Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++ ดูแล้วมาเมาท์กัน : โฮม บ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ++ (สปอยล์นิดหน่อย) ติดต่อทีมงาน

โฮม

ตอนที่ 1 : บ้านหลังที่สอง

เรื่องราวของ เน และ บีม

เรื่องนี้ดำเนินโดยมีตัวละครหลักสองคนคือเน (ช่างภาพประจำโรงเรียน) บีม (นักบาสทีมโรงเรียน) และเราก็ไม่รู้แบ็คกราวนฺด์อะไรเท่าไหร่เลยของสองคนนี้ ไม่รู้ว่ารู้จักกันมาก่อนมั้ย หรือเพิ่งมาทำความรู้จักกันวันนั้น แต่ในความคิดผมบีมกับเนน่าจะเพิ่งรู้จักกันวันนั้น จากบทสนทนา

ตอนนี้ทั้งตอนเล่าแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ผ่านบทสนทนาของคนสองคน แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายหรืออึดอัดเลย การแสดงของเด็กสองคนผมถือว่า เอาอยู่และเล่นได้ในระดับกำลังพอดีทีเดียว เมื่อตอนของทั้งคู่จบลงไป
หลายคนสงสัยในตัวตนและความสัมพันธ์และความรู้สึกของสองคนนี้

สำหรับผม (ความเห็นส่วนตัว) บีมชอบเน และการพูดว่าตัวเองชอบผู้หญิงคือการเก็บความรู้สึกของเด็กผู้ชายคนนึงที่ไม่กล้าบอกกับคนที่ตัวเองเพิ่งรู้จัก หรือเพิ่งจะทำความรู้จัก ที่คิดแบบนี้เพราะ ปกติแล้วเด็กผู้ชาย (แท้ๆ) คนนึง ยากที่จะมาคุยสัพเพเหระกับเด็กผู้ชายอีกคนที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักดีขนาดมากเป็นเวลานานขนาดนั้น รวมไปถึงการแสดงออก ทั้งจับมือ โอบใหล่ กอด และการแสดงอาการน้อยใจ พยายามจะเขียนที่อยู่อีเมล์ของตัวเองให้เนผ่านกระจกหลังรถบัส

อีกอย่างความรู้สึกเหล่านี้หลายอย่าง มันเคยเกิดขึ้นกับผม และผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของบีมว่ามันรู้สึกยังไง

ส่วนเน เนชอบเตอร์ตั้งแต่แรกแล้ว และถ้าถามว่าเนเป็นเกย์มั้ย ผมก็คงตอบว่าเป็น ทั้งจากที่เพื่อนโทรมาแล้วเรียก 'อีเน' อาการอายที่ได้พบเตอร์ หรือตอบได้ไม่เต็มปากเวลาบีมถามเรื่องแฟน แม่ตัวเองจะบอกว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย ซึ่งเกิดได้กับเกย์แอ๊บหลายคนในสมัยนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวเองจะไม่ยอมรับจากการแสดงออกให้บีมเห็นกลายๆ

ความรู้สึกของเนอาจเปลี่ยนไปหลังจากนั้น ที่ได้รู้จักบีม แต่ก็อาจจะไม่เต็มร้อย ถามว่าเนรักบีมมั้ยผมไม่รู้ แต่ถ้าถามว่าเนลืมบีมมั้ย เนไม่บืมบีม เพราะรูปของบีมยังอยู่ในการ์ดกล้องของเน ซึ่งเนคงไม่มีวันลบ แม้ความจำจะเต็มไปกี่ครั้งก็ตาม และคำพูดของบีมที่ว่า 'อยากให้มีใครสักคนจำเรื่องของผมได้บ้าง' เนอาจจะมีเรื่องของบีมให้จำไม่มาก หรืออาจจะมีมากซึ่งเราไม่รู้ เราไม่รู้ว่าหลังจากบีมไปกรุงเทพแล้วทั้งคู่ได้เจอกันอีกมั้ย เรามารู้อีกที่ก็ตอนจบที่บีมตาย แต่บีมก็ไม่เคยหายไปจากความทรงจำของเน ชื่อเรื่องว่า 'บ้านหลังที่สอง' อาจจะตีความได้ถึงโรงเรียนซึ่งใช้เป็นฉากหลังทั้งหมดของตอนนี้ หรืออาจจะเป็นความทรงจำของเนที่จะเป็นบ้านหลังที่สองที่มีเรื่องราวของบีมเก็บไว้ในนั้นตลอดไป

ตอนที่ 2 : จดหมายก้อม

เรื่องราวของ ป้าบัวจัน ลุงจรัส (รวมถึงเหว่า และ ชมพู่)

เรื่องราวของคู่แต่งงานรุ่นใหญ่ ที่ฝ่ายนึงต้องถึงคราวตายจาก ทิ้งไว้แต่เพียงบึนทึกเรื่องราว ปัญหาต่างๆ และจดหมายก้อม (จดหมายน้อยๆ) ไว้เป็นสิ่งระลึกถึงให้แก่อีกฝ่าย

ป้าจัน หญิงหม้ายใจดีใช้ชีวิตดูแลรีสอร์ทที่ร่วมทำกันมากับลุงจรัสพร้อมหลานสาว ชมพู่ และหลานชาย เหว่า (ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าใครหลายแท้ ใครหลานแต่ง) หลังจากที่ลุงจรัสตายไป ป้าจันต้องคอยสะสางงานต่างๆ ที่รีสอร์ทเอง รวมถึงหนี้สินที่ลุงจรัสสร้างขึ้น บางคราวตนก็เกิดน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาคอยรับภาระตรงนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ป้าจันไม่ท้อถอยคือความรักที่มีต่อลุงจรัส ข้อความในจดหมายก้อมที่ลุงจรัสทิ้งเอาไว้ตามบันทึกต่างๆ เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจว่าลุงยังอยู่กับป้า ไมได้ห่างไปไหน และป้าเองก็มองว่า ลุุงพูดคุยกับป้าผ่านข้อความเหล่านี้

ตอนนี้ซับซ้อนที่สุดจากทุกตอน อิงกับหลักศาสนาพุทธในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดและการยึดมั่นถือมั่น ย้อนไปตอนก่อนที่ลุงจรัสจะเสีย ลุงไม่สามารถละทิ้งร่างตนไปเพื่อสู่ภพภูมิอื่นได้นั่นเพราะความเป็นห่วงป้าจัน ในโลกของลุง จนป้าจันต้องไปพูดเพื่อให้ลุงละสังขารนี้ไปเสีย แล้วหลังจากนั้นลุงจรัสก็ตายไป (ช่วงนี้บีบหัวใจมาก ผมนั่งนำตาไหลเป็นทาง) ในโลกของลุงจรัส เวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญ ลุงจรัสย้อนกลับมาเป็นหนุ่ม และเด็ก เมื่อมาวิ่งมาถึงบ้านที่ป้าจันอยู่ ลุงบอกว่าจะมาอยู่ด้วย ป้าก็คิดมาตลอดว่าลุงอยู่กับป้าเสมอ ต่างคนต่างยึดในตัวตนของกันและกัน จนวันนึงที่จดหมายน้อย อวยพรวันเกิดป้าจันตกลงมาจากที่บังแดดในรถ ตอนนั้นป้าก็รู้แล้วว่า ลุงไม่ได้อยู่กับป้าแล้ว เพราะถ้าลุงยังอยู่ ลุงต้องจำวันเกิดป้าได้ หนังพาเราย้อนกลับไปวันที่ลุงจรัสตาย และให้เราเห็นฉากในโลกของลุงจรัส ที่ค่อยกลับขึ้นเป็นหนุ่ม และแก่ลงตามกาลเวลาอีกครั้ง กาลเวลาที่ต่างฝ่ายต่างต้องดำเนินชีวิตในครรลองของตัวเองต่อไป

ตอนที่ 3 : แต่งงาน

เรื่องราวของ ยา เฮียเล้ง (รวมถึงมอส น้าอร และ พี่เป็ก)

คู่หญิงชายที่กำลังจะแต่งงาน หลังจากที่คบกันมา 7 ปี ฝ่ายชายเป็นเจ้าของโรงงานมังคุดที่ภูเก็ต ฝ่ายหญิงเป็นคนเชียงใหม่ พ่อแม่ตายไปแล้ว เหลือแต่น้องชาย และน้าสาว ปัญหาของคู่นี้เกิดจากปัญหาพื้นฐานที่พบบ่อยที่สุดในคู่รักหลายๆ คู่นั่นก็คือ การเงียบ และไม่พูดกัน ถ้าจะมองว่า ยา ทำผิดตรงไหน จะมีก็แค่ไปจูบกับเป็ก แต่ถ้าจะมองว่าเฮียผิดตรงไหน ก็ไอ้ตรงที่เก็บความรู้สึกนี่แหละ ตอนนี้ผมว่าไม่ซับซ้อนมาก แต่ผมมองเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนรักกัน ไม่เฉพาะคนที่จะแต่างงาน แต่ทุกๆ คนที่รักกันคือ การทำความเข้าใจกับและพูดคุยเพื่อคลายปัญหา คนดูอาจจะส่งสัยว่า คบมาตั้ง 7 ปี แล้วถ้าเฮียเป็นคนแบบนี้ตลอดจะไหวเหรอวะ อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเวลาก่อนหน้านี้สองคนนั้นคบมาแล้วเป็นยังไง

จุดอ่อนของยาเองอาจจะเป็นคนที่ไม่แน่วแน่ ไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเอง อยากที่ยาบอกน้าอรไปว่า เข้าแต่งเพื่อหาความมั่นคงในชีวิตมากไปหรือเปล่า ตัวเองรักเฮียเล้งหรือไม่ แล้วพอพี่เป็กมาทำให้ความรู้สึกตัวเองเขว มันยิ่งตอกย้ำตัวเองมากขึ้น และกล้าที่จะบอกยกเลิกงานแต่งเฮียไป

ปรียาบอกว่าคบกันมานานแต่เหมือนคนไม่รู้จักกัน ซึ่งเฮียเองก็เป็นคนไม่ค่อยพูดและเก็บอารมณ์ จริงๆ ปรียารู้จักแฟนตัวเองดีว่าเป็นคนไม่ค่อยพูดและเก็บอารมณ์ แต่ด้วยอารมณ์แบบคิดเล็กคิดน้อยว่า อะไรวะ ทำไมไม่พูด มีอะไรก็ไม่บอก มันทำให้ยารู้สึกอึดอัดใจมาตลอด แต่สุดท้าย เมื่อยาได้รู้ความรู้สึกจากเฮีย เธอก็เข้าใจขึ้นมา แล้วพูดว่าตัวเองรู้แล้ว (ว่าทำไมเฮียถึงต้องทำแบบนั้น)

จากบทสนทนาระหว่างน้าอรและยา เป็นเรื่องที่หลายคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกคล้อยตามหรือปฏิเสธ ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันแล้วแต่คน ขึ้นอยู่กับความรู้สึกล้วนๆ ถ้าถามผม ถึงแม้ว่าคนที่ผมกำลังจพแต่งงานด้วยเค้ารักผมมากจริงๆ แต่อยู่ๆ กันไปแล้วอึดอัดหัวใจ ผมก็คงไม่ทนดีกว่า

ผมเชื่อมาเสมอว่าความรัก ถูกออกแบบไม่ให้มีกฎตายตัว ไม่มีถูกและผิด ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมารองรับ ความรู้สึกของคนในเรื่องความรักกว้างกว่าจักรวาลนับล้านรวมกันเสียอีก


สรุปรวม

โฮมเป็นหนังดราม่าเรียกน้ำตาเป็นบางช่วง ซึ่งหลายช่วงในหนังตรงกับตัวเองมากเลยอินพอสมควร เรารู้ว่ามะเดี่ยวกำกับหนังโดยการดึงส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตของตัวเองมาเล่าเรื่องด้วย และผมว่าชีวิตหลายช่วงของมะเดียวตรงกับผมไม่น้อยทีเดียวนับตั้งแต่ รักแห่งสยาม มาการแสดงของนักแสดงทุกคนดูอินมาก แต่มีบางช่วง และบางตัวละครที่ดูโดดๆ อย่างฉาก 18+ ผมว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องมี แล้วก็ สุ เพื่อนนางเอก ก็ดูไม่ใช่เพื่อนนางเอกเลย หน้าไปไกลกว่านางเอกเยอะทีเดียว แต่ก็เข้าใจว่ามะเดี่ยวดึงพี่แมวมาแจมในหนังด้วยบ่อยๆ ฉากจบที่ทำให้รู้ว่าชีวิตมนุษญ์ ไม่ได้มีพร้อมไปด้วยความสุขเสมอไปเหมือนหนังรัก ผมคิดเสมอว่าคนเราเกิดมาพร้อมความทุกข์ที่รอเราอยู่ทุกเวลา เมื่อไรก็ตามที่เรามีความสุข นั่นคือสิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา คนเราเกิดมาเพื่อรอพบกับการลาจากในวันใดวันหนึ่ง และเหมือนที่ป้าจันพูด คนรักกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันไปจนตายหรอก มีแต่จะอยู่เพื่อตายจากกันไปข้างนึง แต่สิ่งที่จะเหลืออยู่คือความทรงจำ ความทรงจำที่มีค่าของคนๆ นึง ที่แม้แต่เวลาก็พรากมันไปไม่ได้

 
 

จากคุณ : ไอ้วู่
เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 01:11:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com