ความคิดเห็นที่ 1 คุณมะนาวเเกกล่าวว่าก่อนจะเริ่มสรุป Koimonogatari ต้องเกริ่นเกี่ยวกับ ไคกิ เดชู ที่ถูกเลือกมาเป็นคนดำเนินเรื่องในภาคนี้ซะก่อน   ไคกิเป็นเพื่อนร่วมชมรมสิ่งลี้ลับของ โอชิโนะ เมเมะ ซึ่งประกอบด้วยคนทั้งหมด 4 คน กะเอ็น อิซึโกะ เจ๊ใหญ่ประธานชมรม และเหมือนจะเป็นคนในตระกูลที่คอยบงการญี่ปุ่น(ทางจิตวิญญาณ สิ่งลี้ลับ) มาตั้งแต่สมัยโบราณ โอโนโนกิ โยสึรุ เจ๊รอง เจ้านายของ โยสึกิ สึคุโมะงามิของ"ศพ" องเมียวจิบ้าพลัง ที่มีพลังต่อสู้ทางกายภาพผิดมนุษย์ มีบทใน Tsukihi Phoenix โอชิโนะ เมเมะ เบ๊เบอร์1 ตาลุงอาโลฮ่า(เริ่มอาโลฮ่าหลังเรียนจบ) นักต้มเปื่อย จอมจุ้นจ้าน ใจกว้างแต่ไม่แสดงออกตรงๆ ไม่ชอบรับคำขอบคุณ ไคกิ เดชู เบ๊เบอร์2 นักต้มตุ๋น จอมหลอกลวง จอมโกหก โกหกแม้แต่กับตัวเอง ผู้ชำนาญทางวิญญาณจอมปลอม บูชาเงินคือพระเจ้า สมัยเรียนอยู่ทั้ง โยสึรุ โอชิโนะ และ ไคกิ ถูก อิซึโกะ เทรนด์มาในคนละแนว โยสึรุ รักความถูกต้องเกลียดความหลอกลวง และเชื่อว่าสิ่งลี้ลับทั้งหลาย คือความหลอกลวงที่สมควรถูกกำจัด หลังจบทำงานเป็นองเมียวจิ ตามรอยตระกูล ไคกิ ถูกเทรนด์ ให้กลายเป็นคนที่เลือก การโกหกหลอกลวง ตามนิสัยเดิมที่ชอบหลอกลวงคนอื่น และรักเงินยิ่งกว่าอะไร ตัวไคกิ ไม่เคยเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับใดๆเลย แม้แต่ในตอนนี้ แม้จะเห็นสิ่งลี้ลับเกิดขึ้นจะๆ ต่อหน้าหรือถูกแสดงให้เห็นแค่ไหน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของที่ถูก อิซึโกะฝึกฝนมา หลังเรียนจบ ก็กลายมาเป็นนักต้มตุ๋นหลอกเงิน สร้างศัตรูไปทั่ว จนต้องเร่ร่อนไปเรื่อยๆ อยู่กับที่ไม่ได้ ทั้งอย่างนั้นก็ยังไปหลอกลวงคนอื่นเพื่อเอาเงินอยู่เรื่อยๆ สถานภาพตามทะเบียนราษฎร์ คือ เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทำไปเพื่อเอาเงินประกัน โอชิโนะ อย่างที่เราเห็นบทบาทของเขา จอบจุ้นจ้าน ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่ชอบรับคำขอบคุณ ร่อนเร่ไปทั่วญี่ปุ่น ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับให้คนอื่น โดยไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะต้องการหรือเปล่า พยายามเรียกร้องค่าคอบแทนสูงๆ ทั้งที่ถึงไม่ให้มันก็ยังจะจุ้นอยู่ดี อิซึโกะ เหมือนกับจงใจฝึกฝนทั้ง 3 คน ให้มีลักษณะที่แตกต่างกัน ถึงเจ้าตัวจะอ้างว่า ฝึกให้แต่ละคนตามลักษณะนิสัยของเจ้าตัว แต่สภาพที่เกิดขึ้น เหมือนกับ ทั้ง 3 คน ถูกเลือกมาทำหน้าที่แต่ละอย่างให้กับ อิซึโกะ โยสึรุ เป็นพวกขวาจัดตรงกว่าไม้บรรทัด ไคกิ เป็นพวกซ้ายตกขอบโกงโดยสันดาน โอชิโนะ เป็นพวกสายกลาง ที่กว้างครอบไปถึงขอบ ในกลุ่ม 4 คน ไคกิกับ โอชิโนะสนิทสนมกันที่สุด เพราะโยสึรุ เถรตรงเกินไปจนคบลำบาก และในกลุ่มไม่มีใครกล้าหือกับ อิซึโกะ ไคกิเคยหลอกเอาเงิน จากครอบครัวน้องปู ในตอนที่น้องปู พึ่งเลื่อนชั้นขึ้น ม.ปลาย ในฐานะนักไล่ภูติผี ที่แม่น้องปูเชื่อว่าถูกรังควานให้น้ำหนักของน้องปูหายไป(สาเหตุ จริงๆก็ตาม Hitagi Crab น้องปูไปขอพรจากเทพปูให้ลืม เรื่องหนักๆ ที่เคยถูกข่มขืนจากคนของลัทธิใหม่ ที่สั่งให้แม่น้องปูนำลูกสาวไปถวาย จนเทพปู เอาความรู้สึกหนักที่ถ่วงอยู่ในจิตใจ ความทรงจำที่หนักจนไม่อยากแบกรับ รวมถึงน้ำหนัก ไปจากตัวน้องปู) ในตอนที่ได้พบไคกิ น้องปู ยังเป็นเด็กสาวช่างฝันทั่วไป แต่หลังจากถูกหลอกเอาเงินจน บริษัทล้มละลาย บ้านแตก ต้องย้ายมาอยู่กระต๊อบไม้(แต่โครงสร้างภายในโมเดิร์น ตามสไตล์ SHAFT) น้องปูจึงมีลักษณะนิสัย Tundra แบบในปัจจุบัน น้องปูยอมรับว่าเคยหลงรักไคกิ แต่หลังจากรู้ตัวถูกหลอกก็..... ส่วนไคกิ เห็นน้องปูเป็นแค่เด็กผู้หญิงกะโบโล แต่ก็ภูมิใจกับ บุคลิกใหม่ของน้องปูที่ตนเองสร้างขึ้นมา รวมถึงรู้ตัวดีว่า ไม่ควรเข้าใกล้เธออีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะถึงเขาจะบูชาว่าเงินคือพระเจ้า แต่เขาก็ยังเข้าใจว่าชีวิตมันหาอะไรทดแทนไม่ได้(แต่เงินซื้อชีวิตคนอื่นได้) ถึงสุดท้ายจะต้องมา เผชิญหน้ากันจนได้ในบท Karen Bee ซึ่งในตอนนั้นเขาได้สัญญาว่าจะมาเหยียบเมืองที่พวกหงอนอยู่อีกเป็นครั้งที่สาม แต่นั่นน่ะ "โกหก" ถ้าเขาจำเป็นถ้าเขาต้องการ เขาก็จะมาอีก นิสัยส่วนตัว พูด 2 คำ จะโกหกซะ 1 คำ บางครั้งปากจะโกหกออกไปก่อนจนตัวเองลำบากทีหลัง สงสัยสิ่งรอบข้างอยู่เสมอว่าเป็นเรื่องหลอกลวง ไม่เชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับ คิดว่าทุกคนมีปัญหาก็เป็นเพราะตัวเอง(ไม่ใช่เพราะถูกเขาหลอกลวง) เหมือนกับที่โอชิโนะชอบพูดว่า ทุกคนช่วยเหลือตัวเองจนปลอดภัย ไม่ใช่เพราะตัวเขาช่วย แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 14:48:06 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 14:46:20 จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 11:52:06

ความคิดเห็นที่ 2 Koimonogatari นำเรื่อง จากท้ายบท Otorimonogatari น้องงูกลายเป็นเทพงูขาวนาเดโกะ สถิตอยู่ที่ศาลเจ้าคิตะชิระเฮบิ และสัญญาว่าจะฆ่า ชิโนบุ ปู หงอน แถม ลิง แมว ถ้ามาด้วย ในเดือนมีนาคม วันจบการศึกษาของพวกเขา(น้องงูกลายเป็นเทพงูขาวช่วงเดือนพฤศจิกายน) ระหว่างนั้น หงอนพยายามไปเกลี้ยกล่อมน้องงูอยู่หลายครั้ง และปางตายกลับมาทุกครั้ง นอกจากนั้นยังหาตัวผู้ช่วยที่น่าจะพึ่งพาได้เพียงคนเดียว โอชิโนะ เมเมะ ที่ออกจากเมืองไปแล้วไม่เจอ เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงสิ้นปี น้องแมวอาศัยช่วงวันหยุด เดินทางออกนอกประเทศ เพื่อไปสำรวจเส้นทางสำหรับ การเดินทางรอบโลกที่เจ้าตัวตั้งใจจะออกเดินทางหลังเรียนจบ ม.ปลาย และไปตามหา โอชิโนะ ไปด้วยในตัว(มารู้ทีหลังว่า ทั้งไคกิและ โอชิโนะ อยู่ในสถานะคนที่ตายไปแล้วตามทะเบียนราษฎร์ทั้งคู่ ทำพาสปอร์ต ไม่ได้ เดินทางออกนอกประเทศลำบาก ถ้าถูกเจอตัวนอกประเทศ จะยิ่งวุ่นวาย) น้องปูตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคนที่เธอไม่อยากขอที่สุด(น่าจะจากเบาะแสข้อมูลที่ น้องแมวทิ้งไว้ให้) ไคกิ เดชู วันปีใหม่ 1 มกราคม ไคกิ ทำงานพิเศษ เป็นผู้ดูแลศาลเจ้าอยู่ที่เกียวโต(หรืออาจจะจงใจหลอกคนอ่านว่าเป็นเกียวโตแต่เป็นที่อื่น เจ้าตัวว่างั้น) ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำปีของเขา เหตุผลคือ เพื่อมามองคนที่โยนเงินอย่างเสียเปล่าเข้าไปในกล่องบริจาคของศาลเจ้าเพื่อขอพร และย้ำเตือนตัวเองว่า ต้องไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด และได้รับโทรศัพท์จากน้องปู ถามว่าใช่ ไคกิ เดชู หรือเปล่า ไคกิตอบกลับไปว่า เขาชื่อ "ซึสึกิ" น้องปูจึงตอบว่า เธอชื่อ "เซนโชงาฮาระ" และถามว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาเผลอตอบ โอกินาวะ ไปตามสัญชาติญาณโกหก น้องปูตอบกลับว่า งั้นเธอจะไปหามีเรื่องจะคุยด้วย และนัดเจอกันที่สนามบินโอกินาวะ บ่ายวันนั้น หลังจากวางสายไคกิจึงต้องรีบตาลีตาเหลือก ต่อรถขึ้นเครื่องบิน ไปให้ถึงโอกินาวะจนได้ หลังจากนัดพบที่คาเฟ่ภายในสนามบินโดยให้สังเกตที่ "แว่นตา" ทำให้ไคกิสงสัยว่า น้องปูใส่แว่นตั้งแต่เมื่อไหร่ และแว่นตาจะใช้เป็นจุดสังเกตได้ยังไง (ที่จำเป็นต้องมีจุดสังเกต เพราะเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่าง "ซึสึกิ" กับ "เซนโชงาฮาระ") เมื่อมาถึงร้านที่นัดพบเขาพบว่า น้องปูใส่แว่นจมูกโต สำหรับใช้ในงานปาร์ตี้ และรู้สึกเหมือนกับโดนทำแต้มนำไปก่อน จึงไปหาซื้อเสื้อฮาวายและ แว่นกันแดดจากในสนามบิน มาสวมก่อนเข้าไปหาน้องปู น้องปูที่เห็นไคกิในชุดฮาวาย สำลักน้ำออกมา ทำให้ไคกิคิดในใจว่า ทำแต้มคืนได้แล้ว และทั้งคู่นั่งคุยกันต่อในสภาพนั้น จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 11:56:47

ความคิดเห็นที่ 3 น้องปูบอกว่าเธออยากจ้างไคกิ ให้หลอกเด็กหญิง ม.ต้นคนนึง ที่ชื่อ เซนโกคุ นาเดโกะ และอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ เท่าที่ตัวเองรู้ให้เขาฟัง   น้องปู เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ไคกิฟัง แบบไม่ละเอียด เพราะเธอก็รู้ผ่านหงอนมาอีกที ยังไม่เคยเจอเทพงูขาวด้วยตัวเอง แต่จากสภาพหงอนที่ปางตายกลับมาทุกครั้ง ที่ไปหาเทพงูขาวนาเดโกะ ยืนยันกับเธอเสมอว่าไม่มีทางรอด หลังจากนั้นก็มีการพูดจาจิกกัดกันไปมา น้องปูฟิวส์ขาดสาดน้ำส้มใส่หน้าไคกิ เพราะถูกยั่วเรื่องที่เคยถูกหลอกเมื่อหลายปีก่อน แต่ไคกิก็สาดกาแฟร้อนที่เย็นแล้วใส่น้องปูกลับไป!!!เพราะถูกยั่วเรื่องกลัวที่จะหลอกลวงเด็กผู้หญิง ม.ต้น แค่คนเดียว ไคกิขอตัวไปห้องน้ำ เขาไปส่องกระจกถามตัวเองว่า มีเหตุผลอะไรที่จะต้องช่วยเหลือน้องปู อยากช่วยปูกับหงอน NO แก้ตัวเรื่องที่ไปหลอกลวงเด็กม.ต้น NO ช่วยเซนโกคุนาเดโกะที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก NO หาทางปอกลอกเงินจากพ่อแม่ NO ชดเชยให้หงอนที่เคยไปก่อเรื่องช่วงหน้าร้อน NO ช่วยเหลือน้องลิง ทางอ้อม โดยการหลอกลวง เซนโกคุ นาเดโกะ เพื่อช่วยชีวิต หงอนกับปู YES (แม่ของน้องลิง กะเอ็น โทโอเอะ น้องสาวของ กะเอ็น อิซึโกะ เป็นคนที่ไคกิ หลงรักข้างเดียวแต่เธอตายไปแล้ว เป็นเหตุผลให้เขาไปปรากฎที่ใกล้ๆบ้านน้องลิงในบท Karen Bee หรือในอนิเมนิเสะตอน 3 ก็เพื่อจะไปดูหน้าน้องลิงและจากการที่น้องลิงเป็นหลานสาวของ อิซึโกะ ทำให้น้องลิง เป็น 1 ในสมาชิกของตระกูล กะเอ็น ที่ควบคุมดูแลเรื่องเหนือธรรมชาติในญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณ แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว) ไคกิจึงตอบตกลง รับงานหลอกลวงน้องงู จากน้องปูทั้งที่ได้ค่าตอบแทนน้อยมาก น้องปูขอจ่ายค่ามัดจำด้วเยงินเท่าที่เธอมี(แสนเยน) แต่ไคกิบอกว่า ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้ว เขาขอรับค่าจ้างแค่นั้น เพราะเขารู้ว่าสภาพน้องปูในตอนนี้ หาเงินมาจ่ายเขาได้ลำบาก และเขาเพียงแค่ อยากหาโอกาสไปพบหน้าน้องลิง และเพราะไม่อยากไปเกี่ยวข้องขนาดต้องตามทวงเงินส่วนหนึ่ง และคนอย่างเขารับค่าตอบแทนแต่เงินสด ที่สำคัญคือ เขาทำงานนี้โดยไม่สนใจเงินแต่แรกแล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดอีกหลายอย่าง คือ ห้ามเจอหน้าหงอน ต้องรายงานสถานการณ์ให้เธอรู้ตลอด ห้ามไปหลอกลวงคนอื่นระหว่างงาน และที่สำคัญ ต้องเริ่มงานวันนี้ทันที ไคกิก็ยอมรับเงื่อนไขโดยดีจนน้องปูยังแปลกใจ ไคกิได้แต่บอกปัดว่า ถึงเขาจะเป็นนักต้มตุ๋น เป็นจอมโกหก แต่เขาก็เป็นมืออาชีพ เมื่อรับปากแล้วว่าจะทำงาน จะมีเงื่อนไขอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จ น้องปูไม่มีอะไรจะพูดต่อ ได้แต่บอกว่า ขอบคุณที่ยอมช่วยชีวิตเธอ ทำให้ไคกิเข้าใจว่า สภาพของปูกับหงอนในตอนนี้ร้ายแรงขนาดไหน เพาะน้องปูถึงกับต้องมาขอร้องคนอย่างเขา ไคกิและน้องปูเดินทางโดยเครื่องบินคนละเที่ยว ขากลับน้องปูขอยืมเงินไคกิเป็นค่าเครื่องบินขากลับ ทำให้ไคกิเข้าใจว่า น้องปู มาหาตนเองแบบไม่คิดว่าตนเองจะรับงาน คิดว่าคงจะได้เงิน แสนเยน ติดตัวเป็นค่าเครื่องบินขากลับ แต่เขาดันรับงานซะอย่างนั้นทำให้น้องปูหมดตรูด เพื่อไม่ให้มีใครพบเห็นว่าตนเองกลับมายังเมืองที่พวกหงอนอยู่ ไคกิเริ่มงานโดยไปที่บ้านของน้องงู บอกพ่อแม่น้องงูว่า ตัวเองเป็นพ่อของเพื่อนน้องงู และลูกสาวหนีออกจากบ้านไปเมื่อไม่กี่วันเหมือนกัน อยากจะสอบถามรายละเอียดของน้องงูที่หายสาบสูญไป เพราะได้ยินมาว่าสนิทกับลูกสาวตัวเอง เผื่อว่าจะช่วยกันหาเบาะแสอะไรได้ ไคกิพูดคุยกับพ่อแม่น้องงู ไคกิวิเคราะห์น้องงู จากการพูดคุยกับพ่อแม่ว่า พ่อแม่ของเธอ ไม่สามารถอธิบายจุดเด่น หรือข้อเสียที่ชัดเจนของเธอได้เลยซักอย่างเดียว ความเห็นทุกอย่างจะไปจบที่คำว่า "น่ารัก" รวมทั้งจากคำพูดของน้องปูเองที่บอกว่า เซนโกคุ นาเดโกะ เป็นเด็กสาวที่เอาแต่ทำตัวให้คนรอบข้างเห็นว่า ตนเองนั้น "น่ารัก" รวมทั้งการสนทนาในตอนที่พบกันครั้งแรก ไคกิจึงสรุปว่า เซนโกคุ นา เดโกะ เป็นเด็กผู้หญิงที่ความคิดอ่านยังไม่พัฒนาจากเด็กๆ ที่เรียกตัวเองด้วยชื่อของตัวเอง แทนที่จะเป็นฉัน และเด็กแบบนั้น และจะเชื่อฟัง คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าแบบสนิทใจ เป็นสาเหตุให้เขาตัดสินว่า เทพงูขาวนาเดโกะ เป็นเด็กแบบที่หลอกง่ายที่สุด จากนั้นไคกิขอเข้าไปดูในห้องน้องงู เพื่อตรวจสอบนิสัยและหน้าตาของน้องงู และรู้ว่า มีตู้ที่เปิดไม่ได้อยู่ใบหนึ่งในห้องน้องงูที่ยังไม่เคยมีใครเห้นว่าข้างในมีอะไร หลังจากออกจากบ้านน้องงู ไคกิโทรไปรายงานน้องปู บอกว่าพอจะรู้เรื่อง ของน้องงูคร่าวๆแล้วและคิดว่าจะไปเจอเจ้าตัวโดยตรง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอไหม หลังจากไคกิเดินทางมาถึงศาลเจ้าคิตะชิราเฮบิ ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ เขาก็ต้องทำเรื่อง ที่ตัวเองเกลียดที่สุด โดยการทดลองโยนธนบัตรหมื่นเยน ลงในกล่องบริจาคของศาลเจ้า และ น้องงูโดดอย่างดีใจออกมาจากในศาลเจ้า แทบจะในทันทีพร้อมกับพูดว่า "นาเดโกะเองค่า" ในชุดเสื้อกระโปรงสายเดี่ยว สีขาวรีบระบายสามชั้น ที่ดูไม่ค่อยเข้ากับหน้าหนาว แต่ก็เพราะ เธอไม่รู้สึกถึงความหนาวแล้ว นาเดโกะบอกว่าไคกิเป็นคนแรกที่เข้ามาทำบุญ หลังจากศาลเจ้า สร้างเสร็จ เป็นสาวกหมายเลข1 ของเธอ ขนาดคนสร้างศาลเจ้า ยังเผ่นแน่บไปทันทีที่เธอปรากฎตัวหลังจากสร้างเสร็จ ไคกิพูดคุยเพื่อตรวจสอบนิสัยของนาเดโกะ และชวนเธอเล่นพันด้าย หลังจากกลับจากศาลเจ้า เขาโทรไปบอกน้องปูกลางดึกเพื่อเรียกเธอมาพูดคุย รายงานผล น้องปูมาหาในชุดนักเรียนสวมเสื้อกันหนาวและหมวกไหมพรม แบบในหน้าปกของนิยาย ทั้งสองคนเข้าไปนั่งคุยในร้านโดนัท ไคกิไม่ลืมสั่งกาแฟเย็น เผื่อว่าต้องสาดใส่หน้าน้องปู จะได้มีน้ำแข็งแถมไปให้เจ็บเล่น ไคกิรายงานผลไปว่า จากการตรวจสอบนิสัยของ เซนโกคุ นาเดโกะ เขาพบว่า เธอเป็นคนประเภทที่ หลอกง่ายที่สุด ถ้าเชื่อใจใครซักครั้งแล้ว ก็จะไม่สงสัยในตัวคนนั้น และเขาขอเวลาแค่ 1 เดือน เพื่อจะหลอกน้องงูว่า ปูกับหงอน โดนรถชนตายไปแล้ว เมื่อเธอเชื่อ เธอก็จะไม่รังควานพวกเขาอีก และน้องปูไม่มีทางลงจากศาลเจ้าบนเขามาเพื่อพิสูจน์ได้ง่ายๆ ปัญหาอย่างเดียวคือ ทำยังไงไม่ให้หงอน ขึ้นไปบนศาลเจ้าอีกเพื่อไม่ให้ความแตก ซึ่งน้องปูบอกว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเธอ ถึงไคกิจะเดาว่า ตามนิสัยหงอนแล้ว ไม่มีทางที่จะยอมเลิกตื๊อ น้องงูอย่างแน่นอน น้องปูยังยืนยันว่าเธอทำได้ก่อนจะขอตัวไปห้องแต่งหน้าและกลับมาด้วยคราบน้ำตาบนหน้า ทำให้ไคกิรู้ว่า น้องปูหลบไปร้องไห้ ด้วยความดีใจ สบายใจที่ตัวเองและหงอนไม่ต้องตาย เพราะเทพงูขาวนาเดโกะอีกแล้ว น้องปูขอบคุณไคกิทีช่วยชีวิตเธอไว้อีกครั้ง จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:09:50

ความคิดเห็นที่ 4 F5 รัว จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:20:07

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจาก แจ้งผลให้น้องปูรู้ว่า น้องงูหมูมาก เดือนเดียวก็หลอกสำเร็จ และน้องปูแอบหลบไปร้องไห้ ไคกิ เข้าใจในทันทีเธอร้องไห้ดีใจที่หงอนและตนไม่มีอันตรายถึงชีวิตอีกแล้ว เพราะถ้าแต่เป็นเรื่องของตัวเองคนเดียว น้องปูคงทำใจแข็งปั้นหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม ถึงจะรู้ว่ารอดตาย หลังจากส่งน้องปูขึ้นแท๊กซี่กลับบ้าน (ออกค่าแท๊กซี่ให้ด้วยเพราะสภาพน้องปูเหมือนจะไม่รับรู้อะไรแล้ว) ไคกิก็ ประมวลสถานการณ์อีกครั้ง ว่าต้องทำอะไรต่อบ้าง ต้องไปหาเทพงูขาวนาเดโกะ อีกกี่ครั้งถึงจะได้รับความเชื่อใจ จำนวนเงินที่ต้องใช้หยอดตู้บริจาคครั้งละหมื่นเยน ซึ่งจำเป็นมั้ยก็ไม่แน่ใจแต่เอาชัวร์ไว้ก่อน รวมทั้งงานนี้ท่าจะต้องเข้าเนื้อ ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนเห็นเงินเป็นพระเจ้า แต่ก็รู้ตัวตั้งแต่รับงานแล้ว ถึงน้องปูจะบอกว่าถ้าจะเรียกเก็บเพิ่ม เธอจะหาเงินมาให้จนได้ และไคกิก็รู้ว่า ด้วยความสามารถน้องปูหาเงินมาใช้ได้แน่ แต่จะเสียเวลารอไม่ได้ ควรจะเรียกเก็บเท่าที่ได้แล้วรีบชิ่งไปจากเมืองทันทีเพราะโจทก์เยอะ เช้าวันรุ่งขึ้น ไคกิวางแผนอย่างละเอียด รวมถึงรวบรวมของที่จำเป็น อย่างเช่น หนังสือรวมท่าเล่นพันด้ายเพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดึงความสนใจของน้องงูได้มาก และเมื่อวานสัญญาไว้ว่าจะสอนวิธีพันด้ายใหม่ให้ ขณะที่กำลังจิบกาแฟในร้านสตาร์บักพร้อมกับอ่านหนังสือรวมท่าเล่นพันด้ายไป เขาถูก โอโนโนกิ โยสึกิ( 1 ใน 3 คนที่ไอ้หงอนเนียนจูบในบทโอนิฯ) เข้ามาทักจนต้องรีบปิดหนังสือโยสึกิบอกว่ารับฝากข้อความมาบอกต่อมาจาก กะเอ็น อิซึโกะทำให้ไคกิรู้สึกสะอึกทันทีที่ได้ยินชื่อ เพราะเป็นคนเดียวที่ตัวเองไม่กล้าหือ โดยข้อความที่ว่าคือให้ "ถอนตัวซะ" พร้อมกับให้เงินสามล้านเยนมาเป็นค่าเสียเวลา ไคกิพยายามบ่ายเบี่ยงไม่รู้เรื่องว่าหมายถึงอะไรแต่โยสึกิสามารถบอกได้ถึงขนาดว่า ตอนนี้ไคกิกำลังพยายามหลอกต้มเทพงูขาวนาเดโกะอยู่เหตุผลที่ให้ถอนตัวคือสภาพผิดปกติของพลังเหนือธรรมชาติในเมืองนี้กำลังจะเข้าที่เข้าทางแล้ว เพราะศาลเจ้าคิตะชิราเฮบิ ที่ร้างไปนาน มีเทพกลับมาสถิต ทำให้กระจุกพลังเหนือธรรมชาติในเขตศาลเจ้าเริ่มสลายตัวเป็นกลาง(ถูกน้องงูดูดไปเป็นพลัง) คนที่บ้าพอจะเข้าไปยุ่งสภาพที่สมดุลดีอยู่แล้วเพื่อช่วยคนเพียงไม่กี่คน และทำให้สำเร็จได้แน่นอนคงมีแค่โอชิโนะโอนี่จังคนเดียว(ไคกิก็ถูกเรียกว่า ไคกิโอนี่จัง) ทำให้ไคกิเกิดฉุนขึ้นมาเพราะถูกหาว่า โอชิโนะ ทำได้ แต่ตนเองมีโอกาสพลาด โยสึกิ อธิบายต่อว่า อิซึโกะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทำให้ นาเดโกะ กลายเป็นเทพงูขาวนาเดโกะ โดยเดิมทีตั้งใจจะให้ ชิโนบุหรือคิสชอต รับหน้าที่เป็นเทพ แต่เกิดอุบัติเหตุบางอย่างจนกลายมาเป็นน้องงูแทน ไคกิปฎิเสธคำเตือนด้วยอารมณ์หงุดหงิด แต่โยสึกิสำทับว่า อิซึโกะบอกไว้ว่า "ถ้าไม่ยอมถอนตัว ถือว่าต่อจากนี้ เราไม่ได้เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันอีกแล้ว" ทำเอาไคกิหนาววูบ เพราะเหมือนกับโดนคาดโทษตาย ไคกิจึงบอกว่า "ตกลงฉันถอนตัว" ซึ่งแน่นอนเป็นการโกหก คนอย่างเขาไม่เคยกลัวการบลัฟและยิ่งไม่ยอมแพ้เวลาถูกบลัฟ เขารับเงินสามล้านเยนเพื่อเอาใช้เป็นทุน ในการหลอกต้มตุ๋นเทพงูขาวนาเดโกะ คิดไปว่ารวมกับหนึ่งแสนจากน้องปูเท่านี้ก็กำไรแล้ว งานหมูๆกำไรดีแบบนี้เลิกให้โง่ ยอมแพ้ก็เสียชื่อหมด หลังจากรับเงินมาไคกิจึงขึ้นไปที่ศาลเจ้าคิตะชิราเฮบิอีกครั้ง โยนธนบัตรหมื่นเยน ลงในตู้บริจาค และเทพงูขาวนาเดโกะก็โดดลอยตัวออกมาจากในศาลเจ้า ด้วยประโยค "นาเดโกะเองค่า" พร้อมหน้าตายิ้มแย้มเหมือนกับเมื่อวาน น้องงูแปลกใจที่ไคกิ มาติดๆกัน2วัน ไคกิจึงโกหกว่าเขาตั้งใจะ ขอพรร้อยครั้ง (แบบหนูอุยในK-ON! ทำบุญ10เยน100ครั้ง ขอให้ยุยเอนท์ฯติด) ก่อนมาคิดได้ว่าร้อยครั้ง ครั้งละหมื่นเยน ก็เป็นล้านเยน เสียดายว้อย และนึกได้อีกทีว่า ก็ไม่จำเป็นต้องครบร้อยนี่หว่าหลอกได้แล้วชิ่งก็โอเค แต่เผื่อไว้ร้อยครั้งก็ดี ยังไงตอนนี้กระเป๋าตุงอยู่สามล้าน และยังไงลิมิตเวลาก็อยู่ที่เดือน3วันพิธีจบการศึกษาของพวกหงอน ซึ่งก็ไม่ครบร้อยครั้งอยู่ดี น้องงูถามต่อว่าเขาจะขอพรเรื่องอะไร เพราะเธอเป็นคนที่จะทำให้เป็นจริง เลยอยากรู้ไว้ก่อน น้องงูเดาว่า คงเป็นเรื่องความรัก และอายุอย่างไคกิก็คงเป็นเรื่องแต่งงาน ไคกิ สวนกลับทันทีว่า งี่เง่ามาก พร้อมกับอธิบายว่า..... การแต่งงานก็เหมือนกับตายทั้งปาร์ตี้เวลาเล่นเกมส์ดรากอนเควสท์ เพราะเงินจะลดเหลือครึ่งเดียว แปลว่าการแต่งงาน มีค่าเท่ากับความตาย(ในเกม) และเขาเป็นคนเกลียดการถูกลดเงินในกระเป๋าของตัวเองลงอย่างไร้ค่ามากๆ น้องงูถามต่อว่าแล้วเป็นเรื่องอะไร ไคกิอึ้งไปเพราะไม่ได้คิดไว้ ครั้นจะบอกว่าขอให้หลอกต้มตุ๋นคนได้อีกเยอะๆก็ใช่ที่ ได้แต่บอกว่า ขอให้การงานเจริญรุ่งเรือง น้องงูยังสงสัยต่อว่าแล้วไคกิทำงานอะไร ไคกิจึงบ่ายเบี่ยงไปว่ายังเหลืออีกตั้ง 98 ครั้ง ที่เขาจะต้องมาขอพร ไม่ต้องรีบร้อนรู้หรอก น้องงูเลยบอกว่าค่อยๆบอกให้เธอรู้เธอจะรับฟังคำขออย่างแน่นอน "เพราะตอนนี้นาเดโกะเป็นพระเจ้าแล้วนะคะ" ไคกิรู้สึกอึ้งไปเพราะรู้สึกน้องงูจะภูมิใจจังกับการเป็นเทพงูขาวมาก น้องงูชวนเล่นพันด้ายต่อจากเมื่อวาน แต่น้องงูทำด้ายที่ไคกิให้ไว้เมื่อวานขาดไปแล้ว จึงเอาเส้นผมของตัวเองที่เป็นงูมาใช้แทน โดยให้มันงับหางตัวเองเป็นวงเอาไว้ ไคกิที่ต้องใช้ งูอุโรโบรอส สอนเทพงูขาว เล่นพันด้าย สาบานกับตัวเองว่า ต้องหาซื้อด้ายสำหรับเล่นพันด้ายแบบจริงๆจังๆมาในครั้งต่อไปให้ได้ จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:21:25

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากลงจากศาลเจ้า ไคกิรู้สึกเหมือนกับถูกคนสะกดรอยตาม ซึ่งเขาคิดว่าอาจจะคิดมากไปเอง เพราะตัวเขาความรู้สึกไวต่อการถูกสายตาจ้องมอง แต่ก็พยายามเดินวนไปมาไม่กลับโรงแรมที่พักและหนีขึ้นแท๊กซี่ หลังจากที่ไม่รู้สึกว่าถูกตามแล้วไคกิเดินทางไปบ้านของน้องงูอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ ตู้ที่ไม่มีใครเคยเห็นข้างในว่าอาจจะเป็นเงื่อนงำในการหลอกต้มน้องงู เขาโทรไปหาพ่อแม่ของน้องงูที่แลกเบอร์ติดต่อกันไว้เมื่อวาน นัดพวกเขาออกมาเจอข้างนอก รอจนพวกเขาขับรถออกจากบ้าน เเละเเอบเข้าไปในบ้านทางหน้าต่างห้องน้องงูที่แอบปลดกลอนไว้เมื่อวานและพบว่าของที่น้องงูซ่อนไว้ในตู้ ไร้ค่าและน่าเบื่อมากในสายตาของเขาหลังจากกลับมาถึงห้องพักที่โรงแรมเขาพบจดหมายใส่ซองอยู่บนพื้นหลังจากเปิดประตูห้อง ข้างในมีข้อความเขียนว่า "ถอนตัวซะ" ทำให้เขากังวลกับมันพอสมควรว่าใครเป็นคนส่งมันมา เพราะรุ่นพี่อิซึโกะของเขาไม่เคยพูดอะไรซ้ำสองและคนที่รู้ว่าเขามาที่เมืองนี้น่าจะมีอยู่แค่ไม่กี่คน ยิ่งคิดไปถึงเรื่องที่รู้สึกว่าถูกสะกดรอยตามยิ่งรู้สึกน่าวิตก ที่สำคัญจดหมายไม่น่าจะมาอยู่ในห้องพักของเขาได้นอกจากว่าพนักงานในโรงแรมมีส่วนรู้เห็น จนต้องพูดออกมาว่า "หรือว่านี่เรา ไปพัวพันกับ องค์กรขนาดใหญ่อะไรเข้าซะแล้ว"แหม ใครๆก็อยากลองพูดแบบนี้ดูซักครั้งใช่มั้ยล่ะ หลังจากโทรไปรายงานผลกับน้องปู และบอกเรื่องจดหมายขู่กับน้องปูไป น้องปูเลยบอกว่าน้องแมวก็เหมือนกับได้รับการเตือนอะไรคล้ายๆคำขู่จากกะเอ็น อิซึโกะเหมือนกันว่าอย่ามายุ่งเรื่องที่เทพงูขาวนาเดโกะจะฆ่า ปู หงอน ชิโนบุ น้องแมวจึงเลี่ยงเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปตามหา โอชิโนะ ไคกิเริ่มสงสัยในชื่อ ฮาเนคาวะ เพราะว่าจากากรสนทนากับน้องปู ตั้งแต่เริ่มงาน เขาได้ยินชื่อน้องแมวจากจากปากน้องปูในทำนองเป็นที่พึ่งพาได้ ยิ่งรูว่าเป็นคนที่ อิซึโกะ ถึงขนาดต้องเตือนให้อย่ามายุ่งอาจจะช่วยให้ข้อมูลที่ทำให้เขารู้ว่า อิซึโกะวางแผนอะไรอยู่อีกทางหนึ่งเขาก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดีทุกครั้งเวลาที่ได้ยินชื่อน้องแมว แต่น้องปูบอกว่าถึงยังไงตอนนี้ไคกิก็ไม่มีทางพบน้องแมวไม่ได้เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่ญี่ปุ่นและยังไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ ส่วนจดหมายน่ะใครๆก็เอาไป วางไว้ตรงนั้นได้ง่ายๆ แค่ร่อนผ่านช่องว่างระหว่างใต้ประตูกับพื้นไคกิอึ้งไปพักหนึ่งเพราะหาทางเถียงน้องปูกลับไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมรับว่าน้องปูพูดถูกได้แต่บอกว่า วิเคราะห์ได้เข้าท่าดีนี่นา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งอยู่ดี สุดท้ายน้องปูถามเรื่องที่ไคกิจะไปขอพรร้อยครั้งว่าจะไปหาน้องงูทุกวันจริงๆน่ะ ไคกิตอบว่าอย่างมากก็ 30 ครั้ง ตามที่บอกว่าหลอกได้ใน 1 เดือน ปูกัดต่อว่าเจอหน้าแต่ละทีต้อง จ่ายหมื่นเยนนี่เหมือนกับเข้าผับไปนั่งดริงค์กับสาวยังไงยังงั้น และเธอกลัวว่าไคกิจะไปหลงเสน่ห์น้องงูเข้าซะก่อนจะหลอกสำเร็จ เตือนให้เขาไปหาแค่ 3วันครั้งก็พอแล้ว และหวังว่าเขาจะไม่เสพย์ติดพิษงูซะเองก่อนงานจะเสร็จ ป.ล. เน็ตที่ทำงานทำท่าจะล่มถ้าเห็นผมหายไปก็ไม่ต้องตกใจ จะกลับมาเเน่นอน แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 12:30:55 จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:24:38

ความคิดเห็นที่ 7 ยิ่งแต่งมากหลายๆตอน ตัวละครแต่ละตัวยิ่งซับซ้อนเข้าไปทุกทีแฮะ คนเขียนนี่กินอะไรเข้าไปถึงได้แต่งได้ซะขนาดนี้นะ ชาบูๆ ขอบคุณท่านผู้แปลและผู้นำมาให้เราได้อ่านมากๆเลยขอรับ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 12:26:57 จากคุณ : SLA@kit เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:25:33

ความคิดเห็นที่ 8 น่าจะชื่อบท Kaiki Con มากกว่านะ จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:26:20

ความคิดเห็นที่ 9 สงสัยนิดนึง แวมไพร์โลลิหายไปไหน ไม่อยู่กับเจ้าโคโยมิแล้วรึไงถึงปล่อยให้มันเจ็บเกือบตาย หรือ ปล่อยให้มันเจ็บตัวฐานที่ไปยุ่งกับนาเดโกะ? จากคุณ : SLA@kit เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:48:13

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ชิโนบุจะเอาอะไรไปสู้นาเดก็อดครับ จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:55:45

ความคิดเห็นที่ 11 ## 9 บุร่างโลลิสู้งูไม่ได้เหมือนกัน ต้องให้เป็นร่างสมบูรณ์ *** ว่าแต่ใครไปเชิญเทพงูมาประจำวัดในเมืองไทยหน่อย ให้มาจัดการโจรที่มันชอบเข้ามาลักเงินบริจาค กับพระพุทธรูปไปขายหน่อย จากคุณ : wo-jiao เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:56:27

ความคิดเห็นที่ 12 หลังรายงานผลประจำวัน ไคกิ มานั่งลิสต์สิ่งที่ตัวต้องทำหรือต้องระวังโดยไม่ลืมเรื่อง "ซื้อด้ายสำหรับเล่นพันด้าย" เขาว่าชาตินี้ขอใช้งูอุโรโบรอสเล่นพันด้ายครั้งเดียวก็พอแล้ว วันรุ่งขึ้นไคกิไปหาซื้อด้ายและเหล้าญี่ปุ่นขวดหนึ่งเพราะจากความรู้ของเขาพวกเทพมักจะชอบเหล้า ยิ่งทำให้คำพูดของน้องปูที่ว่าไปหาน้องงูเหมือนกับไปเข้าผับนั่งดริงค์กับสาวชัดเจนยิ่งขึ้น และคิดว่าตัวเขาอาจจะถูกใจไอ้ท่ากระโดดดีใจ "นาเดโกะเองค่า" ตอนที่เขาหย่อนเงินบริจาคนั่นอยู่จริงๆก็ได้ ดังนั้นวันนี้เขาจึงไปที่ศาลเจ้าและลองหย่อนลงไปสองหมื่นเยนเพื่อดูว่าน้องงูจะมีปฎิกริยาแบบไหนกลับมา ปรากฎว่าน้องงูโดดออกมาในท่าเดิมแต่พอจะพูด "นา... นาเด..เด..... เอ๋" และลื่นล้มหัวกระแทกกับกล่องบริจาค ก่อนจะลุกขึ้นมาในทันทีเหมือนกับไม่เจ็บอะไรเลยและบอกว่า "สองหมื่น!? คุณไคกิ ถ้าใส่เกินเองหนูไม่คืนให้นะคะ" ทำให้ไคกิคิดว่า สงสัยหมื่นเยนจะเป็นลิมิตความรั่วของเทพงูขาวนาเดโกะ ไคกิบอกว่าวันนี้ยังมีของแถมอีกและวางขวดเหล้าญี่ปุ่นให้น้องงูน้องงูรับไปด้วยความดีใจและบอกว่าอยากลองกินดูซักครั้งมานานแล้วจนไคกิสงสัยว่าพูดเหมือนเคยกินเหล้าเป็นประจำตอนเป็นมนุษย์ จนน้องงูพูดต่อว่า "คุณพ่อกินแต่เบียร์ เหล้าญี่ปุ่นพึ่งจะเคยได้กินนี่แหละค่ะ" ไคกิเลยรู้ว่าเทพงูขาวนาเดโกะตอนยังเป็นมนุษย์แอบกินเบียร์ของพ่อเป็นประจำ จากนั้นจึงส่งด้ายสำหรับเล่นพันด้ายให้น้องงูบอกให้ใช้พวกนี้เล่นพันด้ายแทนเส้นผมตัวเอง น้องงูรับไปและบอกว่าขอบคุณค่ะทีนี้ก็มีอะไรทำฆ่าเวลารอวันที่จะได้ฆ่าโคโยมิโอนี่จังแล้ว ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนที่เคยพูดให้ฟังตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ไคกิพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยโดนการสอนท่าเล่นพันด้ายใหม่ๆให้ ก่อนลงจากศาลเจ้าในวันนั้น น้องงูออกมาโบกมือส่งไคกิ ซึ่งเขาพยายามทำเป็นไม่สนใจไม่ใช่กลัวว่าจะหลงเสน่ห์เทพงูขาวนาเดโกะแบบที่น้องปูบอกหรอกนะแต่อย่างน้อยระวังตัวไว้หน่อยก็ดี และมาพบน้องแมวมาดักรออยู่ที่ตีนเขาทางขึ้นศาลเจ้า ภาพลักษณ์แรกของน้องแมวในสายตาไคกิคือ ขาวกับดำ เป็นเพราะสีผมดำสนิทที่ถูกแซมด้วยสีขาว (เป็นผลจากการยอมรับ แบลคฮาเนคาวะ และภูติเสือ เข้าไปในตัวในบท Tsubasa Tiger) น้องแมวแนะนำตัวและถามว่าเขาคือ ไคกิ เดชู ใช่มั้ย ไคกิรู้อะไรหลายๆอย่างโดยสัญชาติญาณในทันที เขาถามน้องแมวว่า มีเรื่องจะถามเขาใช่มั้ย ได้เขาจะตอบ พราะเขาก็ไม่ใช่วว่าไม่มีเรื่องจะถามเธอ ไคกิถามน้องแมวว่าได้ยินจากน้องปูว่าเธอไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่น น้องแมวตอบว่าเธอแอบกลับมาเพื่อมาพบเขาโดยเฉพาะและพรุ่งนี้ก็จะออกนอกประเทศไปอีกครั้ง เพื่อไม่ให้อิซึโกะสงสัย ภาพลักษณ์ต่อมาของน้องแมวในสายตาไคกิก็คือสุภาพจนดูเกินเหตุและเหมือนกับไม่ได้รับการดูแลเอาอกเอาใจจากพ่อแม่ต่างจากน้องงูที่ถูกคนรอบข้างเอ็นดูอยู่เสมอ จนทำให้เธอไม่สามารถพัฒนาบุคลิกภาพกลายเป็นทำร้ายเธอทางอ้อม ในขณะที่น้องแมวกลายเป็นคนเข้มแข็งเพราะไม่มีใครมาคอยโอ๋และไคกิรู้ตัวแล้วว่าเหตุผลที่เขาสังหรณ์ไม่ดีถ้าได้เจอน้องแมวก็เพราะคนทีซื่อตรงเกินไปอย่างเธอจะทำให้คนคดโกงบิดเบี้ยวจนถึงแก่นอย่างเขาเสียความมั่นใจ น้องแมวขอให้ไคกิช่วยหงอนกับน้องปูให้ได้ ไคกิถามกลับไปว่าพูดแบบนี้แปลว่าตัวเองไม่คิดจะช่วย? หรือจะล่อให้ฉันทำพลาดแล้วตัวเองค่อยแสดงฝีมือหรือที่จริงแอบไปล็อบบี้โอชิโนะไม่ให้กลับมาถึงได้หาตัวกันไม่เจอ เลย โดนน้องแมวตอกกลับว่า "เอาแต่สงสัยคนอื่นแบบนี้ ยังรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้เลยเหรอคะเนี่ย" และบอกว่าเธอแค่อยากให้หงอนกับน้องปูมีชีวิตรอด ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนช่วยจะเป็นเธอหรือไคกิหรือโอชิโนะก็ได้ ไคกิกัดกลับไปว่า "สาบานต่อพระเจ้ามั้ย?" น้องแมวตอบว่า "ขอสาบานกับแมวค่ะ" (จริงๆ เเล้วน้องเเมวมีอะไรในใจกันเเน่ว้า คงไม่ได้อยากช่วยปูมั้ง ช่วยหงอนอย่างเดียวพอ) ไคกิเปลี่ยนเรื่องไปถามว่า "แล้วเธอไม่มีอะไรจะถามฉันบ้างเหรอ อย่างเช่นว่าฉันรู้สึกยังไงอยู่" ซึ่งอารมณ์ของไคกิในตอนนี้เจ้าตัวรู้ดีว่าถ้าโดนตอกกลับอีกครั้งเดียวคงหนีออกจากเมืองไม่สนใจอีกแล้วว่าใครจะเป็นจะตาย แต่น้องแมวตอบว่า "ไม่ถามค่ะ" ทำให้ไคกิสงสัยว่าหรือเธอจะอ่านความรู้สึกของเขาออกจนเผลอพูดออกมาว่า "เธอนี่รู้ไปหมดไปหมดทุกเรื่องเลยนะ" และก็โดนหมัดเด็ดของน้องแมว "ฉันไม่ได้รู้ไปหมดทุกเรื่อง รู้แค่เท่าที่รู้เท่านั้นล่ะค่ะ" จนไคกิยอมแพ้และแลกเปลี่ยนข้อมูลเท่าที่รู้ของแต่ละคนบอกว่าต่างคนก็ต่างทำตามวิธีของตัวเองก็แล้วกัน น้องแมวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดรวมถึงบุคลิกที่แท้จริงที่ปิดกั้นตัวเองของน้องงูให้ไคกิรู้และถามว่าคิดว่าน้องงูจะยอมให้เขาหลอกจริงๆอย่างงั้นเหรอ แต่ไคกิยังคงคิดว่าคนที่คิดถึงแต่ตัวเองอย่างน้องงูถ้าเชื่อใครแล้วก็จะไม่สงสัยอีก น้องแมวจึงเปลี่ยนหัวข้อมาถามว่า รู้มั้ยว่า โอชิโนะมีครอบครัวหรือญาติคนไหนอีก แต่ไคกิตอบว่า โอชิโนะเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติเลยซักคนและไม่มีหลานสาวแน่นอน สุดท้ายน้องแมวสงสัยเรื่องตู้ที่ถูกล็อกในห้องน้องงูว่าจะมีอะไรที่สำคัญมากใส่อยู่หรือเปล่า แต่ไคกิโกหกว่าเขาก็ไม่รู้เรื่องตู้นั้น เพราะเรื่องที่เขาแอบเข้าไปค้นห้องน้องงูเขายังไม่ได้บอกกับใครเลยแม้แต่กับน้องปูและคิดว่าของข้างในไร้สาระและไม่มีประโยชน์พอที่จะพูดออกไป หลังจากวันนั้นไคกิก็แวะเวียนไปเที่ยวผับเทพงูขาว ทุกวัน ดื่มเหล้าบ้าง เล่นพันด้ายหรือสรรหาของเล่นอย่างอื่นขึ้นไปหลอกน้องงูบ้าง แต่ดูเหมือนน้องงูจะสนใจเรื่องพันด้ายกว่าอย่างอื่นและเขารู้สึกชอบใจท่ายกขวดเหล้าขึ้นดื่มทั้งขวดของน้องงูมากขนาดจะให้จ่ายเงินเพื่อให้ได้ดูก็ยังได้ เขาพยายามตรวจสอบเรื่องอื่นๆในเมืองที่อาจจะมีประโยชน์แต่ก็ไม่พบอะไร นอกจากบังเอิญเจอ นุมาจิ โรกะ เด็กสาวที่เขาเคยพบที่เมืองอื่นมาก่อนและได้ข้อมูลที่อาจจะมีประโยชน์ถ้าอยากจะไปเจอหน้าคันบารุ สุรุกะ เวลาล่วงเลยไปจนหมดเดือนมกราและไคกิคิดว่าน่าจะได้เวลาจบงานซะที ไคกิโทรไปรายงานกับน้องปูและได้บริการซึนเดเระเซอร์วิสว่าถึงจะช่วยชีวิต เธอกับหงอนไว้ก็อย่าได้ใจไป เธอยังแค้นเขาอยู่ อย่าโผล่หน้ามาที่เมืองนี้อีกเด็ดขาด ไคกิได้แต่เออออไปตามเรื่อง ระหว่างทางไปศาลเจ้าคิตะชิราเฮบิ ไคกิพบกับโยซึกิอีกครั้ง ไคกิสงสัยว่ามีธูระอะไรอีก โยสึกิบอกว่ากำลังจะไปเล่นกับหงอนแต่ก็รู้ว่าไคกิกำลังจะไปหลอกน้องงูเพื่อช่วยน้องปู เหมือนกับที่สองปีก่อนหลอกเอาเงินจากลัทธิใหม่ที่แม่น้องปูหลงเชื่ออยู่จนลัทธิล่มสลายไป แต่แม่น้องปูก็ย้ายไปเข้าลัทธิอื่นจนไคกิไม่มีทางเลือกต้องทำให้พ่อแม่ของน้องปูหย่ากันเพื่อไม่ให้แม่น้องปูก่อความเดือดร้อนให้ชีวิตน้องปูมากไปกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าน้องปูรักแม่มากกว่าตัวเองและเสียใจจนนิสัยเปลี่ยนไป ไคกิได้แต่ตอบกลับไปว่า ใช่ๆเขาเป็นคนดีทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น ไม่รู้ทำไมถึงพลาดแแบบนั้นไปได้ต้องจำไว้เป็นบทเรียน โยสึกิถามกลับว่าจะทำนิสัยแบบนี้ไปตลอดหรือยังไง รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไคกิสวนว่า มีใครบ้างที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ โยสึกิไม่รู้จะพูดอะไรแล้วทิ้งท้ายว่า โอกาสสำเร็จมีสูง แต่ในเวลาแบบนี้คุณ(ไคกิ)จะพลาด ไคกิขึ้นศาลเจ้าไป บริจาคหมื่นเยนและน้องงูโดดออกมาต้อรับด้วยท่าเดิม ไคกิคิดว่าจะมาที่นี่อีกหลังจากหลอกน้องงูจนเชื่อเรื่องที่ปูกับหงอนตายไปแล้ว เพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัยว่าหายตัวไปเฉยๆ แต่ถ้าน้องงูช็คอมากก็อาจจะไม่จำเป็น ขณะที่กำลังหาทางโยงเรื่องไปอยู่ น้องงูก็ขอให้เข้าบอกความต้องการที่มาขอพรร้อยครั้งซะที ไคกิพยายามบ่ายเบี่ยงโดยบอกว่าถ้าคำขอของตัวเองให้คนอื่นรู้มันจะไม่สัมฤทธิผล เพราะคำพูดจะทำให้ความจริงทุกอย่างแปดเปื้อน ความรู้สึกที่ส่งผ่านจะผิดเพี๊ยน เหมือนกับที่เราจะไม่บอกใครว่า เราไหว้พระขอพรอะไร น้องงูยังถามต่อว่า แต่ถ้าเธอไม่รู้เธอก็ไม่สามารถบันดาลให้มันเป็นจริงได้ และเธอก็เคยบอกความต้องการขอตัวเองให้เขารู้ไปตั้งมากมายอย่างเช่น รอเวลาฆ่า หงอน ปู ชิโนบุ ไคกิจึงบอกทันทีว่า ความต้องการอันนั้นเป็นจริงไม่ได้แล้ว เพราะพวกเขาทั้งสามคนถูกรถชนตายไปเมื่อคืน น้องงูตกใจ ก่อนหัวเราะออกเงียบๆว่า แม้แต่คุณไคกิก็ยังหลอก"ฉัน" นะคะ ไคกิรู้ว่าตัวเองพลาดแล้ว น้องงูเห็นเขาเป็นสาวกหมายเลขหนึ่งอย่างที่เธอพูดเสมอก็จริง แต่เธอไม่เคยเชื่อใจเขาเลย ไม่เคยเชื่อใครเลย อย่างที่น้องแมวบอกไว้น้องงูพูดต่อว่าทุกคนมีแต่โกหกกันทั้งนั้นและเรียกงูออกมาจำนวนมหาศาล จนพื้นที่ของศาลเจ้าเต็มไปด้วยงูขาว เหมือนกับบ่อที่สร้างขึ้นด้วยงู ไคกิพยายามทำใจดีสู้เสือทั้งที่ในใจยอมรับแล้วว่าคงไม่รอดแน่ บอกว่าถึงเขาจะโกหก แต่ก็เหมือนกับน้องงู ที่โกหกคนรอบข้างมาตลอด เพราะรักถึงต้องฆ่าหงอน เปล่าหรอก เพราะรักตัวเองโกรธหงอนถึงจะฆ่าหงอนต่างหาก ถึงจะเป็นเทพแต่ก็ทำให้ใครสมหวังไม่ได้หรอก ถ้าไม่เชื่อใจใครเลย ปากพยายามกัดน้องงูแต่ในใจกลับคิดว่า ทำไมตูถึง ไม่ขอโทษหรือร้องขอชีวิต และรู้ตัวว่ารอบตัวตนเองตอนนี้ถูกถมไปด้วยงู จนไม่ต้องให้งูกัด ติดพิษตายหรอก เอาน้ำหนักงูกดทับก็ตายแล้ว แต่ปากก็ยังกัดน้องงูหาว่า พอกลายเป็นเทพแล้วนึกว่าตัวเองวิเศษ เหมือนจะได้ผล น้องงูร้องไห้ว่าทุกคนเอาแต่หลอกเธอ และเล่าเรื่องที่ถูกน้องปูบอกว่า เกลียดเด็กที่ทำตัวน่ารัก อย่าง"ฉัน"ที่สุด(ท้ายบท Nadeko Medusa) ไคกิเริ่มสะกิดใจที่น้องงูพูดว่า คุณไคกิ"ก็"หลอกฉัน และได้ยินชื่อ โอกิ จากปากน้องงู แต่เขาไม่รู้จักโอกิ น้องงูบอกจะเพิ่มโทษให้หงอนถึงไคกิจะบอกว่า ที่เขามาไม่เกี่ยวกับหงอนก็เหมือนจะไม่ฟังแล้ว เธอจะฆ่าคนเพิ่มอีก 5 คน ซึ่งไคกิคิดว่ายังเบากว่าที่อิซึโกะกลัวว่า ถ้าเขาพลาดน้องงูอาจจะทำลายเมืองทิ้งทั้งเมือง แต่ชื่อ 5คนที่น้องงูเอ่ยเพิ่มมา คือ น้องผึ้ง น้องนก น้องแมว น้องหอย และน้องลิง ไคกิเข้าใจเพิ่มว่าน้องงูเหมือนจะรู้จักหงอนดีแต่ที่จริงแทบไม่รู้จักหงอนเลย คนที่เกี่ยวข้องกับหงอนที่เธอพูดได้ก็คงมีแค่นี้ และชื่อน้องลิงทำให้เขายอมไม่ได้ และบอกน้องงูว่า ที่จริงแล้วเธอไม่ได้อยากเป็นพระเจ้าหรอก แต่อยากเป็นนักวาดการ์ตูน ทำเอาน้องงูตกใจจนตาเบิกโพลงรวมถึงตาของงูทุกตัวที่เป็นเส้นผมของเธอ ร้องตะโกนอย่างเสียสติ วิ่งเข้ามต่อยไคกิที่ขยับตัวไม่ได้เพราะถูกงูขาวจำนวนมหาศาลกดทับ ด้วยมือเปล่า หาว่าไคกิไปเปิดตู้ของเธอดูแล้วอย่างนั้นสินะ ไคกิยอมรับ และบอกว่าไม่นึกเลยว่าของในตู้จะเป็นสมุดโนตที่ใช้หัดวาดการ์ตูนวางกองเป็นตั้ง แถมวาดได้สวยดีซะด้วย เนื้อเรื่องก็เป็นเลิฟคอมเมดี้ยุค80 ออกแนวทะลึ่ง แต่ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นก็เลิกเป็นเทพแล้วกลับไปเผาหนังสือในตู้ทิ้งซะก็ได้ ไม่มีใครรู้สึกตัวหรอก เขายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครและไมมีใครคิดหรอกว่าน้องงูจะมีงานอดิเรกแบบนี้ น้องงูตวาดว่า ใครจะยอมเลิกเป้นเทพเพราะเรื่องพรรค์นั้น ไคกิตะล่อมต่อว่า เธอไม่ได้มาเป็นเทพเพราะอยากเป็นไม่ใช่เหรอไง น้องงูยังคงปฎิเสธว่าที่เธอเก็บไว้เป็นเพราะ อายที่จะให้คนอื่นเห็น และไม่ได้อยากเป็นนักวาดการ์ตูน ไคกิพยายามย้ำว่าถึงจะมีความสุขแต่ก็ทำได้แค่คอยดูแลความสงบสุขของเมืองไปตลอดกาล ความฝันอันแรกยังทำไม่สำเร็จ ก็ถูกยัดเยียดหน้าที่ที่ไม่มีใคร อยากทำมาให้ ตอนนี้ถึงจะเป็นเทพแต่ก็เป็นนักเขียนการ์ตูนไม่ได้แล้วเพราะไม่ใช่มนุษย์ ไคกิรู้ตัวว่าตรรกะชักจะเบี้ยวๆไปแล้ว แต่ก็ยังต้องลุยต่อบอกว่าตัวเขานั้นชอบเงิน เพราะเงินใช้แทนอะไรก็ได้เกือบทุกอย่าง ซื้ออะไรก็ได้ และเขาเกลียดของที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้ อย่างพวกความฝันความสัมพันธ์ และถามน้องงูว่าแค่ถูกหงอนทิ้ง ชีวิตของเธอก็ไม่มีค่าอะไรแล้วหรือไง ผู้คนรอบตัวเธอไม่มีความสำคัญอะไรเลยหรือไง น้องงูเปลี่ยนจากต่อยรัวๆ มาเป็นเตะใส่หน้าไคกิ เพราะเขาถูกงูกดทับจนนอนคว่ำหน้าลงไปแล้ว และตอบว่า "ไม่ใช่!!!แต่คนอย่างไคกิจะเข้าใจตัวเธอได้ยังไง" ไคกิตอบว่าใช่สิขนาดตรวจสอบมาทั้งเดือนยังไม่เข้าใจเลย เรื่องของตัวเอง ตัวเองก็ต้องรู้ดีที่สุด ความฝันของตัวเองก็มีแต่ตัวเองที่ทำให้เป็นจริงได้ บอกให้เอาเงินที่เขาบริจาคจนถึงตอนนี้ไปซื้อเครื่องเขียน รับรองว่าได้ครบชุดแน่ๆ แล้วถ้าเสียดายที่จะไม่ได้เป็นเทพ ก็เป็นนักวาดการ์ตูนที่ถูคนเรียกคนเรียกว่าเทพเจ้าให้ได้สิ(หมายถึงฟุจิโกะFฟุจิโอะ) ถ้าอยากลองทำตามความฝันก็คิดซะว่า ยอมให้ฉันหลอกแล้วกลับเป็นมนุษย์ซะ น้องงูตอบว่า "ก็ได้ หนูยอมให้คุณหลอก" จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:00:18

ความคิดเห็นที่ 13 ไคกิเอานิ้วจิ้มที่หน้าผาก น้องงู และบอกว่า "ยัยเด็กดื้อเอ้ย" งูทั้งหมดหายไปและน้องงูหมดสติ จากนั้นหงอนก็โผล่มาพอดี ไคกิคิดว่ามาได้จังหวะพอดีมากๆสมเป็นพระเอก เพราะถ้ามาเร็วกว่านี้หงอนก็คงถูกงูจำนวนมหาศาลฆ่าไปพร้อมกับเขา แต่ถ้ามาช้ากว่านี้ก็จะไม่มีคนพาน้องงูที่สลบอยู่กลางหิมะกลับลงเขาไปเพราะเขาเองก็แทบจะหมดสติและสะบักสะบอมเพราะน้องงูไปทั้งตัวแล้ว และอย่างน้อยให้น้องงูตื่นขึ้นมาเจอหงอนก็คงจะดีกว่าเจอเขา หงอนถามไคกิว่าเขาทำอะไรกับน้องงูแล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไคกิโกหกว่าอิซึโกะจ้างเขามาไล่ผีให้น้องงู คราวนี้เขามาในฐานะนักไล่ผี ไม่ใช่นักต้มตุ๋น เพราะงั้นถือว่าไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้(ว่าจะไม่มาเหยียบเมืองนี้อีก)และที่เขาทำกับ น้องงูก็เหมือนที่ทำกับน้องผึ้ง แต่เป็นคำสาปทากเต้าหู้ซึ่งที่จริงไม่มีพลังพอจะผนึกเทพงูขาวนาเดโกะหรอก ถ้าเธอไม่มีความคิดที่จะยอมรับมันเข้าไปเอง หงอนถามว่าแล้วไคกิพูดอะไรกับเธอถึงยอมเชื่อ ไคกิตอบว่าเรื่องทั่วๆไปอย่างชีวิตยังมีอะไรให้ค้นหาอย่ายอมทิ้งความฝันชีวิตวัยรุ่นสุดท้ายก็จะเป็นแค่ความทรงจำที่ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง จากนั้นไคกิล้วงคอน้องงูจนดึงเอายันต์กลับออกมาทำให้เส้นผมที่เป็นงูผมกลับเป็นผมมนุษย์เสื้อผ้ากลายเป็นชุดนักเรียนเหมือนกับก่อนที่จะกลืนยันต์ลงไป ไคกิคิดจะเก็บยันต์เอาไว้หากำไร แต่คิดได้ว่ามันอันตรายเกินไปเลยโยนกลับให้หงอนรับผิดชอบบอกว่า คราวนี้ใช้ให้ถูกคนก็แล้วกัน หงอนตอบว่าเขาจะไม่ยอมใช้ของแบบนี้ ไคกิไม่ว่าอะไรและเดินลงไปเขาไป หงอนถามว่าจะไปไหน ไคกิตอบว่าไปจากเมืองนี้เสร็จงานแล้วได้เงินแล้วขืนอยู่จนเจอน้องปูมีหวังถูกเชือดและย้ำให้หงอนพาน้องงูไปส่งให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่อย่าให้น้องงูรู้ว่าหงอนเป็นคนช่วยเอาไว้ไม่งั้นอาจจะพิษรักกำเริบอีก ส่วนคำสาปทากเต้าหู้ อีกสามวันมันจะหายไปเองถ้าไม่หายไปให้ลองเอาเกลือราดดู และให้ดูแลน้องปูให้ดีๆอย่าปล่อยให้เกิดเรื่องแบบที่เขาเคยทำอีก หงอนถามอย่างสุดท้ายว่าถ้าเขาตายไปน้องงูจะมีความสุขมากกว่าหรือเปล่า ไคกิตอบว่าความสุขไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตมีชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากเป็นสำคัญกว่าและถึงยังไงถ้ายังมีชีวิตอยู่ ต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมาบ้างล่ะ เอาไว้เจอกันใหม่ ไคกิไม่บอกว่าจะไม่มาอีกเป็นครั้งที่สองเพราะรู้ตัวแล้วว่ายังไงก็ต้องถูกเมืองนี้ดึงให้เข้ามาพัวพันอีกและก็เป็นการประชดหงอนไปในตัว หลังจากลงจากศาลเจ้าไคกิโทรไปรายงานผลกับน้องปูเป็นครั้งสุดท้ายว่าช่วยกลบเกลื่อนให้ระดับนึงแล้วที่เหลือไปแถต่อเอาเองน้องปูกล่าวขอบคุณไคกิอีกครั้งและบอกว่าคงต้องจากกันเท่านี้ แต่แถมซึนเดเระเซอร์วิสอีกครั้งว่า นึกว่าสองปีก่อนฉันหลงรักคุณจริงๆเหรอไง โดนหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ระวังเวลาจะคบผู้หญิงไว้บ้างล่ะ ไคกิกัดกลับไปว่า ส่วนเธอคราวหลังเวลาส่งจดหมายอย่าลืมจ่าหน้าซองล่ะ ก่อนวางสาย เขารู้มาซักพักแล้วว่าจดหมายที่บอกให้ถอนตัวที่อยู่บนพื้นในห้องพักเป็นของน้องปูส่งมาแต่ไม่อยากพูดถึงมัน น้องปูส่งจดหมายนั่นมาเพื่อให้เขาทำงานต่อเพราะรู้ว่าถ้าบอกให้ยอมแพ้ เขาจะยิ่งฝืนตัวเองสู้เหมือนกับที่โยสึกิฝากข้อความาจากอิซึโกะก็คงจะมาในความหมายเดียวกันและนึกถึงคำพูดที่ว่าตัดความสัมพันธ์ของอิซึโกะเขาคิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงโผล่หน้ามาสั่งเขาทำงานอื่นเองแหละจนอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองถูกหลอกใช้งานได้ง่ายกว่าที่คิด แต่ก็เป็นนิสัยที่แก้ไม่หายไปซะแล้วและอย่างสุดท้ายที่สงสัยคือ โอชิโนะหายตัวไปไหนเพราะอย่างน้อยหลังจากไปพบหน้าน้องลิงแล้วก่อนออกจากเมืองอยากจะไปก๊งเหล้ากับโอชิโนะซักหน่อย ตอนนั้นเขารู้สึกว่าถูกเจ็บที่หัว ท่ามกลางสติที่ลางเลือนไคกิคิดว่าอาการบาดเจ็บที่ถูกน้องงูทำร้ายพึ่งจะกำเริบเหรอไง แต่เมื่อเห็นเลือดตัวเองที่เปื้อนหิมะใต้เท้าก็รู้ว่าไม่ใช่ เขาหันไปพบเด็กชายอายุราว ม.ต้น ถือท่อเหล็กเปื้อนเลือดเอาไว้ ถึงรู้ว่าตัวเองถูกทำร้าย เด็กคนนั้นพูดว่า "แกกลับมาที่เมืองนี้อย่างคุณโอกิบอกจริงๆด้วย เจ้านักต้มตุ๋น เพราะแก เพราะแกคนเดียว" ไคกิพยายามนึกถึงจะจำได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในจำนวนนักเรียนม.ต้น ที่เขาเคยหลอกเอาไว้เมื่อตอนหน้าร้อนและมองเห็นงูพันอยู่รอบตัวเขาอย่างชัดเจน ว่าเป็นคำสาปที่ถูกส่งกลับเจ้าของ แปลว่าเด็กคนนี้คือคนที่ทำเสน่ห์กับน้องงู งั้นเด็กคนนี้คือคนที่แอบลอบตามเขา ไม่น่าจะใช่เด็กบ้าเลือดแบบนี้คงไม่รอจนถึงตอนนี้ แล้วเมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ "โอกิ"? เหมือนเคยได้ยินที่ไหนอีกแล้ว สุดท้ายระหว่างที่สติสัมปชัญญะกำลังจะดับไป เขาได้ยินเสียงร้อง อย่างบ้าคลั่งของเด็กชายคนนั้น ที่ฟาดท่อเหล็กลงมาด้วยความแค้นและแรงคำสาปแบบไม่ยั้งมือ และคิดว่าจะข้ามแม่น้ำนรกก็ยังต้องใช้เงินนีนา ดีที่เขาไม่ชอบฝากเงิน เลยพอมีเงินติดตัวอยู่บ้าง ไคกิ เดชู RIP Koimonogatari Hitagi End จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:10:38

ความคิดเห็นที่ 14 ประกาศนิยายเพิ่ม 3 เล่ม มีประกาศออกมาว่าจะเขียนอีก 3 เล่ม เเต่ยังไม่ออก Tsukimonogatari - Yotsugi Doll Owarimonogatari - Ougi Dark เเละสุดท้าย บทอวสาน(ถ้าไม่ขอออกเพิ่มนะ) Zokuowarimonogatari - Koyomi Book   เรื่องราวหลังจากเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ร้อยเรียงสู่หนังสือไดอารี่ของอารารากิ โคโยมิ จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:16:15

ความคิดเห็นที่ 15 rip ไคกิ อย่างน้อยก็ทำเรื่องดี เอ้ย สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกว่าทำประโยชน์ให้กลุ่มพระเอกก่อนตาย จากคุณ : YTali เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:17:51

ความคิดเห็นที่ 16 สุดท้ายใช้วิธีแบบนี้แฮะ ท้าทายตรงๆเลย  อะไรจะขนาดนั้น จากคุณ : SLA@kit เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:21:58

ความคิดเห็นที่ 17 งูขาวนั่นอุโรโบรอสหรอกรึ นึกว่าเป็น มิชางุจิ ซะอีก จากคุณ : Autumn2reason เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:40:32

ความคิดเห็นที่ 18 #9 ก็ปางตายกลับมาเหมือนกันเเหละครับ  เเต่หงอนไม่ให้ออกด้วย ถ้าบุออกมาน้องงูฆ่าบุ ก็จะกลายเป้นสำเร็จ  เหลือหงอนคนเดียวทีนี้ตายเเหงๆ   เเต่ถ้าไอ้หงอนมันไปลุยหงอนจะไม่ตาย  เพราะงูรู้เเล้วว่าถ้าหงอนตายก่อนบุจะคืนพลังเเละงูจะโดนบุฆ่าตาย แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 13:46:17 จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:43:36

ความคิดเห็นที่ 19 ศาลเจ้านี้อยู่ไหนเนี่ย  จะไปหยอดร้อยเย็นให้งูกระเด้งออกมามั่ง  ฮา น้องแมวก็ยังคงเป็นนางฟ้าเหมือนเคย นิยายที่วางไว้ มีทั้งEnd  และ After end   ออกFan diskด้วยเลยไม๊ล่ะ??  WWWW จากคุณ : แมวเหมียวร่าเริง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:59:05

ความคิดเห็นที่ 20 Rip ไคกิ ขอให้ไปสบายมีตังไปใช้ข้ามเเม่น้ำยมโลก ไว้จะเผากงเต็กไปให้นะ อิอิ จากคุณ : Maxwill เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 13:59:36

ความคิดเห็นที่ 21 R.I.P. ไคกิ อย่างน้อยก็ได้เท่ก่อนตายละนะ ปล. สรุปน้องปูโดนข่มขืนหรือครับผมนึกว่าแค่เกือบๆซะอีก จากคุณ : Heretic เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:35:18

ความคิดเห็นที่ 22 บทนี้ ไคกิ มันเท่เว้ยเฮ้ย บทนิเสะตอนนี้ เกลียดมาก จากคุณ : นายละมุน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:35:50

ความคิดเห็นที่ 23 กลายเป็นว่าไอ้ไคกิทั้งๆที่มันเป็นนักต้มตุ๋นแต่ก็ถูกดันหลอกใช้ซะเอง     แต่คาดไม่ถึงเหมือนที่มันเคยช่วยน้องปูไว้ขนาดไหน   ถึงจะหลอกเอาเงินแต่ไม่แก้คำสาป  ก็ดันอุตสาห์ช่วยทางอ้อมเรื่องครอบครัวไว้ขนาดนั้น สุดท้ายก็ยังลึกลับอยู่ดีว่าโอกินี่มันเป็นใคร  คอยบงการปัญหามาอยู่เนืองๆแล้ว บอสใหญ่ของเรื่องเรอะ  ถึงกับอยู่เล่มเกือบท้ายเลย   แถมใช้คำต่อท้ายชื่อว่า "ดาร์ค" อีก รอฮานะโมโนฯอยู่นะครับ ปล.คิดตามเลย "นาเดโกะ เดสสส"  ด้วยเสียงคะน้า จากคุณ : mad_savior เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:39:08

ความคิดเห็นที่ 24 #21 ไม่รู้ว่าคุณมะนาวเเกเขียนผิดหรือเขียนจริงๆ  เพราะผมก็ไม่เคยอ่าน Bakeฯ เเบบนิยายเหมือนกัน ดูเเต่เเบบเมะเลยไม่รู้ว่าเมะมันเปลี่ยนบทให้เป้นเเค่ "เ้กือบ" รึเปล่า แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 14:58:29 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 14:57:46 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 14:47:34 จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:47:23

ความคิดเห็นที่ 25 น้องแมว เทพ ตลอดศก จากคุณ : sakza เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:52:51

ความคิดเห็นที่ 26 #23 รอเเต่ฮานะฯ ไม่รอ เนโกะฯ เหรอ คุณ sby เค้าเเปลมายั่วเรียกน้ำย่อยนิดหน่อย NEKOMONOGATARI   เรื่องเล่าเเมวเหมียว  Tsubasa Tiger เรื่องราวของฉัน ฮาเนะคาวะ ซึบาสะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องของฉันนัก นี่ก็เป็นเพราะฉันไม่สามารถบอกจำเพาะเจาะจงว่าเป็นฉันจริงหรือเป็นตัวฉันเองได้หรือไม่ ฉันเองแน่ใจว่าได้มีต้นแบบวรรณกรรมมากมายที่เคยเขียนเรื่องราวของคนหลายบุคลิก ซึ่งไม่จำเป็นว่าในรอยเท้าเดียวนั้นจะมาจากเพียงหนึ่งเจ้าของ แต่ในกรณีของฉันไม่จำเป็นต้องสืบหาจากเท้าของฉันหรอก มันช่างน่าสงสัยเหลือเกินว่าหัวใจดวงนี้ยังเป็นของเป็นของฉันเองหรือเปล่า ฉัน, ใคร, ฉันคือใคร..., ฉันคืออะไร.. อย่างชื่อ "ฮาเนคาวะ ซึบาสะ" เองนั้นก็ไม่ใช่ชื่อแต่ดั้งเดิม เพราะฉันได้เปลี่ยนนามสกุลของฉันมาแล้วก็หลายครั้ง นั่นคือเหตุผลที่ความเป็นตัวตนไม่สามารถระบุได้จากชื่อของฉัน ไม่เลยแม่แต่น้อย ดังนั้นความคิดที่ว่าชื่อเป็นสัญลักษณ์แทนบุคคลหนึ่งๆ ที่สามารถแสดงอัตลักษณ์ความมีอยู่ได้อย่างลึกซึ้ง สำหรับฉันนั้น มันก็เพียงคำพูดกลวงๆ แต่... อารารากิคุง แม้หลังจากที่อารารากิคุงกลายเป็นแวมไพร์หรือกลายเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์หรือถูกลากเข้าไปในโลกอื่น ๆ โดยความผิดปกติต่างๆ นานา อารารากิ โคโยมิไม่เคยไม่เปลี่ยนไป เขาจะยังคงเป็นตัวตนคนเดิมอยู่เสมอ ตัวตนเขายังคงชัดเจนแม้จะยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟร้อนแรงที่ลุกโชนโหมกระหน่ำต่อเนื่องอยู่รายรอบ เขาจะยังคงตัวตนคนเดิมไว้ได้ไม่ว่าจะสถานที่ไหนเวลาใดได้อย่างน่าประหลาดใจ เขาเป็นเช่นนั้นได้โดยไม่จำเป็นต้องตระหนักถึงมันด้วยซ้ำ ทำให้มั่นใจได้เสมอว่าอารารากิ โคโยมิ คือ 'อารารากิ โคโยมิ' และนั่นคือเหตุผลที่เขามักจะสามารถบอกเรื่องราวของตัวเองได้อย่างเต็มปากเต็มคำ นั่นคือเหตุผล เหตุผลที่ฉันชอบเขา ฮาเนคาวะ ซึบาสะ ชอบ อารารากิ โคโยมิ ในท้ายที่สุดในการเล่าเกี่ยวกับตัวเอง ฉันคงบอกได้เพียงว่า มันมีบางส่วนของฉัน บางส่วนที่แปลกแยก ถ้าให้ยกตัวอย่างก็เช่น เมื่อได้มีเวลานั่งลงใช้เวลาอยู่กับหนังสือและผ่อนคลายกับตัวเองที่ห้องสมุด ฉันมักจะเผลอเขียนชื่อ "อารารากิ  ซึบาสะ" ที่มุมกระดาษอยุ่ประจำๆ และนั่นแหละ เรื่องราวของตัวฉัน ป.ล. เข้ น้องเเมวเพ้อถึงขั้นเขียนตัวเองนามสกุลอารารากิเลยเว้ยเฮ้ย!!!! จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 14:59:04

ความคิดเห็นที่ 27 Hitagi End Hitagi เดินแผน End คือ ไคกิ RIP นี้เอง = =" จากคุณ : JEFFS เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:06:59

ความคิดเห็นที่ 28 #8 น่าจะชื่อเล่ม 疑物語(マガイモノガタリ)Magaimonogatari เรื่องราวอันน่าสงสัย でいしゅうワーク DEISHUU WORK ไปเลย โทรลกันตั้งชื่อนิยาย #21, #24 ในนิยายไม่ได้พูดชัดๆว่าโดนไม่โดน ผมสรุปเอาเองจากคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นพูดออกมาตรงกันว่า เคยเกิดเรื่องที่แม่น้องปูเอาน้องปูไปถวายให้ลัทธิ อนึ่ง ผมไม่ได้อ่าน bake ฉบับนิยายเหมือนกัน อาจจะแค่เกือบๆจริงก็ได้ #23 ไม่ใช่ "นาเดโกะ เดสสสส" แบบ  "มายุชี่ เดสสสส" แต่เป็น 撫子だよ นาเดโกะ ดะโย๊ แล้วก็ไม่น่าจะเป็น น๊าเดโกะ ดะโย่ว แบบนี้ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 15:14:33 จากคุณ : Lemonade4-0 เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:11:17

ความคิดเห็นที่ 29 บทนี้มันเท่แฮะ ไคกิ ว่าแต่โอกินี่มันเป็นใครกันแน่นะ จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:16:01

ความคิดเห็นที่ 30 #28 ใช้ชื่อเล่มว่าเรื่องราวของความรักนี่ยังพอเข้าใจได้   เช่นปูต้องถึงกับบากหน้าไปขอให้ไคกิ คนที่ตัวเองเกลียดช่วย   ก็เพราะความรักที่มีต่อหงอน  อะไรก็ยอมทั้งนั้น แต่ฮิตากิเอนด์นี่ทะแม่มๆจริงๆอ่ะแหละ    รึที่ตั้งแบบนี้เพราะต่อไปน้องปูบทจะหมดแค่นี้(จบ)    เล่มต่อไปไม่ได้ออกอีก แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 15:29:11 จากคุณ : mad_savior เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:28:28

ความคิดเห็นที่ 31 #24 , #28 บท bake ผมเองก็ยังไม่ได้อ่านนะครับ ดูแต่อนิเม เลยมาถามเพราะสงสัยเท่านั้นเอง ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ จากคุณ : Heretic เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 15:37:53

ความคิดเห็นที่ 32 ไคกิ:-)รั่ววุ้ย ไม่คิดว่าจะรั่วขนาดนี้ จากทึ่เฉยพออ่านบทนี้ชอบตัวละครนี้เลยมีความดีที่่ซ่อนอยู่ในความเลว จากคุณ : ปราชญ์ (kirayamato) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 16:09:14

ความคิดเห็นที่ 33 อย่างน้อยๆเฮียแกก็ซื่อสัตย์กับตัวเองล่ะนะ RIP นะลุง จากคุณ : แค่ใจละเมอ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 16:54:17

ความคิดเห็นที่ 34 โดนแมวแย่งซีนไปเต็มๆ จากคุณ : แต๋วแหน่ว เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:19:34

ความคิดเห็นที่ 35 งงกับบทNEKOMONOGATARI  ตกลงมันมี2ภาคใช่ป่ะ อีกภาคคือtsubasa tigerป่ะครับ แล้วblack hanekawa กับเทพเสือขาว ไม่ใช่ตัวเดียวกันเหรอ เป็นเทพคนละตัวเหรอ จากคุณ : charmander เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:30:15

ความคิดเห็นที่ 36 #35 NEKOMONOGATARI : Tsubasa Family   อันนี้เเบล็คฮาเนคาวะ  น้องเเมวกำเนิด BAKEMONOGATARI : บทน้องเเมว   น้องเเมวอาละวาด เพราะน้องเเมวช้ำรัก NEKOMONOGATARI : Tsubasa Tiger น้องเเมวฮึดสู้ ช้ำรักซ้ำ 2 ครั้งนี้เเมวน้อยอัพเกรดไปเป็นภูตเสือขาว จนหงอนต้องมาช่วยปราบด้วยดาบตัวก็อปปี้ที่น้องบุทำให้ ทีนี้ละกำเลย น้องเเมวยิ่งรักไอ้หงอนเข้าไปใหญ่   แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 18:47:31 จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:36:03

ความคิดเห็นที่ 37 ^ เย้ย ไหนว่าทำใจ ตัดผมสั้นแล้ว ไหงมาช้ำรักรอบ2อีกล่ะ จากคุณ : charmander เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:49:46

ความคิดเห็นที่ 38 อ๊ะเดี๋ยว แก้นิด น้องปูแค่เคย"เกือบ"ถูกข่มขืนนะ จากคุณ : bloodsoap_cdaz เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:53:08

ความคิดเห็นที่ 39 #37 ทำใจมันเรื่องที่พูดให้คนอื่นสบายใจเเหละครับ   จริงๆเจ้าตัวรู้อยู่เเก่ใจว่ายังรักอยู่มิเสื่อมคลาย  เเถมยิ่งรักมากขึ้นไปอีก  น่าสงสารเหมือนกัน จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 18:59:47

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ก็ควบสองไปเลยซิ   ถ้าน้องแมวจะขอมีส่วนแบ่งด้วย  น้องปูยังไงก็หืออือไม่ได้อยู่แล้วนิ (พูดด้วยความเจ็บใจ ในฐานะแฟนอวยน้องปู) จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 19:44:50

ความคิดเห็นที่ 41 ในเมะBake เมเมะถามย้ำว่า เป็นแค่ "ความพยายาม" ที่จะข่มขืนใช่ไม๊ น้องปูบอกว่า ใช่.. เธอคว้ารองเท้าส้นแหลมที่อยู่ใกล้มือ ฟาดเจ้าลัทธิหื่นนั่น แล้วก็โชว์ภาพเจ้าลัทธิหื่นนอนจมกองเลือด ที่ไหลโจ๊กออกจากแผลที่หัว => แสดงว่าเธอปลอดภัยดี แต่จิตใจถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ที่แม่ยืนดูเฉย ไม่ยอมช่วยเธอ น่าคิดว่า น้องปูรู้จักไคกิจนถึงกึ๋น ถึงไส้ติ่งขนาดนี้ จะไม่รู้ได้ยังไงว่า ในอดีตไคกิทำไปเพราะตั้งใจจะช่วยเธอ แล้วที่ไคกิอ้างกับตัวเอง ว่าช่วยเพราะน้องลิงนี่ เชื่อได้แค่ไหนอ่ะ ก็เพ่เล่นหลอกคนอื่นเก่ง พอๆ กับที่หลอกตัวเอง ชอบคนเขียนเรื่องนี้จัง... ไม่นึกว่า จะดีไซน์นักต้มตุ๋นหลอกลวงให้ีมีคาแรคเตอร์น่าสนใจได้ขนาดนี้ ชอบตัวละครนี่เลยเนี่ย ถึงจะเสียดายที่มาเร็วเคลมเร็วไปหน่อย  แต่ก็รู้สึกดีที่จบแบบให้เห็นว่า คนที่หลอกลวงคนอื่นเค้ากิน ยากจะลงเอยด้วยดี แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 55 20:36:07 จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:08:09

ความคิดเห็นที่ 42 ชอบลุงไคกิตรงนี้แหละ น้องปูจะนัดคุยกับลุงแก แกดันโกหกน้องปูว่าอยู่โอกินาว่า เลยต้องตาลีตาเหลือกไปโอกินาว่า  ฮ่าๆๆๆๆๆ รับผลกรรมทันที............ก็ยังดีรับผิดชอบคำพูดอยู่น่ะ ตอนนี้ทำให้รู้ว่า ไคกิกับน้องปู เกี่ยวข้องอะไรกัน ดูเหมือนลุงแกพยามช่วยน้องปูแต่แนวมากไปหน่อย " สองปีก่อนหลอกเอาเงินจากลัทธิใหม่ที่แม่น้องปูหลงเชื่ออยู่จนลัทธิล่มสลายไป แต่แม่น้องปูก็ย้ายไปเข้าลัทธิอื่นจนไคกิไม่มีทางเลือกต้องทำให้พ่อแม่ของน้องปูหย่ากันเพื่อไม่ให้แม่น้องปูก่อความเดือดร้อนให้ชีวิตน้องปูมากไปกว่านี้  แต่น้องปูเชื่อแม่มากกว่าตัวเอง " เหตุการณ์ก็เลยเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้นี่เอง ลุงไคกิ แกเป็นดูเหมือนคนเลวแต่เป็นคนดีส่วนหนึ่งบ้างสิน่ะ เป็นตัวละครที่แปลกประหลาดดี จากคุณ : PromZero เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:23:18

ความคิดเห็นที่ 43 ตกลงไคคิตายเหรอครับ ไม่ใช่แค่สลบไปหรอกเรอะ??? จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:28:01

ความคิดเห็นที่ 44 คารวะท่านเทพน้ำมะนาวที่กรุณมาแปลมาให้อ่านกัน m(_ _)m เรียบเรียงได้สนุกและเข้าใจง่ายมากๆ เลยค่ะ นับถือๆ จากคุณ : Draconia เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 22:40:25

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณมากเลยครับ อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าไคกินี่ฮาดีแหะ แต่ตอนย่อยของน้องแมวนี่สุดยอดไปเลย จากคุณ : peTOUCHso เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 23:19:02

ความคิดเห็นที่ 46 ไคกิไม่น่ารอดอ่ะ ถูกฟาดด้วย "ท่อนเหล็ก" ไม่ยั้ง อย่างคลั่ง+แค้นขนาดนั้น แต่ถ้าเฮียจะกลับมาเป็นวิญญานอย่างน้องหอย ในบทถัดๆ ไป เราก็เวลคัมนะ  ชอบบบ.. คนอาไร้  จะตายยังอุตส่าห์คิดถึงเรื่องว่า มีเงินติดตัวไว้ใช้ข้ามแม่น้ำนรกรึเปล่า!!! จะเตรียมพร้อมไปไม๊??!! อ่านจบบทจอมหลอกลวงเป็นตัวเอกแล้ว ต้องมานั่งคิดว่า อันไหนจริงอันไหนหลอก งงได้อีก อย่างตอนอิซึโกะ สั่งให้ "ถอนตัวซะ" ที่จริงต้องการให้ "ลุยโลด" แถมให้เงินทุนอีก 3 ล้าน  น้าน ส่วนน้องปูที่ทำว่าจะมาจ้าง แต่ที่จริงอาจกะจะไม่ยอมจ่ายสักกะเยน แต่จะใช้วิธีหลอกไคกิให้ทำให้ได้ ทำจนเสร็จงานด้วย เอาคืน???!!! ทำมาทำไป กลายเป็นบทที่โชว์ว่า เซียนต้มตุ๋นถูกคนนั้นคนนี้หลอกยังไงมั่ง ส่วนที่ทำพริ้วหลอกเค้า ก็ทำตัวเองเดือดร้อน ขนาดมั่นใจว่ามองน้องงูทะลุ คิดว่าน้องหลอกง่าย กลับหงายเงิบ ทำเอาเกือบตาย ที่งานสำเร็จลงได้ก็เพราะเอาความจริงมาคุยกัน ปล. โอโนโนกิ โยสึกิ ไม่ใช่คนใ่ช่ป่ะ? ในบท Oni ถึงได้อยากกินเนื้อเจ้าหงอน แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 55 07:43:37 จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 00:56:55

ความคิดเห็นที่ 47 #46 โยสึกิไม่ใช่คนถูกต้องเเล้วครับ จากคุณ : Fate Linegod เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 08:02:25

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่งเห็น เหมือนชื่อผิดไปนะครับ คห.1 เจ้านาย เจ๊หมัดเหล็ก คือ คาเงนุอิ โยสึรุ ลูกน้อง ผีคืนชีพ คือ โอโนโนกิ โยทสึกิ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 55 12:18:26 จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 20:25:21