ความคิดเห็นที่ 1 รูดแรงแหกโค้ง มานอนก้นตาราง อันดับ 10 เลยทีเดียว สำหรับภาคต่อหนังรักหลากคู่ วาเลนไทน์ สวีทตี้ ที่โรงน่าจะเหลือน้อยเต็มทนแล้ว ในเมื่อกองทัพหนังแนวเดียวกันยังคงไหลมาเทมาปานน้ำหลากอยู่เช่นนี้! สัปดาห์นี้ หนังยังคงรูดกระจายไปอีก 75%!! เก็บไปอีก 7 แสนบาท รวมสี่สัปดาห์ มนต์รักสวีทตี้ เปรมปรีไปแล้ว 58 ล้านบาท!!! คาดว่าหนังคงไปไม่ไกลกว่านี้อีกแล้ว ทำให้หนังหยุดอยู่ตำแหน่งรองบ๊วย ในกลุ่มหนังของคุณยอร์ชไปเสีย (มากกว่าเพียง โหดหน้าเหี่ยว 966 ซึ่งหยุดไว้ที่ 47.1 ล้านบาท) ขณะที่อันดับประจำปีนี้ แม้หนังจะสามารถรั้งอันดับ 2 ไว้ได้ตามคาด แต่รายได้ก็ถือว่าน้อยไปจากที่คาดไปพอสมควรเหลือเกิน (ยิ่งเห็นรายได้อันดับ 1 ด้วยแล้ว!!) โดยหนังตามหลังเพียงหนังโคตรฮิตเปิดปี ATM เออรัก เออเร่อ ที่เก็บเงินล่าสุดแทบจะห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่นไปถึง 148.1 ล้านบาท แต่ถึงอย่างไร การที่หนังขึ้นอันดับ 2 ของปีได้ ก็แสดงให้เห็นว่าหนังยังได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย แต่ลดลงไปจากเดิมเยอะขนาดนี้ คาดว่าอาจจะไม่ได้เห็นสวีทตี้เรื่องที่ 3 แล้ว(ล่ะมั้ง???) แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 03:43:48 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:43:30

ความคิดเห็นที่ 2 หล่นลงไปได้แป๊บเดียว ก็กระโดดขึ้นมาอยู่ อันดับ 9 ได้อีกแล้ว!! สำหรับหนังเจ้าออสการ์ฝั่งเทคนิคประจำปีนี้ อย่าง Hugo ดูเหมือนว่าอานิสงค์จากการได้ออสการ์มากที่สุด(ร่วม)ประจำปีนี้ จะเริ่มแผลงฤทธิ์ ช่วยฉุดหนังขึ้นมาจากก้นตารางบ้างแล้ว (แต่ขนาดก่อนได้ออสการ์ กระแสหนังเองก็แอบร้อน จนหล่นน้อยมากด้วยสิ!!) ป๋า(ออสการ์)ดันขนาดนี้ สัปดาห์นี้รายได้หนังเลยทำได้เท่ากับสัปดาห์ก่อนเป๊ะ! เก็บอีก 8 แสนบาท รวมสามสัปดาห์ อูโก้ แล่นรถไฟไปแล้ว 3.7 ล้านบาท ถือว่าโหดมากจริงๆ ทั้งๆ ที่โรงฉายมีเพียงน้อยนิด แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใด คือณ ขณะนี้ หนังกลายเป็นเรื่องที่ทำเงินสูงที่สุด ในบรรดาผู้เข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ไปแล้ว แซงแชมป์เก่าอย่าง War Horse ที่ยังคงฉายอยู่เช่นกัน แต่คงไปไม่ไกลจากนี้อีกเท่าไหร่ ที่ 2.8 ล้านบาท ขณะที่ในเครดิตของสกอร์เซซีทั้งหลายแล้ว หนังยังพอมีหวังอยู่บ้าง ที่จะแซง Shutter Island หนังเรื่องก่อนหน้าของป๋า ซึ่งฉายในวงแคบ และปิดรายได้ไว้ดีพอสมควร ที่ 6 ล้านบาท แต่ที่แทบไม่มีหวังเลยก็คือการแซงหน้า The Departed หนังทำเงินสูงสุดของป๋าในบ้านเรา เก็บเอาไว้ไกลสุดกู่ (แต่ดูเฉยๆ สำหรับหนังแนวอื่นๆ) ที่ 18.8 ล้านบาท รายได้กระเตื้องซะขนาดนี้ หวังว่าจะได้ยืนโรงฉายไปนานๆ โดยไม่โดนกองทัพหนังใหญ่ ไล่บี้จนต้องถอดโปรแกรมไปก่อนนะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:44:18

ความคิดเห็นที่ 3 อุตส่าห์เปิดตัวไว้สูง ก็ต้องไหลเละเทะลงมาถึง อันดับ 8 ซะงั้น สำหรับหนังแอ็กชั่นหญิงสู้ฟัด Haywire ที่แม้จะมาในแนวแอ็กชั่น + ดาราหนุ่มหล่อมากหน้าหลายตา แต่ดูเหมือนว่าหนังจะได้รับความสนใจจากคนดูทั่วไปน้อยไปหน่อย ยิ่งต้องมาโดนแย่งโรง + คนดู จากบรรดาหนังใหม่ด้วยแล้ว ทำให้สัปดาห์นี้ หนังทำเงินรูดลงไปร่วม 70%!!! เก็บไปอีก 8 แสนบาท รวมสองสัปดาห์ สาวห้าว บู๊สนั่นจอไปแล้ว 5 ล้านบาท [b] การที่หนังทำเงินลดฮวบฮาบก็พลอยทำให้รายได้รวมของหนัง น้อยกว่าที่ควรจะเป็นอยู่เยอะพอสมควร นอกจากจะน้อยกว่าบรรดาหนังแอ็กชั่นนำชายฟอร์มเดียวกันในช่วงปีนี้แล้ว (น้อยที่สุดคือหนังต้นปีอย่าง [b]Contraband ปิดตัวไปมากกว่าพอสมควร ที่ 7.8 ล้านบาท ซึ่งแทบไม่ต้องพูดถึงเรื่องก่อนหน้า อย่าง Safe House ที่ปิดไปร่วม 10 ล้านได้!) กระทั่งบรรดาหนังนักฆ่าหญิงฟอร์มเดียวกันเรื่องก่อนหน้าทั้งหลายเมื่อปีก่อนก็ยังถือว่าค่อนข้างห่าง โดยเฉพาะ Colombiana นักฆ่าสาวผิวสี ที่ทำเงินเงียบเหงาไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ในเดือนนั้น แต่ก็ถือว่าทำเงินสูงสุดของกลุ่มนี้เมื่อปีก่อน ที่ 11.7 ล้านบาท ส่วนสาวน้อย Hanna อาจจะโดนอัดโดยบรรดายักษ์ใหญ่จนแทบกระอัก เลยทำเงินน้อยกว่า ที่ 4.4 ล้านบาท ขณะที่ในเครดิตผู้กำกับโซลเดอเบิร์กในบ้านเรานั้น แม้ว่าหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Contagion จะทำเงินไปไม่ค่อยหวือหวา แต่ก็ดูมากไปเลย เมื่อมาเทียบกับนักฆ่าสาวของเรา ที่ 8 ล้านบาท ขณะที่ตระกูลสุดฮ็อตของเฮียโซเดอเบิร์ก อย่างตระกูล Ocean ที่ภาคล่าสุด อย่าง Ocean's Thirteen อาจจะทำเงินน้อยไปหน่อยในกลุ่ม แต่ถึงอย่างไรก็ยังไกลสุดกู่สำหรับเรื่องอื่นๆ ของเฮียแก(ในช่วงหลัง)อยู่ดี ที่ 27.7 ล้านบาท ก็คงมาเร็ว ไปเร็วจริงๆ ทั้งๆ ที่สัปดาห์นี้ คู่แข่งก็ไม่ได้โหดมากมายเท่าไหร่ เห็นทีสัปดาห์หน้า ที่ต้องมาเจอกับ “ยักษ์หิน” ตัวจริง.......หนังมีสิทธิ์ไม่รอดสูง!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:44:54

ความคิดเห็นที่ 4 นี่ก็อีกเรื่อง อุตส่าห์เปิดตัวในฐานะรองแชมป์ แต่ต้องระเห็จไกลถึง อันดับ 7 เช่นกัน สำหรับหนังขายฮา แฝดต่างฝา(แต่หน้าเดียวกัน!!) Jack and Jill ที่หกล้มหน้าคมำไม่แพ้เพื่อนๆ ร่วมตารางสัปดาห์ก่อน ทั้งๆ ที่ไม่มีคู่แข่งมาชนด้วย แบบตรงๆ แต่ดูเหมือนว่าตัวหนังเองล่ะที่ได้รับความสนใจจากคนดูน้อยลงไป สัปดาห์นี้ คู่แฝดแทบน้ำตาตก ทำเงินลดลงไปเกือบ 60% เก็บไปอีก  1.3 ล้านบาท รวมสองสัปดาห์ แต่งเป็นแฝดต่างฝา ขายฮาไปแล้ว 5.7 ล้านบาท [b] อาจจะดูเหมือนหล่นแรง แต่ก็ถือว่าเบาไปเลย เมื่อต้องเทียบกับ หนังขายฮา [b]Zookeeper ที่แซนด์เลอร์ไปแจมพากย์ให้ด้วย ดันโชคร้ายสุด เพราะต้องมาชนขายฮาฟอร์มยักษ์กว่า อย่าง Johnny English Reborn เลยทำให้หนังรูดลงไปถึง 73% เก็บเงินรวมสองสัปดาห์ไปใกล้ๆ กันที่ 4.8 ล้านบาท ขณะที่ฝั่งของหนังแซนด์เลอร์เรื่องก่อนๆ ทั้งหลาย ก่อนหน้าไม่นานเมื่อปีก่อน อย่าง Just Go With It ดูเหมือนไม่ต้องเจอคู่แข่งมากเท่าไหร่ เลยทำเงินลดลงไปไม่ถึงครึ่ง! (47%) เก็บสัปดาห์ที่สองไปอีก 1.7 ล้านบาท หรือที่ยังพอทำได้ใกล้เคียงอยู่บ้าง อย่าง Grown Ups ก็ทำเงินลดลงไปเพียง 52% และเก็บไปอีก 2.5 ล้านบาท งานนี้ แม้จะมาฮาแบบแพ็คคู่ แต่ดูจากรายได้แล้ว ป๋าแซนด์เลอร์ก็คงฮาไม่ค่อยจะเต็มปากซักเท่าไหร่แฮะ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:45:31

ความคิดเห็นที่ 5 อันดับ 6 เป็นหนังระทึกเรื่องใหม่ประจำสัปดาห์ กับชื่อสั้นๆ  The Grey นำทีมพะบู๊เรื่องล่าสุด โดยพระเอกที่ยิ่งแก่ ยิ่งฮ็อต อย่าง ป๋าเลียม นีลสัน ที่เปลี่ยนบรรยากาศจากในเมือง มาระทึกท่ามกลางหิมะ ยังไม่พอ ต้องมาฝ่าคมเขี้ยวเหล่าหมาป่าขนปุกปุยสีเทาตามชื่อเรื่องอีก! งานนี้ คงถูกใจแฟนๆ ป๋า และคอหนังบู๊ได้ง่ายๆ....แต่จะเก็บเงินง่ายๆ แบบนั้นรึเปล่า นั่นก็อีกเรื่องนะครับ! ถึงอย่างไร สัปดาห์แรก หนังก็เปิดตัวไปแล้ว 2.9 ล้านบาท [b] ถือว่าน้อยไปนิด เมื่อเทียบกับบรรดาหนังแอ็กชั่นฟอร์มเดียวกันทั้งหลาย (แม้จะไม่ไกลไปกว่านี้ซะทีเดียว) อย่างหนังเมื่อสัปดาห์ก่อน [b]Haywire ก็เปิดตัวได้ใกล้เคียงกัน แต่มากกว่านิดนึง ที่ 3 ล้านบาท หรือแอ็กชั่นนำชายอย่าง Safe House ที่ทำได้ดีสุดของกลุ่มปีนี้ เปิดตัวไปที่ 4.7 ล้านบาท หากเทียบกับหนังแนวคล้ายๆ กันก็คงต้องย้อนกลับไปหาหนังหลอนระทึกเมื่อปีก่อน อย่าง The Thing ที่อาจจะได้เปรียบกว่าหน่อยตรงที่มีความเป็นไซไฟ จึงเปิดตัวได้มากกว่าสองเท่า ที่ 6.3 ล้านบาท ขณะที่ในเครดิตของป๋าเลียมเรื่องก่อนหน้าทั้งหลาย แม้ป๋าจะค่อนข้างฮ็อตในบ้านเกิด แต่สำหรับในบ้านเราแล้ว หนังนำเดี่ยวของป๋าอาจจะไม่ค่อยเปรี้ยงเท่าไหร่ ทั้งเรื่องก่อนหน้า อย่าง Unknown ซึ่งเปิดตัวในช่วงสัปดาห์นี้ของเมื่อปีก่อน ก็ดูเหมือนจะน่าสนใจมากกว่า เลยเก็บเงินเปิดตัวได้มากกว่า ที่ 4 ล้านบาท หรือหนังแจ้งเกิด(ยามแก่) ของป๋า อย่าง Taken ที่ไปทำเงินถล่มทลายในอเมริกา แต่ในบ้านเรานอกจากจะเปิดตัวก่อนหน้านั้นนานโข ยังได้ฉายเพียง 2 โรง!! หนังจึงเปิดตัวไปเพียง 1 แสนบาท ขณะที่หนังเปิดตัวถล่มทลายเรื่องหลังๆ ของป๋าก็คงต้องย้อนกลับไปนิดหน่อย กับ Clash of the Titans แม้ป๋าจะไม่ได้แสดงนำ แต่ก็เด่นมากพอ แถมทำเงินเปิดตัวไปถึง 41 ล้านบาทเลยทีเดียว!!! งานนี้ หากจะอยากรอดจากฝูงหนังใหญ่ที่รอขย้ำกันอยู่รอมร่อ ก็คงต้องหวังพึ่งกระแสปากต่อปาก ช่วยเรียกคนดูมาฉุดหนังจากการรุมทึ้งหน่อยล่ะทีนี้!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:46:03

ความคิดเห็นที่ 6 ตกบัลลังก์แชมป์ กระเด็นมาไกลถึง อันดับ 5 เลยทีเดียว สำหรับภาคต่อซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์โหด Ghost Rider: Spirit Vengeance หลังจากเก็บเงินสบายๆ มาสองสัปดาห์ งานนี้ พอต้องเจอทัพขา(พอจะ)ใหญ่เข้าทีนึง ก็ถึงกับรูดแบบไม่ทันได้รับกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ ในเมื่อหนังก็กอบโกยตอนช่วงเวลาทองไปพอสมควรแล้วนี่!!! สัปดาห์นี้ หนังทำเงินรูดลงมาถึง 65%!! เก็บเงินไปอีก 3.4 ล้านบาท รวมสามสัปดาห์ กะโหลกไฟ เรี่ยไรเงินไปแล้ว 44 ล้านบาท [b] อาจจะไม่มากเท่าบรรดาฮีโร่มาเวลเมื่อปีก่อน ที่พากันปิดตัวในระดับ 60 ล้านขึ้นไปกันทั้งนั้น!! (น้อยสุดคือ เทพขุนค้อน [b]Thor ทำเงินช่วงเปิดซัมเมอร์ไปที่ 69.3 ล้านบาท ส่วนมากสุด คือกำเนิดแก๊งค์ฮีโร่ X-Men: First Class แม้จะโดนพิษจากสองภาคก่อนหน้าเล่นงาน แต่ภาคนี้กระแสคำวิจารณ์ดีมากๆ เลยเก็บเงินไปแบบสบายๆ ที่ 75 ล้านบาท) หรือยังตามหลัง Ghost Rider ภาคแรก อยู่อีกไกล (58.9 ล้านบาท) แต่อย่างในเครดิตป๋าเคจ หนังก็ถือว่าทำเงินมากพอสมควรในช่วงหลังๆ ของป๋า และมากที่สุดในรอบเกือบสองปีของป๋าเคจก็ว่าได้!!! (นับตั้งแต่ The Sorcerrer's Apprentice หนังฮิตเกินคาดในบ้านเราของป๋า เก็บเงินไปไม่น้อยเมื่อกลางปี 53 ที่ 52.1 ล้านบาท ขณะที่หนังเมื่อปีก่อนทั้งสามเรื่อง.....เจ๊งไม่เป็นท่าทุกเรื่อง!!!) งานนี้ หากเราจะได้เห็นกะโหลกไฟเป็นหนที่สามก็อาจจะไม่แปลกใจซักเท่าไหร่ แต่แฟนๆ ป๋าเคจคงอยากจะตะโกนว่า “รีบๆ กลับไปเล่น National Treasure 3 ซะทีสิครับ(โว้ย!!!)” จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:46:25

ความคิดเห็นที่ 7 อีกหนึ่งหนังใหม่ที่ต้องยอมรับว่า ทำได้เกินคาดมาก! ขึ้นมาได้ถึง อันดับ 4 สำหรับหนังสยองขวัญพันธุ์ไทย สามมิติเรื่องแรก ตำนานรัก แม่นาค 3D ที่จับเอาตำนานรักสยองขวัญสุดคลาสสิค อย่าง “แม่นาคพระโขนง” มาขึ้นจอในรูปแบบสามมิติเป็นครั้งแรก (ทำให้กลายเป็นหนังผีไทยสามมิติเรื่องแรกไปโดยปริยาย) ซึ่งแน่นอนว่า ความเป็น ”สามมิติพันธุ์ไทย” ย่อมได้รับความสนใจจากคนดูทั่วไปไม่ยาก แต่หนังนอกจากจะเลื่อนฉายครั้งแล้วครั้งเล่ามาตั้งแต่ปีก่อน จนทำเอาคนดูแทบจะลืม การโปรโมตของหนังก็น้อยเสียจนคนแทบจะไม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าอาการเช่นนี้ หนังส่วนใหญ่มักจะไปไม่รอดกันตั้งแต่เปิดตัวเลยก็ว่าได้ แต่เอาเข้าจริง หนังกลับทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ไม่น้อยทีเดียว โดยสัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 4.8 ล้านบาท [b] ก็ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับหนังที่เลื่อนฉายนับครั้งไม่ถ้วน และได้โรงฉายน้อยเช่นนี้ (เทียบอาการกับหนังหนีน้ำ(หลายรอบ)เรื่องก่อนหน้า อย่าง [b]มรึง-กู เพื่อนกันจนวันตาย ที่เปิดตัวแบบไร้คู่แข่ง แต่สะดุดเอง เพียง 3.5 ล้านบาท ก็ถือว่าดีกว่าพอสมควร) แต่ไม่แน่ใจว่าปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้หนังกระเตื้องขึ้นมา เพราะค่าตั๋วสามมิติที่แพงกว่าหรือเปล่านี่สิ! ครั้นจะลองเทียบกับหนังสามมิติไทยเรื่องอื่นก็ตกไปอีก (เพราะเรื่องจะมี 2 เรื่องเองนี่นา!!) เพราะสามมิติไทยเรื่องแรก อย่าง ล่า ฝ่า ฝัน ที่ออกแนวคอนเสิร์ต AF สามมิติซะมากกว่า ก็เปิดตัวแคบๆ ไปแบบน้อยนิด เพียง 4 แสนบาทเท่านั้น! ก็เลยลองเทียบกับหนังสามมิติฝั่งเอเชียดู ทั้งเรื่องที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน อย่าง The Flying Swords of Dragon Gate ดูเหมือนจะเรียกความสนใจจากคนดูในบ้านเราได้ไม่มากเท่าไหร่ เลยเปิดตัวน้อยนิด เพียง 3.1 ล้านบาท หรือสามมิติสุดฮือฮาเมื่อปีก่อน อย่าง 3D Sex and Zen ซึ่งถือตำแหน่ง 3 มิติเอเชีย ทำเงินสูงสุดในบ้านเรา เปิดตัวไปแบบเร่าร้อนถึง 11.5 ล้านบาท เมื่อลองเทียบกับกลุ่มหนังแม่นาคเรื่องก่อนหน้าทั้งหลาย ล่าสุดก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว แต่เป็นแอนิเมชั่นเรื่อง นาค ซึ่งถือเป็นแอนิเมชั่นเรื่องยาวเรื่องที่ 3 ของไทย แต่กลับถูกคนดูเมินใส่ เลยเปิดตัวไปเพียง 4 ล้านบาท หรือในรูปแบบหนังคนแสดงก็ต้องย้อนกลับไปไกลอีกหน่อยถึง 7 ปี กับหนังร่วมทุน นาค รักแท้/วิญญาณ/ความตาย ก็เปิดตัวไปแบบหงอยๆ ด้วยรายได้เท่ากันเป๊ะ! ที่ 4.8 ล้านบาท (คงไม่ต้องไปเทียบกับภาคสุดคลาสสิค อย่าง นางนาก ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ เปิดตัวในระดับสถิติสมัยนั้นร่วม 40 ล้านบามมาแล้ว!!) ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกๆ ที่ย่างออกมาค่อนข้างดีกว่าที่คิดไว้ก็ว่าได้ สำหรับหนังสามมิติไทย แม้ว่าจะยังไม่ค่อยหวือหวา แถมยังอยู่ในวงจำกัดนัก แต่อย่างน้อย ก็น่าจะพอทำให้ค่ายใหญ่ เริ่มตื่นตัวที่จะลงมาเล่นกับหนังกลุ่มนี้ดูบ้างแล้ว!! (ซึ่งก็ทำเอาคนดูอย่างเราๆ กำเงินรอกันจนเงินเปื่อยเลยทีเดียว!!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:47:35

ความคิดเห็นที่ 8 อันดับ 3 ก็ยังคงเป็นหนังใหม่อีกเช่นกัน สำหรับหนังรัก ฮานิดๆ ทะลึ่งหน่อยๆ รักสุดทีน ผลงานการกำกับครั้งแรกของเจ้าพ่อวงการพากย์หนังในไทย อย่างก๊วน “พันธมิตร” ที่ครั้งนี้ขอสลัดไมค์ มาอยู่หลังกล้องเป็นครั้งแรก โดยได้หนุ่มโอ้ มาพลิกแนว เล่นเป็นตัวเอง เอ้ย!...หนุ่มกะล่อน สุดเจ้าชู้เป็นครั้งแรก แม้หนังจะพยายามแหวกตลาด หวังฮิตขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับคนดูแล้วช่วงนี้หนังรักอาจจะล้นโรงมากเกินไป จนแต่ละเรื่องดูจะซ้ำๆ กันไปหมดแล้ว หนังก็เลยได้รับความสนใจจากคนดูน้อยไปเสีย! สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 5 ล้านบาท [b] ถือว่าทำได้น้อยพอสมควร ในฐานะที่เป็นหนังจากค่ายใหญ่เช่นนี้ แม้จะมากกว่า [b]The Melody รักทำนองนี้ หนังรักเรื่องก่อนหน้าจากค่ายใบโพธิ์ เปิดตัวในช่วงวาเลนไทน์ ไปแบบแป้กๆ เพียง 2.1 ล้านบาท แต่ถ้าลองเทียบกับรอม-คอมค่ายเดียวกัน อย่าง รักเว้ยเฮ้ย! ที่ได้คุณเปิ้ลเป็นตัวชูโรง เรื่องหลังกลับทำได้ดีกว่า เพราะเคยขึ้นอันดับหนึ่งไปที่ 8.2 ล้านบาท (ขณะรอม-คอมฟอร์มใหญ่เรื่องอื่นๆ ใกล้ที่สุดก็คงเป็น วาเลนไทน์ สวีทตี้ หนังภาคต่อรวมดารา แต่เปิดตัวได้น้อยกว่าภาคแรก ที่ 27 ล้านบาท) ขณะที่ในกลุ่มหนังของหนุ่มมาริโอ้ทั้งหลายด้วยกันแล้ว ถือว่าทำได้น้อยมาก น้อยระดับที่เรียกได้ว่า เปิดตัวเกือบต่ำที่สุดในบรรดาหนังของเขาทั้งหมดเลยทีเดียว!! มากกว่าตำแหน่งบ๊วย และเป็นหนังเรื่องก่อนหน้า อย่าง มรึง-กู เพื่อนกันจนวันตาย ที่เปิดตัวเอาไว้แบบอ่อนแรง เพียง 3.5 ล้านบาท (อีกเรื่องที่เคยน้อยในระดับนี้ คือ The Dog ชิงหมาเถิด หนังเสียดสีการเมืองของคุณอ๊อฟ เปิดตัวน้อยผิดฟอร์มไปที่ 5.6 ล้านบาท) ทำให้ล่าสุด หนังเปิดตัวสูงสุดของหนุ่มโอ้ ยังคงเป็น สาระแนเห็นผี เช่นเดิม (21.5 ล้านบาท) ดูเหมือนว่าเรื่องรายได้หนัง หนุ่มโอ้อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ (เพราะงานก็ยังคงมาเรื่อยๆ) แต่คนที่น่าจะกุมขมับก็คงหนีไม่พ้นค่ายใบโพธิ์นี่แหละ!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:48:13

ความคิดเห็นที่ 9 ไต่ขึ้นมาถึงรองแชมป์ อันดับ 2 สำหรับอีกหนึ่งหนังใหม่ อย่าง Act of Valor หนังแอ็กชั่นทหารรบ ที่อาจจะพิเศษกว่าหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ หน่อย ตรงที่ได้ทหารจากหน่วย SEAL ตัวจริง มาเป็นผู้แสดงนำนี่แหละ! ถือเป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดคอหนังแนวนี้ ซึ่งหวังจะได้เห็นการรบแบบสมจริง ได้ไม่น้อย ดูจากตัวเลขเปิดตัวสัปดาห์แรก ที่หนังทำไปได้ 5.8 ล้านบาท [b] ถือว่าโดดเด่นมากทีเดียว สำหรับหนังแนวแอ็กชั่นฟอร์มเดียวกันในช่วงนี้ (เรื่องที่เคยเปิดตัวมากที่สุด คือ [b]Safe House ทำเอาไว้ที่ 4.7 ล้านบาท) หากลองเทียบเคียงกับหนังแนวทหารด้วยกันทั้งหลายแล้ว เรื่องก่อนหน้า อย่าง Battle: Los Angeles อาจจะฟอร์มใหญ่ไปซักหน่อย เพราะผสมกลิ่นไซไฟค่อยข้างเยอะ เลยเปิดตัวแบบไม่เคอะเขิน ที่ 24.5 ล้านบาท ย้อนกลับไปอีกหน่อย อย่าง Green Zone เจสัน บอร์น ภาคตะวันออกกลาง เปิดตัวไปผิดฟอร์ม(แต่ไม่มากเท่าในบ้านเกิด) ที่ 12.5 ล้านบาท หรือหนังทหารกู้ระเบิด ดีกรีออสการ์ The Hurt Locker อาจจะเปิดตัวน้อยกว่าเยอะ เพราะฉายเพียงแค่ไม่กี่โรง เลยเปิดตัวไปที่ 6 แสนบาท หรือหนังทหารในดวงใจของใครหลายๆ คน อย่าง Black Hawk Down ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เพราะเคยเปิดตัวที่ 3 วัน 13 ล้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว!!! ส่วนด้านกระแส ออกมาค่อนข้างก้ำกึ่ง ใครที่อยากรู้ด้วยตัวเอง ก็รีบไปลองชม ก่อนที่หนังจะถูกเป่ากระเด็นตกโปรแกรมไปเสียก่อนนะครับ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:48:38

ความคิดเห็นที่ 10 ปล่อยพลังยึดบัลลังก์ อันดับ 1 ได้ตามคาด สำหรับเรียลลิตี้ฮีโร่(???)กลุ่มเกรียน Chronicle หลังจากที่ไปยึดบัลลังก์แชมป์ที่บ้านเกิดมาแล้ว ตัวหนังก็ย่อมถูกคอคนดูหมู่มากได้ไม่ยาก เมื่อมาพร้อมกับหน้าหนังโชว์เอฟเฟ็คสมจริง พร้อมกับแหวกกระแสหนังเรียลลิตี้ช่วงนี้ ที่มาพร้อมกับแนวผีสาง ผีสิงกันเกร่อหลายเรื่อง!! จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังจะดึงคนดูเข้าโรง ในช่วงเงียบเหงาแบบนี้ได้พอสมควร โดยสัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 8.3 ล้านบาท ถ้าพูดในฟากหนังเรียลลิตี้ ถือว่าทำได้ดีค่อนข้างมาก แต่ถ้าพูดในฝั่งหนังฮีโร่ ก็ถือว่าธรรมดา ค่อนไปทางน้อยด้วยซ้ำ (ซึ่งฟอร์มหนังก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอยู่แล้ว) สำหรับกลุ่มหนังเรียลลิตี้ทั้งมวล ถือว่าหนังเปิดตัวได้ดีมาก ดูจากบรรดาหนังเรียลลิตี้เรื่องก่อนหน้าที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปไม่นาน อย่างเรียลลิตี้ไล่ผี The Devil Inside ที่เปิดตัวสูงมากในกลุ่มไล่ผี ก็ยังทำได้ดีที่สุดไว้ที่ 2.4 ล้านบาท หรือดูเปิดตัวสุงสุดฝั่งเรียลลิตี้ซอมบี้ อย่าง Quarantine หนังรีเมคจากฝั่งสเปน ก็เปิดตัวได้สูงขึ้นมาอีกนิดหน่อย ที่ 2.6 ล้านบาท ขณะที่เปิดตัวสุงที่สุดในกลุ่มหนังเรียลลิตี้ก็คงหนีไม่พ้น Cloverfield ที่สร้างกระแสจากการเก็บงำความลับ และหน้าหนังฟอร์มใหญ่ไม่น้อย จึงสามารถเรียกคนดูมาร่วมมึนกับสัตว์ประหลาดได้ถึง 16.5 ล้านบาท (แซงหน้ารายได้รวมของต้นฉบับหนังเรียลลิตี้อย่าง The Blair Witch Project ไปแทบจะในทันทีด้วย!!!) ขณะที่ฝั่งหนังฮีโร่ อาจจะเทียบกันยากหน่อย เพราะไม่ได้มาจากการ์ตูน หรืออลังการเทียบเท่าเรื่องไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าเทียบฟอร์มใกล้เคียงกันหน่อย ก็คงเป็นอีกหนึ่งเกรียนอย่าง Kick-Ass ฮีโร่ขวัญใจเด็กแนว + นักวิจารณ์ แต่เปิดตัวในบ้านเราเหงาหงอยไปซักหน่อย ที่ 3.2 ล้านบาท ไม่รู้ว่าพลังเกรียนจะถูกใจวัยโจ๋มากแค่ไหน (เพราะกระแสก็ค่อนข้างก้ำกึ่งอีกเช่นกัน) ในเมื่อพลังจากดาวอื่น กำลังคืบคลานเข้ามารอขย้ำพวกเขาคาโรงกันอยู่แล้ว!!! แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 03:50:55 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:49:44

ความคิดเห็นที่ 11 พลังเกรียนไม่ค่อยจะรุนแรงเท่าไหร่ (กับก๊วนหนังใหม่ที่พร้อมใจกันหงอยๆ!) ทำให้ Top 10 สัปดาห์นี้ เก็บเงินไปเพียง 33.8 ล้านบาท มากกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (25.2 ล้านบาท) ไป 34% แต่น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (53.1 ล้านบาท) 37% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก ขึ้นเป็นแชมป์ ด้วยรายได้เปิดตัวแรงเกินคาด แต่โดนกระแสลบถล่มมากกว่าที่คิด (ตั้งแต่วันแรกๆ) รายได้เปิดตัวจึงหยุดอยู่ที่ 25.7 ล้านบาท จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:51:28

ความคิดเห็นที่ 12 สุดสัปดาห์หน้า นอกจากหนังเรื่องต่างๆ จะอาศัยวันหยุดวันมาฆบูชาเป็นวันเปิดตัววันแรกแล้ว(ในวันพุธ) ยังถึงเวลาที่หนังน้อยใหญ่ ต้องพากันหลีกทางให้แก่ “บล็อกบัสเตอร์” เรื่องแรกของปีนี้ ก็ว่าได้!!! เรื่องที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นหนังอลังสุดแหวกแนว ทุ่มทุนสร้างจากค่ายดิสนี่ย์ ดัดแปลงจากนิยายดัง เนรมิตขึ้นจอโดยเจ้าพ่อแอนิเมชั่นบ้านพิกซ่าร์อีกคน แอนดรูว์ สแตนตัน (ที่หลายคนเห็นแล้วถึงกับบอกว่า มันคือ Avatar + Conan + Prince of Persia ชัด!) ใน ”John Carter” ตามมาด้วยหนังไทย กับบรรยากาศรักๆ ท่ามกลางอุทกภัยที่เพิ่งผ่านพ้นไปของบ้านเรา ผลงานพะยี่ห้อจ้าวกระแส เจ๊พจน์ (อีกแล้วครับท่าน!) อย่าง ”รักเอาอยู่” และหนังจำกัดเครือ จากเรื่องจริง สร้างแรงบันดาลใจ ของวาฬติดทุ่งน้ำแข็ง ผลงานเรื่องล่าสุดของสาวแก่น ดรูว์ แบร์รีมอร์ ใน ” Big Miracle” ที่เหลือคืออีกสองหนัง เปิดตัวปกติในวันพฤหัส ไม่หวังชนใครๆ ทั้งหนังของหนุ่มหล่อ ออร์แลนโด้ บลูม ในบทหมอร้ายลึก อย่าง ”The Good Doctor” และ หนังญี่ปุ่นจำกัดโรง กับคำอธิษฐาน และ สองพี่น้อง ใน ”I Wish” บักจอน ดาวแดง จะแป้ก หรือจะเปรี้ยง??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=00991&c=11 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:52:02

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงสิ้นเดือนที ก็มาสรุปให้เห็นภาพกันอีกซักทีนะครับ สำหรับ Top 10 หนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ ที่เริ่มมีหนังทำเงินระดับสูงๆ เบียดตัวขึ้นมาหลายเรื่องอยู่ หัวเรือใหญ่แห่งปีก็ยังคงเป็น ATM อยู่เช่นเคย (และน่าจะเป็นอยู่เช่นนี้อีกซักพัก มีสิทธิ์ไปถึงซัมเมอร์โน่นเลย!!) ขณะที่วาเลนไทน์ ก็เบียดแวมไพร์สาว ขึ้นมาอยู่อันดับสองได้อย่างหวุดหวิด! ทำให้ถึงตอนนี้ ปีนี้มีหนังทำเงินผ่านหลัก 50 ล้าน ถึง 3 เรื่องเข้าไปแล้ว ในเวลา 2 เดือน (ซึ่งช่วงเวลานี้ของปีก่อน บ้านเราเพิ่งมีหนัง 50 ล้านแค่เรื่องเดียวอยู่เลยครับ!!! ส่วนผ่าน 40 ล้านก็มีเพียง 2 เรื่อง นั่นคือ เท่งโหน่ง จีวรบิน และ I Am Number Four) ขณะที่ต่ำกว่า Top 5 ลงไปก็ถือว่าเงียบเหงาในระดับน่าผิดหวังด้วยกันเกือบทั้งนั้น คาดว่าหากกลับมาสรุปอีกทีช่วงปลายเดือนหน้า อันดับต่างๆ คงเปลี่ยนแปลงไปอีกเยอะ และกลุ่มหนังฟอร์มยักษ์ คงขึ้นมาสร้างสีสันกันเป็นว่าเล่นแน่นอนครับ!!! แต่จะมีเรื่องไหนมาล้ม ATM ได้หรือไม่นั้น???? โปรดติดตามกันต่อด้วยใจระทึกล่ะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 03:53:00

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ จขกท ค่ะ ^^ เข้ามาดีใจกับ Hugo ฮิ้วๆๆๆๆๆ จากคุณ : LightenUp เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 07:05:37

ความคิดเห็นที่ 15 เหงาหงอยจริงครับสัปดาห์นี้ จากคุณ : เด็กภูเวียงโดยกำเนิด เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 07:53:34

ความคิดเห็นที่ 16 เดือนกุมภาพันธ์หนังจากฮอลลี่วู๊ดไม่มีหนังเรื่องไหนเด่น(ไม่นับหนังชิงรางวัล) จากคุณ : Fantomas (Fantomas) เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 10:47:31

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า รักเอาอยู่ แป๊กแหงๆครับ เจอ John Carter เข้าไป จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 13:25:42

ความคิดเห็นที่ 18 John Carter  มันส์มาก จากคุณ : ลัดลอบเลียบแล เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 17:00:52

ความคิดเห็นที่ 19 ปีนี้ดูหนังไทยไปเรื่องเดียวเองครับ ATM นอกนั้นหนังต่างประเทศทั้งหมด ปรกติดูมากกว่านี้ครับ เพราะค่าตั๋วอย่างเดียวเลยจริงๆ หนังต่างประเทศก็ดูน้อยลงครับเเต่ไปดูเเผ่นเเทน ค่าตั๋วมีผลกับเราเหมือนกันนะเนี้ยะไม่น่าเชื่อ ผมจะไปดู chronicle เพราะบทความนี้เเหละครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 22:59:30

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบพระคุณมากขอรับ  ^ ^ จากคุณ : xcessshin เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 01:44:48

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 19 เลยครับ ผมว่าค่าตั๋วที่แพงมหาโหด บวกกับตอนนี้หนังใหม่ลงแผ่นเร็วมาก ถ้าโรงหนังยังไม่ปรับตัว อีกหน่อยคนดูคงน้อยลงเรื่อยๆล่ะครับ จากคุณ : ar เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 11:12:55

ความคิดเห็นที่ 22 จะไปดูหนัง มีเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย ว่าจะดูเรื่องอะไรดี แบบว่า หน้าหนังมันไม่่ค่อยจะดึงดูดสักเท่าไหร่ จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 11:54:18

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ รอดู จอร์นคาร์ เตอร์ ท่านใดชมมาแล้ว ดูแบบ สามมิติ คุ้มมั้ยครับ จากคุณ : Brown_Label เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 12:33:46

ความคิดเห็นที่ 24 อยากดูรักสุดทีน จากคุณ : มิยุจังน่ารักค่ะ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 13:11:58

ความคิดเห็นที่ 25 อยากไปดู  chronicle  เหมือนกัน  แต่ก็คาดหวังว่า จะมี special effect มากกว่านี้  ถ้ามีเฉพาะที่ตัดมา โฆษณา  คงเสียความรู้สึกอ่ะค่ะ จากคุณ : อะตอม (atom magazine) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 15:38:03

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากครับ จะติดตามต่อไปอีก จากคุณ : endofday เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 03:05:43

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : RING BEARER (ball_13) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 09:47:09

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าจะดู 3 เกรียนเอาตังค์ไปเสียให้กับ บักจอน ดาวแดงดีกว่าครับ จากคุณ : หมีน้อย คอยรัก เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 13:23:38

ความคิดเห็นที่ 29 HUGO อยากไปดูแต่ยังไม่มีเวลาไปเลย มีคนไปดูบอกว่าสนุก แต่ทำไมรายได้น้อยจังเลย จากคุณ : KINKIMONO เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 21:05:43

ความคิดเห็นที่ 30 Hugo ฉายแค่ 4 โรงเท่านั้นครับ ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเยอะมากแล้วครับ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 21:58:32

ความคิดเห็นที่ 31 จขกท ทำ infographic ได้สวยงามเข้าใจง่ายมากเลยค่ะ ^^ จากคุณ : it doesn't mean i don't miss u เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 01:15:07