ความคิดเห็นที่ 1 1. ยามที่ F15 ไล่กวดวิมาน(00:28) บอกตามตรงในฐานะที่อ่านนิยายมาก่อน   Ep15 นี้เริ่มต้นด้วยความเซ็งๆเล็กน้อยสำหรับผมเพราะตัวเองรู้มาก่อนว่า "มิตไซล์มันหมดแล้วอะ~~"  นั่นทำให้เหมือนโดนสปอยตัวเองไปนิดนึงว่าจากนี้ F15 จะไล่ล่าวิมานด้วยอาวุธประจำตัวคือปืนใหญ่อากาศในระยะประชิดเท่านั้นเอง และจะไม่มีความพริ้วไหวของการหลบหลีกหรือไล่ล่าของขีปนาวุธด้วยความเร็วสูงแบบในมาครอสแน่นอน ~~แต่ก็เอาวะ~ไงๆมันก็ต้องมาดวลกันอยู่ดี  ปืนกลยิงคนก็ตายเหมือนกัน~ ช็อตเปิดตัวนี้เริ่มจากที่เบอร์เซอร์เกอร์ไล่กวดครับ  เนื่องจากอาวุธระยะไกลอย่าง AIM7, AIM9 โดนใช้ไปเกลี้ยงและ  (ทำไมไม่เหมือนในเกม Ace Combat ฟะ!  ยิงปู๊บมันต้องเสกจรวดมาให้ตูยิงอีก 40 นัดสิ!)   และระยะยิงของปืนใหญ่อากาศมันสั้นกว่ามาก  หากเปรียบเทียบก็ AIM7-Sparrow    ระยะยิงได้ราวๆ 40 Km ขึ้นไป (นำวิถีด้วยเรดาห์) AIM9-Sidewider  ระยะยิงที่ราวๆ 15 Km ลงมา (นำวิถีด้วยรังสีความร้อน/อินฟราเรด) M61-Vulcan 20mm ระยะยิงที่ราว 3 km ลงมา  (เล็งด้วยตา/ ศูนย์เล็งดักหน้าด้วยคอมพิวเตอร์) ดังนั้นพี่ดำต้องไล่จี้ติดเลยครับถึงจะยิงโดน.... จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:16:23

ความคิดเห็นที่ 2 2. วิมานผู้ผาดโผน ผ่านจากฉากแรกมาไม่ถึง 5 วินาทีเลย....เสี่ยตู้ทองอาเชอร์เรากลับมาพลิกสถานการณ์จากเหยื่อกลายเป็นผู้ล่าเท่านั้น...ขนาดพี่ด๊ำดำบนหลัง F15 ยังงงเลย (มันทำได้ไง?)    แต่สิ่งที่สายตาผมมองเห็น (อาจจะไม่ชัดเจนนัก) ก็คืออาเสี่ยทองคำหัวเราะเริงร่าแล้วทำ [Spiral Drive] เพื่อพลิกสถานการณ์ที่ถูกไล่จี้มาโดยตีวงออกข้างก่อนจะใช้เกลียวสว่านในการลดความเร็วเพื่อบังคับให้ F15 แฉลบออกไป Spiral Drive ที่ว่า (โดยวิมานเป็นเครื่องสีฟ้านะ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:17:50

ความคิดเห็นที่ 3 พอใช้เสร็จเลยออกมาเป็นรูปประมาณนี้... เครื่องวิมานใช้บิดตัวเกลียว 1 รอบครึ่งเพื่อถอยหลังเหมือนขันน็อตย้อนทิศทาง (แถมทำได้แบบนิ่มโคดๆ) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:19:42

ความคิดเห็นที่ 4 3. อาวุธที่แพ้ทาง... แม้จะมองว่าความสามารถของเซอร์เวินท์อย่าง Berserker จะชนะทาง Archer ได้,  แต่สถานการณ์ของมาสเตอร์แต่ละฝ่ายกลับต่างกันไปคนละขุมเลย   เมื่อเราได้เห็นคาริยะที่ออกอากาศพิโรธโกรธาเหมือนเห็นช้างตัวเท่าหมู เข้าไปแลกเลือดแลกชีวิตกับโทคิอุมิที่ฝีมือดีกว่า แถมคุณสมบัติธาตยังได้เปรียบเขาอย่างเห็นได้ชัด - ถ้าว่าอารมณ์ก็คือ~ หมูสนามตัวใหญ่ที่วิ่งเอาคอไปฟาดปังตอให้บิ่น~~ - บางคนบอกน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ   แต่กรณีนี้ผมว่าไม่ใช่แล้ว  เป็นเหมือนคนถือไม้ขีดก้านนึงแล้ววิ่งไปเผชิญหน้ากับคลื่นซึนามิเพื่อจะเผาให้วอดวายมากกว่า - คาริยะนั้นปกติจะเก็บตัวอยู่ไม่แพ้คุณลุงฮิกกี้เครางาม  เพราะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แต่งานนี้มาเผชิญหน้าเพราะอยากถามสาเหตที่โทคิฯ ส่งซากุระลูกสาวแท้ๆไปทรมาณกับโซเคนจากปากของเขาเอง - มองในแง่ของจิตวิทยา/สาเหตก็ถือว่าพอยอมรับได้อยู่บ้าง  แต่ถ้าคาริยะหวังจะชนะสงครามฯแบบจริงจังขึ้นอีกนิดเขาจำเป็นต้องใช้สมองมากกว่านี้ครับ.. จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:22:56

ความคิดเห็นที่ 5 - ถ้าเราเป็นคาริยะหละ?  อันแรกก็คือต้องถอนตัวออกจากดาดฟ้าที่โดดเด่นนั่นให้เร็ว  สภาพที่เป็นตัวเมืองโดยรอบจะทำให้คาริยะหาที่หลบซ่อนได้ง่ายกว่า  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การไปหลบซ่อนท่ามกลางฝูงชนที่กำลังโกลาหล"  เพราะโทคิอุมิในฐานะมาสเตอร์ผู้ดูแลเมืองตอนนี้ก็มีปัญหาหนักอกมากพอกับคาสเตอร์แล้ว  การแสดงตัวตนของจอมเวทไปไล่ฆ่าคาริยะกลางเมืองคงไม่ทำแน่นอน  (อย่าลืมว่าตัวตนจอมเวทนั้นเป็นความลับ)...เขาก็จะปลอดภัย - หลักการ 'สงวนกำลังรบ' หากตัวคาริยะสามารถหลบหนี หรือหลีกเลี่ยงการใช้พลังเวทมากมายได้  นั่นหมายถึงพลังของเบอร์เซอร์เกอร์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น  (ว่องไว  อึด ทนทาน ทรงพลัง)  อย่างน้อยน่าจะสามารถรับมือกิลกาเมซได้นานอีก  และลดภาระความเหนื่อยล้าของร่างกายได้อีกอักโข - หลักการ 'Hide&Seek' (เกมซ่อนหา)...ประการแรกคือการไม่เผชิญหน้าโดยตรงกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านั้นเป็นที่รู้กัน  โดยเฉพาะ 'ไฟ' ของโทคิอุมินั้นได้เปรียบมากในแง่การโจมตี + ป้องกัน   แต่ว่าถ้าสามารถทิ้งระยะห่างได้ หรือเข้าจุดมุมอับซุ่มซ่อนต่างๆ  "แมลง" ของคาริยะจะเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที - ทำไมแมลงถึงได้เปรียบ?  คำตอบง่ายๆ คือ "ระยะทาง" ครับ....เปลวไฟของโทคิอุมิย่อมมีพิสัยโจมตีจำกัดกว่ามากเพราะเป็นการปลดปล่อยพลังจาก Source--->Destination  เมื่อระยะทางไกลขึ้นพื้นที่ที่ต้องคงสภาพพลาน่าไว้เพื่อโจมตีก็ต้องมากขึ้น ... ในขณะที่ฝูงแมลงนั้นเป็นเหมือน "ยูนิตรบอิสระ" หรือคล้ายๆกับพวกฟันเนลที่เคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง...ทำให้ได้เปรียบเมื่อมีการโจมตีผ่านระยะทางไกลเป็นหมู่ขณะ (Swarm Formation)..นั่นจะทำให้พลังของลุงหนวดหมดเร็วกว่าเดิมและลดความแตกต่างด้านพลาน่าของทั้งคู่ - อีกประการคือ ถ้าคาริยะฝ่าเข้าไปยังตัวเมือง ที่มีอาคาร ตึกรามบ้านช่องจำนวนมากได้ ,  เหลี่ยมมุมของอาคารจะเป็นที่กำบังสายตา และเปลวไฟของโทคิฯ (เมคิเมมโมเรียล)ได้เป็นอย่างดี  (ไม่ต้องเอาหนังหน้าไปเผาเล่น)  แถมยังใช้เป็นที่วางกับดักของเหล่าฝูงแมลงกินคนได้อีกต่างหาก   - แมลงกินคนพวกนี้ร้ายกาจมากครับ  ในนิยายเอ่ยว่า "แมลงเขี้ยวดาบ"  ขนาดหนวดดปลาหมึกน้อยที่ว่าทั้งอึด+หนึบหนับที่มันเป็นลูกน้องของคาสเตอร์ยังโดนกินเละเลย...ถ้าลุงหนวดเคราแพะโดนเขี้ยวสักตัวสองตัวคงไม่พ้นเป็นเศษเนื้อ...แต่นั่นหมายความว่าต้องหาวิธีหลบหลีกเปลวไฟให้ได้ก่อน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:23:49

ความคิดเห็นที่ 6 ปล. แต่ไม่รู้ว่าคาริยะคิดไม่ถึง, ความโกรธเข้าบังตา...หรือว่าอ่อนประสบการณ์จริงกันแน่ ถึงคิดแผนการพวกนี้ไม่ออก ปล.  แต่เอาเข้าจริงๆ  ผมที่คิดวิธีการแบบนี้ออก  แต่ถ้ามีแมลงยึกยือเลื้อยไปเลื้อยมาบนหนังหน้า ก็คงสติแตกอาละวาดลืมหมดลืมสิ้นได้เหมือนๆกันแหละ  //555 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:24:13

ความคิดเห็นที่ 7 4. เหล่าวีรชนร่วมมือ เป็นซีนที่น่าสนใจอีกอันนึงครับ  ที่ลุงไรเดอร์ควบน้องวัวทั้งสอง (ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตก~yay!) เข้ามาช่วยเซเบอร์  และแสดงให้เห็นพลังของ Via Expugnatio (ราชรถอัศนี) ที่ฉีกหนวดปลาหมึกเป็นชิ้นๆได้  โดยมีเรื่องน่าคิดหลายอย่างเหมือนกัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:25:02

ความคิดเห็นที่ 8 ลุงวัวไถได้สบายๆ  แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ชาร์จตรงๆเข้ากลางตัวอสูร จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:25:46

ความคิดเห็นที่ 9 มาดูจุดสำคัญกันหน่อยนึงเรื่อง "ตำแหน่งของพลรบ/สนามรบ" - ไรเดอร์ อยู่บนฟ้า คอยโจมตีจากเบื้องบน โดยอาศัยกลยุทธ์โจมตีโฉบไปเรื่อยๆด้วยสายฟ้า -  เซเบอร์อยู่บนพื้นน้ำ  คอยสกัดการโจมตีจากอสูรทะเล โดยเฉพาะหนวดยาวที่พยายามยื่นไปจับคนกิน - แลนเซอร์ คุ้มครองมาสเตอร์ + รอจังหวะทำลายหนังสือคาสเตอร์ด้วย 'เกลเดิร์ค'  และเป็นแนวสำรองกรณีอสูรทะเลนั้นเข้าถึงฝั่ง - อสูรทะเลนั้นอยู่กลางแม่น้ำ ถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังเวทของคาสเตอร์ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:26:53

ความคิดเห็นที่ 10 5.ประเด็นวิเคราะห์ฝั่งอสูรทะเล - ลักษณะการอัญเชิญของอสูรทะเลนั้นต่างจากสัตว์ประหลาดทั่วไปที่คาสเตอร์อัญเชิญมาก่อนหน้านี้ เพราะไม่ได้เป็น "สัตว์อสูรในบัญชา" แต่เป็นลักษณะของการอัญเชิญ "จ้าวอสูร" ให้ลงมาจุติบนโลกโดยใช้ร่างตัวเองเป็นเพียงแกนกลางของสื่อชักนำ...นั่นหมายความว่าคาสเตอร์ไม่สามารถสั่งการอสูรยักษ์ได้โดยสมบูรณ์  แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดประสงค์ของเขา+ริวโนสุเกะคือเรียกสัตว์ยักษ์ตนนี้มาเพื่อ  กิน...กิน...กินมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดบนโลก - ตัวตนของสัตว์อสูรนี่ค่อนข้างซับซ้อนในการอัญเชิญเอาเรื่อง.....ดูคล้ายกับการอัญเชิญวีรชนของจอกฯแบบกลายๆที่ ริวโนสุเกะ ---เชิญ--> คาสเตอร์ ---เชิญ--> เจ้าอสูร  ,  ดังนั้นเมื่อคิริงิสุเป่ากบาลริวโนะสุเกะดับไปแล้ว  คาสเตอร์เองก็ต้องจากไปในเวลาไม่นานนัก....ซึ่งถ้าคาสเตอร์หายไปแล้วก็หมายความว่าเจ้าอสูรก็จะขาดสื่อชักนำ+พลังเวทสำหรับคงสภาพในยุคสมัยนี้และต้องหายตามไปด้วย....ซึ่งจะเป็นไปตามแผนการของคิริงิสุนั่นเอง - ตามนิยาย,  แม้จะมีการกำจัดมาสเตอร์ไปได้แล้ว....แต่อันตรายยังไม่สิ้นสุดอยู่ดี....จริงอยู่ที่ว่าคาสเตอร์จะหายไปในเวลาไม่นานนัก  แต่ต่อให้วีรชนคนนั้นไม่มีทักษะ Independent Action (ปฎิบัติการอิสระ) ก็ยังมีเวลาอีกนับเป็นชั่วโมงได้กว่าที่เซอร์แวนท์จะสลายหายไปโดยสมบูรณ์....โดยเฉพาะจอมเวทอย่างคาสเตอร์ที่มีพลังเวทสะสมมากกว่าคลาสนักรบอื่นๆ....ดังนั้นสาเหตที่จะสลายไปมักเป็นเพราะว่า "ขาดมาสเตอร์เป็นหลักยึด" ในการเชื่อมโยงกับยุคสมัยปัจจุบันเป็นเหตผลหลัก - ในทางกลับกัน....คาสเตอร์มีเวลาเหลืออีกไม่มาก....แต่หากอสูรที่อัญเชิญมานั้นสามารถเข้าถึงฝั่ง  และเริ่มกลืนกินสิ่งมีชีวิตในยุคสมัยนี้ (มนุษย์) นั่นก็หมายความว่าอสูรทะเลยักษ์นั้นจะสามารถพึ่งพาแหล่งพลังงานภายนอกอย่างเลือดเนื้อวิญญาณของคนเป็น มาป้อนให้กับตัวเองได้แทนที่คาสเตอร์.....นั่นจึงเป็นเหตผลว่าทำไมเซเบอร์/ไรเดอร์ต้องพยายามเต็มที่เพื่อกันไม่ให้อสูรยักษ์เข้าถึงฝั่งที่มีพวกญี่ปุ่นมุงอยู่เต็มไปหมด ดังนั้น---- หากอสูรทะเลนั้นกลืนกินมนุษย์ได้   โอกาสชนะของฝ่ายเซอร์แวนท์ทั้ง 3 ยิ่งน้อยลงมากเลย เพราะพลังมันสามารถเพิ่มและฟื้นฟูได้อีก  ยกเว้นแต่จะมีอาวุธโจมตีที่รุนแรงมากพอจะทำลายร่างกายของสัตว์อสูรทุกชิ้นส่วนให้ได้ในพริบตาเดียว จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:28:29

ความคิดเห็นที่ 11 6.ประเด็นวิเคราะห์ฝั่งวีรชน 6.1 Location+ Strategy ลองมาดูตำแหน่งของการต่อสู้กันก่อน   สภาพการณ์โดยรวมจะเป็นลักษณะนี้ครับ =======================                            IIIIII ไอริ  + [เวเวอร์] + (แลนเซอร์)     IIIIII =========================   IIIIII ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~IIIIII ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~IIIIII ~~~~~~~~~~~~~~~~~(ไรเดอร์)~IIIIII ~~~~~~~~~~[อสูรทะเล]~~~~~~ IสะพานII ~~~~~~~~~~[อสูรทะเล]~~~~~~ IIIIII ~~~~~~(เซเบอร์)~~V~~~~~~~[ป๋า]IIIIII ~~~~~~~~~~~~~~~~V~~~~~~~~~~~IIIIII ============================IIIIII ญี่ปุ่นมุง  ญี่ปุ่นมุง   [อุริว]   ญี่ปุ่นมุง =========================== ภาพประกอบกากไปหน่อยอย่าได้ถือสาละกัน  แต่เราจะมองเห็นว่า - ด้านนึงคือสะพานที่ป๋าคิริงิสุแอบซุ่มสังเกตการณ์ - อสูรของคาสเตอร์จะกระดื๊บกระดื๊บยื่นหนวดดุ๊กดิ๊กมุ่งหน้าไปหาเหล่าญี่ปุ่นมุง - โชคดีที่หมอกหนาจัดทำให้คนส่วนมากมองเห็นไม่ชัด (ทรรศนะวิสัยเลวมาก) - แผนการโดยรวมของ 3 วีรชนนี้คือ -เซเบอร์ยัน, ไรเดอร์บุก, แลนเซอร์ปิดฉาก แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:31:55 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:31:36 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:31:09

ความคิดเห็นที่ 12 แต่โดยรวมปัญหามีเยอะมากในการดำเนินกลยุทธ์ - เซเบอร์จะคอยยืนดันหนวดให้ถอยกลับไปแต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อย เพราะหนวดตัดมันก็งอกใหม่ ได้แค่ชะลอคาสเตอร์แค่นั้นเอง - ไรเดอร์เองที่ต้องรับหน้าที่บุกนั้นเสี่ยงมาก  เพราะเป็นการโฉบเข้าใส่ศูนย์กลางคู่ต่อสู้ (เซเบอร์แค่ยั้งหนวด) - ไรเดอร์ทำได้เพราะรถศึกโคขุนของลุงแกมีสายฟ้ารอบตัวเป็นอาวุธคอยเผาหนวดรอบๆ และมีความเร็วที่สูงพอจะโฉบผ่านรยางค์ทั้งหลาย - ไรเดอร์อาจจะทำได้ดีกว่านี้ถ้ากล้าได้กล้าเสีย ชาร์จเข้าศูนย์กลางลำตัวของสัตว์ประหลาดในตำแหน่งที่เคราครามซ่อนอยู่ เพื่อฆ่าทิ้งตรงๆเลย - แต่การทำแบบนั้นไรเดอร์คงกลัวว่าเสี่ยงเกินไป  ถ้าชาร์จเข้ากลางตัวแล้วเกิดวืดขึ้นมาจะไม่มีใครช่วยลุงกลับออกมาได้เลย - อนึ่งที่ไรเดอร์ไม่กล้างชาร์จเต็มตัวอาจเป็นเพราะว่ามีมาสเตอร์อยู่ข้างๆด้วยหละ - แลนเซอร์ หน้าทีหลักๆคือรอซ้ำ  แต่ปัญหาคือแลนเซอร์เดินบนน้ำแบบเซเบอร์ไม่ได้   และหากเข้าไปใกล้หนวดเมื่อไหร่แล้วไม่มีจังหวะให้แลนเซอร์ชิ่งเข้าออกก็เท่ากับโดนกินชัวร์ๆ - สิ่งที่ทุกคนตั้งใจจะทำคือ  ถ้าไรเดอร์เผาสายฟ้า (บิริๆ) ใส่เคราครามจนมองเห็นตัวหรือหนังสืออาคมที่เป็นอาวุธเมื่อไหร่ - หอกแดงแลนเซอร์จะพุ่งไปเสียบทันที...และเมื่อ NP สลายพลาน่าของแลนเซอร์ทำงานปุ้บ  สัตว์ยักษ์ที่เห็นก็จะไร้แหล่งพลังงานในการคงรูปและสลายไปอย่างรวดเร็ว - ดังนั้นกรณีนี้แลนเซอร์ต้องถูกเก็บไว้เป็นตัว Lategame ท้ายสุดครับ เพราะถ้าโดนกินก่อนก็จบเห่ง่ายๆ ดังนั้น..สิ่งที่หลังจากทุ่มเทอัดกันพักใหญ่แล้วไม่ได้ผลเลย   ต้องชมเชยไรเดอร์มากกว่าเซเบอร์มากที่รู้จัก "ร่นถอย" มาปรับกระบวนทัพใหม่....เพราะในการ"ดวล"ของอัศวินการถอยหนีหมายถึงความเสื่อมเสียของเกียรติยศ  แต่สำหรับผู้ชาญ "สงคราม" การถอยหนีเพื่อตั้งหลักนั้นหมายถึงการ "สงวนกำลังรบ" เพื่อเผด็จศึกใหม่ในภายหลัง.... นี่เป็นคุณสมบัติของเสนาธิการที่ดีเลิศในทุกยุคสมัยเลยครับที่จะต้องรู้ว่าตอนไหนควรบุก และควรถอย (ไม่ดันทุรังนั่นแล) Note: หากลุงไรเดอร์ไม่ถอยแต่เนิ่นๆ  เป็นไปได้ว่าจะยับยั้งการคืบหน้าของอสูรทะเลได้อีกนิดหน่อย  แต่ท้ายที่สุด  ทั้งมาสเตอร์และเซอร์แวนท์ก็ต้องหมดสิ้นพลาน่าในการต่อสู้อยู่ดี แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:33:13 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:32:53

ความคิดเห็นที่ 13 6.2 ถ้าหากให้เสนาธิการสมัยนี้มาวางแผนรบแทนหละ? ทุกท่านเคยเรียน รด ไหมครับ?  ยุทธวิธีพื้นฐาน 3 อย่างของทหารราบที่ทุกคนต้องรู้จักก็คือ "เข้าตี"  "ตั้งรับ" และ "ร่นถอย"   การวางแผนเข้าต่อตีกับฝ่ายตรงข้ามไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านี้เลยตลอดประวัติศาสตร์สงครามนับหมื่นปีของโลกเรา (และก็คงรวมถึงวีรชนด้วยหละ)   เพียงแต่สิ่งที่เหล่ากุนซือ (หากสมมุติว่าเป็นผู้รับผิดชอบยุทธการนี้) จะต้องคิดคำนึงก็คือ "การเข้าตีที่่มั่นของฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่ง"  ซึ่งเป็นโจทย์ยากมากเหมือนกับพยายามหักด้ามพร้าด้วยเข่า   หรือเปรียบเทียบชัดๆก็เหมือนกับการสั่งเข้าตีปราการแอตแลนติคที่หาดโอมาฮ่า ใน D-Days หรือเนิน 1428 โดยตรงเลย [แล้วจะทำยังไงหละ?]   ผมลองแจกแจงเป็นขั้นๆกับเพื่อนฝูงดูและพอจะตกผลึกแนวคิดได้ประมาณนี้  อาจจะไม่ใช่วิธีที่สมบูรณ์แบบเพราะเรามีข้อมูลสถานการณ์เพียงเล็กน้อย จึงต้องตัดสินใจภายใต้เงื่อนไข - เรื่อง 'เวลา' มีจำกัดโดยให้ขึ้นกับระยะที่อสูรทะเลจะขึ้นฝั่งเพื่อกินคน - การไม่ใช่เอ็กซคาลิเบอร์ เป็นสำคัญครับ (ถือว่าฝ่ายแลนเซอร์จะไม่ควรเสียเปรียบ) - เบอร์เซอร์เกอร์ไม่เข้าขัดขวาง (ถ้าขัดขวางการแก้ทางคือทำแบบในอนิเม ที่ส่งแลนเซอร์สกัด) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:35:16

ความคิดเห็นที่ 14 วิธีแรก "กำลังชน" 1  จอมเวทผู้เป็นมาสเตอร์จะต้องร่วมมือกันมากกว่านี้  และ "ลงทุน" ให้หนักขึ้น 2  เซเบอร์ประจำตำแหน่งเดิมคือ ถ่วงเวลาอสูรทะเลไว้ในทิศทางที่มันกำลังมุ่งหน้าไป 3 ไรเดอร์พาไอริ+เวเวอร์ ไปยังฝั่งตรงข้ามที่มีญี่ปุ่นมุงเยอะๆ ให้ไวก่อนจะโฉบกลับไปคอยหนุนเซเบอร์ 4 ไอริ+เวเวอร์ + คิริงิสุ  ช่วยกัน "ฆ่า" (หรือขับไล่) คนธรรมดาที่เป็นญี่ปุ่นให้ได้จำนวนพอสมควร 5. การฆ่าคนรอบๆจะมีประโยชน์ช่วยกันขับไล่คนออกนอกพื้นที่ได้  และถ้าเรื่องไปถึงตำรวจจะยิ่งดี เพราะเจ้าหน้าที่จะช่วยให้การสกัดกั้นไม่ให้พลเรือนอีกทางนึง (การฆ่าตำรวจจำนวนน้อยๆเพื่อปิดปากยิ่งสะดวกกว่าด้วย) 6. เมื่อพื้นที่รอบๆปราศจากผู้คนแล้วจะทำให้สัตว์อสูรหาแหล่งพลังงานทดแทนได้ยากขึ้น และความเชื่องช้าของมันจะเป็นอุปสรรคในตัวเอง 7. การฆ่ามาสเตอร์  อุริวยังเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างยิ่งยวด เพื่อตัดแหล่งพลังงานคาสเตอร์ ซึ่งกรณีนี้คิริงิสุสามารถชี้เป้าและสังหารได้ไม่ยาก (จะให้ไอริ หรือเวเวอร์ไปฆ่าแทนก็ได้ เพื่อข่มขวัญคนที่อยู่รอบๆไปอีกทางนึง) 8. ไรเดอร์รับแลนเซอร์ขึ้นมาอีกบนรถแทนที่เวเวอร์  กรณีนี้ไรเดอร์จะมีพลหอกคอยสกัดกั้นหนวดทั้งหลายอีกทางนึง ทำให้ลุงไรเดอร์มีการป้องกันแน่นหนาขึ้น 9. บนรถศึกนอกจากสายฟ้าที่ยิงเป็นระยะ  ยังมีหอกแดง หอกทอง (ที่ไม่ต้องใช้พลาน่า) คอยฟาดฟันเสริม ( ช่วยให้ประหยัดพลาน่าของน้องวัวไปในตัว) 10. ทีมไรเดอร์จะเปลี่ยนจากการโฉบปล่อยสายฟ้า  จะเป็นการพุ่งเข้าอัดตรงๆเลยเพื่อทำลายสัตว์อสูรเป็นบริเวณกว้าง (เหมือนลง map) 11. จุดอ่อนที่ไรเดอร์ไม่กล้าชนตรงเพราะหนวดรัด  จะถูกปิดด้วยแลนเซอร์พร้อมกับเกลไบน์ (หอกทอง) ซึ่งสร้างบาดแผลที่รักษาไม่ได้   12. การที่มีทวนทองอยู่ข้างกาย นั่นหมายความว่าหนวดที่ถูกสายฟ้าฟาดไป และหอกฟันใส่จะเป็นการ "ขาดแบบถาวร" และฟื้นฟูไม่ได้ 13. จริงอยู่ที่ว่าหนวดทั้งหลายมีเป็นจำนวนมาก  แต่ถ้าหนวดเส้นเดิมมันฟื้นคืนไม่ได้ก็หมายถึงว่า  อสูรทะเลต้องดึง หนวดส่วนอื่นๆมาใช้แทนซึ่งยุ่งยากขึ้น 14. การที่หนวดส่วนอื่นๆพุ่งเข้ามาหาไรเดอร์ นั่นหมายถึงระยะทางยาวขึ้น  และสายฟ้าของวั๊ววัวที่สาดแต่ละครั้งจะยิ่งคุ้มค่า 15. ถ้าการชน(จังๆ) ครั้งนั้นสามารถฝ่าไปถึงตัวคาสเตอร์ได้   ทั้งไรเดอร์จะและแลนเซอร์จะมีโอกาสพร้อมกันถึงสองอย่างคือ "ฆ่าคาสเตอร์" หรือ "หอกแดงผนึกเวท" 16. แต่ถ้าชนแล้วยังหาไม่เจอ แลนเซอร์จะใช้หอกทองไล่ฟันร่างกายรอบๆอสูรด้วยความเร็วสูง  รวมถึงการชิ่งแดชไปมาบนร่างเพื่อสร้างบาดแผลเพิ่มเติม 17. แลนเซอร์เสี่ยงจะโดนหนวดน้อยมาก  เพราะสามารถใช้หอกทอง/แดงฟันทิ้งได้ และยังมีรถศึกของไรเดอร์ให้เป็นแท่นเหยียบแบบปลอดภัย (ด้วยสายฟ้าคุ้มกัน) 18. ถ้าชุดแรกหาไม่เจอก  ให้ถอยมาตั้งหลักใหม่  แล้วเล็งโจมตีจุดอื่นที่ไม่ซ้ำที่เดิม (เพราะที่เดิมคาสเตอร์ไม่อยู่ตรงนั้น) 19 ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอและฆ่าคาสเตอร์ได้ 20. ถ้าหากฉุกเฉิน, ไรเดอร์/แลนเซอร์จะโดนจับ   ก็ให้เวเวอร์/โซล่าที่เป็นเจ้านายผลัดกันใช้อาคมบัญชาเรียกกลับมา  แล้วเริ่มต้นใหม่ ด้วยยุทธวิธีนี้จะช่วยให้การโจมตีได้ผลมากขึ้นเยอะครับ    อาจไม่การันตี 100%   แต่การประสานการโจมตีแบบนี้จะทำให้สัตว์อสูรที่เชื่องช้านั้นเสียเวลามากขึ้นแน่นอน  และน่าจะยับยั้งมันได้นานพอจนกระทั่งมานาหมด, หรือฆ่าตัวคาสเตอร์ผู้ควบคุมไดด้วยโอกาสที่สูงขึ้น    ส่วนถ้ามีการใช้อาคมบัญชาจริง  ถ้าเอาชนะศึกนี้ได้  หลวงพ่อคงมีรางวัลชดเชยให้แหละ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:36:55

ความคิดเห็นที่ 15 วิธีที่สอง "จิตวิทยา" 1. กล่อมสั่งให้เซเบอร์ปลอมตัวเป็นท่านเซนต์ ณาน ดาร์ค ไป 2. ถ้าเซเบอร์ไม่ยอมให้ใช้อาคมบัญชาสั่งเลย 3. ให้เวเวอร์เขียนจดหมายรักให้หน่อย  ทำเป็นบทเป็นกลอนด้วยก็ดี (เห็นว่าน้องหนูนี่เขียนหนังสือเก่ง) 4. ให้เซเบอร์สารภาพรักกับ  หลอกล่อเคราครามมันให้ได้  อาจจะอ้อนเป็นป๋าคะป๋าขาเลยก็ไม่เลว 5. อย่างที่รู้ๆว่า จิลเดอไรย์ นั้นหลงณาน อย่างกับคนติดยา  ดังนั้นกล่อมให้เป็นพวกไปรุมป๋ากิลยังได้เลย 6. พอหมดประโยชน์ก็เพ่นกบาลคาสเตอร์สะ  แล้วก็ชนะ  (ฮูเล่!) 7. ไปขออาคมบัญชาใหม่จากหลวงพ่อ  แล้วสั่งให้เซเบอร์มาแต่งงานกับผมซะ! ปล. วิธีหลังได้ผลง่ายกว่ามากครับ   ถ้าหากคุณชั่วร้ายพอ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:39:28

ความคิดเห็นที่ 16 7. ถ้าเป็นมนุษย์เดินดินและกองทัพปัจจุบันหละ? - หากเป็นสงครามโดยปกติ และต่อสู้โดยกองทัพของมนุษย์โลกคงไม่พ้นต้องใช้อาวุธต่อต้านสิ่งมีชีวิตระดับสูงอย่างอาวุธรังสีนิวตรอน/แกรมม่าที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตเป็นบริเวณกว้าง (คล้ายๆใน gundam seed แหละ) หรือไม่ก็ต้องตัดใจอาวุธใช้นิวเคลียร์ถล่มเลยครับ หากต้องการสังหารแบบเร่งด่วน  แต่ถ้ามีเวลามากพอมนุษย์อาจคิดค้นสารเคมีอันตรายหลายๆอย่างมาฆ่าทิ้งก็ได้ครับ....เทคโนโลยีด้านอาวุธเชื้อโรคและเคมีรุนแรงเดี๋ยวนี้น่ากลัวและสยองมาก...ดังนั้นมนุษย์น่าจะมีวิธี 'ฆ่า' มันได้อยู่ดี (แต่กรณีนั้นโลกของจอมเวทคงถูกบังคับเปิดเผยต่อสังคมโลกทั่วไปแน่นอน....และคงเกิดปัญหาสังคมและความขัดแย้งมหาศาล) จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:40:59

ความคิดเห็นที่ 17 8. อาวุธของนักฆ่าจอมเวท ย้อนกลับมานิดนึง, ตั้งแต่ตอนที่ 14  อาวุธที่จอมเวทอย่างคิริงิสุใช้ปลิดชีวิต ฆาตกรโหดอย่างริวโนะสุเกะ  เพื่อกำจัดมาสเตอร์ของคาสเตอร์นั้นคือปืนซุ่มยิงระยะกลางแบบ Walther WA2000 อันโด่งดังของเยอรมันซึ่งมีจุดน่าพิจารณาอยู่บางประการเหมือนกันในแง่อำนาจการทำลายของอาวุธ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:41:25

ความคิดเห็นที่ 18 Ques: ทำไมยิงแล้วหัวไม่ระเบิดฟะ!?  ไม่สะใจเลยย!? Ans: - ฆ่าได้ก็พอแล้วครัฟคุณ!   ทหารเขาไม่สนใจหรอกว่าต้องยิงให้ระเบิดโผล๊ะแตกเหมือนแตงโม - กระสุนมาตรฐาน 7.62x51 mm (หน้าตัดกระสุน 7.62 มิลลิเมตร/ ความยาวรวม 51 มิลลิเมตร) แบบมาตรฐาน NATO - ซึ่งกระสุนลักษณะนี้ออกแบบให้มีขีปนาวิธีที่เรียบ ตรง โดยเฉพาะเวลาที่ต้องโคจรผ่านอากาศเป็นระยะทางไกล (จะเบี่ยงเบนน้อยกว่า 5.56 mm แบบพวก M16) - สไตล์กระสุนแบบนี้จะมีความเร็วปะทะสูงมาก และเจาะทะลุทลวงได้ดี  แต่สร้างบาดแผลฉกรรณ์น้อย (พวก 5.56 จะหมุนควงเพื่อคว้านเนื้อสดๆ ทำให้บาดแผลเละกว่า) - ดังนั้นกระสุนแบบนี้ยิงปุ้บจะมีรูบนกบาลเป้าหมาย  แต่ไม่ระเบิดแน่นอน ปล. อาวุธนี้เป็นปืนประจำตัวของน้องหนูคลีโอพัตตราใน Hiddan no Aria ด้วยนะ  ถ้าจำ Blog หัวข้อเก่าเรื่องอาวุธของผมในอนิเมซีรีย์เรื่องนั้นได้ ^^" ใช้ดวลกับเรกิมาแล้วด้วย Ques: แล้วปืนนี้มันดียังไงเนี่ย หน้าตาดูจืดชืดออก? Ans: - มันเล็ก+ เบา  ถอดพับลงกระเป๋าง๊ายง่ายครับ  (ขนาดเล็กกว่าไรเฟิลแบบอาก้าทั่วไปอีก) - มันมีลำกล้องเปลี่ยนได้หลายแบบ,  บางกรณีอาจเปลี่ยนไปใช้กระสุน .300 magnum หรือ 7.5x55 Swiss แทนก็ได้เพื่อเพิ่มระยะยิง - ระยะยิงหวังผลใกล้ไปนิดนึงคือแค่ 700 เมตร  แต่ก็นับว่าเหลือเฟือสำหรบการยุทธ์ในเมือง - ออพชั่นมันเพียบครับ โดยเฉพาะกล้องเล็งหลายขนาด ~ ในเรื่อง Fate/Zero คิริงิสุนำระบบ Thermal Vision (กล้องตรวจจับความร้อน) มาติดใส่ด้วย - เรื่องการติดตั้งระบบตรวจจับความร้อนก็เป็นจุดเด่นนึงของ Wa2000 เวอร์ชั่น mod จอมเวทเหมือนกัน  เพราะคิริงุสึมันสังเกตเห็นว่าถ้าจอมเวทมีการใช้พลังสูงๆเมื่อไหร่...วงจรเวทในร่างจะทำงานและทำให้ร่างกายในร่างร้อนขึ้นแบบผิดปกติ - อุริว ริวโนะสุเกะ  แม้จะไม่ใช่จอมเวทแต่ก็มีวงจรเวทมนต์ในตัวเหมือนกัน  และเมื่อเรียกใช้งานคาสเตอร์อยู่ทำให้คิริงิสุสามารถใช้ปืนกระบอกนี้แยกแยะความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับจอมเวทรอบตัวได้ - [โป้ง!] Ques: ถ้าอยากยิงให้หัวแตกดังโผละ ต้องใช้อะไรอะ? Ans: แนะนำกระบอกนี้ครับ .50 Barret M82 ปืนซุ่มยิงต่อต้านยานเกราะ (ถ้าไม่ใช่รถถังยุคที่ 3 ขึ้นไป ปืนนี้จะยิงทะลุเกราะเหมือนยิงใส่กระดาษเลย)  แค่น้ำหนัก+ขนาดกระสุนแต่ละนัดก็เกือบเท่าไอโฟนเครื่องนึงแล้ว  แถมยังสามารถใช้กระสุนแบบ 'เจาะเกราะเพลิง' หรือ 'ระเบิดเจาะเกราะ' คล้ายๆในปืนใหญ่อากาศได้ด้วย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:43:08

ความคิดเห็นที่ 19 ปล. นอกเรื่อง  น้องคลีโอฯ     ทำไมปืนของเฮียคิริงิสุมันนิยมใช้หลายเรื่องจังฟะ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 22:45:18 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:44:42

ความคิดเห็นที่ 20 แวะมารับความรู้~ เหมือนจะมีอีกครึ่งสินะครับ? จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:45:34

ความคิดเห็นที่ 21 9. ราชาที่เข้าประจัญหน้าตามลำพัง จุดนี้ไรเดอร์โยนมาสเตอร์ตัวเองออกครับ  สาเหตแรกที่ไปคนเดียวก็เป็นอย่างที่ลุงแกพูดว่าอยากได้คนเฝ้าข้างนอก....แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีเหตผลแฝงได้อีก 3 จุดก็คือ - ไรเดอร์ไว้ใจในตัวแลนเซอร์+ไอริพอสมควร  ว่าจะไม่แอบเชือดเจ้านายน้อยกลางทาง - การที่เวเวอร์อยู่ข้างนอกจะปลอดภัยตรงที่ว่า ยามฉุกเฉินอาคมบัญชายังสามารถใช้ช่วยไรเดอร์จากสถานการณ์ขับขันได้โดยปลอดภัย - เมื่อเข้าเขตอาคม  กองทัพทั้งกองจะได้มุ่งหน้าทำลายอสูรอย่างเดียว  ไม่ต้องคอยระวังคุ้มกันเวเวอร์ให้เสียกำลังพล ปล. เอาเข้าจริงๆ  รถวัวน้อยของคุณลุงกล้ามก็พริ้วหลบหนวดได้ไม่เบาเหมือนกัน  ถ้าดวลกับ F15 หรือวิมานก็คงไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่หรอก จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:46:03

ความคิดเห็นที่ 22 9. เมื่อ F15 เริ่มเข้าตาจน อีกด้านนึง, แน่นอนว่า F15 เป็นอากาศยานที่เยี่ยมยอด....และอาจจะยอดที่สุดด้วยเมื่อเทียบกับเครื่องบินยุคที่ 4 เช่นกัน  แถมมีพลขับขั้นสุดยอดอย่างเบอร์เซอร์เกอร์อีกต่างหาก   แต่พอเทียบกับวิมานของเทพเจ้าที่ขับเคลื่อนดังใจนึกโดยเพิกเฉยต่อกฎฟิสิกส์บนโลกแล้ว  ก็ดูจะเป็นงานที่ยากลำบากมากเลยทีเดียวสำหรับฝ่ายอากาศยานรบที่จะไล่ล่ากันไปกันมาให้เด็ดขาดได้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:46:43

ความคิดเห็นที่ 23 จังหวะแรก  F15 พยายามหนีการไล่ล่าของวิมานด้วยสเต็ปตามนี้ครับ 9.1) F15:ไฮจี บารเรล โรล์ (High G Barrel Roll) (นาทีที่5:10) ดูได้จากรูปประกอบเป็นเครื่องสีฟ้าครับ  โดยพี่ด๊ำดำจะใช้ท่าบินนี้ในการบิดตัวขึ้นบนไต่ระยะสูง พร้อมกับฉีกออกข้างแล้วสะบัดปีกกลับมาไต่ระยะซ้ำสองเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายบินเลยไปข้างหน้าให้ได้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:47:22

ความคิดเห็นที่ 24 - จังหวะนี้แรง G สูงมากครับ  นักบินคนไหนอึดไม่พอจะน็อคอย่างเดียว (ชื่อท่าถึงเรียกกันว่า Hi-G) แถมโครงอากาศยานจะรับภาระหนักอย่างยิ่งเลย   (นึกภาพหนังตาคุณถูกถ่วงด้วยน้ำหนักระดับ IPAD 1 เครื่องได้ทันที) และอาจเกิดทั้งอาการ BlackOut/Redout (ตาดับ/เลือดไปเลี้ยงร่างกายส่วนบนไม่พอทำให้วูป....หรือไปเลี้ยงมากเกินไปทำให้เส้นเลือดในดวงตาแดงก่ำ) ได้อีกต่างหาก   แต่สำหรับวีรชนแล้วเรื่องแค่นี้ไม่หวั่น    พี่เบอร์ดึงเครื่องเชิดหน้ากลับมารักษาความสูงและเตรียมหันเข้ามุมยิงอีกทีจนได้ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:48:04

ความคิดเห็นที่ 25 9.2) วิมาน: ท่าอะไรสักอย่างนึง~ (นาทีที่5:15) - วิมานเห็นว่าฝั่งF15 หลุดพิสัยการยิงตัวเองไปแล้ว  แถมกำลังตั้งลำเล็งยิงใหม่....แต่ปิกะปิกะสะอย่าง~  อยู่ๆก็หักเลี้ยวขวาแทน (หยุดดื้อๆเลย) เลี้ยวหักข้อศอกเหมือนเป้นการดริฟรถยนต์เอาสะงั้นทำให้หลุดจากระยะยิงของพี่ดำไปอีกรอบนึง   ท่าบินลักษะนี้เครื่องบินทั่วไปทำไม่ได้เลย   ยกเว้นแต่เฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินประเภทขึ้นลงทางดิ่ง (VTOL) เช่น F35B หรือ AV8 แฮริเออร์ เท่านั้นเอง จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:49:16

ความคิดเห็นที่ 26 10. สัตว์อสูรทะเลมาถึงแล้ว - เหล่าญี่ปุ่นมุงทั้งหลายได้เวลาแตกตื่น  (แล้วพวกเมิงมากันทำไมเนี่ย !?)  แล้วตำหร่งตำรวจไม่มาดูแลกันมั่งเลยรึ!  ทำหยั่งกับประเทศสารขัณฑ์ไปได้~~โอ้วว  เจ้าของกระทู้เห็นแล้วหงุดหงิดระดับแพลตตินั่ม!! จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:49:58

ความคิดเห็นที่ 27 11. F15: สปิริต เอส (Split S) (6:05) กลับมาอีกที, อยู่ๆ F15 ก็โดนเกาะติดอีกครั้ง  (ทำไมอยู่ๆกลับมาเสียเปรียบอีกทีกรุณาอย่าถามครับ  เพราะจขกท ก็งงๆอยู่)  แต่เอาเป็นว่าพี่ดำทำท่าจะแย่แล้วหละ เพราะ F15 ตอนนี้ทำท่า Split S ทิ้งดิ่งหนี ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากเพราะแสดงว่า...อากาศยานเครื่องนี้กำลังต้องการความเร็วฉับพลันเร่งด่วนจนยอมเสียตำแหน่งความสูงไปเพื่อสร้างระยะห่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้      แต่ว่าโชคยังดีนิดนึงตรงที่พี่ดำเราเสียเปรียบที่ระยะยังสูงมาก (น่าจะเกิน 10,000 ฟิตขึ้นไป) แก้คำผิด// แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 01:23:11 จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:50:55

ความคิดเห็นที่ 28 จัดท่าทางทิ้งดิ่งลงมาหาสปีดเพิ่ม จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:51:31

ความคิดเห็นที่ 29 วิมานเองก็ไล่ล่าไม่ลดละเหมือนกัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:51:59

ความคิดเห็นที่ 30 12. วิมานซัลโวอาวุธวิเศษ (6:24) กิลกาเมซยิงอาวุธใส่แบบรัวๆครับ  เป้าหมายก็ยิงดักหน้า+ซ้าย นี่แหละ  แต่มีเจตนาที่เห็นได้ชัดคือ ไม่ยิงดักทิศทางเบื้องล่าง เพราะอยากเห็นหน้าตาตอนที่ F15 โหม่งภูเขา (อสูรทะเล) นั่นทำให้พี่ดำหลบหลีกไม่ยากเท่าไหร่  แต่จะสูญเสียความสูงไปเรื่อยๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:52:25

ความคิดเห็นที่ 31 13. เบอร์เซอร์เกอร์เตรียมรับสถานการณ์ ตลอดเวลาที่หลบหลีกอาวุธวิเศษของกิลกาเมซ   เบอร์เซอเกอร์ยังไม่หลุดจากท่าบินหลักของตัวเองคือ SpiritS เลยนะ เพียงแต่หักหลบซ้าย-ขวา บ้างก่อนจะกลับมาท่าบินหลักซึ่งเป็นการทิ้งดิ่งอยู่  แต่ท่าบินนี้มีอันตรายมาก (จัดเป็นท่าบินที่ทำให้นักบินโหม่งพื้นมากที่สุดในโลก)  เพราะความเร็วที่สูงมากของเครื่องเจ็ต และต้องเบรคอย่างกระทันหันก่อนที่จะจูบพื้นดิน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:53:04

ความคิดเห็นที่ 32 คิดซะว่ากิลกาเมซเรากำลังยิงฟรีคิ๊กใส่อยู่ครับ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:53:40

ความคิดเห็นที่ 33 จังหวะนี้จะเห็นพี่ดำเปิดปิด ปีกเล็กแก้เอียงแบบถี่ยิบ และปรับท่อไอพ่น +แพนหางหลังเพื่อเชิดหน้าให้เร็วที่สุดเป็นการลดแรงปะทะหากต้อง 'กระแทก' กับอสูรทะเลตรงหน้าจริงๆ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:54:06

ความคิดเห็นที่ 34 ปล.  ท่อไอพ่นจริงๆมันปรับไม่ได้นา....  แต่ F15 มีแพนหางหลังที่ใหญ่มากเพื่อช่วยทำท่าบินผาดโผนรุนแรงแบบนี้นี่แหละ จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:54:54

ความคิดเห็นที่ 35 14. โผบินเรี่ยผิวน้ำ แต่โชคดีมากสำหรับ F15 เพราะอีกด้านนึงลุงอเล็กแกเปิดเขตอาคมดึงสัตว์อสูรทั้งตัวไปเก็บไว้ต่างมิติจังหวะเดียวกันเป๊ะเลย ทำให้F15 รอดพ้นจากการชนไปได้แบบฉิวเฉียด  และเบอร์เซอร์เกอร์ก็ไม่พลาดโอกาสนี้  หันกลับมาเร่งความเร็วใหม่อีกครั้ง  โดยพุ่งทะยานเหนือผิวน้ำในระดับที่เรียกว่า "เพดานบินต่ำที่สุดในโลก"   เพราะท้องเครื่องบินห่างจากผิวน้ำยังไม่ถึง 1 เมตรดีเลยด้วยซ้ำครับ....แม้ว่า F15 จะมีโปรแกรมบินเกาะภูมิประเทศแบบอัตโนมัติ   แต่การบินด้วยความเร็วเหนือเสียงที่ระยะสูงนี้มีอันตรายมากราวกับซิ่งรถสปอร์ตบนลวดเส้นเดียวเลย จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:55:37

ความคิดเห็นที่ 36 ...และจังหวะเดียวกัน ที่บินเรี่ยผิวน้ำนั้นเอง....เบอร์เซอร์เกอร์ก็ได้สบสายตากับราชาอัศวิน.... จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:56:09

ความคิดเห็นที่ 37 . . . . . . . . ดึกแล้ววว~~ ตอนแรกว่าจะเขียนเฉพาะด้านการทหาร  ไปๆมาๆ โชว์นู้ปเรื่องพิมพ์จันทร์ไปเยอะเลย~~ ที่เหลือขอติดไว้ก่อนครับ  ไว้ว่างๆอาจมาเขียนต่ออีกทีนึง  วันนี้ขอไปแอ้งแม้งเปิดวงฉลองสงกรานต์กับคนอื่นเขามั่งก่อนครับ /me  Happy สงกรานต์ทุกท่าน  ขอให้โชคดีมีชัย เดินทางปลอดภัยถ้วนหน้ากัน จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 22:58:22

ความคิดเห็นที่ 38 รอตอนต่อไปด้วยใจระทึก~ (ถ้ามีแบบนี้ได้ทุกตอนคงจะเป็นอะไรที่ล้ำเลิศไปเลยทีเดียวเชียว) แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 23:05:49 จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:05:06

ความคิดเห็นที่ 39 อ้าวซะงั้น!!!? โอเคไม่เป็นไร จะรอ part 2 ต่อแบบติดขอบกระทู้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 06:45:26 จากคุณ : ลูกตาแก้ว เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:11:34

ความคิดเห็นที่ 40 แค่ตอนเดียว เขียนเป็นเรื่องเป็นราว จับโน้นผสมนี้ ได้ตั้งขนาดนี้  ขอซูฮกจริงๆ คุณครอส จากคุณ : Blackrx เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:17:32

ความคิดเห็นที่ 41 ท่านครอสมีคำถามในยุทธการณ์การรบครับ 4 ไอริ+เวเวอร์ + คิริงิสุ  ช่วยกัน "ฆ่า" (หรือขับไล่) คนธรรมดาที่เป็นญี่ปุ่นให้ได้จำนวนพอสมควร<< ไม่ใช่คำถามแต่อึ้งง่ะท่านครอสลงทรงคิริสึกุแล้วโหดมากๆ(แต่ผมเห็นด้วยนะวิธีไล่คนที่ดีที่สุดในโลกคือเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะถ้าไปพุดเดี๋ยวมันจะเถียงกลับมาชักช้าเสียเวลามาก) 11. จุดอ่อนที่ไรเดอร์ไม่กล้าชนตรงเพราะหนวดรัด  จะถูกปิดด้วยแลนเซอร์พร้อมกับเกลไบน์ (หอกทอง) ซึ่งสร้างบาดแผลที่รักษาไม่ได้   12. การที่มีทวนทองอยู่ข้างกาย นั่นหมายความว่าหนวดที่ถูกสายฟ้าฟาดไป และหอกฟันใส่จะเป็นการ "ขาดแบบถาวร" และฟื้นฟูไม่ได้ ^ ^ สองอย่างนี้อาจจะมีปัญหาถ้าศัตรูมีสติปัญญามากพอหรืออาจจะใช้สัญชาติญาณได้ เพราะจุดที่หอกทองส่งผลลดระดับ HP Max ให้ต่ำนั้นจุดที่เกิดแผลด้วยหอกทอง ถ้าเลื่อนเข้ามาหน่อยแล้วตัดทิ้งส่วนนั้นไปด้วยอย่างอื่น(ซึ่งมันอาจจะตัดหนวดตัวเองได้)ก็จะไม่ได้รับผลแล้วสามารถงอกใหม่ได้อีก จากคุณ : wingaura เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:22:31

ความคิดเห็นที่ 42 ไว้จะรออ่านฉากตู้ทองกินพลุแฟลร์นะครับ(ฮาาาา) จากคุณ : Speak เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:23:13

ความคิดเห็นที่ 43 กำลังอ่านมันส์ๆเลย แหมลงแดงไปอีก 1 คืนเลยงานนี้ ขอบตุณสำหรับเนื้อหาดีๆนะึครับ พรุ่งนี้จะมาติดตามต่อครับ จากคุณ : peTOUCHso เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:29:28

ความคิดเห็นที่ 44 สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:35:44

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ Kross ทำงี้ผมนอนไม่หลับนะนี่ จากคุณ : ILoveHusky เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:47:27

ความคิดเห็นที่ 46 แหมกำลังมันเลยครับ จะรอวิเคราะห์ตอนกิลโดนแฟลร์ง่ายๆนะครับ จากคุณ : Arata เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:49:00

ความคิดเห็นที่ 47 อสูรแคสเตอร์ ยิ่งดูยิ่งทำให้นึกถึง ซายะกินแมว จริงๆที่ถ้าขึ้นฝั่งได้ก็จะไม่มีใครหยุดมันได้เนี่ย ตอนคาริยะ อย่าลืมว่ามีคิเรย์จ้องดูห่างๆอย่างห่วงๆอยู่ ถึงจะออกแผนหนี คิเรย์หมดความสนใจโดนตามไปฆ่าแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 55 23:54:47 จากคุณ : Bluesardeen เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 23:51:13

ความคิดเห็นที่ 48 ยาวดีจริงๆ แบบนี้ต่อให้พวกที่ไม่เคยดู fate/zero มาอ่านก็คงรู้เรื่องแหละ จากคุณ : บักจืดจาง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:03:58

ความคิดเห็นที่ 49 ไปหมดละครับ สมงสมอง //ฮ่า่ฮ่าฮ่า ไว้รีเซตมู้แนะนำมากดโหวตให้แน่นอน! จากคุณ : แต๋วแหน่ว เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:24:01

ความคิดเห็นที่ 50 พี่ Kross บันไซ!!!! (ขออนุญาตเรียกพี่เลยแล้วกันนะคะ นับถือจริงๆ) ต้องกลับไปดูใหม่เพราะบทความนี้กับบทความก่อนหน้านี้แ้ล้วแหละเนี่ย โดนใจมากๆ อยากอ่านต่อเร็วๆด้วย พี่จะรีวิวทุกตอนไหมค๊า จะตามอ่านอย่างไม่ลดละด้วย!!! ป.ล. กรี๊ดภาพประกอบ เห็นด้วยว่าจริงๆน้องวัวก็พริ้วมากน๊า และป๋าก็ละเอียดอ่อนกว่าที่แสดงออกเยอะ (แค่เวเวอร์จะไม่ยอมลงเท่านั้นเองแหละ อยู่ไปหนูก็ช่วยไรป๋าไม่ได้นะลูกนะ ถึงพี่จะรู้ว่าหนูเป็นห่วงป๋าแต่ซึนใสอยู่ก็เหอะน่ะ) จากคุณ : ตลกวิชาการ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 00:27:56

ความคิดเห็นที่ 51 กดโหวตกันด้วยนะครับ จากคุณ : St.RL เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 01:12:10

ความคิดเห็นที่ 52 ไรอ้ากำลังมันส์ จากคุณ : NJ_kung เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 01:19:11

ความคิดเห็นที่ 53 ละเอียดมาก! รอดูต่อนะคะ จากคุณ : หมาป่าเงอะงะ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 01:32:48

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามาติดตาม... จากคุณ : Dreammaker_Toon เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 01:56:06

ความคิดเห็นที่ 55 ฮากลยุทธ์ ค.ห. 15 จริงๆ สั่งเรย์จูบังคับให้เซเบอร์แต่งเป็นโจนไปอ่อยเคราครามให้ตายใจ มันเงิ่บมากกกกกกกกก 5555555555555555555555+ จากคุณ : PromZero เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 03:21:45

ความคิดเห็นที่ 56 พึ่งนึกขึ้นได้ ถึงบักกิลมันจะประมาทขนาดไหน แต่การที่โดน Flare เล่นงานได้นี่ ก็แปลว่าระบบป้องกันออโต้ของพี่แกก็ไม่ได้perfect สินะ (ไม่ต้องถึงขนาดครอบคลุมทั้งวิมานก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะถึงขนาดบาดเจ็บจนไรเดอร์รู้ได้) จากคุณ : athran (สุนันยา) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 04:55:37

ความคิดเห็นที่ 57 น่าจะแค่คุ้มกันทั้งตัวมากกว่าล่ะนะ(แถมแรงระเบิดจากวิมานมันน่าจะออกมาแบบทั่ว ๆ ) อนึ่ง ในนิยายวิมานจะควงสว่านตกน้ำป๋อมแป๋มเจ้า~ จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 06:03:45

ความคิดเห็นที่ 58 จริง ๆ พวกเซอร์แวนท์นี่มีระบบต่อต้านแรง G ในตัว? ปล. รึเพราะเป็นวิญญาณ แรง G เลยไม่มีปัญหา มันผ่านตัวไปหมดหว่า จากคุณ : joyka เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 07:18:29

ความคิดเห็นที่ 59 อ๊า กำลังสนุกเลย จากคุณ : Ryu_jin_maru เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 08:11:42

ความคิดเห็นที่ 60 #58 ดูจากการที่เซอเวนท์แต่ละรายใช้ความเร็วเสียงกันเป็นว่าเล่น+พลิ้วกันพอตัว แถมยังมีบอกว่าตอนมีชีวิตอยู่ทำได้มากกว่านี้อีก ตีความได้อย่างเดียวว่าเป็นเพราะพวกนี้เหนือมนุษย์ครับ (แต่มนุษย์ธรรมดาแถมยังเป็นโลหิตจางยังวิ่งไต่เพดานได้ มนุษย์ในจักรวาลนี้ก็คงไม่ได้ปกตินักหรอก) แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 08:52:27 จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 08:49:08

ความคิดเห็นที่ 61 มาต่อเร็วๆนะท่าน กำลังมันส์เลย รถเทียมวัวลุงเเกพริ้วกว่าที่คิดเเฮะ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 09:56:14

ความคิดเห็นที่ 62 #60 คุณม้าใช้คะ มนุษย์ธรรมดาแต่เป็นโลหิตจางคนที่ว่านี่ใครคะเนี่ย? #Joyka ณ บางจุดทีุ่คุณพูดมาก็น่าคิดตามเนาะ สงสัยแรงจีไม่มีผลจริงๆนั่นแหละ เพราะเซอร์แวนท์ไม่ใช่คน (ส่วนที่เป็นคนก็ม่องไปแล้วตั้งแต่ตอนก่อนหน้านี้ สงสารโอกิซังมากๆ...) จากคุณ : ตลกวิชาการ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:08:07

ความคิดเห็นที่ 63 มนุษย์ธรรมดาแต่เป็นโลหิตจางคนที่ว่านี่ใครคะเนี่ย ^ ^ ^ โทโนะ ชิกิ หนุ่มแว่นเจ้าของเนตรอาคมรับรู้ความตายพระเอกTsukihime(ที่ไม่เคยเป็นอนิเม)ครับ จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:13:10

ความคิดเห็นที่ 64 แนะนำยาวไปเลยครับ จากคุณ : นู๋เอฟ คุคุ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:36:29

ความคิดเห็นที่ 65 #57 แบบนี้ถ้าไม่มีถุงลมนิรภัยออโต้บักกิลคงคอหักตายไปแล้วสินะคะ ไม่รู้ว่าเวอชั่นนิยายได้บอกไหมว่า ตอนลุกมาเก๊กยิงเกทใส่พี่เบอร์บนสะพานนี่ตัวเปียกรึเปล่า เพราะถ้าตัวเปียกยังอนิมานได้ว่า บาดเจ็บเพราะแรงกระแทก แต่ถ้าไม่นี่ก็น่าคิดจริงเชียวว่าลำพังแรงระเบิดเท่านั้น(ที่ไม่ได้ป่นวิมานเป็นผุยพง)ก็มากพอจะทำให้กิล+ระบบป้องกัน บาดเจ็บแล้ว จากคุณ : athran (สุนันยา) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 18:06:19

ความคิดเห็นที่ 66 โทโนะ ชิกิ หนุ่มแว่นเจ้าของเนตรอาคมรับรู้ความตายพระเอกTsukihime(ที่ไม่เคยเป็นอนิเม)ครับ จากคุณ : ม้าใช้ ตกลงยังไงก็จะไม่ยอมรับความจริงเเน่ๆใช่ป่ะท่าน 555 จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 18:27:26

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่รู้ว่าเวอชั่นนิยายได้บอกไหมว่า ตอนลุกมาเก๊กยิงเกทใส่พี่เบอร์บนสะพานนี่ตัวเปียกรึเปล่า เพราะถ้าตัวเปียกยังอนิมานได้ว่า บาดเจ็บเพราะแรงกระแทก แต่ถ้าไม่นี่ก็น่าคิดจริงเชียวว่าลำพังแรงระเบิดเท่านั้น(ที่ไม่ได้ป่นวิมานเป็นผุยพง)ก็มากพอจะทำให้กิล+ระบบป้องกัน บาดเจ็บแล้ว ^ ^ ^ ในนิยายไม่ได้บอกไว้ครับ(ว่าแต่ก็ไม่เคยเห็นแกหมดรูปอะไรขนาดนั้นนะ เว้นแต่ตอนกำลังจะตาย) แต่อนุมานว่าแกคงร่วงลงไปพร้อมกับเครื่องนั่นแหละ(เพราะในZero Materialบรรยายวิมานไว้ว่ามีแผงควบคุม ปืนกล ขีปนาวุธนิวเคลียร์ และระบบดีดตัวฉุกเฉินติดตั้งไว้ ซึ่งกิลไม่ได้ใช้สักอย่าง ดังนั้นถ้าไม่โดดออกมาเองก็ควรจะลงน้ำไปพร้อมกัน(ไม่ว่าทางไหนก็ดูจะเจ็บตัวทั้งคู่ ล่ะมั้ง)) เชื่อว่า กรณีวิมานควงสว่านทิ้งดิ่งแบบในนิยาย การป้องกันจากGoBคงจะไม่ได้ช่วยมากนัก เพราะเท่าที่ดูผ่านมา มันไม่ใช่สนามพลังงานที่กางป้องกัน แต่จะเป็นลักษณะใช้ข้าวของมาบังให้ตัวเองมากกว่า (เอาโล่มารับมิซไซล์ของพี่ดำ กระจกมาสะท้อนเวทที่อิลิยายิงใส่ ดาบมากมายมาขวางการฟันของเซเบอร์) ถ้าเจอการโจมตีที่เป็นแรงปะทะวงกว้างหรือคอนเสปต์ก็คงกันไม่อยู่(ยกเว้นจะเลือกชิ้นที่มีคุณสมบัติตามนั้นพอดีมาป้องกัน) วิมานที่กำลังซิ่งปักหัวลงกระแทกน้ำ ไม่บาดเจ็บบ้างก็ไม่รู้ว่าไงล่ะครับ(ขนาดขับรถตกคลองยังถึงตายได้เลย) แต่ความถึกของเซอเวนท์ที่อยู่ในการต่อสู้แบบความเร็วเสียงด้วยร่างกายเปล่า ๆ ได้มันก็คงมีส่วนช่วยไม่มากก็น้อย ที่จริง เรื่องที่แกบาดเจ็บนี่ผมก็เคยคิดไว้หลาย ๆ ทาง ทางแรกคือแกพุ่งหลาวลงน้ำไปพร้อมกับวิมาน รับแรงกระแทกกันไป อีกทางคือในนิยายบอกว่าแฟลร์ที่ยิงออกมาขยายตัวจากขนาดหิ่งห้อยกลายเป็นลูกไฟยักษ์กลืนกินวิมานทั้งลำ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าแกจะกลายเป็นAUOอบตู้ทองด้วยชุดเกราะของแกนั่นแหละ~ จะว่าไฟไม่แรงเพราะระเบิดวิมานให้พังไม่ได้ก็ใช่ที่ เพราะยังไงวัสดุมันควรจะทนทานกว่าคนสิใช่ไหม? (แต่เหตุผลที่เกยังหน้าเด้งอยู่นี่ไม่ทราบชัด อาจเป็นด้วยเซอเวนท์คือร่างวิญญาณ หรือแกมีครีมหน้าเด้งสูตรต้นตำหรับไว้ใช้ก็ไม่ทราบ บางทีที่แกลงน้ำแล้วไม่เปียกก็อาจเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยกระมัง) ปล. วันนี้จะมีตอนต่อหรือเปล่านะ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 19:39:23 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 19:25:23 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 19:23:43 จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 19:20:17

ความคิดเห็นที่ 68 ที่สงสัยก็เพราะ ขนาดว่า เอาโล่ไปรับมิซไซน์อัดพลาน่าของพี่ดำแกตั้งหลายลูกพร้อมกันยังไม่มีรอยขีดข่วน หรือแม้แต่อาวุธที่พุ่งออกไปยิงทะลุตัวหมึกยักเหมือนธนูยิงทะลุแผ่นกระดาษแบบนั้น กลับป้องกันตัวจากFlare ไม่ได้ แถมยังบาดเจ็บได้อีก (น้อยครั้งมากเลยนะที่บักิลจะบาดเจ็บได้) คิดง่ายๆแค่โล่ออกมาป้องกัน ด้วยการโจมตีระดับนี้คงไม่สามารถทำกิลบาดเจ็บได้เลย ส่วนตัวเลยรู้สึกแปลกๆกับระบบป้องกันตัวของบักกิลขึ้นมาตะหงิดๆ ว่าถ้านั่นไม่ใช่ Flare แต่เป็นอะไรที่แรงกว่านั้น พี่แกก็คงได้ตายเพราะความประมาทไปแล้วแหง จากคุณ : athran (สุนันยา) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 19:47:53

ความคิดเห็นที่ 69 เอาโล่ไปรับมิซไซน์อัดพลาน่าของพี่ดำแกตั้งหลายลูกพร้อมกันยังไม่มีรอยขีดข่วน ^ ^ ^ แกเอาไปขวางให้ระเบิดใส่โล่แล้ววิมานก็เหาะหนีนี่ครับ แต่นี่เป็นflareจำนวนมากที่พ่นใส่ในระยะประชิด จะมีเล็ดลอดผ่านรูว่างของโล่เข้าไปก็ไม่แปลกหรอกครับ ส่วนดาบทะลวงหมึก ขึ้นชื่อว่าดาบมันก็คือดาบนั่นแหละครับ+แรงปะทะที่เร่งมาไกล จะทะลุหมึกยักษ์ได้ก็ไม่แปลก และจะป้องกันไม่ได้ก็ไม่แปลก(มันมีพื้นผิวให้ป้องกันเยอะซะที่ไหน) กรณีนี้ถ้าตู้ทองมีเครื่องกางสนามพลังงานป้องกันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปครับ งวดแฟลร์นี่ดีไม่ดีจะแรงกว่ามิสไซล์อันพราน่าเสียอีกนะ(ปัจจัยความแรงมันน่าจะมาจากพราน่ามากกว่าแรงระเบิดของดินปืนด้วยล่ะ เคยลองคำนวนพลังงานของExcaliburเทียบกับปริมาณพลาน่าที่ใช้แล้วยังอึ้งกะหน่วยที่คำนวนออกมาได้) กรณีFlareนี่โล่คงไม่ช่วยเท่าไหร่หรอกครับ (ลองนึกภาพหิ่งห้อยตัวเล็ก ๆ นับร้อยพันที่พรั่งพรูออกมาจากท้ายเครื่องบินขณะที่วิมานกำลังขับจี้ท้ายชนิดมีช่องว่างนิดเดียว(ตามคำบรรยาย) หิ่งห้อยทั้งหลายมาบินตอมอยู่เต็มไปหมดแล้วก็พร้อมใจกันระเบิดบึ้มเป็นโกโก้ครั้นช์ คิดว่าต่อให้เอาโล่มากางก็คงกันได้ไม่หมดหรอกครับ(เพราะมันไม่ใช่โดมพลังงานป้องกันแต่เป็นโล่วัตถุ(แม้จะมีอิทธิฤทธิ์บ้าง)) แค่มีสักลูกไประเบิดใส่หน้ากิลได้มันก็ต้องเจ็บตัวแล้วล่ะครับ) คำว่าบาดเจ็บมันก็ตีความได้กว้างอยู่(โดยเฉพาะเมื่อเราไม่เห็นว่าแกดูบาดเจ๊บตรงไหน เก๊กเนียน) อาจจะแค่ระดับแผลไฟลวกหรืออาจจะหนักได้มากกว่านั้น(ถ้าเป็นแรงปะทะตอนพุ่งลงน้ำ ก็อาจจะได้ตั้งแต่เคล็ดขัดยอกไปจนกระดูกหัก) แต่ถ้าดูจากที่แกยังมั่นใจว่าพร้อมสู้กับป๋าอเล็กส์ ก็คงไม่ได้เป็นแผลหนักถึงขั้นฉกรรจ์ (ในภาคหลักบทFate เซเบอร์โดนแทงอกโหว่ แผลไม่หายไปแทบจะตลอดเนื้อเรื่องเธอยังสู้กับไรเดอร์+ป๋าเฮอร์คได้อยู่เลย ดังนั้นมาตรฐานความสาหัสของคนทั่วไปกับระดับวีรชนก็อาจจะคนละเรื่องกันเลยก็เป็นได้ ดังเช่นที่เซเบอร์ดูจะให้ความสำคัญกับแผลที่มือซ้ายมากกว่าที่อกเสียอีก) ปล. กระทู้เฟททีไร มักจะเข้าเรื่องตู้ทองจนได้ทุกทีเลยแฮะ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 20:16:42 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 20:13:09 จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 20:12:19

ความคิดเห็นที่ 70 คือไม่ได้คาใจเรื่องที่บาดเจ็บค่ะ แต่มันก็เป็นมาตรวัดถึงระดับการป้องกันของบักกิลได้จริงไหมคะ ว่าการป้องกันของมันนี่ก็ไม่ได้ครอบคลุมไปทุกๆสถานการณ์ ปล. เรื่อง Flare นี่ถ้ามันแรงกว่า มิซไซน์นี่มันน่าจะป่นวิมานของกิลจนกระจุยไปแล้วมั้งคะ จากกระทู้เก่าๆที่วิเคราะห์กันว่าถ้าโดนสักลูกก็คงเละ ปล2. เรื่องอาการบาดเจ็บนี่ไม่ว่าจะหนักจะเบายังไง ตราบใดที่แกยังมีสกิลประมาท 300% แกก็มั่นใจอยู่ดีล่ะค่ะ รึไม่ก็แกอาจคิดจะปิดบัญชีตั้งแต่แรกด้วยการเอาจริงไปเลยก็ได้ เพราะถึงกิลจะประมาทสักแค่ไหนแต่มันก็ไม่ได้โง่นี่นะ จากคุณ : athran (สุนันยา) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 20:23:28

ความคิดเห็นที่ 71 พอจะบอกได้ว่า แฟลร์ที่เห็นๆนั้นพลังงานโจมตี้น้อยกว่ามิตไซล์เยอะ   แต่มันได้ผลมากกว่าเยอะทีเดียวเพราะเป็นวิธีที่หลบหลีกยากมาก  ไงๆกิลก็ต้องโดนแบบเต็มๆสัก 1-2 เม็ดเลยครับ  (ถ้ามีตอนต่อเรื่อง Flare จะวิเคราะห์ให้ดูสัก 2-3 ทฤษฏี) ส่วนเรื่องการป้องกัน  ผมว่าการสั่ง auto มันไม่อิสระขนาดคิดเองได้หรอกครับ (ไม่งั้นมันคงมี AI แบบซุปเปอร์คอมแล้ว) แค่กิลมันมัวแต่อึ้งตะลึงงันเลยลืมเปิดใช้งานแค่นั้นเอง....แต่ถึงเปิดขึ้นมาใช้งานจริงก็ยังกันได้ยากอยู่ดี  (อีกอย่างถ้ามีสติสตังเหลือขนาดเปิด GoB แล้วเลือกของที่แก้ทางกันได้มาใช้....ผมว่าเอาสติไปบังคับวิมานให้จอดกระทันหัน+บินถอยหลังยังสบายกว่าเยอะ) ปล   รถติดโคดๆ   จะได้ลงต่อไหมนี่?  ยังไม่ได้พิมพ์สักตัว =-= จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 20:51:00

ความคิดเห็นที่ 72 มีคำถาม ถามทุกคน รอคุณ Kross มาต่อเลยละกัน เกี่ยวกับวิธีจัดการ แคสเตอร์ เป็นไปได้มั้ยว่า ใช้กระสุนต้นกำเนิดของป๋า ยิงใส่ไอปลาหมึกนั่นเลย? เพราะปีศาจปลาหมึกมันได้มานามาจากแคสเตอร์ ยังงี้ถ้ายิงปลาหมึก มันจะไปส่งผลกับตัวแคสเตอร์มั้ยครับ ? หรือว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับเซอร์แวนท์ รึเพราะผมเข้าใจคอนเซปต์กระสุนนี้ผิดไป? จากคุณ : ILoveHusky เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 23:53:35

ความคิดเห็นที่ 73 เพราะปีศาจปลาหมึกมันได้มานามาจากแคสเตอร์ ^ ^ ^ ปิศาจได้มานาจากหนังสือของแคสเตอร์ครับ(เป็นNPขี้โกงขนานแท้ เพราะนอกจากเป็นคอมพิวเตอร์สิ่งให้ทำอะไรก็ทำแล้วยังเป็นเตาปฏิกรณ์พลังเวทเบ็ดเสร็จในตัวเลย) กระสุนของป๋าจะได้ผลดีเป็นพิเศษกับสิ่งที่มีโครงสร้างซับซ้อนครับครับ ในนิยายจะเปรียบเทียบไปว่า"ถ้าฉีกกระดาษแล้วปะใหม่กระดาษก็ยังทำหน้าที่เป็นกระดาษได้เหมือนเดิม" แต่ถ้าเป็นของที่มีโครงสร้างซับซ้อน การฉีกแล้วต่อใหม่ก็จะส่งผลกระทบได้มากกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนว่ากระสุนต้นกำเนิดมันจะงัดข้อกับของชั้นสูงกว่าอย่างNPได้ไหมด้วย ปัจจัยสุดท้ายคือ ป๋าน่าจะอยากเดินแผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสี่ตัวมากกว่า ตัวแรกคือจัดการแคสเตอร์เอาเรย์จูวเพิ่ม สองคือฟื้นฟูกำลังรบของเซเบอร์ให้กลับมาเต็มที่ สามคือตัดกำลังแลนเซอร์ สุดท้ายคือถ่วงเวลาสำหรับแผนอำมหิตที่กำลังจะเริ่มบรรเลง ถ้าคิดในแง่นี้แล้ว จะเห็นว่าความคุ้มทุนทั้งหลายทั้งปวงเทไปทางที่เห็นในอนิเมเต็มตัวเลยทีเดียว (และป๋าโฉดมาก) จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 00:51:53

ความคิดเห็นที่ 74 คุณม้าใช้ตอบได้เคลียร์มาก ปงลง พี่ครอส รอตอนต่ออยู่นะคะ จากคุณ : ตลกวิชาการ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 02:07:45

ความคิดเห็นที่ 75 #73 ลืมไปเลยว่ามานามาจากหนังสือ ยังงี้ก็แปลว่า ถ้าตัดเรื่องผลประโยชน์ ยิงนัดเดียวนก 4 ตัวทิ้งไป โอกาสที่กระสุนจะได้ผล มันก็มี แต่น้อยสินะครับ และถึงจะได้ผล มันก็จะเป็นการตัด-ต่อตัวหนังสือ ซึ่งมันก็ได้หนังสือเหมือนเดิม เพราะโครงสร้างไม่ซับซ้อน ทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี อย่างนั้นใช่มั้ยครับ แล้วในช่วงระยะเวลาระหว่างตัด กับ ต่อ นี่ มานามันน่าจะขาดช่วงมั้ย? ทำให้ไอปลาหมึกนั่นบึ้มไปชั่วแว่บนึง เผยให้เห็นแคสเตอร์ แล้วให้แลนเซอร์ใช้หอกแดงจัดการอีกทีน่ะ ? PS. นั่งรอคุณ Kross กันต่อไป แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 09:22:00 จากคุณ : ILoveHusky เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:21:04

ความคิดเห็นที่ 76 นับถือคนเขียน คนเขียนบท และผู้กำกับ อนิเมะเรื่องนี้จริงๆ จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 10:10:53

ความคิดเห็นที่ 77 โอ้วมันส์มาก มาต่อเร็วๆนะคะ พี่เบอร์แกบินผาดโผนได้เจ๋งมาก จากคุณ : KiKer16 เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 12:35:03

ความคิดเห็นที่ 78 //75. ป๋าแกคงไม่ยอมเปิดเผยไพ่ตายของตัวเองหรอกครับ ^^' จากคุณ : Kross_ISC เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 15:00:58

ความคิดเห็นที่ 79 #75 เอาจริง ๆ แล้ว กระสุนเวทนั่นอาจจะไม่มีผลเลยก็เป็นได้ เพราะที่ใช้จัดการตอมเวทได้นั้นก็อาศัยการทำลายวงจรเวท(แล้วทำให้พราน่าทะลัก) แต่หนังสือนี่มีวงจรเวทหรือเปล่ายังไม่แน่เลยครับ ไม่นับเรื่องซ่อมตัวเองได้อีกต่างหาก แต่เหตุผลหลัก ๆ ก็คงจะอย่างที่ว่าไป (พ่วงกับป๋าคงไม่อยากเสี่ยไปยิงปลาหมึกใกล้ ๆ ด้วย) จากคุณ : ม้าใช้ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 15:57:40

ความคิดเห็นที่ 80 สุดยอดมาก อยากให้มีกระทู้แบบนี้ทุกตอนเลยค่ะ อ่านแล้วนึกถึงตอนที่เพิ่งดูไป โอยย มันส์มาก รอตอนต่อไปค่ะ ^ ^ จากคุณ : ทานุกิตาดำๆ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 03:31:38

ความคิดเห็นที่ 81 โหวตให้รู้ว่าห้องการ์ตูนเรามีดี ^_^ จากคุณ : ลูกคนกลางเป็นเด็กดี เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 09:08:39