 |
Q : เอาแน่ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก? A : สู้ตายแน่นอน เราได้รับไฟเขียวร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งราคาซื้อขาย ก็น่าจะมากกว่าของเดิมที่ 2,700 ล้านบาท แต่มันไม่ใช่ประเด็นเรื่องของเงิน มันอยู่ที่กลยุทธ์ คือ คงมีไม่กี่บริษัทที่พร้อมจะจ่ายเงินเกิน 4,000 ล้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของแกรมมี่เลยก็ว่าได้ แต่ว่า คุณไพบูลย์ บอกว่า ไม่เป็นไร "กู๋" สั่งลุย จริงๆตอนนี้ ยังไม่มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ แต่ผมเชื่อว่า มีเยอะที่โอเค โดยที่ยังไม่มีข้อเสนอทางการ ซึ่งก็น่าจะทราบผลกันประมาณกลางปีนี้ Q : ถ้าได้มาจริงๆ งานนี้ ทรูฯ มีสะเทือน? A : มันก็มีโมเดล ทั่วโลก ที่เบอร์ 1 เสียทรัพย์สินนั้นไป แต่เขาก็ยังอยู่ได้ เพราะอย่างที่ผมบอก นี่มันเป็นทะเล มันเป็นมหาสมุทร ไม่ได้หมายความว่า อยู่ไม่ได้ เพียงแต่ว่าเรากำลังพยายามจะนำเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของธุรกิจกีฬา ถ้ามันได้ หรือเราอาจขาดทุนสัก 3 ปี ก็ไม่เสียหาย ที่จะเขามาทำกำไรในปีที่ 4 แต่ถ้าเป็นไปได้ กำไรตั้งแต่ปีแรก มันก็สวยหรู
Q : ราคาสูงขนาดนั้น คิดว่าคุ้มค่า? A : ณ วันนี้ คนจ่ายพรีเมียร์ลีก ให้กับทรูฯ คงมีอยู่ประมาณ 5 แสนคนที่จ่าย 1-2 พันบาทต่อเดือน เพื่อสิทธิ์ในการดู ที่นี่ลองคำนวณ ขั้นต่ำ 5 แสนคน คูณขั้นต่ำ 1,000 บาท ก็ประมาณ 500 ล้านบาท ปีหนึ่งก็ 6 พันล้านบาท สามปี ของ 1.8 หมื่นล้านบาท ทรูฯ ลงทุนไป 2-3 พันล้านกว่าๆ ตัวเลขชัดเจน แต่ถ้าเราให้คุณจ่ายสัก 100 บาท แล้วมี 2 ล้านคน มันก็ 200 ล้าน 1 ปี ก็ประมาณ 2,400 ล้านบาท สามปี ก็ 6-7 พันล้าน มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เราคิดแค่ร้อยเดียว คือเราไม่คิดจะเอาเปรียบในราคา 2,000 บาท แต่เราของนำเสนอในมุม 100 บาท เพราะฉะนั้น ถามว่าตัวเลขมันมีลุ้นไหม มันก็พอไหวนะ แต่ถ้าคู่แข่งจะลงมาร่วมด้วย ก็ลงมาได้ มาลองดูกันว่าราคา 100 บาทจะทำได้เหมือนเราไหม
หึหึ ต้องควักตั้ง4000m ขนาดตัวเค้ายังบอกเองเลยครับทรัพย์สินตั้งครึ่งนึงของgmm เพราะชะนั้นอะไรที่มันลำบากกำไรน้อยๆก็เลิกๆไปก่อน ลอยแพกลุ่มลูกค้ากลุ่มเล็กๆ แล้วก็อย่างที่เขาบอกจะมีซักกี่บริษัทที่กล้าทุ่มขนาดนี้แต่ก็คงมีไม่กี่บริษัทเหมือนกันที่ ตัดหางปล่อยวัดลูกค้าอย่างไม่เห็นหัวได้ขนาดนี้
http://www.gmmsport.com/news_detail.php?news_id=345
แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 55 10:28:23
แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 55 10:23:07
จากคุณ |
:
หนุ่มงามแห่งทางช้างเผือก
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 55 10:20:37
|
|
|
|
 |