เข้ามาเป็นกำลังใจให้น้องบอสและเพื่อนๆนะคะ ขอให้ได้คะแนนเยอะๆกันทุกคน
ความจริงไม่อยากพาดพิงถึงสมาชิกอีกสองคนเท่าไหร่ เดี๋ยวก่อดราม่า (พิมพ์เสร็จเมื่อวานนี้แต่ไม่กล้าลง)
แต่เห็นที่คุณ sweetest โพสเลยกล้าละ (ของเราเบากว่าเยอะ 55+)
แค่อยากสนับสนุน ตัวอย่างที่อาจารย์ของน้องเล่าให้ฟังนะคะ
เกี่ยวกับการตัดสินใจของทั้ง 5 คน การตัดสินใจที่มีคำว่าครอบครัวเข้ามาเกี่ยว
เรื่องนี้เคยคุย(ถก)กับพี่สาวที่รักชอบแจคนนึงเมื่อนานมาแล้วค่ะ
ว่าด้วย ครอบครัว การงาน กับหนุ่มๆทั้ง 5 (ประเด็นสรุปคือบรรทัดสุดท้ายของแต่ละบ้านนะคะ ข้างบนนั้นเวิ่นเว้อล้วนๆ)
บ้านคิม (ของคิมแจจุง)
บ้านนี้เหมือนครอบครัวชาวบ้านธรรมดา จะพิเศษนิดนึงคือลูกเยอะ แต่การที่ลูกเยอะแล้วสามารถเลี้ยงลูกให้รักใคร่กันดี
แสดงว่าผู้นำครอบครัว ทั้งพ่อและแม่ต้องเป็นคนที่ยุติธรรมกับลูกๆ ให้ความรักและความอบอุ่นกับลูกอย่างเต็มที่
และที่สำคัญคือมีคนที่มีอำนาจตัดสินเด็ดขาดภายในบ้าน (คิดว่าคือคุณพ่อนะ)
บ้านนี้แม้จะรักลูกชายปานใดแต่ว่าแจจุงก็ไม่ได้อภิสิทธิ์ที่จะได้รับการเอาใจแบบอะไรๆก็ต้องได้
ของบางอย่างอยากได้ต้องเก็บต้องทำงานหาเอง (อันนี้มีอ้างอิงจากรายการญี่ปุ่นรายการนึงพิธีกรพูดไว้)
การที่แจจุงที่เป็นลูกชายคนเดียวที่ครอบครัวรักกันปานดวงใจ ริอาจออกจากบ้านไปอยู่คนเดียว
ทั้งๆที่ยังเป็นเด็ก จุดนี้พ่อของเค้าเด็ดขาดใส่เค้าแล้วนะคะ ห้ามไปเด็ดขาด
แต่แจจุงมีกองหนุนดีนั่นคือพี่สาว ที่สนับสนุนความฝันน้องชาย
พาแจจุงหนีขึ้นรถไฟส่งมาออดิชั่นที่โซล จากนั้นพี่ๆก็ค่อยไปอธิบายให้พ่อแม่ฟังว่าน้องชอบจริงๆ บลาๆ
ต่อมาก็อย่างที่รู้ๆกันคือมรสุมชีวิตช่วงวัยรุ่น การหาอยู่หากินตามลำพังในเมืองกรุง
ซึ่งจุดที่ว่าเค้าได้ช่วยตัวเอง เดินมาด้วยตัวเอง ทำให้พ่อแม่ยอมรับเค้ามากนะคะ
เหมือนว่าลูกชายตัวน้อยมันเป็นหนุ่มที่กล้าแกร่ง เป็นนักร้องได้จริงทำได้จริงอย่างที่พูด
ส่วนตัวคิดว่าจุดนี้พ่อแม่แจไม่อะไรกับแจแล้วค่ะ เค้าเชื่อมั่นในตัวลูกชายเค้ามาก
ทางบ้านไม่ยุ่งกับงานที่แจทำ ทุกสิ่งที่แจเห็นว่าดี ที่แจตัดสินใจจะทำ พวกเค้าก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่
บ้านคิม (ของคิมจุนซู)
สำหรับบ้านนี้ลูกๆคือทุกสิ่ง พ่อและแม่ของจุนซูสนับสนุนลูกๆมาก (มากๆ)
ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่ ในแง่ของความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ของคนในบ้านดีมากๆ
เพราะพี่ชายน้องชายรักใคร่กันดี จุนไม่เคยทะเลาะกับพี่ชายเลย
ทั้งๆที่เป็นฝาแฝดแต่จุนโฮ(พี่ชายจุนซู) ถูกปลุกฝั่งว่าตัวเองเป็นพี่ และเป็นพี่ที่รักน้องมาก
ไม่แกล้งน้อง ปกป้อง และสนับสนุนน้องเต็มที่
สรุปพ่อ แม่ พี่ชาย รักและพร้อมสนับสนุนทุกสิ่งที่คิมจุนซูอยากทำ
และสิ่งนั้นต้องทำให้ลูกของเค้ามีความสุข ทั้งนี้ก็รวมถึงเรื่องงานด้วย
บ้านปาร์ค (ของปาร์คยูชอน)
สำหรับบ้านปาร์คจริงๆแล้วเป็นผู้มีอันจะกินเหมือนกันนะคะ
ก่อนที่ครอบครัวเค้าจะเริ่มมีวิกฤต พวกเค้าได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา
ด้วยความที่เป็นเด็กเอชีย ปาร์คยูชอนไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากเพื่อนฝรั่งมากนัก
แต่ถึงไม่มีเพื่อน เค้าก็มีแฟนน่ารักๆคนนึง และต่อมาครอบครัวเริ่มมีปัญหา
ถึงขั้นที่ว่าพ่อแม่โต้เถียงกันรุนแรง ยูชอนจึงต้องเป็นหลักให้น้องชายพึ่งพิง
ทั้งๆที่ช่วงนั้นเค้าเองก็โดนแฟนทิ้ง จะหันหน้าไปหาแม่ แม่ก็ทุกข์มากพอแล้ว
ยูชอนจึงเริ่มหาทางออกด้วยการเล่นดนตรี และเค้าก็ค้นพบว่าเค้าชอบดนตรี
ดนตรีชำระล้างจิตใจและทำให้เค้ามีความสุข
ต่อมา เอสเอ็มจัดออดิชั่นของ hot ที่อเมริกา ยูชอนเลยมาประกวด
แล้วเค้าก็ชนะ ได้รับการทาบทามให้ไปเป็นเด็กฝึกหัด
จุดนี้ยูชอนก็ทำงานเก็บเงิน เพื่อกลับมาเกาหลี ตัวเขามุ่งมั่นจะเป็นนักร้อง
ไม่ใช่แค่ว่าชอบ รักเสียงเพลง แต่ส่วนนึงคือเพื่อแม่กับน้อง
เค้าอยากพาแม่กลับน้องกลับมาอยู่เกาหลี เพราะชีวิตที่อเมริกามันโหดร้ายสำหรับเขา
และเมื่อเค้าทำสำเร็จ แม่กับน้องชายก็ได้กลับมาอยู่ที่เกาหลีจริงๆ
ยูชอนจึงเป็นเหมือนเสาหลัก ปาร์คยูชอนเป็นผู้นำของครอบครัวนี้
ครอบครัวชิม (ของชิมชางมิน)
ครอบครัวนี้พ่อกับแม่เป็นคุณครู น้องมินเองจริงๆแล้วเป็นเด็กเรียน
ขยันอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน และเรียนเก่งมาก เมื่อน้องเค้าอยากเป็นนักร้อง ก็ได้มาออดิชั่น
และรับรางวัลชนะเลิศไปครอง ได้เป็นเด็กฝึกที่เตรียมจะเป็นนักร้องเดี่ยวเหมือนจุนซู (มีความสามารถมาก)
ชีวิตวัยรุ่นของชางมินหมดไปกับการเรียน ฝึกซ้อม ทบทวนบทเรียน
ต่อมาโดนจับให้มาเป็นหนึ่งใน TVXQ จากลูกชายคนโตของบ้านก็กลายมาเป็นน้องเล็กของวง
ในตอนแรกๆเค้าจะเงียบเรียบร้อยเพราะตัวเองเป็นน้องเล็ก
แต่ต่อมาคิมแจจุงก็ได้ไปกระแซะน้องเล็ก จนชางมินเปิดตัว เอานิสัยจริงๆ ของตัวเองออกมาใช้เป็นตัวของตัวเอง
เปิดใจรับ และรักพี่น้องในวงเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
เพราะชางมินเป็นนักร้องตั้งแต่เด็ก ผูกพันกับเพื่อนก็ได้ไม่มาก เลยต้องมาผูกพันกับสมาชิกในวง
ดังนั้นนอกจากครอบครัวเขาแล้ว TVXQ คือครอบครัว คือส่วนหนึ่งของเค้า
หากแต่การที่ชางมินเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก(มาก)เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์ รายได้ งานที่ทำ
อันนี้ครอบครัวของชางมินมีส่วนดูแลจัดการเต็มที่
บ้านชอง(ของชองยุนโฮ)
บ้านนี้คนที่ใหญ่สุดคือคุณพ่อค่ะ ยุนโฮพูดบ่อยๆว่าเค้ารักและเคารพพ่อของเค้ามากๆ
พ่อทำงานเกี่ยวกับกฏหมาย แต่ลูกชายอยากเป็นศิลปิน ก็มีไม่เห็นด้วยอยู่ช่วงนึง
ด้วยยุนโฮเป็นลูกชายคนโตอนาคตของครอบครัว ครอบครัวจึงต้องห่วงมาก
แต่เพราะยุนโฮยืนยันและสัญญากับพ่อว่าจะทำให้ได้ จนเขาเองก็ผ่านการออดิชั่น ได้เข้าเป็นเด็กฝึก
แม้เป็นเด็กต่างจังหวัดแต่ได้บ้านจุนซูช่วยรับดูแลช่วงนึง ครอบครัวก็หายห่วงไปได้ในระดับหนึ่ง
จนเมื่อเป็น TVXQ เค้าก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จดังที่ได้รับปาก จึงได้รับการวางใจจากพ่อให้ทำงานนี้ต่อไป
หากแต่ในเรื่องของผลประโยชน์ต่างๆเกี่ยวกับการทำงาน ชองยุนโฮมีพ่อเป็นแบคกราวด์แน่นอน
เมื่อเกิดการฟ้องร้อง
การออกจากบริษัทของ JYJ ค่อนข้างรุนแรงในแง่ที่ว่าพวกเขาฟ้องร้องเพื่อขอออกมา
จุดนี้เชื่อเหลือเกินว่าทั้ง 5 คนได้คุยกันแล้ว ตรึงตรองกันแล้ว ว่าสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการออกจาการบริษัท
แต่การที่ไม่ใช่ทั้ง 5 คนที่ออกมาพร้อมกัน คิดว่าสองคนที่ยอมเดินตามทางเดิมนั้น
น่าจะมีเหตุผลที่มีน้ำหนักมากกว่าการทำตามใจของตนเอง
ซึ่งเหตุผลที่ว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการให้คำปรึกษาจากครอบครัว
ชางมิน
ชางมินค่อนข้างชัดเจนว่าตัด JYJ ออก บอกเลยว่าไปกันคนละทาง
เชื่อกันคนละอย่าง มีทางเดินที่ผิด (เพราะเค้าได้เลือกทางที่ถูกแล้ว) ซึ่งจุดยืนของเค้าพ่อกับแม่ก็สนับสนุน
และจากความจริงที่ว่าชางมินผูกพันกับพี่ๆในวงมาก ส่วนตัวคิดว่าการตัดสินใจของชิมชางมินทุกวันนี้
ไม่ใช่การตัดสินใจด้วยเหตุผลของตัวเขาเองทั้งหมด ก่อนจะยื่นฟ้อง TVXQ ไม่เคยทะเลาะกันนะคะ
ถ้าชางมินเห็นต่างสุดขั้วขนาดนี้ด้วยความที่เป็นตัวของเขาเอง มันต้องมีอาการงอนพี่ๆ ที่จะออกจากวงแน่นอน
แต่เหตุการณ์แบบนั้นไม่มี ไม่ว่าจะตามคอน อีเว้นท์ แม้แต่พวกสตอกเกอร์ก็ไม่ได้อารมณ์น้องเล็กเหวี่ยงพี่ชายออกมานะ
ดังนั้นน้ำหนักของการตัดสินใจของชางมิน ส่วนหนึ่งต้องมาจากคนที่สำคัญมากกว่าครอบครัว TVXQ
นั้นก็คือครอบครัวที่แท้จริงของเขา เพราะการจะออกมาจากบริษัทมันเหมือนการไปตายเอาดาบหน้า
ครอบครัวชางมินเป็นครอบครัวที่มั่นคงในระดับหนึ่ง การที่ลูกชายที่อายุยังน้อย
จะออกมาตรากตรำ ทิ้งอนาคต เพื่อตายเอาดาบหน้า แบบนั้นไม่คิดว่าทางพ่อแม่น้องจะเห็นด้วยนะคะ
ยุนโฮ
ที่ยุนโฮพูดว่าเค้านั้นไม่เคยรู้เรื่องว่าเพื่อนคิดจะออกจากวง (อันนี้โกหกออกสื่อ)
ยุนโฮเป็นคนหนึ่งที่พูดมาตลอดว่าวงคือครอบครัวของเขา เป็นเหมือนพี่ใหญ่ของวง
ดังนั้นคล้ายกับของชางมินคือ การที่เขาปล่อยมือจากเพื่อน และยังยืนในจุดเดิม
ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของยุนโฮ เชื่อว่าได้ปรึกษากับครอบครัวแล้วเช่นกัน
และความจริงที่ว่าครอบครัวของเค้ารู้กฏหมายดี การกระทำทุกอย่างของเค้าต้องได้รับการโพรเทคในระดับหนึ่ง
ครอบครัวเขาไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่าความไม่แน่นอน การฟ้องร้องที่เสียเปรียบแน่นอน
แจจุง จุนซู ยูชอน สามคนนี้ในครอบครัวพวกเค้า
อำนาจการตัดสินใจ เรื่องการงาน ทุกอย่างเกิดจากตัวของพวกเขาเอง
ครอบครัวเป็นเพียงผู้สนับสนุน ทุกย่างก้าวพวกเขาลิขิตเอง
ปล.ที่พิมพ์มาทั้งหมดไม่ได้ว่าพ่อแม่รึครอบครัวโฮมินครอบงำการตัดสินใจของเค้านะคะ
เพราะตอนที่ฟ้องร้องพวกเขาทุกคนไม่ใช่เด็ก พวกเขาโตกันหมดแล้ว(บรรลุนิติภาวะกันหมดแล้ว)
ดังนั้นการตัดสินใจฟ้องร้อง หรือ เลือกที่จะไม่ร่วมฟ้องร้อง
การกระทำทั้งหมดพวกเขาเป็นคนเลือกเองโดยมีปัจจัยสนับสนุนทางครอบครัวดังที่กล่าวมาในข้างต้นค่ะ