ความคิดเห็นที่ 1 20 อันดับ หนังทำรายได้รวมสูงสุดประจำปี 2554 น่าเรียกได้ว่า เป็นปีที่มีอะไรให้ได้ตื่นเต้นกันตั้งแต่ต้นปี ยันท้ายปีเลยทีเดียว!! ทั้งๆ ที่ดูๆ แล้ว หนังที่น่าจะดึงดูดความสนใจจากมวลชนก็มีเพียงหยิบมือ (แล้วก็ทำได้ตามคาดซะส่วนใหญ่) แต่ที่ช่วยทำให้ปีนี้ กลายเป็นปีที่ “กระหึ่ม” ได้เกินคาด ก็คงหนีไม่พ้นบรรดา “ม้ามืด” กระแสแรง ที่เรียกได้ว่า ผุดขึ้นมากันเป็นฝูงใหญ่มากทีเดียว!!! จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็น Top 20 แต่ละเรื่องทำเงินสูงมากขนาดนี้ (เอาง่ายๆ ว่า แค่ลองเทียบกับปีข้างๆ ก็แทบจะเรียกได้ว่า นำห่างแบบม้วนเดียวจบทุกอันดับกันเลยทีเดียว!!) แม้ว่าหนังจากฝั่งครึ่งปีหลังจะสามารถสอดแทรกตัวเข้ามาติดอันดับได้มากกว่าที่คิด (10 เรื่องพอดี!) แต่ท้ายที่สุดแล้ว แชมป์ก็ยังคงตกเป็นของ “เต็งหาม” ที่ยึดแชมป์ไว้ตั้งแต่ครึ่งปีแรก อย่าง Transformers: Dark of the Moon นำมาแบบม้วนเดียวจบโดยไม่ต้องลุ้น (แม้ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการนี้ หนังจะเฉียดหลัก 300 ล้านไปอย่างน่าเสียดาย!) ทันทีที่อีกหนึ่ง “ตัวโหด” จากฝั่งครึ่งปีหลัง อย่าง Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 เป็นฝ่ายพลาดท่า สะดุดขาตัวเองตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ท ปิดตำนานไปได้เพียงอันดับ 2 อย่างน่าเสียดาย (ทั้งๆ ที่ในประเทศอื่น ก็อุตส่าห์สร้างสถิติในฐานะแชมป์มาได้เกือบหมด!) ขณะที่ฟากหนังไทย เป็นหน้าเป็นตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นอภิมหาหนังฟอร์มยักษ์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ หนังที่คนทั้งประเทศรอคอยมาอย่างยาวนานถึง 4 ปี!! ที่แม้ว่าตัวหนังจะทำให้แฟนๆ สมหวัง หรือผิดหวัง ปะปนกันไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดหนังก็สามารถทำเงินผ่านหลัก 200 ล้านเป็นเรื่องแรกในรอบ 4 ปีได้อยู่ดี! (เรื่องก่อนหน้าที่ทำได้ก็คือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ อีกนั่นแหละ!!) นอกจากรายได้ที่สูงมากของบรรดาหัวตารางทั้งหลายแล้ว สิ่งที่ทำให้ Top 10 ปีนี้น่าตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกก็คือ การที่มีหนังผ่านหลัก 100 ล้านถึง 9 เรื่อง!!! ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เยอะเกินคาดมากๆ และกลายเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราไปแล้ว (นำห่างเจ้าของสถิติเดิมอย่างปีปีก่อน ซึ่งทำเอาไว้ 7 เรื่อง) ซึ่งนอกจากสามเต็งที่ได้กล่าวไปข้างบนแล้ว เรื่องที่เหลือก็เรียกได้ว่า เป็นหนังภาคต่อแทบทั้งสิ้น! มีเพียง ลัดดาแลนด์ เป็นหนังไม่ใช่หนังภาคต่อเรื่องเดียวของปีนี้ ที่ฝ่าด่าน 100 ล้านขึ้นมาได้ ขณะเดียวกัน กลุ่มสามเต็งที่ได้กล่าวไป ก็ช่วยกันถล่มโรง ทำเงินผ่านหลัก 200 ล้านกันไปได้ทั้งหมด สร้างสถิติปีที่มีหนัง 200 ล้านมากที่สุดให้ปีนี้อีกหนึ่งตำแหน่ง (เทียบเท่ากับปี 2552 ซึ่งมีสามสหาย Avatar, 2012, Transformer 2 ช่วยกันโกยสนั่นโลก!!!) ขณะที่ลองแบ่งตามสัญชาติก็พบว่า อัตราส่วนหนังไทยที่เข้ามาติด Top 20 ปีนี้ก็ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว (คือมีทั้งสิ้น 7 เรื่องเช่นกัน) รวมไปถึงมีหนังไทยทะลุขึ้นไปติด Top 5 ถึง 2 เรื่องเช่นกัน! (แต่รายได้รวมของทั้งสองเรื่องนั้น ต่างกันสองเรื่องของปีก่อนเยอะ!) สถิติตลอดกาลที่ปี 2554 ทำได้ - มีหนังผ่านหลัก 100 ล้านบาทมากที่สุด : 9 เรื่อง - มีหนังผ่านหลัก 200 ล้านบาทมากที่สุด : 3 เรื่อง (เทียบเท่าปี 2552) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:17:44

ความคิดเห็นที่ 2 20 อันดับ หนังไทยทำรายได้รวมสูงสุดประจำปี 2554 แม้ว่าช่วงครึ่งปีหลัง หนังไทยจะสร้างความคึกคัก และปรากฏการณ์ได้น้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรกไปค่อนข้างมากพอสมควร (ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยโดยตรง หรือโดยอ้อมก็ตาม) แต่ถึงอย่างไร ภาพรวมทั้งปีของหนังไทย ก็ยังคงสร้างความ “ตื่นเต้น” ให้แก่คนดูจนถึงสิ้นปีได้อยู่ดี! โดยเฉพาะกลุ่ม “ม้ามืด”ที่สามารถสร้างกระแสปากต่อปาก จากคุณภาพหรือความประทับใจที่มีให้มากผิดคาด จนสามารถยืนโรงฉายเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเปิดตัวแสนน้อยนิด ซึ่งมีนี้มีให้เห็นมากเป็นพิเศษจนรู้สึกชินตาไปพอสมควร (แต่ก็ยังตื่นเต้นด้วยอยู่ดีล่ะครับ!!!) ท้ายที่สุด หนังฟอร์มเต็งก็ยังคงคว้าบัลลังก์ไปครองตามคาด สำหรับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ที่ยึดบัลลังก์เอาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนจบปีแบบหายห่วง เพราะหนังทำเงินตุนเอาไว้สูงมากถึงหลัก 200 ล้าน (และเป็น 200 ล้านเรื่องเดียวของหนังไทยปีนี้ที่ทำได้ด้วย) แต่ที่ผิดคาดไปพอสมควรก็คงหนีไม่พ้นลำดับถัดมาอย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ อีกหนึ่งเต็งหาม ที่คว้าแชมป์ไม่ได้ อาจไม่ใช่เรื่องที่ผิดคาดซักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผิดคาดมากกว่าก็คงหนีไม่พ้นรายได้ซึ่งลดลงจากภาคก่อนมากๆ (ทั้งรายได้เปิดตัว และรายรับรวม) แต่ถึงอย่างไร ก็ยังคงมากกว่าเรื่องอื่นๆ ในตารางอยู่ดี! ขณะที่ต้นปียังมีอีกหนึ่งหนังสร้างปรากฏการณ์เกินคาดอีกหนึ่งเรื่อง อย่าง ลัดดาแลนด์ สร้างกระแสด้วยแรงบันดาลใจจากสถานที่มีจริง จนทำให้หนังผ่านหลัก 100 ล้านฉลุยในที่สุด ทำให้ทั้งปีนี้ มีหนังผ่านหลัก 100 ล้านทั้งสิ้น 3 เรื่อง เป็นสถิติใหม่สำหรับหนังไทยอีกครั้ง หลังจากที่บ้านเรามีสถิติร่วมของหนัง 100 ล้าน ที่ 2 เรื่อง มาแล้วหลายปี (คือปี 2550, 2552 และ 2553) ขณะที่ภาพรวมของ Top 20 นั้น กลุ่มหนังต้นตารางถือว่าทำได้ค่อนข้างดีมากๆ เมื่อเทียบกับปีก่อน (โดยเฉพาะกลุ่มหนัง 70 ล้าน อย่าง Suck Seed ห่วยขั้นเทพ, 30 กำลังแจ๋ว และ 30+ โสด ON SALE ที่ทำได้ดีเกินคาด จนทำให้ Top 10 ปีนี้กระโดดค่อนข้างสูงกว่าปีก่อนมาก) แต่ในช่วงครึ่งล่างของตาราง กลับกลายเป็นว่า รายได้ของปีนี้ ตามหลังปีก่อนไปค่อนข้างจะหลุดลุ่ย ซะอย่างงั้น!! แสดงให้เห็นว่า รายได้หนังไทยไปกระจุกอยู่กับหนังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอยู่ (ซึ่งก็คือกลุ่มที่ฮิตๆ ทั้งหลายนั้นแหละ) ซึ่งเรื่องที่สามารถสร้างกระแสออกตัวได้แรง หรือกระแสปากต่อปากหลังจากฉายออกมาดี ก็จะได้ประโยชน์ในกลุ่มนี้ไป ขณะที่หนังฉาบฉวยทั้งหลาย แถมยังโปรโมตอย่างมักง่าย ก็จะเหี่ยวแห้งกันไปเอง!! สถิติตลอดกาลที่ปี 2554 ทำได้ - มีหนังผ่านหลัก 100 ล้านบาทมากที่สุด : 3 เรื่อง จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:18:23

ความคิดเห็นที่ 3 20 อันดับ หนังต่างประเทศทำรายได้รวมสูงสุดประจำปี 2554 ฝั่งหนังไทยที่ว่าร้อนแล้ว ฝั่งหนังเทศกลับทำได้ร้อนแรงยิ่งกว่า แถมแต่ละเรื่องก็ทำได้ในระดับปรากฏการณ์ทั้งนั้น!!! ต้องขอบคุณบรรดากองทัพหนังภาคต่อที่ไว้ใจได้เรื่องการทำเงินทั้งหลายทั้งแหล่ โดยเฉพาะสอง “มหาเต็ง” ที่ปีนี้เก็งว่าจะขับเคี่ยวกันขึ้นสู่การเป็นแชมป์สุดๆ แต่สุดท้าย ผลแพ้ชนะก็แทบจะทราบกันตั้งแต่ออกสตาร์ทเลยทีเดียว ผู้ชนะก็อย่างที่ทราบกันไปแล้ว คือแชมป์ประจำปีอย่าง Transformers: Dark of the Moon ที่ออกตัวซะแรงจนโรงแทบแตก สามารถยึดเก้าอี้แชมป์ไปยาวจนจบปี แบบ “เรียบร้อยโรงเรียนไซเบอร์ทรอน” กันเลยทีเดียว!!!           ส่วนผู้แพ้อย่าง พ่อมดหนุ่มภาคจบ Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 แม้จะต้องคอตกกลับฮอกวอตส์ แบบไร้แชมป์จากบ้านเราติดมือกลับไป  แต่รายได้ก็ใช้ว่าขี้ริ้วขี้เหร่ซะที่ไหน! ในเมื่อทั้งสองเรื่องต่างควงกันผ่านหลัก 200 ล้านแบบสบายแฮ! แม้จะสูงกว่าทุกปี แต่ก็ยังไม่ใช่สถิติหนังฝรั่งผ่านหลัก 200 ล้านมากสุดในหนึ่งปีได้อยู่ดี (เพราะสถิตเดิมของปี 2552 สามารถทำได้ถึง 3 เรื่อง! นำทีมโดยต่างดาวตัวฟ้า, วันโลกถล่มทลาย และสงครามหุ่นยักษ์ภาคก่อนหน้า!!) แต่ที่คว้าสถิติไปแบบนอนมาก็คงหนีไม่พ้นสถิติ ปีที่หนังฝรั่งผ่านหลัก 100 ล้านบาทที่สุด ที่พากันตบเท้ากันผ่านหลักนี้ราวกับแจกตั๋วฟรี!! เพราะมีหนังทะลุหลักนี้ไปถึง 6 เรื่อง! สูงที่สุดตลอดกาลแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมนั่นก็คือปีที่แล้วนั่นเอง! (ที่อุตส่าห์เพิ่งทำสถิติแซงปีอื่นๆ ได้เป็นครั้งแรกที่ 5 เรื่อง หลังจากที่เกิดสถิติร่วมค้างอยู่ที่ 4 เรื่อง มาหลายปีดีดัก!) ภาพรวมของ Top 20 หนังฝรั่งปีนี้ก็ต้องยอมรับว่า “ทิ้งขาด” กันทุกอันดับจากปีก่อนเลยก็ว่าได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีหนัง 100 ล้านมากกว่าปีที่แล้วด้วยนั่นเอง ทำให้หนังรายได้สูงๆ (ที่ก็มีเยอะอยู่แล้ว) ขยับอันดับต่ำลงมา                                                                                                                                                                                                                                                       สถิติตลอดกาลที่ปี 2554 ทำได้ - มีหนังผ่านหลัก 100 ล้านบาทมากที่สุด : 6 เรื่อง จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:19:10

ความคิดเห็นที่ 4 10 อันดับ หนังเอเชียทำรายได้รวมสูงสุดประจำปี 2554 อาจจะเทียบกับความคึกคักครั้นสมัยช่วงพีคในอดีตไม่ได้ แต่ถึงยังไงปีนี้ก็ถือว่า “คึกครื้น” กว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดหนังเอเชียในบ้านเรา ที่ในปีนี้ก็ยังคงเป็น “ตลาดส่วนน้อย” อยู่ดีเมื่อเทียบกับอีกสองตลาดที่พูดถึงไปแล้ว แม้จะไม่ถึงขั้นสร้างสถิติประดับบารมีได้เหมือนกับตลาดหนังไทย และหนังฝรั่ง แต่ถึงอย่างไร ปีนี้ก็มีหนังที่สร้างความ “ฮือฮา” ได้ไม่น้อย ให้ได้พูดถึง หนังเรื่องที่ว่าก็คือ 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy ที่เรียกได้ว่า กระแสแรงกันตั้งแต่ประกาศสร้างกันเลยทีเดียว!! แถมหนังยังมีข่าวว่า หวุดหวิดโดนแบนในบ้านเรา การที่หนังได้เข้าฉาย 2 สัปดาห์(แต่จริงๆ มากกว่านั้น!) ในบ้านเราก็เลยทำเอาคนดูที่หวังดูของแปลก(???) แห่กันมาดูหนังแบบถล่มทลายเกินคาด (แม้กระแสสัปดาห์ต่อๆ มาจะซาลงมาแบบถล่มทลายเช่นกัน!) ที่ยืนยันความแรงได้ก็คือ หนังสามารถแซงขึ้นมาเอาชนะ หนังผนึกกำลัง 2 ตัวพ่อ! เฮียหลิวเต๋อหัว และ เฮียเฉินหลง อย่าง Shaolin ที่แม้จะทำเงินผิดฟอร์มทั้งคู่(ในสมัยก่อน)ไปพอสมควร แต่การที่หนังผ่านหลัก 20 ล้านได้ในรอบเกือบ 2 ปีของตลาดหนังเอเชีย ก็มากพอที่จะทำให้หนังยึดแชมป์ตั้งแต่ตรุษจีนยาวมา.....อย่างน้อยก็ถึงซัมเมอร์ล่ะน่า! อีกกหนึ่งเต็งอย่างเฮียเจ็ท ลี มาพร้อมกับการปลุกตำนานงูขาวอีกครั้งใน The Sorcerer and the White Snake แม้ว่าจะทำเงินได้เกินคาด แต่ก็ยังห่างจากสองเรื่องข้างต้นอยู่ไกลเหลือเกิน!!! เอาเป็นว่าอย่างน้อยปีนี้มีหนังเอเชียผ่านหลัก 20 ล้านถึง 2 เรื่องก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีมากแล้ว ในเมื่อปีที่แล้วไม่มีหนังเอเชียแตะหลักนี้ได้เลยซักเรื่อง! (สูงสุดปีก่อนคือยาจกชู True Legend เก็บเงินไปที่ 14.6 ล้านบาท) ขณะที่หนัง 10 ล้าน 3 เรื่องนั้น ยังคงเทียบเท่ากับปีก่อนเช่นกัน ทำให้เห็นว่า หนังเอเชียปีนี้สถานการณ์โดยรวมก็ไม่ได้แตกต่างจากปีก่อนๆ มากนัก จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:19:40

ความคิดเห็นที่ 5 20 อันดับ หนังทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดประจำปี 2554 สาขาอื่นๆ พากันทำสถิติใหม่ๆ เป็นว่าเล่น สาขานี้ก็ไม่ขอพลาดกับเค้าบ้างเหมือนกัน! แต่ที่อาจจะตื่นเต้นกว่าสถิติสาขาอื่นๆ หน่อยก็ตรงที่ นอกจากจะสามารถคว้าสถิติสูงสุดมาครองได้สำเร็จแล้ว สถิติที่ว่ายังมาจากระดับที่หลายๆ คนรอคอยกันมาอย่างนานแสนนนนานเลยทีเดียว!! นั่นคือ สถิติ ผ่านหลัก 100 ล้านบาทภายใน 4 วัน ที่เรียกได้ว่า เฉียดไปเฉียดมามาหลายตรั้งหลายทีแล้ว เรื่องที่ทำได้ก็คือเจ้าเก่าขาโหด Transformers: Dark of the Moon ที่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ในเมื่อคนดูแห่กันมาดูโรงแทบแตกตั้งแต่เปิดตัวโน่นแล้ว! แม้หนังจะเปิดตัวตั้งแต่วันพุธ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ในเมื่อหนังสามารถคว้าสถิติได้ทั้ง ผ่านหลัก 100 ล้านบาทภายใน 4 วันแรก และ ผ่านหลัก 100 ล้านบาทภายใน 4 วันสุดสัปดาห์แรก แบบเบ็ดเสร็จ! แน่นอนว่าทันทีที่มีหนังสามารถทำสถิติได้ในระดับนี้ ทุกสายตาจึงจับจ้องไปยัง Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 ในฐานะที่เป็นคู่แข่งโดยตรง แถมมีภาษีดีกว่านิดหน่อยตรงที่เป็นภาคจบ เลยทำให้หลายๆ คนคาดว่า สถิติคงต้องถูกพรากไปจากเหล่าหุ่นยักษ์อย่างแน่นอน แต่ท้ายที่สุด พ่อมดหนุ่มก็พ่ายหลุดลุ่ยไปอย่างที่เห็น แต่ที่น่าเจ็บใจกว่าก็คงจะเป็นการที่หนัง “วืด” ผ่านหลัก 100 ล้านบาทภายใน 4 วัน ไปแบบฉียดฉิวสุดฤทธิ์ (เปิดตัว 4 วันที่ 99 ล้านบาท!! อะไรจะเกือบปานน้าน!!!) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ตัวเลขนี้ยังเป็นตัวเลขประมาณการณ์ ดังนั้นตัวเลขจริงออกมา พ่อมดหนุ่มอาจจะไม่ได้กัดลิ้นตาย เพราะได้สถิติ 100 ล้านเร็วที่สุด “ร่วม” ไปครองด้วยก็ย่อมได้! เอาเป็นว่าพล่ามมายาว ตัวเลขเปิดตัวของทั้งสองเรื่องนี้ก็ถือว่าโหดในระดับสถิติของบ้านเราก็ว่าได้ เพราะพร้อมใจกันตบเท้าแซงหน้าเจ้าของสถิติเดิม(ผู้น่าสงสารไปในบันดล!) อย่าง 2012 ที่ครั้งหนึ่งถือว่าเปิดด้วยตัวเลขที่โหดร้ายทารุณมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นธรรมดาลงไปเยอะ ที่ 94.9 ล้านบาท (แต่ก็โหดอยู่นา เพราะเปิดตัวระดับ 90 ล้านในบ้านเรา เพิ่งจะมีแค่ 4 เรื่องเองนะครับเพ่!) ฝั่งหนังไทยก็โหดไม่แพ้กัน นำทีมโดยเต็งโหด ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ที่เปิดตัวได้สูงในระดับทุบสถิติทุกภาคก่อนหน้า ที่ 79 ล้านบาท แม้จะยึดสถิติหนังไทยเปิดตัวสูงสุดมาครองไม่ได้ (เจ้าของสถิติเดิมคือ ต้มยำกุ้ง ที่รอคอยคนมาชิงแชมป์กว่า 7 ปีแล้ว เปิดตัวถล่มโรงไปถึง 93.4 ล้านบาท) แต่อย่างน้อยก็คว้าเก้าอี้แชมป์หนังไทยมาได้จนจบปี (โดยมี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ คู่แข่ง(กันเอง)สำคัญที่เปิดตัวไปได้อย่างน่าผิดหวัง) อีกหนึ่งสถิติที่ปีนี้คว้าไปครองอีกหนึ่ง นั่นก็คือ มีหนังเปิดตัวเกิน 50 ล้านบาท มากที่สุดถึง 6 เรื่องด้วยกัน (กับเฉียดสุดๆ อีกหนึ่ง!) ซึ่งเทียบเท่ากับเจ้าของสถิติเดิม อย่างปี 2552 (แต่ต่างกันตรงที่ปีนั้นมีหนังฝรั่งเปิดตัวหลักนี้ได้ถึง 5 เรื่อง!!) แน่นอนว่าถ้าตัวเลขจริงๆ ออกมาว่า Pirate 4$ เปิดตัวได้มากกว่านี้ สถิติย่อมเปลี่ยนมืออย่างแน่นอน! ส่วนฟากหนังไทยที่เปิดตัวเกิน 50 ล้าน 2 เรื่อง ก็เป็นสถิติเช่นกัน แต่เทียบเท่าถึง 2 ปี นั้นคือ ปี 2548 ที่มี ต้มยำกุ้ง และ หลวงพี่เท่ง นำทีมฮินระเบิดระเบ้อ! ส่วนอีกปีเหมือนเป็นหนังม้วนเก่า นั้นคือปี 2550 ที่เจ้าของสถิติทั้งสองเรื่อง คือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 2 ภาคแรกนั่นเอง! แน่นอนว่าในเมื่อตัวเลขเปิดตัวเป็นสถิติซะขนาดนี้ Top 20 เมื่อเทียบกับปีก่อนย่อมนำขาดกันเป็นธรรมดา!! ในเมื่อปีก่อนมีหนังเปิดตัวเกิน 50 ล้านเพียงครึ่งเดียวของปีนี้! แถมไม่มีหนังไทยเปิดตัวถึงระดับนี้อีกด้วย!! (สูงสุดคือ กวน มึน โฮ ที่ 40.1 ล้านบาท ยังเทียบไม่ได้กับ GTH ปีนี้ อย่าง ลัดดาแลนด์ ซึ่งอยู่ที่ 3 ในกลุ่มหนังไทยด้วยซ้ำ! แต่ก็นะครับ ปีนี้ “ของตาย” แห่กันเข้าฉายเยอะจริงๆ นี่นา!!) สถิติประจำปี 2554 แบ่งตามสัญชาติหนัง - หนังไทยทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุด : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ - หนังฝรั่งทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุด : Transformers: Dark of the Moon - หนังเอเชียทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุด : 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy สถิติตลอดกาลที่ปี 2554 ทำได้ - หนังทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาล : Transformers: Dark of the Moon - หนังเรื่องแรกที่ทำเงินสุดสัปดาห์แรกผ่านหลัก 100 ล้านบาท : Transformers: Dark of the Moon - มีหนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกิน  50 ล้านบาทมากที่สุด : 6 เรื่อง (เทียบเท่าปี 2552) - มีหนังไทยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกเกิน  50 ล้านบาทมากที่สุด : 2 เรื่อง (เทียบเท่าปี 2548, 2550) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:20:07

ความคิดเห็นที่ 6 รายรับรวมของค่ายหนัง และผู้จัดจำหน่าย ประจำปี 2554 หนังทั้งปีพากันทำเงินคึกคักขนาดนี้ คนที่น่าจะยิ้มกว้างที่สุดก็คงหนีไม่พ้นบรรดาค่ายหนังทั้งหลายนี่แหละ! แต่ค่ายที่ดูเหมือนว่าส้มหล่นใส่แทบทั้งสวน ตกเป็นของค่ายเดียวนำโด่งมาตั้งแต่ครึ่งปีแรกแล้ว นั่นคือค่าย UIP ที่เรียกได้ว่าแรงเป็นแชมป์ม้วนเดียวจบเลยทีเดียว โหดในระดับที่เรียกว่า ทำลายสถิติเป็น ค่ายหนังเมเจอร์ที่มีหนังทำเงินรวมกันในหนึ่งปีสูงที่สุดตลอดกาล ได้ตั้งแต่เพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งปีเท่านั้น! (เก็บไปในระดับ 700 กว่าล้าน! จากสถิติเก่าของค่าย Fox เคยทำไว้เมื่อปี 2552 ที่ระดับ 600 ล้าน) ส่วนสถิติค่ายหนังทุกสัญชาติสูงที่สุดตลอดกาล หนังก็ใช้เวลาหลังจากนั้นไม่นานเช่นกัน เก็บมาได้อีกหนึ่งตำแหน่ง (สถิติเก่าเป็นของค่าย สหมงคลฟิล์ม เมื่อปี 2550 ทำเงินถล่มทลายไปถึง 819 ล้านบาท) แต่อีกหนึ่งสถิติที่เป็นยอดปรารถนาของทุกค่ายมาอย่างยาวนาน นั่นคือกลายเป็นค่ายแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านหลัก 1,000 ล้านบาท ซึ่งค่ายก็คว้ามาอย่างง่ายดาย หลังจากที่ตุนไว้ตั้งแต่ครึ่งปีแรกไปเกือบ 3 ใน 4 โนแล้ว! (จะไม่ให้โหดได้ยังไง ในเมื่อหนังของค่ายปีนี้รวมบรรดา “ขาโหด” ในกลุ่มหนังของตัวเองแทบจะทั้งนั้น!! แถมมีหนังผ่านหลัก 100 ล้านถึง  3 เรื่อง! เป็นสถิติตลอดกาลอีกเช่นกัน) ฟากค่ายหนังไทย แชมป์ยังคงเป็นของมหาอำนาจจอเงินอย่างค่าย สหมงคลฟิล์ม ที่แม้ว่าจะพยายามไล่จี้อันดับหนึ่งขึ้นมาด้วยหนังฟอร์มดีในมือในชว่งครึ่งปีหลัง แต่ดูเหมือนว่าการที่ตามห่างค่าย UIP สุดกู่กว่าช่วงตัวไปตั้งแต่ครึ่งปีแรก (700 กับ 300 ล้าน!) ก็พลอยทำให้การจะเป็นแชมป์ กลายเป็นงานหินไปในทันตา! ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาหนังฟอร์มเต็งครึ่งปีหลังของค่าย พากันทำเงินต่ำกว่าที่คาดไว้ และอัตราส่วนหนังเจ๊งของค่ายก็ยังถือว่ามมีมากกว่าหนังฮิตทั้งหลาย อย่างไรก็ดี รายได้ของค่ายก็ยังถือว่าสูงในระดับสถิติอันดับต้นๆ อยู่ดี แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นสถิติของค่ายใบโพธิ์ (สถิติเก่าของค่ายคือปี 2550 อย่างที่บอกไปแล้ว นำโดยหนังฟอร์มยักษ์อย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สองภาคแรก และหนังหม่ำ-เท่ง-โหน่ง สุดฮิตอีกสองเรื่อง!!) แต่อย่างน้อย ค่ายก็สามารถผ่านหลัก 600 ล้านได้เป็นครั้งที่ 4 เข้าไปแล้ว! (ครั้งแรกคือปี 2544 ที่มี สุริโยไท ทำเงินไปร่วม 500 ล้านแล้ว ต่อมาคือปี 2548 ที่ได้ ต้มยำกุ้ง+แหยม+บุปผา 2 ผนึกกำลังกันไปร่วม 350 ล้าน และ ปี 2550 ที่พูดถึงไปแล้ว) ค่ายที่ก้าวกระโดดสูงที่สุดประจำปีคงหนีไม่พ้น ค่าย Warner Brothers ที่เปิดครึ่งปีแรกได้อย่างน่าผิดหวัง (ทำเงินเพียง 100 ล้านต้นๆ และอยู่ในอันดับ 7) แต่ครึ่งปีหลัง หนังได้ตัวแปรสำคัญอย่าง Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 ทำเงินสูงสุดประจำครึ่งหลัง ช่วยฉุดให้ค่ายทำเงินสูงสุดในช่วงครึ่งปีหลัง (เก็บไปกว่า 300 ล้านได้เพียงค่ายเดียว เฉือนชนะ UIP และ สหมงคลฟิล์ม ไปไม่กี่สิบล้าน!) ส่งผลให้ค่าย กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ของปีได้สำเร็จ อีกค่ายหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือค่าย GTH ที่แม้ว่ารวมทั้งปี รายได้ของค่ายจะไม่ถึงกับสูงเท่าค่ายอื่นๆ (อยู่ในอันดับที่ 6) แต่ด้วยจำนวนหนังที่ฉายน้อยกว่าแทบจะทุกค่ายใน Top 10 ทำให้ค่าย คว้าตำแหน่ง ค่ายหนังทำเงินเฉลี่ยต่อเรื่องสูงที่สุด ประจำปีไปครองแบบง่ายๆ (แม้รายได้รวมของค่าย จะถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับสถิติของค่ายในรอบหลายๆ ปี) อย่างไรก็ตาม มีอีกค่ายหนึ่งที่เรียกได้ว่า บี้กับ GTH กันจนจบปีก็ว่าได้ ก็คือค่าย M๓๙ เพราะนอกจากจะฉายหนังในจำนวนที่เท่ากันแล้ว เทียบรายได้รุ่นต่อรุ่นแล้วก็แทบจะใกล้เคียงกัน จนต้องมาตัดสินกันที่หนังระดับท็อปของทั้งสองค่าย กลายเป็นว่าฝ่ายหลังพลาดท่าไปเสียเอง ทั้งๆ ที่มีโอกาสผ่านหลัก 100 ล้านได้ไม่น้อย สถิติตลอดกาลที่ปี 2554 ทำได้ - ค่ายที่มีหนังทำเงินรวมกันมากที่สุดในหนึ่งปี : UIP - ค่ายแรกที่มีหนังทำเงินรวมกันเกิน 1,000 ล้านบาท : UIP จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:20:37

ความคิดเห็นที่ 7 สรุปสถานการณ์ในแต่ละเดือน เดือนมกราคม : 140.8 ล้านบาท เป็นเรื่องปกติที่เดือนนี้มักจะหงอยเหงาซะจนมักจะทำเงินรั้งท้ายแทบจะทุกปี เนื่องจากฝั่งฮอลลิวู้ดมักจจะไม่ค่อยส่งหนังฟอร์มดีมาเข้าเดือนนี้ซักเท่าไหร่ เลยไม่น่าแปลกใจที่เดือนนี้จะได้เห็นหนังไทยและหนังเอเชียผลัดกันครองแชมป์เป็นว่าเล่น! “นางเอก” ของเดือน (เสียงเจ๊พจน์ วี้ดว้ายลอยลมมาแต่ไกล!!) ตกเป็นของหนังฮา(???)ภาคต่อ หอแต๋วแตก แหวกชิมิ ที่แม้จะคว้าแชมป์ไปได้แบบแทบจะไร้คู่แข่งเกินคาด แม้ว่าจะช่วยเพิ่มสถิติให้เจ๊พจน์ของเรา กลายเป็นเจ้าแม่ประจำมกราไปได้อีกหนึ่งสมัย (ปีที่แล้ว เจ๊ก็ได้ ตายโหง คว้าแชมป์ประจำเดือนมกราเช่นกัน) แต่รายได้ของภาคนี้ก็ต้องยอมรับว่า ลดลงจากภาคก่อนๆไปพอสมควร (สองภาคแรกเก็บเงินไป 46.4 และ 54.4 ล้านบาท ตามลำดับ) ตามมาห่างๆ ด้วยว่าที่หนังเอเชียทำเงินสูงสุดปีนี้ อย่าง Shaolin ที่ได้สองดาราชื่อดังในบ้านเรา อย่างเฮียเฉิน และเฮียหลิว มาผนึกกำลังกันเรียกคนดู แต่ดูเหมือนว่า หนังอาจจะไม่ค่อยโดนใจคนดูในวงกว้างซักเท่าไหร่ (โดยเฉพาะเฮียเฉิน ที่ไม่ค่อยได้บู๊เท่าไหร่) รายได้หนังเลยไม่พุ่งเท่าที่ควร (แม้จะมากกว่าหนังเอเชียทั้งหลายเมื่อปีก่อน อย่างที่ได้พูดไปเมื่อหัวข้อก่อนๆ แล้ว) ฟากหนังฝรั่ง ปีนี้ก็ยังคงหงอยๆเช่นกัน แชมป์ประจำเดือน ตกเป็นของหนังการ์ตูน(ตก)ค้างปี(ก่อน) อย่าง Megamind ขึ้นมาได้สูงสุดเพียงอันดับ 4 ด้วยรายได้ที่ไม่ได้หวือหวาอะไรเช่นกัน โดยรวมแล้วรายได้มกราคมปีนี้ก็ถือว่าเงียบเหงาไม่ต่างปีก่อนๆ สถิติรายได้เปิดตัวของเดือนก็ยังคงเป็นของ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ ที่เรียกได้ว่า ทำเอาไว้แบบไม่ให้เรื่องอื่นได้หวังมาชนะกันเลยทีเดียว! (ที่ 64.7 ล้านบาท) จากหนังประมาณ 18 เรื่อง เก็บรายได้รวมกันให้เดือนนี้ไป 140.8 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับมกราปีก่อนๆ (สถิติเป็นของมกราปี 2550 ซึ่งมี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๑ ช่วยดึงทั้งเดือนขึ้นไปถึง 254 ล้านบาท!) แต่อย่างน้อย ก็ยังมากกว่ามกราสุดหงอยเหงาเมื่อปีก่อน ซึ่งทำไปเพียง 113 ล้านบาท!! สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : หอแต๋วแตก แหวกชิมิ (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Megamind (อันดับ 4) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Shaolin (อันดับ 2) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:21:04

ความคิดเห็นที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์ : 232.6 ล้านบาท ก็ต้องเรียกว่า คึกคักขึ้นมาจากเดือนที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด! ในเมื่อหนังฟอร์มเต็งต่างก็เริ่มทยอยเปิดตัวกันอย่างหนาตาขึ้นแม้จะไม่ถึงขั้นถล่มโรงก็ตาม!! แชมป์ของเดือนก็ยังคงเป็นของหนังไทยอีกครั้ง คราวนี้เป็นคิวของสองตลกชื่อดังแห่งยุคนี้ อย่าง เท่งโหน่ง จีวรบิน ที่ยังคงทำเงินทำทองให้แก่ค่ายใบโพธิ์ราวกับสั่งได้! แต่ดูเหมือนว่า รายได้ของหนังจะส่งสัญญาณกับหนังตลกไทยบางอย่าง เนื่องจากลดลงไปมากกว่าเท่งโหน่งเรื่องก่อนๆพอสมควร (โหน่งเท่ง นักเลงภูเขาทอง และ เท่งโหน่ง คนมาหาเฮีย เคยทำเงินไปถึง 90.1 และ 79.6 ล้านบาท ตามลำดับ) ตามมาด้วยหนังฝรั่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเต็งประจำเดือนนี้ อย่าง I Am Number Four ที่หน้าหนัง เรียกได้ว่า รวมของ ”ขายได้” ในยุคนี้เอาไว้อย่างครบครัน (แอ็กชั่น, โรแมนติก, ไซไฟ และบรรดาวัยรุ่นหน้าตาดี) แต่ดูเหมือนว่า ความหน้าสนใจจะน้อยเกินไป เลยดึงดูดคนดูได้น้อยกว่าที่ควร (โดยเฉพาะ น้อยกว่าหนังคล้ายๆ กันอย่าง Percy Jackson & the Olympians เมื่อปีก่อน ทำเงินเป็นแชมป์ของเดือนไปถึง 65.4 ล้านบาท) อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับเดือนนี้ก็คือ หนังกระแสแรงเกินคาด อย่าง Sปัญญา เรณู ที่ครั้งหนึ่ง เคยถูกเมินเฉยจากคนดูแบบแทบจะไร้ทางเกิด (เปิดตัวไปเพียง 3.5 ล้านบาท) แต่ด้วยกระแสชื่นชมในอินเตอร์ทั้งในเฉลิมไทย, โซเชียลเน็ตเวิร์ก และสื่อมาช่วยโหม ก็พลอยทำให้หนังราวกับ “เกิดใหม่” อย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะไม่ถึงกับก้าวกระโดดเหมือนกับเรื่อ โหมโรง แต่หนังก็เก็บเงินไปได้แบบไม่น่าเกลียดนัก ทำเอาค่ายใบโพธิ์ถึงกับต้องร่วมโดดลงมาเกาะกระแส ควักตังค์และอัดตลกดังให้แก่หนังภาคสองแทบไม่ทัน!!! (ส่วนจะประทับใจคนดูมากน้อยแค่ไหน ผลก็ออกมาอย่างที่หลายๆ คนรู้กันไปแล้ว แต่ถ้าไม่รู้.....ก็ไปดูในกระทู้รายสัปดาห์เก่าๆ ได้เลยนะครับ ถ้ากลัวจะลืมไปก่อนสรุปอีกทีต้นปีหน้า!!) อีกหนึ่งความสำคัญสำหรับคอหนัง ที่มักจะรอคอยเดือนนี้อย่างใจจดใจจ่อ นั่นก็คือ ”งานประกาศผลรางวัลออสการ์” ซึ่งผู้ชนะประจำปี 2554 คือหนังย้อนยุค The King's Speech ที่นอกจากจะสนุกจนได้ใจคนดูไปทั่วโลกแล้ว ในบ้านเราก็ไม่น้อยหน้า เพราะถึงกับเป็นหนังออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทำเงินสูงสุดในบ้านเรา ในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว! (นับตั้งแต่ The Departed ของปู่สกอร์เซซี่ เก็บเงินไปตั้งแต่ปลายปีนั้น ที่ 18.8 ล้านบาท) ด้านสถิติประจำเดือนกุมภานั้น แชมป์อย่าง เท่งโหน่ง เปิดตัวไว้ที่ระดับ 31 ล้านบาท แม้จะไม่สูงเท่าภาคอื่นๆ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะไต่ขึ้นไปทำสถิติสำหรับหนังไทยประจำเดือนนี้ได้ถึงอันดับที่ 2 ส่วนถ้าริจะเทียบกับแชมป์ ก็คงต้องบอกให้หลีกไปไกลๆ เพราะเจ้าของสถิติควบทั้งไทยและเทศด้วย อย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ เปิดตัวไว้ในระดับที่แทบไม่ต้องให้ใครได้หวังลุ้นกันเลย ที่ 77.7 ล้านบาท!!! ส่วนแชมป์หนังฝรั่งอย่าง I Am Number Four (19 ล้านบาท) นั้น ก็ยังคงห่างไกลกับเจ้าของสถิติเก่ากลุ่มฝรั่ง อย่าง Jumper (39 ล้านบาท) เช่นกัน! เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มีหนังเข้าฉายจำนวนไม่แตกต่างจากเดือนก่อนมากนัก ที่ประมาณ 18 เรื่อง เก็บเงินรวมไปทั้งสิ้น 232.6 ล้านบาท ถือว่าไม่สูง ไม่ต่ำเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา (เจ้าของสถิติยังคงเป็นของปี 2550 ที่ได้ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ มาโกยสนั่น แม้จะน้อยกว่าภาคแรก แต่ก็ฉุดทั้งเดือนขึ้นไปถึง 315 ล้านบาท!) รวมไปถึงพ่ายให้กับกุมภาปีก่อนไปไม่มาก ที่ 255 ล้านบาท สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : เท่งโหน่ง จีวรบิน (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : I Am Number Four (อันดับ 2) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Norwegian Wood (อันดับ 17) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:21:32

ความคิดเห็นที่ 9 เดือนมีนาคม : 496.1 ล้านบาท สถานภาพของเดือนมีนาคมทุกปีปกติก็ไม่ได้โดดเด้งไปกว่าสองเดือนแรกมากนัก แต่ด้วยความที่มีนาปีนี้ มีหนังระดับ “โคตรโหด” ฉายอยู่ด้วย ทุกอย่างเลย “โดดเด้ง” ขึ้นมาโดยแทบจะไม่ต้องคาดเดา ตัวโหดที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นหนังไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ที่เราต่างก็ได้เห็นเกียรติคุณมากมายของหนังสองภาคก่อนหน้าไปแล้วในเดือนก่อนๆ มาภาคนี้ก็ไม่ทำให้คอหนังผิดหวัง(ในด้านตัวเลข)เช่นเคย เพราะเปิดตัวได้ในระดับสถิติของทุกภาคก่อนหน้าเลยทีเดียว (แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงมาจากสองภาคก่อน แต่การที่หนังผ่านหลัก 200 ล้าน ก็ไม่ใช่หลักที่หนังไทยจะทำกันได้ง่ายๆ ซะที่ไหน!!!) ขณะที่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยึดบัลลังก์ไปแบบนิ่มๆ สองอันดับรองลงมาก็ถือว่าอยู่ในระดับ “ฮิต” จนสามารถสร้างสีสันให้เดือนนี้ไม่น้อยเช่นกัน สองเรื่องที่ว่าก็คือ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ และ รักมันใหญ่มาก ที่แม้ว่าจะทำเงิน “ฮิตเกินคาด” ด้วยกันทั้งคู่ แต่กระแสตอบรับของทั้งสองเรื่องก็เรียกได้ว่า “ต่างกันอย่างสิ้นเชิง” ราวกับหนังสลับม้วนแน่ะ! รักมันใหญ่มาก ก็เรียกได้ว่า กระแสแรงเกินคาดมากๆ ในกลุ่มวัยรุ่นจนทำเอาหนังทำเงินเยอะมากในวันแรก แต่หลังจากคนดูกลุ่มแรกผิดหวัง กระแส “ด้านลบ” ก็ถาโถมกระหน่ำหนังในวันถัดๆ มา แม้รายได้สัปดาห์แรกจะถือว่าสูงอยู่ แต่รายรับสัปดาห์ต่อๆ มาก็เรียกได้ว่า “ไหลลงเป็นเทน้ำเทท่า” กันเลยทีเดียว!! ฟากของ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ นั้น แม้ว่ารายได้เปิดตัวจะน้อยกว่าที่หลายๆ ฝ่ายคาดไว้ แต่ด้วยกระแสปากต่อปากที่ดีมากๆ ก็เลยช่วยประคองหนังให้ทำรายรับสัปดาห์ถัดๆ มาสูงไม่น้อยทีเดียว (แต่ก็โดนหางเลขจาก ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ไปไม่น้อยในสัปดาห์ที่สาม!) ฟากหนังฝรั่ง เดือนนี้ก็ยังคงโดน “กลบ” จากหนังไทยจนแทบจะไม่ได้หายใจ (แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะหนังใหญ่พากันเลื่อนหนี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไปกันหมดนี่แหละ!) แชมป์ฝรั่งประจำเดือน ตกเป็นของหนังการ์ตูน(ตก)ค้างปี(ก่อน) (เอ่อ! ก็อปจากเดือนมกรามาชัด!!!) อย่าง Rapunzel หรือชื่อที่ใช้ในอเมริกาว่า Tangled ขึ้นมาสูงสุดในอันดับที่ 4 (อีกแล้ว!) หลังจากที่ปล่อยให้แควนๆ รอคอยกันจนเหงือกบานกันเป็นแถบ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุ้มค่า! เพราะหนังสนุกเสียจนกระแสแรงเกินคาด กลายเป็นการ์ตูนทำเงินสูงอันดับ 4 ของปีนี้ไปเลย! (เทียบกับการ์ตูนคำวิจารณ์ดีประจำเดือนนี้เมื่อปีก่อน อย่าง How to Train Your Dragon ทำเอาไว้ที่ 22.3 ล้านบาท ก็ถือว่า ไม่ต่างกันมากนัก) แน่นอนว่ามีหนัง “โกยสนั่น” แทบจะเต็มต้นตาราง Top 10 ประจำเดือนนี้ก็เรียกได้ว่าทิ้งห่างแทบจะทุกอันดับของปีก่อนก็ว่าได้! (รวมไปถึง Top 5 ที่มีหนังไทยติดอันดับถึง 4 เรื่องเข้าไปแล้ว!!!) การมาของ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ก็เลยทำให้สถิติ รายได้เปิดตัวสูงสุดประจำเดือนมีนาคม ถูกถล่มลงแบบง่ายดาย (สานต่อตำนาน ทำสถิติเปิดตัวสูงสุดประจำเดือนจากสองภาคแรกไว้ได้อย่างไร้ที่ติ!! 3 เดือนติดต่อกันเลยทีเดียว!!!) เจ้าของสถิติเก่าคือ หลวงพี่เท่ง ซึ่งครองสถิตินี้มาอย่างยาวนานร่วม 6 ปี! ด้วยรายได้ 53.9 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมของเดือนนี้ นอกจากจะมีหนังฮิตเยอะแล้ว จำนวนหนังที่เข้าฉายก็เยอะมากกว่าสองเดือนแรกด้วยเช่นกัน จากจำนวนหนังประมาณ 29 เรื่อง ทำเงินรวมกันสูงถึง 496.1 ล้านบาท!! ทุบสถิติเก่าไปแบบไม่ไว้หน้ากันเลยทีเดียว เพราะเจ้าของสถิติเดิมอย่างปี 2550 ก็ใช่ว่าจะทำเอาไว้ขี้ริ้วขี้เหร่ซะที่ไหน เก็บเงินไปถึง 429 ล้านบาทเลยทีเดียว (จากการถล่มโรงของ บอดี้การ์หน้าเหลี่ยม 2 และ Top 5 ทำเงินเกิน 45 ล้านบาททุกเรื่อง!!) แต่ถึงแม้ว่าจะทำสถิติระดับเดือนไปได้ แต่สถิติระดับปีก็ยังสูงไม่เพียงพอ อย่างน้อยภายในปีนี้ก็ยังอยู่ที่อันดับ 3 เท่านั้น!!! ส่วนอีกสองเดือนที่มากกว่าจะเป็นเดือนไหน ก็มารอลุ้นกันอีกทีนะครับ!! (เกือบลืมไปซะละ! เทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว (227 ล้านบาท) ก็เรียกได้ว่า “แทบจะไม่เห็นฝุ่น” กันเลยทีเดียว!!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Rapunzel (อันดับ 4) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Gantz (อันดับ 20) สถิติตลอดกาลประจำเดือนนี้ - ปีที่ทำเงินตลอดเดือนมีนาคมได้สูงสุดตลอดกาล : 429.7 ล้านบาท - หนังทำรายได้เปิดตัวเดือนมีนาคม สูงสุดตลอดกาล : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ - หนังไทยทำรายได้เปิดตัวเดือนมีนาคม สูงสุดตลอดกาล : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:22:02

ความคิดเห็นที่ 10 เดือนเมษายน : 373.5 ล้านบาท หลังจาก “ตัวโหด” เปิดตัวไป ความร้อนแรงของเดือนนี้ก็พลอยดูลดลงไปอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเลขที่ออกมาก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียวสำหรับก่อนซัมเมอร์เช่นนี้! แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่า หลังจากที่ซัมเมอร์ปีหลังจะเริ่ม “แออัด” ไปด้วยหนังฟอร์มยักษ์มากเกินไป เดือนเมษายน ซึ่งมักจะคาบเกี่ยวกับช่วงเปิดซัมเมอร์ตอนปลายเดือน จึงกลายเป็นเดือนที่ถูกระบายหนังฟอร์ม “ยักษ์กลาง” หรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของซัมเมอร์ไปอย่างไม่เป็นทางการ (ด้วยเงื่อนไขปลายเดือนนั่นแหละ) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สามปีก่อนหน้านี้ เดือนมีนาคมจะทำเงินทะลุหลัก 400 ล้านมาแล้วถึง 3 ปีติดต่อกัน!! แชมป์ประจำเดือนยังคงเป็นฟากหนังไทยอีกครั้ง (น่าดีใจมากๆ เพราะเป็นแชมป์กันมา 4 เดือนติดกันแล้ว) แถมเป็นหนังไทยที่เรียกได้ว่า กระแสแรงมากๆ ในรอบปีนี้ก็ว่าได้ นั่นคือเรื่อง ลัดดาแลนด์ หนังผีเรื่องล่าสุดจากค่าย “เชี่ยวหนังผี” GTH หลังจากที่มี “ผีฮิต” ระดับ 100 ล้าน แล้วเว้นวรรคไป 1 ปี ครั้งนี้ก็กลับมาสานต่อตำนานผี 100 ล้านได้อีกครั้ง แถมยังพิเศษตรงที่กลายเป็น หนังผีทำเงินสูงสุดของค่าย GTH อีกต่างหาก!! ฟากแชมป์หนังฝรั่งก็คือซูเปอร์ฟอร์มเต็งจากฝั่งซัมเมอร์ แต่ย้ายหนีมาฉายในบ้านเราล่วงหน้า (แต่ดันต้องมาชนจังๆ กับ ลัดดาแลนด์ ซะงั้น!!) สำหรับขุนค้อน กล้ามโต Thor ที่แม้ว่าจะกลายเป็นฝ่ายพ่ายไปให้กับผีไทยแบบตามห่าง แต่รายได้ก็ถือว่ามากโขจนเป็นรองแชมป์ของเดือนได้อยู่ดี (แม้จะตามห่างฮ๊โร่รุ่นพี่แชมป์ประจำเดือนนี้เมื่อปีก่อน อย่าง Iron Man 2 อยู่เกินช่วงตัวก็ตาม!!) อีกหนึ่งเรื่องที่ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันคือ Battle: Los Angeles ที่โปรโมตได้ค่อนข้างน่าสนใจ (แม้จะต้องเลื่อนฉาย หนี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ มาเกือบเดือน!) แต่กระแสลบที่มีมากกว่าที่คิด ก็พลอยฉุดหนังเอาไว้เพียง ที่ 3 เท่านั้น! รวมไปถึงหนังที่ได้รับกระแสดีเกินคาด(รวมทั้งในเฉลิมไทย) อย่าง Source Code แม้จะเปิดตัวได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ด้วยกระแสปากต่อปากที่ค่อนข้างดี ทำให้หนังเก็บเงินไปได้เป้นกอบเป็นกำเกินหน้าหนังทีเดียว! ภาพรวมของเดือนนี้ แม้หนังแต่ละเรื่องจะทำเงินกันไปไม่ใช่น้อย แต่ก็ยังไม่มากพอในระดับสถิติอยู่ดี แชมป์ประจำเดือนนี้อย่าง ลัดดาแลนด์ แม้จะไม่สามารถเปิดตัวล้มเจ้าของสถิติเดือน อย่าง Iron Man 2 ซึ่งทำไว้เมื่อปีก่อน (ที่ 70.4 ล้านบาท) ไปได้ แต่อย่างน้อย หนังก็ยังสามารถคว้ามาได้หนึ่งสถิติ นั่นคือ หนังไทยทำเงินเปิดตัวสูงสุดประจำเดือนเมษายน ซึ่งแชมป์เก่าเป็นของ สาระแนห้าวเป้ง เคยทำเอาไว้แบบฮิตเกินคาดเช่นกัน ที่ 32.9 ล้านบาท เดือนเมษายนปีนี้ มีหนังเข้าฉายน้อยกว่าเดือนที่แล้วนิดหน่อย ประมาณ 23 เรื่อง ทำเงินรวมกันไปที่ 373.5 ล้านบาท พลาดที่จะทำสถิติ “เมษา 400 ล้าน 4 ปีติด” ไปอย่างน่าเสียดาย! (สถิติเป็นของปีก่อน นั่นคือปี 2553 ซึ่งได้สองโหด 100 ล้าน อย่าง Iron Man 2 และ Clash of the Titans ช่วยกันดันทั้งเดือนโกยเงินไปถึง 437 ล้านบาท!!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ลัดดาแลนด์ (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Thor (อันดับ 2) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Let the Bullets Fly (อันดับ 14) สถิติตลอดกาลประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำรายได้เปิดตัวเดือนเมษายน สูงสุดตลอดกาล : ลัดดาแลนด์ จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:22:28

ความคิดเห็นที่ 11 เดือนพฤษภาคม : 400.7 ล้านบาท เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์อย่างเป็นทางการซะที!!!!!!! ถึงแม้ว่าเดือนก่อนๆ จะพากันทำสถิติระเบิดระเบ้อนำร่องกันไปก่อนพี่ยักษ์ฮอลลิวู้ดจะเปิดตัวกันบ้างแล้ว (โดยเฉพาะหนังพี่ไทย ที่เรียกได้ว่า แรง 4 เดือนติด!!!) แต่ก็ใช่ว่ายักษ์ใหญ่ฮอลลิวู้ดจะพากันท้อจนอ่อนแรงกันไปซะที่ไหน แถมแต่ละเรื่องก็เรียกได้ว่า ดีกรีใช่ย่อยเช่นกัน!!! เปิดซัมเมอร์กันด้วยภาคต่อหนังรถสวย ที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าหนังกำลังจะตายไปแล้ว แต่ก็ดันฟื้นคืนชีพมาได้แบบ “ราชาสนาม” ซะงั้น!! อย่าง Fast Five ที่ภาคนี้ สลับตำแหน่งกับพี่ Thor นิดหน่อยมาฉายเปิดซัมเมอร์แทน (สงสัยทางค่ายเห็นว่าภาษีดีหว่า เลยได้เปิดตัวเดี่ยวๆ ไปเล้ย!!) แล้วก็ไม่ทำให้ทางค่ายผิดหวัง เพราะนอกจากจะเปิดตัวแบบ “ถล่มโรงทลาย” แล้ว รายได้ของภาคนี้ก็ถือว่า “ก้าวกระโดด” จากภาคที่แล้วมาไกลมาก (เกือบ 50 ล้านบาท) ทำให้กลายเป็นหนังตระกูล The Fast & The Furious ภาคแรกที่สามารถทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านในบ้านเราได้สำเร็จ!! อีกตระกูลที่มาแรงไม่แพ้กันก็คือ ตระกูลโจรสลัดขวัญใจเด็กแนว Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides แม้ว่าภาคสามจะเหมือนปิดบทสรุปไปกลายๆ แล้ว แต่ในเมื่อป๋าแจ็คยังไม่หมดลาย (แถมหนังยังพอได้ตังค์.....ไม่กี่ร้อยล้าน!!) ตำนานก็เลยต้องมาสานต่อกันอีกภาค ถึงแม้กระแส และรายได้จะลดลงจากภาคก่อนๆ ค่อนข้างมาก แต่อย่างน้อย หนังก็สามารถผ่านหลัก 100 ล้านไปได้อีกหนึ่งภาค เรียบร้อยโรงเรียนแบล็คเพิร์ล! อีกเรื่องที่ทำรายได้ถล่มทลายเช่นกัน นั่นก็คือ เจ้าหมีขอบตาดำสุดซ่าส์ Kung Fu Panda 2 แม้ว่ารายได้จะตามสองเรื่องข้างบนอยู่ห่างพอสมควร แต่ถ้านำไปเทียบกับบรรดาการ์ตูนในบ้านเราทั้งหลายก็ถือว่าเป็นสถิติกันเลยทีเดียว!!! สามารถขึ้นไปยึดแชมป์การ์ตูนต่างประเทศมาจาก Finding Nemo ซึ่งเวียนว่ายบนบัลลังก์มาร่วม 8 ปี อย่างไม่เกรงกลัว!! ฟากหนังฝรั่งอาจจะลั้ลลากันตามประสา ฟากหนังไทยมาเดือนนี้ กลายเป็นว่า “ร่วงโรย” กันจนแทบนับศพกันไม่ทันเลยทีเดียว!! ทำได้ดีที่สุดคือหนังรักจากค่ายห้าดาว อย่าง ขอบคุณที่รักกัน ที่หวังจะมาเป็นทางเลือกที่แตกต่างให้กับคนดู แต่กลายเป็นว่ากระแสโดนกลบมิดซะจนแทบไม่ได้ผุดได้เกิดกันเลยทีเดียว!! (นอกนั้นก็อาการไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนๆ!!) ภาพรวมเดือนนี้ ความร้อนแรงเปลี่ยนฝั่งมาอยู่ในแดนฝรั่งดังคาด สำหรับ Fast Five แม้ว่าจะเปิดตัวได้แรงระดับที่สองของปี (ในตอนนั้น ที่ 61 ล้านบาท) ได้ แต่รายได้เปิดตัวก็ยังไม่แรงพอที่จะคว้าสถิติของเดือนได้ เพราะมาหยุดอยู่เพียง ที่ 3 ตลอดกาล แชมป์ยังคงเป็นของ The Matrix Reloaded ที่เรียกได้ว่า กระแสแรงหยุดโลกมากในตอนนั้น ครองสถิตินี้มาร่วม 8 ปี ด้วยรายได้ถึง 71.4 ล้านบาท! เดือนพฤษภาคมปีนี้ก็ยังคงมีหนังเข้าฉายน้อยเช่นทุกปี (เพื่อหลบให้กับบรรดายักษ์ๆ นี่แหละ!!) ประมาณ 17 เรื่อง แต่ก็ทำเงินรวมกันสูงถึง 400.7ล้านบาท ตัวแปรสำคัญก็อยู่ที่สองหนังร้อยล้านประจำเดือนนี้นั่นแหละ! (ซึ่งเดือนที่จะมีหนัง 100 ล้าน 2 เรื่องในเดือนเดียว ปกติก็เป็นไปได้ค่อนข้างยากอยู่แล้ว) แม้จะสูงเกิน 400 ล้าน(ไปแบบเฉียดฉิว!) แถมยังทำเงินมากกว่าหลายๆ ปีก่อนหน้า (ซึ่งทำเงินไม่ได้สูงอย่างที่หลายคนคิดไว้ เฉลี่ยที่ 200 ล้านปลายๆ เท่านั้น!) แต่ถึงยังไงก็ยังไม่ถึงขั้นสถิติของเดือนนี้อยู่ดี เพราะเจ้าของสถิติเดิมอย่างปี 2549 เคยทำไว้สูงถึง 479 ล้านบามโน่นเลย!! (เป็นปีที่ Mission Impossible 3 และ X-Men: The Last Stand ควงกันผ่านหลัก 100 ล้านทั้งคู่เช่นกัน!!!) แต่ถึงอย่างไรก็เรียกได้ว่า นำห่างพฤษภาของปีที่แล้วไปแบบสุดกู่ เพราะทำไว้เพียง 161 ล้านบาทเท่านั้น!! (นั่นเพราะอยู่ในช่วงรุนแรงสุดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง โดยมี องค์บาก 3 เป็นแชมป์ประจำเดือนนี้แบบอ่อนแรง!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ขอบคุณที่รักกัน (อันดับ 6) - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Fast Five (อันดับ 1)** - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Gantz: Perfect Answer (อันดับ 12) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:22:53

ความคิดเห็นที่ 12 เดือนมิถุนายน : 513.2  ล้านบาท ยังตะบึงเข้าสู่ช่วงเข้มข้นของซัมเมอร์อย่างเต็มพิกัด!! บรรดาค่าย(ฝรั่ง)ต่างๆ ก็พากันงัดหมัดเด็ดของตนมาตีกันในสังเวียนนัวเนีย แต่เอาเข้าจริง สังเวียนนี้แทบจะไม่มีความหมายเลย การตีกันของเรื่องอื่นๆ แทบจะกลายเป็น “มวยวัด คั่นเวลา” ไปในบันดล!! ทันทีที่ “โคตรโหด” ประจำเดือนเปิดตัว บนสังเวียนและกองเชียร์ข้างสนามก็เรียกได้ว่า “แตกกระเจิง” กันไปคนละทิศคนละทางเลยทีเดียว!! ชักจะบรรยายไปไกล! กลับเข้าเรื่องของเราดีกว่า แน่นอนว่ากิตติศัพท์ของแชมป์ประจำเดือนนี้ เรียกได้ว่าบรรยายกันมาไม่รู้กี่ คห. ข้างบนไปแล้ว!! เอาเป็นว่าแชมป์ก็คือ พี่โหดหุ่นเหล็ก Transformers: Dark of the Moon อีกแล้วครับท่าน!!! แม้ว่าจะเปิดตัวแทบจะสิ้นเดือน แต่ก็ทำเอาหนังเรื่องอื่นๆ ที่อุตส่าห์ฟูมฟักรายได้กันมา แทบจะหนีลงจากบัลลังก์กันไม่ทัน (ก็คุณพี่ท่านเล่นเปิดตัวสี่วัน มากกว่ารายได้หนังเรื่องอื่นๆ ทั้งเดือนนั้นเลยทีเดียว!!) สถิติต่างๆ ของหนังเรื่องนี้ ก็เรียกได้ว่า สาธยายกันจนอิ่มกันไปข้างนึงแล้ว ในส่วนของเดือนนี้ หนังก็กลายเป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่เปิดตัวในเดือนมิถุนายน แล้วสามารถผ่านหลัก 200 ล้านบาทได้อีกเรื่องหนึ่งแล้ว (ตามรอย Transformers 2  ที่ก็โหดไม่แพ้กัน!) ตามมาห่างๆ ด้วยอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาเวล อย่าง X-Men: First Class ที่ถึงแม้ว่าจะทำเงินลดลงจากภาคก่อนหน้าไปพอสมควร (เพราะโดนพี่ๆ สองภาคก่อนหน้า ทำ”พิษ” T^T) แต่ด้วยกระแส และความเจ๋งของตัวหนังเอง ก็ช่วยสร้างกระแสปากต่อปาก ทำให้หนังยืนโรงทำเงินได้อย่างดี และกลายเป็นฮีโร่ทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ไปในที่สุด!! ขณะที่เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ สามารถ “พิสูจน์ตัวเอง” สยบกระแสลบไปได้ อีกหนึ่งฮีโร่จากต่างค่าย ที่เพิ่งจะได้ก้าวขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก แต่กลายเป็นว่าสะดุดเชือก ล้มหัวทิ่มไปเสียเอง กับพี่ตะเกียงเขียว Green Lantern ที่ค่ายวอร์เนอร์ หมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นฮีโร่ภาคต่อของค่ายเหมือนดั่งพี่แบทให้จงได้!!! (ส่วนพี่ซุป ยังครึ่งพี่ครึ่งคนอยู่ ต้องรอเฮียแซค กับป๋าโนแลน มาช่วยปลุกผีนี่แหละ!!) แต่เอาเข้าจริงๆ ดันเป็น “ฝันร้าย” ของค่าย ประจำปีนี้ไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ (ถึงรายได้ในบ้านเราจะไม่ถึงกับเลวร้ายเท่าไหร่หรอก) ท่ามกลางกองทัพหนังฝรั่งที่กำลังตีกันนัว กลับมีหนังจากฝั่งเอเชียเรื่องหนึ่ง สามารถ “หว่านเสน่ห์” สร้างกระแสแรงมหาศาล จนสอดแทรกตัวเอง ขึ้นมามีที่ยืนในตารางเดือนนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ! เรื่องที่ว่าก็คือหนังสามมิติสุดฉาว 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy ที่ประกาศตัวเองโต้งๆ ว่าเป็นหนังอีโรติกสามมิติเรื่องแรกของโลก! ทำเอาหนุ่มๆ ไทยเนื้อเต้นกันใหญ่ ด้วยความแปลกใหม่(ปนฉาว) เลยทำให้หนังขึ้นไปยืนอันดับหนึ่งในกลุ่มหนังเอเชียได้อย่างหวุดหวิด (อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างบน) แต่ที่ดูจะเหนื่อยหน่อยก็คงหนีไม่พ้นฟากหนังไทย ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ได้หนังที่ดูเหมือนจะเป็น “ของตาย” ในการทำเงินได้แล้ว แต่เอาเข้าจริง กลายเป็นว่า เป็นความผิดหวัง “ซ้ำสอง” ในรอบปี สำหรับคุณหม่ำไปซะนี่ หนังเรื่องที่ว่าก็คือ ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ที่หวังจะให้ “โดนใจ” คนดู ในฐานะทางเลือกที่แตกต่าง แต่ท้ายที่สุด ดันกลายเป็น “โดนเมิน” ไปเสียนี่ ทั้งๆ ที่ควงคุณใหม่ และคุณโหน่ง(ในคราบแต่งสาว) มาร่วมกันเรียกเสียงฮา ก็กลายเป็นฮาไปออกไป กลายเป็นหนังทำเงินต่ำสุดในบรรดาหนังที่คุณหม่ำกำกับไปโดยปริยาย (หลังจากที่เพิ่งชอกช้ำไปกับ จั๊กกะแหล๋น เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้า!!) แต่อย่างน้อย หนังก็สามารถทำเงินสูงที่สุดในกลุ่มหนังไทย ในรอบสองเดือน (พฤษภาคม – มิถุนายน) ปีนี้ไปได้อยู่ดี (แบบกร่อยๆ!) ภาพรวมของเดือนนี้ เรียกได้ว่า ถ้าไม่ได้ Transformers 3 มาช่วยฉุดขึ้นทะลุฟ้า ก็คงหดหู่ลงไปไม่น้อยทีเดียว แน่นอนว่าในเมื่อเหล่าหุ่นเหล็กสามารถเปิดตัวในระดับสถิติตลอดกาลของบ้านเราไปได้ สถิติประจำเดือนมิถุนายน จึงเรียกได้ว่า นอนรอกันเห็นๆ อยู่แล้ว!! (เข้ามารับไม้ผลัดจาก Transformers 2 ซึ่งก็ทำไว้มหาศาลไม่น้อย ที่ 80.2 ล้านบาท) นั่นก็รวมไปถึงสถิติ หนังเปิดตัวสูงสุดประจำครึ่งปีแรก อีกหนึ่งตำแหน่ง (สืบทอดจาก  Transformers 2 เจ้าเก่า) อีกเช่นกัน! เดือนมิถุนายนปีนี้ มีหนังเข้าฉายน้อยกว่าเดือนที่แล้วเข้าไปอีก (ด้วยเหตุผลเดียวกันกับเดือนพฤษภาคม!) ประมาณ 16 เรื่อง แต่ทำเงินรวมกันไปมหาศาล(ด้วยลำแข้งเหล่าหุ่นยักษ์!) ถึง 513.2 ล้านบาท กลายเป็นเดือนแรกของปีนี้ ที่สามารถผ่านหลัก 500 ล้านไปได้ในที่สุด! (และเป็นเดือนที่สอง ในรอบ 7 ปีที่สามารถผ่านหลักนี้) แล้วก็สูงมากพอที่จะกลายเป็นเดือนที่ทำเงินสูงที่สุดประจำปีนี้อีกด้วย!!! ในส่วนของสถิติประจำเดือนนั้น หนังสามารถเอาชนะแชมป์เก่าอย่างปี 2548 ไปแบบขาดลอย ที่ 325 ล้านบาท (ซึ่งมี War of the Worlds นำทีมฮิตสุด) แต่ในส่วนสถิติตลอดกาลทุกเดือน ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา เดือนนี้ยังคงคว้ามาได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น เพราะอันดับหนึ่งยังคงเป็นของ เดือนธันวาคม ปี 2552 ซึ่งได้ Avatar โกยเงินถล่มโลกเรื่องเดียวไปถึง 300 ล้าน!!! ในเมื่อทุบสถิติเดือนนี้ไปแบบทิ้งห่าง เมื่อมาเทียบกับมิถุนาปีก่อนก็ย่อมทิ้งห่างกันหนักเข้าไปอีกเป็นธรรมดา! เพราะเก็บเอาไว้เพียง 269 ล้านบาทเท่านั้น (เกินครึ่งมานิดนึง!!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน (อันดับ 6) - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Transformers: Dark of the Moon (อันดับ 1)** - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy (อันดับ 5) สถิติตลอดกาลประจำเดือนนี้ - ปีที่ทำเงินตลอดเดือนมิถุนายนได้สูงสุดตลอดกาล : 513.2 ล้านบาท - หนังทำรายได้เปิดตัวเดือนมิถุนายน สูงสุดตลอดกาล : Transformers: Dark of the Moon - หนังต่างประเทศทำรายได้เปิดตัวเดือนมิถุนายน สูงสุดตลอดกาล : Transformers: Dark of the Moon จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:23:20

ความคิดเห็นที่ 13 เดือนกรกฎาคม : 356.8  ล้านบาท เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของซัมเมอร์ แต่ดูเหมือนว่า ความร้อนแรงจะแผ่วลงไปจากเดือนก่อนๆค่อนข้างเยอะทีเดียว!!! ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหนังฟอร์มเต็งประจำเดือนนี้มีเพียงหยิบมือเดียว (และต่างก็ทำเงินได้น้อยกว่าที่คาดอีกด้วย) และอีกส่วนหนึ่งก็คือ จำเป็นต้องเปิดทาง ให้กับอีกหนึ่งหนัง “โคตรโหด” ประจำปี ที่หลายๆ คนคาดว่า จะระเบิดความ “โหดนองเลือด” ส่งท้ายซีรี่ย์กันไปเสียที!!! .แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้โหดขนาดน้านนนนนน!! ถึงยังไงก็โหดอยู่ดีนั่นแหละ (เอ๊ะ! จะเอายังไง!!) เพราะอย่างน้อย Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 ก็ถือได้ว่าเป็นการสั่งลาที่ค่อนข้างประทับใจ ตรงที่ทำเงินได้สูงที่สุดในตระกูล (ซึ่งทุกภาคต่างก็ทำเงินสูงๆ กันอยู่แล้ว!!) ไปครองได้ซะที! แต่ก็อย่างที่เล่าๆ ไป ในเมื่อศักดิ์ศรีของหนัง อยู่ในฐานะคู่แข่งเบอร์หนึ่งขนาบข้าง Transformers 3 จึงไม่น่าแปลกใจที่คนจะพากันคาดหวังสถิติของหนังไว้สูง จนต้องมาคอตกกันตอนท้าย (ทั้งๆ ที่พ่อมดของเราก็อุตส่าห์แซงเหล่าหุ่นเหล็กแทบจะทุกประเทศแล้วนะ!!) ตามมาห่างๆ ในอันดับ 2 ก็คืออีกหนึ่งหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มดีจากค่ายมาเวล (ที่ออกมาเกือบจะยกค่ายอยู่แล้ว...ซะที่ไหน!) ถือเป็นเต็งประจำกลุ่มก็ว่าได้ อย่าง Captain America: The First Avenger ที่เรียกได้ว่า กระแสแรงไม่แพ้รุ่นพี่ร่วมค่ายสองเรื่อง ที่กอบโกยเงินไปก่อนหน้าก็ว่าได้ แต่ท้ายที่สุดกลายเป็นว่า หนังกับพ่ายให้กับเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ X-Men ไปแบบเฉียดฉิว (แค่หนึ่งล้านบาท!!) จนวืดครองแชมป์กลุ่มฮีรั่วไปอย่างน่าเสียดาย! เซอร์ไพรส์ประจำเดือนนี้ คงหนีไม่พ้นหนังไทยจากชีวประวัติราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ แม้ว่าตัวเลขรายได้จะไม่ได้สูงมากมายอะไรเมื่อเทียบกับหนังไทยเรื่องอื่นๆ ในปีนี้ แต่ด้วยกระแสเชียร์ที่มาแรงเอามากๆทำให้หนังสามารถฟันฝ่าบรรดากองทัพหนังยักษ์ได้ดีเกินคาด จนติด Top 10 หนังไทยประจำปีนี้ไปได้ในที่สุด! เจ้าพ่อ “งานชุก” ประจำเดือนนี้ คงต้องยกตำแหน่งให้แก่ จอมบู๊หมัดจรวด ดอนนี่ เยน  ซึ่งในเดือนนี้ มีหนังเข้าฉายติดๆ กันถึง 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งถือว่าประสบความสำเร็จพอประมาณในเรื่องรายได้ (The Lost Blademan) ส่วนอีกเรื่อง แม้ว่าจะได้รับคำชื่นชมไม่น้อย แต่ก็ไม่ช่วยให้รายได้วิ่งได้มากเท่าไหร่ (Wu Xia) ซึ่งทั้งสองเรื่องติดอยู่ใน Top 10 ประจำเดือนนี้เช่นกัน! อีกหนึ่งเรื่องพิเศษที่คงต้องพูดถึงหน่อยก็คือ “หนังเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำ” ซึ่งนานๆ ที่จะหลุดมาเข้าฉายซักเรื่องในบ้านเรา แถมเข้าฉายหลังจากชนะรางวัลเพียงไม่กี่เดือนอีกด้วย!!! (ไม่รู้เพราะอานิสงค์ชื่อดารานำด้วยหรือเปล่า??) แม้ช่วงสิ้นปี หนังจะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งคำรบ แต่ก็ไม่มีผลกับหนังเท่าไหร่แล้ว เพราะฉายก่อนไปเกือบครึ่งปี! (แต่ถึงยังไงก็ยังทำเงินมากกว่าหนังสุดภาคภูมิใจของบ้านเรา อย่าง ลุงบุญมีระลึกชาติ ที่ได้โอกาสฉายโรงเดียว แต่ก็เก็บเงินไปได้ 1 ล้านบาทพอดี!) ภาพรวมของเดือนนี้ก็เรียกได้ว่า อยู่บน “ลำแข้ง” พ่อมดหนุ่มแฮร์รี่เต็มๆ (ก็เล่นทำเงินเกินครึ่งของทั้งเดือนเลยนี่นา!) แม้สถิติรายได้เปิดตัวสูงสุดจะไม่สามารถตกมาอยู่ในอ้อมอกพ่อมดได้ แต่ถึงยังไงก็ยังมากพอที่จะกวาดสถิติต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังได้อยู่ดี!!! เริ่มจากสถิติเปิดตัวสูงสุดประจำเดือนกรกฎาคม ที่เป็นการส่งไม้ต่อจากตระกุลเดียวกัน อย่าง Harry Potter and the Order of the Phoenix (82.9 ล้านบาท) เหมือนกับที่ตระกูลหุ่นเหล็กเค้าทำกันเมื่อเดือนก่อนเช่นกัน!!! และการที่หนังเปิดตัวได้สูงที่สุดตลอดกาลเป็นลำดับที่สอง ก็ทำให้หนังคว้าสถิติ หนังเปิดตัวสูงสุดประจำครึ่งปีหลัง ไปได้อีกหนึ่งตำแหน่ง แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง 2012 ซึ่งโดนกวาดสถิติไปแทบจะหมดตัวอยุ่แล้ว!!! สำหรับพุ่มพวง แม้ว่าจะทำเงินเปิดตัวสูงสุดในกลุ่มหนังไทยช่วงสามเดือนนั้น (พฤษภา – กรกฏา) แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเข้าใกล้สถิติหนังไทยของเดือนนี้ได้อยู่ดี เพราะเจ้าของแชมป์อย่าง นางนาก อยู่ยาวมาร่วม 12 ปีแบบไม่มีทีท่าว่าจะลงจากบัลลังก์ง่ายๆ ซะที (เปิดตัวไปร่วม 40 ล้านบาท!!) เดือนกรกฎาคมก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเดือนที่มีหนังฉายน้อยนิด ประมาณ 13 เรื่อง เก็บเงินรวมกันไปถึง 356.8 ล้านบาท แม้จะเป็นตัวเลขที่เยอะ แต่เมื่อได้เห็นของเดือนก่อนๆ ก็เลยดูกร่อยลงไปเลย!!! สถิติยังคงเป็นของปี 2551 ที่ทำเอาไว้ห่างถึง 459 ล้านบาท (โดยได้ The Mummy 3 และ The Dark Knight ผนึกกำลังกันกวาดเงินไปท่วมท้น!) รวมไปถึงพ่ายให้แก่กรกฎาปีก่อน ซึ่งทำเงินมากกว่าอยู่พอสมควร ที่ 396 ล้านบาท สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : พุ่มพวง (อันดับ 3) - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 (อันดับ 1)** - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : The lost Blademan (อันดับ 5) สถิติตลอดกาลประจำเดือนนี้ - หนังทำรายได้เปิดตัวเดือนกรกฎาคม สูงสุดตลอดกาล : Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 - หนังต่างประเทศทำรายได้เปิดตัวเดือนกรกฎาคม สูงสุดตลอดกาล : Harry Potter and the Deathly Hallow: part 2 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:23:57

ความคิดเห็นที่ 14 เดือนสิงหาคม : 315.2  ล้านบาท เข้าสู่โค้งสุดท้ายของซัมเมอร์ ความคึกคักของโรงหนังจึงลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่อหนังฝรั่งทั้งหลายต่างก็เริ่มหมดแรงกันลงไปแล้ว จึงถึงเวลาที่ฟากหนังไทย จะส่ง “ฟอร์มโหด” อีกเรื่องกลับลงสู่สนามอีกครั้ง!! ถือเป็นการกลับมาสานต่อความสำเร็จอีกครั้งในรอบ 5 เดือน สำหรับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ที่เรียกได้ว่า ทำเอาหนังน้อยหนังใหญ่พากันหนีตายกันอลหม่านอีกเช่นเคย แม้ว่าจะยังคงแรงตามคาด แต่ดูเหมือนว่า “พิษ” กระแสลบจากภาคก่อน กลับมาย้อนเล่นงานภาคนี้ จนกลายเป็น “แรงตก” เกินคาด ท้ายที่สุดหนังก็ไม่สามารถทะลุด่าน 200 ล้านได้ตามที่ภาคอื่นๆ ทำได้ แถมยังทำเงินน้อยกว่าภาคที่แล้วเกือบ 70 ล้าน!!(แต่ถึงยังไง รายได้ก็ยังคงเยอะพอที่จะคว้าที่นั่ง หนังไทยทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ไปได้อยู่ดี!) ตามมาห่างๆ ก็คือฟากของหนังฝรั่งภาคต่อ ที่ยังคงสรรหาความตาย มาสร้างความบันเทิงให้แก่คนดูได้อยู่เรื่อยๆ ยิ่งได้เทคนิค “สามมิติ” ทะลุจอมาช่วยเรียกเสียงหวีดด้วยแล้ว นั่นก็คือ เหล่าโกงความตาย Final Destination 5 ที่ต่อให้โครงเรื่องยังคงซ้ำๆ แถมความตายก็เริ่มซับซ้อน+เว่อร์เกินไปทุกที แต่คนดูก็ยังคงถูกในในความบันเทิงที่ต้องลุ้นระทึกกันแบบนี้อยู่ ทำให้หนังโกยเงินได้มากที่สุดประจำซีรี่ย์ไปแบบเกินคาดเอามากๆ (ส่วนหนึ่งก็เพราะ โรงสามมิติที่เพิ่มมากขึ้นจากภาคที่แล้วด้วยล่ะ แม้จะเปิดตัวน้อยกว่าก็ตาม!) ม้ามืดประจำเดือน ตกเป็นของหนังพรีเครล (ที่พยายามไม่ขอมีส่วนร่วมกับภาคที่แล้วๆ มา ซะงั้น!!) อย่างแก๊งค์ลิงยึดโลก Rise of the Planet of the Apes ที่ตอนโปรโมต เรียกได้ว่า ดูเฉยๆ เอามากๆ ในสายตาของหลายๆ คน (รวมทั้งผมด้วย) แต่เมื่อหนังเข้าฉาย กลายเป็นว่า หนัง “ดี” เกินคาด จนทำให้หนังยืนโรงเก็บเงินได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ (แม้จะต้องชนกับ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในสัปดาห์หลังๆ ก็ตาม) แต่พี่ลิงภาคนี้ก็ไม่สามารถแซงหน้าเวอร์ชั่นก่อนของ ทิม เบอร์ตั้น ไปได้ (52 ล้านบาท) อย่างน่าเสียดาย หนังไทยที่ขอพูดถึงซักหน่อยก็คือ คนโขน ในฐานะ “ตัวแทนหนัง ไทยไปชิงชัยออสการ์” สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งเกณฑ์ก็ไม่ได้อยู่ที่รายได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่หนังจะทำรายได้ต้อยต่ำเสียเหลือเกิน (เพราะประกาศผลตัวแทนเข้าชิง หลังจากหนังฉายไปเป็นเดือนได้แล้ว!) ภาพรวมเดือนนี้ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ยังคงสร้างความคึกคักได้เช่นเคย แม้ว่าจะไม่มากเท่าที่คาดไว้ก็ตาม แม้ว่ารายได้เปิดตัวของหนังจะน้อยลงไปจากภาคก่อนๆ แต่ต่อให้นำรายได้เปิดตัวภาคสามมาใช้แทน การจะล้มสถิติเก่าเดือนนี้ก็ยังถือว่า “ยากมาก” อยู่ดี!! เพราะสถิติเก่ายังคงเป็นของ “หนังไทยที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล” อย่าง ต้มยำกุ้ง เคยโกยแบบโรงแตกไปถึง 93.4 ล้านบาท จำนวนเดือนสิงหาคม ก็ยังน้อยไม่แตกต่างจากช่วงซัมเมอร์เดือนอื่นๆ มีประมาณ 13 เรื่อง เก็บเงินรวมกันไปได้ 315.2 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในโซนสูงทีเดียวสำหรับเดือนสิงหา เพราะในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 2 ปีเท่านั้น ที่เดือนสิงหาสามารถทะลุหลัก 300 ล้านไปได้ ซึ่งสถิติเก่ายังคงเป็นของปีก่อน หรือปี 2553 เคยทำเอาไว้สูงเกินหน้าเกินตาทุกปีไปถึง 478 ล้านบาท!! (ได้ทั้ง กวน มึน โฮ และ สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ผนึกกำลังกันกวาดเงิน!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Final Destination 5 (อันดับ 2) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Come Rain, Come Shine (อันดับ 5) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:24:29

ความคิดเห็นที่ 15 เดือนกันยายน : 290.2  ล้านบาท หมดซัมเมอร์ = หมดช่วงทองของหนังฝรั่ง(เป็นอย่างน้อยล่ะน่า!!) เดือนนี้จึงมักจะได้เห็นหนังไทย เริงร่าได้อยู่เนืองๆ (จนมักจะเป็นช่วงเวลาทองของหนังไทยได้อีกหนึ่งเดือน) แต่จากสถิติหลายๆ ปีที่ผ่านมา เรากลับมักจะได้เห็นบรรดาหนังฝรั่ง “ฟอร์มรอง” มาระเบิดฟอร์มในบ้านเราได้อยู่บ่อยครั้ง......ซึ่งสถิติที่ว่า ดันมาเกิดขึ้นกับปีนี่อีกครั้ง!!! แชมป์ประจำเดือน ตกเป็นของหนังฝรั่ง แต่ไม่ได้มาจากฝั่งฮอลลิวู้ด แต่เป็นฝั่งเกาะอังกฤษ ที่คราวนี้ส่งสายลับสุดฮา ทำเงินเกินคาดในบ้านเราไปในภาคก่อน อย่าง Johnny English Reborn เนื่องจากป๋า โรแวน แอ็ตคินสัน ค่อนข้างเป็นที่คุ้นหน้าในบ้านเราไม่น้อย จากบทตลกหน้าตาย “มีสเตอร์บีน” ที่โลดแล่นในจอทีวีบ้านเรามาพอสมควร หลังจากที่ภาคแรกฮิตไปไม่น้อยแล้ว (41.7 ล้านบาท) ภาคนี้ก็คงหวังกลับมาฮิตไม่แพ้กัน แต่เอาไปเอามา ดันฮิตระเบิดซะนี่!!! แม้หนังจะทำเงินเป็นสถิติในกลุ่มคอมเมดี้ต่างประเทศ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่หนัง กลายเป็นหนังตลกทำเงินสูงสุดในบ้านเราปีนี้นี่สิ ถือว่าตลกกว่า!! ในเมื่อหนังไทย แทบจะครองตลาดนี้มาอย่างยาวนาน แต่การถูกเจาะตลาดเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วล่ะมั้ง!!! อันดับสองยังคงเป็นหนังฝรั่ง(ที่ไม่ใช่ฝั่งฮอลลิวู้ดอีกเช่นกัน) กับเวอร์ชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเก่าของเหล่าสามทหารเสือ พิทักษ์บัลลังก์ The Three Musketeers ที่คราวนี้ มามันส์สะใจทะลุจอในรูปแบบสามมิติอีกด้วย แม้จะได้ทีมสร้าง+ดารานำจากหนังตระกูล Resident Evil มาช่วยแต่งเติมความมันส์ แต่เหล่าทหาร:-)็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในบ้านเราซักเท่าไหร่ ถึงยังไงก็เก็บเงินไปไม่เลวทีเดียว พิกซ่าร์ปีนี้ ยังคงส่งภาคต่อมาชิงชัยในสังเวียนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นการ์ตูนภาคต่อจาก “หนังที่ได้รับคะแนนวิจารณ์แย่ที่สุดของค่าย” อย่าง Cars 2 ที่ถูกนักวิจารณ์สับเละว่า “แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ค่ายพิกซ่าร์” ไปแล้ว แม้ว่าในต่างแดน หนังจะโกยเงินกันสนั่น แต่สำหรับในบ้านเรา เจ้ารถภาคแรก ถือว่าเป็นหนังทำเงินต่ำสุดในบ้านเราของค่ายพิกซ่าร์เลยทีเดียว!! ดังนั้นภาคนี้ถึงจะทำเงินได้มากกว่า ก็ใช่ว่าจะน่าตื่นเต้นมากเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไร่ก็ไปได้ไกลกันไม่เท่าไหร่นักอยู่ดี (ห่างจากภาคแรก เกือบเท่าตัวได้) ฟากหนังไทย ทำได้ดีที่สุดคือตัวเต็งประจำเดือนนี้ อย่าง อุโมงค์ผาเมือง ที่ต้องยอมรับว่า หน้าหนังและฟอร์มค่อนข้างดีมาก เพราะรวมดาราฝีมือฉมังเอาไว้ไม่น้อย แถมภาพและงานออกแบบศิลป์ก็ทำออกมาได้สวยงามตื่นตามากทีเดียว (แถมชื่อผู้กำกับจาก ชั่วฟ้าดินสลาย ก็น่าจะช่วยได้มากทีเดียว) แต่ดูเหมือนว่า ท้ายที่สุด หนังก็ไม่ได้ออกมาถูกใจคนดูเท่าที่คิด จนทำให้รายได้ตกลงไปจาก ชั่วฟ้าดินสลาย พอสมควร (33 ล้านบาท) ทั้งๆ ที่เรื่องหลังเปิดตัวได้น้อยกว่า ภาพรวมของเดือนนี้ออกมาก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แม้ว่าจะไม่มีหนังระดับ 100 ล้านเหมือนเดือนที่ผ่านๆ มา แต่หนังที่ทำเงินในระดับปานกลางก็มีค่อนข้างเยอะพอสมควร (เนื่องจากไม่ต้องมาถูกหนังใหญ่ตัดรายได้) แชมป์ของเดือนอย่างบักจอนนี่ แม้จะทำเงินไปค่อนข้างดี แต่รายได้เปิดตัวก็ไม่ได้ถึงขั้นสูงมหาศาล แม้จะไม่ถึงขั้นติดโผในกลุ่มสถิติตลอดกาลลำดับสูงๆ แต่ในกลุ่มหนังฝรั่ง ก็ยังเพียงพอที่จะติด Top 5 ในรอบ 10 ปีได้อยู่ดี โดยแชมป์ประจำเดือนเป็นของตระกูลหนังสุดฮ็อต ประจำเดือนนี้ อย่าง Resident Evil 5 ที่ทำเงินทำทองเอาไว้สูงหลายภาคมากๆ ในเดือนนี้ แต่ภาคล่าสุดนั้นสูงถึงระดับสถิติ ที่ 51.7 ล้านบาท เดือนกันยายนผ่อนคลายจากหนังยักษ์ลงมาเยอะ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีหนังฉายมากหนาตาสุดๆ ประมาณ  28 เรื่อง ช่วยกันเก็บเงินไปได้ 290.2 ล้านบาท ถือว่าสูงมากทีเดียวสำหรับเดือนกันยายนหลายๆ ปี แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเป็นสถิติอยู่ดี เจ้าของสถิติเก่าคือปี 2548 ทำเงินเอาชนะไปแบบน่าเสียดาย ที่ 306 ล้านบาท (นำโดยเฮียหม่ำ ในบท แหยมยโสธร ทำเงินเฉียดร้อยล้าย มาช่วยฉุดขึ้นไปอีกนิด!) เมื่อเทียบกับกันยาปีก่อนก็เลยพอดูดีขึ้นมาบ้าง แม้ปีก่อนจะไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากนัก (222 ล้านบาท) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : อุโมงค์ผาเมือง (อันดับ 4) - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Johnny English Reborn (อันดับ 1)** - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : Camellia รักแรก รักเธอ รักสุดท้าย (อันดับ 21) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:24:54

ความคิดเห็นที่ 16 เดือนตุลาคม : 219.6  ล้านบาท เข้าสู่ช่วงเวลาปิดเทอมของคุณหนูๆ แล้ว!!!! จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นหนังสำหรับคุณน้องๆ หนูๆเปิดตัวในเดือนนี้มากเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ใช่ตลาดใหญ่พอที่จะขึ้นมาชิงแชมป์ได้ง่ายๆ จริงๆ! แต่เหตุการณ์ซึ่งถือว่าเป็นที่หวาดหวั่นไปทุกวงการ ไม่เว้นกระทั่งโรงหนัง นั่นก็คือ “น้ำท่วมใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานครฯ” ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ทุกวงการ และเดือนนี้ก็ถือว่า เริ่มส่งผลให้เห็นชัดเจน ในด้านมีผลกระทบต่อรายได้หนังก็ว่าได้! แชมป์ประจำเดือนเปลี่ยนมือมาอยู่กับฟากหนังไทยได้อีกครั้ง แล้วก็เป็นหนังไทยที่สร้างกระแสได้เยอะมากทีเดียวช่วงเปิดตัว สำหรับ 30+ โสด ON SALE หนังสาวโสด 30 เรื่องแรกในสองเรื่องที่ชิงเปิดตัวก่อน สร้างกระแสก่อน แล้วก็ทำได้แรว๊งสสสส์ จริงๆ เพราะนอกจากจะได้ดาราดัง+ตลกสาวดัง มาร่วมจอเรียกเสียงฮากันอย่างคับคั่งแล้ว ดูเหมือนว่า เครดิตเก่าของผู้กำกับ อย่าง “จากผู้กำกับ สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ก็ดูเหมือนจะมีผลต่อการตัดสินใจของคนดูมากทีเดียว! ทำให้หนัง เปิดตัวแรงมาก ถึงขั้นติดโผ หนังไทยเปิดตัวแรงสุดประจำปีนี้ ในลำดับ 4 เลยทีเดียว! แต่ทันทีที่กระแสลบ และความผิดหวังเริ่มถาโถมเข้ามา....งานนี้ รายได้ก็มี “ไหลลง เทลง” สิครับ!!! (แถมต้องมาเจอกับน้ำท่วมอีกในสัปดาห์ต่อๆ มา) โชคดีที่หนังตุนไว้สัปดาห์แรกไม่น้อย เลยทำให้หนังคว้าแชมป์ประจำเดือนนี้ไปอย่างง่ายดายตามคาด ฝั่งหนังฝรั่ง แชมป์ตกเป็นของหนุ่มงานชุก จัสติน ทิมเบอร์เลค อย่าง In Time ที่แม้จะต้องเจอกับน้ำท่วม แต่หนังกลับโชคดีถึง 2 เด้ง! เด้งแรก คือทันทีที่หนังฝรั่งฟอร์มดีในเดือนนี้ พากันอพยพหนีน้ำ หนังก็เลยกลายเป็นหนังฝรั่งฟอร์มดีสุดประจำเดือนนี้ไปเลยทันที!! เด้งที่สอง แม้กระแสหนังจะไม่ได้ดีเด่อะไรมาก แต่การที่หนังดูได้เพลิน และดูดีกว่าเรื่องอื่นๆ ในช่วงนั้น ก็พลอยทำให้คนดูเลือกหนังเป็นตัวเลือกแรกๆ ไปเสีย ทำให้หนังทำเงินลดลงต่อสัปดาห์น้อยเกินคาด และติดอยู่ใน Top 10 นานเกือบ 2 เดือน!! ขณะที่ In Time น้ำท่วมแล้วเหมือนจะโชคดี อีกหนึ่งหนังไทยที่กระแสดี แต่โชคไม่ดีตามไปด้วย อย่าง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ก็คงไม่คิดอย่างงั้นไปด้วย! ทั้งๆ ที่กระแส และคำวิจารณ์ของหนัง ออกมาดีมากๆ สำหรับหนังไทยวงกว้างในรอบปีนี้ แต่ดูเหมือนว่า การที่หน้าหนังดู “หนัก” เกินไป สำหรับคนดูที่ต้องการ “คลายความเครียด” จากน้ำท่วม ทำเอาหนังไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ที่คนดูอาจจะคิดถึงไปเสีย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยต่างจากตอน บ้านฉันตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) เมื่อปีก่อนซักเท่าไหร่ แต่ตอนนั้นเหตุการณ์ในช่วงของบ้านฉันยังไม่รุนแรงมากนัก จึงยังมีผลไม่มากเท่าเรื่องนี้ ฝั่งหนังเอเชีย นานๆ จะติด Top 10 ได้ซักที คราวนี้เป็นคิวของยอดนักบู๊คุ้นหน้าในบ้านเราเป็นอย่างดี อย่างเฮีย เจ็ทลี ที่คราวนี้ กลับมาพร้อมกับตำนานนางพญางูขาว ใน The Sorcerer and the White Snake ที่ถึงแม้ว่าจะตามหลัง 2 อันดับแรกของหนังเอเชียปีนี้อยู่ครึ่งค่อนตัว แต่รายได้หนังก็ถือว่าเกินคาดสำหรับหนังเอเชียช่วงนี้อยู่ดี (เอาเป็นว่า เกิน 10 ล้านก็ถือว่าดูดีแล้ว!!) ภาพรวมของเดือนนี้ แม้จะเริ่มโดนน้ำท่วมเล่นงานไปบ้าง แต่โดยรวมก็ยังมีหนังกอบโกยได้ในระดับที่ดีหลายเรื่องอยู่ รายได้เปิดตัวของแชมป์อย่าง 30+ โสด ON SALE แม้จะยังคงห่างไกลสถิติของเดินนี้อยู่อีกมาก (เจ้าของสถิติคือ ภาคต่องูยักษ์ Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid ทำเงินเปิดตัวในระดับที่แทบทุกคนไม่คิดไม่ฝันไปถึง 56 ล้านบาท!!!) แต่ในกลุ่มหนังไทยเดือนนี้ หนังก็ยังพอที่จะไต่ขึ้นไปแทรกตัวอยู่ในอันดับ 3 ได้อยู่ (ตามหลังแชมป์อย่าง รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ ที่แพ้งูยักษ์ไปนิสสสเดียวจริงๆ ที่ 55.9 ล้านบาท!) ผลกระทบจากหนังเลื่อนฉาย เลยทำให้หนังในเดือนตุลา ลดลงมาเหลือประมาณ 18 เรื่อง เก็บเงินรวมได้ 219.6  ล้านบาท ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางต่ำหน่อย โดยสถิติยังคงเป็นของปี 2552 ซึ่งทำเงินไปแรงพอสมควร ที่ 362 ล้านบาท (หัวจักรสำคัญคือ หนังไทยยอดฮิต รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ นั่นเอง!) แต่อย่างน้อยก็ยังดูดีกว่าตุลาคมปีก่อน ที่ทำเงินต่ำสุดในรอบ 7 ปีไปเพียง 178 ล้านบาท! สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : 30+ โสด ON SALE (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : In Time (อันดับ 2) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : The Sorcerer and the White Snake (อันดับ 5) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:25:25

ความคิดเห็นที่ 17 เดือนพฤศจิกายน : 159.9  ล้านบาท น่าจะเป็นเดือนที่โชคร้ายที่สุดสำหรับวงการหนังไทย จากการที่โดนน้ำท่วมเล่นงานในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ อย่างหนัก ทำให้นอกจากหนังจะเสียโอกาสจากโรงที่จำต้องปิดตัวชั่วคราวหลายแห่งแล้ว ค่ายหนังต่างๆ ก็จำเป็นที่จะไม่เสี่ยง โดยการโยกหนังที่อุตส่าห์โปรโมตไว้ โยกไปฉายยังช่วงอื่นๆ (ซึ่งหลายๆ ค่าย จำเป็นต้องโยกหนังไปทั้งแผงเลยก็ว่าได้) แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ขนาดนี้ ก็ยังพอมีข่าวดีให้ได้เห็นภายในเดือนนี้อยู่บ้าง(ล่ะน่า!) เจ้าของข่าวดีที่ว่าก็คือแชมป์ทำเงินประจำเดือนนี้ ซึ่งก็เป็นฝั่งหนังไทยอีกครั้ง แถมยังเป็นหนังไทย ตำรับ “สาวโสด 30” อีกเรื่องเช่นกัน นั่นก็คือ 30 กำลังแจ๋ว (แหม่! ที่ 30+ ยังทำได้ แล้วทำไมทีชั้นจะเป็นแชมป์ไม่ได้บ้างล่ะ!!  By พี่จ๋า) ที่ก็ต้องยอมรับว่า เสียเปรียบสาว 30 อีกเรื่องหลายๆ ด้านมากในตอนเปิดตัว เพราะเจอทั้งน้ำท่วมหนัก แถมกระแสก็ไม่ได้แรงเท่าอีกสาว 30 เลยเปิดตัวได้น้อยกว้ากันเยอะ (ร่วม 15 ล้านบาท) แต่ด้วยกระแสที่ออกมาดีเกินคาด (กว่าที่หลายๆ คนคาดหวัง) แถมยังไร้คู่แข่งในช่วงนั้นอีก พี่จ่าของเราเลยกลายเป็นตัวเลือกแรกๆของช่วงนั้นไปโดยปริยาย(อีกเช่นกัน!) จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังจะสามารถขึ้นอันดับหนึ่งได้ถึง 3 สัปดาห์ซ้อน! สูงสุดประจำปีนี้เลยก็ว่าได้!! ฟากหนังฝรั่ง แชมป์ประจำเดือนตกเป็นของหนังการ์ตูนอีกครั้ง! คราวนี้ถึงคิวของ “เจ้าแมวซ่าส์ ตาแป๋ว” Puss in Boots ที่แม้จะเป็นการแยกทางจากเจ้ายักษ์เขียว Shrek เป็นครั้งแรก แต่หนังกลับทำได้ดีเกินคาดทีเดียว ส่วนหนึ่งมาจากกระแส และคำวิจารณ์ที่ออกมาค่อนข้างดี แถมไม่ต้องชนกับคู่แข่ง การ์ตูนสายแข็งในช่วงนั้นเท่าไหร่ เลยทำให้หนังเก็บเงินไปได้เป็นกอบเป็นกำ ถึงขั้นทำรายได้สัปดาห์ที่สอง เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์แรกด้วยซ้ำ!!! (แต่เป็นเพราะสัปดาห์แรก จำกัดฉายเฉพาะโรงสามมิติด้วยแหละครับ!) อีกหนึ่งหนังฝรั่งที่กระแสดีพอตัวก็คือ มนุษย์ต่างดาว เลียนแบบสยอง The Thing ที่ภาคนี้ ถือว่าเป็นภาค “พรีเควล” จากภาคสุดคลาสสิค เมื่อ 29 ปีที่แล้ว มาภาคนี้แม้ว่าจะไม่ถึงกับสร้างปรากฏการณ์ได้เท่าภาคก่อน แต่ก็เป้นที่พูดถึงไม่น้อยในช่วงนั้นทีเดียว เฮียเฉินหลง กับหนังเรื่องที่ 100 ของเขา อย่าง 1911 ก็เรียกได้ว่า เงียบฉี่ในบ้านเรามากๆ เพราะมาในรูปแบบดราม่า ไม่ต้องตาแฟนๆ ของเฮียในบ้านเราซักเท่าไหร่!! และอีกหนึ่งหนังที่เรียกได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในบ้านเราก็ว่าได้ นั่นก็คือ “ละครเวทีบนจอภาพยนตร์” สำหรับละครเวทีชื่อดัง The Phantom of the Opera at the Royal Albert Hall ที่แม้ว่าจะได้โรงฉายเพียงหยิบมือ แต่ด้วยตัวหนังที่ถ่ายทอดอารมณ์ละครเวทีออกมาได้ดีเกินคาด (เพราะตัวละครทำออกมาดีอยู่แล้ว) เลยทำให้หนังเป็นที่ถูกใจทั้งคอหนังและคอละครเวทีไม่น้อย เก็บเงินได้ไม่น้อย ถึงขั้นทะลุเข้ามาใน Top 10 เดือนนี้ได้สำเร็จ ภาพรวมของเดือนนี้ หงอยเหงาลงอย่างเห็นได้ชัดสุดๆ หากไม่มี 30 กำลังแจ๋ว ทำเงินในระดับนี้ซักเรื่อง ทั้งเดือนก็ต้องเรียกว่า “ร้างคนดู” เป็นแน่แท้ ด้วยรายได้ที่ซบเซา กระทั่งแชมป์ของเดือนก็ยังถือว่าเปิดตัวได้น้อยมาก ดังนั้นสถิติเปิดตัวสูงสุดของเดือนจึงยังคงอยู่ต่อไป (แชมป์ยังคงเป็นของ 2012 อดีตหนังเปิดตัวสูงสุดในบ้านเรา ทำเอาไว้ถึง 94.9 ล้านบาท) แต่ที่น่าตกใจก็คือ ขนาด 30 กำลังแจ๋ว เปิดตัวได้ห่างชั้นเจ้าของสถิติของเดือนขนาดนั้น (19.5 ล้านบาท) พอหันมาดูฟากหนังไทย กลายเป็นว่า หนังกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 เลยทีเดียว!!! (เฮ่ย!!) ไม่รู้ทำไมถึงได้แห้งแล้งหนังไทยฮิตๆ ในเดือนนี้ขนาดนั้น!!! เจ้าของแชมป์ก็ยังคงเป็น โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า หนังเปิดตัวแรงของคุณยอร์ช (ยุคก่อน 32 ธันวา) เคยทำเอาไว้ที่ 27.6 ล้านบาท ในเมื่อพากันหนีน้ำไปหมด หนังในเดือนพฤศจิกาปีนี้จึงเหลือประมาณ 16 เรื่อง ทำเงินรวมกันได้ 159.9 ล้านบาท น้อยที่สุดในรอบปีแล้วก็ว่าได้ (ซึ่งก็เป็นไปตามคาด) แต่ยังอุตส่าห์ไม่น้อยที่สุดในรอบ 7 ปี (ซะงั้น!) เพราะสถิติ “ต่ำต้อย” ตกเป็นของปี 2547 ที่ทำเงินไปเพียง 137 ล้านบาท ส่วนสถิติสูงสุดยังคงเป้นของปี 2552 ซึ่งทำเองไว้สูงถึง 364 ล้านบาท (นำโดย 2012 ในระดับ 200 ล้านอีกเช่นกัน!) เมื่อเทียบกับปีก่อน ก็ย่อมหลุดลุ่ยกันเป็นธรรมดา เพราะทำเอาไว้ห่างกันหลัก 100 ล้าน! ที่ 279 ล้านบาท สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : 30 กำลังแจ๋ว (อันดับ 1)** - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Puss In Boots (อันดับ 2) - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : 1911 (อันดับ 8) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:26:55

ความคิดเห็นที่ 18 เดือนธันวาคม : 497.8  ล้านบาท ฟ้าหลังฝนย่อมสดชื่นเสมอ! หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มทุเลาลงไปในหลายพื้นที่แล้ว วงการหนังในบ้านเราก็ดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะปกติเช่นกัน ประจวบเหมาะกับเดือนสุดท้ายที่มีวันหยุดหลายวัน จนทำให้เป็นช่วงที่หนังฟอร์มดี(ทั้งไทย และเทศ) แย่งกันเข้าฉายอย่างจ้าละหวั่น! สมทบด้วยหนังฟอร์มดีหนีน้ำทั้งหลายเข้าไปอีก ธันวาคมปีนี้เลยเป็นเดือนที่คึกคักอย่างไม่ได้ตั้งใจไปเสีย!! แต่ก็ถือว่าดีไม่น้อย เพราะนอกจากแต่ละเรื่องจะมีช่วงเวลาเป็นของตัวเองได้มากพอสมควร ยังช่วยกันถล่มโรง ราวกับอัดอั้นกันมาตลอดช่วงน้ำท่วม ยังไงอย่างงั้น!!! ซึ่งก็รวมไปถึงการลุ้นแชมป์ประจำเดือน ที่น่าจะสูสีที่สุดในรอบปีแล้วก็ว่าได้!! (เนื่องจากแต่ละเดือน แชมป์ต่างก็นำโด่งจากอันดับรองๆ อยู่มากพอสมควร) ท้ายที่สุดก็กลายเป็น “เต็งรอง” ที่สามารถคว้าแชมป์ไปได้แบบเหนือคาด (แต่ไม่ “Impossible”) สำหรับหนังสายลับภาคต่อชื่อดังในบ้านเรา อย่าง Mission : Impossible - Ghost Protocol ที่เรียกได้ว่า มาแบบเหนือเมฆจริงๆ เพราะนอกจากจะลบคำสบประมาทหนังที่ยังจะ “อุตส่าห์” มีภาคต่อออกมา แถมยังให้พระเอกที่ถูกกระแสยี้เล่นงานในภาคก่อน อย่างป๋าทอม ครูซ กลับมาวิ่ง/สู้/ฟัด อีก (ทำเอาป๋าครูซ กับ ผู้กำกับแบรด เบิร์ด กลับมา “แจ้งเกิด” กันอีกรอบเลยทีเดียว!!) หนังยังพิสูจน์ให้เห็นว่า ภาคที่แล้ว “ไม่ใช่แค่ฟลุ้ค” ด้วยการทะลุหลัก 100 ล้านไปได้อีกครั้งหนึ่ง (แถมแซงภาค 3 ซึ่งเป็นภาคที่ทำเงินสูงที่สุดในซีรี่ย์อีกด้วย!) ขณะที่ “เต็งหนึ่ง” อย่างภาคต่อแวมไพร์บริ๊ง หมาป๋าล่ำ The Twilight Saga: Breaking Dawn Part 1 ตอนแรกของภาคจบซีรี่ย์นี้ ซึ่งเก็บเงินในระดับที่เรียกว่า “โหด” และ “ตามคาด” อยู่แล้ว (กลายเป็นภาคที่ทำเงินสูงที่สุดในตระกูลอีกเช่นกัน แซงหน้าภาค 3 ที่ 103 ล้าน) แต่ดันกลายเป็นว่า “โหดไม่พอ” ที่จะรักษาแชมป์ไว้ได้ สาวกทไวไลท์ก็เลยได้ดีใจกันไม่สุด อย่างที่คิดไว้ ฟากหนังไทย เรื่องนี้ก็เต็งในระดับแชมป์เช่นกัน สำหรับ ส.ค.ส. สวีทตี้ ที่ขนดาราในสังกัดเฮียยอร์ชมาร่วมเล่นกันแทบจะล้นจอ!! แต่ไม่รู้เพราะโดนกระแส สุดเขต สเลดเป็ด เล่นงานรึเปล่า เลยทำให้หนังพลาดหวังจากหลัก 100 ล้าน และการเป็นแชมป์ในเดือนปิดปีอย่างน่าเสียดาย! ขณะที่สิ้นปี ส.ค.ส. กำลังหวังจะลุ้นแชมป์ประจำเดือนนี้อยู่ อีกเรื่องที่ถือเป็นม้ามืดก็เปิดตัวพร้อมๆ กันด้วย นั่นคือ กำปั้นเหล็ก สะท้านโลก Real Steel ที่หลายฝ่ายกังวลว่าการที่หนังเลื่อนฉายหนีน้ำมาร่วม 2 เดือน จะทำให้คนดูเลิกจะรอหนังไปแล้วรึเปล่า (ซึ่งหน้าหนังก็ไม่ได้ถึงกับเรียกคนดูในวงกว้างขนาดนั้น) ด้วยรายได้เปิดตัวออกมาอยู่ในระดับตามคาด (แพ้ ส.ค.ส. ไป 7 ล้านบาท) แต่ด้วยความสนุกเกินคาดของหนัง ที่ช่วยสร้างกระแสและแรงเชียรืข้างสนาม ได้กระหึ่มมากกว่าที่หลายๆ คนคิดไว้ ทำให้ทันทีที่ระฆังในยกสองลั่นขึ้น เจ้าหุ่นอะตอมของเราก็ทำการฮุคซ้าย ฮุคขวา บรรดาหนังใหม่อย่างไม่เกรงกลัว จนท้ายที่สุดก็จบในระดับรายได้ที่สูงไม่น้อยทีเดียว! ขณะที่ภาคต่อยอดนักสืบขาบู๊จากเกาะอังกฤษ อย่าง Sherlock Holmes: A Game of Shadows ที่แม้ภาคนี้จะเข้มข้น+อลังมากขึ้น แต่กลับไม่ได้เป็นที่ถูกใจคอหนังทั่วไปมากเท่าที่คิด จึงทำเงินน้อยกว่าภาคแรกไปอย่างน่าเสียดาย ภาพรวมของเดือนนี้เรียกได้ว่า ก้าวกระโดด จากเดือนที่แล้วอย่างรุนแรงเลยทีเดียว (ซึ่งก็ไม่น่าแปลก เพราะมีหนังทำเงินเกิน 40 ล้านถึง 6 เรื่อง!!) แม้แชมป์จะเป็นของ Mission : Impossible 4 แต่หนังที่เปิดตัวสูงสุดกลับตกเป็นของ Breaking Dawn Part 1 ที่เรียกคนดูออกมาได้เร็วกว่า ถึงอย่างไร แม้ว่าจะเปิดตัวได้ในระดับ 50 ล้าน แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะล้มสถิติตลอดกาลของเดือนนี้ได้อยู่ดี (แชมป์ตกเป็นของ Avatar ที่แม้จะเก็บเงินไปถล่มทลาย แต่ก็ออกสตาร์ทไม้ถึงกับแรงเว่อร์ ที่ 64.9 ล้านบาท) ฟากหนังไทยอย่าง ส.ค.ส. สวีทตี้ ยังเปิดตัวสู้ สุดเขต สเลดเป็ด ของปีก่อนหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำ จึงแทบจะไม่มีหวังที่จะเข้าไปใกล้สถิติฝั่งหนังไทยอย่าง องค์บาก 2 เลยก็ว่าได้ เพราะขานั้นเปิดตัว 3 วันไปถึง 53.1 ล้านบาท เลยทีเดียว!! เดือนธันวาคม แม้จะมีหนังเยอะขึ้น แต่ก็ไม่ได้เยอะไปกว่าเดือนก่อนหน้ามากเท่าไหร่ ประมาณ 19 เรื่อง แต่เก็บเงินรวมไปมากถึง 497.8 ล้านบาท สูงมากๆ ทีเดียวสำหรับปีนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ทำได้เพียงอันดับ 2 ของปีนี้เท่านั้น (อันดับ 1 คือเดือนมิถุนายน ซึ่งทำไประดับ 500 ล้านโน่นเลย!) ขณะที่สถิติของเดือนธันวาปีอื่นๆ ปีนี้ก็ยังถือว่าแรงมากๆอีกเช่นกัน และเป็นรองเพียงปี 2552 ซึ่งเดือนนั้นเป็นเจ้าของสถิติ เดือนที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล (ในรอบ 7 ปี) เพราะฟาดเงินไปร่วม 600 ล้านบาท!!! ส่วนเดือนธันวาปีก่อน แม้จะทำได้น้อยกว่า แต่ก็ไม่มากมายเท่าไหร่ เพราะทำได้ใกล้เคียงกัน ที่ 469 ล้านบาท (หากรวมปีนี้ด้วย เดือนธันวาก็จะทำรายได้ในระดับ 450 ล้านบาท 3 ปีติดต่อกันแล้ว ส่วนปีอื่นๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 300 ล้านบาท!) สถิติประจำเดือนนี้ - หนังไทยทำเงินสูงสุด : ส.ค.ส. สวีทตี้ (อันดับ 3) - หนังฝรั่งทำเงินสูงสุด : Mission : Impossible - Ghost Protocol (อันดับ 1)** - หนังเอเชียทำเงินสูงสุด : The Kick วอนโดนเตะ (อันดับ 9) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:27:25

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปรายได้หนังรวม ปี 2554 : 4,026 ล้านบาท ท้ายที่สุด สรูปออกมาทั้งปี รายได้หนังในบ้านเราก็สามารถผ่านหลัก 4,000 ล้านบาทได้เป็นครั้งแรกจนได้!!! ถือเป็นสถิติที่รอคอยกันมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว หลังจากที่เคยเฉียดๆ มาหลายปี ในระดับ 200 ล้านเท่านั้น(เองน้า!!) นั่นก็แน่นอนว่า เป็นสถิติสูงสุดในบ้านเราด้วย ไปโดยปริยาย (สถิติเก่าก็คือปี 2552 ที่มีหนัง 200 ล้าน 3 เรื่องเช่นกัน พาทั้งปีเก็บเงินไปถึง 3,792 ล้านบาท) จากภาพรวมแล้ว ปีนี้มีหนังฉายทั้งสิ้น 207 เรื่อง แบ่งเป็นหนังไทย 43 เรื่อง หนังฝรั่ง 132 เรื่อง และหนังเอเชีย อีก 31 เรื่อง โดยแบ่งตัวเล็กรายได้คร่าวๆได้คือ หนังฝรั่งทำเงินรวมไปถึง 2,636 ล้านบาท (คิดเป็น 65.5%) หนังไทยทำเงินรวมไปประมาณ 1,280 ล้านบาท (คิดเป็น 31.8%) และหนังเอเชีย เก็บไปเพียง 110 ล้านบาท (คิดเป็น 2.7%) เมื่อลองนำไปเทียบกับสถิติปีก่อน จะพบว่า รายได้จากตลาดหนังไทย และ เอเชีย แทบจะคงที่จากปีก่อนๆ ตัวแปรสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ไปนี้ ทำเงินขึ้นไปอย่าง “ก้าวกระโดด” ก็เลยหนีไม่พ้นตลาดหนังฝรั่ง ที่ทำเงินพุ่งจากปีก่อน ร่วม 600 ล้านบาท พิสูจน์ให้เห็นว่าตลาดหนังฝรั่งปีนี้แข็งแกร่งขึ้นมามากๆ (ดูได้จากจำนวนหนังฝรั่ง 100 ล้านถึง 6 เรื่อง) ถึงขั้นเป็นสถิติกันเลยทีเดียว (และน่าจะเป็นปีที่ตลาดหนังฝรั่งทะลุหลัก 2,500 ล้านได้เป็นครั้งแรก ใกล้เคียงที่สุดคือปี 2552 ซึ่งไปได้ถึง 2,434 ล้านบาท) ในส่วนของสถิติประจำปีของหนังแต่ละเรื่องนั้น  Transformers: Dark of the Moon ก็ยังคงเป็นพระเอกประจำปีอีกเช่นเคย สถิติตลอดกาลที่ปีนี้ทำได้ - ปีที่ทำเงินรวมตลอดปีสูงสุดตลอดกาล : 4,026 ล้านบาท - ปีที่หนังฝรั่งทำเงินรวมตลอดปีสูงสุดตลอดกาล : 2,636 ล้านบาท - หนังทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาล : Transformers: Dark of the Moon - หนังต่างประเทศทำเงินสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาล : Transformers: Dark of the Moon จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:27:52

ความคิดเห็นที่ 20 แบ่งสรร ตามหมวดหมู่ แก๊งค์หนังภาคต่อถล่มโรง!! ปีนี้น่าจะถูกจารึกไว้อีกปีว่า เป็นปีที่มีหนังภาคต่อมากที่สุดตลอดกาลเลยก็ว่าได้! เอาเป็นว่าตัวเลขที่ผมเก็บข้อมูลมาได้ มีหนังภาคต่อเข้าฉายในบ้านเราทั้งสิ้น 30 เรื่อง เป็นหนังไทย 5 เรื่อง หนังฝรั่ง 22 เรื่อง และหนังเอเชีย 3 เรื่อง คิดเป็น 14% ของหนังที่เข้าฉายในปีนี้ แต่มีมูลค่าจิ๊บจ๊อยเพียง 1,855 ล้านบาทเท่านั้น!!! (คิดเป็น 46% ของรายได้หนังทั้งหมดในปีนี้กันเลยทีเดีย!!!) ทำให้เราเห็นถึงผลของหนังภาคต่อ ที่ยังคงแข็งแรง และส่งผลต่อตลาดในบ้านเราอย่างมหาศาลอยู่เช่นเคย (หรือดูง่ายๆ แค่ Top 10 ประจำปีนี้ ก็มีหนังภาคต่อติดอยู่ ถึง 8 เรื่องเข้าไปแล้ว!!!) โดยภาพรวมแล้วก็ยังมีหนังภาคต่อเป็นจำนวนไม่ถึงครึ่ง ที่สามารถทำเงินมากกว่าภาคที่แล้วได้อยู่ดี อาจจะพอสะท้อนให้เห็นว่า หนังภาคต่อก็ไม่จำเป็นต้องมีสำหรับทุกเรื่องที่ทำเงินเสมอไปหรอก ขณะที่ภาคต่อทำเงินสูงสุด 5 อันดับประจำปีนี้ มีเพียง 2 เรื่องเท่านั้น ที่ฝ่ามาจากฝั่งครึ่งปีหลัง (Harry Potter 7.2 และ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:28:55

ความคิดเห็นที่ 21 กองทัพซูเปอร์ฮีโร่ แต่โม้ไม่ออก!! หนึ่งในตระกูลที่มักจะทำเงินได้ค่อยข้างดีในบ้านเราก็คือ หนังตระกูล “ซูเปอร์ฮีโร่” ที่มักจะอัดเอฟเฟ็คต่างๆ ให้กับบรรดาพลังปาฏิหาริย์ของเหล่าฮีโร่ของเรา ทำให้หนังฮีโร่มักจะฟอร์มโตไปโดยปริยาย และถูกอกถูกใจคนดูในบ้านเราเป็นอย่างมาก ปีนี้ดูเหมือนจะมีหนังฮีโร่มากเป็นพิเศษ เพราะถูกส่งมาถึง 7 เรื่องเลยทีเดียว!! แบ่งคร่าวๆ ได้เป็นค่ายมาเวล 3 เรื่อง, ค่ายดีซี 1 เรื่อง, นอกสังกัดใหญ่ทั้งสอง อีก 2 เรื่อง และ แอนิเมชั่นอีก 1 เรื่อง (โดยเป็นหนังเอเชียไปเสีย 1 เรื่อง) แต่แม้ว่าจะถูกส่งเข้ามาเยอะขนาดนี้ กลับไม่มีเรื่องไหนทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านเลยแม้แต่เรื่องเดียว!! (ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะทั้ง 7 เรื่อง มีเรื่องที่เป็นภาคต่อเพียงเรื่องเดียว! แถมเรื่องเดียวนั้น ดันโดนพิษจากสองภาคก่อนหน้าเล่นงานด้วยเนี่ยสิ!!) เอาเป็นว่าปีนี้ฝั่งฮีโร่ลุ้นแชมป์กันอย่างสูสีทีเดียว เพราะเฉือนกันเพียงหลักล้านเท่านั้น (เผลอตัวเลขจริงอาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ!!) แต่ถึงอย่างไรแชมป์อย่าง X-Men: First Class ก็กลายเป็นฮีโร่แชมป์ประจำปีที่ทำเงินน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี!!! หรือนับตั้งแต่ Unbreakable เลยทีเดียว!! (โหย! เห็นแล้วหดหู่ยังไงพิกล!) ถึงแม้ว่าจะเจอสถิติด้านลบเข้าไป แต่ในเมื่อปีนี้มีหนังฮีโร่ติดอยู่ใน Top 20 ของปีถึง 3 เรื่อง ก็ถือว่าน่าพอใจแล้วล่ะครับ (แต่ทั้งสามเรื่องเป็นของค่าย มาเวล ล้วนนี่สิ!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:29:16

ความคิดเห็นที่ 22 ก๊วนแอนิเมชั่น มันส์กระจาย!! จากจำนวนแอนิเมชั่นที่เข้าฉายทั้งสิ้น 15 เรื่อง (เป็นการ์ตูน 2 มิติ 3 เรื่อง) ปีนี้ก็ถือว่ามีหนังแอนิเมชั่นเข้าฉายไม่น้อยหน้ากว่าปีก่อนๆ แถมแต่ละเรื่องก็มีจุดขายที่สามารถเรียกลูกค้าได้ใช่ย่อยด้วยทีเดียว!! เรื่องที่ต้องพูดถึงเยอะหน่อยคงจะหนีไม่พ้น เจ้าของสถิติต่างๆ ฝั่งแอนิเมชั่นประจำปีนี้ อย่าง Kung Fu Panda 2 ถือว่าเป็น “ปรากฏการณ์” ไม่แพ้หนังคนแสดงหลายๆเรื่องก็ว่าได้! ที่น่าจะเรียกว่า ได้ดีเพราะเป็นการ์ตูนภาคต่อ+แอ็กชั่น+ฟอร์มดี+สามมิติ เลยพลอยทำให้หนังทำเงินไปซะถล่มทลายอย่างที่เห็น เริ่มตั้งแต่รายได้เปิดตัว 28.3 ล้านบาทถือว่าเป็นสถิติเปิดตัวสูงสุด สำหนังหรับแอนิเมชั่นในบ้านเรา แบบไม่เกี่ยงสัญชาติด้วย! (เอาชนะ Beowulf ที่ระดับ 25 ล้านบาท!) ขณะที่รายได้รวม 67.5 ล้านบาท ก็คว้าอีกหนึ่งสถิติอย่าง แอนิเมชั่นต่างประเทศทำเงินสูงสุดในบ้านเรา มาอย่างง่ายดาย (ล้มเจ้าถิ่นอย่าง Finding Nemo ที่ 55 ล้านบาท) แต่ถ้าเทียบกับทุกสัญชาติแล้ว หนังยังคงคว้ามาได้เพียงอันดับที่ 3 ตามหลังเพียง ก้านกล้วย 2 ภาคแรกเท่านั้น! ภาพรวมของหนังแอนิเมชั่นปีนี้ มีหนังทำเงินเกินหลัก 20 ล้านบาทถึง 5 เรื่อง ซึ่งทำได้ดีกว่าปีก่อน ที่แพ้ไปเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:29:41

ความคิดเห็นที่ 23 หนังตลก(ไทย) ตกบัลลังก์!!! จั่วหัวแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะงงว่าบัลลังก์อะไร?? ก็ตรงๆ ตัวนั่นแหละครับ คือบัลลังก์ หนังตลกทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ นี่แหละ ซึ่งก็พอได้เกริ่นเอาไว้ใน คห. บนๆ แล้วว่า ปีนี้มีเซอร์ไพรส์!!! เพราะเป็นปีแรกในรอบกว่าทศวรรษเลยก็ว่าได้ ที่หนังไทย “ตกบัลลังก์” แชมป์หนังตลกทำเงิน!! แต่หนังที่อาจหาญมาคว้าแชมป์ได้ก็ไม่ใช่เรื่องอื่นไกลที่ไหน ก็คือภาคต่อของสายลับสุดเพี้ยน Johnny English Reborn นั่นเอง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่แปลกใจที่หนังขึ้นมาเป็นแชมป์ได้ ในเมื่อหนังทำเงินในระดับ แชมป์กลุ่มหนังตลกต่างประเทศ เลยก็ว่าได้! (แถมยังมี The Hangover part II ห้อยเข้ามาใน Top 5 อีกต่างหาก!!!) เกิดอะไรขึ้นกับหนังตลกไทยไปแล้ว!!??? ทั้งที่หนังแนวนี้เรียกได้ว่าถูกขนบคนไทย และครองตลาดแถวบนได้อย่างยาวนาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเค้าลางนี้เริ่มเห็นกันมาได้ซักพักใหญ่แล้ว หลังจากที่หนังตลกแบบสุกเอาเผากิน แห่กันออกมาตีตลาดแบบไม่ขาดสาย ทำให้คนดูเกิดอาการ “เอือมระอา” ไปไม่น้อย พลอยทำให้เริ่ม “ปฏิเสธ” หนังไทยไปพอสมควร อย่าง หอแต๋วแตก แหวกชิมิ และ เท่งโหน่ง จีวรบิน ที่ต่างก็ทำเงินน้อยที่สุดในตระกูลของตน รวมไปถึงหนังในการกำกับคุณหม่ำ ที่แป้กสนิท ผิดฟอร์มติดกันถึง 2 เรื่อง ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี! (จั๊กกะแหล๋น และ ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ปิดรายได้เพียง 20 ล้านต้นๆ!!) แต่ก็ยังมีกลุ่มที่รอดตัวไปได้อย่างไม่น่าเชื่ออยู่บ้าง (อย่าง ฮาศาสตร์ ที่ทำเอาคนดูแทบจะฮาไม่ออก แต่ก็ทำเงินมากที่สุดของค่ายห้าดาวประจำปีนี้ไปได้!!) ทำให้อนาคตของหนังตลกไทย น่าจะถึงจุดที่ “พิถีพิถัน” มากกว่านี้อีกซักหน่อยได้แล้วนะครับ ไม่ต้องดีเลิศเลอ แต่อย่าดูถูกคนดูก็เป็นพอครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:30:09

ความคิดเห็นที่ 24 หลากรัก หลากรอม-คอม!!! เนื่องจากเป็นสาขาที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ก็เลยขอยุบรวมกันเป็นกลุ่มเดียวไปก่อนนะครับ จะเห็นว่า หลังจากที่มีหนังรัก รอม-คอม ทำเงินระดับ “มหาศาล” ติดต่อกันหลายเรื่อง หลายปี จึงไม่น่าแปลกใจที่ปีนี้ จะเห็นปริมาณหนังรัก รอม-คอมจากค่ายใหญ่เพิ่มมากขึ้น (ยิ่งปี 2555 ยิ่งได้เห็นกันแทบทุกสัปดาห์เลยทีเดียว!!!) แต่ถึงแม้ว่าจะสร้างมากขึ้น รายได้เฉลี่ยแต่ละเรื่องก็ยังคงสุงมากเช่นกัน!!! ดูได้จาก Top 10 หนังไทยปีนี้ ที่มีหนังแนวรัก รอม-คอมติดโผถึง 5 เรื่องเข้าไปแล้ว!!! แถมแต่ละเรื่องก็ต้องยอมรับว่า รายได้สูสีกันมันทีเดียว (โดยเฉพาะ 4 อันดับแรก ที่ช่วงห่างรายได้ต่างกันเพียง 10 ล้านบาทเท่านั้น!!) แม้ว่าปีนี้จะไม่มีหนังแนวนี้ทำเงินผ่านหลัก 100 ล้านได้แม้แต่เรื่องเดียว (หลังจากที่มีมา 2 ปีติดต่อกัน) แต่การที่มีหลังรัก รอม-คอมผ่านหลัก 70 ล้านได้ถึง 4 เรื่องก็ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เช่นกัน! (กระทั่ง 2 สาวโสดวัย 30 ก็ยังอุตส่าห์ควงกันผ่านหลักนี้ไปได้ด้วย แม้จะเฉือนชนะกันไปเล็กน้อยก็ตาม) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:30:37

ความคิดเห็นที่ 25 สยองขวัญ สั่นบัลลังก์!!! GTH ยังคงความเป็นเจ้าพ่อหนังผีไทยได้เป็นอย่างดี ด้วยการเก็บสถิติ มีหนังผีเป็นแชมป์ทุกปีที่ลงแข่งขัน ได้อย่างต่อเนื่อง!!! แถมปียังส่ง ลัดดาแลนด์ มาเป็นหนังผี 100 ล้านเรื่องที่สามของค่าย พ่วงด้วยทำเงินสูงสุดของค่ายในกลุ่มหนังผีอีกต่างหาก (เอาชนะ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (109.9 ล้านบาท) ไปแบบชิลๆ!) แต่ถ้าสถิติในกลุ่มหนังผีไทยทั้งมวล หนังยังคงตามหลังตำนานความสยองอย่าง นางนาก เพียงเรื่องเดียว (นั่งบนบัลลังก์หนังผีมาร่วม 12 ปีได้แล้ว!!) น่าเสียดายที่ปีนี้ หนังผีไทยเรื่องอื่นๆ ทำรายได้แทบจะไม่โดดเด่นเลย ปีนี้ผมเลยต้องรวมเอาบรรดาหนังสยองขวัญหมวดอื่นมารวมไว้ด้วย ตัวเลขน่าจะดูดีกว่า! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:36:32

ความคิดเห็นที่ 26 แชมป์ประจำแต่ละสุดสัปดาห์ ปี 2554 นี่คือโฉมหน้าของแชมป์ทั้ง 52 สัปดาห์ประจำปีนี้ (ที่บางเรื่อง อาจจะดูไม่ออกกันบ้าง!!!) รวมไปถึงกราฟรายได้ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้เห็นภาพความคึกคักของแต่ละช่วงในปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ากราฟในช่วงซัมเมอร์ จะค่อยข้างกระโดดสูงกว่าช่วงอื่นๆ เอามากๆ ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนที่เอยู่ในช่วงอุทกภัยครั้งใหญ่อย่างรุนแรง กราฟก็จะลงมาต่ำกว่าเดือนอื่นๆ ค่อนข้างมาก สถิติสัปดาห์ที่ Top 10 ทำเงินสูงที่สุดกลับไม่ใช่สัปดาห์ที่ Transformer 3 เปิดตัว แต่กลายเป็นสัปดาห์ที่ Harry Potter 7.2 เปิดตัว ต่างหาก ที่สามารถคว้าแชมป์สัปดาห์แห่งปีไปครองได้สำเร็จ (120 และ 124.2 ล้านบาท ตามลำดับ) ด้านสถิติหนังขึ้นเป็นแชมป์ประจำสัปดาห์ในปีนี้ แบ่งออกตามสัญชาติได้เป็น หนังไทยทั้งสิ้น 16 เรื่อง (รวมกันได้ 23 สัปดาห์) หนังฝรั่งทั้งสิ้น 19 เรื่อง (รวมกันได้ 28 สัปดาห์) และหนังเอเชีย 1 เรื่อง (รวม 1 สัปดาห์) โดยหนังไทย สามารถครองแชมป์ติดต่อกันสูงสุดได้ถึง 6 สัปดาห์ (สัปดาห์ที่ 9 – 14) ส่วนหนังฝรั่ง สามารถครองแชมป์ติดต่อกันสูงสุดถึง 7 สัปดาห์ (สัปดาห์ที่ 18 – 24) หนังที่ขึ้นเป็นแชมป์ด้วยรายได้สูงสุดของปี คือ Transformer 3 (115 ล้านบาท) ส่วนหนังที่ขึ้นเป็นแชมป์ด้วยรายได้ต่ำสุดของปี คือ บางกอกกังฟู (6.5 ล้านบาท) และ หนังที่สามารถครองแชมป์ติดต่อกันได้ยาวนานที่สุดประจำปีนี้ คือ 30 กำลังแจ๋ว (สามสัปดาห์) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:37:09

ความคิดเห็นที่ 27 สรุปรายได้หนังทำเงินตลอดกาลในบ้านเรา แม้ปีนี้จะมีหนังติด Top 20 รายได้สูงสุดในบ้านเราตลอดกาลถึง 3 เรื่อง แต่ถึงอย่างไรกลับไปเป็นไปตามเป้าที่เคยคาดหวังไว้ แน่นอนว่าอีกหนึ่งเรื่องที่ผมเคยเก็งไว้ก็คงหนีไม่พ้น  ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ซึ่งทำเงินไปอย่างน่าผิดหวังนั่นเอง! แต่ถึงยังไง การที่ปีนี้มีหนัง 200 ล้านถึง 3 เรื่อง ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ Top 10 ตอนนี้ กลายเป็นหนัง 200 ล้านล้วนอย่างสมบูรณ์ ที่น่าเสียดายที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Transformer 3 นี่แหละ ที่เรียกได้ว่า เฉียด 300 ล้านซะจนน่าจะเบียดขึ้นไปอยู่ที่ 2 ได้จริงๆ ขณะที่ตระกูล Harry Potter ก็ได้สมาชิกรายที่ 6 ตบเท้าเข้ามาในระดับเกิน 150 ล้านอีกจนได้! (โหดกันจั๊งงง!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:37:34

ความคิดเห็นที่ 28 มาดูฟากหนังไทยตลอดกาลกันบ้าง สถานการณ์ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เพราะมีหนังทะลุ Top 20 ได้ถึง 3 เรื่องเช่นกัน แต่จะผิดกันหน่อยตรงที่มีหนังทะลุเข้า Top 10 เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น (ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ก็เฉียดมากๆ อีกเช่นเคย) ล่าสุด GTH มีหนังติด Top 20 เข้ามาเป็น 5 เรื่อง(หากนับ แฟนฉัน ก็จะเป็น 6 เรื่อง)แล้ว จี้ สหมงคลฟิล์ม (ที่ปีนี้มีเข้ามาอีก 2) ที่ 8 เรื่องเข้าไปทุกที! ป.ล. เนื่องจาก ATM เออรัก เออเร่อ เป็นหนังปี 2555 จึงไม่ได้เข้ามาแสดงในชาร์ตนี้ด้วย (ล่าสุด หนังติดอยู่ในอันดับที่ 8) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:37:51

ความคิดเห็นที่ 29 ฝั่งหนังฝรั่งก็เช่นกัน มีหนังติด Top 20 เข้ามา 3 เรื่อง สังเกตกันดีๆ ก็จะเห็นว่า มี Harry Potter ติดอันดับทุกภาคเลยทีเดียว!!! ส่วนจำนวนหนัง 200 ล้าน มีมากกว่าหนังไทย 2 เรื่อง (ชักจะบรรยายน้อยลง ตามสติที่เหลืออยู่แฮะ! = =") จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:38:43

ความคิดเห็นที่ 30 พิมพ์มาซะยาวเหยียด ก็ขอจบการรายงานไว้ที่ คห. นี้ก็แล้วกันนะครับ หวังว่ากระทู้ของผมจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆ คนที่สนใจด้านสถิติหนังไม่มากก็น้อย หากมีข้อสงสัย ข้อคิดเห็น ข้อแนะนำประการใดก็สามารถสอบถามได้ทั้งในกระทู้นี้ และกระทู้รายงานอันดับหนังรายสัปดาห์ได้เลยนะครับ หากมีความผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ (เพราะข้อมูลเยอะจัดจริงๆ) พบกันใหม่อีกครั้ง ในอีก(ไม่ถึง)ครึ่งปี สำหรับกระทู้สรุปประจำครึ่งนี้นี้ครับ ขอบคุณทุกความเห็น ทุกแหล่งข้อมูล และสวัสดีครับ ^^ ป.ล. ลิ้งค์ข้างล่างนี้คือข้อมูลสรุปประจำครึ่งปีแรกของปีที่แล้วนะครับ ใครสนใจก็คลิกเข้าไปดูได้ครับ http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2011/08/A10913808/A10913808.html จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:41:08

ความคิดเห็นที่ 31 เยี่ยมครับ โหวตเลย ดีกว่า ฮี่ ฮี่ จากคุณ : turbokub เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 07:43:35

ความคิดเห็นที่ 32 *** จัดหนัก จัดแน่น จัดเต็มมาก ทั้งเนื้อหาและกราฟฟิก โหวต กิฟต์ เก็บเข้าคลังกระทู้ ครับ *** จากคุณ : สมาชิกหน้าเหลือง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 08:50:54

ความคิดเห็นที่ 33 เจ๋งมากกก ..    จากคุณ : คุณคือ..ตัวจริง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 09:45:16

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านกันตาแชะเลย ยก 3 กิฟต์แรกของเดือนนี้ให้ไปเลย ^^ จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 10:31:23

ความคิดเห็นที่ 35 กระทู้เฉลิมไทยของแท้ต้องแบบนี้ จากคุณ : Dolphin In Love เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 11:07:52

ความคิดเห็นที่ 36 เอาไปสามคำ สุด ยอด ครับ.... จากคุณ : อาซาฟุเซะ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 11:08:26

ความคิดเห็นที่ 37 เล่นสรุปซะ... นิตยสารเค้าจะขายไม่ออกเอานะครับ แต่ต้องขอยกนิ้วให้ล่ะครับ ดู ๆ จากรายชื่อหนังปีที่ผ่านมา Rise of the Planet of the Apes เป็นหนังที่ดูแล้วคุ้มค่าตั๋วมากที่สุดสำหรับผม จากคุณ : cha Jr. เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 11:14:39

ความคิดเห็นที่ 38 จขกท เก่งมากๆ จากคุณ : www3www เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 11:31:00

ความคิดเห็นที่ 39 เอาไปเลยสามกีบ สุดยอดจริงๆกระทู้นี้ จากคุณ : บาส100% เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 13:00:02

ความคิดเห็นที่ 40 จากคุณ : narapoi เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 14:17:05

ความคิดเห็นที่ 41 เจ๋งจริงๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : หนุ่มเก้าเมือง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 14:19:06

ความคิดเห็นที่ 42 เจ๋งจริงๆ จขกท. ตามอยู่ทุกอาทิตย์เลยครับ :) จากคุณ : SoulBreaker เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 15:41:47

ความคิดเห็นที่ 43 แจกกิ๊บให้ จขกท.ก่อนเดี๋ยวกลับเข้ามาอ่าน ^___o ชอบๆ จากคุณ : เพื่อนคนสุดท้าย เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 16:42:09

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณครับ ยังไม่ได้ดูหลายเรื่อง จะได้ตามเก็บ จากคุณ : INeedYou เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 17:02:02

ความคิดเห็นที่ 45 นี่แหละ กระทู้แนะนำที่ข้าพเจ้าใฝ่ฝัน มันต้องแบบนี้ซิ ดูดี มีคุณค่า!! จากคุณ : Gusbell ครับผม เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 18:41:03

ความคิดเห็นที่ 46 จขกท. เยี่ยมจริง ๆ จากคุณ : AD_FOUR เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 19:02:42

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบกราฟฟิกที่นำเสนอมากๆค่ะ ^_^ จากคุณ : ~SweetsNuT~ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 20:13:01

ความคิดเห็นที่ 48 ขออีกสักหลายๆครั้งนะคะ จากคุณ : เก้าอี้ที่ซ่อนเร้น เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 20:40:03

ความคิดเห็นที่ 49 ข้อมูลแน่น ติดตามอ่านกระทู้ และโหวตให้ทุกอาทิตย์ จากคุณ : Pikachu ร่าง 5 S เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 21:25:45

ความคิดเห็นที่ 50 GTH นี้เก่งนะหนังน้อยแต่ติดอันดับ  กับM39   แค่3เรื่องเอง FAsT นี้คนดูเยอะขึ้นนะเนี่ยต่อภาค  อยากรู้ภาคใหม่จะทำเงินได้เยอะกว่าเดิมไหมนะ จากคุณ : gumk1 เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 22:32:45

ความคิดเห็นที่ 51 สุดยอดเลย  จขกท จากคุณ : น้องชายพี่ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 22:38:22

ความคิดเห็นที่ 52 พรีเซนต์ได้ยอดเยี่ยมมาก แจ่มกว่าพวกทำนิตยสารบางเล่มซะอีก แมวมองมาเห็นรับรอง จขกท รุ่งแน่ๆ ครับ จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 08:39:12

ความคิดเห็นที่ 53 สุดยอดครับผม จากคุณ : slowbro เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 14:32:55

ความคิดเห็นที่ 54 สุดยอดเลยครับ ประหนึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติมาเอง  จากคุณ : น้องลูกหมู เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 15:18:26

ความคิดเห็นที่ 55 โห รูปโคตรสวยอ่ะ ดูง่ายมากเลยค่ะชอบๆ ไอเดียเลิศมากค่ะ จากคุณ : NiChaCaramel เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 19:55:36

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้การจัดอันดับสุดยอดเเห่งปี สำหรับคนชอบ Ranking อย่างผมครับ ปล รายได้บ้านเราน้อยมากนะครับเทียบกับอเมริกา จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 21:15:33

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆ ครับ จขกท ^^ จากคุณ : tsugunaga เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 23:31:15

ความคิดเห็นที่ 58 สมเป็นกระทู้แนะนำแห่งเฉลิมไทยเลยครับ :D จากคุณ : *omega* เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 00:41:49

ความคิดเห็นที่ 59 จขกท สุดยอดจริงๆค่ะ นับถือ เป็นกระทู้ที่คนชอบดูหนังอย่างเราควรค่าแก่การอ่านมากๆ จากคุณ : pam-a-rod เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 01:02:38

ความคิดเห็นที่ 60 ข้อมูลแน่นเอี๊ยด รายละเอียดแน่นเว่อร์ เอาไปสามกีบคะ แถมโหวตให้ด้วย สุดยอดดดดดดดดดด จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 10:38:36

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณนะคะ ^_^ จากคุณ : น้องเปิ่น เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 18:43:56

ความคิดเห็นที่ 62 สวดยวดไปเลยล๊วกเพี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ยอดเงินของคุณใกล้จะหมด เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 19:33:58

ความคิดเห็นที่ 63 <img src="/cafe/toy/image/emsmile37.gif"><img src="/cafe/toy/image/emsmile37.gif"><img src="/cafe/toy/image/emsmile37.gif"><img src="/cafe/toy/image/emsmile37.gif"><img src="/cafe/toy/image/emsmile37.gif"> จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 20:05:51

ความคิดเห็นที่ 64 สุดยอดมากกกกกกกก  ตั้งใจอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ จากคุณ : หล่อ ใส เกาหลี ขาว ตี๋ ดัดฟัน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 20:43:18

ความคิดเห็นที่ 65 เห็นกราฟฟิคและข้อมูลแล้วเป็นลม ขอชมในความอุตสาหะครับ เจ๋งมาก จากคุณ : mimura_pirateX เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 08:52:33

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าอีกหน่อยก็คงจะทำลายสถิติกันไปเรื่อยๆแหละ ส่วนนึงเป็นเพราะค่าตั๋วหนังที่แพงขึ้นหรือป่าว ?? จากคุณ : ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 17:27:59

ความคิดเห็นที่ 67 Good จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 17:55:44

ความคิดเห็นที่ 68 จขกท ยอดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รูปสวยดูง่าย อ่านสนุกอ่านเพลินครับ จากคุณ : Badbiggie เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 19:32:50

ความคิดเห็นที่ 69 จากคุณ : เซ็งอูฐ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:04:38

ความคิดเห็นที่ 70 จขกท เจ๋งอะ รักในความตั้งใจของคุณจัง   >___< จากคุณ : Einstein my love เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 18:22:15

ความคิดเห็นที่ 71 สุดยอด ข้อมูลเชิงลึกมากๆ จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 55 19:03:13

ความคิดเห็นที่ 72 สุดยอดมาก จากคุณ : ladonna เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 00:10:28

ความคิดเห็นที่ 73 สุดยอดครับบ จากคุณ : โตนิค เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 03:54:13