ความคิดเห็นที่ 1 รู้สึกว่า พระเอกถูกยิงระหว่างปกป้องนางเอก โดดเข้าบังกระสุน พระเอกไม่ตาย  ตอนจบต่างคนต่างไป  พระเอกก็ไปทางของตน จำได้ลาง ๆ จากคุณ : From HTC (หัวหน้ามหาประลัย) เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 01:47:26

ความคิดเห็นที่ 2 อ้าว เค้าไม่ได้รักกันเหรอคะ เราจำได้รางๆว่าเค้าเหมือนมีอะรกัน เหมือนรักกันนะ ทำไมต้องต่างคนต่างไปด้วยอ่าา จำไม่ค่อยได้เหมือนกันแฮ่ๆๆ จากคุณ : ขาบ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 02:09:34

ความคิดเห็นที่ 3 ขอถามเพิ่มเติมด้วย ตกลงเพลง I will always love you มันเป็นเพลงรักสมหวัง หรือไม่สมหวังกันแน่ครับ  เห็นใช้ในงานแต่งงานบ่อยๆ ทั้งที่เนื้อเพลงมันเหมือนกับเพลงเลิกลาแต่ยังรักกันอยู่มากกว่า จากคุณ : osk1988 เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 03:07:58

ความคิดเห็นที่ 4 จบแบบต่างคนต่างไปนะคะ เท่าที่จำได้ แต่ก็คือรักกันนั่นแหละ ลืมไปแล้วว่าทำไม ส่วนเพลง i will always love you เป็นเพลงที่ไม่สมหวังนะคะ เหมือนรักกันแต่ว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ประมาณนั้น จากคุณ : iczcream เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 03:22:30

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่สมหวังครับ ฉากจบซึ้งสุดๆ ที่พระเอกมาส่งนางเอกขึ้นเครื่องที่สนามบิน แล้วเพลง i will always love you ขึ้น นางเอกพอเครื่องจะออก ก็บอกให้หยุด แล้ววิ่งลงมากอดพระเอกครั้งสุดท้าย เนื้อเพลง i will always นี่ ที่สุดแห่งเพลงไม่สมหวังนะคับ คือประมาณว่า รู้ว่าทั้งคู่ไม่สามารถจะอยู่ด้วยกันได้ เลยขอไปดีกว่า แต่ก็จะยัง always love you นะ อะไรประมาณนี้ ไม่เคยได้ยินใครใช้ในงานแต่งนะคับ ถ้าเอามาใช้นี่คาดว่าคงไม่ได้ฟังเนื้อแน่ๆ - -' จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 06:53:33

ความคิดเห็นที่ 6 รักกันแต่ทั้งสองคนต่างต้องทำตามหน้าที่ของตัวเอง พระเอกไม่สามารถเป็นบอดี้การ์ดให้นางเอกอีกต่อไป เพราะมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การตัดสินใจไม่เด็ดขาด แถมตอนจบยังมีมุขขำๆ ว่า หาบอดี้การ์ดมาให้ซะแก่เชียว (คนที่มาทำหน้าที่แทนพระเอกอ่ะ) คือไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองไม่มีโอกาสมาพบเจอกันอีก ก็ให้เดาเรื่องต่อกันไป ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งสองก็ยังรักกันตลอดไป............... จากคุณ : volkfrance เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 07:49:17

ความคิดเห็นที่ 7 - นางเอกเป็นนักร้องดังที่ำกำลังมาแรงดีกรีคั่วชิงรางวัลเพลงยอดเยี่ยม - พระเอกเป็นอดีตบอร์ดี้การ์ด ปธน. เรแกนที่มีความหลังฝังใจว่าวันที่เค้าขอลากลับมางานฝังศพคนที่บ้านเค้า เป็นวันเดียวที่มีคนสามารถเข้าถึงตัว ปธน. แล้วลั่นกระสุนได้ (เอาหนังไปผูกกับเรื่องจริงที่มีคนลอบเข้าไปยิงแรแกนขณะขึ้นรถ ...ออกทีวีด้วย) ...เลยลาออกมาเป็นบอร์ดี้การ์ดเอกชน ... - ราเชล (นางเอก) กำลังถูกคุกคามโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง โดยมีทั้งจดหมายคุกคามไปจนกระทั่งพฤติกรรมแบบฮาร์ดคอ (พวกชาแชง) ไปแอบว่าวแตกบนเตียงนอนถึงในบ้าน ...ผู้จัดการเห็นท่าไม่ดีเลยติดต่อหาบอร์ดี้การ์ดมือดีมาเสริม - แฟรงก์ (พระเอก) ได้รับการติดต่อให้ไปเป็นบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวจนกว่าจะพ้นช่วงโปรโมทอัลบัมใหม่ "ชั้น ไม่มีอะไรเลย" ... (แปลไปได้ไงอะ I have nothing) ซึ่งอาจจะหมายถึงต้องลากยาวไปถึุงช่วงประกาศผลรางวัลด้วย ... - ราเชลมั่นใจในบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวอยู่แล้ว (ซึ่งหนังก็เข้าสูตรของเก่ากร่างแต่กลวง ของใหม่นิ่งแต่เก๋า) เลยรู้สึกไม่ถูกชะตาแฟรงก์ตั้งแต่แรกเท่าไหร่ (เพราะไหนจะเครียดเรื่องเพลง ไหนจะรำคาญพวกเรื่องเครียดๆ จุกจิกอื่นๆ) - แฟรงก์ ก็ไม่ได้รู้สึกแฮปปี้เท่าไหร่กับลูกค้าอีโก้สูง แต่เพราะความเป็นมืออาชีพ เลยจัดการยกเครื่องระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การปรับแต่งโน้นนี่ในบ้าน การติดตั้งระบบกล้องวงปิด ...การเริ่มเอาเทคนิควิธีรับมือของการอารักขาความปลอดภัยในส่วนคนขับรถมาสอนคนขับรถลีมูซีนประจำตัวของราเชล ...รวมไปถึงการเริ่มไม่กินเส้นกับบอร์ดี้การ์ดเก่า - ราเชลเริ่มทนไม่ได้ที่แฟรงก์ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนพวกพารานอยด์ เริ่มเกรียน เริ่มแกล้งพระเอก ... - แฟรงก์พบว่า ในความเกรียน แท้ที่จริง ราเชลต้องซ้อนความกดดันลึกๆ มากเพราะความเป็นคนดัง มีความสามารถ แต่กลับรายล้อมไปด้วยอะไรที่เหมือนสปอยล์ตัวเอง และที่สำคัญ ราเชลต้องดูแลลูกชายคนเดียวไปด้วย ... - ราเชลทีพี่สาวที่โตมาด้วยกัน เล่นดนตรีร้องเพลงมาด้วยกัน และพบว่าพี่สาวคนนี้ก็มีความสามารถทางดนตรี แต่วาสนามันไปทางราเชล - กระโดดไปเลยละกัน เยอะแล้ว ...มาถึงงานหนึ่งที่ราเชลเกรียนด้วยการฝ่าฝืนกฎของแฟรงก์ด้วยการไปงานปาร์ตี้กึ่ง open concert ในผับหรูกลางกรุง โดยโกหกว่าเป็นแค่ไปดินเนอร์ ทำให้แฟรงก์รู้สึกว่าตัวเองโดนล้ำเส้น ...แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เลยพยายามเตรียมทางหนีทีไล่ ..แล้วเหตุการณ์ลืมเข็มขัด (คาด) ไม่ถึง ก็เกิด เนื่องจากระหว่างการแสดงเพลง Queen of the night บนเวที เจอแฟนๆ เข้าถึงตัว ดึงโน้นนี่นั้นจนถึงขั้นลากให้ตกจากเวที ทำให้สถานการณ์ราเชลเข้าขั้นอันตราย ...แฟรงก์ตะลุยถีบฝูงแฟนคลับกึ่งบ้าคลั่งเข้าไปจนถึงตัวราเชล ...แล้วก็จัดการช้อนขาอุ้มขึ้นพาฝ่าวงล้อมออกไปทางประตูหลัง (อย่างเท่) ...ในขณะที่โทนี่ (บอร์ดี้การ์ดคนเก่า) กลับโชว์พาวน์แหวกทางไปยังประตูหน้า วางมาดเปิดทาง ...แต่ คนขับรถที่แฟรงก์สอนเทคนิคมาได้มารับในจุดด้านหลังผับตามที่แฟรงก์เคยสอนในกรณีอพยพฉุกเฉินไว้แ้ล้ว - กลับมาที่คฤหาสน์ราเชล ....ขณะที่แฟรงก์กำลังพักผ่อนในครัวหลังจากพาราเชลเข้านอนแล้ว โทนี่เข้ามาหาเรื่องแฟรงก์โชว์พาวน์ ...แต่หนังก็ทำให้เห็นว่าแฟรงก์เป็น "ของจริง" อัดโทนี่ซะหมอบ - วันรุ่งขึ้น (มั้ง) ราเชลที่กำลังอยู่ในอาการ "ช็อกจนปลื้ม" ...แอบมองแฟรงก์เหมือนคนเพิ่งโดนทะลวง (เข้ากลางใจ) จนฉ่ำมาหมาดๆ ..ทนไม่ไหวลงไปวิ่งไล่ตาม แล้วก็นัดเดทไปดูหนังกินข้าวกัน - เดทแรกแฟรงก์ทะลึ่งพาไปดูหนังซามูไรฟันกันเลือดสาด (Yojimbo ของคุโรซาวะ อารมณ์ประมาณหนัง Last man standing) แบบว่าหนังจะโชว์พระเอกว่ายึดถือความนิ่งและเฉียบคมในน่าที่ดั่งวิถีซามูไร ...แต่ดูหนังเสร็จกลับไปกินข้าวในร้านอาหารเล็กๆ เปิดเพลงของ John Doe แล้วออกมาเต้นซึ่งๆ กัน ...หลังจากนั้นก็พากันไปซั่ม - ตื่นมาแฟรงก์ก็เกิดอาการน้ำแตกแยกทาง แบบว่าเค้ามองตัวเองทำผิดตรงที่ปล่ิอยให้เกิดความรู้สึกส่วนตัวกับลูกค้า ซึ่งกลัวว่าจะมีผลกับการทำงาน ผิดจรรยาบรรณส่วนตัว ...ในขณะที่ราเชลพอได้รู้อย่างนั้นก็ปรี๊ดดิ ...ดึ๊บกันแล้วทำเป็นมาพูดแบบนี้เหมือนอยากให้คิดซะว่าเป็นเหตุการชั่ววูบ (แต่ชั้นไม่ชั่ววาบนะ) ... - ที่งานเลี้ยงกาล่าร์งานหนึ่ง แฟรงก์เจอเพื่อนในวงการเดียวกันที่มาเป็นบอร์ดี้การ์ดรับจ้างเหมือนกันชื่อพอร์ตแมน ...พอร์ตแมนโดนราเชลเอามาใช้เป็นเครื่องมือปั่นหัวแฟรงก์ให้หึงเล่น โดยไม่รู้เลยว่ามันอันตรายต่อสมาธิในงานของแฟรงก์ แฟรงก์เองก็หัวเสียวิ่งไปเกรียนแตกอัดพ่อครัวโรงแรมซะปางตาย ...จนเกือบจะถอดใจออกจากงาน ...แต่ราเชลก็สัญญาแล้วว่าจะไม่เกรียนอีก ขอแค่ให้เห็นแกลูกชายเพราะราเชลรักลูกชายที่สุด - ขอกระโดดข้ามเลยละกัน จำไม่ค่อยได้ นานแล้ว ...หลังจากที่จับพวกชาแชงผู้ชายคนนึงไปได้ แฟรงก์ก็หาทางผ่อนคลายให้ราเชลด้วยการพาราเชลทั้งครอบครัวไปพักร้อนที่บ้านเกิดของแฟรงก์ ในที่บรรยากาศเต็มไปด้วยหิมะ บ้านริมทะเลสาบ อย่างกับอยู่ติดแคนาดาอย่างไงอย่างงั้น ...ที่นี่ จะได้เจอพ่อแฟรงก์ และราเชลก็ได้รู้ความลับอัันขมขืนถึงสาเหตุที่ทำให้แฟรงก์เป็นคนเก็กเข้มเครียดเกิน เพราะวันที่เรแกนถูกยิง เป็นวันที่แฟรงก์ลากลับมางานฝังศพแม่ตัวเอง ... - แล้วจู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกครั้ง เมื่อลูกชายราเชลอยากเล่นเรือ แต่พลาด (ยังไงไม่รู้จำไม่ได้) เผลอทำเรือตกปลาวิ่งออกไป (ไม่รู้ตัวเองตกน้ำด้วยป่าว จำไม่ได้) ....สุดท้าย จู่ๆ เรือตกปลาของแฟรงก์ก็เกิดระเบิดตูม ..กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ - แฟรงก์จึงตระหนักแล้วว่ามันเกินกว่าเหตุการณ์ชาแชง แฟนฮาร์ดคอร์แล้ว เพราะมันเป็นการลอบสังหารของจริง คนร้ายสามารถแกะรอยตามมาถึงที่บ้านตัวเองได้ จึงต้องเปลี่ยนโปรแกรมกลับในวันรุ่งขึ้น ... - และในคืนนั้นเอง ระหว่างที่แฟรงก์กำลังปิดบ้าน แฟรงก์ก็ได้รู้ความจริงจากนิกกี้ (พี่สาวราเชล) หลังจากที่เห็นเธอเอาแต่กินเหล้าร้องไห้พึมพำอยู่คนเดียว ว่า..แท้ที่จริงแล้ว มันมีการจ้างวานให้ฆ่าราเชลจริงๆ เพราะความอิจฉาในโชคชะตาที่มันไปเข้าข้างน้องสาวตัวเองหมด จนชั่ววูบหนึ่งทำให้คิดไปว่าเพราะถ้าไม่มีราเชลซักคน คนที่น่าจะเกิดจริงๆ ควรจะเป็นตัวเอง ...แต่นิกกี้ไม่เคยคิดที่จะเล่นถึงขั้นฆ่าเด็ก ...แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว เพราะมันเป็นการจ้างวานฆ่าผ่านคนกลางอีกที ทำให้นักฆ่าไม่มีทางหยุดได้แน่ๆ ...แฟรงก์ต้องกลับมาตั้งมาตรการอพยพและอารักขาขั้นสูงสุด ...เพียงแต่สายไปแล้ว นักฆ่าได้เข้ามาในบ้านแฟรงก์ แล้วได้ลงมือฆ่านิกกี้เพราะไม่รู้ว่าเป็นนายจ้างตัวเองแต่เพราะบังเอิญนิกกี้ไปแสดงท่าทางห้ามด้วยการบอกว่ารู้จักนักฆ่า ทำให้มันระแวงจนต้องฆ่าทิ้ง ...แต่ก็ทำได้แค่นั้น เพราะแฟรงก์ก็สามารถขับไล่นักฆ่าจนทำให้มันต้องแผนเสียและหนีไปในที่สุด - สุดท้ายก็เป็นสุดสัปดาห์เลือด แฟรงก์จำเป็นต้องอารักขาราเชลจนกว่าจะสามารถจับนักฆ่าตัวจริงได้ ... ราเชลหวาดกลัวมากเพราะตัวเองไหนจะพึ่งเสียพี่สาว ไหนจะไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนฆ่าเมื่อไหร่ ไหนจะห่วงลูกชาย ...ตอนนี้ราเชลเลยเหลือที่พึ่งเดียวในชีวิตคือแฟรงก์ ราเชลสัญญาว่าจะทำตามทุกอย่างเพื่อให้แฟรงก์อยู่ปกป้องตัวเองและลูกชาย - สุดท้ายในงานประกาศรางวัล มันเป็นวันที่แฟรงก์สันนิษฐานว่านักฆ่าจะลงมือฆ่าแน่ๆ เพราะเป็นจังหวะที่ราเชลจะมีจังหวะหลุดจากการคุ้มกันเมื่ออยู่บนเวที ...บรรยากาศสร้างความเครียดสูงจนทำให้ราเชลไม่สามารถทำหน้าที่ผู้ประกาศรางวัลในสาขาอื่นได้ (สติแตกจนต้องวิ่งลงมาระหว่างอ่านรางวัล) ...ราเชลอายและเครียด โมโหมาก ได้แต่ฟาดงวงไปใส่แฟรงก์ ...แฟรงก์ทำได้แต่ต้องอยู่ห่างๆ ...จนมาถึงรางวัลใหญ่อัลบัมยอดเยี่ยมซึ่งได้แก่ "ชั้น ไม่มีอะไรเลย" ของราเชล ...เนื่องจากวิทยุสื่อสารของแฟรงก์โดนยึด (เพราะมันไปรบกวนคลื่นการสื่อสารของ staff งาน) ทำให้แฟรงก์ำไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นให้ช่วยจับตาได้ ...แฟรงก์ต้องมองหานักฆ่าด้วยการกวาดตาเองเพราะการขึ้นไปรับรางวัลของราเชลเป็นโอกาสสุดท้ายที่ราเชลจะเป็นเป้านิ่งโดยที่แฟรงก์ไม่สามารถคุ้มกันข้างกายได้ ...ในที่สุดแฟรงก์นึกไปถึงเพื่อนบอร์ดี้การ์ดที่เคยเจอในงานกาล่าร์คราวก่อน ...คราวนี้ระหว่างงานเค้าอ้างว่ามาอารักขา host ของงาน แต่ด้วยความเป็นคนช่างสังเกตและเป็นมืออาชีำพ... แฟรงก์ระลึกได้ว่าคนเป็นบอร์ดี้การ์ดจะไม่มีวันทิ้งคนที่ตัวอารักขาให้ห่างตัวถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะเวลาอย่างนี้ ...แฟรงก์รีบปรี่เข้าไปถาม host ว่าบอร์ดี้การ์ด (ที่เป็นเพื่อนตัวเอง) หายไปไหน ... host กลับตอบว่าบอร์ดี้การ์ดไหน ...เค้าไม่มี!! ....แฟรงก์พยายามมองหาอย่างกระวนกระวาย เพราะมันจะถึงจังหวะรับรางวัลแล้ว ...ทันใดนั้น เค้ามองไปไกลๆ เห็นช่างกล้องถ่ายทอดสดคนนึงที่กำลังแบกกล้อง ...มันคุ้นตามาก ...แล้วเค้าก็ตระหนักในทันทีว่า "ใช่แล้ว ...นั่น Portman นิ" ...แฟรงก์พยายามจะบอกให้โทนี่รีบไปแจ้ง รปภ. ..แต่ด้วยความที่วิทยุสื่อสารโดนยึดไป เค้าส่งสัญญาณมือ แต่โทนี่ตีความเป็นให้เข้าชาร์จเลย ...มันเลยยิ่งชัดใหญ่ว่าเป็น Portman ภาพตรงหน้าไกลๆ คือ Portman จิ้มตาและอัดโทนี่ร่วง ...แฟรงก์หมดหนทางที่จะขวางได้แล้ว ทันใดนั้น ...จึงตัดสินใจวิ่งพุ่งไปกลางเวที กระโดดเข้าขวางในจังหวะที่ราเชลโบกมือยินดีกับรางวัล ...ตุม! ..นัดแรกโดนแฟรงก์เข้าอย่างจัง ... แฟรงก์ร่วง ...แต่ด้วยสติสุดท้าย เค้าดึงปืนออกมาจากเสื้อแล้วเล็งไปที่ Portman ...ตูม ตูม!! สองนัดเข้าเบ้าตา ...แล้วแฟรงก์ก็วูบไป ...เสียงสุดท้ายที่เค้าได้ยินคือ ..."อยู่กับชั้นนะ อย่าจากไปนะ อยู่กับชั้นแฟรงก์ อยู่กับชั้น"... - ผลออกมาทุกอย่างหลอดภัย คดีจบ แฟรงก์โดนยิงที่ช่วงแขน (หรือหัวไหล่เนี่ยแหละ) แต่ก็ถือว่าหน้าที่เสร็จสิ้น ...แฟรงก์เลือกจบงานกับราเชล หาบอร์ดี้การ์ดมือดี (แต่แก่หน่อย) มาแทนตัวเอง - การจากลาเริ่มขึ้น ...แล้วก็ ...อ่านเอาข้างบนละกัน หลายท่านเล่าไปแล้ว ... จำได้แค่นี้หละ ...ส่วนที่ข้าเจ้าข้ามๆ ก็รอท่านอื่นๆ ที่พอจำได้มาเติมมาแก้ละกัน ... Spoil สะใจดีมั้ย จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 08:58:54

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ จำได้แค่นี้หละ  O_o จากคุณ : love mom so much เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 09:50:12

ความคิดเห็นที่ 9 #5     ไม่สมหวังครับ ฉากจบซึ้งสุดๆ ที่พระเอกมาส่งนางเอกขึ้นเครื่องที่สนามบิน แล้วเพลง i will always love you ขึ้น นางเอกพอเครื่องจะออก ก็บอกให้หยุด แล้ววิ่งลงมากอดพระเอกครั้งสุดท้าย . . . . จากนั้น ก็เป็นฉากเหมือนพิธีในโบสถ์ คนสำคัญต่างมาขุมนุมมากมาย มีพระพูด เหมือนกล่าวคำบรรยายอะไรสักอย่าง ขณะที่กล่าว กล้องก็ซูมเข้าไปเรื่อยๆ ที่มุมมืดๆหลังห้อง จนคำสุดท้ายที่ลงว่า อาเมน ก็จะเห็นหน้าของพระเอกที่ยืนทำหน้าที่อยู่ในมุมมืดนั้นพอดี   แล้วเพลงท่อนฮุกของ i will always love you ก็ดังขึ้น แบบว่าทั้งภาพ คำพูด อารมณ์ จนถึงเพลงขึ้นมานี่ มันเป๊ะๆ มาก ลงตัวแบบสุดๆ จากคุณ : เต้าหู้ยี้ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 10:26:59

ความคิดเห็นที่ 10 สปอย์จนอยากดูอ๊า.... อยากดูจริงๆ สงสัยต้องไปตามหาซ่ะแล้วเรื่องนี้ ขอบคุณครับ ^ ^ จากคุณ : <<karas >> (<<karas >>) เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 11:18:28

ความคิดเห็นที่ 11 ตายโหงง... ข้าเจ้าทันดูในโรงเรื่องนี้ที่ Central ลาดพร้าวสมัยที่ยังไปเล่นรถบั๊มป์ฆ่าเวลาก่อนดูซะด้วย ... ดูโรงรอบนึง VDO ออกมาก็ซื้อเอามาดูเป็น 10 รอบ ก็นานแล้วนะที่ไม่ได้ดู เกือบ 20 ปีได้แล้ว... นี่มาถึงยุคที่ข้าเจ้าต้องเจอคนยังไม่เคยดูเรื่องนี้แล้วเหรอเนี่ย ....ฮือๆๆ รู้สึกมีสังขารผุพังยังไงไม่รู้ Y_Y จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 11:38:36

ความคิดเห็นที่ 12 โห่ ขอบคุณความเห็นที่5มากๆๆๆๆๆๆ ต้องซื้อมาดูแล้วเรื่องนี้ พระเอกสมัยหนุ่มหล่ออ่ะ เราชอบเลย ไม่น่าไปเสริชกูเกิ้ลดูรูปปัจจุบันเลย ต่อมจิ้นเสียหมดอิๆ จากคุณ : ขาบ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 13:48:48

ความคิดเห็นที่ 13 ดูตอนจบแล้วร้องไห้พรากๆๆๆ ยังอินต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง ตอนที่นางเอกวิ่งลงมากอดพระเอกอ่ะ กับตอนพระเอกไปเป็นการ์ดต่อ ให้ความรู้สึกต่างคนต่างไปอย่างแท้จริง ดูจบแล้วแนะนำให้เปิด I will always love youสลับกับ I have nothing วนไปเรื่อยๆ หดหู่มาก จากคุณ : โทโมะจัง เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 15:24:42

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่งดูแผ่นไปเมื่อวาน ติดใจอยู่ว่าผู้ร้ายมาฆ่านางเอกทำไม ตัวเองก็เป็นมือโปร ไม่ได้บ้า ไม่ได้แค้น ได้รับจ้างมา เงินก็ได้ไปแล้ว ยิงคนจ้างตายไปแล้วอีก จะเลิกซะก็ได้ เพราะฆ่านางเอกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ไม่รู้ผมงงหรือคนเขียนบทลืม หนังก็โอเคนะ แต่สุดยอดน้ำำเน่าเลย จากคุณ : แฟนสวย เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 15:48:06

ความคิดเห็นที่ 15 #14 หนังพยายามทำให้เห็นว่า Portman ไม่สนอะไรทั้งสิ้น ตอนที่ฆ่านิกกี้เสร็จก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่านั่นคือนายจ้างต้นทาง แม้นิกกี้จะพยายามพูดก็ไม่ทันฟัง สนแต่ว่านิกกี้มาเห็นเข้าแล้วแสดงท่าทีเหมือนจำ Portman ได้ หรือรู้จัก ต้องเก็บอย่างเดียว ...เผื่อไม่ให้ส่งเสียงทำให้แฟรงก์รู้ว่าตัวเองเข้ามาแล้ว ...(แต่ก็ช้าไป เพราะแฟรงก์เองก็เทพอยู่) ...ส่วนรับเงินไปแล้ว นายจ้างก็ไม่เห็น ทำไมไม่ชิ่งซะเลย ... เพราะถ้าดูในหนังหลายๆ เรื่อง (เอาเข้าจริง แม้แต่ในความเป็นจริงก็ด้วย) ...การจ้างวานฆ่าผ่านคนกลางเท่ากับว่าถ้างานไม่สำเร็จ ภับจะวกกลับมาถึงตัวมือสังหาร อาจจะโดนเก็บซะเอง ในหลายๆ เรื่อง ปมตรงนี้ก็มีเยอะแยะๆ ...ยิ่งเป็นการว่าจ้างให้มาฆ่าระดับซุปตาร์ ยิ่งต้องไม่พลาด นักฆ่าอาจจะกลัวว่าผู้จ้างต้องมีบารมี มีอิทธิพลพอ เพราะตั้งแต่รับงาน เรทในการจ้างฆ่าซุปตาร์ก็น่าจะราคาสูงอยู่ ...กล้าจ่ายกล้าจ้างแสดงว่าอาจจะใหญ่ก็ได้ เลยต้องทำงานให้เสร็จ และแน่นอน ...เรื่องนี้มันโคตรแอคชันน้ำเน่าในยุคนั้นเลย ...ก่อนจะมาถึง plot เรียกน้ำตายุคถัดไปแบบใหม่กับยอดชายนาย I'll be back ภาค 2 จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 16:55:29

ความคิดเห็นที่ 16 ฮ่า ไม่เคยดู ไม่เยอ่านเรื่องย่อ แต่อ่านที่คุณ_K_F_C_รำลึก ก็สนุกดีนะเนี่ย จำได้ว่า หนังมาก จนเป็นแรงบัลดาลใจ ให้ทำละครแนวๆนี้ออกมา จากคุณ : มินเอง เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 18:24:47

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้เลยครับ คุณ _K_F_C_ เล่าได้สนุกมาก จากคุณ : น่ารักอย่างกะยักษ์วัดแจ้ง เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 22:11:11

ความคิดเห็นที่ 18 ไปหาซื้อแผ่นมาเก็บไว้เลยค่ะ เราซื้อเก็บมาไว้นานแร่ะ เปิดดูทีไรก็ชอบทุกที เควิน คอสเนอร์ช่วงนั้นหล่อมาก วิทนีย์เองก็เด็กสุดๆ ดูๆแล้วก็ไม่ค่อยเหมาะกันเท่าไหร่ แต่เพราะพระเอกหล่อ นางเอกก็ร้องเพลงเพราะเลยให้อภัย.... จากคุณ : Aon_rama_2 เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 21:25:26