ความคิดเห็นที่ 1 ศัตรูของ “คนแว่นดำ” ผู้ตื่นจากเดอะ เมทริกซ์แล้วคือ เอเจนต์ พวก เอเจนต์ ไม่ใช่คน – พวกมันเป็นโปรแกรมที่เดอะเมทริกซ์สร้างขึ้นเพื่อสืบหาและกำจัด “คนที่ตื่นแล้ว” อย่าง ทรินิตี้ นีโอ หรือมอร์เฟียส และด้วยเพราะเอเจนต์ไม่ได้มีพื้นฐานเป็นมนุษย์ หากเป็นโปรแกรมกลวงๆที่มีสิทธิิพิเศษโดยเดอะเมทริกซ์ให้ท้าย ทำให้พวกมันมีความสามารถพิเศษต่างๆมากมายที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว พละกำลังมหาศาล ความสามารถในการดักฟัง ความเป็นอมตะ หรือกระทั่งสามารถ “สูบร่าง” คนอื่นเอามาเป็นของตัวเองได้ในพริบตา มอร์เฟียสและพรรคพวก ต้องต่อสู้และหลบหนี เอเจนต์ อยู่เสมอเวลาเจอพวกมันในเดอะเมทริกซ์ พวกเขาไม่สามารถเอาชนะมันได้ หรือแม้จะเอาชนะได้ พวกมันก็สามารถ “เกิดใหม่” เพิ่มจำนวนขึ้นได้ในพริบตา เพราะพวกมันเป็นเพียงโปรแกรมทำลายล้างที่ออกแบบและให้ท้ายโดยเดอะเมทริกซ์ ความสามารถพิเศษที่น่ากลัวอีกอย่างนึงคือ เอเจนต์ สามารถดักจับความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “คนแว่นดำ” ได้เสมอโดยผ่าน “คนธรรมดา” ในเดอะเมทริกซ์ เมื่อไหร่ก็ตามที่มอร์เฟียสและพรรคพวกมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในเดอะเมทริกซ์ เอเจนต์จะดักจับข้อมูลแล้ว “สูบร่าง” คนผู้นั้นให้กลายมาเป็นตนเอง ทำให้ เอเจนต์ สามารถโผล่มาจัดการกับ “คนแว่นดำ” ที่ไหนก็ได้ในโลกแห่งเดอะเมทริกซ์ภายในเสี้ยววินาที ด้วยเหตุนี้ – มอร์เฟียส จึงสั่งทีมงานเสมอว่าเจอพวก เอเจนต์ เมื่อไหร่ให้วิ่งหนีออกจาก เดอะเมทริกซ์ มาสู่โลกความจริงให้เร็วที่สุด แต่ถึงกระนั้น มอร์เฟียสและพรรคพวกก็ไม่ย่อท้อ ยังคงพยายาม “ปลดปล่อย” ผู้คนออกจาก เดอะเมทริกซ์ ด้วย “ยาเม็ดสีแดง” ของพวกเขาเรื่อยมา ด้วยความหวังว่าหากสามารถ “ปลุก” ผู้คนให้ออกมาต่อต้าน เดอะเมทริกซ์ ได้มากเท่าไหร่ เขาก็จะสามารถต่อสู้ หรือเจรจาต่อรองกับเครื่องจักรเดอะเมทริกซ์ได้มากเท่านั้น น่าเศร้าที่ ทรินิตี้ มอร์เฟียส นีโอ ไม่รู้ความจริงที่ “ซ้อนทับ” อยู่อีกชั้นหนึ่ง ความจริงที่ว่าการต่อสู้ปลดปล่อยผู้คนของพวกเขานั้นเป็นเพียง ฝันซ้อนฝัน คล้ายกับถูกใครบางคนสร้าง Inception ครอบเอาไว้ จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 11:33:49

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องราวทั้งหมดในเดอะเมทริกซ์นั้นดำเนินอยู่ภายใต้ความฝัน โดยที่ในโลกแห่งความจริงที่ซ้อนทับอยู่นั้น แม้จะมีหลายสิ่งคล้ายกับความฝัน แต่บางสิ่งก็แตกต่างออกไป ในโลกที่ซ้อนทับ – มอร์เฟียสและพรรคพวกคนแว่นดำ ยังคงต้องต่อสู้ปลดปล่อยผู้คนออกจากเดอะเมทริกซ์พวกเขายังต้องหลบหนี เอเจนต์ ที่ตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ พวกเขายังต้องใส่แว่นดำเดินถนน ท่ามกลางผู้คนที่ยังหลงติดอยู่ในเดอะเมทริกซ์ ทุกอย่างเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่แตกต่างในโลกแห่งความจริงซ้อนทับคือ พฤติกรรมของผู้คนในเดอะเมทริกซ์ ในโลกที่ซ้อนทับ – ผู้คนในเดอะเมทริกซ์ไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นหุ่นยนต์เซ่อๆ รอเวลาถูกเอเจนต์ “สูบร่าง” ของตนเองเพื่อตามไล่ล่า “คนแว่นดำ” ในโลกที่ซ้อนทับ – ผู้คนในเดอะเมทริกซ์กลับเห็นดีเห็นงามกับตัวระบบ พวกเขารังเกียจ “คนแว่นดำ” อย่างมอร์เฟียสและพรรคพวก ด้วยเหตุผลที่ว่าการนำ “ความจริง” เข้ามาในเดอะเมทริกซ์นั้น มีแต่จะทำให้ระบบล่มสลาย ไม่อาจดำรงอยู่ได้เช่นเดิม ในความคิดของพวกเขา การได้ใช้ชีวิตอย่างสวยใสอยู่ในโลกความจริงเสมือนอย่างเดอะเมทริกซ์ แม้จะต้องยอมให้อภิสิทธิ์แก่ เอเจนต์ บ้างในบ้างครั้ง แต่ก็ดีกว่าการ “ตื่น” ขึ้นรับรู้ความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงโปรแกรมกลวงๆที่ถูกป้อนเข้าสู่สมองตัวเองตั้งแต่แรกเกิด ด้วยความที่พวกเขาเชื่อมั่นบูชาในระบบอย่างลึกซึ้ง การปล่อยให้มี คนแว่นดำ เดินปะปนอยู่บนท้องถนน เร่ขายยาเม็ดสีแดงและ “ความจริง” จึงเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อระบบเดอะเมทริกซ์ – ด้วยเหตุนี้ หลายครั้งที่ผู้คนในเดอะเมทริกซ์ไม่อาจทนรอคอยให้ เอเจนต์ ทำงานแต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเขาพร้อมเป็นหูเป็นตา หรือหลายครั้งพร้อมจะ “ไล่ล่า” มอร์เฟียสและพรรคพวกด้วยตัวของเขาเอง โดยไม่ต้องคอยให้ เอเจนต์ เป็นฝ่ายลงมือด้วยซ้ำ ในโลกที่ซ้อนทับ – งานของมอร์เฟียสและพรรคพวกคนแว่นดำ จึงยากลำบากกว่างานในเดอะเมทริกซ์ภายใต้ Inception ของพวกเขามากนัก เพราะนอกจากจะต้องต่อสู้กับ เอเจนต์ และเร่งปลดปล่อยผู้คนให้ “ตื่น” ขึ้นแล้ว พวกเขายังต้องคอยหลบหนี หรือหลายครั้งก็ต้องปะทะกับแรงต่อต้านจากตัวผู้คนในเดอะเมทริกซ์เอง จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 11:34:29

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ – มันคือแรงต่อต้านจากผู้คนที่เป็น “ทาส” ของเดอะเมทริกซ์ มันคือแรงต่อต้านจากผู้คนที่เขาพยายามช่วยเหลือหยิบยื่นยาเม็ดสีแดงให้ พยายามบอกเล่าความจริง พยายามปลุกให้ตื่นจากฝันอันมืดมิดนั่นแหละ Zion ใน Matrix แท้จริงแล้ว เป็น Matrix เล็กๆ ซึ่งซ้อน Matrix อ้างอิงจาก http://www.matrix.siligon.com/tmbrif.html ในการทำให้ Zion อยู่ภายใต้การควบคุมได้นั้น เครื่องจักรได้สร้างระบบในการควบคุมซึ่งเป็นของเทียมเช่นเดียวกับ Matrix เอง...(แท้จริงแล้ว Zion เป็นแค่ Matrix เล็กๆ ซึ่งซ้อน Matrix อีกแห่ง ! ? )...ในการควบคุมมนุษย์ด้วยความหวังและแรงปรารถนา ภายใต้คอนเซปต์มี The One ผู้ปลดปล่อย โปรแกรม The Oracle จะกล่าวคำพยากรณ์ซึ่งระบุไว้ว่า วันนึง Messiah (ผู้มาโปรดโลก, ศาสดา, หรืออาจหมายถึงพระเยซู - พระศรีอริยเมตไตรย์ของพุทธก็ได้) จะถือกำเนิดขึ้นโดยเขาจะมีอำนาจในการปลดปล่อยมนุษย์ออกจากเดอะเมทริกซ์อย่างสิ้นเชิง(หรือทำลายเมทริกซ์ได้) ซึ่งแน่นอนว่าคำทำนายทั้งหมดนี้ล้วนโกหก! เพราะแท้จริง The One จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต่อเนื่องในระบบเมทริกซ์เท่านั้น (แต่คนอย่าง มอร์เฟียส์ และชาวไซออน เชื่ออย่างสนิทใจ) ประเด็นในเว็บนี้  ได้รับ คำตอบมาว่า .... อ้างอิงจาก http://www.facebook.com/people/Mics-Epic/100003311277712 fb คุณ Mics Epic ถาม :  ขออนุญาตสอบถามเพื่อความกระจ่าย สักนิดนะครับ คือ อยากให้ช่วยขยายความซักนิดครับ มันยัง งง ๆ เพราะเข้าใจว่า ไซออนคือ โลกแห่งความจริง (เถียงกับเพื่อนสู้ไม่ได้ครับ ปวดหน่องหัวจาย ) ในการทำให้ Zion อยู่ภายใต้การควบคุมได้นั้น เครื่องจักรได้สร้างระบบในการควบคุมซึ่งเป็นของเทียมเช่นเดียวกับ Matrix เอง...(แท้จริงแล้ว Zion เป็นแค่ Matrix เล็กๆ ซึ่งซ้อน Matrix อีกแห่ง ! ? )...ในการควบคุมมนุษย์ด้วยความหวังและแรงปรารถนา ภายใต้คอนเซปต์มี The One ผู้ปลดปล่อย 21 มีนาคมเวลา 15:24 น. • ถูกใจ Mics Epic โห เถียงกันปวดหัว 55 :)...แค่ข้อสังเกตครับ มันอาจตีความหนุกๆได้หลายมุม...คือถ้าดู ภาค 2 - ภาค 3 จะเห็นว่านีโอกลับมีพลังนอกเมทริกซ์ (ซึ่งผิดตรรกะที่ควรจะเป็น) ทั้งยังอยู่ในเมทริกซ์โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กได้ด้วย(ในตอนที่ติดอยู่ในรถไฟใต้ดิน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องจักรอาจหลอกมนุษย์ในไซออนว่าอยู่ในโลกจริงๆ นอกเมทริกซ์แล้ว แต่แท้จริง(อาจจะ)แค่ถูกหลอก ไซออนอาจเป็นเพียง ระบบเมทริกซ์อีกชุด แต่มนุษย์ไม่รู้ตัว...และท้ายที่สุดผิดความคาดหมายของผู้ชมคือ เมทริกซ์กับยังคงรันระบบต่อไป มนุษย์ไม่ได้ชนะกำจัดระบบเมทริกซ์ให้สูญสิ้นไปแต่ประการใด แค่ยุติสงครามกับเครื่องจักรแค่นั้นเอง จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 11:34:59

ความคิดเห็นที่ 4 ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ลองดูครับ คิดกันอย่างไรบ้าง กันประเด็นนี้ (แตกประเด็นเขามาด้วยความเคารพ และใคร่รู้ยิ่ง ) จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 11:35:50

ความคิดเห็นที่ 5 ป.ล. คนอยากรู้เค้าฝากมาตั้งกระทู้ ... จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 11:39:07

ความคิดเห็นที่ 6 ฮืม ผมดูหลายรอบมากเลย (ไม่ต่ำกว่า 7-8 รอบ) แต่ไม่เคยมองมุมนี้เลย (Zion อยู่ในเมทริกซ์ O_o ฮืม จากเหตุและผลในหนังก็เป็นได้นะครับ) รีวิว สนุกมากครับ อ่านเพลินเลย ^_______^ จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 12:27:10

ความคิดเห็นที่ 7 ว่าแล้ว เย็นนี้ดูอีกสักรอบ ได้มุมมองใหม่เพิ่ม ดูกี่ที ๆ ยังเข้าใจความหมายในหนังไม่หมดเลย >,< จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 12:30:17

ความคิดเห็นที่ 8 ลึกซึ้ง ทั้งในหนัง นอกหนัง  ผมรู้นะ จากคุณ : Sakuder เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 12:43:47

ความคิดเห็นที่ 9 จากที่อ่านไปนะครับ ผม "เชื่อ" ว่าอย่างนี้นะครับ Zion ไม่ได้อยู่ในเมทริก แต่ เป็นโลกจริงนี่แหละ แต่เมทริกพยายามจะควบคุม Zion โดย The oracle ผ่านทางโปรเจกค์ The one อ่ะ หมายความว่า เมทริก หลอกให้คนใน Zion เชื่อว่า The Oracle จะช่วยให้หยุดสงครามได้ แต่ความจริง The oracle "หลอก" มาโดยตลอด The oracle มีหน้าที่สร้างความสมดุลให้ระบบเมทริก เมื่อระบบเมทริก มาถึงทางตัน "โดยการนำทางไปหาสถาปนิกเพื่อรับทางเลือก" "ซึ่ง The one ทั้งหมดก่อนหน้า Neo เลือกช่วย Zion (ตามความคาดหมายของสถาปนิก) แต่ Neo เลือกช่วย Trinity นั่นหมายความว่า Zion อยู่นอก Matrix มันสามารถอธิบายได้เรื่อง ที่ว่า มีท้องฟ้า อนาจักรหุ่นยนต์ ปล. แต่ยังไม่สามารถอธิบายได้เรื่องพลังของ Neo นอกเหนือ Matrix >,<" จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 13:19:56

ความคิดเห็นที่ 10 มันแค่โลกในอนาคตปนเปื้อนเกินกว่าคนจะอยู่บนผิวโลกได้เลยต้องอยู่ใต้ดินไม่ใช่เหรอครับ และการจะอาศัยอยู่ได้มันก็ต้องพึ่งเครื่องจักรผลิตแสง เดินสาธารณูปโภค แปลว่าคนยังต้องพึ่งเครื่องจักรอยู่ดี คงไม่ลึกล้ำขนาดว่าเมทริกสร้างฝันหลายชั้นหรอก แต่ดูตามเนื้อหาจริงๆแล้วมนุษย์ผิดเอง ที่ทำให้โลกเป็นแบบนั้น จากคุณ : Trisha Foster เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 13:24:33

ความคิดเห็นที่ 11 ดูใน animatrix มันก็ออกมาตามความเห็นบนอะครับ มนุษย์สร้างหุ่นยนต์ หุ่นปฏิวัติ มนุษย์ทำลาย แต่แผนทำลายงี่เง่าไปหน่อย ไปปิดท้องฟ้า หุ่นเลยหันมาเอาพลังงานจากมนุษย์แทน สร้างแมทตริกให้มนุษย์ทำงานป้อนพลังไปเรื่อยแบบไม่เคยรู้ตัว จากคุณ : อธติ23 (อธติ23) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 13:41:02

ความคิดเห็นที่ 12 คำอธิบายมันอยู่ในชื่อหนังแหละครับ ใครเขียนเกมคอมพิวเตอร์ 3D คงคุ้นเคยกับ Matrix เป็นอย่างดี Matrix มันประกอบด้วย Matrix หลายชนิดที่ทำหน้าที่ต่างกัน คือ ขยายหรือย่อขนาด, โคจรรอบวัตถุอื่น, หมุนรอบตัวเอง, ย้ายตำแหน่ง แต่ทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือกระทำอะไรบางอย่างกับวัตถุ 3D เดียวกัน ดันนั้น Zion กับ โลกที่มนุษย์เป็น Battery ตางก็เป็น Matrix ทำไมนีโอถึงหน้าตาเหมือนกันในหลายเวอร์ชั่น ซึ่งนีโอก็มาจาก Zion ก็เพราะนีโอและคนใน Zion ถูกสร้างโดย หุ่นยนต์ที่ครองโลกอยู่อีกชั้น จากคุณ : ยัยกำปุ๊ง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 13:54:43

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็มองว่าZionคือแมททริกซ์อีกชั้นนึงครับ จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 13:58:43

ความคิดเห็นที่ 14 ขอไล่เรียงตามความเข้าใจของผมนะครับ ผมว่า Zion คือโลกจริง โดยหุ่นพยายามควบคุมมนุษย์ทั้งในและนอก Matrix มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหุ่นยนต์ก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่สามารถเลี้ยงมนุษย์เปลี่ยนเป็นพลังงานตามที่มอร์เฟียสพูดไว้ในภาคแรก มนุษย์ผิดเองที่ทำให้โลกเป็นแบบนั้น ตามในเรื่อง Animatrix Matrix ไม่ได้สร้างเรื่อง Oracle หรือ the ONE แน่ เพราะจากภาคสองกับสามแล้วจะเห็นว่าสถาปนิกกับเทพพยากรณ์เห็นไม่ตรงกัน คิดว่าการเกิดขึ้นของ The ONE กับ Smith ก็มีส่วนเหนือความคาดหมายของ Matrix ด้วย เพราะระบบก็เกือบล่มทุกครั้งที่ Smith เริ่มสำเนาข้อมูลตัวเอง ต้องจบที่รีระบบใหม่ หรือเสี่ยงให้นีโอเข้าไปยำกับกองทัพ Smith (อ้างอิงจากบทสนทนาระหว่าง นีโอกับสถาปนิกในภาคสอง) NEO Trinity เป็นของคู่กันแน่ๆละ น่าจะเป็นการดุลสมการอย่างหนึ่ง (อ้างอิงจากบทสนทนาระหว่าง นีโอกับสถาปนิกในภาคสอง) NEO Smith อาจจะเป็นคู่ที่ Matrix เองก็ไม่คิดว่าจะมีในระบบ (คิดเอง) ไม่ใช่ทุกคนหรือทุกระบบใน Matrix จะทำตามที่ระบบต้องการ สังเกตุจาก เซรับ, เมโลวินเจียน, ตัว Smith เอง หรือความคิดต่างกันระหว่างเทพพยากรณ์กับสถาปนิก สุดท้ายผมคิดว่า Matrix เองไม่ได้ต้องการควบคุมมนุษย์ และอาจจะต้องอาศัยมนุษย์ด้วยซ้ำ รวมไปถึง มนุษย์บางกลุ่มที่ยังยอมหลับต่อไปใน Matrix เพราะหลังจากภาคสาม เกม Matrix Online ยังมีตอนที่เกิดสายลับรุ่นใหม่ที่ Matrix คุมไม่อยู่ แล้วต้องให้ทั้ง Zion และสายลับรุ่นเดิมร่วมมือกันสู้ แต่บางครั้งอาจจะมีกัดกันบ้าง อย่างตอนที่มอร์เฟียสบุกเข้าไปวางระเบิดแล้วตาย(ในเกม Online อันนี้จำไม่ได้ แต่เป้นช่วยใกล้ปิดเซิร์ฟแล้ว) ผมสรุปว่า Matrix คือเรื่องของคนสองกลุ่ม ที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสนิทใจ แต่แยกกันอยู่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ คือน่าจะเป็นการสื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องช่วยเหลือกันและกัน แต่ไม่ก้าวก่ายกันมากจนเกินไปมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์คิดว่าตนเองอยู๋เหนือหุ่นยนต์ หุ่นยนต์ที่ต้องการมนุษย์เป็นวัตถุดิบในการสร้างพลังงาน มนุษย์ที่ต้องอาศัยเครื่องจักร ขอจบแค่นี้นะครับ ผมว่าถ้าได้เล่นเกม Matrix Online จริงๆ น่าจะมีอะไรซ่อนในเนื้อเรื่องอีกเยอะทีเดียว จากคุณ : amameera เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 14:17:17

ความคิดเห็นที่ 15 จาก คห. 12 นะครับ แล้วทำไม ตอนนีโอไป Zion ไม่ต้องเสียบปลั๊กล่ะครับ แล้วถ้า Zion เป็น Matirx ทำไมไม่มี เอเจนท์ อ่ะครับ (ซึ่งถ้ามีจะวางระบบได้ง่ายกว่า) จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 14:22:52

ความคิดเห็นที่ 16 ผมดูเรื่องนี้อยู่หลายรอบ ก็ยังคงสงสัยว่า คนเราจะตื่นจากฝันไปเพื่ออะไรกันครับ มากระทู้นี้ ดูเหมือนจะเล่นประเด็นไซออนมีจริงหรือแค่หลอกลวงกันอีก ก็ยิ่งแน่ใจในคำถามเดิมเข้าไปใหญ่ ว่าแล้วเราจะตื่นทำไมหว่า ชีวิตนอกฝัน มันต่างอะไรจากในฝัน ในเมื่อในฝันนั้น เราก็มีทุกอย่าง ในฐานะที่มนุษย์พึงจะมี ถ้าไม่มีใครมาบอกว่าคุณหลับ คุณก็จะไม่มีความรู้สึกว่าจำเป็นต้องตื่นตรงไหน และสุดท้าย เราก็ไม่มีทางรู้ว่าจริงๆแล้วเราตื่นหรือยัง อยู่ดี จากคุณ : Limelight เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 14:57:26

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณที่เสียสละมาตั้งหลายปี ขอบคุณจริงๆ ซึ้งงง T^T ขอให้พักผ่อนอย่างสงบ จากคุณ : Fayewinds เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 15:02:43

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเอาตามเนื้อหาของหนัง  ผมคิดว่า... ไซออน คือโลกจริง และไม่ได้มี แมทริก ซ้อน แมทริก แต่ประการใด สมิท คือ โปรแกรมชนิดหนึ่ง และกลายเป็นไวรัสหลังจากโดนจัดการในท้ายภาคแรก พอมาภาคสอง ก็โหดกว่าเดิม และไม่เป็นที่ต้องการของระบบ ซึ่งแมทริกควบคุมไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องร่วมมือกับ ดิวัน เพื่อกำจัดไวรัสสมิท ภายใต้ข้อตกลงสงบศึกกับไซออน และต่างใช้วิถีทางของตนเองต่อไป  โดยแท้จริง แมทริกก็ยังเพาะพันธุ์มนุษย์ เอามาดูดแหล่งพลังงานอยู่ตลอดไป ถ้าไม่มีไวรัสสมิท  ยังไง ไซออนก็ต้องถูกถล่มในสักวันจนได้ ยิ่งเมื่อกองทัพเซนติเนล เจาะทะลุถึงกลางไซออนแล้ว ไม่มีทางต่อต้านได้เลย จากคุณ : Free Kick เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 15:48:26

ความคิดเห็นที่ 19 ผมคิดว่า Matrix ซ้อน Matrix ตั้งแต่ นีโอตาบอด แถมยังระเิบิดยานได้ด้วย เหอะๆ ความจริงคืออะไร ไม่มีใครรู้นอกจากพระเจ้า จากคุณ : Tailogy เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 15:53:35

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้า zion คือ matrix ทำไมหัวทุกคนในโลกของ zion ถึงมีรูปลั๊กอะครับ มันก็น่าจะหมายถึงการปลดพันธการจากโลกจำแลงอยู่น๊า จากคุณ : อธติ23 (อธติ23) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 17:31:49

ความคิดเห็นที่ 21 คนเสียบปลั๊กในโลกจริงเหนือไซออน>เข้าสู่ไซออน>คนในไซออนเสียบปลั๊ก>เข้าสู่โลก Battery นีโอในไซออนสามารถใช้พลังได้ก็แสดงว่ายังอยู่ใน Matrix จากคุณ : ยัยกำปุ๊ง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 19:32:51

ความคิดเห็นที่ 22 จริงๆแล้วประเด็น Martix ซ้อน  Matrix ก็มีมาตลอด แค้จากการวิเคราะห์อย่างละเอียดและอ้างอิงข้อมูลจากในตัวภาพยนตร์เอง ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจได้ว่า ไม่มี Matrixซ้อน Matrix อย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน ผมชอบความเห็นของคุณ GODTING ที่โพสไว้ใน Pantip เมื่อนานมาแล้วนะครับ ลองอ่านดูนะครับ _________________________________________________________________ THE MATRIX----------------------------------- ใน ภาคแรกจะกล่าวถึงยุคที่มนุษย์ทำสงครามกับเครื่องจักรกลที่มีความคิดเป็นของ ตนเองซึ่งในที่นี้คือ "matrix" โดยมนุษย์ใช้ไม้ตายสุดท้ายโดยการทำลายล้างแบบไม่ให้เหลือซากซึ่งทำให้โลกถูก ปกคลุมด้วยเมฆหมอกหนาทึบไม่มีแสงอาทิตย์ลอดผ่าน ซึ่งมนุษย์ก็ได้หนีไปตั้งรกรากสุดท้ายที่เรียกว่า "ไซออน" ขณะที่ Matrix ก็พยายามดิ้นรนที่จะเอาตัวรอดโดยหาแหล่งพลังงานใหม่นั่นก็คือร่างกายมนุษย์ โดยใช้มนุษย์เป็นเหมือนแหล่งพลังงานโดยหล่อเลี้ยงวิญญาณของมนุษย์ด้วยการให้ จิตของมนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนใน matrix ตอนนี้จะเห็นแล้วนะ ครับว่ามี 2 โลกคือโลกจริง และโลกใน matrix มนุษย์ที่อยู่ในโลกจริงและเกิดในไซออนนั้นไม่สามารถเข้าไปสู่โลกใน matrix ได้เนื่องจากไม่มี plug ที่จะเสียบเพื่อ connect กับ matrix ได้ และต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ให้พ้นจากการรุกรานของเซนทิเนล (ปลาหมึกพิฆาต) แต่ในวันหนึ่งได้มีมนุษย์ที่เกิดจากการสร้างของ matrix สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองว่าสิ่งที่ตนเองพบเจออยู่นั้นมันไม่ใช่ความจริง และสามารถนำพาตัวเองออกจาก Matrix ได้ซึ่งถูกเรียกว่า "ผู้ปลดปล่อย" (the one) ซึ่งผมเข้าใจเองว่าผู้ปลดปล่อยรุ่นแรกนั้นถูกชี้นำโดย "เทพพยากรณ์" และหลังจากผู้ปลดปล่อยก็ได้ปลดปล่อยมนุษย์ที่มี plug ออกจาก matrix มากขึ้นๆ โดยในตอนนี้มนุษย์ที่ถูก unplug สามารถเข้าไปจัดการภายใน matrix ได้แล้วโดยการเจาะระบบเข้าไปทางสายโทรศัพท์ผ่าน plug ด้านหลังซึ่งคล้ายๆ กับการถอดวิญญาณ to be continue... matrix จึงได้ออกแบบโปรแกรมจัดการกับผู้บุกรุกซึ่งก็คือ agent โดย agent จะมีความสามารถพิเศษคือสามารถ copy ตัวเองลงบนร่างของใครใน matrix ก็ได้แต่เมื่อบาดเจ็บหรือตายก็จะเป็นร่างที่ตัวเอง copy เท่านั้นที่จะตาย ซึ่ง agent จะเก่งกาจในระดับที่สามารถเอาชนะผู้บุกรุกได้ทุกคนยกเว้น "the one" ซึ่งเมื่อใดที่ "the one" ก่อกำเนิดนั้นสงครามจะยุติทุกครั้ง และในสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรเกิดขึ้นครั้งใหม่ มอเฟียส กัปตันแห่งยาน "เนบูคาร์เนซาร์" ผู้ซึ่งได้พบกับ "เทพพยากรณ์" มีความเชื่อว่าผู้ปลดปล่อยจะเป็นผู้ที่หยุดสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่อง จักรกลได้ เขาและเจ้าหน้าที่บนเรือจึงได้เริ่มค้นหาผู้ปลดปล่อย ซึ่งในที่สุดมอร์เฟียสก็ได้พบคนที่คาดว่าจะเป็น "ผู้ปลดปล่อย" จากชายผู้ซึ่งพยายามค้นหาตัวตนของเขาใน matrix เขาก็คือ แอนเดอร์สัน โปรแกรมเมอร์ในบริษัทคอมพิวเตอร์ หรือแฮกเกอร์อัจฉริยะในโลกมืด "นีโอ" to be continue... นีโอ พยายามค้นหามอร์เฟียสจากความรู้สึกที่ว่าสิ่งที่เขาพบเห็นอยู่มันไม่เหมือน ความจริง คล้ายกับทุกครั้งที่ตื่นขึ้นก็ยังไม่พ้นจากห้วงแห่งความฝัน ดังนั้นนีโอจึงได้พยายามค้นหามอร์เฟียสเนื่องจากมอร์เฟียสเป็นผู้ที่ ถูกกล่าวหาว่าชักจูงผู้อื่นให้ค้นพบ "ความจริง" (อันนี้เป็นความเข้าใจของผม..) แต่วันที่มอร์เฟียสพบผู้ปลดปล่อย matrix ก็ได้พบกับผู้ปลดปล่อยด้วยเช่นกันจากสายลับที่แฝงตัวอยู่ในยานเนบูคาร์เน ซาร์ และ matrix ได้ส่ง agent เข้าถึงตัวของนีโอพร้อมๆ กับที่มอร์เฟียสพยายามจะช่วยในนีโอพ้นจากการจับกุมของ agent แต่ในที่สุดนีโอซึ่งยังไม่หลุดพ้นจากกรอบแห่ง matrix ก็ได้ถูกจับกุมและ agent ได้ใช้นีโอเป็นตัวนำให้ไปพบกับมอร์เฟียสโดยฝังเครื่องติ ดตามลงไปในตัวของนีโอและเปลี่ยนความทรงจำของนีโอให้เป็นเพียงความฝัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นของนีโอที่ต้องการรู้ "ความจริง" ทำให้นีโอไปพบตามการติดต่อของมอร์เฟียส และเชื่อตามคำโน้มน้าวของทรินิตี้ก่อนที่จะลงจากรถว่า "ได้โปรดเถอะ นีโอ ทางที่คุณจะลงนั้นคุณรู้อยู่แล้วว่าถนนสายนั้นมันไปที่ไหน และสิ้นสุดตรงไหน" ซึ่งนี่เป็นการแฝงปรัชญาในเรื่องของ "ทางเลือก" ว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่ามนุษย์เราจะไม่รู้หรอกว่าเราจะเลือกทางไหน เพราะจริงๆ แล้วเราได้เลือกแล้วว่าเราเลือกทางไหน แต่ "ทำไม" เราเลือกทางนั้นต่างหากที่เป็นสิ่งที่เราไม่รู้ to be continue... เมื่อ นีโอเลือกที่ค้นหาความจริงต่อไป เครื่องติดตามก็ได้ถูกดึงออกมาและทำให้นีโอรู้ว่าสิ่งที่เห็นคราวนั้นไม่ใช่ ความฝัน เมื่อนีโอได้พบมอร์เฟียสก็ได้ถูกทดสอบด้วย "ทางเลือก" อีกครั้งในการกินแคปซูล (ซึ่งนีโอได้ "เลือก" แล้วเพราะมอร์เฟียสบอกว่า นีโอเหมือนอลิซ ใน "Alice in Wonderland" ที่กำลังตกลงไปในโพรงกระต่าย และมอร์เฟียสจะเป็นคนบอกเองว่า โพรงกระต่ายลึกแค่ไหน) โดยเม็ดสีแดงเป็นการลบความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งที่นีโอรู้เกี่ยวกับมอร์เฟียส ขณะที่เม็ดน้ำเงินน่าจะเป็น "โปรแกรม" ขยายสัญญาณ เพื่อระบุว่า "ร่าง" ของนีโอนั้นอยู่ที่ไหนเพื่อส่งสัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นใน "ร่าง" ตื่น และเมื่อร่างตื่นแล้ว ก็จะถือว่าหมดสภาพ เครื่องจักรซึ่งดูแลระบบพลังงานของ matrix จึงได้นำร่างของนีโอไปทิ้งเพื่อเตรียมเปลี่ยนสภาพเป็น "อาหาร" ของร่างอื่นๆ (ไอ้ของเหลวสีดำๆ นั่นแหละครับ) แต่ร่างของนีโอก็ได้ถูกช่วยขึ้นมาโดยยานเนบูคาร์เนซา และทำการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน to be continue.. welcome to the real world....หลังจากที่นีโอสามารถฟื้นสมรรถภาพพื้นฐานร่างกายแล้ว มอร์เฟียสก็ได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของการกำเนิดมนุษย์ที่มี plug ว่าที่แท้เรามันก็เป็นแค่ก้อนพลังงานก้อนหนึ่งเท่านั้น และทุกสิ่งที่พบมาตลอดชีวิตกลายเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งเข้าสู่สมองโดยไม่มี อะไรเลยที่เป็น "ความจริง" ในเมื่อโพรงกระต่ายลึกกว่าที่คาดคิด นีโอเลยช็อคอย่างรุนแรง (อ๊วกแตกเลยทีเดียว) หลังจากตั้งสติได้แล้ว ก็ทำการฝึกโปรแกรมพื้นฐานสำหรับการต่อสู้ใน matrix ด้วยวิธีการ download วิชาการต่อสู้ต่างๆ ผ่าน plug (ดีจังเลยนะเนี่ย) แต่สุดท้ายในการต่อสู้ซิมูเรชั่น นีโอก็ไม่อาจเอาชนะมอร์เฟียสได้เลยเพราะนีโอยังไม่อาจก้าวข้ามขอบเขตทาง ฟิสิกส์ไปได้ (ทั้งที่ใน matrix ไม่มีจริง) อย่างที่มอร์เฟียสถามนีโอว่า "นายยังรู้สึกเหนื่อยเหรอ" หรือ "นายคิดว่านายหายใจอยู่รึไง" ซึ่งทำให้นีโอเริ่มก้าวข้ามกฎฟิสิกส์ในโลกแห่ง matrix ได้ระดับหนึ่ง แต่นีโอก็ยังไม่สามารถสร้าง "ความเชื่อ" ให้เกิดกับตัวเองได้ แต่ เมื่อโลกแห่งความจริงมันช่างโหดร้าย มนุษย์ unplug บางคนก็ไม่สามารถทนต่อกิเลสที่ส่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่เข้าสู่สมองได้ (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) และทำให้ ไซเฟอร์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในเนบูคาร์เนซาร์ เลือกที่จะกลับเข้าสู่กิเลสที่หอมหวาน (อันนี้ปรัชญาพุทธชัดเจน กิเลสเย้ายวนทำให้คนหลงผิด) โดยเลือกที่จะส่งสัญญาณระบุตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าหน้าที่ยานเนบูคาร์เนซาร์ หลังจากที่พวกเข้าสู่ matrix เพื่อพานีโอไปพบกับเทพพยากรณ์ (the oracle) ผู้ซึ่งทำให้มอร์เฟียสเชื่อและมีความหวังว่า "ผู้ปลดปล่อย" จะเป็นผู้ยุติสงคราม ซึ่งตรงนี้หนังได้แฝงปรัชญาแห่งพุทธไว้ตั้งแต่ที่นีโอ "กลับ" สู่ matrix เพราะเห็นสิ่งเดียวกัน แต่เมื่อรับรู้ต่างกัน ก็รู้สึกต่างกัน และในคำพูดของเด็กหัวล้านว่า "there is no spoon" ซึ่งหมายถึงทุกสิ่งในโลกล้วนว่างเปล่าขึ้นอยู่กับว่า "จิต" คิดให้มันเป็นแบบไหน to be continue เมื่อนีโอได้พบกับเทพพยากรณ์ นีโอซึ่งไม่มีความเชื่อใดๆ เลยว่าตัวเองเป็น "ผู้ปลดปล่อย" ก็หวังให้เทพพยากรณ์บอกเขาว่า "เขาไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย" เพื่อปลดเปลื้องภาระอันหนักอึ้งที่ทุกคนคาดหวังซึ่ง "เทพพยากรณ์" (ผมคาดว่า)รู้ในสิ่งที่นีโอคิด จึงเลือกที่พูดในสิ่งที่ตรงกับความคิดของนีโอ (อันนี้เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่มักจะเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดเหมือนกับ เราคิด) โดยบอกว่า "เสียใจด้วยนะ..(ตอนนี้)เธอ(ยัง)ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย แต่ได้ทิ้ง "ทางเลือก" อันสำคัญยิ่งให้กับ นีโอว่า มอร์เฟียส จะช่วยนีโอเพื่อให้นีโอรอด แต่ต้องแลกกับชีวิตของมอร์เฟียส ..และ เป็นไปตามคำทำนาย มอร์เฟียสเลือกที่จะต่อสู้และถูก agent จับเพื่อให้ "ผู้ปลดปล่อย" รอด และเจ้าหน้าที่ยานเนบูคาร์เนซาร์เหลือเพียง ทรินิตี้ นีโอ ที่สามารถกลับสู่ยาน และแทงค์ที่รอดตายจากไซเฟอร์ ด้วยพลังผลักดัน (รู้สึกผิด) ที่อยากช่วยมอร์เฟียสทำให้ "นีโอ" เกิดความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าจะช่วยมอร์เฟียสได้ ทำให้นีโอ ก้าวข้าม ขึ้นไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ agent (หลบกระสุนได้) to be continue.. หลัง จากที่นีโอสามารถช่วยมอร์เฟียสออกมาจากตึกได้ นีโอจึงอยากบอกสิ่งที่เทพพยากรณ์บอกเขากับมอร์เฟียสว่า "เขาไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย" แต่มอร์เฟียสซึ่ง "ศรัทธา" กับนีโออย่างมากมายกว่านีโอคือ "the one" รู้ดีว่า "เทพพยากรณ์" ได้บอกเพียงสิ่งที่อยากฟังเท่านั้น และตัวของนีโอเท่านั้นที่จะรู้ตนเองว่าเขาเป็น "ผู้ปลดปล่อย" หรือไม่ และมอร์เฟียสก็เชื่อว่า "วิถีทาง" ได้ถูกกำหนดแล้ว เพียงแต่ว่านีโอ จะไปถึงโดยเดินตามเส้นทาง หรือเข้าใจเส้นทาง เท่านั้น (อันนี้มีนัยยะมากนะครับ เพราะมันหมายถึงเราไปถึงเป้าหมายตามคำบอกของคนอื่น หรือไปถึงมันด้วยความเข้าใจของตนเอง ซึ่งผลที่ได้จะต่างกัน) to be continue... เมื่อ "นีโอ" เริ่มมีความเชื่อในตัวเองมากขึ้นขีดความสามารถก็เพิ่มมากขึ้นโดยสามารถ ต่อสู้กับ agent smith ได้อย่าง "เกือบ" สูสี แต่ประเด็นที่ฉากที่กล่าวถึงคือ Smith ไม่ยอมรับการมีตัวตนของสิ่งที่อยู่นอกระบบอย่าง "นีโอ" เพราะ Smith เรียกนีโอว่า "มิสเตอร์แอนเดอร์สัน" แต่นีโอปฏิเสธตัวตนใน matrix อย่างสิ้นเชิงด้วยประโยคที่ว่า "my name is ... Neo" ซึ่งเนื้อหาตอน สุดท้ายที่นีโอถูกยิง มันจะไปสอดคล้องกับพุทธ กับ คริสต์ (อย่างจงใจ) โดย "The One" จะถูกผูกเงื่อนด้วยการตายแล้วเกิดใหม่ตามคริสต์คัมภีร์ที่ว่าด้วยการฟื้นจาก ความตายของพระเยซูเพื่อเป็นผู้ปลดปล่อยมนุษยชาติจากทุกข์ และการตายเพื่อหลุดพ้นและเกิดใหม่ตามกรรมที่ก่อไว้ตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งการตายแล้วเกิดใหม่ก็สอดคล้องกับคำทำนายของเทพพยากรณ์ว่า "นีโอ (ก่อนตาย) ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย" เพราะการเกิดใหม่ย่อมหมายถึงการไม่ใช่ตัวตนเดิม จะเห็นได้ว่า นีโอ ที่เกิดใหม่จะเป็นเหมือน "ผู้รู้แจ้ง" ในโลกแห่ง matrix เพราะเห็นทุกสิ่งใน matrix เป็น code ต่างๆ และทำให้ "The one" สามารถแทรกตัวเข้าไปใน agent และเข้าไปเปลี่ยนแปลง source code ใน agent ได้เลยทำให้ smith แตกดับในลักษณะที่ soruce code โดนเล่นงานจริงๆ (เลยไม่เหลือศพที่ smith copy มาไงครับ) เอาล่ะ ตอนนี้ matrix ภาคแรกก็ดำเนินมาถึงจุดจบ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอีก 2 ภาคที่เหลือซึ่งมันไม่ใช่ ปรัชญาแนวศาสนาเท่าภาคนี้แล้ว แต่มันกลายเป็นเรื่องราวในระบบคอมพิวเตอร์ และการสร้างสมดุลในระบบนิเวศน์เต็มรูปแบบ  หากเพื่อนๆ ยังสนใจที่จะให้ผมเล่าให้ฟังมุมมองของผมต่อ the matrix ไตรภาค ล่ะก็ บอกกล่าวกันหน่อยนะครับ เผื่อผมจะได้ตั้งกระทู้ใหม่ให้ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:42:32

ความคิดเห็นที่ 23 THE MATRIX RELOADED----------------------------------- หนัง เริ่มต้นด้วยความฝันของนีโอที่เห็นการตายของทรินิตี้ เพียงแต่สิ่งที่นีโอเห็นนั้นยังไม่ "ชัดเจน" นักซึ่งทำให้นีโอมีความกังวลว่าจะสูญเสียทรินิตี้ไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของยานแต่ละลำประชุมกันใน matrix เนื่องจากตรวจสอบพบว่า machine city พบที่ตั้งของไซออน (ผมเข้าใจว่าที่ machine city รู้ตำแหน่งของไซออนได้เพราะ agent น่าจะจับกัปตันจากยานลำใดลำหนึ่งและบังคับให้บอกตำแหน่งของไซออน เหมือนกับที่มอร์เฟียสถูกจับ (ในภาคแรก) และฉีดยาเพื่อบังคับให้บอกที่ตั้งของไซออน) และได้ส่งเซนทิเนล 4 แสนตัวพร้อมกับเครื่องเจาะเพื่อเจาะลงไปทำลายไซออน โดยมีคำสั่งจาก "ผู้บัญชาการล็อค" ให้ยานทุกลำกลับไปที่ไซออนเพื่อต่อต้านการบุกของเซนทิเนล แต่มอร์เฟียสกลับต้องการให้มียานหนึ่งลำ stand by เพื่อรอการติดต่อของ "เทพพยากรณ์" เพราะมอร์เฟียสเชื่อว่าการทำนายของเทพพยากรณ์จะนำพาให้สงครามสิ้นสุด แต่ยานเนบูคาร์เนซาร์จำเป็นต้องกลับไปที่ไซออนเพื่อชาร์จพลัง ซึ่งการกระทำของมอร์เฟียสเป็นการขัดขืนคำสั่งอย่างชัดเจน แต่ "กัปตันไนโอบี" แห่งยานโลโกสสนับสนุนความคิดของมอร์เฟียส to be continue.. agent smith ได้เดินทางมาหานีโอและได้ส่ง "plug" ของ agent ส่งให้นีโอพร้อมกับบอกว่า นีโอทำให้เขาได้เป็นอิสระ นั่นเป็นเพราะในตอนที่นีโอมุดเข้าไปในร่างของ smith ได้เปลี่ยนแปลง source code ของ smith ทำให้ smith เปลี่ยนเป็นโปรแกรมรูปแบบใหม่ซึ่งไม่ต้องขึ้นตรงต่อ matrix และได้ปลดปล่อย smith ออกจากการควบคุมของ matrix ขณะที่นีโอต้องการพบเทพพยากรณ์เพื่อให้ทำนายสิ่งที่เขาฝันเกี่ยวกับทรินิตี้ แต่เทพพยากรณ์ยังไม่ปรากฏตัว เมื่อยานเนบูคาร์เนซาร์เดินทางกลับ ถึงไซออน นีโอซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็น "ความหวัง" ของเหล่าผู้คนในไซออนว่าจะเป็น "ผู้ปลดปล่อย" และ "ผู้ปกป้อง" มนุษยชาติจากสงครามระหว่างเครื่องจักร ได้กลายเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของผู้คนในไซออนและถูกอ้อนวอนร้องขอให้ปกป้องคน ที่รักที่ต้องประจำการตามยาน (ตีความได้ว่านีโอดำรงอยู่คล้ายศาสดา) ซึ่งรวมถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ได้รับการปลดปล่อยจากนีโอมีความศรัทธราในตัว นีโออย่างแรงกล้าด้วย to be continue.. ฉากที่ดูแล้วออกจะ น่าเบื่อแต่มีนัยยะแฝงอยู่อีกอันก็คือ ฉากที่สมาชิกสภาสูงสนทนากับนีโอถึงความลักลั่นย้อนแย้ง (ขอให้ศัพท์ของหงสาหน่อยนะ) ว่า "น่าแปลกที่มนุษย์ทำสงครามกับเครื่องจักรกล แต่อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องอาศัยเครื่องจักรกลในการดำรงชีวิต ทั้งการสร้างอากาศ บำบัดสิ่งปฎิกูลที่มนุษย์สร้างขึ้น และการช่วยให้ไซออนดำรงอยู่ได้" ส่วนฉากงานรวมพลังเพื่อสร้างขวัญ กำลังใจที่มีขึ้นพร้อมกับ love scence ของนีโอ และทรีนิตี้ เป็นส่วนเติมเต็ม (ที่ดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์) ว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่ามนุษย์อยู่ในภาวะใดก็ตาม ก็ยังคงถูกครอบงำด้วย กิเลส และตัณหา ซึ่งพอตีความได้ว่า มนุษย์เข้าสู่ยุคเสื่อมตามวัฏจักร ซึ่งก็ผูกกับคริสต์ศาสนาถึงวันสิ้นโลก (อันนี้ผมตีความเอง) และในที่สุด เทพพยากรณ์ก็ได้ติดต่อเข้ามา (เพิ่มเติมส่วนที่ตกหล่นนะครับ) โดยยานที่รอสัญญาณของเทพพยากรณ์ได้นำสารมาให้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยานที่รอติดต่อเทพพยากรณ์นั่นได้ถูก smith ไล่ล่าและ "เบน" เจ้าหน้าที่ในยานคนหนึ่งได้ถูก smith ดูดกลืน และ smith ก็ได้ออกสู่โลกแห่งความจริงในร่างของ "เบน" ซึ่ง smith สามารถก้าวข้ามเข้าสู่ความมีตัวตนในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งหมายถึง smith เข้าใกล้นีโอขึ้นมาอีกก้าวหนึ่งแล้ว to be continue... การ เดินทางไปพบเทพพยากรณ์ครั้งนี้ นีโอมีสิ่งที่อยากถามมากมาย แต่เมื่อเดินทางไปยังสถานที่นัดพบ เขากลับไม่พบกับเทพพยากรณ์ แต่กลับพบชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่า "เซราฟ" ซึ่งได้ทำการทดสอบนีโอว่า ใช่ "ผู้ปลดปล่อย" หรือไม่ หรือเป็นเพียง "ผู้แปลกปลอม" ที่หวังจะพบกับเทพพยากรณ์ หลายท่านอาจแปลกใจว่า ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้มีเซราฟโผล่มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อันนี้ผมคิดเองนะครับว่าจริงๆ แล้วเราได้เจอเซราฟตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เพียงแต่ในภาคนั้นเป็นผู้หญิงผิวดำที่เปิดประตูพร้อมกับนีโอเมื่อครั้งที่ นีโอไปพบกับเทพพยากรณ์ในครั้งแรก (ลองหาหนังมาดูนะครับ) เพียงแต่ตอนนั้นเทพพยากรณ์ยังไม่ได้ถูกภัยคุกคามดังเช่นตอนนี้ เซราฟในตอนนั้นจึงไม่ใช่โหมดต่อสู้ แต่เป็นเพียงผู้ติดตามดูแลเท่านั้น แต่ในภาคนี้เซราฟต้องเปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้เพื่อปกป้องเทพพยากรณ์จาก"ภัยคุก คามครั้งยิ่งใหญ่" จนในที่สุดเซราฟก็พานีโอไปพบเทพพยากรณ์ด้วยการ เปิดประตูด้วย "key" ที่ทำให้ด้านหลังประตูกลายเป็นอีกมิติหนึ่งที่มี "ประตู" อีกมากมาย และเมื่อเปิดอีกประตูหนึ่ง นีโอก็ได้พบกับเทพพยากรณ์ to be continue เมื่อ นีโอพบกับเทพพยากรณ์ การถามตอบเพื่อล้อมกรอบของนีโอทำให้นีโอได้รู้ว่าความจริงว่าเทพพยากรณ์เป็น เพียง "โปรแกรม" โปรแกรมหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น "ผู้นำทาง" ซึ่งการทำนายของเทพพยากรณ์นั้นไม่ได้ทำเพื่อให้เกิดการยุติสงครามและช่วย เหลือมวลมนุษย์ตามที่มอร์เฟียสเข้าใจ แต่เป็นเพียงการนำทางให้ผู้ปลดปล่อยเดินทางและพัฒนาตัวเองไปสู่ "เป้าหมาย" ตามที่เคยเป็นมาก่อน และจากการที่เทพพยากรณ์บอกว่า "ฉันไม่สามารถบอกได้ถึงสิ่งที่ฉันไม่เคยเข้าใจมันมาก่อน" แสดงให้เห็นว่า การทำนายของเทพพยากรณ์มาจากการประมวลข้อมูลและบอกในสิ่งที่เป็นไปได้มากที่ สุด ดังนั้น เทพพยากรณ์ จึงไม่สามารถจะทำนายในสิ่งที่ไม่มีเคยพบหรือไม่เคยมีข้อมูลนั้นๆอยู่ได้ ดังนั้นการทำนายทางเลือกของเทพพยากรณ์จึงเป็นการนำทาง ด้วยข้อมูลที่เทพพยากรณ์มีอยู่ ดังที่เทพพยากรณ์บอกว่า "จงอย่าสงสัยว่าควรเลือก ทางเลือกไหน เพราะเธอได้เลือกแล้วว่าจะเลือกทางไหน แต่จงสงสัยว่า ทำไมเธอถึงเลือกทางนั้นดีกว่า" ซึ่งเทพพยากรณ์ได้บอกกับนีโอว่าตอนนี้นีโอมี "นิมิต" หลังจากที่นีโอเล่าความฝันเกี่ยวกับทรินิตี้ให้ "The oracle" ฟัง ซึ่งเทพพยากรณ์ก็ไม่รู้เช่นกันว่าปลายทางสุดท้ายของความฝันนั้นคืออะไร นั่นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับ "การเลือก" ของนีโอเท่านั้น... ก่อน ที่ภัยคุกคามจะมาถึงตัวนั้นเทพพยากรณ์ได้บอกกับนีโอว่านีโอต้องเดินทางไปสู่ "the source" หรือแหล่งกำเนิดและ ณ แหล่งกำเนิดนั้นนีโอจะต้องพบกับทางเลือกครั้งสำคัญเพื่อยุติสงคราม แต่การเดินทางไปสู่ the source นั้นนีโอจำเป็นต้องมี key ของประตูที่จะเข้าสู่ the source ซึ่ง key นั้นถูกเก็บอยู่กับ keyman ซึ่งเป็นโปรแกรมผลิต key สำหรับเข้าออกใน matrix ซึ่งจะมีเพียงโปรแกรมชั้นสูงเท่านั้นที่จะครอบครอง key นั้นๆ ได้ดังเช่นที่ the oracle มีกุญแจเพื่อเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของ matrix ได้อย่างอิสระซึ่งเรียกว่าเป็น "ด้านหลัง" ของ matrix ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ล่ะก็เปรียบเหมือนกับการทำงานของโปรแกรม ล่ะครับ โดยที่โปรแกรมจะ run อยู่บนพื้นที่ความจำหนึ่ง โดยจะทำการเรียกไฟล์ที่เก็บอยู่ตาม location ต่างๆ ใน harddisk โดยสามารถไปได้อย่างอิสระ และจะคอยออกคำสั่งให้ ไฟล์ต่างๆ ทำงานตามหน้าที่ของมันเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งหมายถึงการที่ใครก็ตามที่เดินทางมาหา the oracle ไม่ว่าจะเป็นมอร์เฟียส ทรินิตี้ หรือ นีโอ นั่นก็หมายถึงมันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดอยู่แล้วนั่นเอง กลับสู่ reloaded ต่อนะครับ โชค ร้ายที่ keyman ถูกกักขังอยู่กับโปรแกรม"ระดับสูง" อีกโปรแกรมหนึ่งคือ "เมโรวินเจี้ยน" ซึ่งเทพพยากรณ์ได้ให้บอกสถานที่และเวลาที่แน่นอนให้กับนีโอเพื่อให้เดินทาง ไปพบ และในที่สุดภัยคุกคามเทพพยากรณ์ก็กำลังจะมาถึง.. to be continue... ภาวะ คุกคามใหม่ของ the oracle นั่นคือ "agent smith - unplugged version" หลังจากที่ smith เปลี่ยนเข้าสู่รูปแบบใหม่หลังจากที่ source code ของ smith ถูกเปลี่ยนไปเพราะนีโอ ทำให้ smith ได้ความสามารถใหม่ นอกเหนือจากการ "เข้าสวม" ร่างที่ต้องการแล้ว แต่ยังสามารถเปลี่ยน source code ของร่างนั้นๆ ให้เหมือนกับตัวต้นฉบับ (ไม่เว้นแม้แต่ agent) ซึ่งเป็นการเพิ่มความสามารถที่เหนือกว่า agent ทั่วไป ทำให้ smith มีความคิดที่จะกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่ใน matrix และเป้าหมายสำคัญของ smith ของการได้ดูดกลืนเทพพยากรณ์เพราะต้องการ "ความสามารถ" ที่สำคัญของ the oracle (น่าจะเป็นดวงตาของเทพพยากรณ์) จึงได้ไล่ล่า oracle แต่การดูดกลืนนั้นก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ยังไม่สามารถ copy source code ของตัวเองลงบนสิ่งที่มี "ความสามารถ" เหนือกว่าได้ ทำให้ smith ไม่สามารถดูดกลืนนีโอได้เหมือนคนอื่น  smith ใช้วิธีการ "เพิ่มจำนวน" เพื่อต่อสู้กับนีโอ แต่ด้วยการที่แต่ละตัวมีขีดความสามารถที่ต่ำกว่า ทำให้ smith ทำให้เพียงแค่ "เกือบ" ชนะเท่านั้น to be continue เมื่อ นีโอพ้นจาก smith ได้แล้วก็ได้นำสิ่งที่เทพพยากรณ์บอกเขาไปบอกกับมอร์เฟียส เพื่อเดินทางไปพบกับ "เมโรวินเจียน" โปรแกรมระดับสูงเฉกเช่นเดียวกับ the oracle ซึ่งอยู่ใน matrix มาตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.0 (ไว้อธิบายตอน หลังนะครับ) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถเขียน"โปรแกรม"พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ใน matrix ได้ (รวมถึงเจ้าแฝดที่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนไม่มีร่างกายได้ และยังมีเทรนแมนซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับติดต่อสื่อสารระหว่าง machine city และ matrix ซึ่งจะปรากฎตอน revolution) เมื่อเมโรวินเจียนรู้ว่า มอร์เฟียส ทรินิตี้ และนีโอ เดินทางมาพบเพียงเพราะคำบอกของ the oracle แต่ไร้ซึ่งเหตุผลและแรงจูงใจใดๆ ในการมาพบเขา (คือ "มาเพราะต้องมา" ไม่ใช่ "มาเพราะอยากมา) ทำให้เมโรวินเจียนปฏิเสธคำร้องขอของมอร์เฟียสที่จะมอบ keyman ซึ่งจะเป็นผู้นำทางไปสู่ the source  แต่ด้วยความช่วยเหลือปนประชดของภรรยาเมโรวินเจียน เนื่องจากเบื่อที่สามีมากรัก และเธอโหยหาสิ่งที่เรียกว่า "รักแท้" และเธอได้ร้องขอให้ นีโอ จูบเธอให้เหมือนกับการจูบคนรัก (ทรินิตี้) ซึ่งนีโอก็ยอมทำตาม ทำให้ในที่สุดนีโอก็ได้พบ keyman และสามารถพา keyman กลับมาได้ท่ามกลางฉากต่อสู้ที่ตื่นตาตื่นใจ และ มันส์สุดๆ (หาดูกันเองนะครับ) ไม่อยากอธิบายเพราะมันคงไม่เท่ากับดูเองล่ะครับ to be continue เมื่อ นีโอได้ตัวของ keyman เรียบร้อยแล้ว "เนบูคาร์เนซาร์" "โลโกส" และยานอีกลำหนึ่ง (ผมจำชื่อไม่ได้ครับ) ได้รวมกันเพื่อดำเนินการให้นีโอได้ไปถึงประตูที่จะเข้าสู่แหล่งกำเนิด (the source) โดยประตูนี้ถูกติดตั้งอยู่ในตึกหนึ่งซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และมีระเบิดฝังอยู่ ทางเดียวที่จะเข้าไปได้คือต้องตัดกระแสไฟที่จ่ายเข้าสู่อาคารทั้งแหล่ง พลังงานหลักและสำรองเพื่อตัดสัญญาณเตือนภัยซึ่งหลังจากตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว ต้องเปิดประตูเพื่อสู่ห้องที่จะไปถึง the source ภายใน 314 วินาที โดยทีมของ ไนโอบี และ ยานอีกลำรับหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้า ก่อนปฏิบัติการจะเริ่มขึ้นนั้น นีโอขอร้องให้ทรินิตี้อย่า plug เข้าไปใน matrix เพราะเขากังวลว่าทรินิตี้อาจต้องพบกับความตายตามความฝัน ซึ่งทรินิตี้ก็รับปาก ขณะที่การดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้าของไนโอบีเป็นไปอย่างเรียบร้อย ขณะที่ยานอีกลำถูกเซนทิเนลตรวจพบและระเบิดทิ้ง ซึ่งเป็นเหตุให้ทรินิตี้จำเป็นต้อง upload เข้าไปตัดกระแสไฟฟ้าสำรองซึ่งทรินิตี้สามารถทำได้สำเร็จ ขณะที่นีโอเข้าสู่ประตูที่ออกสู่ "ด้านหลังของ matrix" smith ได้ดักรออยู่ (เข้าใจว่า smith มาได้จากการดักฟังยานทั้งสามลำประชุมกัน) และเมื่อ keyman บรรลุ "เป้าหมาย" ที่จะเปิดห้องที่จะนำนีโอไปสู่ the source ได้สำเร็จ keyman ก็ได้พบกับความตาย ขณะที่ทรินิตี้กำลังจะออกจากตึกหลังจากภารกิจสำเร็จ ทรินิตี้ก็ต้องพบกับสายลับแต่เพียงลำพัง to be continue เมื่อ นีโอเปิดประตูเข้าไปในแหล่งกำเนิด "the source" นีโอได้พบกับ "สถาปนิก" ซึ่งเป็นผู้สร้าง the matrix version แรก และเขียนโปรแกรมของตัวเองให้อยู่ใน matrix และในช่วงของการ input ข้อมูล (คำถาม) และคำตอบ (output) ของนีโอจะเห็นได้ว่ามีการแสดงคำตอบของนีโออยู่มากมายทางจอทีวีเล็กๆ ผมคิดว่านั่นเป็นการแสดงของถึง "การประมวลผล" ที่อยู่ในภายจิตใจออกมาซึ่งมีคำตอบมากมายที่จะตอบคำถามนั้น แต่สุดท้ายคำตอบที่ออกมาจริงๆ ก็มีเพียง "หนึ่งเดียว" เท่านั้น (การเงียบก็คือคำตอบหนึ่ง) นั่นแฝงนัยว่าถึงแม้ว่าทางเลือกจะมีมากมายสุดท้ายก็จะมีเพียงทางเลือกเดียว เท่านั้นที่จะถูกเลือก สถาปนิกได้อธิบายว่า matrix version 1.0 นั้นยังไม่สมบูรณ์แบบและยังขาดซึ่งความสมดุลทางสมการ ดังนั้นสถาปนิกจึงออกแบบโปรแกรม "ผู้ปลดปล่อย" ขึ้นมาเพื่อใช้ในการหาสมการที่สมดุลและทำให้ matrix เสถียรที่สุด โดยผู้ปลดปล่อยทุกคนตั้งแต่รุ่นแรกจะถูกสร้างขึ้นมา และถูกนำทางด้วย the oracle ให้ผ่านประสบการณ์ต่างๆ และให้นำพาตัวเองเข้ามาสู่ the source เพื่อให้สถาปนิกได้นำผู้ปลดปล่อยไป decode เพื่อพัฒนา matrix ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยสร้าง "ทางเลือก" ให้ผู้ปลดปล่อยเลือกว่าจะยอมให้ decode โดยแลกกับการทำลายล้างไซออน แต่เหลือมนุษย์อยู่ 23 คน เป็นหญิง 16 คน ชาย 7 คนเพื่อสร้างไซออนใหม่ หรือจะปล่อยให้มนุษยชาติสูญเผ่าพันธุ์หมด ซึ่งสถาปนิกเล่าให้นีโอฟังว่า matrix เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่น 6.0 นั่นหมายถึง ไซออนผ่านการถูกทำลายมาแล้ว 5 ครั้ง -ซึ่งอันนี้ผมเข้าใจว่าอ้างอิงจากพระคัมภีร์ในศาสนาคริสต์ว่าด้วยการที่พระ เจ้าจะทรงล้างโลกเมื่อถึงคราวเสื่อมของมนุษย์แต่จะยังคงเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ มีความดีหลงเหลืออยู่ (จำนวนนั้นผมไม่แน่ใจ)- ซึ่งผู้ปลดปล่อยทุกคนจะต้อง "เลือก" ว่าจะปล่อยให้ matrix พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และไซออนคงอยู่ หรือจะปล่อยให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ และผู้ปลดปล่อยรุ่นก่อนทุกคนเลือกที่จะดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ ขณะที่นีโอต้องเผชิญทางเลือกที่มีสมการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อเขาต้องเลือกระหว่างการถูก decode หรือการไปช่วยทรินิตี้ที่กำลังจะตายตามนิมิตของเขา ซึ่งอย่างที่บอก "ทางเลือกนั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้ว" นีโอเลือกที่จะปฏิเสธการดำรงอยู่ของไซออน และออกจาก the source เพื่อไปช่วยทรินิตี้ แม้ว่านีโอจะช่วยในทรินิตี้หลุดพ้นจากความตายมาได้ แต่สิ่งที่พบคือ เซนทิเนลยังคงมุ่งหน้าเพื่อจะทำลายไซออนต่อไป เมื่อนีโอกลับมา ความศรัทธราทั้งชีวิตของมอร์เฟียสต่อการยุติสงครามของผู้ปลดปล่อยนั้นถูก ทำลายลงในทันที เพราะผู้ปลดปล่อยได้เดินทางไปสู่แหล่งกำเนิด แต่สงครามก็ยังไม่ยุติ และยิ่งเมื่อนีโออธิบายว่า "เทพพยากรณ์" ที่แท้จริงนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่มอร์เฟียสศรัทธรา ก็ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของเขายิ่งดำดิ่ง ซ้ำร้ายยานเนบูคาร์เนซาได้ถูกเซนทิเนลตรวจพบและได้ระเบิดทำลายอย่างไม่เหลือ ซาก แต่มอร์เฟียส นีโอ ทรินิตี้ และลิงค์ ได้หลบหนี้ออกจากและนีโอต้องเผชิญหน้ากับ เซนทิเนลในโลกที่เขาไร้พลัง แต่ทันใดนั้นนีโอก็สามารถรวบพลังและปล่อยออกไปหยุดเซนทิเนลได้ แต่ก็หมดสติไปในทันที (ผมจะอธิบายสิ่ง ที่ผมคิดไว้ในภาค revolution นะครับ) โชคดีที่มียาน (ที่ผมจำชื่อไม่ได้) มาช่วยเพราะได้รับมอบหมายให้ตามยานต่างๆ กลับไปปกป้องไซออนโดยที่เหลือเวลาอีกเพียง 9 ชี่วโมงเครื่องเจาะและเซนทิเนล 4 แสนตัวก็จะไปถึงไซออน นอกจากนั้นยานลำนี้ได้ช่วยผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากยาน 5 ลำ ซึ่งผู้ที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวนั่นคือ "เบน" ที่ในจิตใจคือ agent smith นั่นเอง to be conclude.... จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:43:09

ความคิดเห็นที่ 24 THE MATRIX REVOLUTION------------------------------- เมื่อ ยาน "Hammer" ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่จากยาน "เนบูคาร์เนซาร์" และผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากยานที่ถูกทำลายด้วย ERP ทั้ง 5 ลำซึ่งได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุทำลายยานเหล่านั้นซึ่งคน ที่ถูกช่วยขึ้นมาได้นั้นคือ "เบน" หรือเจ้าหน้าที่ที่ภายในถูกเปลี่ยนเป็น "Smith" ไปแล้ว ภายใต้การช่วยเหลือของยาน "Hammer" นีโอซึ่งหมดสติและไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัวแต่เจ้าหน้าที่บนยาน Hammer สังเกตุเห็นว่ารูปแบบสัญญาณคลื่นสมองต่างๆ ของนีโอมีรูปแบบเหมือนกับการ "plug-in" เข้าสู่ Matrix แต่เมื่อ operator ค้นหานีโอใน matrix กลับไม่พบ ยังความสงสัยแก่เจ้าหน้าที่ในยานว่า ทำไมนีโอถึงสามารถใช้พลังในโลกนอก matrix ได้ และ ทำไมนีโอจึงเข้าไปอยู่ใน matrix ได้ทั้งที่ไม่ได้ plug-in ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสน เทพพยากรณ์ก็ได้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง... to be continue... (ตี ความ) อันนี้ทำเอาผมงงอยู่เหมือนกันว่าทำไมนีโอถึงสามารถ connect กับ the matrix ได้ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก และสามารถดึงความสามารถจาก matrix ออกมาได้ด้วย นั่งคิดอยู่นานผมก็คิดว่าน่าจะเป็นลักษณะที่ว่า จิตนีโอ connect กับ machine city และ the matrix ด้วยระบบ "wireless" (เนื่องจากจิตของนีโอเป็นโปรแกรม "ผู้ปลดปล่อย" ซึ่งโปรแกรมต่างๆ สามารถเดินทางระหว่าง machine city และ matrix ได้) คือเป็นการ connect แบบไร้สายเข้าสู่ machine city และเชื่อมต่อกับ the matrix ด้วยรหัสของ "นีโอ" และเกิดการ transfer data ระหว่าง นีโอ และ the matrix ผ่าน wireless connection ซึ่งส่งผลให้ความสามารถของนีโอถูกส่งผ่านมายังโลกแห่งความจริงได้ แต่อย่างที่เราเข้าใจกันว่า wireless connection นั้นมีความเสถียรต่ำ และเป็นการ connect ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทำให้เกิดการ disconnect ขึ้นซึ่งขณะที่ disconnect นั้นจิตของนีโอถูกกักอยู่ในช่องการเชื่อมต่อระหว่าง machine city และ matrix ทำให้จิตของนีโอถูกกักอยู่ระหว่างเส้นทางการเชื่อมต่อระหว่าง machine city และ the matrix นั่นเอง การมาพบเทพพยากรณ์ใน ครั้งนี้ทำให้มอร์เฟียสเห็นว่าเทพพยากรณ์มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาไป (ตามที่ท่าน ไม่อยากมีชื่ออธิบายไว้ว่านักแสดงคนก่อนเสียชีวิตไปแล้ว) เนื่องจากถูกเมโรวินเจียนเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เพื่อแลกกับการนำโปรแกรม ซาตี เข้าสู่ matrix (ซึ่งตรงนี้ผมว่าคนสร้างเข้าใจคิดที่นำคนอินเดียมาเล่น เพราะว่าตอนนี้อินเดียเรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้าน IT ของโลกไปแล้ว)  เทพพยากรณ์รู้แล้วว่าจิตของนีโอนั้นติดอยู่ในรอยต่อระหว่าง machine world และ matrix ซึ่งผู้เดียวที่สามารถจะพามอร์เฟียสและทรินิตี้ไปพบได้คือ trainman ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เชื่อมต่อการส่งข้อมูลระหว่างโลกของเครื่องจักร เป็นพยาหนะที่นำโปรแกรมใหม่ๆ เข้ามา หรือนำโปรแกรมที่เสีย หรือเก่าแล้วออกไป และแน่นอนว่าผู้เขียนและดูแลโปรแกรมนี้อยู่คือ เมโรวินเจียน โปรแกรมที่เก่าแก่เทียบเท่ากับเทพพยากรณ์ซึ่งถูกติดตั้งอยู่ใน matrix ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก และด้วยการต่อรองที่ผมคิดว่ามัน "ทื่อ" ซะเหลือเกิน ทรินิตี้ก็สามารถบังคับให้ trainman นำเธอไปหานีโอ และนำนีโอกลับมาสู่โลกจริงได้อีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่นีโอจะถูกช่วยเหลือนั้น นีโอได้พบกับ รามากันดรา และ กมลา ซึ่งเป็นโปรแกรมที่กำลังจะเดินทางจาก machine city ไปยัง matrix เพื่อทำ ซาตี ซึ่งเป็นลูกสาวของพวกเขาไปฝากกับเทพพยากรณ์ (ผมเดาว่า ซาตี อาจเป็น the oracle เวอร์ชั่นใหม่ที่จะมาแทน the oracle เวอร์ชั่นปัจจุบันก็เป็นได้) เมื่อนีโอได้ฟื้นคืนสู่โลก ยานโลโกสได้มาสมทบกับแฮมเมอร์เพื่อเตรียมกลับไปยังไซออน แต่นีโอซึ่งมีความเชื่อว่าจะสามารถยุติสงครามได้ก็ได้เสนอขอยานหนึ่งลำเพื่อ เดินทางไปยัง machine city ซึ่งทุกคนเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่บ้ามากเพราะไม่เคยมียานลำใดสามารถเข้าไป ใกล้ได้เลย แต่ไนโอบีก็ยกยานโลโกสให้กับนีโอเพราะเธอ "เชื่อ" ในตัวนีโอว่านีโอสามารถทำได้ และเสนอเป็นคนขับยานแฮมเมอร์ผ่านเส้นทาง mechanic ซึ่งเป็นเส้นทางที่ขับยานได้ลำบากมากแต่ใช้เวลาสั้นที่สุด เพื่อกลับไปปกป้องไซออน ซึ่งนีโอได้เดินทางไปพร้อมกับทรินิตี้ แต่หารู้ไม่ว่า "เบน" ฆ่าเจ้าหน้าที่ยานแฮมเมอร์และแอบขึ้นไปบนโลโกสเพื่อเตรียมจัดการนีโอ to be continue... เบน ได้ล่อให้ทรินิตี้ลงไปที่ห้องควบคุมกระแสไฟฟ้า และทำให้นีโอต้องลงไปต่อสู้ด้วยจนได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวตนของเบนก็คือ smith และในการต่อสู้ครั้งนีโอต้องสูญเสียดวงตา แต่ก็ทำให้พบว่าตนเองมีความสามารถให้การมองเห็นเครื่องจักรและโปรแกรมที่ อยู่ภายในมันได้ โดยจะเห็นว่านีโอมองเห็น smith ที่อยู่ในร่างของเบนโดยจะเห็นเป็นรูปลักษณ์ของแสง แต่นีโอมองทรินีตี้ไม่เห็นเนื่องจากทรินีตี้เป็นมนุษย์ (ซึ่งตรงนี้ผมมีความเห็นแตกต่างกับท่าน ไม่อยากมีชื่ออยู่สักหน่อยเพราะผมรู้สึกว่านีโอมองเห็นแต่เครื่องจักรที่มี พลังงาน แต่มองไม่เห็นทรินิตี้ครับ)  นั่นแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมผู้ปลดปล่อยในตัวนีโอนั้นเริ่มพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ทางด้านของไซออนนั้นก็ได้เริ่มทำการอพยพผู้คน และให้ทหารและหุ่นยนต์ประจำที่อู่จอดยานเต็มอัตราศึกเพื่อที่จะปกป้องไว้ให้ สำหรับยานที่จะกลับมาเพื่อยิง ERP ทำลายเซนทิเนลให้ราบคาบ แต่เนื่องจากจำนวนของเซนทิเนลมีมากซะจนไม่สามารถกำจัดได้ ทำให้ฝ่ายมนุษย์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องเสียอู่จอดยานให้กับเซนทิเนลอย่างราบคาบ ขณะที่ไนโอบีเร่งเดินทางกลับมาแต่ไม่สามารถติดต่อกลับมาที่ไซออนได้ และในขณะที่ความหวังของมนุษย์กำลังจะจบสิ้น เด็กหนุ่มที่ศรัทธราในตัวนีโอ ได้ขึ้นไปขับหุ่นยนต์รบเพื่อที่จะไปเปิดประตูให้แฮมเมอร์ได้เข้ามาในอู่ และด้วยศรัทธราของเขา เขาสามารถเปิดประตูได้สำเร็จ ยานแฮมเมอร์ได้กลับเข้ามาในอู่จอดยานและยิง ERP ทำลายเซนติเนลได้ทั้งหมด แต่ก็ตัองแลกกับความเสียหายยับเยินของระบบไฟฟ้าในไซออน ทำให้ผู้บัญชาการล็อคต้องสั่งให้อพยพมนุษย์ในไซออนลงไปในที่ที่ปลอดภัยที่ สุด และเตรียมพร้อมสู้แบบยอมตายถวายชีวิต to be continue.. เมื่อ ยานโลโกสเดินทางขึ้นมาถึงผิวโลกและเริ่มเคลื่อนที่เข้าไปไกล machine city ตาม main powerline ซึ่งนีโอมองเห็น machine city ก็โจมตีเข้าใส่ผู้บุกรุกอย่างเต็มกำลัง ซึ่งเป็นอีกครั้งที่นีโอ connect กับ matrix เพื่อใช้พลังเข้าทำลาย แต่ครั้งเสถียรกว่าครั้งที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนศัตรูที่มากมายทำให้นีโอเข้าสู่ภาวะ overload คือกำจัดไม่ไหวจึงเลือกให้ ทริน ยกยานขึ้นเหนือเมฆและพุ่งเข้าสู่ใจกลางของ machine city ในที่สุด นีโอก็สามารถเข้าไปถึงใจกลางของ machine city แต่ก็ต้องแลกด้วยความตายของทรินิตี้ ตรงนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่านีโอนั้นมองเห็นแต่เพียงเครื่องจักรเท่า นั้น แต่เขาไม่สามารถมองเห็นทรินิตี้ได้ว่าถูกเหล็กข้ออ้อยเสียบทะลุตัวได้ ขณะ นั้นในโลก matrix ก็เข้าสู่ขั้นวิกฤตเมื่อ smith กลายเป็นโปรแกรมที่ดูดกลืนทุกชีวิตใน matrix และมุ่งหน้าหาเทพพยากรณ์เพื่อหวังดูดกลืนเทพพยากรณ์เพื่อให้ตัวเองเป็น โปรแกรมที่เก่งกาจที่สุด และได้ครอบครอง matrix ทั้งหมด และในที่สุด smith ก็สามารถดูดกลืนเทพพยากรณ์ได้ซึ่งทำให้ smith ตัวนั้นสามารถมองเห็นได้แบบเดียวกับเทพพยากรณ์ (ซึ่งอาจมองเห็นเป็น code หรือมองเห็นได้แม้แต่รูปแบบของอนาคตที่เป็นไปได้แบบเทพพยากรณ์ด้วย) ซึ่งทำให้ขณะนั้น smith ได้ครอบครอง matrix โดยสมบูรณ์แบบและ matrix ไม่สามารถทำอะไรกับ smith ได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เองทำให้ Deus Ex Machina ต้องสร้างร่างเสมือนขึ้นมาเพื่อต่อรองกับนีโอโดยนีโอพร้อมจะเข้าไปต่อสู้กับ smith แต่ต้องแลกกับ Peace ในไซออนซึ่งเมื่อ Deus Ex Machina ตกลง เซนทิเนลทั้งหมดก็หยุดโจมตีไซออนเพื่อรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่าง นีโอ และ smith และเมื่อนีโอ "plug-in" การต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็เริ่มต้น แม้การต่อสู้จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของนีโอ และเป็นการต่อสู้ที่ smith ยังมีคำถามว่าทำไมถึงยังต่อสู้อยู่อีกทั้งที่รู้ว่าแพ้ ไม่มีคำตอบใดจากนีโอ จนในที่สุด smith ก็สามารถดูดกลืนนีโอได้สำเร็จ แต่นั้นถือเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง เพราะอะไรน่ะรึ (อันนี้เป็นส่วนที่ผมเข้าใจนะครับ ซึ่งอาจแตกต่างกับท่าน ไม่อยากมีชื่ออยู่พอสมควร) เพราะว่าเหตุผลหนึ่งที่ matrix ไม่สามารถจัดการกับ smith ได้นั้นเพราะ source code ของ smith ได้ถูกเปลี่ยนไปจนเป็นแบบที่ matrix ไม่รู้จักมาก่อนเปรียบเหมือนเป็น virus ที่อยู่ใน computer แต่การดูดกลืนนีโอเข้าไปก็เป็นการเอา source code ของตัวเองทับบน source code ของนีโอซึ่งตอนนั้นนีโอ plug อยู่กับ machine mainframe ซึ่งนั่นหมายถึงการดูดกลืนนีโอทำให้ matrix รู้ว่า source code ของ smith คืออะไรทำให้ matrix สามารถเขียนโปรแกรมขึ้นมาเพื่อทำลาย source code ของ smith ได้ และได้ส่ง source code ใหม่เข้าไปทางร่างของนีโอที่ plug-in อยู่กับ main machine เลยทำให้โปรแกรม smith ถูกทำลายในที่สุดไปพร้อมๆ กับ "ผู้ปลดปล่อย" และสุดท้าย Deus Ex Machina ก็ได้นำร่างของ "ผู้ปลดปล่อย" ไปทำการถอดรหัสเพื่อปรับปรุงและพัฒนา matrix ไปสู่เวอร์ชั่น 7 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น matrix ที่สมบูรณ์ที่สุด และเมื่อการต่อสู้จบสิ้น เซนทิเนลที่หยุดการโจมตีก็เดินทางออกจากไซออน ยังผลให้สงครามระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรยุติลง และเมื่อ matrix ถูก upgrade เรียบร้อย บทสนทนาระหว่าง สถาปนิก และ เทพพยากรณ์ทำให้เข้าใจได้ว่า ครั้งนี้เทพพยากรณ์เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะสถาปนิกบอกกับเทพพยากรณ์ว่า "ครั้งนี้ทำรุนแรงมากนะ" ตีความได้ว่าเทพพยากรณ์นั่นเองที่ยอมให้ smith ดูดกลืนเพื่อให้ matrix อยู่ในภาวะวิกฤตที่สุด และเดิมพันกับการต่อสู้ของนีโอเพราะต้องการให้ matrix พัฒนาตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุดและเสถียรที่สุด แต่ยังมีต่อท้ายว่า ความสงบจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึงวันที่เกิดความไม่สมดุลใน matrix โปรแกรม "ผู้ปลดปล่อย" และสงครามระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรก็จะต้องเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง... THE END _________________________________________________________________ Credited คุณ GODTING ครับ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:43:48

ความคิดเห็นที่ 25 ประเด็น Matrix ซ้อน Matrix ครับ ทำไมพระเอกถึงใช้พลังจิตได้โดยที่ไม่ได้ Plug-In โดยคุณ GODTING เหมือนเดิมครับ ________________________________________________________________ Matrix World และ Machine World สามารถเดินทางไปมาได้ แต่ต้องผ่านทางเส้นนึงที่ควบคุมโดย Train man ครับ เนื่องจาก Neo มีพลังที่เหนือธรรมชาติใน Matrix world จึงสามารถทำอะไรได้เหนือกฎเกณฑ์ และจะรู้สึกได้ถึงทุกๆอย่างที่มีความเกี่ยวพันกับ The Matrix ซึ่ง Machine ทุกตัวเกี่ยวพันกับ Matrix หมดครับ และใน Machine มี Ghost อยู่ในตัวเองครับ ซึ่ง Ghost ตัวนี้ก็มีอยู่ในคนครับ ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าจิต ซึ่งจิตตัวนี้แหละครับที่อยู่ใน Matrix ถึงตรงนี้สรุปได้ว่าที่ Neo มีพลังทำลาย Machine ในโลกจริงได้นั้นเนื่องจาก Neo ทำลาย Ghost ของ Machine ครับ อีกข้อที่ยืนยันว่าใน Machine มี Ghost ก็คือตอนที่ Neo เสียดวงตา แต่สามารถรู้สึกได้ถึง Ghost ใน Machine แต่ละตัวได้ (แสงสีทอง) ตอนจบภาค 2 Neo เกิดมีความเชื่อ(รู้สึกได้ด้วยครับ)ว่าสามารถทำได้ (ความเชื่อเดียวกับภาคแรกตอนที่ลองสู้ Agent Smith) Neo จึงลองใช้พลังทำลาย Ghost ของ Machines ที่พุ่งเข้ามา ซึ่งเป็นการใช้พลังนี้ทำให้ Ghost ของ Neo หลุดเข้าไปใน Matrix โดยไม่ได้เสียบปลั๊กครับ ซึ่งนี่เองที่เป็นสาเหตุให้การใช้พลังครั้งต่อไปของ Neo ในโลกของความจริง Neo ใช้พลังผ่าน Ghost ของ Machine ตัวนึง (ดูได้จากตอนหมอตรวจ Neo หมอจะเห็น Ghost ของ Machine ตัวนั้น) ตรงนี้ก็สามารถตอบได้ว่าตอน Neo บุกไปที่ Machine World มีจังหวะที่เห็นเหมือน Ghost ของ Machine ทะลุร่าง Neo (Ghost ตัวที่ Neo ใช้พลังผ่าน) หลังจากนั้น Neo ก็ใช้พลังไม่ได้อีก จึงบอกให้ Trinity ยกยานขึ้น ส่วน ฉากงานรวมพลังเพื่อสร้างขวัญกำลังใจที่มีขึ้นพร้อมกับ love scence ของนีโอ และทรีนิตี้ เป็นส่วนเติมเต็ม (ที่ดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์) ว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่ามนุษย์อยู่ในภาวะใดก็ตาม ก็ยังคงถูกครอบงำด้วย กิเลส และตัณหา ซึ่งพอตีความได้ว่า มนุษย์เข้าสู่ยุคเสื่อมตามวัฏจักร ซึ่งก็ผูกกับคริสต์ศาสนาถึงวันสิ้นโลก (อันนี้ผมตีความเอง) และในที่สุด เทพพยากรณ์ก็ได้ติดต่อเข้ามา (เพิ่มเติมส่วนที่ตกหล่นนะครับ) โดยยานที่รอสัญญาณของเทพพยากรณ์ได้นำสารมาให้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยานที่รอติดต่อเทพพยากรณ์นั่นได้ถูก smith ไล่ล่าและ "เบน" เจ้าหน้าที่ในยานคนหนึ่งได้ถูก smith ดูดกลืน และ smith ก็ได้ออกสู่โลกแห่งความจริงในร่างของ "เบน" ซึ่ง smith สามารถก้าวข้ามเข้าสู่ความมีตัวตนในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งหมายถึง smith เข้าใกล้นีโอขึ้นมาอีกก้าวหนึ่งแล้ว 1. ตรงที่เข้าไปช่วยนีโอเป็นส่วนที่ทิ้งเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงานครับ ไม่ใช่ส่วนหลัก ทำให้การป้องกันไม่จำเป็นตัองแน่นหนา เพราะยังทิ้งไปต้องตายแต่ถ้าไม่มีคนช่วยเพราะไม่เคยได้ใช้กล้ามเนื้อเลยครับ 2. มือถือก็ยังเป็นระบบติดต่อคล้ายกันครับเพียงแต่ไม่มีสายเท่านั้นและต้องมีเสาขยายสัญญาณครับ 3. ผมไม่เรียกว่าเป็นซุปเปอร์แมนครับ แต่ใน matrix เขาปลดปล่อยจิตของตนเองได้มากกว่าคนอื่น ซึ่งยังคงติดในกฎแห่ง matrix 4. อันนี้ไม่แน่ใจแต่น่าจะหลังจากยุค terminator ครับเพราะตัวหนังไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจน 5. ถ้าไปดาวอื่นอาจไม่มีแหล่งพลังงานครับ 6. ตัวเลข 23 คน น่าจะมาจากพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงวันที่พระเจ้าทำลายล้างมนุษย์ และจะคัดเลือกคนในเหลือเพียง 23 คนครับ 7. ไม่ได้กำหนดเวลาครับ ขึ้นกับว่าสมดุลในระบบเริ่มเปลี่ยนเมือไหร่ 8. ถ้าเป็น agent จะไม่ตายครับ เพราะเมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จก็จะคืนร่างให้ครับ 9.ถ้าจักรกลต้องสืบพันธุ์ด้วยวิธีเดียวกันก็คงเป็นครับ แต่เนื่องจากไม่จำเป็นต้องสืบพันธุ์ คิดว่าดูแล้วคงไม่เกิดอะไรครับ 10. จาก matrix เวอร์ชั่น 6.0 จะดำเนินมาจนถึงปี 1999 ครับเมื่อโยงกับการทำนายอวสานโลกของนอสตราดามุส อาจหมายถึงเป็นปีที่ matrix จะต้องเปลี่ยนเวอร์ชั่นครับ และหากเลือกเป็นยุคที่ไม่มีโทรศัพท์ ก็จะไม่มีการเชื่อมต่อระหว่าง machine กับใน matrix น่ะสิครับ ผม คิดว่า matrix ที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นคือ matrix ที่มีสมการที่ครอบคลุมความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อให้ตัวของ matrix นั้นเสถียร ซึ่งความเป็นไปได้ทั้งหมดจะถูกประมวลผลออกมาเป็น "ทางเลือก" นั่นแหละครับ แต่ "the problem is the choice" หมายถึงสุดท้าย the matrix เองจะมีทางเลือกเท่าที่มันเคยถูกบันทึกแล้วเท่านั้นเนื่องจากมันไม่สามารถ ประมวลผลไปได้ไกลกว่านั้น ดังที่เทพพยากรณ์บอกว่า "ไม่สามารถรู้ได้ในสิ่งที่ไม่เข้าใจมาก่อน" หมายถึงว่าถ้าทางที่เลือกนั้นเป็นทางที่ไม่เคยถูกบันทึก มันก็จะไม่สามารถหาจุดสิ้นสุดของทางเลือกนั้นๆ ได้ ซึ่ง โปรแกรม "ผู้ปลดปล่อย" ก็มีหน้าที่ในการหาทางเลือกที่นอกเหนือจากทางเลือกที่ matrix ได้ประมวลไว้ทั้หมด โดย matrix เลือกที่จะใช้ "มนุษย์" เป็นผู้หาสมการทางเลือกใหม่นั้น ผมมีเหตุผลสนับสนุนจากในหนังตามนี้ครับ 1. นีโอ "เลือก" ที่จะกลับไปช่วย มอร์เฟียส ทั้งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน 2. จะเห็นว่าตอนที่นีโอเข้าไปยัง the source จะมีจอเล็กๆ ซึ่งถ้าไม่ผ่านกระบวนการตั้งคำถามคำตอบ จอเล็กๆ เหล่านั้นจะนิ่งๆ แต่เมื่อเริ่มมีกระบวนการถามตอบ จอเล็กๆ เหล่านั้นจะแสดงให้เห็นสิ่ง "สิ่งที่เป็นไปได้" ที่นีโอจะตอบซึ่งนั้นคือ "ทางเลือก" ทั้งหมดที่เป็นไปได้เท่าที่ matrix ประมวลได้ 3. matrix ที่ผ่านมาทั้งหมด 5 เวอร์ชั่นนั้น ทุกคนก็จะมีการเลือกที่แตกต่างกันจนในที่สุดเมื่อ ผู้ปลดปล่อยทั้ง 5 คนเลือกที่จะรักษาไซออน ผู้ปลดปล่อยก็จะถูกนำไป "ถอดรหัส" เพื่อเอาข้อมูลของ "ทางเลือก" และ "จุดจบ" ที่ยังไม่เคยถูกบันทึกลง matrix มาก่อน ซึ่งเหมือนเป็นการ upgrade version ของ matrix ถ้าเมื่อมาถึงนีโอ นีโอกลับเลือกทางเลือกใหม่คือเลือกที่จะไปช่วยทริน ซึ่งนั่นคือทางเลือก "ใหม่" ซึ่งต้องมีจุดจบ "ใหม่" และจะเห็นว่าเมื่อการต่อสู้สิ้นสุด ร่างของนีโอก็ได้ถูกเครื่องจักรนำไปถอดรหัส เพื่อ upgrade ทางเลือกใหม่ที่เกิดจาก "ผู้ปลดปล่อย" เวอร์ชั่นนี้ครับ **** 1. เป็นเลขฐาน 2 ซึ่งเป็นระบบพื้นฐานภาษาของคอมพิวเตอร์เลยครับ (01) 2. เมโรวินเจียน ไม่น่าจะเป็นโปรแกรมที่ถูกลบ แต่น่าจะเป็นโปรแกรมที่ถูก "ปลดระวาง" มากกว่า และการควบคุม keymaker เพื่อให้ทำกุญแจสำหรับเปลี่ยนสภาพ matrix ด้านหลังประตู เพื่อหลบหนีครับ ผม คิดว่า matrix ในแต่ละเวอร์ชั่นคงไม่ใช่ทุก 100 ปีครับ เพราะว่ายิ่งเวอร์ชั่นหลังๆ ก็จะนานขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมันเสถียรขึ้น และเหลือทางเลือกที่นอกเหนือความเข้าใจของ matrix น้อยลงครับ อย่างเช่นในเวอร์ชั่นของนีโอ matrix ก็ได้เข้าใจทางเลือกเมื่อผู้ปลดปล่อยมีทางเลือกที่เกิดจาก "ความรัก" --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Credited คุณ GODTING ครับ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:46:55

ความคิดเห็นที่ 26 ที่จริงยังมีประเด็นที่เล่นได้อีกเยอะแยะมากมายเลยครับ แต่วันนี้ขอแค่เรื่อง Matrixซ้อนMatrix โดยที่ตรรกะอยู่บนพื้นฐานของ NEO ที่สามารถเชื่อมต่อและใช้พลังงานใน Matrix นอก Matrix ได้ ลองอ่านความเห็นเพิ่มเติมของคุณ I-MO ดูล่ะกันนะครับ ___________________________________________________________________ ที่คุณ GODTING ตอบไว้ค่อนข้างดีแล้ว จะขอเสริมเพียงเล็กน้อยครับ โปรแกรม Agent ตามปกติจะมีการเชื่อมโยงการทำงานกัน โดยใช้ เอียร์โฟน(ที่เสียบเข้าหู เหมือยพวกตำรวจลับ) คงจะจำได้ตอนที่สมิธจับมอเฟียสได้และคุยโดยการถอดเอียร์โฟนออก ทำให้เขาไม่รู้ว่าตึกกลาโหมกำลังถุกนีโอกับทรินิตี้บุก โปรแกรม Agent นั้นที่จริงมีมากกว่าที่เห็นครับ ก่อนหน้านี้เคยมีหัวหน้าเอเจนท์คนอื่นมาก่อนด้วย(แต่ตาย หรือพังไปแล้ว) โดยใน Trilogy สมิธได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ รวมทั้ง เอเจนท์ทุกตัวถูกเรียกว่า version upgrade และอย่างที่ผมได้เคยบอกไปว่าเอเจนท์นั้นมีระดับบัญชาการหรือวรรณะอยู่ เดิมทีสมิธเป็นหัวหน้าครับ และดูเหมือนจะเก่งกว่าเอเจนท์คนอื่นที่ติดตาม(สังเกตได้จากการต่อสู้แต่ละ ครั้ง) ส่วนสมิธ เวอร์ชั่นหลังจากถูกนีโอทำลาย(ซึ่งจริงๆต้องเรียกว่าการผนวก code) นีโอนั้น แท้จริงมีขึ้นตามเจตจำนงของเมทริกซ์ครับ ไมไ่ด้มีขึ้นเองโดยบังเอิญซะทีเดียว แม้ผู้ออกแบบเมทริกซ์จะไม่สามารถควบคุมได้ว่านีโอจะเป็นยังไง เพราะนีโอคือปริศนาของตัวแปรที่ไม่ลงตัวในสมการ และไม่สามารถแทนค่าได้ แต่ว่าผู้ออกแบบเมทริกซ์ฉลาดล้ำเพียงพอที่จะคาดการณ์ให้เกิดนีโอขึ้นได้ ซึ่งขณะเดียวกันก็จะเกิดด้านตรงข้ามของนีโอขึ้นมา นั่นคือสมิธครับ ความ สามารถของสมิธ เวอร์ชั่นใหม่หลังจากถูกทำลายและถูกปลด ไม่ใช่การแทรกแซงโค้ดด้วยการ "เข้า-ออก" ตามแบบเดิม (ผมใช้คำว่า "เข้า-ออก" ตามคำบรรยายของมอเฟียสในภาพยนต์นะครับ) แต่เปลี่ยนเป็นการ "เข้าครอบงำ" ซึ่งเดิม ดูเหมือนมอเฟียสจะบรรยายว่าพวกเอเจนท์สามารถเข้าออกได้ทุกโปรแกรม ที่จากที่ติดตามมานาน ดูเหมือนจะเข้าออกได้แค่โปรแกรมของมนุษย์ แต่ไม่สามารถเข้าออกโปแกรมที่เป็นเครื่องจักร (เช่น เทพยากรณ์ เมอโรวินเจี้ยนและลูกน้อง keymaker เซแรฟ ฯลฯ) แต่ความสามารถ "เข้าครอบงำ" ของสมิธสามารถยึดได้ทุกชนิดแม้แต่โปรแกรมระดับสูงที่มีผลต่อระบบอย่างมาก เช่น เทพยากรณ์ เพราะตอนหลังนี้ สมิธมันคือ บั๊ก คือไวรัส ที่กัดกินระบบแล้วครับ ไม่ใช่โปรแกรมที่มีไว้เืพื่อทำงานให้ระบบ และแม้แต่ผู้สร้างก็ไม่สามารถลบมันออกจากเมทริกซ์ได้นอกจากการ Rollback คือล้างระบบใหม่ทั้งหมดกลับไปเริ่มต้นใหม่ ผม เข้าใจว่า เป็นเพราะนีโอที่เป็นมนุษย์ กลายเป็นผู้ปลดปล่อย หลังจากการแลกเปลี่ยน Code บางอย่างกับ สมิธ ซึ่งเป็นโปรแกรม ทำให้ ชีวิตของนีโอกลายเป็นกึ่งมนุษย์ กึ่งโปรแกรม ครับเพราะเดิมทีนึโอก็เป็นคนที่พิเศษอยู่แล้ว Code ในตัวนีโอ(ในเมทริกซ์)ก็น่าจะวิปลาศกว่าชาวบ้าน และยังเชื่อมต่อกับ consciousness ในร่างมนุษย์ของนีโออีกด้วย ผมคิดว่าตัวนีโอหลัง จากกลายเป็นผู้ปลดปล่อยแล้ว มีสายใยบางอย่างที่เชื่อมนีโอเข้ากับเมทริกซ์ไม่ต่างจากพวกเครื่องจักรที่ทำ งานในนครเครื่องจักรเช่นกมลา หรือรามากันดรา(แม้นีโอเขาจะเป็นมนุษย์) ซึ่งสายใยอันนั้นก็คือ สมิธนั่นแหละครับ เทพยากรณ์เป็นคนบอกเองว่าทั้งคู่เป็น part ของกันและกัน และดูเหมือนสมิธที่แฝงตัวในเบนออกมานอกเมทริกซ์ ก็มีความเชื่อมโยงกับสมิธที่อยู่ข้างในเช่นเดียวกับสมิธที่หมดข้างใน (เกริ่นให้ฟังอีกนิดว่า เหตุการณ์ที่มีโปรแกรมแฝงตัวในมนุษย์ออกมานอกเมทริกซ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ครับ ในประวัติศาสตร์ของโลกเมทริกซ์ ก่อนหน้านี้เคยมีหัวหน้าคนอื่น ออกมานอกเมทริกซ์ในร่างมนุษย์แบบเดียวกับที่สมิธแฝงตัวในร่างของเบน ออกมาแล้ว ซึ่งตอนแรกที่ได้ยินผมนึกว่าเป็นแฟนฟิคชั่นแตกเองซะอีกนะเนี่ย เพราะภารกิจของเอเจนท์คนนั้นมันสุดยอด เรื่องราวนี้เกิดขึ้นก่อนจะมาถึง เมทริกซ์เวอร์ชั่นของนีโอครับ) สมิธในเวอชั่นตัวอันตรายนี้ สามารถเข้าครอบงำได้ทั้งโปรแกรมและมนุษย์ นั่นหมายถึงการเข้าครอบงำมโนสำนึกของมนุษย์ได้ด้วย เบนถูกลบล้างตัวตนและแทนที่ด้วยสมิธไปแล้ว (แบบในการ์ตูนของคนที่โดนวิชาเข้าสิง) จะเห้นว่าตอนที่เบนทำลายยานลำอื่นไปและได้รับการช่วยเหลือเพราะเป็นผู้รอด ชีวิตคนเดียว หมอตรวจพบว่าคลื่นสมองของเบนแตกต่างจากมนุษย์ และน่าูสับสน ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรนั่นแหละครับ อ้อ แล้วก็เกือบลืมตรงนี้ไปเลย ที่ว่าทำไมนีโอเข้าไปค้างอยู่ที่ Mobil Ave ได้ ผมคิดว่าเป้นเพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่นีโอตระหนักได้ว่าตัวเองนั้น เชื่อมโยงกับระบบปฏิบัติการของเมทริกซ์อยู่ และทดลองใช้คำสั่งนั้นซึ่งส่งไปยัง เซนตินอล (แบบที่พวกเอเจนท์สามารถออกคำสั่งจากในเมทริกซ์ ไปยังเซนตินอลที่โลกภายนอก ให้บุกไปค้นหาตำแหน่งและทำลายยาน) แต่มันข้ามขั้นไปหน่อย เลยทำให้ตัวนีโอ(ในฟากโปรแกรม) ดึงเอาจิตของนีโอเข้าไปด้วย (ย้ำว่านีโอไม่ได้กลับเข้าอยู่ในเมทริกซ์ แต่ตกค้างอยู่ใน Mobil Ave ของ เทรนแมน ซึ่งมีลักษณะเหมือนเกทเวย์ หรือพ่วงไฟร์วอลเข้าไปนะครับ) ที่เป็นเช่นนั้นผมคิดว่าเพราะมันดึงกันเข้าไปแต่ถูก Denied โดยเมทริกซ์ครับ ทำให้ผลักดันนีโอกลับออกมาค้างอยู่ที่ Mobil Ave แทนเมื่อได้สติตื่นขึ้นมา อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ(และผมยังไม่พูด) ที่คิดว่าหลายคนอาจจะลืม ว่าทำไมนีโอถึงใช้คำสั่งระดับสูงขนาดนั้นได้ อยากให้นึกว่า นีโอได้ทะลุเมเฟรมและเข้าไปถึง The Source ของเมทริกซ์มาแล้วนะครับ ขนาดนี้ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว ส่วนความลับของ The Source คืออะไร ผมคิดว่ามันมีมากจนเขา(ผู้สร้าง)ยังเฉลยไม่หมดครับ 555 (ขี้เกียจพิมพ์ก็แถไปทางนั้น) แต่ความสามารถของนีโอหลังจากกลับออกมานั้น ไม่ธรรมดาแน่ๆ เช่น อย่างน้อยก็ช่วยฟื้นคืนชีพให้คนที่พึ่งตายในเมทริกซ์สามารถฟื้นคืนชีพมาได้ (ทรินิตี้ที่โดนยิงตาย) ผมว่านีโอในตอนที่เป็นผู้ปลดปล่อยตอนแรกคงทำไม่ได้ หรือคาดว่าจะทำได้แน่ๆครับ ในเนื้อเรื่องหลักคงไม่มีแล้วครับเรื่องเมทริกซ์ ซ้อนเมทริกซ์ในรุ่นของ นีโอ โลกภายนอกเป็นโลกภายนอกจริง แต่อาจจะมี fan fiction ที่แต่งใหม่ให้เป็นเมทริกซ์ซ้อนครับ concept ของ construct ในเมทริกซ์ค่อนข้างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน ที่จริงผมว่าใน revolution แล้วก็ใน animatrix เฉลยออกมาค่อนข้างชัดเจนนะครับ _________________________________________________________________ Credited to คุณ I-MO จาก Pantip ครับ เบาๆแค่นี้ก่อนล่ะกันนะครับ มีอีกหลายประเด็นให้เล่นอีกเยอะมากๆๆๆ และนี้ล่ะคือความสนุกของ The Matrix ที่หาจากเรื่องอื่นไม่ได้ ^^ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 21:58:31

ความคิดเห็นที่ 27 . จากคุณ : soulmachine เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 00:14:48

ความคิดเห็นที่ 28 รู้แต่ ภาค 3 โฟกัสไปที่สงครามเซนติเนล กับกองทัพโลกมนุษย์มากกว่าอ่ะ สำหรับผม ในมุมมอง Zion คือ โลกแม็กทริซ์ เล็กเล็กเองก็มีสิทธิเป็นไปได้เช่นกัน เพราะใน บทสรุปสามภาค ทั้งบทเมซไอาห์ ของออราเคิ่ล หรือการต่อสู้ของ เดอะ วัน VS เอเจนท์ ดูเหมือนจะขีดบทไว้ตั้งแต่แรกแล้วนี่เอง แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 55 03:21:25 จากคุณ : seventoon (seventoonแห่งโลกมืด) เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 03:21:03

ความคิดเห็นที่ 29 ภาค 1 ...masterpiece สุดๆ ภาค 2 เน้นโกยเงิน ภาค 3 ..ออกทะเล จบ จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 09:47:33

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านเพลินกันเลยครับ (ขอบคุณทุกๆ คห ได้มุมเพิ่มเยอะเลย) ดูเหมือนว่า น้ำหนักทั้งสองแบบจะเหลื่อมกันอยู่นิดๆ นะครับ เท่าที่อ่านมา ถ้าลองคิดในแง่นี้นะครับ ทุกคน ถูกเสียบปลั๊กแล้วทั้งหมดในโลก หมายถึงหุ่นยนต์ จัดการกับมนุษย์ทุกคนให้เป็นก้อนพลังงานไปแล้ว ขออ้างอิงเพิ่มสักนิดนะครับ สงครามระหว่างคนกับหุ่นยนต์จบลงแล้วด้วยการชัยชนะของหุ่นยนต์ คนถูกจับ และถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ทั้งทางร่ายกายและติตใจ(หลอกให้ฝันในเมทริกซ์เพื่อต้องการพลังงาน) แล้วทีนี้ในการหลอกให้ฝันหรือการควบคุมนั้น มันคงไม่ง่ายดายนัก คงมีบางคน บางกลุ่มที่คิดต่างออกไป ต่อต้านในด้านต่าง ๆ (ซึ่งอาจจะยังผลให้เกิ ความเสียหายทำให้ตายเร็ว ทำให้ได้พลังงานน้อยจากความคิดในการต่อต้าน ) จึงต้องมีระบบซ้อนอีกชั้นหนึ่งเพื่อควบคุมให้สบบูรณ์ขึ้น ในที่นี้ก็คือ กลุ่มคนในไซออน คือกลุ่มที่หลุดออกมาจากเมทริกซ์ แต่ก็ยังคงฝันในเมทริกซ์ที่ใหญ่กว่า คิดว่าหลุดออกมาได้แล้วจริงๆ (แต่ไม่จริงคุณยังฝันอยู่) ซึ่งถ้ามองในมุมนี้ มันตอบโจทย์หลายข้อครับ ....คนในไซออน มีรูปปลั๊กที่คอ เป็นเครื่องหมายว่า คุณได้ถอดปลั๊กออกแล้ว และไซออน คือที่มั่นสุดท้าย ซึ่งเชื่อว่าเป็นโลกจริง (แต่จริง ๆ ฝันซ้อนอยู่อีกชั้น ) .... นีโอ ใช้พลังนอกเมทริกซ์ได้ ก็เพราะว่า ยังฝันซ้อนอยู่ไงครับ ...... เรื่องของสงครามเซนติแนล กับคน ก็ฝันอยู่ ซึ่งในที่สุดก็ไม่ได้ถูกทำลาย เพราะนีโอ ช่วยไว้ได้ทัน ....เพราะว่าถูกควบคุม ถูกกำหนดไว้แล้ว ....... มองในมุมนี้ กำปั้นทุกดินเกินไปป่ะครับ จากคุณ : sarayut_boat เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 10:28:34

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าอ้างอิงจากตัวบทหนังเอง ก็ไม่มี Matrix ซ้อน Matrix แล้วครับ ทั้งในตอน Revolution หรือใน Animatrix ก็ค่อนข้างเคลียร์ประเด็นรื่องนี้แล้ว ....คนในไซออน มีรูปปลั๊กที่คอ เป็นเครื่องหมายว่า คุณได้ถอดปลั๊กออกแล้ว และไซออน คือที่มั่นสุดท้าย ซึ่งเชื่อว่าเป็นโลกจริง (แต่จริง ๆ ฝันซ้อนอยู่อีกชั้น ) -มีคนที่เป็นชาวไซออนแต่กำเนิดด้วยครับ เป็นคนที่ไม่มี Plug เป็นกลุ่มชนที่รอดพ้นและเป็ฯกลุ่มชนสุดท้าย .... นีโอ ใช้พลังนอกเมทริกซ์ได้ ก็เพราะว่า ยังฝันซ้อนอยู่ไงครับ -ประเด็นนี้ตอบไปแล้ว มีทั้งทัศนะของคุณ GODTING และ I-MO (ที่จริงมันมีมากกว่านั้นครับ) ในหนังได้เฉลยประเด็นนี้ไว้แล้วโดยการพา NEO ไปติดอยู่ที่ Mobil Ave ในภาค Revolution หลังจาก Connect ตัวเองกับ Matrix ทั้งๆที่อยู่นอก Matrix และยังมีอีกมากมายถึงประวัติศาสตร์ของโลกทั้งในตอนที่ NEO ได้สนทนากับ สถาปนิกใน The Source และอีกหลายๆตอนที่เล่าประวัติศาสตร์ของโลกใน The Animatrix ครับ ...... เรื่องของสงครามเซนติแนล กับคน ก็ฝันอยู่ ซึ่งในที่สุดก็ไม่ได้ถูกทำลาย เพราะนีโอ ช่วยไว้ได้ทัน -เวอรชั่น Matrix ของ NEO เป็น The One เป็นเวอร์ชั่นที่ 6 แล้วครับ พูดถึง Matrix Version เวอร์ชั่นของ The Matrix ตามคำบอกใบ้ Pandora Box ใน Matrix Online จะมีแค่ 3 เวอร์ชั่นหลักครับ Matrix v1.0 , 2.0 , 3.0 , 3.1 , 3.2 , 3.3 , 3.4 , 3.5 1.0 เวอร์ชั่นแรก เป็นโลกที่ Perfect สุดๆ Perfect จนรับไม่ได้ระบบล่ม เป็นต้นกำเนินของพวก เซราฟิม หรือ Angle Agent ตำแหน่งของ  เซราฟ สมัยนั้น พวก Bluepill ยังไม่สามารถถอดปลั๊กได้ 2.0 โลกที่เต็มไปด้วยฝันร้าย มีแต่ความยากจน ความเจ็บปวด ทีวีเปิดมีแต่สองช่องของ คอมมิวนิส กับ นาซี ต้นกำเนิดของพวก ผีปีศาจใน Matrix เช่น แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ร่วมทั้งพวก Merovingian กับพี่น้อง Twins พวก Bluepill ยังไม่สามารถถอดปลั๊กได้ 3.0 เวอร์ชั่นแรกที่ใส่เรื่องของ ทางเลือก และ คำทำนาย ไว้ทำให้มนุษย์ถอดปลั้กตัวเองได้ The One คนแรกถือกำเนิดและ reload Matrix สำเร็จ - 3.1 The One ทำการเลือกคน 23 คนเพื่อสร้าง ไซออน และ reload Matrix - 3.2  Reload Matrix - 3.3 Reload Matrix - 3.4  เวอร์ชั่นของ นีโอ - 3.5 เวอร์ชั่นปัจจุบันใน Matrix Online ตอนสุดท้ายที่เราเห็นในภาค Revolution ที่ the oracle คุยอยู่กับสถาปนิก นั้นเป็น Matrix เวอร์ชั่นใหม่แล้วครับโดยมี Sati เป็น Oracle ก็เป็นได้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่ชนะครับ เพิ่งมีมาเวอร์ชั่น NEO นี้แหละครับ ....เพราะว่าถูกควบคุม ถูกกำหนดไว้แล้ว ....... -ถ้าโดยพระเจ้าก็ถูกครับ แต่มาเป็นเหตุผลใช้สนับสนุนว่า Matrix ยัง ซ้อน Matrix อยู่ไม่ได้ครับ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 11:38:37

ความคิดเห็นที่ 32 เหมือนหัวใจสำคัญของแนวความคิดเมทริกซ์ซ้อนเมทริกซ์จะอยู่ตรงที่นีโอใช้พลังนอกเมทริกซ์ได้ เพราะหลายคนมองว่า คนจริงๆ ในโลกจริงๆ ไม่สามารถมีพลังแบบนั้นได้ แต่ผมมองว่าในโลกจริงคนก็สามารถมีได้ แต่ไม่ง่าย ซึ่งนีโอเป็นเดอะวัน มนุษย์ที่ถูกเลือก ฝึกจิต ฝึกสารพัด ผ่านประสบการณ์โชกโชนจนอัพเกรดความสามารถของมนุษย์ในโลกจริงไปอีกขั้นแล้วอะครับ ตอนระเบิดเซนทิเนล นีโออาจไม่ได้มีพลังจิตทำลายแบบ Chronicle แต่อาจเป็นพลังในการแก้ไขโค้ดในตัวเซนทิเนล เพราะนีโอเห็นทุกอย่างเป็นรหัสไปแล้ว มีความสามารถที่ก้าวพ้นความเป็นมนุษย์ เพราะอย่างงี้ถึงได้กลายเป็นเดอะวันที่หนังเลือกมาให้เราได้ดู ทั้งๆ ที่ก็เคยมีเดอะวันมาหลายรุ่นแล้ว ^ ^ จากคุณ : อธติ23 เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 11:45:34

ความคิดเห็นที่ 33 และอีกอย่างก็คือพวกหุ่นยนต์ต้องการแค่ Peace ตั้งแต่แรกครับ แต่ถูกทรยศและหักหลังโดยมนุษย์ก็เลยเป็นสงครามไปจนถึงเกิดเรื่อง Matrix ขึ้นมา มนุษย์ต้องอาศัยหุ่นยนต์ในการอยู่ในโลกจริง และหุ่นยนต์ก็ต้องอาศัยมนุษย์เป็นพลังงานเช่นกันครับ โลกจะไม่สมดุลถ้าหุ่นยนต์ดำรงอยู่ในโลกจริงโดยที่มนุษย์ถูกครอบครองโดยหุ่นยนต์ 100 % ครับ และในเรื่องหุ่นยนต์และเครื่องจักรไม่รู้ว่า Zion อยุ่ตรงไหนครับ คนใน Zion ที่เรียกว่าชาวเมือง Zionist นั้นไม่ได้ถูกเสียบลปลั๊กตังแต่แรกครับ เป็นคนรุ่นแรกที่รอดและก็สืบทอดทายาทกันมาเรื่อยๆ โดยที่มนุษย์คนอื่นๆที่ถูกครอบงำโดย Matrix โดยการช่วยเหลือของ Zionist ก็ต้องถูกพามาที่ Zion เพราะเป็นเมืองๆเดียวโดยที่มนุษย์อาศัยและหลบซ่อนต่อพวกหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรอยู่ครับ ตอนสุดท้ายที่ Matrix ถูกรีเซทและพัฒนาเป็นเวอร์ชั่นใหม่นั้น ในโลกจริงหรือเมืองZionที่คนได้รอดชีวิตนั้นก็อยู่เหมือนเดิมครับ และคงจะดีกว่าเดิมเพราะสงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์จบแล้ว (แต่ก็แน่นอนว่าจะมีปัญหาอื่นๆตามมาอีกมากมายให้เป็นเรื่องปวดหัวให้ชาว Zionist อีก) จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 11:52:13

ความคิดเห็นที่ 34 ต้องเข้าใจนะครับว่าระบบการดำเนินชีวิตของคนในยุคสมัยที่มีวิทยาการล้ำหน้าถึงขีดสุดและ AI ครองโลก มันต่างจากโลกในศตวรรษ 20-21 ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน แต่โดยพื้นฐานของมนุษย์แล้ว ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนครับ มนุษย์ก็คือมนุษย์ก็ยังเหมือนดิม และก็จะไปสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาอีก แล้วก็ต้องมานั่งแก้กันใหม่อีกครับ นี่คือธรรมชาติในโลก เพราะโลกไม่ใช่สวรรค์ ^^ จากคุณ : xemikonscuz เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 11:57:38

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องดู Inception ซ้ำ อีกเรื่องครับ จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 16:51:53

ความคิดเห็นที่ 36 ผมดูเอามันอย่างเดียว ขี้เกียจคิด ปวดหัว จากคุณ : eadsaa เขียนเมื่อ : วันจักรี 55 19:41:58