ความคิดเห็นที่ 1 นายประวิทย์บอกว่าเรื่องนี้ให้สมรักษ์เป็นคนตัดสินใจ ขณะที่เด็กล็อตแรกของ “เอ” ศุภชัย ผ่านมาทาง “ยุ้ย” อรอุมา มาลีนนท์ ลูกสาวคนโตของนายประวิทย์ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมบริหารฝ่ายรายการ ตำแหน่งปัจจุบันคือ “รองกรรมการผู้จัดการ” ถือเป็นความพยายามของ “เอ” ศุภชัย ที่จะรุกคืบอีกครั้งและอีกขั้นของเขา จาก “ลูก” ถึง “พ่อ” ซึ่งเป็นนายใหญ่ของช่อง 3             มธุรสวาจาของนายประวิทย์ ความหมายที่แท้ที่จริงคือ กรุณาเดินตามระบบ อย่าใช้อภิสิทธิ์และลัดขั้นตอน !! จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:49:36

ความคิดเห็นที่ 2 ศุภชัย แทรกแซงค่ายละคร       บอกแล้วว่า ช่อง 3 น่ะ ...ให้ความสำคัญกับ “ค่ายละคร” มากกว่า ช่อง 7 ฉะนั้น สิ่งที่ช่อง 3 โกรธมากที่สุดก็คือ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร เข้าไปแทรกแซงการทำงานของค่ายละคร และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก !!             ใครกันแน่ ระหว่าง ศุภชัย ศรีวิจิตร กับ แม่ของเด็กที่อ้างว่า “มิ้นท์” ติดเรียน เล่นกับใครไม่เล่นดันมาเล่นกับ “เจ๊ปิ่น” ทีวีซีน ให้มันรู้ซะบ้างว่า ไผเป็นไผ !             “เจ๊ปิ่น” ทีวีซีน เห็นแววตาและการแสดงของ “มิ้นท์” ณัฐวรา วงศ์วาสนาในบทร้ายของตัวละครชื่อ “ชมพูแพร” ใน “เกมร้ายเกมรัก” สะดุดสายตามาก จึงได้วางตัวให้เล่นบทร้ายต่อในละคร “หงส์สะบัดลาย” ซึ่งละครเรื่องดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากช่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว             พระ - นางที่วางไว้แต่แรกคือ “ป๋อ” ณัฐวุฒิ สะกิดใจกับ “พลอย” เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ภายหลังมีการเปลี่ยนตัวนางเอกเป็น “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ถ้าเป็น “พลอย” ทำไม มิ้นท์ถึงเล่น !! แต่พอเปลี่ยนตัวเป็น “เจนี่” ก็ทำอิดออดเล่นตัวขึ้นมาทันที             เพียงเพราะ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร อยากจะให้ “เด็กในค่าย” รับแต่บท “บทพระเอก - นางเอก” เท่านั้น หรือถ้าจะเป็น “ตัวรอง - ตัวร้าย” ก็ต้องประกบนางเอกตัวแม่ที่มีแรงส่งดี แน่นอน แรงส่งของ “พลอย” ย่อมดีกว่า “เจนี่” แน่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ “มิ้นท์” ณัฐวราจะลุกขึ้นมารักการเรียนมุ่งการศึกษาแบบฉับพลัน!! จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:51:15

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ายังจำได้ ครั้งหนึ่งในสมัยที่ “คุณแดง” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ยังอยู่ที่ช่อง 7 สี “เอ” ศุภชัย พามาริโอ้ เมาเร่อเข้าพบ คุณแดงให้คำตอบว่า ให้มาริโอ้เล่นเป็น “ตัวรอง” เพื่อฝึกปรือฝีไม้ลายมือก่อนมาเป็นพระเอก ความไม่พอใจที่คุณแดงจะเอามาริโอ้ที่ “เอ” อุตส่าห์หยิบมาจากอก “โกโก้” นิรุณ ลิ้มสมวงศ์มาเป็น “ตัวรอง” เลยทำให้ “เอ” ศุภชัยหอบเด็กล็อตแรกทั้งหมดมาที่ช่อง 3 อันได้แก่ “แบรี่” ณเดชน์ คูกิมิยะ, “หมาก” ปริญ สุภารัตน์ , “เคน” ภูภูมิ พงศ์ภาณุ, “มิ้นท์” ณัฐวรา วงศ์วาสนา, “กุ๊บกิ๊บ” สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย, “อุ่น” ปรียานุช อาสนาจินดา             “เอ” ศุภชัย เล็งเห็นว่า ถ้าให้ มิ้นท์เล่นบทร้ายอีกเป็นเรื่องที่ 2 อาจจะทำให้ “มิ้นท์” ต้องสิ้นสุดการหมายมั่นที่จะปั้นให้เป็นนางเอก ภาพของนางร้ายต่อให้เล่นดีและเก่งแค่ไหนก็ยังพ่ายนางเอกอยู่นั่นเอง อีกทั้งไม่สามารถเอาภาพ “นางร้าย” ไปต่อรองขายโฆษณาได้ จึงสั่ง “มิ้นท์” ให้ถอนตัวจากละครเรื่องนี้ทันที โดยยกเอา “แม่” ขึ้นอ้างว่า อยากให้มิ้นท์เรียนหนังสือ ทำให้ “เอ” ศุภชัยเป็นแค่ “คนกลาง - ผู้นำสาร” ไม่ต้องเป็นผู้ประจันหน้ากับผู้จัด และช่อง 3 โดยตรง ที่ต้องอ้างการเรียนให้ช่อง 3 จนมุม เพราะสมรักษ์ ณรงค์วิชัยเคยบอกว่า “การเรียนต้องมาก่อน” !!? จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:52:59

ความคิดเห็นที่ 4 การถอนตัวหลังจากผ่านการอนุมัติเช่นนี้ใครจะกล้าทำ ถ้าไม่ใช่ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้ทรงอิทธิพล!       ขณะที่ไม่ให้ “มิ้นท์” เล่นร้ายซ้ำสองด้วยการปฏิเสธ “หงส์สะบัดลาย” แต่กลับให้ “มิ้นท์” ไปเล่น “แรงปรารถนา” ของค่ายละครไท ของ หทัยรัตน์ อมตวาณิชย์ ที่มี ณเดชน์ คูกิมิยะ เล่นคู่กับคิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส เทียมศิริ             ต้องยอมรับว่า “เอ” ศุภชัย ไม่ได้ประสบความสำเร็จ “นางเอก” ให้กับช่อง 3 ขณะที่ช่อง 7 สี “เอ” ศุภชัยไม่ประสบความสำเร็จกับการปั้น “พระเอก” หมายจะให้เป็น “นางเอก” แต่กลายเป็น “นางร้าย” อาจจะส่งผลกับงานโฆษณา             นอกจาก “มิ้นท์” ที่ทำท่าจะเป็นนางร้ายแล้วยังมี “เนย” โชติกา วงศ์วิลาศ เด็กในสังกัดของ “เอ” ศุภชัยอีกคนหนึ่งก็สร้างชื่อจากบทร้ายทั้งละครเย็นและละครหลังข่าว ร้ายติดต่อกันถึง 7 เรื่อง ย่อมไม่ธรรมดาต้องเรียกว่า “ร้ายกาจ” ถึงบทบาทเลยทีเดียว             เรื่อง “มิ้นท์” นี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ “เอ” ศุภชัย แทรกแซงการทำงานของผู้จัด ส่วนครั้งแรกเหตุเกิดในละครเรื่อง “เพลิงทระนง” ของค่ายเมกเกอร์วายของ “จ๋า” ยศสินี ณ นคร จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:54:16

ความคิดเห็นที่ 5 พระเอกคือ มาริโอ้ เมาเร่อ ส่วนนางเอกที่สมรักษ์ ณรงค์วิชัยระบุไว้คือ “แต้ว” ณัฐพร เตมีรักษ์ ซึ่งแต่เดิมนั้นเคยเป็นผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการเด็กของช่อง 7 สีมาก่อน แต้วเป็นนักแสดงคนแรกที่ “เอ” ศุภชัยพามาที่ช่อง 3 ซึ่งต่อมา... เกิดปัญหาระหว่าง “ศุภชัย - แต้ว” เนื่องจากแต้วไม่ยอมจ่าย 30 % ที่เล่นละครเรื่อง “น่ารัก” และ “ยิ่งเกลียดเธอยิ่งเจอรัก” ให้แก่ผู้จัดการส่วนตัวผู้เป็นร่างทรงของ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร ความบาดหมางนี้ทำให้ แต้วกลายเป็นเด็กเนรคุณในสายตาของ “เอ” ทันที และเมื่อทราบว่า เด็กเนรคุณต้องมาเล่นคู่กับพระเอกในสังกัดก็พยายามสกัดจุดทุกวิถีทาง จนมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวชต้องออกโรงให้แยกเรื่อง “ส่วนตัว” กับ “งาน” เพราะแต้วได้รับการอนุมัติตามขั้นตอนจากฝ่ายรายการเรียบร้อยแล้ว             “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร เริ่มเอะใจในตัวสมรักษ์ ณรงค์วิชัยที่เอาแต่รับฟัง แต่ไม่รับทราบ ไม่ช่วยเคลียร์ !       นักแสดงคนที่ 2 ในสายของ “เอ” ศุภชัยที่มาช่อง 3 คือ “จุ๊น” กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธ์สุข “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตรส่งผ่านไปถ่ายแฟชั่นให้แก่นิตยสาร IMAGE และ “แอร์” คำรณ ปราโมช ณ อยุธยา (ผู้ก่อตั้ง, กรรมการผู้จัดการ, บรรณาธิการบริหารและผู้พิมพ์โฆษณา นิตยสาร Image) ฝากกับ สมรักษ์ ณรงค์วิชัย อีกทอดหนึ่ง คำรณกับสมรักษ์มีความคุ้นเคยเนื่องจากเล่นฟิตเนสในสถานที่แห่งเดียวกัน! แทนที่ “จุ๊น” กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธ์สุข จะได้เซ็นสัญญากับช่องกลับถูกนำไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของค่าย “ชลลัมพี” !! จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:55:07

ความคิดเห็นที่ 6 จนเมื่อเกิดเหตุการณ์ “ฟิล์ม - แอนนี่” สมรักษ์ อ้างว่า “จุ๊น” กิตติคุณ เคยมาปรึกษาเรื่องนี้กับตน “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตรมองว่า สมรักษ์ไม่ได้ปกป้องนักแสดงในสังกัดกลับลากเอานักแสดงออกมาเอี่ยวกับเรื่องนี้ สุดท้าย จุ๊นประกาศลาออกจากการเป็นนักแสดงของช่อง 3 ตามหมายสั่งของ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตรทันที             นี่คือ เรื่องระดับ “งามไส้” ระหว่าง “สมรักษ์-ศุภชัย” ปมเบื้องลึกที่ทั้งคู่ศรศิลป์ไม่กินกัน แม้จะ “ไม่ยอมรับ” ก็ตาม !! “เอ” ศุภชัยว่า ข่าวข้ามหน้าข้ามตาสมรักษ์นั้นเป็นเพียงข่าวลือ !! จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:55:54

ความคิดเห็นที่ 7 คิวเยอะ เรื่องแยะ แต่พร้อม “พยุง”       ต้องยอมรับว่า เด็กของ “เอ” ศุภชัยมาแรงที่สุดในวงการเวลานี้ และจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนานหลายปี ต่อให้มีการประกวดประชันขันแข่งกี่สิบรายการ เขาก็ไม่กลัว! พูดอย่างนางเอก “ดาวพระศุกร์” ตามมารยาทโดยใช้กล้องหนึ่งรับเข้าที่ใบหน้าแล้วกล่าวว่า             “ด้วยน้องๆ ของเราก็ไม่ได้มีเวลาเยอะในการให้คิวกับจำนวนละครมหาศาลที่เปิดในแต่ละปี ฉะนั้นการทำงานของช่องก็ต้องมีเด็กบางส่วนที่มาจากเอเยนซีอื่นบ้าง เพราะต้องกระจายกันไป แต่คงอยู่ที่ความเหมาะสม แล้วเราก็ทำงานกับที่ช่อง 3 มานานแล้ว น้องๆ ของเราก็ไม่ได้มีคิวพอที่จะให้แก่ละครทุกเรื่อง มันเยอะมหาศาลมาก เพราะฉะนั้นก็ต้องแบ่งปันกันไป”             อย่างที่รู้กันอยู่ว่า เด็กของ “เอ” ศุภชัยนั้นมีปัญหาในเรื่องคิวที่ต้องเฉลี่ยกันไป แต่ช่อง 3 กลับปล่อยให้เด็กกองกันอยู่ที่ชั้น 9 ด้วยเหตุผลที่ฟังจากผู้จัดว่า เด็กเล่นไม่ได้ ไม่มีพัฒนาการ!! ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงก็มาจากการเหวี่ยงแหแล้วไม่ยอมชี้ตัวระบุชัดว่า “จะปั้น” ไม่เหมือนคุณแดง และศุภชัยที่มุ่งมั่นเอาจริงกับเด็กในสังกัด เมื่อช่องไม่จัดส่ง “หิน” ไปให้ค่ายละครเจียระไน เมื่อไหร่จะได้ “เพชร”             การปล่อยให้ผู้จัดเลือกกันเอง ยังไง ! ผู้จัดก็ต้องเลือกเด็กที่ผ่านงานมาแล้วเพราะทำงานง่าย และมีหลักประกันว่า ละครเรื่องนั้นๆ จะมีผู้ชมมากพอ ดังนั้น ต่อให้คิวเยอะ เรื่องแยะ ก็ยังต้องศิโรราบต่อเด็กในสายของ “เอ” ศุภชัย ซึ่งพอมีประสบการณ์และขายได้ ถ้าไม่คิด ไม่ทำ ไม่เริ่มต้นสร้างก็ไม่มีทางรู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:56:48

ความคิดเห็นที่ 8 ในวงการ ใครบ้างที่ไม่รู้จักสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ทำไม...ถึงไม่จัดการและวางแผนกับเด็กกลุ่มนี้ หรือกลัวว่าจะไปย้ำซ้ำรอยเดิมที่ศุภชัยกรุยทางไว้ แม้แต่เด็กที่จะมาใหม่ในปีนี้ก็ยังไม่มีหลักประกันว่า จะเล่นได้เหมือนกัน ถ้าช่องไม่สนับสนุน แม้แต่ข่าวการประกวด M Thailand ที่ว่ากันว่า จะปั้นพระเอกใหม่ก็ยังไปซุกออกข่าวก่อนฟ้าสาง แทนที่จะตีฆ้องร้องป่าวให้เป็นที่เอิกเกริก เรื่องความสามารถของเด็กเวลานี้จึงเป็นรองจาก “โอกาส”             ยกตัวอย่าง 2 กรณีที่เกิดกับเด็กที่เคยผ่านช่อง 3       “โตโน่ - เดอะสตาร์” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เคยลงประกวดเวที The Idol Project 1 เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย “หน้าหล่อ ตัวเล็ก” ช่อง 3 ไม่เอา แต่ไปประสบความสำเร็จจากเวทีเดอะสตาร์ และค่ายแอ็กแซ็กท์ อย่างนี้ก็มี             “บอม” ธนิน มนูญศิลป์ นายแบบโฆษณาที่อยู่ช่อง 3 นานพอควร จนมีโอกาสได้รับ “บทตำรวจ” ตอนสุดท้ายใน “ลิขิตเสน่หา” เพียง 2 นาที แต่หล่อเหลา มาดเซอร์ถูกพูดถึงมากใน “พันทิป” เสียงสวรรค์จากผู้ชมเหมือนฟ้าประทานให้ช่อง 3 เกิดพุทธิปัญญา หูตาสว่างแบบฉับพลันจนต้องสั่งการให้เป็น 1 ใน 5 พระเอกของซีรีส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ทันที จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:57:30

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าจะฟังแต่เสียงจาก “ผู้จัด” ที่ว่า เด็กเล่นไม่ได้ ดูอย่างละครเรื่องแรก “เงารักลวงใจ” ที่ “หมาก” ปริญ สุภารัตน์ และ “มิ้นท์” ณัฐวรา เล่นจะบอกว่า เล่นได้เต็มร้อยก็คงไม่ใช่ ออกจะน่ารำคาญด้วยซ้ำไป แต่ค่ายก็รู้จักและช่วยกันพยุงจนทำให้เด็กผ่านละครเรื่องนั้นๆไปได้ ทุกคนต้องมีก้าวแรกที่ไม่แข็งแรงด้วยกันทั้งนั้น             ขณะที่ เด็ก “เอ” ศุภชัย ทุกคนแห่แหนกันไปพยุง แต่เด็กที่ค่ายสร้างมากับมือกลับทิ้งขว้างอย่างน่าเสียดาย บางทีอาจเป็นไปได้ว่า ช่อง 3 ชอบอาหารที่ถูกปรุงเสร็จสรรพมาแล้ว ขี้เกียจไปตลาดหาซื้อผักปลามานั่งทำให้เสียเวลา ดังนั้น จึงไม่แปลก เมื่อช่อง 3 คิดจะขยายฐานผู้ชมไปต่างจังหวัด ก็เลยต้องกวาดเอาคนของช่อง 7 ที่เข้าถึง “ชาวบ้าน” มากกว่ามาไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นคนข่าว, ดารา, นักเขียนบท, ผู้กำกับ ฯลฯ จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:58:02

ความคิดเห็นที่ 10 ขนบและวิธีทำงานของศุภชัย       หลังจากที่ “เอ” ศุภชัย พูดตามประสานางเอกอย่าง “ดาวพระศุกร์” ไปแล้ว แต่ทันทีที่หันขวับกลับหลังหันให้สื่อ “ไมค์รวม” สีหน้าของ “ดาวพระศุกร์” ก็แปรเปลี่ยนเป็น “เรยา” อย่างเนียนๆ และกล้องสองเริ่มทำงานทันที             “คิดว่า สู้เด็กของฉันได้ก็เอาซิ...!!!”             ปรากฏการณ์ของ “เอ” ศุภชัยเกิดขึ้น ส่งผลให้บรรดา “นักปั้น - แมวมอง - โมเดลลิ่ง” ที่ว่าแน่ๆ ตกร่วงลงท่อ ลงน้ำครำกันระนาว !! ซึ่งการทำงานของกลุ่มนักปั้นยังยึดอยู่กับขนบและประเพณีนิยมแบบเดิมๆ นั่นก็คือ “การส่งเด็กประกวด” ผลก็คือ เด็กที่ได้จากเวทีเหล่านี้ไม่มีความสดใหม่ และรู้จักกันเฉพาะในหมู่ผู้เข้าร่วมการประกวดเท่านั้น แต่เด็กของศุภชัยไม่ต้องผ่านการประกวดให้หน้าช้ำ เด็กบางคนที่เขาเห็นว่ารูปร่าง หน้าอยู่ในเกณฑ์และ “อินเทรนด์” ทว่าสังกัดอยู่กับโมเดลลิงอื่นก็จะส่งคนไปเจรจาขอซื้อสัญญา หรือให้เด็กนั่นแหละบากหน้าหอบเงินไปขอสัญญาคืนโดยตัวเองไม่ต้องออกหน้า       ราคามาตรฐานที่จ่ายอยู่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท !! และสูงสุด 1 แสนบาท หากคนนั้นแสงออร่าเปล่งมากระแทกตา “เอ” ศุภชัย จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:59:05

ความคิดเห็นที่ 11 แต่บอกไว้ก่อนว่าเป็นการ “ซื้อขาด” ขายแล้วอย่ามาทำอ้อยสร้อย เม้าท์มอยลับหลังว่า ได้น้อย เหมือนกรณีบาดหมางระหว่าง “เอ” ศุภชัย กับ กะเทยนายหน้า...หน้าสยอง นางหนึ่งที่มานึกเสียดาย “นางเอก 7 สี” ที่ตัวเองขายสัญญาให้ แต่ต่อมาเห็นแก่ผลประโยชน์ที่ได้มาเป็นกอบเป็นกำจากงานโฆษณา “เอ” ศุภชัย จึงแจก “แต๊ะเอีย” ปิดปากกะเทยนางนั้นอีกจิ๊บๆ ด้วยเงินตัวเลขแค่ หกหลัก!       หลังจากได้ตัวเด็กใหม่ หรือเด็กเก่าจากที่อื่น เด็กเหล่านี้จะถูกนำมาผลักดัน พัฒนาและสร้างใหม่ ในบ้านสี่ฤดู ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าตาและทักษะฝีมือในการแสดง เพราะภาพลักษณ์ใหม่นี้จะไปเพิ่มมูลค่าให้แก่เด็กและตัวเอง             โครงหน้าดี แต่ยังไม่ลงตัวต้องส่งไปทุบ ตบ แต่ง ที่เกาหลี ผลงานที่มีตามมาก็ใช้การถ่ายแฟชั่นเป็นใบเบิกทาง และต้องยอมรับว่า เด็กของเขาดีจริงในด้านหน้าตาที่มาพร้อมกับแนวนิยม ดังกรณีของ “เคน” ภูภูมิ ที่ส่งไปศัลยกรรมใหม่ที่เกาหลีเพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เปลี่ยนชื่อดั้งเดิมจาก “เบลล์ เบลล์” เป็น “เคน” ให้เหมือนกับพระเอกคนดัง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ แถมเรียกภูภูมิในวงการว่า “เคนเล็ก” เปลี่ยนชื่อจริงจากเดิมคือ “อดิพงษ์ พันละแหง, อดิพงศ์ พงศ์ภานุ, ธนะภูมิ พงศ์ภานุ” มาเป็น “ภูภูมิ พงศ์ภาณุ” ตามคำแนะนำของหมอดูประจำตัว “โขมพัสตร์ อรรถยา” จากนั้นส่งไปเปิดตัวถ่ายแบบครั้งแรกในนิตยสาร IMAGE ก่อนเข้าวงการ จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 18:59:56

ความคิดเห็นที่ 12 ขนบใหม่ของศุภชัย ที่สร้างขึ้นนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ยากที่จะลอกเลียนแบบ ผิดกับบรรดาแมวมองปลาซิว ปลาสร้อย กว่าจะได้ส่วนแบ่งจากเงินรางวัลชนะเลิศก็ต้องนั่งรถห้อตะบึงไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแบบไม่มีหลักประกัน             จุดอ่อนของบรรดาโมเดลลิ่งทั่วไปก็คือ ไม่รู้จักสื่อ !! หรือรู้จักแค่ผู้สื่อข่าวบันเทิงบางคนที่วนเวียนหากินอยู่กับเวทีประกวด สิ่งที่นักปั้นเหล่านั้นจะได้ก็แค่ข่าวสั้นๆ แต่ “เอ” ศุภชัย ใช้จุดแข็งและคอนเนกชันของตัวเองพาเด็กไปปูพื้นด้วยการถ่ายแฟชั่นกับนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ ภายใต้เงื่อนไขว่า “ต้องขึ้นปก” หรือไม่ต้องเป็นบทสัมภาษณ์ที่มีความสำคัญโดดเด่นภายในเล่ม ไม่ใช่ประเภท “กะโหลก - กะลา” เอาไปหลบอยู่ตามซอกมุม ซอกหลืบ ซึ่งกระบวนการทำงานในขั้นตอนนี้ ไม่ใช่แค่เล่มเดียว แต่ “เอ” ศุภชัยวางต่อเนื่องแบบปูพรม ปักษ์นี้ ปักษ์หน้า ปักษ์โน้น ไล่เรียงหัวหนังสือกันไปอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้ภาพ หน้าตา และชื่อ เป็นที่จดจำ             แหล่งข่าวในวงการแฟชั่นบอกว่า “เอ” ศุภชัยพร้อมกรุยทางหยอดน้ำมันให้ฟันเฟืองแล่นได้โดยสะดวก ลงหลายเล่มให้คุ้นหน้า คุ้นตากันไปเลย ถ้าเป็นเด็กในสังกัดและเริ่มมีชื่อเสียงก็จะเริ่มการขายพ่วง !! เช่น มาริโอ้ขึ้นปก ข้างในก็ต้องมีเด็กคนอื่นในสังกัดเข้ามาพ่วงความดัง เพราะ “เอ” ถนัดในการสร้างข่าวเพื่อให้เด็กเป็นที่จดจำในการใช้งานครั้งต่อไปเช่น วันที่ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ ถ่ายโฆษณาให้แก่มิสทิน ก็พ่วงเอา “หมาก” ปริญ สุภารัตน์ไปถือและใส่รองเท้าให้พัชราภา เอาเด็กใหม่ประกบดาราดัง คนจะไม่จดจำชื่อเด็กคนนั้นได้อย่างไร เมื่อเด็กเริ่มออกสื่อระยะหนึ่งก็ใช้เป็นจุดขายนำเสนอส่งตัวเข้าช่อง จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:00:29

ความคิดเห็นที่ 13 การขายพ่วงไม่ใช่เฉพาะงานถ่ายแบบ แต่รวมถึงงานโฆษณาและภาพยนตร์ด้วย เช่น ภาพยนตร์ “30 กำลังแจ๋ว” ซึ่งกำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ ของค่าย M 39 ถ้าอยากจะได้ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อเป็นนางเอก พระเอกก็ต้องเป็น “เคน” ภูภูมิ ซึ่งถูกกำหนดมาแต่แรก แต่ก็ต้องสร้างข่าวเกลื่อนกลบความลับนี้ในระยะแรกด้วยการควานหาตัวพระเอกกันจ้าละหวั่น             จากนั้นก็เอาผลงานเหล่านี้ไปขายโฆษณาต่อ “เคน” ภูภูมิเพิ่งจะเข้าวงการ แต่มีโฆษณามากถึง 7 ตัว ในขณะที่ “โฬม” พัชฏะ นามปาน เป็นพระเอกของช่อง 3 แท้ๆ ทำงานมานานถึง 3 ปีเพิ่งจะมีโฆษณา “โตโยต้า” จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:01:05

ความคิดเห็นที่ 14       นอกจากนี้ “เอ” ศุภชัย ยังมีการขายพ่วงในวงการโฆษณาเช่น มันฝรั่งเลย์ อยากได้ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และใช้พรีเซ็นเตอร์คนเดียวเหมือนทุกครั้ง แต่ศุภชัยก็สามารถกล่อมจนสามารถขายพ่วง “ญาญ่า” อุรัสยา เสปอร์บันด์ดาราอีกคนหนึ่งของช่อง 3 เข้าไปประกบคู่ทั้งที่ ญาญ่าไม่ใช่เด็กในสังกัดของ “เอ” ศุภชัย             เมื่อหลายปีก่อน วงการถ่ายแบบแฟชั่นต้องปรับค่าตัวนายแบบ - นางแบบ จาก 5-8 พันบาทขึ้นมาเป็นหลักหมื่น ยิ่งแฟชั่นเช็ตพิเศษ ที่เรียกว่า “แฟชั่นแอด” (กรณีที่ขายพ่วงแฟชั่นไปกับสินค้าบางตัว) ราคาค่าตัวเป็นแสน ก็มาจากจุดเริ่มต้นของขนบใหม่ของศุภชัยอีกนั่นแหละ เพราะศุภชัยประกาศค่าตัวขั้นต่ำของเด็กใหม่ในสังกัดอยู่ที่ 20,000 บาทถ้วนแถมยังนับชุดถ่ายอีกต่างหาก ปกติแฟชั่น 1 เซ็ตจะถูกไว้วางที่ 8 หน้า 8 ชุด เท่ากับ1 ยกหนังสือ แต่เด็กที่มาตามสายของ “เอ” ศุภชัยถ่ายแค่ 6 ชุด ชุดที่ 7 ลองเอามาสิ “อั้ม” พัชราภา ก็จะไม่ยอมชายตามองแม้แต่น้อย การดัน “ดารา” เข้ามาสู่งานถ่ายแบบและเดินแฟชั่น ทำให้นายแบบ - นางแบบมืออาชีพแทบจะต้องม้วนเสื่อกลับไปขายกล้วยปิ้ง       เมื่อปูพื้นในเรื่องการถ่ายแบบแล้ว ก็จะให้ส่งเด็กไปเรียนการแสดง “ติวเข้ม” กับ “คุณน้อย” หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุลแบบรายตัวอีกครั้ง เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนของการ “สกรีนเทสต์” ส่งเด็กไปขายให้ช่องช้อป! แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 19:02:16 จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:01:37

ความคิดเห็นที่ 15 ช่องไม่ต้อง! “เอ” ศุภชัย จัด “สกรีนเทสต์” ให้       พูดให้เข้าใจง่ายๆ ขั้นตอนการทำสกรีนเทสต์ ก็คือการบันทึกภาพวิดีโอ ทดสอบทักษะการแสดงนั่นเอง เด็กทุกคนจะต้องแสดงบทบาทไปทุกอารมณ์ ดีใจ เสียใจ ร้องไห้ เรียกว่าทั้งตลก ดราม่า มาครบ นอกจากนี้ ยังมีถ่ายภาพประกอบ เต็มตัว และภาพโคลสอัพ ทั้งหน้าตรง และด้านข้าง พร้อมทั้งแนะนำตัว อาจจะมีบทสัมภาษณ์สั้นๆ รวมอยู่ด้วย ความยาวจะอยู่ที่คนละ 5-10 นาที ต่อคน (หรืออาจจะยาวกว่า แต่ไม่เกิน 30 นาที)             หากเป็นเด็กจากที่อื่นๆ ที่เสนอเข้ามาทางช่อง ไม่ว่าจะเป็นช่อง 7 หรือ ช่อง 3 ทีมงานฝ่าย “คัดเลือกศิลปิน” จะดูจากโปรไฟล์ที่ส่งมา - จากนั้นจะมีการ แฟกซ์ (สมัยก่อน) ส่งบท และนัดหมายมาทำสกรีนเทสต์ที่สถานี ถ้าเป็นช่อง 3 ก็ทำกันที่ชั้น 9 ของตึกมาลีนนท์             ไม่ใช่ว่า “เอ” ศุภชัยมีอภิสิทธิ์ !! แต่ “เอ” ศุภชัยสามารถทะลวงไส้ ลักไก่ ยกค่าน้ำชาและสอดผ่านสกรีนเทสต์ที่ทำมาเองเข้าไปให้สถานี โดยที่ผู้ใหญ่ไม่อาจล่วงรู้             เงื่อนไขต่างๆ สำหรับการเป็น “ดารา” ของ “เอ” ศุภชัย คือ หนึ่ง เซ็นสัญญากับช่อง และต้องเป็น “พระเอก - นางเอก” เท่านั้น ขณะที่นโยบายเดิมของช่อง 3 เริ่มจากให้เด็กเซ็นสัญญาค่ายก่อน เมื่อดังแล้ว มีแวว ถึงจับมาเซ็นช่อง แต่เอก็เป็นผู้ทลายกฎข้ามขั้นตอนไปเซ็นช่องเลย จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:03:11

ความคิดเห็นที่ 16 “เอ” ศุภชัยจะทำหน้าที่เหมือนครูใหญ่ และเด็กแต่ละคนจะมีผู้จัดการส่วนตัวต่างหาก ซึ่งก็คือ ครูผู้น้อยหรือครูประจำชั้นนั่นเอง โดยครูผู้น้อยเหล่านี้ต้องขึ้นตรงต่อครูใหญ่ในการจัดสรร แบ่งปันผลประโยชน์ทางธุรกิจ             ครูใหญ่มีหน้าที่เดียวคือ ออกสื่อสร้างข่าวประชาสัมพันธ์ให้แก่ตัวเองและเด็กในสังกัดอยู่ในกระแส เพราะฉะนั้น เราจะไม่เคยเห็น “เอ” ศุภชัยหิ้วกระเป๋า Hermes ไปปูเสื่อนั่งรอเด็กในกองถ่าย, ไม่เป็นกรรมการตัดสินหนุ่มหล่อ สาวสวย หรือหากจะรับเทียบเป็นกรรมการ ก็ต้องนั่งเคียง “อั้ม” พัชราภา เท่านั้น, ไม่เคยปรากฏตัวในสถานที่อโคจรเช่น คลับ - บาร์ แต่ “เอ” จะไปปรากฏตัว ณ สถานที่ซึ่งมีสื่อมวลชนไมค์รวมมากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเท่านั้น จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:03:39

ความคิดเห็นที่ 17 นี่เองเป็นที่มาของประโยคที่ว่า ศุภชัยคือ “ดาวพระศุกร์” ที่เมืองไทย แต่ที่เมืองนอก เธอคือ “เรยา” ที่สนุกสุดเหวี่ยงกับความสุขยากที่ใครจะเทียบเคียงเสมอเหมือน และศุภชัยไม่ได้มีคอนเนกชันแต่ในเมืองไทยเท่านั้น             เด็กที่ทำงานเต็มที่จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนคุ้มค่าเช่นเดียวกัน นี่เองที่ทำให้ “เอ” ศุภชัย “เอาเด็ก(และแม่พ่อเด็ก)อยู่” สามารถชี้เป็นชี้ตายให้แก่เด็กในสังกัดได้ และเด็กอยู่ในโอวาททุกคน แต่ก็นั่นแหละ แต่ใช่ว่า ปั้นแล้วจะประสบความสำเร็จทุกคน มุมขมขื่นสำหรับ “เอ” ศุภชัยก็มี เพียงแต่เขาไม่ค่อยพูดเท่านั้นเอง จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:04:18

ความคิดเห็นที่ 18 คอนเน็กชันสายงานโฆษณาปึ๊กชี้นกเป็นไม้!             “เอ” ศุภชัย มักพูดกับสื่อในยามที่ถูกถามเรื่องค่าตัวเด็กสังกัดในการเล่นละครแต่ละเรื่องว่า “(พี่)เอไม่รู้เรื่องจริงๆ” หรือ “เท่าไหร่ก็แล้วแต่ช่องจะให้ (พี่)เอไม่เคยเรียกร้อง”             ใช่สิ ค่าตัวละคร “เอ” ศุภชัย จะไปสนใจใคร่รู้ทำไม เพราะเป็นแค่เงินกรุบกริบ จิ๊บๆ เม็ดเงินที่ “เอ” ศุภชัย กอบโกยจากเด็กในสังกัด คือ เงินจากโฆษณา และงานอีเว้นท์ต่างๆ             ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร กวาดเอาสินค้าทุกประเภทนอกจาก "ผิว" และ "ผม" ที่กินมาตลอด ยังแตกไลน์ไปที่สินค้าเด่นๆแทบทุกประเภท อย่าง มิสทิน, แอลจี, ซัมซุง, ฟีโน่ , อีซูซุ ทุกรุ่นทุกแบบต้องใช้เด็กของ “เอ” ศุภชัย             ที่สำคัญ “เอ” ศุภชัย คนนี้แหละ ยังสามารถ แหกกฎโฆษณา ที่แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าของสินค้าจะไม่ยอมใช้ “พรีเซ็นเตอร์” คนเดียวกัน ในสินค้าประเภทเดียวกัน เพราะถือว่าเป็นแบรนด์คู่แข่ง “เอ” ศุภชัย เก่งกาจสามารถ ในการโน้มน้าวน้อมนำ จนเจ้าของสินค้า ยอมใส่ ส่วนผสมอื่นในสินค้านั้น เพื่อให้แตกต่างออกไป ตามคำแนะนำขอ “เอ” ศุภชัย หากอยากได้เด็กสังกัดของเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์...นอกจากนี้ สินค้าสำหรับผู้หญิง ยังเอาผู้ชายไปถ่ายได้ เอากับ “เอ” ศุภชัย สิ จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:05:30

ความคิดเห็นที่ 19 เขาไม่ได้นั่งรอ “งานโฆษณา” ตามใบสั่งอย่างที่โมเดลลิ่งนิยมทำกัน แต่ “เอ” จะรุกขายโปรเจกต์เอง เช่นดาราคนนี้จะมีละครออนแอร์จะถ่ายโฆษณาไหม สินค้าเดิมจะใช้พรีเซ็นเตอร์ใหม่หรือเปล่า หรือ ถ่ายใหม่มั้ยจะได้ไม่ตกเทรนด์ สารพัดสารพันจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง นอกจากเด็กในสังกัดตัวเองแล้ว “เอ” ศุภชัย ยังอาสาเป็น นายหน้า เจรจาค่าตัวดาราระดับ พระเอก นางเอก แถวหน้า ทุกค่าย ทุกช่อง ยกเว้น “เอ็กแซ็กท์”!!!             ที่ศุภชัย ศรีวิจิตรมีวันนี้เพราะรู้จักการเริ่มต้น ไปตลาด ซื้ออาหารสดมาทำกับข้าวด้วยสูตรของตัวเอง รู้จักการจัดแต่งให้จานอาหารน่ารับประทานแล้วพร้อมเสิร์ฟ ช่อง 3 รับอาหารจานนั้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งๆที่มีแม่ครัวฝีมือเลิศ และพืช ผัก อาหารกองเต็มอยู่ในบ้าน แต่ไม่รู้จะบริหารจัดการอย่างไร       เหล่านี้คือเบื้องลึก เบื้องหลังของ “มหกรรมตามล่าพระเอก - นางเอก” ของช่อง 3 ที่ดำเนินการอยู่อย่างขะมักเขม้น ภายใต้แรงกดดันที่ “เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตรผู้ทรงอิทธิพลในวงการตัวจริงพยายามโหมใส่เป็นระยะๆ ที่มา : http:ager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000050663 จากคุณ : กิจกรรมบันเทิง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:07:24

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นบทความของ คุณเอ ศุภชัย  แต่ลากเอาคนอื่นมารวมเรื่องด้วย จากคุณ : คุณขอตามมา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:16:29

ความคิดเห็นที่ 21 เราชอบพี่เอ เค้าดูจริงใจดี อะไรก็เกิดขึ้นได้บนโลกธุรกิจ จากคุณ : emloveskincare เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:18:31

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบอ่านนะคะ แต่หลายโพสต์เกินไป ทำไมไม่โพสต์ยาวๆ อาจแบ่งเป็น 2-3 ความเห็นก็ได้ แถมมาจาก manager อีก ตามไปอ่านต่อเองก็ได้ค่ะ  -*- จากคุณ : แพต้นน้ำ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:20:51

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านมันส์มากก  หลายเรื่องรู้สึกได้ว่าจริงด้วย ดูมีเหตุมีผลที่น่าเชื่อถือได้ แต่เรื่องโตโน่เคยติด The Idol นี่ไม่น่าจริงนะ ส่วนตัวยอมรับว่าเอ ศุภชัยขายของเก่ง ฉลาด ทุ่มกับเด็กในสังกัดเต็มที่ แต่หลายเรื่องก็ไม่ชอบ อย่างเป็นผู้จัดการดาราก็ควรอยู่ในส่วนแค่หาเด็กมาให้ช่อง  ที่เหลือเรื่องป้อนละคร ก็น่าจะเป็นหน้าที่ของช่อง 3 ที่จะดูว่าเด็กคนไหนเหมาะกับบทอะไร ไม่ใช่แค่กรณีสั่งให้มิ้นท์ ณัฐวราถอนตัวจากหงส์สะบัดลายเอาดื้อๆ อย่างเดียว ละครหลายเรื่องช่องเลือกนางเอกแล้ว แต่ยังดันทุรังจะเอาเด็กตัวเองมาเล่นแทน มันน่าเกลียดก็ตรงนี้  แถมบางทียังมีขอให้แก้บทให้บทเด็กตัวเองเด่นขึ้น เชื่อเขาเลย ถึงปกติไม่ค่อยชอบสไตล์การปั้นดาราของช่อง 3 เท่าไหร่หรอก แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่เห็นข่าวว่าช่อง 3 ไม่พอใจเอ ศุภชัยออกมาบ้าง  ไอ้เราก็หลงคิดไปนานว่าช่อง 3 โดนเอ ศุภชัยครอบงำไปซะหมดแล้ว ปล. เพิ่งรู้ว่าแต้วนี่ เด็กเก่าเจ๊เอ  ขำอ่ะ  ดาราเนรคุณเลย 5555 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 19:30:22 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 19:25:29 จากคุณ : ปุริมาน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:24:35

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะ ยาวมากแต่อ่านจบ ใครช่วยเอาพลอตไปสร้างระบำดวงดาวภาค2ที แต่คงฉายช่อง3ไม่ได้ 55555 เชื่อว่าบทความนี้จริง90% ดูได้จากละครตอนนี้และที่กำลังจะสร้าง หน้าเดิมๆก๊วนเดิมๆ ทำยังกะช่อง3มีนักแสดงอยู่แค่นี้ การเข้ามาล้วงลูกทั้งของเอศุภัยและลูกสาวคุณประวิทย์จะทำให้ช่อง3เจ๊งในที่สุด (สม) แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 19:31:21 จากคุณ : atiporn เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:25:54

ความคิดเห็นที่ 25 ขี้เกียจอ่าน มหากาพย์เกิน จากคุณ : เก๋ สุขใจ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:28:37

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อเสียของช่องสามก็คือ ไม่ยอมปั้นดาราที่มาจากประกวดจริงๆจังๆ จากคุณ : กนิฐชานนท์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:40:21

ความคิดเห็นที่ 27 ธุรกิจก็คือธุรกิจ เค้าก็ต้องอยากให้สินค้าเค้ามีภาพลักษณ์ที่ดี ขายได้นาน สร้างรายได้ให้มากที่สุด อันนี้จะว่าเค้าก็ไม่ได้นะ เค้าเห็นแล้วมันไม่มีกะเด็กของเค้า ก็แนะให้ไม่ทำจะดีกว่า .... อันนี้ยกย่องคุณเอ ส่วนเรื่องเข้าหานายใหญ่ คุณสมรักษ์เค้าก็เคยให้สัมภาษณ์แล้วนิ ว่าไม่จริง นักข่าวก็ยังพยายามเน๊อะ ... จากคุณ : เฮ้อ......... (เดินหน้าต่อไป) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:44:23

ความคิดเห็นที่ 28 แซ่บกว่าละครหลังข่าวที่ฉายอยู่ตอนนี้ซะอีก สังคมไทยกับระบบเส้นสาย ค่าน้ำชา คงไม่มีวันหมดไป มันหยั่งรากแก้วกันไปแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะบริหารและทำยังไงให้มันมีน้อยที่สุด เพื่อให้คนมีฝีมือจริงๆ ได้มีโอกาส จากคุณ : Zenbie เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:54:47

ความคิดเห็นที่ 29 ใครจะะมาบอกว่าองค์กรตัวเองขัดแย้งกันล่ะคะ ดูตอนที่คุณแดงโดนเด้งสิยังมีบางคนออกมาบอกว่าคุณแดงไม่ต่อสัญญาเองเลย สุดท้ายก็รู้ว่าเจ้าของช่องเขาไม่ให้คุณแดงทำงานต่อจริงๆ เรื่องนี้ของป้าเอกับคุณสมรักษณ์น่าจะจริงบ้างแหละ นักข่าวคงไม่มโนเก่งขนาดเขียนเรื่องได้เป็นตอนๆขนาดนี้หรอก เห็นช่องสามมีรายการเรียลลิตี้เยอะมาก แต่เด็กไม่ดังซักคนมีโฬมคนเดียวจริงๆแหละ ที่เหลือดังๆตอนนี้ก้เด็กป้าเอทั้งนั้น จากคุณ : martnarak เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:55:42

ความคิดเห็นที่ 30 ถึงว่าสิ.. คอนเสิร์ต 4+1 ถึงได้มีเอมาโชว์เฉย ทำยังกะคอนเสิร์ตโปรโมทเอ ศุภชัย พร้อมโชว์สินค้าในสังกัด  ยังงงอยู่ว่า   เป็นคอนเสิร์ตของช่อง 3 หรือของเอ ศุภชัย กันแน่ ปล. เรื่องแต๊วไม่รู้ตกลงแบ่ง % กันยังไง ไม่รู้ใครผิดใครถูก แต่ละครเรื่องที่กีดกันแต๊ว โอ้เล่นยังกะก้อนหินพูดได้  ได้แต๊วกับนางรองช่วยไว้หรอก จากคุณ : กะติ๊ด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:05:16

ความคิดเห็นที่ 31 ไอดอลเลยอ่ะ พี่เอ จากคุณ : EnchantinG เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:21:30

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ แซ่บเชียว จากคุณ : อ้อมโลกหมื่นลี้ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:28:16

ความคิดเห็นที่ 33 แอบชอบ โตโน่ ไม่รู้เลยว่าประกวด The Idol Project 1  ตั้งแต่เมื่อไหร่ เลยไปลองเสิร์ทหาข่าวดู 10 คนที่เข้ารอบไม่เห็นมีเลย ใครทราบช่วยบอกหน่อยดิ เรื่องราวเป็นยังไง ข่าวมั่วนั่งเทียนหรือเปล่า? http://www.zonezeed.คom/ForumId-4284-ViewForum.aspx จากคุณ : ออนไลน์มายา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:31:25

ความคิดเห็นที่ 34 อ่านเพลินเลยค่ะ.. จากคุณ : glorygu เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:34:31

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วรู้สึกนึกชื่นชมแต้วกับบอย ปกรณ์ขึ้นมา ไม่ใช่ไม่ชอบเอ ศุภชัยนะคะ เราก็ยอมรับว่าเขาทำงานเก่ง เพียงแต่ว่าเริ่มจะเข้าใจว่าทำไมสองคนนี้จึงตัดสินใจแหกคอกออกมา และชื่นชมที่เขายังอยู่ได้อย่างดี โดยเฉพาะบอย ที่สร้างแบรนด์ บอย ปะเกรียนขึ้นมาจนติดตลาดเองได้ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงๆ จากคุณ : kaajorn เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:51:39

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ หะ  บอย ปกรณ์เคยอยู่กับเอ ศุภชัยด้วยเหรอ จากคุณ : ปุริมาน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 20:52:36

ความคิดเห็นที่ 37 เพลิงทระนง ของ เมกเกอร์กรุ๊ป ไม่ใช่เมกเกอร์วาย... จากคุณ : lucky123 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:02:45

ความคิดเห็นที่ 38 ยอมรับว่า เจ๊เอ เก่ง จริงๆ นะ แต่การโตเร็วเกินมันก็ไม่ได้ช่วยทำอะไรให้ยั่งยืน ค่อยๆ กินที่ละน้อยดีกว่ามูมมามจะสำลักจุกอกเอา ยังจำวันที่พาหนุ่มน้อยหน้ามนสองคนไปให้ฝั่งหนึ่งแล้วพออีกฝั่งเสนอดีกว่ากลับคำเฉยเลยได้ไหม แสบสันต์จริงๆ ให้ตายซิ 5555 จากคุณ : phokar เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:11:44

ความคิดเห็นที่ 39 # 36 เคยเห็นรูปบอยใน profile เด็กของเอ ศุภชัย นะคะ และเคยอ่านเจอว่าเอ ศุภชัยดูเรื่องละครกับทางช่อง 3 ให้ ประมาณปีที่แล้วก็เหมือนเคยมีสัมภาษณ์ว่ายังต้องแบ่งรายได้จากละครให้เอ ประมาณว่าคุณเอเป็นคนพาไปเซ็นสัญญากับช่อง 3   ส่วนตอนนี้ไม่ทราบแล้วนะคะว่าเป็นยังไงแล้ว ใครรู้จริงกว่าเข้ามาแก้ได้ค่ะ จากคุณ : kaajorn เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:11:45

ความคิดเห็นที่ 40 เดี๋ยวจะกลับมาอ่านนะคะ  ท่าจะแซ่บ จากคุณ : มิสสตาร์วอร์ส เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:50:04

ความคิดเห็นที่ 41 อืม ยังไงเราก็นับถือเอที่เป็นคนที่มีความพยายามสูง รู้จักวางแผนแล้วก็คิดค้นกลยุทธ์ใหม่ๆ กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย เราว่าสังกัดเค้าก็เป็นสีสันให้วงการดีค่ะ ไอ่เบื้องหลังจะเป็นไงก็แล้วแต่ จากคุณ : เบนจัง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:52:05

ความคิดเห็นที่ 42 อืม จากคุณ : กุเต่ยโหดกระถีบ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:55:56

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านซะเพลินเลย มันมีเรื่องทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง ช่อง3 ขาดแคลนคนเขียนบทละครอยู่ น่าจะชวนคนนี้ไปเขียนให้นะ จากคุณ : cefrisky เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:59:05

ความคิดเห็นที่ 44 ตาสว่างขึ้นเยอะ เอหากินกะงานอีเว้นท์ และ โฆษณาของเด็กในสังกัดนี่้เอง ถึงว่าใช้งานดาราคนเดียววันเดียว 2 งาน ทั้งที่ถ่ายละครก็ดึก ล่าสุดก็ทิปโก้ที่มีหมาก ปริญ เป็นพรีเซ็นต์เตอร์ ชีสามารถพาเด็กในสังกัดมาร่วมแจมได้สุดยอดจริง แต่แอบสงสารเด็กนะ ออกงานอีเว้นท์ ถ่ายละครด้วย ฝ้ายณิชานันท์ เร่ิมแรกก็เล่นบทดี ตอนนี้เล่นร้่ายจนกลับมาดีไม่ได้แล้ว จากคุณ : 542lovelove เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:07:47

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่แปลกใจเลย เพราะเห็นพฤติกรรมของคนดูแล คัดเลือกนักแสดงช่อง3 บางคน เอาอกเอาใจเด็กของค่ายนี้ จนคิดว่าเขาให้กระเป๋า Hermes เจ้ด้วยปล่าว จากคุณ : สมุนคู่ใจพี่เล่งฮู้ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:39:49

ความคิดเห็นที่ 46 ปล่อยให้แทรกแซงงานของผู้จ้ด และดาราคนอื่นแบบนี้ ไม่ดีแน่ จากคุณ : เหล่งนึ่ง_aum เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:47:04

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับคห.45 เลยค่ะเพราะตาม IG ของคนคัดเลือกนักแสดงคนนี้อยู่ มีแต่เด็กเอทั้งนั้นถึงขนาดเรียกเป็นลูกสาวเลยยังมีเด็กเออีกหลายคนที่ ยังไม่เปิดตัวค่ะสงสารก็แต่นักแสดงของช่องที่มีฝีมือแต่ไม่มีเส้น จากคุณ : Sasiorn เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:59:25

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านมันส์มาก จากคุณ : Hermisy เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:31:58

ความคิดเห็นที่ 49 เอ เองหรอ ที่พาแต้วมาจากช่อง 7 แค่แต้วได้เล่นเป็นนางเอกประกบแค่นี้ ถึงกับพามาช่อง 3 เลย ดาวจรัสแสงอย่างแต้ว เล่นที่ไหนก็ดัง และอยู่ได้นานอยู่แล้ว ช่อง 7 เค้าก็เล็งเห็น เสียดายและเสียใจมาก แต้ว เป็นนางเอกคนแรกในวงการที่เห็นที่ช่อง 7 แล้วเราหลงรักอย่างไม่มีเหตุผล เพ้อมาก เพ้อถึงมากกว่านางเอกดังๆตอนนั้นอีก แล้วมีความรู้สึกเชื่อขึ้นมาว่า ช่อง 7 ดันแน่ๆ ไม่นานจะมีละครตามมา เราตามดูแต้วอ่านคั่นประกาศมาสักพัก จากนั้นก็รู้สึกว่าแต้วหายไปจากช่อง 7 ผิดหวังมากนะตอนนั้น จนมารู้เมื่อไม่นานมานี้ว่า ช่องเคยวางตัวให้แต้ว เล่นละครเรื่อง ดวงใจและสายน้ำ โดยมี ไผ่ พาทิศ เบนซ์ ปุณยาพร และ แต้ว จะได้เล่นคู่ กับ แดน ดนัย แต่ข่าวออกว่าแต้วปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าติดเรียน เราอยากรู้จริงๆ ว่าตกลงอันนี้ก็เป็นประกาศิต เอ ศุภชัยหรือป่าว ถึงแม้เรื่องพวกนี้ ถ้าดาราไม่เออออด้วย ก็คงไม่สามารถพาใครไปไหนได้ก็เถอะ แต่ตอนนั้นรู้สึกว่า แต้ว ยังเด็กมาก เชื่อเถอะ หลายคนที่เชื่อว่าดาราก็มีดวงที่ว่าจะเกิดกับที่ไหนในวงการ ไม่มีใครที่จะสามารถอยู่ได้ทุกมุมของวงการนี้ แต่สำหรับแต้ว ถ้าตอนนี้ แต้ว ยังอยู่ที่ช่อง 7 แต้วก็อยู่ได้และดังไม่แพ้ แพนเค้ก หรือ ขวัญ เลย เราเชื่อว่าคุณแดงแกเห็นอยู่แล้ว การที่เริ่มต้นด้วยบทบาทรอง หรือ ประกบ ใคร มันไม่ใช่การถูกดิสเครดิต เพชรมันก็คือเพชร อยู่ตรงไหนก็งดงามส่องสว่างเสมอ   แล้วการที่คุณพยายามดันเด็กแบบเสียมารยาทขนาดนี้ ถือว่าคุณไม่ให้เกียรติเจ้าของสถานี ที่เค้ามองแล้ว คุณแดงท่านเก่ง และมองขาดกว่าคุณเยอะ ไม่งั้นเด็กคุณที่เหลือในช่อง 7 คงได้เป็นพระเอกนางเอกกันหมดแล้ว หลายคนโปรไฟล์ดีมาก เล่นเก่ง แต่ไม่สามารถขึ้นพระนางหลังข่าวได้ อย่าให้ได้เอ่ยชื่อเลย เยอะมาก ที่เข้ามาด้วยบทพระนางแต่เริ่ม  แต่ยอมรับว่า เล่นดี แสดงดีกันทุกคน แต่โดยรวมแล้วคือมันไม่ได้ไง บางคนภาพนักแสดงมันได้ แต่ภาพของพระเอกนางเอกมันไม่ได้อ่ะ ที่พูดมาไม่ได้อคติกับคุณเอแม้แต่น้อย เราเคยถึงขนาดยึดเค้าเป็นไอดอลเลย เก่งมาก เป็นเหมือนผู้วิเศษที่สามารถมองเห็นแววพระนางอันดับต้นๆชื่อดังกระหึ่มได้ตั้งหลายคน จำได้ไหม ใครให้โอกาสคุณ พระเอกคนแรกของคุณ ชื่อ ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่ช่อง 7 ทำให้ดังขึ้นมาเป็นพระเอกเบอร์ 1 ของช่อง และเป็นอันดับต้นๆของวงการ แต่แล้ว ป๋อ ก็ทำให้คุณแดงผิดหวัง ย้ายช่องเฉยๆไม่ได้ ทำไมต้องมีวลีทำร้ายความรู้สึกกันขนาดนี้ คุณเอ คือผู้อยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ การกระทำหลายอย่างของคุณเอตอนนี้มีหลายอย่างที่ดูจะเห็นแก่ตัวกับเพื่อนร่วมวงการเยอะมาก จนเราเริ่มจะรับไม่ได้และผิดหวัง อยากให้คุณเอคิดใหม่ ทำใหม่ ก่อนจะสาย ถึงคุณมีเด็กที่เทพอยู่หลายคน แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เด็กอยู่ได้เพราะผู้ใหญ่ก็ต้องหนุนด้วย ก่อนที่หลายคนจะบอยคอตคุณ...ขอให้สติและความคิดที่ดีงามจงบังเกิดด้วยเถอะ จากคุณ : alpado เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 50 ช่อง 3 คงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าการยืมจมูกคนอื่นหายใจเป็นยังไง คุณเอเก่งนะ แต่ก็อันตราย และกินมูมมากมากเกินไป ไม่เคยมีปรากฏว่าการผูกขาดจะทำให้ที่ใดเจริญรุ่งเรืองได้ ปล่อยให้โตไปกว่านี้ไม่ดีแน่ๆ ค่ะ แต่เราเชื่อว่าที่ผ่านมาคือจุดพีคสุดของเค้าแล้วล่ะ แต่ต่อจากนี้กราฟจะเริ่มค่อยๆ ดิ่งลงแล้วล่ะ.. จากคุณ : zugas เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:50:49

ความคิดเห็นที่ 51 มีส่วนจริง จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 23:57:06

ความคิดเห็นที่ 52 บางทีก็คิดอะไรเยอะเกินไป ... เอ่อ.. ค้านนิดนึงตรงพลอย กับ เจนี่ เราว่าอยู่ในระดับเดียวกันนะ เพียงแต่ตอนนี้พลอยมาแรงกว่าอยู่ช่วงตัวนึงเท่านั้นแหละ.. ปล.ชอบทั้งสองคนนี้มาก (: จากคุณ : ใต้ร่มคันเดียวกันวันฝนพรำ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:37:46

ความคิดเห็นที่ 53 วัฎจักรชีวิต มีขึ้น ก็ต้องมีลง ไม่มีใครสามารถอยู่ยั้งยืนยงได้ตลอดไป เหนือฟ้า ยังมีฟ้า.....^^ ไม่มีใครหลีกหนีสัจธรรมนี้พ้น รวมทั้งเอด้วย ******************************************* พลุที่เราเห็นว่าดี เห็นว่าสวย มันจุดขึ้นสูงๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่นานมันก็ตกลงมา การยืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่เคยมีผลดีกับใครในระยะยาวเลยจริงๆ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 01:14:00 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 00:56:44 จากคุณ : MEWHZAI เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:56:18

ความคิดเห็นที่ 54 คุณเอคงต้องระวังไว้มากๆ กับการดันและโปรโมต เพราะสูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ จากคุณ : ตะวันข้างจันทร์ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 01:59:12

ความคิดเห็นที่ 55 อยากฟังด้านที่ล้มเหลวมั่งอะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 02:56:25

ความคิดเห็นที่ 56 ใน ดิ ไอดอล 1 ไม่มีโตโน่ แน่นอนคะ แต่ ในบรรดา ละครที่คุณเอ ดันเด็กของตัวเองเข้าไปแสดง ทำให้ เด็กจากเวทีประกวดของช่อง3 ต้องหลุดจากการรับบท ทั้งที่ มีการวางตัวไว้แล้ว ต้องเอาเด็กของคุณเอ เสียบแทน อันนี้ เรื่องจริง แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 03:06:09 จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 03:04:23

ความคิดเห็นที่ 58 บอม ธนินอะไรนี่หล่อจริง หล่อกว่าเด็กคุณเอหลายคนเลยด้วย ขอให้ได้เป็นพระเอกจริงๆ นะ จากคุณ : iMAD เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 03:43:57

ความคิดเห็นที่ 59 อีกไม่นานก็หล่น ถ้ายังทำงานแบบนี้ เพราะหลายคนเริ่มเอือม จากคุณ : Lanina เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 04:47:24

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณ จขกท.ค่ะ ทุกวงการเขามีคำว่า "จรรยาบรรณ" แม้แต่วงการธุรกิจ   ไม่รู้ว่าผลสุดท้ายของการทำงานแบบนี้จะเป็นอย่างไร   บ่อยครั้งความสำเร็จที่มาจากวิธิการที่ไม่ค่อยตรงไปตรงมาของใครคนหนึ่งก็ทำให้เกิดการเลียนแบบ  สร้างวัฒนธรรมที่เลวร้ายให้กับวงการในที่สุด ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ  การพัฒนาวงการละคร  บันเทิงของไทย .. มันจะออกมาในรูปแบบไหนนะ จากคุณ : ปลาน้ำจืด เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 06:21:22

ความคิดเห็นที่ 61 บทวิเคราะห์นี้เป็นความจริงอยู่มากทีเดียว ขอเรียกการตลาดแบบ "เอ ศุภชัย" ว่า การตลาดแบบชูชก นึกแปลกพิกลอยู่แล้วกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเด็กในสังกัด ซึ่งมันผิดปกติจากอดีตที่เคยเป็นมาอยู่มาก เหมือนมีเค้กอยู่ก้อนหนึ่ง แต่คุณเล่นสวาปามไปเกือบทั้งก้อน คนเราเมื่อปล่อยให้ความโลภครอบงำ ก็เป็นเช่นนี้เอง จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 07:55:12

ความคิดเห็นที่ 62 แล้วที่ยัดเยียด เด็กในสังกัดตนเองที่มือไม่ถึงในละครนั้น ควรจะคิดทบทวนบ้างว่า ได้ทำบาปทำกรรมกับนักแสดงที่ได้รับเลือกได้รับการวางตัวที่เหมาะสมไปแล้วกี่คน ทำคนดูต้องมาบ่นกันระงมในนี้ ถ้าคิดว่า สิ่งที่ทำอยู่ดีแล้ว เจริญแล้ว ก็จงทำต่อไปล่ะนะ มีเงินมากแล้ว ก็รู้จักทำบุญทำทาน ให้โอกาสเด็กใหม่ที่เหมาะสมกว่าบ้าง กฎแห่งกรรมนั้นเป็นจริงเสมอ ยิ่งยุคนี้ด้วยแล้ว เห็นผลไวเกินคาด ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า จากคุณ : aiwen^mei เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 08:03:16

ความคิดเห็นที่ 63 ชอบคำว่า สร้างวัฒนธรรมที่เลวร้าย ใช่เลยค่ะ ทำแบบนี้ได้เงินเยอะได้เงินเร็วจะมีคนทำตามอีกมากมาย แล้ววงการบันเทิงก็จะตกต่ำ ศิลปะจะหายไปเพราะมองผลกำไรสุดท้ายอย่างเดียว ดูวงการเพลงในตอนนี้เป็นตัวอย่าง จากคุณ : atiporn เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 08:08:39

ความคิดเห็นที่ 64 อืมมม ไม่รู้เรื่องข้างบนมีส่วนทำให้ละครช่อง 3 ช่วงนี้ตกต่ำลงหรือเปล่านะ โดยเฉพาะเรื่องการ casting จากคุณ : โมงยามแห่งความสุข เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 09:35:56

ความคิดเห็นที่ 65 ดูๆ ไปมันก็ใช้เส้นสายกันทั้งนั้นนะ อย่างทีวีซีนเจ๊ปิ่นเอง เปิดละครทุกล๊อต ยังมีอั้มอธิชาติตลอดเลย จากคุณ : pukpaoja เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 10:18:52

ความคิดเห็นที่ 66 โตโน่ไม่เคยประกวด The Idol Project 1 ค่ะ จากคุณ : หมอกพิษ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 10:32:19

ความคิดเห็นที่ 67 ณเดชที่โฆษณาฟรุตโตะ !!! แต่พอเราขับรถผ่านสี่แยกก็จะเจอ ณเดชแลบลิ้นกินเนื้อส้ม พัลพี้ จากคุณ : มินเอง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 11:07:04

ความคิดเห็นที่ 68 #65 อั้ม อธิชาติเป็นพระเอกในสังกัดทีวีซีน เรียกว่าพระเอกเบอร์ 1 ของค่ายนี้ก็ได้ ไม่แปลกหรอกที่จะเห็นเขาเล่นละครของทีวีซีนเยอะที่สุด ลองสังเกตดูสิ ละครหลายเรื่องของทีวีซีน นอกจากอั้ม อธิชาติ จะมีนักแสดงสมทบที่เหมือนกันเกือบทุกเรื่อง เพราะเขาเป็นเด็กของค่ายนี้ เขาก็ต้องเรียกใช้เด็กของเค้าสิ ค่ายอื่นก็ใช้ระบบนี้เหมือนกัน เพราะมีนักแสดงของตัวเอง ไม่ต้องรอคิวนาน เด็กเส้นน่าจะประมาณว่า ละครเรื่องนี้วางตัวพระเอกคนนี้เอาไว้ ค่ายดีมาก บทดีมาก ผู้จัดการคนเก่งเลยเอาพระเอกของตัวเอง ไปคุยกับผู้บริหารเพื่อขอเล่นแทน เขาอาจจะรู้ก่อนคนอื่นด้วยซ้ำ ว่าวางตัวพระเอกคนไหนไว้ เพราะเข้าติดผู้บริหาร แล้วขอเปลี่ยนตัวก่อน โดยที่พระเอกที่วางตัวไว้เดิมอาจจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำไป ว่าตัวเองเคยมีชื่อในละครเรื่องนี้ด้วย (แค่วิเคราะห์เฉยๆ) แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 12:15:41 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 12:08:28 จากคุณ : เหล่งนึ่ง_aum เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:03:56

ความคิดเห็นที่ 69 พี่เอเก่งมันก็จริง แต่การที่รุกหนัก สร้างกระแส หาเด็กหน้าใหม่ๆที่ตัวคิดว่าดีว่าถูกใจยัดเยียดให้ผู้จัดในลักษณะขายพ่วง บางครั้งมันดูเหมือนพี่เอมีอำนาจมากจนเกินไปที่จะไปก้าวก่ายผู้จัดเรียกได้ว่าไม่ต้องมีแคสติ้งละเจ๊จัดการเอง เจ๊เอว่าเหมาะคือเหมาะ ถ้าว่าไม่เหมาะเดี๋ยวไปหาโฆษณามาให้เด็กวํกตัวสองตัวสร้างมูลค่าขึ้นมาอีกนิด มันทำให้ดาราแบ่งวรรณะกัน เด็กพี่เอมาก่อน เด็กพี่เอดีกว่าเสมอ คนอื่นๆเป็นตัวรอง ความสามารถไม่ต้องแสดงกับพระนางรุ่นพี่มีบารมีก็หนุนให้ดังเอง ที่จริงก่อนหน้านี้มีคนชมการทำงานของพี่เอนะ แต่พักหลังเหมือนได้ใจมากเกินไปหลังประสบความสำเร็จกับ ณเดชน์อย่างล้นหลามก็หมายมั่นปั้นเด็กตัวเองเป็นแบบณเดชต่อ เราว่าประชาชนคนทั่วไปอย่างเราเริ่มรู้ทันแกก็เพราะการปั้นแบบยัดเยียดกับเคนเล็กนั้นแหละ ถึงได้รู้ว่าวิธีการทำงานของเจ๊เป็นยังไง ถ้าจะจ้างณเดชหรือหมาก เรื่องต่อไปต้องมีเด็กพี่เอ ยังไม่ร่วมสาวๆหน้าใหม่อย่าง มารี ,น้องที่เล่นแม่ยายฯ นี่ก็เด็กพี่เอ เป็นใครมาจากไหนไม่รู้ขึ้นแท่นนางเอกกันสนุกสนานข้ามหัวนางเอกรุ่นพี่ลูกหม้อของช่องกันไปหมด ที่ทางช่องจะปั้นก็ปั้นไม่เป็นกันซะงั้นมัวแต่ให้เด็กไปเรียนการแสดงแต่ไม่รู้จักโปรโมทเด็กของตัวเอง ก็ไม่แปลกที่เฮียสมรักษ์ต้องจัดการอะไรบ้างแล้ว ไม่งั้นพี่เอก็จะมีบทบาทมากขึ้นกว่านี้ สกรีนเทสต์เอง หาเด็กมาให้ผู้จัดเอง อะไรจะมีอำนาจล้นฟ้ามาลีนนท์ขนาดนั้นไม่ต่างอะไรกับตำแหน่งกรรมการเลย จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:41:23

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านแล้วมันส์มากๆ เอาไปพล็อตละครได้เลยนะเนี่ย จากคุณ : FAHSEXYgirl เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:07:35

ความคิดเห็นที่ 71 เขารู้เเต่เขาชอบณเดชน์ 555 จากคุณ : จัน - กลม เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:09:22

ความคิดเห็นที่ 72 คุณเอคงไม่ใช้เด็กเส้น แค่คนทำมาหากิน รับผิดชอบต่อหน้าที่ ไอ้พวกเด็กเส้นจริงๆ คงเป็นพวกค่ายละครลูกหลานเจ้าของช่องมากกว่า พวกพี่ชายเมียลูก น้องชายเมียลูก ลูกยี่แป๊ะ ตั่วอึ้ม โซ้ยเจ็กฯลฯ จากคุณ : วิวเฟรโด้โกเมส ซานวาดอซานเชส เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:47:13

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านจบมันดี ถ้าเป็นจริงอย่างบทความ คุณ เอ ไม่มีจรรยาบรรณเลยจริงๆ จากคุณ : hiaom เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:31:13

ความคิดเห็นที่ 74 ช่อง 3 พลาดแล้วแหละที่เปิดช่องทางให้ A เข้ามาแทรกแซง (กับนโนบายปั้นเด็กใหม่) และเห็นแก่ผลประโยชน์ที่ได้มาอย่างไม่เป็นธรรม เลือกกระแส มากกว่าคุณภาพ (เริ่มเห็นความเป็นช่อง 7 รางๆแล้ว) แต่ก็ช่วยไม่ได้นะคะ ที่ช่อง 3 ไม่มีความสามารถในการดันเด็ก นอกจากเด็กต้องพยายามสร้างผลงาน ให้เป็นที่ประทับใจด้วยตัวเอง ตามโอกาสที่ช่องมอบให้และคว้าไปเท่านั้น และก็ยกย่องเด็กช่อง ไม่ว่าจะอยู่บทไหน ก็พิสูจน์ฝีมือได้อย่่าง แมท มิ้นชาลิดา มาร์กี้ มะปราง และน้องเกล กว่าจะเป็นที่รู้จักได้ ต้องใช้ความสามารถแค่ไหน และยิ่งในบทบาทของละครเรื่องหลังๆ ที่ได้รับพิสูจน์ได้ดีมากเลย   ส่วนน้ำฝน พัช ,หยาด ,จ๊ะ กลับต้องไปเล่นละคะเย็น อย่างโป๊ป ก็น่าเห็นใจ ใครไม่เชื่อว่า A ไม่ได้สกัด ถ้าใช้ฝีมือจริงๆ อย่างโป๊ปไม่น่ารอด แต่ถึงขนาดไม่ได้เป็นเด็ก A ยังมาถึงจุดนี้ได้ก็นับถือเค้าไม่น้อย มีความสามารถแต่ไม่มีกระแส ก็น่าภูมิใจนะ มีความสามารถแล้วมีกระแส ก็น่าภูมิใจเหมือนกัน ไม่ให้ใครดูถูกได้ แต่มีกระแส ไม่มีความสามารถ ถ้ายอมรับได้และพยายามพิสูจน์ความสามารถให้ลบคำสบประมาืืท ก็น่ายกย่อง เพราะฉะนั้น เลือกเอาแล้วกัน ดาราหน้าใหม่ทั้งหลาย คุณอยากดังและอยู่ในวงการนี้อย่างไร ดังแล้วต้องมีข่าวเสียหายเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองได้อยู่ในความสนใจ หรือ ไม่มีกระแสสร้างเรื่องเสียหายแต่อยู่ได้ด้วยผลงานที่ทำให้คนยอมรับ และขอยกย่อง แต้ว ที่กล้าและยอมออกมาใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อพิสูจน์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับในวงการนี้ได้ และขอยกย่องนักแสดงรุ่นก่อนๆ ที่ดังระดับนางเอก-พระเอกในรุ่นนี้ของช่อง 3 อย่างแท้จริง ที่ใช้ความสามารถมาจนถึงจุดนี้ได้ มันน่าภาคภูมิใจกว่านะ สำหรับดาราที่ได้รับบทตัวประกอบหรือบทรอง แล้วค่อยเลื่อนลำดับบทขึ้นมาเมื่อพิสูจน์ได้แล้วว่าความสามารถถึงพระเอก-นางเอก และอยู่จนถึงตอนนี้ แต่ในขณะเดียวกัน A จ้องแต่จะยัดเยียดเด็ก พอพิสูจน์ความสามารถไม่ได้ กลับถอยจากบทพระเอก-นางเอก มาสู่บทรอง และรองตามลำดับขั้น มันทำให้รู้ได้ว่า ปัจจุบันนี้คนดูละคร เริ่มมีวิสัยทัศน์ในการดูละครและวิจารณ์กันมากขึ้น อยากบอกว่า ไม่ใช่จะเชื่อ จขกท.ทั้งหมด แต่พิจารณาจากสิ่งที่ฟังคนในวงการต่างๆ เล่ากันมา เรายังนึกว่า น้ำเน่า เลย แต่อ่านกระทู้นี้ ก็รู้แล้วว่า นิยายน้ำเน่า ก็สร้างมาจากมูลเหตุเรื่องจริงทั้งนั้น หวังว่าเราหลงมากระทู้นี้ คงไม่ใช่วิธีสร้างกลยุทธ์ของ A ให้อยู่ในกระแสใช่รึเปล่า ดูอย่างของเกาหลีค่ะ เขาต้องเดบิ้วต์กันตั้งหลายปี บางคนเป็นนักร้องดัง แต่ไปเล่นละครยังเป็นแค่พระรองหรือตัวประกอบ นั่นส่งผลให้พระรอง นางรองเหล่านั้นขยับขึ้นมาเล่นเป็นพระเอก นางเอก ได้ แต่เด็กA จะต้องให้เสียเวลาทำไม ละครแค่ทางผ่าน อีเว้นต์ต่างหากเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในขณะที่ ดารานักร้องชื่อดังที่เกาหลี มุ่งโปรโมตเด็กผ่านรายการทางทีวี (ดีตรงที่ คนทั่วไปแค่มีทีวีก็ได้เห็นดารานักร้องที่ตัวเองชอบ ไม่ต้องดั้นด้นเพื่อจะไปหาดูในตัวเมืองสำหรับคนที่ลำบากแต่อยากดูผลงาน ข่าว ดาราที่ตัวเองชอบ ) ในขณะที่เด็กของ A มุ่งเน้นงานอีเว้นต์ มากกว่าออกรายการทางทีวี (เพราะได้เงินเยอะกว่าใครจะไม่เอา) แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 19:33:51 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 18:29:01 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 18:27:37 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 18:13:07 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 55 18:08:39 จากคุณ : ตะวันอำพราง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 18:06:56

ความคิดเห็นที่ 75 คุณเอเธอเริ่ดมากค่ะ ในวงการมายาเธอไม่ธรรมดาจริงๆ ^_^ จากคุณ : ลูกคิดสีเทา เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 19:12:42

ความคิดเห็นที่ 76 อยากฟังสัมภาษณ์อีกฝ่ายบ้าง จากคุณ : ชีวิตคิดบวก เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 19:16:08

ความคิดเห็นที่ 77 ว่าจะเข้ามาเม้นต์อะไรสักหน่อย แต่เปิดไปเจอลิงก์ของจขกท.ที่ให้มา แล้วไปสะดุดกับคอมเม้นต์นึง ที่พูดตรงใจเราทุกอย่าง *** ความคิดเห็นที่ 39 อ่านจนจบ แล้วอ่านคอมเม้นท์ หลายคนบอกว่า เอฉลาด เห็นด้วย แต่ สรุปว่าฉลาดแกมโกง เป็นฉลาดที่เอาตัวรอด เห็นแก่ตัว ไม่มีจริยธรรม ไม่สนใจคนรอบข้าง ข้ามหัวคนอื่น ดูเหมือนว่าเป็นคนฉลาด แต่คนแบบนี้ในสังคม สังคมจะย่ำแย่ไปทุกวัน อีกอย่าง ดูชุดที่เธอใส่ มีที่คาดผม กระเป๋าแพง ทุกอบ่างแพง แต่ไม่มีรสนิยม แสดงว่าเป็นคนที่บ้าวัตถุนิยม แต่ไม่มีสไตล์ ไม่สนวิธีการที่ได้มา สังคมที่คนประเภทนี้ มีแต่ลบมากกว่าบวก พร จากคุณ : FAHSEXYgirl เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 19:43:33

ความคิดเห็นที่ 78 จริงตามความเห็น 45 กะ 47 เธอปลื้มดาราของเอมาก ไม่รู้เพราะอะไร ออกจะดูถูกการดูแลดาราของชั้น 9 ด้วยซ้ำ จากคุณ : TIME KEEPER เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 00:46:55

ความคิดเห็นที่ 79 มาแจม เคยเห็นภาพ เคส ละครเรื่อง "รอยไหม" แบบนี้ด้วยล่ะ ยังงงๆว่า ผู้ชายคนนี้คือใคร (ตอนนั้นไม่รู้จัก) ในเมื่อข่าวบอกว่า พระเอกเป็น โฬม แล้วจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นอั้มนิ แล้วเด็กคนนี้จะเล่นเป็นตัวละครไหนหว่า!! แล้วมายังไง จากคุณ : กะเหรี่ยงดง เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 02:58:26

ความคิดเห็นที่ 80 ^ พุทโธ แคล้วคลาด.. ธรรมโม แคล้วคลาด.. สังโฆ แคล้วคลาด.. //ถอนใจเฮือกโตๆ ยกมือไหว้พระปะหลกๆ - -" จากคุณ : tarantella เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 11:50:54

ความคิดเห็นที่ 81 พี่บอยไม่ใช่เด็กพี่เอนี่คะ บางที พี่เอเค้าอาจจะมองอะไรพลาดไปบ้างก็ได้นะ ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 15:21:23 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 15:20:22 จากคุณ : 55dada55 เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 15:17:46