ความคิดเห็นที่ 1 ร่วงกรูดลงมาถึง อันดับ 10 นอนกองท้ายตารางแบบอ่อนแรง สำหรับหนัง “เจ๊ใหญ่ ขอเป็นราชินี” Mirror Mirror ที่งานนี้ คู่แข่งหน้าใหม่คงเยอะไปซะหน่อย เจ๊ก็เลยต้องถอยยาวซะขนาดนี้!!! แต่ดูเหมือนว่าจะร่วงไม่โหดอย่างที่คิดไว้ เพราะสัปดาห์นี้ รายได้ลดลงไป 60% เก็บเงินไปอีก 4 แสนบาท แต่อย่างน้อย ราชินียิ้มงาม ก็ใช้เวลาสี่สัปดาห์ เก็บเงินเข้าท้องพระคลังไปแล้ว 25 ล้านบาท นอกจากจะเป็นหนังทำเงินสูงสุดของสาวลิลลี่ คอลลินส์ ไปแบบสบายๆ แล้ว (เพิ่งแซงหน้า Abduction ที่ 22.7 ล้านบาท ไปแบบจริงจังในสัปดาห์นี้นี่เอง) ฟากเจ๊จูเลียก็ไม่น้อยหน้า! แม้จะทะลุขึ้นมาไม่ถึง Top 5 ของเจ๊ได้แน่นอนแล้ว แต่อย่างน้อย หนังก็สามารถผ่านหลัก 25 ล้านในเครดิตเจ๊ได้เป็นเรื่องที่ 7 เข้าไปแล้ว! (เรื่องล่าสุดก็เช่นเคย กับหนังรวมหนุ่มๆ Ocean's Twelve เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเจ๊ในยุคหลังๆ ก็ว่าได้ หยุดตัวเลขเอาไว้ที่ 28.1 ล้านบาท) ก็คงเป็นการส่งท้ายให้กับราชินีของเราแบบจริงจังด้วย เพราะยังไงก็คงต้องเจียโรงแทบทั้งหมดไปให้กับยักษ์ใหญ่ประจำสัปดาห์หน้าเป็นแน่แท้! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:14:53

ความคิดเห็นที่ 2 อันดับ 9 เป็นหนังรักเข้าใหม่ เปิดตัวสบายๆ แบบจำกัดโรง กับ The Vow หนังซึ้งกินใจขายพระเอกหล่อ นางเอกสวย ดัดแปลงจากหนังสือซึ่งเขียนจากเรื่องจริง กับเรื่องราวความรัก ที่ต้องมีอุปสรรค เพราะความทรงจำที่สูญหายไปของฝ่ายหญิง เป็นพล็อตที่พร้อมจะเรียกน้ำตา และคนดูเข้าโรงได้อย่างง่ายๆ จริงๆ (เลยไม่น่าแปลกใจ ที่หนังจะทำเงินถล่มทลายในบ้านเกิดแบบเหนือคาดมาแล้ว!!) ในบ้านเรา คอหนังซึ่งก็พร้อมจะเสียน้ำตาให้หนังไม่น้อยเช่นกัน แม้หนังจะได้ฉายแบบจำกัดโรง (และจำกัดเครือ) เช่นนี้ก็ตาม ถึงอย่างไรก็ไม่มีผล เพราะสุดสัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 7 แสนบาท ถือว่าดูดีไม่น้อยทีเดียว เพราะหนังเปิดตัวเพียง 3 โรงเท่านั้น (เฉลี่ยถึง 2 แสนบาทต่อโรง!) ขณะที่หนังรักหลายๆ เรื่อง แม้จะได้โรงฉายมากกว่านี้เยอะ แต่ชะตากรรมกลับไม่ได้ดีไปกว่านี้ซักเท่าไหร่!! ที่ดูดีหน่อยเรื่องก่อนหน้า อย่าง One Day กระแสมาค่อนข้างดี แถมไร้คู่แข่ง เลยเปิดตัวไปแบบสบายๆ ที่ 3.3 ล้านบาท หรือกระเถิบไปอีกหน่อย กับ Letters to Juliet ที่แม้ว่าจะได้โรงฉายมากกว่านิดนึง แต่รายได้เปิดตัวกลับเป็นรองกว่า ที่ 6 แสนบาท ฟากพระ-นางของเรื่อง ที่ต่างก็เล่นหนังแนวนี้กันจนเป็นนิจไปแล้ว! แม้จะไม่ถึงขั้นหวือหวา แต่ก็ไม่เลวเลย ในกลุ่มหนังแนวนี้ของทั้งคู่ อย่างหนุ่มแชนนิ่ง ทาทัม ที่เพิ่งจะมีหนังฮิตมากในบ้านเกิดไป (แต่ยังไม่มาฉายในบ้านเรา) เรื่องล่าสุดก็เพิ่งฉายไปเมื่อต้นปี โดยมาช่วยแก๊งค์หนุ่มหล่อ ดันสาวสวยนักบู๊ ใน Haywire ไปหมาดๆ แม้จะมาแบบไร้คู่แข่ง แต่ก็มาแบบเงียบๆ เกินไป เลยเปิดตัวเหงาๆ ไปที่ 3 ล้านบาท หรือหนังรักเรื่องก่อนหน้า อย่าง Dear John ที่ก็ฮิตไม่น้อยในบ้านเกิดเช่นกัน แต่ในบ้านเรา กระแสออกจะหงอยๆ ไปซักหน่อย แม้จะได้โรงไปไม่น้อย แต่ก็เปิดตัวไปเพียง 1.7 ล้านบาท ฟากสาวราเชล แม็กอดัมส์ ก็มีหนังฉายในบ้านเราช่วงหลังๆเยอะไม่แพ้กัน ทั้งฟอร์มใหญ่ (แต่ปรากฏตัวแป๊บนึง) อย่าง Sherlock Holmes: A Game of Shadows แม้จะเปิดตัวได้น้อยกว่าภาคแรก แต่ก็ยังอยู่ในระดับสถิติอันดับต้นๆ ของเธอ ที่ 17 ล้านบาท หรือหนังรักนอกนิวยอร์กของผู้กำกับมือเก๋า วู้ดดี้ อัลเลน อย่าง Midnight in Paris แม้จะเปิดตัวด้วยโรงฉายเท่ากันที่ 3 โรง แต่ก็ทำได้น้อยกว่าหน่อย ที่ 4 แสนบาท หรือหนังของเธอที่ยังประทับใจหลายๆ คน (และคล้ายๆ เรื่องนี้) อย่าง The Notebook ก็ไม่ได้ทำเงินหวือหวาอะไรมากมายในบ้านเราเช่นกัน เก็บเงินไปแบบสบายๆ ที่ 1.6 ล้านบาท เอาเป็นว่าในช่วงนี้หนังฟอร์มใหญ่กำลังจะถล่มโรงกันเป็นว่าเล่น ใครที่กำลังหนีความอึกทึกไปหาทางเลือกที่แตกต่าง หนังก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีไปน้อยเช่นกันครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:16:03

ความคิดเห็นที่ 3 หลุด Top 5 แหกโค้งมาจอดแถว อันดับ 8 เสียแล้ว สำหรับแอนิเมชั่นแนวๆ Dr. Seuss' The Lorax แม้หนังใหม่จะไม่ใช่หนังยักษ์กันมากมาย แต่ในเมื่อมีหนังดึงกลุ่มคนดูเดียวกันไป ก็ทำให้หนังร่วงลงไปมากกว่าที่คิดพอสมควร จากสัปดาห์ที่แล้ว ที่ลดลงไปไม่ถึงครึ่ง แต่มาสัปดาห์นี้ ลดลงไปกว่า 60% เก็บไปอีก 9 แสนบาท รวมสามสัปดาห์ ช่วยผืนป่าไปแล้ว  11 ล้านบาท กลายเป็นแอนิเมชั่นผ่านหลัก 10 ล้านเรื่องล่าสุดในบ้านเราไปได้ซะที! (ตามหลังโมชั่น-แคปเจอร์ The Adventures Of Tintin ซึ่งผ่านหลักนี้ไปเมื่อต้นปี ที่ 18 ล้านบาท) แต่ก็ยังห่างไกลบรรดาแอนิเมชั่นเมื่อช่วงต้นปีก่อนทั้งหลายอยู่พอสมควร จากแรงที่กำลังอ่อนลงไปเยอะแล้ว (ใกล้สุดก็คือ Megamind ปิดเอาไว้ไม่ไกลนัก ที่ 12.8 ล้านบาท) รวมไปถึงแอนิเมชั่นจากค่าย อีลูมิเนชั่น ด้วยกัน แม้ว่าหนังกำลังจะแซงแอนิเมชั่นผสมคนแสดงของค่ายเมื่อปีก่อนของค่าย อย่าง Hop ปิดไว้ที่ 11.4 ล้านบาท ไปแบบเฉียดฉิว แต่คงยาก หากถ้าคิดจะแซงแอนิเมชั่นเปิดค่ายอย่าง Despicable Me ที่แม้จะปิดห่างกันไม่มากนัก แต่ดูจากแรงของคุณปู่แล้ว อาจจะแตะไม่ถึงจริงๆ ที่ 13.2 ล้านบาท ฟากของหนังซึ่งสร้างจากวรรณกรรมของ ดร.ซูส นั้น อย่างที่เคยบอกไว้ว่า หนังยังตามหลัง The Grinch อยู่อีกไกลโขทีเดียว (ที่ 16.4 ล้านบาท) ดังนั้น การที่หนังปิดได้เกิน 10 ล้าน ก็ถือว่าหรูแล้วครับ!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:16:40

ความคิดเห็นที่ 4 นี่ก็ร่วงแรงเช่นกัน คุมเครื่องไว้ไม่อยู่ ตกหลุมอากาศลงมาถึง อันดับ 7 เลยทีเดียว สำหรับเที่ยวบินสยอง 407 เที่ยวบินผี ดูเหมือนว่าหนังกำลังเดินทางไปสร้างความฮือฮาในหลายประเทศพอสมควรทีเดียว (ที่ไต้หวัน หนังเปิดตัวสูงมากสำหรับหนังไทยช่วงหลังๆ ในประเทศนั้น แถมมากกว่า ลัดดาแลนด์ ซะอีก!!) น่าเสียดายที่หนังทำออกมาได้ไม่ถูกใจคนดูซักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้น หนังคงเปรี้ยงปร้างกว่านี้ไปหลายเท่าแล้ว!! แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้หนังก็เก็บเงินไปได้มากเกินคาดอยู่พอสมควรทีเดียว แม้รายได้สัปดาห์นี้ จะร่วงกราวลงมากว่า 70%! เก็บไปอีก 1.7 ล้านบาท รวมสามสัปดาห์ เที่ยวบินหลอน ขายตั๋วไปได้แล้ว 33.5 ล้านบาท ยังไงก็น่าจะยืนเด่นในฐานะแชมป์หนังผีประจำปีนี้ไปได้อีกซักระยะ (จนกว่าคู่แข่งตัวจริงจะเปิดตัวกัน!!) แต่ที่แน่นอนไปแล้วก็คือ หนังสามารถทะลุ Top 10 ของค่าย ไฟว์สตาร์ ได้สำเร็จแล้ว!! (หลังจากที่ร้างลาหนังขึ้นมาถึงร่วม 4 ปีได้แล้ว!) และกลายเป็นหนังเรื่องที่ 10 ของค่าย ที่สามารถผ่านหลัก 30 ล้านบาทได้ (เรื่องสุดท้ายก็คือ ลองของ 2 ซึ่งก็เป็นเรื่องสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อน ที่เจาะทะลุเข้า Top 10 ได้เช่นกัน ปิดเอาไว้ค่อนช้างสูง ที่ 44.8 ล้านบาท) ล่าสุด หนังไต่ขึ้นไปได้สูงถึง อันดับ 7 แซงหน้า บุญชู 7 รักเธอคนเดียว ตลอดกาลใครอย่าแตะ อดีตหนังทำเงินสูงสุดของค่ายเมื่อ 19 ปีก่อน (โค้ะ!!!) ปิดเอาไว้ที่ 32.1 ล้านบาท แบบสบายๆ แต่คาดว่าเครื่องบินลำนี้ คงบินขึ้นไปสูงกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เมื่อดูจากน้ำมันที่เหลืออยู่ เพราะชั้นบรรยากาศต่อไป อย่าง บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู หนังบุญชูภาคที่ทำเงินสูงที่สุด ดักเอาไว้ค่อนข้างห่าง ที่ 40.8 ล้านบาท ในส่วนเครดิตของคุณมาช่า หนังก็ยังคงติดแหงกอยู่ในอันดับ 3 ตลอดกาลของเธอเช่นเดิม ตามหลังสองหนังผีสุดฮิต อย่าง แฝด และ 5 แพร่ง ที่เรียกว่าแรงโหดกันตั้งแต่เปิดตัวเลยทีเดียว! (เก็บเงินไปเรื่องละ 62.1 และ 109.4 ล้านบาท ตามลำดับ) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:17:04

ความคิดเห็นที่ 5 ทะลุขึ้นมายัง Top 5 ไม่ได้ดังคาด สำหรับ The Cold Light of Day ที่ไม่อึดดังชื่อ ไต่ขึ้นมาได้เพียง อันดับ 6 ผลงานเรื่องล่าสุดของป๋า บรูซ วิลลิส จับมือกับอึดรุ่นลูก(ซูเปอร์แมนคนถัดไป) อย่าง เฮนรี่ คาวิลล์ มาเบ่งพลังอึด หนีการไล่ล่าแบบสุดมันส์ตามสไตล์ป๋าโล้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังก็ไม่ได้ฟอร์มใหญ่ซะจนหวังอะไรได้มากมาย การที่หนังเปิดฉายแบบไร้คู่แข่งแนวคล้ายๆ กันจึงช่วยหนังได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สุดสัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไป ที่ 5.5 ล้านบาท ค่อนข้างดีทีเดียว สำหรับหนังบู๊ฟอร์มเดียวกันทั้งหลายในปีนี้ ที่ต่างก็เปิดตัวไม่ถึง 5 ล้านบาทด้วยกันทั้งนั้น! (ดีสุดก็คือ Safe House ที่ได้รับคำชมไปพอประมาณในบ้านเรา เปิดตัวไปแบบเบาะๆ ที่ 4.7 ล้านบาท หรือบู๊ขึ้นมาอีกหน่อย แต่ออกแนวทหาร อย่าง Act of Valor ก็เปิดตัวได้มากกว่ากันติดหน่อย ที่ 5.8 ล้านบาท) ในส่วนของดารานำชื่อขายได้ของเรื่อง หนุ่มคาวิลล์ หลังจากที่เพิ่งเปรี้ยงไปพอสมควรในบ้านเรา กับสงครามเทพ Immortals (ทำเงินเปิดตัวสูงสุดในเครดิตของเขา ที่ 25 ล้านบาท) แต่เอาเข้าจริง หนังเรื่องล่าสุดของเขากลับไต่ขึ้นมาได้สูงสุดในเครดิตที่ลำดับ 3 เท่านั้น!! เพราะอันดับที่สูงกว่าของเขา ก็คือหนังสนุกเกินคาด (แต่เขาไม่ใช่พระเอก) อย่าง Stardust ซึ่งเปิดตัวไปไม่เลวเลยทีเดียวในบ้านเรา ที่ 10 ล้านบาท ฟากป๋าบรูซ ก็เพิ่งโชว์ “แก่แต่เก๋า!!” ไปไม่นานเมื่อ 2 ปีก่อน ใน Red ได้รับคำชมไปไม่น้อยทีเดียว เลยเปิดตัวหวิดเป็นแชมป์ในบ้านเรา ที่ 7.1 ล้านบาท หรือย้อนกลับไปอีกหน่อยกับหนังกลิ่นไซไฟ อย่าง Surrogates ที่หมายมั่นปั้นมือให้ฮิต แต่ก็ไม่ฮิตเท่าที่ควร เปิดตัวในบ้านเราไปพอประมาณ ที่ 11.2 ล้านบาท ในเมื่อหนังกลายเป็นหนังตัวเลือกอันดับรองเช่นนี้ โอกาสที่หนังจะรอดจากหนังยักษ์ๆ ทั้งหลาย คงมีอยู่ “น้อยมาก” ทีเดียว! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:18:14

ความคิดเห็นที่ 6 นี่สิ แรงดีของจริง! สำหรับธนูสาว The Hunger Games ยังคงเกาะ Top 5 อันดับ 5 ได้อย่างเหนียวแน่น! ท่ามกลางหนังใหม่ที่ผ่านกันแย่งพื้นที่ในตารางมั่วซั่วกันไปหมด แต่ผลสุดท้าย หนังก็สามารถฝ่าความวุ่นวาย แทรกตัวขึ้นมาได้สำเร็จ แม้จะเหลือร่องรอยความบอบช้ำจากศึกในครั้งนี้อยู่ไม่น้อยก็ตาม แต่ถึงยังไง กระแสบวกที่ยังคงมีไม่น้อย ก็ช่วยให้สัปดาห์นี้ หนังยังคงทำเงินลดลงไปไม่ถึงครึ่ง!! เก็บไปอีก 6.5 ล้านบาท เริ่มเกมไปแล้วสามสัปดาห์ สาวแคตนิส เรียกคะแนนไปแล้ว 56 ล้านบาท เรียกว่าแรงใช่เล่นเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะทำเงินถล่มทลาย ทะลุหลัก 300 ล้านในอเมริกาได้แล้ว ในบ้านเรา หนังยังทำเงินได้ไม่เลวเลยทีเดียว สำหรับหนังช่วงก่อนซัมเมอร์ปีนี้ นอกจากจะทำรายได้สัปดาห์ที่สามสูงเป็นอันดับ 2 ประจำปีนี้ได้แล้ว (นำห่างรองแชมป์เก่า อย่าง John Carter ที่ 3.5 ล้านบาท แทบจะขาดลอย แต่ตามหลังแชมป์ อย่าง ATM เออรัก เออเร่อ ที่ 19  ล้านบาท อยู่อีกไกลโข!!) ล่าสุด หนังก็กำลังรอเบียดกลับขึ้นไปสู่ Top 5 หนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้อีกรอบ หลังจากถูกหนังใหญ่กว่า เบียดกระเด็นตกลงมาหนึ่งขึ้น รอแซง Underworld Awakening ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกล ที่ 57 ล้านบาท แบบรีบเร่งหน่อย (ก่อนที่อีกหนึ่งยักษ์ จะมาเบียดกระเด็นอีกรอบ!!) รวมไปถึง การที่หนังแซงบรรดาหนังวรรณกรรมเยาวชนเล่มหนึ่งขึ้นมาอีกหลายเรื่อง และจ่อแซงคู่ปรับอย่างไม่เป็นทางการ อย่าง Twilight ที่ 58 ล้านบาท อย่างแน่นอนแล้ว งานนี้ สงสัยภาคสอง คงมีคนดูเพิ่มขึ้นอีกจม!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:18:54

ความคิดเห็นที่ 7 เปิดตัวบ๊วยสุดในกลุ่มหนังใหม่ฟอร์มเต็ง สำหรับหนังไทยภาคต่อขายฮา(??)ปล้นนะยะ 2 อั๊ยยยย่ะ เข้ามาสู่ตารางใน อันดับ 4 ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของผู้กำกับนักเกาะกระแส พจน์ อานนท์ ที่ครั้งนี้ ก็ยังคงคงคอนเซปต์ ขนดาราดังมาร่วมสร้างสีสันในหนังกันแทบล้นจอ รวมไปถึงคอสตูมสีสันจี๊ดจาด ที่หวังจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของดาราหนุ่มๆ ในเรื่องกันเลยทีเดียว!!! แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระแสหนังตลกไทยในช่วงที่ผ่านมานี้ เริ่มแผ่วลงไปเยอะแล้ว แถมหนังภาคนี้ กระแสก็ออกมาในทางลบไม่น้อย ทำให้สัปดาห์แรก หนังเปิดตัวไปที่ 7 ล้านบาท แม้จะไม่ใช่หนังเปิดตัวน้อยที่สุดของเจ๊พจน์ (หนังเรื่องก่อนหน้าของเจ๊ อย่าง ศพเด็ก 2002 เปิดตัวไปเมื่อต้นปีก่อน แม้จะไม่ถึงกับน้อยที่สุด แต่ก็หงอยมากสำหรับเจ๊พจน์ ที่ 5.6 ล้านบาท) แต่ถ้าเทียบกันในบรรดาหนังภาคต่อของเจ๊ด้วยกันแล้วถือว่า ลดลงมาค่อนข้างเยอะทีเดียว เทียบกับหนังภาคต่อเมื่อปีก่อน อย่าง หอแต๋วแตก แหวกชิมิ หนังเปิดปีของเจ๊ ก็ทำเงินลดลงจากภาคอื่นๆ มาเหมือนกัน ที่ 15.1 ล้านบาท (แต่มากกว่าขาปล้นกว่าช่วงตัว!!) ขณะที่ ปล้นนะยะ  ถือได้ว่า สร้างกระแสในตอนนั้นได้ไม่น้อยทีเดียว ทำให้หนังเปิดตัวได้สูงที่สุดเป็นลำดับสองในเครดิตเจ๊พจน์ ที่ 18.2 ล้านบาท (เมื่อ 8 ปีมาแล้วแน่ะ!) ในส่วนของค่ายพระนครฟิลม์ ก็ต้องยอมรับว่า ยังคงเจ็บหนักติดๆ กันหลายๆ เรื่องอีกเช่นเคย นอกจากค่ายจะไม่มีหนังเปิดตัวเกิน 10 ล้านบาทมากว่า 1 ปีแล้ว (เรื่องล่าสุดก็คือ หอแต๋วแตก แหวกชิมิ ของเจ๊พจน์อีกนั่นแหละ เปิดตัวไปที่ 15.1 ล้านบาท) รายได้ของค่ายในปีนี้ก็ไม่ได้โสภาซักเท่าไหร่ เพราะเปิดปีมาด้วยหนังเลื่อนหนีน้ำจากปีก่อน อย่าง มรึงกรู เพื่อนกันจนวันตาย เปิดตัวหงอยๆ ตามประสาหนังโรคเลื่อน ที่ 3.5 ล้านบาท แต่ถ้าพูดถึงหนังไทยแนวตลกในปีนี้ ก็ต้องยอมรับว่า หายไปจากตลาดพอสมควร (กลายพันธุ์ไปเป็นหนังรอม-คอมซะเกือบหมด!!) ถ้าไม่นับว่า ปัญญา เรณู 2 เป็นหนังตลกแท้ๆ (แม้จะขายตลกก็ตาม!) ปล้นนะยะภาคนี้ก็จะกลายเป็นหนังตลกเปิดตัวสูงสุดประจำปีนี้ จนถึง ณ ขณะนี้เลยทีเดียว (เหวอ!!!) ทำให้เห็นความตกต่ำลงของหนังตลกได้อย่างชัดเจน ทั้งๆ ที่ทุกปีมักจะมีหนังตลกกระหน่ำช่วงต้นปีมาตลอด (บางทีก็แทรกตัวในซัมเมอร์ก็มี!!) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ การที่หนังแต่ละเรื่องทำอะไรเอาไว้ ไม่ใช่ว่าคนดูจะหลับหูหลับตาโดนหลอกซ้ำได้ตลอดหรอกครับ งานนี้ เรื่องที่ออกมาทีหลัง ก็ถือว่า “รับไปเต็มๆ” ล่ะครับงานนี้!!! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:19:18

ความคิดเห็นที่ 8 นี่ก็อีกหนึ่งหนังเต็ง แต่เป็นการกลับมาฉายอีกรอบ สำหรับ Titanic 3D ขึ้นมาได้สูงที่สุด ใน อันดับ 3 ถือเป็นการกลับมาอีกครั้ง ในรอบ 15 ปี หลังจากฮิตระเบิดช็อกโลกไปในตอนนั้น แต่การกลับมาครั้งนี้พิเศษสุดๆ ตรงที่มาในรูปแบบสามมิติเป็นครั้งแรกอีกด้วย!! งานนี้ ทั้งแฟนเก่า และแฟนๆ หน้าใหม่ ก็คงได้เต็มอิ่มกับหนังโปรดกันอีกครั้ง(ในแบบทะลุจอ)ในโรงเสียที! และดูเหมือนว่าหนังจะได้รับความสนใจจากคนดูในบ้านเราไม่น้อยทีเดียว สัปดาห์แรก หนังจึงเปิดตัวไปที่ 8 ล้านบาท ไม่เลวทีเดียวสำหรับหนังที่ห่างหายจากจอไปนานร่วมทศวรรษ รวมไปถึงถ้าลองเทียบกับบรรดาหนังกลับมาฉายใหม่ในรูปแบบสามมิติ ก็ต้องถึงว่า ยอดเยี่ยมมากด้วย เจ้าของสถิติเดิมก็คือ Star Wars: Episode I - The Phantom Menace 3D ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ ก็กลายเป็นว่า น้อยจนห่างชั้นกันไปเลย เพราะเปิดตัวไปเพียง 2.8 ล้านบาท หรือบรรดาหนังการ์ตูนทั้งหลาย ทั้ง The Lion King และ Toy Story 2 ภาคแรก ก็ทำเงินเปิดตัวได้ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก (ที่ 1 และ 2.2ล้านบาท ตามลำดับ) แต่ถ้าวัดกันในส่วนของหนังที่กลับมาฉายใหม่อีกครั้งทั้งมวล (ไม่แบ่งแยกระบบ) เรื่องที่เป็นเจ้าของสถิติก็ยังคงเป็น Star Wars: Episode 4 ซึ่งกลับมาฉายอีกครั้งในปีที่ Titanic เปิดตัวเป็นครั้งแรกอีกด้วย!!! แม้จะมากกว่า แต่ก็ใกล้เคียงกันมากอยู่ดี ที่ 10 ล้านบาท ขณะที่รายได้เปิดตัวของ Titanic ในครั้งกระโน้นก็ถือว่าทำได้โอเคอยู่ แม้จะไม่ถล่มทลายเท่าบรรดาบล็อกบัสเตอร์ทั้งหลายในปีนั้น ที่ 24.7 ล้านบาท ซึ่งถ้ารวมรายได้ของการฉายครั้งนี้เข้าไปด้วย (ตามธรรมเนียมเว็บฝรั่งเขาทำกัน) ก็จะทำให้รายได้ของ Titanic พุ่งสูงขึ้นไปเป็น 221.6 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้จะน้อยนิด แต่ก็มีผลในด้านอันดับเป็นอย่างมาก เพราะทำให้หนัง ทำรายได้แซงหน้า 2012 ซึ่งเคยเบียดขึ้นมาแซงได้ ที่ 214.9 ล้านบาทเป็นผลสำเร็จแล้ว!!! ทำให้ลำดับในกลุ่มหนังต่างประเทศทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเราของหนัง ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ได้แล้ว (ส่วนอันดับตลอดกาลรวมทุกสัญชาติ ก็อยู่ในอันดับ 3 เช่นกัน แซงหน้า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สองภาคแรก ซึ่งปิดเอาไว้ที่ 219 และ 216.8 ล้านบาท ตามลำดับ) แต่การจะแซงอันดับที่ 2 อย่าง Transformer 3 ก็คงเป็นไปได้ยากหน่อยล่ะครับ เพราะพี่ท่านเล่นทำเอาไว้ห่างกันกว่า 70 ล้านโน่น!! เอาเป็นว่าใครอยากจะนับการเก็บรายได้แบบไหนก็ตามสะดวกแล้วกันนะครับ! จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:19:55

ความคิดเห็นที่ 9 อีกหนึ่งหนังใหม่เช่นกัน เปิดตัวดีที่สุดในฐานะรองแชมป์ อันดับ 2 สำหรับภาคต่อน้องหมาแสนรู้ มะหมา 2 หลังจากที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูแบบเกินคาดมากมายเมื่อ 5 ปีก่อน การกลับมาในครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะได้รับความสนใจอยู่พอสมควร แต่เอาเข้าจริง ท้ายที่สุดแล้ว หนังกลับได้รับกระแสลบกลับมาค่อนข้างเยอะอย่างชัดเจน เปิดตัวสัปดาห์เหล่ามะหมาออกตัวไปได้ 8.5 ล้านบาท ก็ถือว่าโอเคอยู่ แม้ว่าจะได้น้อยกว่าที่คาดไว้ก็ตาม อย่างน้อย ถ้าเทียบกับหนังไทยด้วยกันในปีนี้ รายได้เปิดตัวระดับนี้ยังสูงถึงอันดับ 5 เลยทีเดียว! (ตามหลัง ATM เออรัก เออเร่อ, วาเลนไทน์ สวีทตี้, 407 เที่ยวบินผี และ ปัญญา เรณู 2 ซึ่งเรื่องหลังสุด เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 9 ล้านบาท) รวมไปถึงบรรดาหนังสัตว์แสนรู้ ตัวชูโรงทั้งหลาย(ที่ก็ไม่ค่อยจะออกมาในตลาดบ้านเราซักเท่าไหร่) หนังก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ในยุคหลังๆ ทั้ง กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว ที่ได้สามตลกชื่อดังมาช่วยขาย ก็เปิดตัวได้เนือยๆ เพียง 5.6 ล้านบาท หรือหนังขายชื่อคุณหม่ำอย่าง ว้อ หมาบ้ามหาสนุก ก็เรียกได้ว่า เปิดตัวได้เกินคาดมาก เพราะทำไปได้ถึง 14.7 ล้านบาท (แต่รายได้หลังจากนั้น........ร่วงระนาว!!!) ขณะที่ มะหมา 4 ขาครับ ภาคแรก ก็ถือได้ว่าสร้างความฮือฮามากในตอนนั้น เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกันนี้(ของเมื่อ 5 ปีก่อน) ไปได้ถึง 18.8 ล้านบาท งานนี้ นอกจากจะโดนกระแสลบด้านความสนุกที่น้อยลงเล่นงานแล้ว ยังโดนกระแส “หนังแบ่งภาค 2 ออกเป็น 2 ตอน” แบบที่คนดูส่วนใหญ่ไม่รู้ข่าวมาก่อน สับเละไปอีกหน!! งานนี้เลยคิดได้อย่างเดียวครับว่า............ภาค 2.2 จะรอดมั้ยเนี่ย!!!!??? จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:20:18

ความคิดเห็นที่ 10 ยังคงรั้งบัลลังก์เทพไว้ได้อย่างเหนียวแน่น สำหรับ Wrath of the Titans ที่สามารถเบิ้ล อันดับ 1  ได้ถึงสองสมัย! งานนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะนอกจากคู่แข่งจะไม่ได้กะมาชนกันตรงๆ จนหนังแทบไม่เสียรายได้แล้ว บรรดาหนังใหม่ฟอร์มเต็งก็พากัน “แพ้ภัยตัวเอง” จนไต่ขึ้นมาเป็นแชมป์ไม่ได้เสียเอง!! ทำให้พี่ครึ่งเทพของเรา แม้จะโดนกระแสลบมาอยู่พอสมควร (ไม่ต่างจากภาคแรก) แต่การที่เป็นหนังฟอร์มใหญ่มากเรื่องเดียวในโรงตอนนี้ จึงกลายเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งสำหรับคนดูไปโดยปริยาย(ซะ!!) แต่ที่น่าตกใจคือสัปดาห์นี้ หนังทำเงินลดลงไปไม่ถึงครึ่ง!! เก็บเงินไปอีกถึง 17 ล้านบาท ออกตะลุยสัตว์ประหลาดมาสองสัปดาห์ พี่ครึ่งเทพของเรารับทรัพย์ไปแล้วถึง 63 ล้านบาท ถือว่าสูงมากทีเดียว เมื่อเทียบกับ John Carter หนังฟอร์มยักษ์เรื่องก่อนหน้า ซึ่งก็ทำรายได้ไปพอๆ กัน แต่รายรับสัปดาห์ที่สองตกลงมาอยู่ที่ 14 ล้านบาท (แม้ว่าเปอร์เซ็นต์ตกลงของ Carter จะน้อยกว่า แต่ก็นั่นเพราะหนังเปิดฉายก่อนในวันพุธหยุดพิเศษ ซึ่งไม่ได้นำมานับรวมด้วย และทำเงินสองสัปดาห์รวมไปแล้ว 60 ล้านบาท) แน่นอนว่าสูงขนาดนี้ ทำให้หนังขึ้นไปติดในกลุ่มรายได้สัปดาห์ที่สองสูงสุดประจำปีนี้ อันดับที่ 2 อย่างง่ายดาย (แซงหน้า John Carter เจ้าเดิม แต่ตามหลังมหาโหด ATM เออรัก เออเร่อ ซึ่งทำเอาไว้ห่างกันสุดๆ ถึง 33 ล้านบาทเลยทีเดียว!!) รวมไปถึงกลุ่มรายได้สูงสุดประจำปีนี้ หนังก็จ่อรอแซง John Carter ในอันดับ 2 เพียงเรื่องเดียว (ทำไปถึงขณะนี้ ที่ 70.9 ล้านบาท) เพราะการจะแซง ATM (148.1 ล้านบาท) คงเป็นได้แค่ฝันแล้วล่ะ!!! -ขณะที่เมื่อเทียบกับบรรดาหนังเทพด้วยกันทั้งหลายแล้ว นอกจากหนังจะแซงหน้าเทพธนู Immortals เมื่อปีก่อนไปแบบไม่เห็นฝุ่นแล้ว (46.2 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับภาคแรก อย่าง Clash of the Titans ก็ถือว่าดีมากทีเดียว เพราะเรื่องหลังทำเงินลดลงมากกว่าที่ 60% และเก็บเงินไปอีก 16.8 ล้านบาท เห็นแล้วอาจจะเหมือนดูดี แต่การจะหวังก้าวผ่านภาคแรกไปได้อาจจะเป็นฝันค้างไป ในเมื่อภาคแรกแทบจะไม่มีหนังเปิดตัวมาชนแบบจริงๆ จังๆ เลยร่วม 1 เดือน! ขณะที่ภาคนี้ กำลังจะโดนของแข็งเล่นงานในสัปดาห์หน้า งานนี้ถ้ายังได้เห็นหลัก 80 ล้านอยู่ ก็ถือว่าดีเยี่ยมสุดๆ แล้วจริง(นะ!) ในส่วนเครดิตของพระเอก แซม เวิร์ตธิงตั้น แม้จะแซง Man on a Ledge หนังฟอร์มเล็กในปีนี้ของเขาอีกเรื่อง (ทำเอาไว้ไม่เลวที่ 8.8 ล้านบาท) แต่ถ้าเทียบกับบรรดา “ยักษ์” ของเขาทั้งหลาย ก็ยังถือว่า “ห่างชั้น” อยู่พอสมควร (จะทั้ง Terminator Salvation เอย, Avatar เอย หรือ Clash of the Titans ก็ดี................ ...........นี่มันโหดๆ ทั้งนั้นเลยนี่หว่า!!!) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:20:44

ความคิดเห็นที่ 11 เทพยังคงมาแรง ท่ามกลางหนังใหม่แรงไม่ถึงพอ ก็ยังพอช่วยเข็น Top 10 สัปดาห์นี้ ขึ้นไปได้พอสมควร ที่ 56.2 ล้านบาท น้อยกว่า Top 10 สัปดาห์ก่อน (58.3 ล้านบาท) นิดหน่อยเพียง 4% และยังน้อยกว่า Top 10 สัปดาห์เดียวกันของปีก่อน (56.5 ล้านบาท) ไปแบบเฉียดฉิวสุดๆ เพียง ไม่ถึง 1% เท่านั้น!!! ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ครองบัลลังก์ต่ออีกสมัย ด้วยรายได้ที่ลดฮวบมากเกินคาด แต่ก็ยังสูงอยู่ในฐานะแชมป์ ที่ 30 ล้านบาท (โดยมี Source Code เปิดตัวมาห่างๆ ในฐานะรองแชมป์) จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:21:06

ความคิดเห็นที่ 12 สุดสัปดาห์หน้า สุดสัปดาห์หยุดยาววันสงกรานต์ ที่ทุกคนจะได้เฮลั่น ชุ่มฉ่ำกันถ้วนหน้า ค่ายหนังก็เฮไม่น้อย เพราะได้วันหยุดมาเพิ่มอีกเช่นกัน (ยกเว้นคนจะเล่นน้ำ จนไม่เป็นอันมาดูหนังตอนเย็นๆ นี่สิ!!) แชมป์ก็คงไม่ต้องลุ้นกันให้มากความ เพราะนอกจากจะนอนมาแบบเดี่ยวๆ แล้ว ยังถือว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่มากประจำก่อนช่วงซัมเมอร์อีกด้วย (แต่จริงๆ ฉายก่อนอเมริการ่วมเดือนเชียวนะ!) ก็คงไม่ต้องสารยายกันมาก กับหนังสร้างจากเกมดัง(ที่ไม่คิดว่าจะเป็นหนังได้!) อัดพลังเอฟเฟ็คบู๊สนั่นจอ ใน ”Battleship” (เปิดรอบ Sneak ไปตั้งแต่วันพุธแล้วล่ะ) พ่วงด้วยสองหนังหวังเป้นตัวเลือกให้กับคนดูหนีหนังใหญ่ ทั้งนักทวงหนี้สาว แคทเธอรีน ไฮเกิล ที่ต้องมาเจอกับหนุ่มหล่อที่เคยหักอกเธอ! ใน ”One for the Money” และ หนังรักของหนุ่มหล่อ สาวสวย (ยวน และ เอมิลี่) กับเรื่องราวตามชื่อเรื่อง(ที่เห็นครั้งแรกก็คงงงๆ กันทุกคนแหละ) อย่าง ”Salmon Fishing in the Yemen” กองทัพเรือ ฉะเอเลี่ยน จะระเบิดโรงแตกได้แค่ไหน??? สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันต่อครับ เครดิต ข้อมูลรายได้ประจำสัปดาห์ http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=01004&c=11 จากคุณ : gunki_kun เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 05:22:05

ความคิดเห็นที่ 13 Titanic   มันฉายได้น้อยมากๆ    3ชั่วโมงหน่อยๆ  ต่อรอบ  เมื่อวานไปดูพลาด รอบ11.10   รอไป15.20 เลย   เดินเล่นยาวเลย จากคุณ : gumk1 เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 08:13:38

ความคิดเห็นที่ 14 หนัง ฮอลลีวู้ด ขุด หนังมหากาำพย์เก่าๆมาทำเป็น3D เก็บ(แดกซ์)เงินแฟนๆทั่วโลกได้อีกบานแน่.......55+ จากคุณ : atk เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 09:06:27

ความคิดเห็นที่ 15 BTLESHIP ตู้มต้ามมระเบิดระเบ้อ อึ๋มบึบบับ หนังอีกเรื่องที่ D ใช้ได้เลยนะ ;P จากคุณ : B-Crusher เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:26:38

ความคิดเห็นที่ 16 ไปดู Titanic 3D มาแล้ว ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ อยากให้ทุกคนที่ไม่มีโอกาสในอดีต ไปดูจริงๆ PS. May The Odds Be Ever In Your Favor จากคุณ : สงกาดรุณ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 16:31:44

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ ชอบ ปล. ของ คคห. ข้างบนนี้จังเลย พูดถึง Titanic แต่แอบมีกลิ่นอายของ THG ด้วย อิอิ จากคุณ : MoviemaniA เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 16:59:57

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลมากๆ ขอรับ  ^ ^ ปล. Battleship ตูมจริงอะไรจริง  ขนาดรอบค่ำวันพุธยังคนแน่นโรงเลยทีเดียว จากคุณ : xcessshin เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 18:41:17

ความคิดเห็นที่ 19 ว่าจะไปดู Battleship รอบสองอยู่ อารมณ์ยังไม่จบ 555 จากคุณ : บ้าแพะ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 06:16:00

ความคิดเห็นที่ 20 ดูเรื่อง หอแต๋วแตก กะว่าจะดูหนัง แบบไม่คิดอะไร แต่ก็นะ มันน่าเบื่อยังไงไม่รู้ เดี๋ยวไปดูไททั่น กับแบทเทิ่ลชิฟดีกว่า จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : วันเนา 55 08:06:02

ความคิดเห็นที่ 21 สัปดาห์หน้า BTS น่าจะเต็ง 1 เพราะหนังมันส์มากกกกกกก ปล. รูป ที่ 9 หน้าเหมือนญาญ่าจัง จากคุณ : LAZGAL เขียนเมื่อ : วันเนา 55 12:16:12