[Trans NEWS] พบแฟนซาแซงที่สถานที่จัดงานศพคุณพ่อของปาร์คยูชอน
Encountered Saseng fans at the funeral parlor of Park Yoochuns father
Translated by: @dlwpdldhkdlwp
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง
ในวันที่ 14 มีนาคม คุณพ่อของปาร์คยูชอน วง JYJ ได้จากโลกนี้ไปด้วยอาการป่วยเรื้อรัง ณ สถานที่จัดงานศพที่จัดเตรียมขึ้นที่โรงพยาบาลซังโมในเขตคังนัม กรุงโซล ผู้คนมากมายและนักข่าวต่างไปรวมตัวกัน แฟนซาแซงที่ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของดารา พวกเธอมายังสถานที่จัดงานศพแม้จะเสี่ยงเพราะประเด็นความขัดแย้งเมื่อไม่นานมานี้ด้วยหรือ?
ในวันที่ 14 มีนาคม เวลาหนึ่งทุ่ม สถานที่จัดงานศพที่ชั้นสองของโรงพยาบาลซังโมในเขตคังนัมนั้นเงียบสงบอย่างคาดไม่ถึง ที่ล็อบบี้ของชั้นสองมีบอดี้การ์ดที่คอยปิดกั้นบันไดและลิฟต์ รวมถึงกันเหล่านักข่าวและผู้ที่ร่วมแสดงความเสียใจจากงานศพอื่นๆ การรักษาความปลอดภัยของบอดี้การ์ดนั้นเข้มงวดมากขึ้น อาจเนื่องด้วยเรื่องอื้อฉาวกับแฟนซาแซงเมื่อไม่นานมานี้ เพราะว่าเราไม่เห็นแฟนซาแซงที่ชั้นสอง เราจึงไปที่ลานจอดรถซึ่งมักจะเป็นที่ที่พวกเธออยู่
ลานจอดรถถูกแบ่งเป็นสองชั้น ที่ต่างจากที่ล็อบบี้คือที่นั่นมีนักเรียนซึ่งดูเหมือนจะเป็นแฟนๆ ที่ใส่ชุดนักเรียนมารวมตัวกันเป็นหลายๆ กลุ่ม มีผู้คนมารวมตัวกันมากขึ้นเมื่อถึงเวลาดึก
- ฉันทิ้งเขาไว้เพื่อไปเรียนพิเศษไม่ได้...
นักเรียนหญิงมัธยมปลายคนหนึ่งปรากฎตัวที่ล็อบบี้ของชั้นสอง เธอดูเหมือนจะมาจากโรงเรียนและเดินเข้ามาด้วยสีหน้าหนักใจ นักเรียนหญิงคนนั้นยืนอยู่พักหนึ่งและโทรหาเพื่อนของเธอ เธอพูดว่า "ฉันมาทันทีที่โรงเรียนเลิกและจะอยู่รวมพิธีเฝ้าศพจนกว่าจะถึงเวลาที่ฉันต้องไปเรียนพิเศษ" หลังจากคุยโทรศัพท์ เธอนั่งลงบนโซฟาด้านข้างของล็อบบี้และจ้องมองไปยังทางเข้าของสถานที่จัดงานศพซึ่งมีบอดี้การ์ดคอยกันอยู่ด้วยสายตาเลื่อนลอย เราเข้าไปหานักเรียนคนที่นั่งอยู่บนโซฟาคนนี้
นักเรียนหญิงมัธยมปลายคนนี้เรียนอยู่เกรด 10 และบอกว่าเธอมาถึงยังสถานที่จัดงานศพราว 6 โมงเย็น เธอมาทันทีที่ได้รับข่าวทางโทรศัพท์ เธอได้รับแจ้งข่าวเรื่องสถานการณ์ที่สถานที่จัดงานศพผ่าน Kakao Talk และบอกว่า "หนูอยากจะซื้อดอกเบญจมาศนะคะแต่หนูไม่มีเงิน หนูเอาดอกเบญจมาศมาจากพวงหรีดและเขียนจดหมายถึงปาร์คยูชอนค่ะ"
แน่นอนว่าเธอไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่จัดงานศพได้ เธอบอกว่าพนักงานของบริษัทต้นสังกัดคนหนึ่งรับดอกไม้และจดหมายไป บอกว่าเขาจะส่งมันให้ เธอกระทืบเท้าในขณะที่พูดว่า "หนูต้องไปเรียนพิเศษตอนสี่ทุ่ม หนูหวังว่าจะได้เข้าไปแสดงความเสียใจค่ะ"
- ฉันมาเพื่อแบ่งปันความเศร้าโศกของปาร์คยูชอนจากใกล้ๆ
ในขณะที่พวกเรากำลังสนทนากันอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุราว 30 กว่าปีก็เข้ามาหา ผู้หญิงคนนั้นถามนักเรียนว่า "หนูเป็นแฟนของใครกันจ๊ะ?" ผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่ล็อบบี้ชั้นสองตั้งแต่นักข่าว Life Today มาถึงก็เป็นแฟนของปาร์คยูชอนเหมือนกัน! เธอมายังสถานที่จัดงานศพหลังจากเห็นใบหน้าที่เศร้าโศกของปาร์คยูชอนที่สนามบินอินชอน เธอรู้สึกกระวนกระวายที่ไม่สามารถเห็นหน้าของปาร์คยูชอนซึ่งเข้าไปยังสถานที่จัดงานศพตอนประมาณ 6 โมงเย็นเพราะเธอมาถึงที่นี่ตอนหกโมงครึ่ง
เธอบอกว่า "ดิฉันมาที่นี่เพราะอยากจะกล่าวลาแก่คุณพ่อของยูชอนค่ะ ยูชอนดูหดหู่จริงๆ ตอนที่ฉันเห็นรูปภาพในบทความ ฉันอยากจะเข้าไปที่สถานที่จัดงานศพเพื่อเห็นหน้าของเขาและแสดงความเคารพ แต่พวกเขาไม่ยอมค่ะ ฉันจะออกมาหลังจากแสดงความเคารพนะคะ..." ผู้หญิงคนนี้มาเพื่อแบ่งปันความเศร้าของปาร์คยูชอนจากใกล้ๆ เธอยังนำเงิน 500,000 วอนมาเพื่อร่วมแสดงความเสียใจ เธอบอกว่าเธอรู้สึกละอายที่เธอนำมาได้เท่านี้แม้ว่าเธออยากจะให้มากกว่านี้
- "มาโทรบอกกันเวลาเรารู้เบอร์โทรศัพท์ของสมาชิกวงนะ"
หลังจากแบ่งปันข้อมูลทั่วๆ ไป นักเรียนหญิงมัธยมปลายและผู้หญิงคนนั้นแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับ JYJ ที่พวกเธอทราบและพัฒนาความสัมพันธ์จากความเห็นอกเห็นใจ หลังจากพักหนึ่ง ผู้หญิงถามนักเรียนว่าเธอทราบเบอร์โทร (ของเหล่าสมาชิกวง) หรือไม่ นักเรียนมัธยมปลายตอบว่า "มีคนบอกหนูตอนที่หนูไปตามพวกพี่ๆ หนูกดเบอร์และโทรไป เบอร์มันถูกนะคะ" ผู้หญิงคนนั้นแสดงความสนใจและขอรายละเอียดเมื่อนักเรียนบอกว่าเธอรู้เบอร์โทรของพวกเขา จากนั้นพวกเธอแลกเบอร์โทรศัพท์กันเพื่อที่จะสามารถแลกเบอร์ของสมาชิกวงได้ถ้าทราบ
พวกเธอเริ่มเป็นห่วงปาร์คยูชอนโดยกล่าวว่า "เขาคงจะยังร้องไห้อยู่ใช่ไหมคะ?" "หน้าของเขายับเยินไปหมด" ฯลฯ และพวกเธอมองไปยังทางเข้าของสถานที่จัดงานศพ จากนั้นพวกเธอหาบทความข่าวในสมาร์ทโฟน ผู้หญิงคนนั้นจ้องรูปที่ปาร์คยูชอนที่ร้องไห้ที่สนามบินและสะอึกสะอื้น ช่วงเวลาประมาณห้าทุ่ม นักเรียนหญิงลุกขึ้นจากโซฟา ผู้หญิงคนนั้นขอให้เธออยู่ด้วยกันก่อน แต่นักเรียนเดินออกไปหลังจากที่บอกว่า "หนูอยากจะอยู่นะคะแต่ต้องไปแล้วล่ะค่ะ" นักข่าวจาก Life Today ผู้หญิงคนนั้นว่าเธอจะอยู่จนถึงกี่โมง เธอตอบว่า "ฉันเอารถมาด้วยน่ะค่ะ ค่าจอดรถคงจะแพงมากเลย... ฉันจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหมนะ? (ยิ้ม) ฉันจะได้เห็นหน้าเขาไหมถ้าอยู่ที่นี่?"
- ฉันไม่มีชีวิตส่วนตัวหรอก ชีวิตส่วนตัวของพี่ๆ นั่นแหละคือชีวิตของฉัน!
นักข่าวจาก Life Today ได้พบกับคุณ 'เอ' อดีตแฟนซาแซงที่สถานที่จัดงานศพและได้สัมภาษณ์เธอ เราได้รับรู้ถึงชีวิตของแฟนๆ ซาแซงจากปากคุณ 'เอ'
Q: สังคมโกรธเรื่องปัญหาของแฟนซาแซง ภาพลักษณ์ที่สื่อเป็นคนบรรยายเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ?
A: ส่วนใหญ่ก็จริงค่ะ มีแฟนๆ ที่ใช้แท็กซี่ซาแซง มีแฟนๆ ซาแซงหลายคนเหมือนกันที่รู้เบอร์ของสมาชิกวงและแอบเข้าไปในบ้านของพวกเขา
Q: ทำไมพวกเธอถึงใช้แท็กซี่ซาแซงคะ?
A: สำหรับฉันแล้ว ฉันเริ่มนั่งแท็กซี่ก็เพราะฉันสงสัยว่าพี่ๆ ทำอะไรตอนดึกๆ แฟนซาแซงส่วนใหญ่อยากจะไปยังสถานที่ส่วนตัวมากกว่าไปตามตารางงานหรือไปร้านทำผมและที่ออกกำลังกายที่คนอื่นๆ ก็รู้เหมือนกัน ไม่มีอะไรที่เราอยากจะทำหรอกค่ะ เราแค่พอใจที่ได้รู้ว่าพวกเขาไปเจอกับใครที่ไหนและกินอะไร ฯลฯ อีกอย่าง มีแค่พวกที่เริ่มต้นเป็นแฟนซาแซงเท่านั้นที่ใช้แท็กซี่ซาแซง ถ้าคุณทำไปพักนึงแล้ว คุณจะรู้จักบาร์และห้องเล่นเนทที่พวกเขาไปบ่อยๆ และแบ่งปันข้อมูลเรื่องนี้กับแฟนซาแซงที่สนิทๆ กัน คุณสามารถหาพวกเขาเจอโดยไม่ต้องใช้แท็กซี่ซาแซงค่ะ
Q: ฉันได้ยินว่ามีนักขับแท็กซี่ซาแซงมืออาชีพด้วย เรื่องจริงรึเปล่าคะ?
A: แน่นอนค่ะ มีคนขับแท็กซี่ที่โทรมาหาเราอยู่เสมอๆ บางทีพวกเขาก็บอกเราว่าพี่ๆ อยู่กันที่ไหน พวกเขากระตือรือร้นมากๆ เพราะแท็กซี่ซาแซงเป็นอาชีพของเขาเลย พวกเขาแบ่งปันข้อมูลระหว่างคนขับแท็กซี่ด้วยกันด้วยค่ะ
Q: คุณคงจะต้องใช้เงินมากถ้าคุณตามพวกเขาตลอดวันหรือใช้แท็กซี่ คุณหาเงินนั้นมาจากไหนคะ?
A: นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายได้เงินมาจากที่บ้าน นักเรียนบางคนใช้เงินค่าเรียนพิเศษและนักเรียนบางคนทำงานพาร์ทไทม์ พวกเธอทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อตามเวลาที่พี่ๆ ไม่ค่อยได้ไปไหน มีนักเรียนหลายคนที่ออกจากโรงเรียนหรือไม่กลับไปบ้าน
Q: ฉันได้ยินว่ามีแฟนซาแซงที่แอบเข้าไปในบ้านของพวกเขาด้วย
A: มีเยอะแยะค่ะ ในอดีต มีแฟนซาแซงมากมายที่แอบปั๊มกุญแจ เวลาพี่ๆ ไม่อยู่ พวกเราเข้าไปในหอพักเพื่อดูว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ไปนอนที่เตียงของพวกเขา... เราเข้าไปเพราะสงสัยว่าพวกเขาอยู่กันแบบไหนค่ะ
Q: มีแฟนซาแซงที่แอบเข้าไปในบ้านและพยายามจะสัมผัสหรือจูบดาราเวลาที่พวกเขากำลังหลับอยู่ด้วย
A: นั่นเป็นการละเมิดกฎค่ะ มีกฎระหว่างแฟนซาแซงเหมือนกัน ซึ่งรวมถึงการไม่เข้าไปในหอพักเวลาที่พี่ๆ อยู่ ไม่สัมผัสตัวพวกเขา ฯลฯ แฟนซาแซงที่บุกเข้าไปและพยายามจะจูบพวกพี่ๆ ถือว่าแหกกฎค่ะ ฉันได้ยินว่าแฟนซาแซงที่เข้าไปพยายามจะจูบในหอพักถูกทำร้ายโดยแฟนซาแซงคนอื่นๆ ค่ะ
Q: คุณตามพวกเขาแบบนั้นเหมือนกันรึเปล่าคะ?
A: ในตอนแรก พวกเราไปที่หอพัก ออฟฟิศหรือสถานที่อื่นๆ ที่จะได้เห็นตัวจริงของพวกเขา เราจะได้เห็นพวกเขาสัก 5 หรือ 10 วินาทีถ้าเรารออยู่ เราเริ่มได้เห็นมากขึ้นและกลายเป็นไล่ตามชีวิตส่วนตัวของพวกเขา ในขณะที่พี่ๆ เดินทางไปต่างประเทศ มีแฟนซาแซงที่ตามพวกเขาไปด้วยเหมือนกันค่ะ แฟนซาแซงพวกนั้นแอบมองเขาโดยการขึ้นเครื่องบินลำเดียวกัน จากนั้นพี่ๆ เริ่มรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของฉันและฉันรู้สึกมีความสุขกับเรื่องนั้นค่ะ แม้ว่าแฟนๆ ซาแซงจะรู้ว่าพี่ๆ เกลียดเรื่องนี้ แฟนซาแซงอยากจะเป็นที่จดจำโดยใช้กลวิธีแบบนั้นล่ะค่ะ
แฟนซาแซงซึ่งอยากจะเห็น 'พี่ๆ' แบบใกล้ชิดและอยากให้พี่ๆ จดจำพวกเธอได้ ความปรารถนาของพวกเธอล้ำเส้นในขณะที่การกระทำกลายเป็นอาชญากรรมอย่างการบุกรุกและติดตามตัว ฯลฯ... ไม่มีใครเห็นว่าการกระทำของพวกเธอเป็นความรักที่สวยงามจากวัยรุ่นหญิงสาวอีกแล้ว แฟนซาแซงต้องรับรู้ว่าพวกเธอกำลังก่ออาชญากรรมและสามารถถูกลงโทษได้
น่าเสียดายที่ไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายใดๆ ที่จะลงโทษพวกเธอ มันควรจะมีมาตรการทางกฎหมายที่สามารถทำให้แฟนซาแซงรับรู้ว่าพวกเธอไม่ใช่เพียงแต่ทำลายชีวิตของดารา แต่กำลังทำลายชีวิตของตัวเองอยู่ด้วย