ใช่ๆ เปิ้ล เวลาใกล้สุก อร่อยโคตรรรรร เนื้อเงี่ยเหลืองปนส้ม อยากกิน ๆๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆ ขออภัยป้าชารป์ ขอคุยเรื่องกินก่อน คริๆๆ
เรื่องถูกแย่งลูกน้อง เคยเจอ แค้นนนนมาก แต่ก็จัดการมาได้แบบฉิวเฉียด เรื่องมีอยู่ว่า เด็กอยู่ๆก็ยื่นใบลาออก แบบไม่มีที่ท่าว่าจะออกมาก่อน แน่นอนก่อนออกต้องสอบถามว่าเหตุใดจึงจะออก ผลปรากฎว่ามีการซื้อตัวเกิดขึ้น ไปอยู่ที่ใหม่ บริษัทระดับแนวหน้า เงินเดือนสูงกว่า 2.5 เท่า มีโอกาสก้าวหน้า ที่ทำงานดูอินเตอร์
จึงอธิบายไปว่า แล้วเราคิดว่าเขาจะเก็บเราได้นานแค่ไหน เพราะเขาจะ set งานใหม่ เขาจึงคิดแบบบริษัทฯใหญ่ๆคิด คือซื้อตัวคนเก่งที่เป็นงานแล้วให้มา set งานให้ เมื่องานลงตัว แล้วไงต่อ เราจะอยู่ตำแหน่งนี้ได้นานอีกกี่ปี เคยคิดหรือไม่ว่า เขาจะเขี่ยเราทิ้ง เมื่องานลงตัวแล้ว มันเหมือนกับเขาให้เธอหว่าน แต่เขาเป็นคนเกี่ยว นี่เป็นวิธีคิดของผู้บริหาร ( ที่ประสบความสำเร็จในแง่ทุนนิยมสุดโต้ง ) ถ้าเธอรับแบบนั้นได้ก้ไป แต่ถ้าเธอคิดว่า จะเอาบริษัทใหญ่ๆอย่างเขาไปเป็นสะพานเพื่อให้ resume สวยๆว่าผ่านงานกับบริษัทนี้มา อันนี้เธอต้องรีบไปอยู่กับเขา 2 ปี พอ แล้วรีบไปที่อื่น ที่อื่นจะรีบรับเธอเข้าทำงานทันที
แต่พี่ไม่คิดแบบผู้บริหารคิด พี่คิดไสตล์พ่อค้า การสร้างอะไรขึ้นมาต้องใช้ทีม เมื่อทีมผู้สร้าง ทำสำเร็จ เวลาที่เหลือจะเป็นเวลาเก็บเกี่ยวประโยชน์ที่ทุ่มเทมาด้วยกัน
เคยได้ยินคำว่า เป็นหนึ่งในเมืองสอง ดีกว่าเป็นรองในเมืองเอกไหม ไปคิดดู ให้เวลาอีก 1 วัน หากยังตัดสินใจจะไป ก็ยินดีด้วย ถือว่าไปดี ไปที่ใหญ่กว่า
สุดท้ายก็อยู่ต่อค่ะ อยู่กันมายาวจนเข้าปีที่ 14 ฮ่าๆๆๆ แบบว่าคาดเดาถูกจริงด้วย เพราะพอเด็กไม่ไป เขาหาผู้จัดการท่านอื่นทำงานได้ เด็กที่ทำงานมันใกล้กัน ( ลืมบอกไปมาดึงเด็กกันแบบ 2 ห้องแถวแค่นั้น ใกล้มว๊ากกก ) เขาก็คุยกันไง สุดท้ายผู้จัดการท่านนั้น พอ set งานได้ที่ อยู่อีก 2 ปี ก็ต้องอำลา วิธีอำลาไม่ให้ช้ำคือ ตั้งเป้าไว้สูงๆ ให้ผู้จัดการเกินเอื้อม แค่นี้ก็เรียนเชิญได้แล้ว ร้องห่มร้องไห้กัน
ไอ้เด็กเราบอก ดีนะหนูไม่ไป ถ้าไป ป่านนี้ รถหนู บ้านหนู คงจะแย่ เอาตังค์ที่ไหนมาผ่อน
ว่าแต่คำตอบพอจะช่วยป้าได้ป่าวเนี่ย