Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เปิดใจหัวอกผู้หญิงท้องไม่มีพ่อ “เอ อัญชลี” รู้ซึ้งแล้วอย่าริชิงสุกก่อนห่าม ติดต่อทีมงาน

หลายปีก่อน อดีตนางแบบชื่อดัง “เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร” ออกมายึดอกยอมรับว่าตัวเองท้องไม่มีพ่อ โดยอ้างว่า “เติ้ล คมกริช” อดีตแฟนหนุ่มนักธุรกิจรีสอร์ทแห่งหนึ่งในภาคใต้ คือ “พ่อ” ของลูกในท้อง จนกลายเป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของวงการบันเทิงกันเลยทีเดียว
      
       ล่าสุด “เอ” ก็ตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวลุกขึ้นมาพึ่งกระบวนการทางกฎหมายเรียกร้องให้ “เติ้ล คมกริช” ออกมาเซ็นรับรองบุตรให้กับ “น้องเอวี่” ลูกสาววัย 2 ขวบ จนเป็นข่าวใหญ่โตอยู่ในขณะนี้ งานนี้ “ต่อพงษ์ เศวตามร์” บรรณาธิการข่าวบันเทิง ASTV ผู้จัดการรายวัน และ ผู้อำนวยการช่องซูเปอร์บันเทิง จึงได้เชิญสาว เอ อัญชลี มาพูดคุยถึงประเด็นร้อนดังกล่าวอย่างหมดเปลือกในรายการ “เขย่าจอ” ช่วง TALK A TIVE
         
       ไม่รู้สึกอายหลังต้องเปิดเผยให้สังคมได้รู้ แต่จะอายหากคิดจะไปทำแท้ง
      
       “ตอนท้องแรกๆ นักข่าวยังมาถามว่าท้องจริงหรือเปล่า เราก็บอกว่าจริง แต่พอดีพ่อเขาไม่รับ เขาก็ตกใจกันไปใหญ่ ถามว่าอายไหม มันก็ไม่ได้อายเพราะมันเป็นความผิดของเราที่ต้องแก้ไข เราต้องทำให้ถูกต้อง ต้องเผชิญกับมันว่าการที่เรายังไม่ได้แต่งงาน หรือท้องไม่มีพ่อ พ่อไม่รับ ก็ต่อสู้มาตลอด เอว่าเอทำถูก เราไม่ได้ไปทำแท้ง เอทำในสิ่งที่ถูกต้อง เอคิดว่าสังคมต้องให้อภัย เราก็ผิดที่ไม่ได้เข้าตามตรอกออกตามประตูตามแบบสาวไทย ก็ต้องขอโทษด้วย วันนี้เอคิดว่าทุกคนน่าจะให้อภัยเอ เพราะเอได้ทำหน้าที่แม่แล้ว”
      
       ชี้ข้อบกพร่องตัวเองเป็นเพราะมีอาชีพเป็นนางแบบ ครอบครัวฝ่ายชายเลยไม่ปลื้ม
      
       “อาจเป็นเพราะภาพพจน์ว่าเราเป็นดารา นางแบบ แต่ไม่มีใครเคยมองว่าเอเรียนจบเมืองนอกเป็น10ปี แล้วก็มาทำเบื้องหลังเยอะแยะ แต่กลับมองว่าเอเป็นนางแบบถ่ายภาพเซ็กซี่ แต่ไม่เคยมองว่าเรามีความรู้นะ เรามีความคิดเราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งเขาเองก็อยู่สังคมเดียวกันกับเอ แต่จุดพลิกผันเพราะว่าผู้ใหญ่ทางเขาครอบครัวของเขา เพราะเราเป็นแค่คนธรรมดา เพราะที่บ้านเขาเป็นนักธุรกิจเลยอาจจะอยากได้คนมีฐานะเท่าเทียมกัน เราก็ยอมรับว่าเราไม่ใช่คนมั่งมีหรือร่ำรวยแต่เป็นคนทำมาหากิน เราเองก็ไม่โกรธหรือน้อยใจตัวเอง เพราะสิ่งที่ทำก็เป็นตัวเอที่สุด ทุกวันนี้เอภูมิใจกับการได้ทำในสิ่งที่เอต้องการ”
      
       เผยตอนนี้ “น้องเอวี่” ใกล้จะ 2 ขวบแล้ว มั่นใจลูกไม่ขาดความรัก
      
       “ตอนนี้น้องเอวี่กำลังจะ2ขวบ กำลังซนมาก กำลังพูดแจ้วๆ เลี้ยงไม่ยากและก็ไม่ง่ายเพราะเด็กกำลังโตขึ้นทุกวัน มี พัฒนาการทุกวันให้เราได้เรียนรู้ไปเรื่อย ตอนนี้ก็อยู่เนอร์สเซอรี่เป็นอินเตอร์เล็กๆ เพราะเราเองก็อยากให้ลูกมีพัฒนาการด้วย ตอนนี้หลักๆ ก็มีพี่เลี้ยงคอยดู ซึ่งเอก็เป็นหลักดูด้วย แล้วก็มีโยถ้าเขาว่างก็มาอยู่มาเล่นกับหลาน คือเขาได้รับความอบอุ่นทั้งคุณแม่ และเพื่อนๆ ของเอ คิดว่าเขาก็ได้ความรักจากตรงนี้เยอะแล้ว และก็ไม่คิดว่าเขาจะขาดอะไรอีก”
      
       ย้ำจุดยืนที่ฟ้อง อดีตแฟน “เติ้ล คมกริช” เพราะสงสารที่ลูกจนป่านนี้ยังไม่มีชื่อพ่อในใบเกิด ยันขอแค่ความถูกต้องและอยากให้ฝ่ายชายแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกัน
      
       “เรื่องคดีตอนนี้ก็ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ทุกอย่างมันอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่ก็คงรอไปก่อนว่าจะเป็นยังไงคงมีนัดคุยๆ กัน เรื่องของเรื่องเราก็อยากให้ทางฝ่ายชายมารับว่าเป็นพ่อ ตั้งแต่เอท้องมาจนคลอด เอก็ยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกคนเดียว จะเลี้ยงลูกเอง แต่เอไม่เคยบอกว่าถ้าเกิดคุณพ่อเขาจะมายื่นมือให้ความช่วยเหลือ หรือถ้าเขาจะมาทำให้ถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง เอก็ไม่เคยปฏิเสธ”
      
       “ลูกเอเกิดมาไม่มีชื่อพ่อในใบเกิด โตขึ้นมาเรื่อยๆ ก็อาจจะมีคำถาม เอเลยอยากทำให้ถูกต้องมากกว่า ไม่ใช่หวังอะไรจากเขา เพราะเราก็เลี้ยงลูกมาเองขนาดนี้ คำว่าเลี้ยงได้มันก็เลี้ยงได้อยู่แล้ว แต่ต้องเลี้ยงได้อยากทำให้ถูกต้อง เขาต้องมาจดทะเบียนรับรองบุตร คือมาทำให้ถูกต้อง แต่เอไม่ได้บอกว่าจะต้องมาเลี้ยงฉัน”
      
       “ทางทนายเขาก็จะมีขั้นตอนต่างๆ ก็จะต้องมีการช่วยเหลือรับผิดชอบคนละ50-50 เอก็ถามทางทนายว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นเหรอ เขาก็บอกว่ามันเป็นขั้นตอนของศาลนะ แต่ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล หรือทางเขาอาจจะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ก็แล้วแต่เลยก็ได้ แต่ประเด็นของเราจริงๆ ก็คืออยากทำให้ถูกต้องไหนๆ เราก็ทำลูกให้เกิดมาแล้ว เอไม่ต้องการมีอะไรปิดบังเขา อยากให้รู้ว่าคุณพ่อเขาเป็นใคร”
      
       “ถามว่าเคยโทรคุยกันก่อนถึงขั้นตอนของศาลไหม ช่วงเลิกกันใหม่ๆ โยก็โทรไปนะ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเขาหรืออะไรเลย ทุกอย่างเงียบ แม้กระทั่งตอนคลอด ช่วงแรกหดหู่มาก แต่ตอนนี้ไม่เท่าไหร่ คนเราโตมาขนาดนี้ทำอะไรไว้ก็ควรที่จะกล้ารับผิดชอบ แรกๆ ก็กลัวที่จะเผชิญหน้ากัน แต่ตอนนี้ไม่ การที่เผชิญหน้ากันเพื่อแก้ไขในสิ่งที่เราได้ทำร่วมกันมันก็ไม่น่าอาย กลับเป็นเรื่องน่ายกย่องมากกว่า สำหรับเอคิดแบบนี้ แต่ทางนั้นไม่รู้คิดแบบนี้หรือเปล่า บางคนก็คิดว่าทำไมไม่บอกลูกไปว่าคุณพ่อตายไปแล้วเหมือนในละคร แต่เอคิดว่าไม่อยากโกหกเขาตั้งแต่ตอนนี้ ลูกก็เหมือนผ้าขาว เราจะใส่สีอะไรไปให้เขาก็จะเป็นแบบนั้น”
      
       “ยิ่งที่ใส่สีดำลงไปชีวิตเขาก็จะหม่นหมอง ใช้ความจริงดีกว่าให้เขารู้ไปเลยว่าคุณพ่อทำงานอะไร อยู่ที่ไหน แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้เอเล่าเรื่องคุณพ่อเขาไว้อย่างสวยงามมาก เขาจะได้ยินชื่อคุณพ่อเขาตลอด ชีวิตคุณพ่อเขาน่าสงสารมากที่ไม่ได้อยู่กับเรา วันนึงเขาโตขึ้นเขาก็จะได้รู้ว่าชีวิตของป๊ะป๋าน่าสงสารที่ไม่ได้อยู่กับเอวี่ และการที่ป๊ะป๋าไม่ได้อยู่กับเอวี่ไม่ได้หมายความว่าป๊ะป๋าไม่รัก แต่เขามีเหตุผล อยากให้เข้าใจเหตุผลของคนเป็นแม่ ตอนนี้เขาไปโรงเรียนได้เห็นเพื่อนๆมีคุณพ่อมารับ เขาก็เริ่มถามแล้ว กลับมาบ้านก็ถามเราว่าป๊ะป๋าไปไหน เขาฉลาดมาก ฟังแรกๆ เราก็จะร้องไห้ เราก็ชี้ให้เขาดูว่าป๊ะป๋าอยู่ในหนังสือ เขาเห็นก็ไปจูบ เอก็บอกว่าเขาอยู่ไกลนะ”
      
       ฝ่ายชายเคยบอกว่า ถ้าพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้วใช่ลูก ถึงจะยอมจ่ายให้เดือนละ1หมื่นบาท?
      
       “อย่างที่โยพูดไป เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เอมองว่าไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงิน มันอยู่ที่ความรู้สึกของลูกผู้ชาย ยิ่งคุณจะไปมีครอบครัวใหม่หรืออะไร คุณต้องคิดให้แน่วแน่ว่าสิ่งที่คุณจะทำอยู่มันถูกแล้วหรือ ในการที่จะมีครอบครัวในเมื่อสิ่งที่ผ่านมาคุณยังทำได้ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ถามว่ามันปวดร้าวไหม สำหรับผลดีเอ็นเอก็ไม่นะ แค่ต้องทำให้ถูกต้องถ้าเขาจะตรวจก็ตรวจ ถ้าตรวจแล้วจะรับผิดชอบแค่นั้นก็ไม่ต้อง จุดประสงค์ไม่ใช่เรื่องเงิน อยากให้รับผิดชอบด้วยความเป็นพ่อลูกเอ ไม่ใช่สิ่งของที่จะตีค่าราคา ขอแค่มารับรองบุตร”
      
       ถูกมองว่าต้องการสมบัติของฝ่ายชาย
      
       “เอคบเขามาเกือบ2ปี เอรู้จักครอบครัวเขาดี ในที่นี้หมายถึงรู้ว่าครอบครัวเขาเป็นคนยังไง แต่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อ และเอก็รู้ว่าวันนึงมันจะต้องลงเอยแบบนี้ เขาก็คือคนทำมาหากิน เราก็ทำมาหากิน หน้าที่การงานอาจจะต่างกัน ไม่ได้อยู่กับความรวยหรือความจน ถามว่าหวังในเรื่องธุรกิจของเขาหรือเปล่า ก็คงไม่ เพราะของครอบครัวเขาหาได้มา เราคงไม่แตะต้องเราไม่ได้เห็นแก่ตัว อยากให้เขาทำในสิ่งที่เขาพูดไว้ ทำให้ถูกต้องไม่จำเป็นต้องทำให้เอ แค่ให้มาทำให้ลูกเรา สายเลือดเราสองคน”
      
       ยืนยันที่ออกมาเรียกร้องให้เซ็นรับรองบุตร ไม่ใช่เพราะเจ็บแค้นที่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะแต่งงานใหม่
      
       “เราดีใจด้วยที่คนที่เรารู้จักทั้งสองคนจะแต่งงานกัน เลยไม่ได้เจ็บแค้น เพียงแต่ว่าถ้าจะมีครอบครัวใหม่อะไรที่เก่าๆก็ทำให้เรียบร้อย เดี๋ยวอนาคตต่อไปจะต้องมีลูกกันขึ้นมา อย่างน้อยก็ให้คิดถึงลูกเอบ้างคนเราเคยรักกันมีลูกด้วยกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้เราก็สามารถชี้แจงให้ฟังถึงเหตุผลได้ ถ้าเกิดมีลูกด้วยกันรักกันอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วไปมีครอบครัวใหม่ แล้วคุณจะสอนลูกได้ยังไง”
               
       พูดได้ไม่เต็มปากหากจะให้แนะวัยรุ่นอย่าชิงสุกก่อนห่าม เพราะตัวเองยังพลาดมาแล้ว อย่างคดี “ฮาเวิร์ด หวัง” พา “หมวย แม็กซิม” ไปทำแท้ง นั้นมองว่าเป็นเรื่องของวัยวุฒิ
      
       “ในฐานะที่มีประสบการณ์ เราเองก็ไปตอบแทนเขาไม่ได้ว่าเขาคิดอะไร แต่สำหรับเอคิดว่ามันต้องขึ้นอยู่กับวัยวุฒิด้วย สำหรับเอที่ไม่คิดจะไปทำแท้งเพราะว่าเราโตกันแล้ว30กว่าแล้ว ความรับผิดชอบมันต้องมี จะไปตัดความสุขที่กำลังจะเกิดมามันไม่ได้ เอก็อยากให้มุมมองสำหรับน้องๆ ว่าถ้าจะทำอะไรตามอายุที่เราสมควรทำมากกว่า อย่ารีบหรือเร็ว อย่าชิงสุกก่อนห่าม คำนี้ของเอก็ใช้ได้อยู่ แต่พอดีเอแก่แล้ว (หัวเราะ) เราก็เลี้ยงลูกได้ ก็อยากให้ตรึกตรองเพราะผลกระทบมันก็อยู่ที่เรา ถึงทำแท้งแล้ว แต่ชีวิตเราก็ยังมีปมอยู่ตลอดเวลา หรือไม่เราอาจจะตายระหว่างทำ ถ้ามันจะถึงจุดที่จะมีอะไรกันก็ใช้วิธีป้องกันดีกว่า เราจะพูดมากไม่ได้เพราะเราก็พลาดเหมือนกัน”
      
       ติดตามชมการสัมภาษณ์ “เอ อัญชลี” ฉบับเต็มได้ในรายการ “เขย่าจอ” ช่วง TALK A TIVE ทางช่อง Super บันเทิง ทรูวิชั่น70 ในวันอังคารที่ 6มีนาคม นี้ 20.30 - 21.30 น.
               
      
ข่าวจาก  :  ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000028321

 
 

จากคุณ : Dear Nostalgia
เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:09:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com