Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
John Carter: ดิสนี่ย์ขาดทุน 200 ล้าน ติดต่อทีมงาน

ดูเหมือนว่าอนาคตของหนัง John Carter จะไม่สดใสเอาเสียเลย หลังจากเปิดตัวในสหรัฐด้วยรายได้ที่ค่อนข้างต่ำเพียง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตามรายงานระบุว่าดิสนี่ย์ใช้ทุนสร้างไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐ และงบด้านการตลาดอีก 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งด้วยงบประมาณระดับนี้ หนังต้องทำรายได้ทั่วโลกอย่างน้อย 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงจะได้ทุนคืน แต่ดูเหมือนว่าคงเป็นไปไม่ได้ ล่าสุดดิสนี่ย์ออกแถลงการ ( via Deadline ) ว่าหนังคงจะขาดทุนราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐครับ


รายงานจากการวิเคราะห์จากวงในของวอลสตรีทบอกมาก่อนหน้านี้ว่าหนังน่าจะขาดทุนราว 160 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอิงจากคะแนน Cinemascore จากผู้ชมหลังจากชมมาแล้วที่ให้หนังได้ B+ กับคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ที่ก้ำกึ่ง แต่หนังก็ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ลดฮวบไปถึง 55% ซึ่งทำให้ผู้บริหารของดิสนี่ย์ออกแถลงการออกมาว่า หนังน่าจะขาดทุนมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้


สาเหตุที่หนังขาดทุนมากมาย จากการวิเคราะห์ของสื่อต่างๆ เท่าที่ผมอ่านดูบอกว่าแม้คำวิจารณ์ที่ไม่สู้ดีจะเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุผลสำคัญที่สุด หนังมากมายที่คำวิจารณ์ไม่ดี แต่ได้กำไรมหาศาลก็มี และสาเหตุที่ถูกมองว่าตัวการสำคัญที่สุดน่าจะเป็นการทำตลาดของหนังเรื่องนี้เองที่กว่าจะทำให้ผู้ชมโดยส่วนใหญ่ประทับใจได้ก็มาถึงช่วง 1-2 สัปดาห์ ฝ่ายการตลาดใช้เวลาส่วนใหญ่ไปในการพยายามทำให้หนังเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ชมที่เป็นผู้หญิง ทำตัวอย่างหนังที่เน้นไปในเรื่องความสัมพันธ์ของจอห์น คาร์เตอร์ กับเจ้าหญิงเดจาห์ ธอริส เป็นหลัก รวมถึงการตัด of Mars ออกไปจากชื่อแรกที่ตั้งใจจะให้เป็นชื่อหนัง กว่าที่ดิสนี่ย์จะเน้นการตลาดแก่กลุ่มคอหนังไซไฟจริงๆ ก็มาตอน 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนหนังฉายแล้ว อาจดีกว่านี้หากดิสนี่ย์ตั้งใจทำการตลาดเพื่อเน้นกลุ่มคอหนังไซไฟแบบ Star Wars หรือ Avatar ตั้งแต่ทีแรก


อีกหนึ่งปัจจัยที่เกี่ยวกับด้านการตลาดก็คือตัวผู้กำกับแอนดรูว์ สแตนตันเอง ที่ตามรายงานบอกว่าเข้ามาควบคุมความคิดสร้างสรรค์ด้านการตลาดมากเกินไป และผู้บริหารของดิสนี่ย์ก็ดูจะตามใจสแตนตันเกินไป เพราะกลัวว่าสแตนตันจะทิ้งโครงการหนังไปหากไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ ดิสนี่ย์ต้องการใช้ความสำเร็จของสแตนตันจาก Wall-E และ Finding Nemo มาช่วยขายหนังด้วย แต่หนังก็ไม่อาจทำออกมาได้ในระดับเดียวกัน


ตัววัตถุดิบหลักที่เอามาสร้างก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่มีการพูดถึงว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้หนังไม่ประสบความสำเร็จ งานเขียนต้นฉบับของเอ็ดการ์ ไรซ์ เบอโรห์ ชุดนี้ มีอายุเก่าแก่ถึง 100 ปี ทำให้ผู้ชมรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จัก และการที่เป็นนิยายที่มีอิทธิพลต่อหนังไซไฟหลายเรื่องอย่าง Star Wars, Avatar และ Dune แต่หนังถูกสร้างทีหลังสุด ก็ทำให้สิ่งที่อยู่ในหนังเหมือนเชยไปแล้ว


และสุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นเรื่องงบประมาณที่ใช้ทุนสร้างราว 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งที่ไม่ควรต้องมากขนาดนี้ หนังใช้ทุนสร้างมากกว่า Avatar ของเจมส์ คาเมรอน (237 ล้านเหรียญ) ด้วยซ้ำ


อย่างไรก็ดี ในแถลงการณ์ของดิสนี่ย์ให้ความมั่นใจว่าแม้ John Carter จะขาดทุนสูงมาก แต่ก็คงไม่กระทบกับผลประกอบการณ์โดยรวมเท่าไหร่ เพราะคาดว่าจะต้องได้กำไรมหาศาลจาก Brave หนังอนิเมชั่นเรื่องใหม่ในเครือที่พิกซาร์ และ The Avengers หนังซูเปอร์ฮีโร่ในเครือมาร์เวล ที่เป็นบริษัทลูกของดิสนี่ย์ครับ

ที่มา http://jediyuth.wordpress.com/2012/03/20/disney-to-lose-200-mil-on-john-carter/

จากคุณ : JEDIYUTH
เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 10:05:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com