รู้สึกจะยังไม่ครบวงสนทนาแม่ยกน้องดิน ขาดคุณ เดอะ วิตรูเวียนแมน * เพิ่งจะมีเวลาว่างกลับไปอ่านบทสัมภาษณ์นี้ของไมค์ ที่คุณ เดอะ วิตรูเวียนแมน อุตสาหะ มานะ มานี ปิติ ชูใจ พิมพ์มาให้อ่าน น่ารักจริงๆๆๆ * ได้อ่านแล้วยิ่งชื่นชมเข้าไปอีกสิพับผ่า!!!  ผู้หลงรักความเปลี่ยนแปลง
ไมค์ ดิ แองเจลโล่
หลังแจ้งเกิดในฐานะทีนไอดอลที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ถึงเวลาที่ กอล์ฟ-ไมค์ จะแยกย้ายกันไปตามเส้นทางเดินของตัวเอง โดย กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล เริ่มต้นปล่อยผลงานเดี่ยวก่อนเมื่อหลังช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา และอีกไม่นานก็ถึงเวลาที่ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล จะผลิตงานดนตรีในแบบฉบับของตัวเองตามมาติดๆ โดยไมค์ ในฐานะเจ้าของความสุขประจำฉบับนี้เปิดเผยว่าปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขา ทั้งบทบาทการเป็นนักแสดงนำในละครฟอร์มยักษ์ของเอ็กแซ็กท์ เรื่อง ลิขิตฟ้า ชะตาดิน ผลงานอัลบั้มเดี่ยว และอาจมีงานภาพยนตร์ในปลายปี เขายังอยากแนะนำตัวใหม่ให้ทุกคนรู้จักเขาในชื่อ ไมค์ ดิ แองเจลโล่ อีกด้วย
เพราะหลงรักการเปลี่ยนแปลง การอยู่ไม่นิ่งจึงถือเป็นความสุขขนานแท้ของเขา
- เดินไปข้างหน้า
หนึ่งในเหตุผลหลักที่เขาตัดสินใจแจ้งเกิดในชื่อใหม่ นอกจากจะเพื่อให้เกียรติแก่คุณพ่อ ไอดอลประจำตัวที่ก่อตั้งธุรกิจส่วนตัวผลิตแบรนด์เครื่องหนังในนาม บริษัท ไมเคิล แอนเจโล่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในปีที่เขาเกิดแล้ว ไมค์ยังอยากสร้างชื่อให้เป็นที่จดจำในฐานะผู้นำดนตรีแนว T-POP (ที-ป๊อป) ของเมืองไทยอีกด้วย
ไมค์ทุ่มเทกับผลงาน พยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อพัฒนาแนวเพลง เตรียมเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ นำเพลงไทยไปสู่ระดับสากล ผมอยากให้คนรู้จักประเทศไทยว่ามีดนตรีที-ป๊อป เพราะคนไทยทำได้และคนไทยเก่ง แค่ไม่มีโอกาส เราต้องไม่ยอมแพ้ และห้ามคิดว่าไม่เป็นไรหรอก เราสู้เขาไม่ได้ เราต้องคิดอีกแบบว่า ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน จะสิบหรือยี่สิบปี อย่างน้อยเราต้องไปให้ไกลกว่าคนอื่น ประเทศเกาหลีมีเรน ประเทศจีนมีเจย์ โชว์ ประเทศไทยก็น่าจะมีใครสักคนที่ได้รับการพูดถึงเช่นนั้นบ้าง
งานแสดงถือเป็นความแปลกใหม่และท้าทายสำหรับผม ทำให้ได้พบคาแรกเตอร์ใหม่ตลอดเวลา ไมค์ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่งั้นจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นง่อยและเดินถอยหลังตลอดเวลา ซึ่งไมค์ไม่ชอบเดินถอยหลัง ไมค์ชอบเดินไปข้างหน้าและพบปะกับสิ่งใหม่ๆ ทำให้ไมค์ตั้งเป้าหมายทางการแสดงไปไกลถึงฮอลลีวูด ซึ่งเป็นแค่ความฝัน แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ได้ฝัน คนเราไม่ผิดที่จะฝัน ไมค์เชื่อว่าทุกคนต้องมีความฝัน อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่า และทำได้มากน้อยแค่ไหน ทำดีที่สุดหรือยัง ไมค์ตั้งเป้าไว้สูงเสมอ เพราะถ้าเราไปไม่ถึง อย่างน้อยเราก็ไปไกลกว่าคนอื่น ไมค์เชื่อแบบนี้ตลอดจนกลายเป็นสุภาษิตของตัวเอง ตั้งเป้าที่ดวงดาวไว้ก่อน ถ้าเราคว้าไม่ถึง อย่างน้อยเราก็ได้อยู่บนท้องฟ้าที่สูงกว่าคนอื่น
ไมค์ไม่อยากเป็นแค่นักร้องที่ร้องเพลง แต่อยากเป็นศิลปินที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ทุกวันนี้ไมค์หัดแต่งเพลงเอง แม้จะไม่ได้เพราะมาก แต่อย่างน้อยก็ได้ลอง หรือแม้จะไม่ดัง แต่ไมค์ก็ภูมิใจในจุดที่ตัวเองยืนอยู่ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ แต่มีความสุขมากครับ
- วัยรุ่นที่สูญหาย
สิ่งหนึ่งที่ไมค์ย้ำอยู่เสมอ คือ เขาเสียดายช่วงเวลาวัยรุ่นที่ทุ่มเทให้กับการทำงานจนหมด ในอัลบั้มภาพถ่ายทัศนศึกษาของเพื่อนไม่เคยมีรูปเขาอยู่ ใครอยากเจอไมค์เปิดทีวียังเห็นหน้าง่ายกว่าเจอตัว และแม้แต่จะไปเที่ยวกับครอบครัวยังหาโอกาสได้ยากเต็มที ดังนั้นครั้งหนึ่งที่เขาเคยแบกเป้ไปเที่ยวกับเพื่อนในดินแดนอาทิตย์อุทัย จึงถือเป็นความสุขไม่มีวันลืม
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไมค์มีโอกาสเที่ยวแบบแบ็กแพ็กที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นความรู้สึกดีมากที่ไม่มีคนมาคอยเฝ้าสังเกตเฝ้ามอง เหมือนไมค์ได้ติดปีกเป็นครั้งแรก ซึ่งไมค์ชอบความรู้สึกเวลาได้ติดปีกเหมือนเรากำลังโบยบิน ไม่มีใครมาฉุดขาเราไว้ แต่เวลาอยู่เมืองไทยเหมือนตัวเองปีกหัก ไม่สามารถบินได้ ตอนนั้นไปแค่อาทิตย์เดียว ชิล นั่งรถไฟไปโอซาก้า กินข้าวกับเพื่อน ถ่ายรูปเล่นสนุกสนาน ไมค์อยากจัดทริปเที่ยวปีละหนึ่งเดือน แบบทีได้หยุดจริงๆ ไม่ต้องแคร์ใคร ไม่สนใจงาน ละทิ้งทุกอย่าง ซึ่งยังทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่ถ้าทำได้ จุดหมายแรกที่จะไปคือ เที่ยวให้ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ตอนนี้แม้ตารางการเรียนและการทำงานจะรัดตัวตลอดทั้งปี แต่ไมค์ก็พอจะหาความสุขรายวันได้จากเพื่อนสนิทรอบตัว น่าสนใจที่นักร้องมาดขรึมคนนี้กลับเป็นคนสร้างเสียงหัวเราะในกลุ่มเพื่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
การหาความบันเทิงประจำวันของไมค์คือ ได้อยู่กับเพื่อนสนิท ซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน เพราะไมค์ค่อนข้างคัดคุณภาพของคนที่จะเข้ามาอยู่ในชีวิต วางหมากราวกับเป็นโต๊ะหมากรุก ว่าคนนี้ควรอยู่ในระยะห่างแค่ไหน ถ้าไม่วางแบบนี้ไมค์จะใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ใครที่รู้จักไมค์จริงๆ จะรู้ว่าไมค์จริงจังกับชีวิตมากและเป็นคนเซนซิทีฟ แต่ถ้าสนิทแล้วไมค์สามารถทำให้คุณหัวเราะได้ตลอดเวลา ไมค์ชอบเอนเตอร์เทนเพื่อน ใครอยู่กับผมรับรองขำกลิ้งครับ รู้ไหมไมค์ได้ซิกซ์แพ็คมาจากไหน เพราะไมค์ขำตัวเอง ไม่ได้ล้อเล่น เวลาอยู่กับเพื่อน พอเล่นมุกแล้วขำจนหายใจไม่ออกเป็นชั่วโมง ทุกคนลุกไม่ขึ้น นอนหัวเราะตายอยู่กับพื้นไม่หยุดเลย
- แหล่งกำเนิดสุข
ไมค์ไม่ใช่นางสาวไทย แต่คำตอบที่มาพร้อมแววตาจริงจังและจริงใจต่อคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่จะทำให้เอนเตอร์เทนเนอร์งานชุกคนนี้มีความสุขได้บ้าง ก็คือ รอยยิ้มของผู้ด้อยโอกาส
รอยยิ้มของผู้ด้อยโอกาสทำให้ผมมีความสุขที่สุดแล้ว ผมคิดว่าเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่คงมีอะไรให้คิดเยอะมากกว่าเราหลายเท่า ซึ่งเราอาจไม่รับรู้ความรู้สึกของเขาได้ แต่ถ้าเราทำให้เขายิ้มออก อย่างน้อยก็มีหนึ่งเรื่องที่ทำให้เขามีความสุข มันเป็นความรู้สึกดีที่ทำให้คนอื่นหัวเราะได้ เพราะฉะนั้นไมค์เลยกลายเป็นคนตลก เพียงแต่ว่าไม่มีใครรู้แค่นั้น ผมเคยว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เลยไปช่วยยายขายลูกอมกับทิชชู เพื่อจะนำเงินไปจ่ายค่ายา พอเห็นรอยยิ้มแล้วรู้เลยว่านี่คือความสุขที่ดีที่สุดในชีวิต เหมือนเราได้เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่เวลาที่เราทำให้ท่านภูมิใจ รอยยิ้มแบบนี้ก็คล้ายกัน
ไมค์คงช่วยเรื่องเงินแก่ผู้ด้อยโอกาสไม่ได้มาก ได้แต่จัดกิจกรรมมอบรอยยิ้มให้เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือเด็กพิการ ใครชวนไปผมไม่เคยปฏิเสธ ไมค์ไม่เรียกว่านี่คือการทำบุญหรือทำทาน แต่เป็นการให้ อย่างที่เขาบอกว่าการให้มีค่ามากกว่าการรับ รับมาเราก็ได้แค่ของ แต่ไม่ได้คุณค่าทางใจ แต่เมื่อเราเป็นฝ่ายให้ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความรู้สึกในใจของเรา และผู้รับก็รู้สึกในใจของเขาเช่นกัน
จากคุณ | : เดอะ วิตรูเวียนแมน |
** ตอนนี้ไมค์ เหมือนเป็นหนังสือเล่มใหม่อีกเล่มที่หน้าปกสะดุดตา เราก็ลองเปิดอ่านด้วยความสนใจ แต่แล้วก็พบว่าเนื้อหาภายในเล่มนั้นดึงดูดกว่าหน้าปกที่สวยงาม หน้าแรกก็ชวนให้ติดตามอ่านยังหน้าต่อไป และคิดว่าจะเป็นหนังสือที่หนา สีสันของเรื่องราวแต่ละหน้าแตกต่างกันไป ส่วนคุณค่าในเนื้อหาอยู่ไมค์จะเขียดเขียนและอยู่ที่คนอ่านจะให้คะแนน. โอ้วเว่อร์ซ้า!...รู้สึกว่าจะฟัง-อ่านไมค์สัมภาษณ์แล้วองค์ลง จริงจังกับชีวิตตามไมค์ไปด้วยเลย (ฮา) 
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 21:18:29
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 21:04:38
แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 21:03:10
จากคุณ |
:
Takalot
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.พ. 55 21:02:47
|
|
|
|