Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วิจารณ์ A Dangerous Method (2011) ติดต่อทีมงาน

สิ่งพิเศษสำหรับภาพยนตร์ประการหนึ่งคือการนำเอาประวัติศาสตร์ในหนังสือถ่ายทอดออกมาให้เห็นเป็นภาพ แม้อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงซะทั้งหมด แต่มันได้เติมเต็มจินตนาการของผู้ชม ให้ความฝัน ความคิด ได้เขยิบเข้าใกล้กับความจริงขึ้นเข้ามาทุกทีๆ เหมือนที่ David Cronenberg กำลังบรรจงสร้างสองบุคคลสำคัญในแวดวงจิตวิเคราะห์ นั่นคือ ซิกมันด์ ฟรอยด์ และ คาร์ล จุง ให้มีตัวตนและเลือดเนื้อเชื้อไข ไม่ต่างจากคนสามัญชนธรรมดา พาผู้ชมไปพบวิธีการคิด วิธีการทดสอบรักษา และบุคคลิกลักษณะท่าทาง ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นในความเป็นจริง แต่สำหรับภาพยนตร์แล้วมันสามารถทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องราวของ A Dangerous Method เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่20 ซึ่งเป็นช่วงที่วงการจิตวิทยากำลังรุ่งเรืองจากทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Viggo Mortensen) แม้อาจจะไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างก็ตาม แต่มันก็เป็นพื้นฐานที่ปลุกกระตุ้นให้นักจิตวิทยาต้องหันมาสนใจกับเรื่องสัญชาตญาณทางเพศของมนุษย์

คาร์ล จุง (Michael Fassbender) นักจิตวิทยาคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่แม้นจะไม่ได้รู้จัก ซิกมันด์ ฟรอยด์ เป็นการส่วนตัว แต่เขาก็ได้นำเอาทฤษฎีของฟรอยด์มาทดสอบใช้กับคนไข้ล่าสุดของเขาที่ชื่อ ซาบีน่า (Keira Knightley) สาวรัสเซีย-ยิวชนชั้นสูงที่มีอาการปกติ ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ มีอาการปากเบี้ยวปากบูด โดยเธอมักแสดงอาการเช่นนี้เมื่อเธอต้องเอ่ยเอื้อนถึงการถูกทำโทษของพ่อที่ตีเธอด้วยไม้

นั่นเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้ จุง เข้าใจถึงภาวะเก็บกดซ่อนเร้นถึงอารมณ์ทางเพศที่เธอเก็บกดไว้ตลอดมา และ จุง ได้รู้ถึงความสามารถของซาบีน่า ว่าเธอเองก็เป็นมีความสามารถทางด้านจิตวิเคราะห์เหมือนกัน ทำให้เขาให้เธอเป็นผู้ช่วยวิจัยและนั่นทำให้เธอมีความสุขและเป็นผลให้อาการเธอทุเลาลง

ด้วยการรักษา ซาบีน่า ทำให้เขาได้เดินทางไปหา ฟรอยด์ เพื่อติดต่อพูดคุย สิ่งหนึ่งที่ฟรอยด์ดูห่างชั้นและเย่อหยิ่งก็คือเขาทำตัวเหมือนนักจิตวิเคราะห์ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ จุง เองก็ตาม โดยจุงเองเห็น ฟรอยด์เป็นเพื่อนจึงได้บอกเล่าความฝันของตัวเองทุกอย่าง และทันใดที่ฟรอยด์ตีความความฝันของ จุง นั้นก็เท่ากับว่า จุงเป็นเพียงไม่ต่างจากคนไข้ของฟรอยด์เพียงเท่านั้นเอง ฟรอยด์เฝ้าย้ำว่า สิ่งสำคัญของการเป็นนักจิตวิเคราะห์คือการ ต้องห้ามมีอะไรกับคนไข้

--ต่อ--

แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 55 11:36:58

แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 55 10:24:30

 
 

จากคุณ : A-Bellamy
เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 10:16:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com