ความคิดเห็นที่ 1 โลกทัศน์ที่ผมจะใช้ตีความต่อไปนี้ เป็นโลกทัศน์ที่ผมจะหยิบยกคำสอนในศาสนาคริสต์ ที่พระเจ้าพรรณาความรักของพระองค์ต่อมวลมนุษยชาติ ดุจเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว โดยที่เป็นการตีความของผมเองคนเดียว (หากการรีวิวของผมนำมาซึ่งความงุนงง หรือความขัดแย้ง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:07:32

ความคิดเห็นที่ 2 ความรักเติมเต็มความว่างเปล่า ฉากแรก เริ่มที่โรงเรียนของ น้องเน(ม.6) และน้องบีม (ม.3) โดยมีคำว่า "Emmanuel" (แปลว่า พระเจ้าอยู่เคียงข้างเรา) "Prayer Assembly Area" มันทำให้ผมคิดถึงคืนวันพฤหัสศักดิสิทธิ์ (ก่่อนวันศุกร์ประเสริฐที่พระเยซูจะสิ้นพระชนม์เพราะเห็นแก่ความรัก) แม้พระองค์เป็นพระเจ้าแต่ก็มีธรรมชาติมนุษย์ ทรงกังวลและหวั่นไหวในอนาคต ทรงไปภาวนาส่วนตัวโดยเรียก"ศิษย์สนิทพิเศษ" ในบรรดาอัครสาวก12คน มาเพียงเปโตร ยอห์น และยากอบ กระนั้นแม้ ศิษย์เหล่านั้จะหลับไปตามความอ่อนแอประสามนุษย์ พระเจ้าก็ทรงประทานทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาอยู่เคียงข้างพระองค์ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 11:14:25 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:13:45

ความคิดเห็นที่ 3 ความรักคือการโหยหา ความอาวรณ์ของป้าจันที่มีต่อลุงจรัสที่จากไปกว่า2ปีแล้ว ทำให้ผมคิดความรักที่โหยหาของบรรดาสตรีใจศรัทธา เป็นต้น นักบุญมารีย์ มักดาเลนา ผู้ที่พระเยซูได้ขับไล่ ปีศาจร้ายที่เคยสิงเธอถึง 7ตนให้ออกไป ซึ่งมารีย์ มักเดลนาผู้นี้เอง ที่เป็นผู้ค้นพบรหัสธรรมแห่งคริสตศาสนา ก่อนบรรดา อัครสาวกอย่างเปโตร กับยอห์นเสียอีก จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:20:33

ความคิดเห็นที่ 4 (ซ้ำ) แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 11:26:36 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:25:33

ความคิดเห็นที่ 5 ความรักคือ อะไร? :มานนา ความรักเป็นอะไรที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยคำจำกัดความใดๆ แต่ต้องใช้"เวลา"ที่ยาวนานให้เราได้พักพิง เพื่อที่จะเรียนรู้ เหมือนเทศกาลปาสกา/ Pass Over ที่เราสืบทอดมาจากชาวยิวที่ได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า ข้ามแม่น้ำทะเลแดง จากประเทศอียิปต์ มาสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา (ปาเลสไตน์) แต่กว่าจะถึงดินแดนแห่งพันธะสัญญา ก็ใช้เวลาร่วม 40 ปี ที่เดินทางไป อย่างวนไปวนมา เพราะชาวยิวมัก"ดื้อ"กับพระเจ้า กระนั้นก็ดีพระเจ้าก็มิได้หยุดยั้งแผนการของพระองค์ ทรงประทาน "อาหารแห่งความรัก" ร่วงหล่นมาจากสวรรค์หล่อเลี้ยงพวกเขา ตลอด40ปี กันดารวิถี ชาวยิวเรียกมัน ตามคำอุทานภาษาฮีบรูว่า "มานนา/อะไร!?!" แต่มีคำกล่าวว่า มันหวานเหมือนน้ำผึ้ง จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:33:34

ความคิดเห็นที่ 6 ความรักคือการให้อภัยในความแตกต่าง เพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมเชื่อว่าหลายๆคู่รัก ก็คงจะเป็นเหมือน เฮียเล้ง-ปรียา ที่ฝ่ายหนึ่งดูเงียบขรึม แต่ที่จริง ใช้ความคิดอย่างถี่ถ้วน ส่วนอีกฝ่ายใช้ความรู้สึกเข้าถาโถม เรื่องราวของคู่รักจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:42:03

ความคิดเห็นที่ 7 มีคนเคยบอกผมว่า "ถ้าแต่งงานไปแล้วคิดจะหย่า มันก็หาเหตุผลได้เป็นร้อยที่คิดจะหย่า.... แต่ในเมือจะแต่งงานแล้ว... นึกเหตุผลออกมั้ยว่าทำไมถึงเลือกที่จะแต่งงาน? ถ้าเหตุผลนั้นชัดเจนมากพอก็แต่งซะสิ" หลายๆครั้งเราคงต้องขอบคุณบรรดาคนใกล้ชิด ที่ได้ช่วยมอง ช่วยสนับสนุนความรักของเรา ผู้ที่ปรารถนาอยากเห็นเรามีความสุข แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 11:46:09 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:45:22

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบกระทู้คุณนะคะ ไม่ใช่คริสต์ แต่ก็เข้าใจนะ ไม่ได้เข้าใจยากอย่างที่ออกตัว เผยให้เห็นแง่มุมการตีความใหม่ๆ ดีดี ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Cheshire_Winky เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:46:43

ความคิดเห็นที่ 9 คำตอบของเฮียเล้งในท้ายเรื่อง ทำให้ผมคิดถึงบทพระวรสาร(Gospel)บทสุดท้าย โดย อัครสาวกคนที่ยังมีชีวิตรอดอยู่เป็นสุดท้าย ยอห์น หลังจากพระเยซูกลับคืนชีพแล้ว พระองค์ไปหาบรรดาสาวก พระองค์บันดาลอัศจรรย์การจับปลาได้อย่างอัศจรรย์แก่พวกเขา จากนั้นพระองค์รับประทานปลาย่างกับพวกเขา และทรงถามเปโตรเป็นการส่วนตัวสามครั้งว่า "ท่านรักเราไหม?" (เป็นการเตือนใจเปโตรถึงสามครั้งที่ได้ปฎิเสธพระเยซูในช่วงไต่สวนคดี) เปโตรได้หลั่งน้ำตาและกล่าวตอบว่า "ข้าพเจ้ารักพระองค์" จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:52:51

ความคิดเห็นที่ 10 ความรักคือความทรงจำที่สวยงาม แม้ในหลายความรักที่เราอาจประสบได้ถึงปลายทางสิ้นสุดแล้ว ก็อย่าเสียดายไปเลยครับ เพราะณ ขณะที่เราได้สุข ได้รัก กับความทรงจำนั้น มันก็ช่างล้ำค่าทุกครั้งที่เราระลึกถึง และเป็นความรักในอดีตก็เป็นพลังให้เราก้าวไปสู่ ปัจจุบันและอนาคต ขอให้ทุกชีวิตเติบโต และก้าวผ่านกับความรัก ^^  เอวัง~ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:59:30

ความคิดเห็นที่ 11 ขอแถมด้วย 2 ost ของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ^^ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:01:12

ความคิดเห็นที่ 12 วันที่สวยงาม~ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:02:40

ความคิดเห็นที่ 13 เอ่อ จขกท คับ ผมว่าคนที่อ่านรีวิวของ จขกท รู้เรื่องนี้ต้องมีความรู้เรื่องศาสนาคริตส์ระดับนึงเลยนะ หรือไม่ก็ต้องมีเวลาไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกอ่ะคับ ขอยกตัวอย่างเช่น ที่จขกท เปรียบความรักคือการโหยหาระหว่างป้าจันกับนักบุญมารีย์ มักดาเลนาผู้ที่พระเยซูได้ขับไล่ ปีศาจร้ายที่เคยสิงเธอถึง 7ตนให้ออกไป และเป็นผู้ค้นพบรหัสธรรมแห่งคริสตศาสนา ก่อนบรรดา อัครสาวกอย่างเปโตร กับยอห์นเสียอีก คือคนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธอ่ะคับ เราพอรู้เกี่ยวกับคริสต์นิดหน่อย(บางคนอาจรู้เยอะ ถ้าสนใจจะศึกษาเพิ่มเติม) อย่าง นักบุญมารีย์ มักดาเลนา นี่ใช่ พระแม่มารีรึป่าวคับ  เปโตรกับยอห์น คือใครอ่ะคับ - -" คืออยากให้เวลาจขกท เปรียบเทียบแล้วอาจต้องอธิบายเพิ่มเติมข้อมูลของศาาสนาคริสต์ด้วยคับ ปล. ผมเข้าใจที่ จขกท ต้องการจะสื่อนะ แต่หลายๆอย่าง ถ้าอธิบายเพิ่มเติมจะเป็นบทความให้คนที่ไม่ใช่คริสต์อ่านได้ดีมากเลยอ่ะคับ จากคุณ : war_wit เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:06:46

ความคิดเห็นที่ 14 เวลารักเรามักไม่ต้องการเหตุผล แต่เวลาจะจากใครสักคน อ้างเหตุผลร้อยพัน จากคุณ : ar เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:12:28

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณจ้ะ... แม้เราไม่ได้เป็นคริสต์ แต่ ก็เข้าใจสิ่งที่ จขกท. พยายามจะสื่อสารเชิงเปรียบเทียบ... น่าสนใจจ้ะ... ป.ล. คุณมะเดี่ยว เขานับถือคริสต์ด้วย ( ถ้าเข้าใจไม่ผิด )...เราคิดว่าน่าจะมีแง่คิดบางอย่างทางศาสนา มีส่วนในการทำหนังเรื่องนี้ ไม่มากก็น้อย.... จากคุณ : .....**{~_^}**..... (สางฝอย) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:14:34

ความคิดเห็นที่ 16 ยินดีรับคำแนะนำเพื่อปรับปรุงครับ คุณwar_wit อย่างรักแห่งสยามเอง ผมกล่อมเกลาตั้ง 3-4บทความ แหน่ะ กว่าจะเนี๊ยบ 555 จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:15:05

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบกระทู้นี้มากมาย จากคุณ : Giant-Garuda เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:51:57

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อเร็วนี้ทำโปรเจคออกแบบโบถส์คริสส่งอาจารย์ เลยพอจะมีมีความรู้เรื่องคริสอยู่แบบบางๆ แต่ก็อ่านเข้าใจได้ไม่ยากนะ ที่เจ้าของกระทู้ต้องการจะสื่อ เรื่องคริส เราว่าก็ต้องมีอิทธิพลกับแนวความคิดในเรื่องบทของคุณมะเดี่ยวบ้างแหละ เพราะพี่เค้านักถือคริสนี่เนอะ หน้าสนใจดีคะ ^^ จากคุณ : mydream99_girl เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 13:05:21

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะเป็นบทความที่ดีนะแต่ ผมอ่านไม่รู้เรื้อง 55555 จากคุณ : ikkru เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 13:11:49

ความคิดเห็นที่ 20 งงๆแฮะ เอาเรื่องราวมาเปรียบเทียบกับศาสนาคริสต์มาเปรียบเทียบ แต่เท่าที่เคยรู้ว่าแบบผิวๆ ยุคที่ศาสนาคริสต์ปกครองประเทศ ก็ศาสนาคริสต์ไม่ใช่เหรอ ที่จับตุ๊ดจับเกย์มาเผาเสียเหี้ยนเลยอ่ะครับ จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 15:23:19

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบมากเลยครับกระทู้นี้ !! ฉากที่เห็นคำว่า เอ็มมานูเอล แล้วตอนที่ บีมเดินมา นึกถึงแบบเดียวกับที่ จขกท เล่าเลยครับ " พระเจ้าไม่ทอดทิ้งเรา ถ้าเราไม่ทอดทิ้งพระองค์ " จากคุณ : KoLoMoYa เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 19:05:49

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านนิดนึงแล้วปล่อยผ่านครับ ไม่เข้าใจ ไม่ได้ลึกซึ้ง ไม่ได้เป็นคริสต์ จากคุณ : tancub เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 22:46:05

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณคุณ tancub ครับที่ไม่Censor 555 ตอบคุณ war_wit หน่อย -ในพระคัมภีร์ช่วงของพระเยซู มีคนชื่อ"มารีย์" 5 คนครับ พระแม่มารีย์ ก็คนหนึ่ง มารีย์มักดาเลนาก็อึกคนหนึ่ง มารีย์มักดาเลนา เป็นคนศรัทธาทั่วไปนี่แหล่ะครับ เชื่อว่าเธอเป็นหญิงคนบาป (โสเภณี) ถึงมีโอกาสไปถูกปีศาจตั้ง7ตนล่อลวง เธอเป็นคนผิดบาปขนาดนั้นแต่พระเยซูยังเมตตาเธอชำระเธอ -เปโตร เป็นหัวหน้าในบรรดาอัครสาวก 12คน ครับ -ยอห์น เป็นอัครสาวกที่เชื่อกันว่าอายุน้อยที่สุดในบรรดาอัครสาวก แต่เชื่อกันว่าพระเยซูรักยอห์นมากเป็นพิเศษครับ ตอบคุณ Fatdiary เรื่องของรัฐปกครอง การตีความคำสอน กับตัวคำสอนมันคนละเรื่องนะครับ ผมไม่เห็นว่า จะมีคำสอนใดที่บอกให้เอาเกย์ ไปฆ่าทิ้งเลยนะ จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 07:05:28

ความคิดเห็นที่ 24  ในตำนานการสร้างโลก หรือเยเนซิส การประพฤติตนเป็นเกย์เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าลงโทษมนุษย์อย่างรุนแรงถึงขนาดล้างบ้านล้างเมือง ดังจะเห็นได้จากพระคัมภีร์ซึ่งได้กล่าวถึงการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้ไฟบรรลัยกัลป์เผาผลาญแผ่นดิน ชาวเมือง และบรรดาสิ่งที่งอกขึ้นมาจากแผ่นดินให้พินาศย่อยยับเสียทั้งหมด ว่าเป็นเพราะชาวเมืองนั้นนิยมประพฤติตนเป็นเกย์ คือสมสู่กันในระหว่างคนเพศเดียวกันทั้งเมือง เมืองที่ว่านี้คือเมืองซะโดม และอะโมรา ซึ่งตามตำนานเล่าว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์สององค์ไปตรวจดูความประพฤติของคนเมืองนี้  คัดลอกบางส่วนมาจากตรงนี้ครับ http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%8C#.E0.B8.95.E0.B8.B3.E0.B8.99.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.81.E0.B8.A2.E0.B9.8C.E0.B9.83.E0.B8.99.E0.B8.84.E0.B8.A3.E0.B8.B4.E0.B8.AA.E0.B8.95.E0.B9.8C.E0.B8.A8.E0.B8.B2.E0.B8.AA.E0.B8.99.E0.B8.B2 จากคุณ : Fatdiary เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 08:15:25

ความคิดเห็นที่ 25 ลองอ่านนี่ดูนะครับ http://www.belongtothetruth.com/Holy/homo01.htm จากคุณ : โยชูวาแห่งอัสซีซี เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:12:03