ธิเบศร์โกรธพระไชยเชษฐ์ที่มาจับต้องตัวและจับหัวของพระพี่เลี้ยงของตนจึงใช้ศรธนูหมายจะฆ่าให้ตายแต่ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้กระจายเติมพื้นดิน จึงทำให้พระไชยเชษฐ์เกิดความประหลายใจยิ่งนัก จึงอธิฐานจิตว่าถ้ากุมารองค์นี้เป็นลูกของตนที่เกิดกับนางสุวิญชาขอให้ธนูที่ยิงออกไปนั้นกลายเป็นอาหาร ทันใดนั้นพระไชยเชษฐ์ก็แผลงศรออกไป และศรธนุที่ยิงออกไปนั้นก็กลายเป็นอาหารมากมายเต็มพื้น จึงทำให้พระไชยเชษฐ์มั่นใจเป็นแน่แท้ว่าเป็นบุตรของตนจริง
พระไชยเชษฐ์ทรงไต่ถามพระนารายณ์ธิเบศร์เกี่ยวกับมารดา เพราะทรงจำแหวนที่พระนารายณ์ธิเบศร์สวมได้ พระนารายณ์ธิเบศร์บอกว่านางสุวิญชาเป็นแม่และท้าวสิงหลเป็นพ่อ พระไชยเชษฐ์จึงทรงเล่าเรื่องเดิมให้พระนารายณ์ธิเบศร์ฟัง ทั้งสองจึงทราบว่าเป็นพ่อลูกกัน พระนารายณ์ธิเบศร์พาพระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล พระไชยเชษฐ์ขอโทษนางสุวิญชา พระนารายณ์ธิเบศร์ช่วยทูลนางสุวิญชาให้หายโกรธพ่อ นางสุวิญชายกโทษให้ พระไชยเชษฐ์ นางสุวิญชา และพระนารายณ์ธิเบศร์ สามคนพ่อแม่ลูกจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
เครดิต : วิกิพีเดีย
********************************
เรื่องย่อ ไชยเชษฐ์ ที่ออกอากาศ
ณ ทิพยวิมานพระอินทร์พิโรธที่ 2 นางฟ้าอภิสรา(แนน-วิจิตรา) กับ ดาราเกษ(ทิชา) ทะเลาะ
วิวาทต่อหน้าพระพักตร์ จึงสาปส่งให้มาเกิดในชาติมนุษย์ชดใช้กรรม จนกว่าเพลิงในใจจะดับลง!
นางฟ้าอภิสาผู้มีจิตริษยา อาฆาตมาเกิดในครรภ์พระชายาฝ่ายขวานามศรีอุษา ผู้เกรี้ยวกราด
ส่วนนางฟ้าดาราเกษผู้อารี แต่จะสู้เมื่อถูกรังแกมาเกิดในครรภ์พระชายาฝ่ายซ้ายนาม อุมาเทวีผู้อ่อนโยน
ซึ่งทั้งสองนางเป็นชายาของท้าวอภัยนุราช(หรั่ง-รัฐธรรมนูญ)ผู้ครองนครเวสาลี
อภิสาเกิดก่อนเป็นพระพี่ชื่อมารตี(น้องเกรซ) ส่วนดาราเกษเกิดหลังเป็นพระน้องชื่อ สุวิญชา
(น้องส้มโอ) กรรมจากการเป็นคู่อาฆาตเมื่อชาติก่อน ส่งผลให้มารตียังคงมีจิตริษยาคอยหาทางกลั่นแกล้ง
สุวิญชาอยู่เนื่องๆ
กล่าวถึงแม่แมวป่าได้ชุบเลี้ยงทารกน้อยที่ถูกนำมาทิ้งไว้ เด็กแมวได้ชื่อภายหลังว่า วิฬาร์
(น้องชิโกะ)ถวายตัวมาอยู่กับพระธิดาสุวิญชา คอยอารักขามิให้พระธิดามารตีมารังแก
นครเหมันต์...ท้าวธรรมิกราชและแก้วสัจจามเหสี มีโอรสรูปงามนามว่า ไชยเชษฐ์
(เทอร์โบ) หมื่นขรรถ์เป็นพระพี่เลี้ยงท้าวธรรมิกราชส่งให้ไชยเชษฐ์โอรสไปร่ำเรียนวิชาอาคมที่สำนัก
พระอาจารย์
ติดตามชมละครจักรวงศ์ เรื่อง "ไชยเชษฐ์" ทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.15 น.
credit : http://www.samsearn.com/pro/tv114.html
แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 18:22:29
แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 18:06:45
แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 18:02:52
แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 09:51:24
ขอตำหนิ "ไชยเชษฐ์"
.....
ละครหลังข่าวบางเรื่อง
ไม่แน่ใจว่าเค้าต้องการจะสื่อหรือสอนอะไร