บทที่ 10
เมื่อวานฉันโทรไปหาเธอตั้งหลายครั้งเลยนะ คุณเซนโจงาฮาระพูดออกมาอย่างนั้น หลังจากปั้นหน้ากลับไปเป็น คูลบิวตี้เหมือนเดิม สภาพการปรับอารมณ์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว จนน่าจะให้รางวัลการแสดงยอดเยี่ยม แต่ก็ขัดกับสภาพรอบดวงตาที่ยังคงแดงช้ำ จึงดูขัดกัน เทียบกับตัวฉัน คงจะมีปัญหาเรื่องที่นอนแน่ๆล่ะ ที่ทำให้สภาพหัวยุ่งตอนตื่นนอน มันออกมารุนแรงขนาดนี้ (จนถูกเรียกว่า ซูเปอร์ฮาเนคาวะ) สภาพที่ดูขัดๆไม่เรียบร้อย จึงไม่แตกต่างอะไรกับคุณเซนโจงาฮาระเลย
แต่ฉันยังคงคิดว่า คุณเซนโจงาฮาระ เธอสุดยอดจริงๆ ที่กลับมาเงียบขรึมได้อย่างกับว่า ที่ร้องห่มร้องไห้เสียยกใหญ่เมื่อซักครู่นี้ เป็นแค่การแกล้งร้องไห้ไปเท่านั้นเอง ยอมรับจากใจเลยว่า มันดูน่ารักมาก จนแทบจะลืมเรื่องสภาพหัวยุ่งของตัวเองไปเลย
ฉันไม่เคยรู้ว่า อารมณ์ของคนที่บ้านพึ่งจะโดนไฟไหม้มันเป็นยังไง.... และคิดไปว่า เวลาเจอแบบนี้อาจจะไม่อยากคุยกับใครก็ได้ ก็เลยตั้งใจว่าจะไม่โทรมาหาแล้วล่ะ แต่ทนเป็นห่วงไม่ไหว สุดท้ายก็ต้อง เอ้า โทรมันซะเลยดีกว่า แต่โทรตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่ติดซักที อ๋อ ขอโทษ ฉันปิดเครื่องไปน่ะ ฉันตอบกลับไป
พอลองคิดถึงเรื่องว่า จากนี้ต้องใช้ชีวิตแบบเซอไววัล ไปอีกซักพัก เลยตั้งใจว่าจะประหยัดเอาไว้หน่อยดีกว่า
ที่ไม่ยอมใช้โทรศัพท์มือถือ ตั้งปลุกแทนนาฬิกา ส่วนหนึ่งเพราะว่าฉันเชื่อมั่นนาฬิกาในร่างกายของตัวเอง แต่มันก็มีเหตุผลที่ค่อนข้างจะจริงจังรองรับเรื่องที่ฉันปิดมือถือไปนี้อยู่ นั่นคือ ฉันไม่คิดว่าทางโรงเรียนจะยอมให้ฉันไปชาร์จแบตด้วยปลั๊กของโรงเรียนง่ายๆขนาดนั้น (ถึงที่จริงถ้าอธิบายเหตุผลไป อาจจะได้รับอนุญาต ยังไงก็ตาม โดยปกติแล้ว มือถือถูกห้าม ไม่ให้ใช้ในโรงเรียน)
จริงๆเลยนะ จะซื่อตรงไปถึงไหนกัน...... ไปแอบเสียบปลั๊กชาร์จที่ไหนเอาก็ได้
แบบนั้นมันก็ ขโมยไฟฟ้าเค้าใช้น่ะสิ
เพราะอย่างนั้น ฉันถึงได้วิ่งวนไปทั่วเมืองเลยนะ ไปถามคนโน้นทีคนนี้ที จนรู้ว่า คุณฮาเนคาวะ บอกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน แต่ก็ไม่ได้ยินเลยว่ามีใครในห้อง ให้คุณฮาเนคาวะมาค้างที่บ้านเมื่อวานนี้
ไปถามกับใครมาบ้างล่ะเนี่ย
เท่าที่มีในลิสท์รายชื่อให้ติดต่อได้
..........
คุณเซนโจงาฮาระ ผู้เป็นโรคหวาดกลัวผู้คน ที่แสดงท่าทางไม่สนใจจะสนทนาปราศัยกับใครเลยมาตลอด คนนั้น ......เติบโตขึ้นแล้วสินะ
แต่เพราะการเติบโตครั้งนี้ ทำให้เรื่องที่ฉันหายสาบสูญ ติดต่อไม่ได้ เป็นที่รู้กันไปทั่วชั้นเรียน ในชั่วข้ามคืน..... จะว่ายังไงดีล่ะเนี่ย
แล้วต้องขอโทษอีกเรื่อง คือ ฉันไปพบคุณพ่อคุณแม่ของคุณฮาเนคาวะมาแล้วล่ะ
เอ๋
ตกใจเลย หมายความว่าไปหาสองคนนั้น ถึงโรงแรมที่พวกเขาพักอยู่น่ะเหรอ อืม ถ้าตั้งใจจริง ก็น่าจะตามข่าวจนเจอที่อยู่ได้ อย่างนั้นเลยเหรอ.... จะว่าไปก็ไม่ใช่ว่าไปหลบซ่อนตัวอะไร แล้วยังไงก็คงต้องแจ้งที่อยู่ไว้เผื่อกรณีต้องมีไปรษณีย์มาส่ง ไม่สิ อันที่จริงคุณเซนโจงาฮาระ คงจะดั้นด้นไปหาถึงโรงแรม ด้วยความมั่นใจว่าฉันจะต้องอยู่นั่นแน่ๆ
งั้นเหรอ คุณเซนโจงาฮาระ ได้เจอ.... คุณพ่อ กับคุณแม่แล้วสินะ
ไม่เห็นจะต้องไปเรียกคนพรรค์นั้นว่า คุณพ่อคุณแม่เลยไม่ใช่เหรอ?
คุณเซนโจงาฮาระ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยมากๆ ที่ยิ่งกว่าน้ำเสียงเรียบเฉย คือท่าทางขุ่นเคืองไม่พอใจ เมื่อเธอเป็นคนประเภทที่ ไม่สามารถเดาอารมณ์จากการแสดงสีหน้าได้อย่างเด็ดขาด แต่พักนี้เธอเริ่มแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้บ้างแล้ว ทั้งอารมณ์ยินดี อารมณ์เสียใจ รวมถึงอารมณ์โกรธ .....ท่าทางว่า จะได้พบกับการต้อนรับตามแบบฉบับ มาพอสมควรเลย พวกเขาเองน่าจะแสดงออกทางสีหน้าอีกซักหน่อยก็ได้แท้ๆนะ จะว่าไปช่วงโกลเดนวีค คุณโอชิโนะ ก็ได้รับการต้อนรับที่เลวร้ายไม่แพ้กัน แต่ถึงยังไงก็เถอะ ตัวฉันที่ไม่มีอะไรจะพูดต่อสถานการณ์ที่พวกเขาได้พบ ก็คงออกความเห็นอะไรไม่ได้ ไม่รู้จะช่วยแก้ตัวให้พวกเขายังไง
แบบนี้คงมีเรื่องอะไรเยอะเลยสินะ เอาเถอะ ฉันไม่คิดจะละลาบละล้วงหรอก
ตัวเธอที่ไม่เคยรู้เรื่องราวที่ซับซ้อนของครอบครัวฉัน เปลี่ยนหัวข้อกลับไปหาเรื่องเดิม โดยไม่ก้าวก่าย ความผิดปกติ และความไร้ไมตรีต่อกัน ของบ้านฮาเนคาวะ ผิดกับอารารากิคุงเลย ท่าทีนั้นสมกับเป็นตัวเธอมาก จนรู้สึกเลยว่าน่าหลงไหล
หลังจากนั้นฉันก็ตามหาแบบเดาสุ่มไปเรื่อยๆ จนดึกดื่นล่วงเลยมาเช้าวันนี้ แล้วถึงจะนึกได้ว่า ยังมีที่นี่อยู่อีก ไม่สิ ที่จริงฉันก็คิดถึงที่นี่ไว้เหมือนกัน แค่ไม่อยากจะคิดว่า เด็กผู้หญิงวัยเดียวกันกับฉัน จะกล้ามาพักค้างแรมในตึกร้างที่เปลี่ยวขนาดนี้.... คิดแต่ว่า ไม่ใช่หรอกน่า ไม่มีทาง ไม่น่าจะใช่เด็ดขาด ถึงได้วนมาดูที่นี่เป็นที่สุดท้าย
หืม อื๋อ? หรือว่า คุณเซนโจงาฮาระ ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ?
ไม่ใช่หรือว่าหรอก คุณเซนโจงาฮาระ ไม่ได้นอนทั้งคืนน่ะสิ ตามหาทั่วเมืองตลอดทั้งคืนจนโต้รุ่ง เรียกย่อๆว่าตามตลอดรุ่ง คุณเซนโจงาฮาระสำทับว่า เพราะอย่างนั้น ตอนที่เจอคุณฮาเนคาวะ ถึงได้ตื่นเต้นมากเกินไปจนร้องไห้ออกมา เป็นข้ออ้างที่น่ารักมากจริงๆ อนึ่ง ถึงจะทำอะไรหรือไม่ได้ทำอะไร แต่ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ก็เรียกแค่ว่า โต้รุ่งเหมือนกัน
..... เด็กผู้หญิงวัยรุ่นเดินไปมาในเมืองตลอดทั้งคืน มันก็อันตรายพอๆกันนะ
ถ้าพูดถึงขนาดนั้นฉันก็เถียงไม่ออกแล้วล่ะ
คุณเซนโจงาฮาระ เสริมว่า เพราะฉันเป็นคนประเภทที่ ทำอะไรแล้วจะไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่ พอดูอีกที ก็พบว่าเธออยู่ในชุดกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิต ที่ค่อนข้างลำลองทีเดียว และยังมีเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว ซึ่งสื่อความหมายออกมาได้ว่า เธอวิ่งไปมาอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับคุณคันบารุ จนมาถึงที่นี่
ขอบคุณ
ฉันพูดขอบคุณสั้นๆ พยายามจะไม่แสดงอารมณ์ออกมามากเกินไป และลุกลงจากเตียง ไม่ปวดตัวตรงไหนเลย ถึงอารารากิคุงจะพยายามยกยอฉันแค่ไหน ฉันก็ไม่เคยคิดว่า ตัวเองเป็นคนเก่งไปทุกอย่าง อย่างที่เขาพูด แต่เรื่องคราวนี้ฉันคงต้องยอมรับว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในการ สร้างเตียงนอน แบบนี้อนาคตจะไปเป็นช่างต่อเตียงนอนดีมั้ยนะ ไปฝึกเพิ่มเติมที่เยอรมันอาจจะเข้าท่า
ช่างเถอะ ฉันตามหาเธอเพราะคิดมากไปเอง เพราะดูท่าทางแล้วคงจะเป็นห่วงไม่เข้าเรื่องซะมากกว่าล่ะนะ
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ต้องให้คนอื่นพูดนี่แหละ ฉันถึงจะรู้ตัวว่า ที่ตัวเองทำลงไปมันอันตรายขนาดไหน เค้าว่าไฟจะทำให้คนคุ้มคลั่ง ฉันก็คงจะเกิดอารมณ์ฮึดสู้แบบแปลกๆขึ้นมา เพราะว่าไฟไหม้
นั่นสินะ ขอให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆเถอะ เพราะฉันรู้สึกว่า ถึงคุณฮาเนคาวะ จะอยู่ไหนอารมณ์ไหน ฮึดสู้หรือไม่ฮึดสู้ ก็ชอบทำอะไรที่มันดูเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
จริงเหรอ?
อย่างชอบยั่วอารารากิคุง!!!
อึ๊ก ได้แค่ร้อง อึ๊ก เพราะเถียงไม่ออก หาข้อโต้แย้งเธอไม่ได้เลยว่า ชั้นไม่ได้ยั่ว
ข้อสันนิษฐานจากมุมมองของคนทั่วไปที่ว่า เขา(อารารากิคุง)กลายเป็นคนลามกแบบนั้น เพราะฉัน .........เป็นอะไรที่ฟังดูน่าเชื่อถือมาก (ปู)ตอนนั้นเขาดู เยือกเย็นจริงจังมากเลยจริงๆนะ..... อารารากิคุง ตอนที่เขามาคุยกับฉันครั้งแรก แต่ตอนนี้ไม่เหลือสภาพให้คิดได้เลยว่า เคยเป็นคนแบบนั้นมาก่อน
(แมว)เป็นเพราะฉัน....หรือเปล่านะ
เอาเถอะ พึ่งจะมีเรื่องของเสือ ที่ว่านั่นด้วยนี่นา ถ้าจะพูดว่าฉันกังวลมากเกินกว่าเหตุ คงได้แต่ยอมรับอย่างเดียว ขอโทษที่ทำอะไรรุนแรงเกินไปหน่อยก็แล้วกัน เอาล่ะ เราไปกันเถอะ
เราไปกันเถอะ นี่หมายถึงที่ไหน? ไปโรงเรียน?
บ้านของฉันสิ คุณเซนโจงาฮาระพูดเหมือนกับว่า น่าจะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว
ขอประกาศอย่างชัดเจนเลยก็แล้วกัน ถ้าเธอคิดจะขัดขืน ถึงจะต้องเอาแม็กยัดปาก หรือสับหลังคอให้หมดสติ เพื่อที่จะพาตัวเธอไป ฉันก็จะทำแบบนั้น จริงๆนะคุณฮาเนคาวะ
..... ใครจะไปกล้าขัดขืนคำขู่แบบนั้นของเธอล่ะ ถ้าได้รู้ว่าเรื่องพวกนั้นเคยเกิดขึ้นกับอารารากิคุงมาแล้วจริงๆ น่ะ
เรื่องราวของเเมวเหมียว (ขาว) ซึบาสะเสือสมิง บทที่ 10 END
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 19:53:38
แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 55 19:22:26
จากคุณ |
:
Fate Linegod
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มี.ค. 55 19:19:50
|
|
|
|