ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกกิ๊ฟท์ค่ะ ^_^
(จากความเห็น 179 นะคะ)
จริงๆ แล้ว ยังมีรายละเอียดที่เล่าข้ามไปอยู่อีกนิดหน่อย
เพราะมันคือความอับอายของอิชั้น ที่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังมาก่อน
นั่นก็คือ...
ตอนที่อิชั้นช่วยถ่ายรูปคู่ให้น้องแอฟกับคุณสงกรานต์
ในขณะที่กำลังจัดองค์ประกอบภาพในเฟรมอยู่นั้น
อิชั้นรู้สึกว่าถ้าถ่ายแบบเห็นต้นแขนของน้องแอฟแล้ว จะดูไม่สวย
ถ่ายแบบเห็นต้นแขนนิดเดียวจะออกมาสวยกว่า
ใจไปไวกว่าแสง อิชั้นดันพูดออกมา เสียงค่อนข้างดังพอประมาณ
เนื่องจากบรรยากาศในโรงละครกำลังเงียบๆ กันอยู่ ... ว่า ...
"เดี๋ยวพี่ถ่ายปิดต้นแขนน้องแอฟให้นะคะ"
พอหลุดปากพูดออกไปแล้วก็ใจหายวูบ
ทำไมชั้นช่างกล้า ที่จะพูดราวกับจงใจป่าวประกาศให้ผู้ชมทั้งรัชดาลัยทราบทั่วกันว่า
"แอฟ ทักษอร ต้นแขนใหญ่"
พอสบตาน้องแอฟในกล้อง ก็เห็นน้องกระพริบตาปริบๆ ดูงงๆ นิดๆ
แต่พอเราเริ่มนับ ก็กลับมายิ้มหวาน ตาใสปิ๊งให้กล้องเหมือนเดิม
ส่วนคุณสงกรานต์นี่ ถึงกับหันไปดูต้นแขนน้องแอฟเลยทีเดียว แล้วก็ทำหน้าสงสัย
ชนิดที่ถ้าไม่เกรงใจ ก็คงจะพูดออกมาดังๆ แล้วว่า
ต้นแขนแอฟใหญ่ตรงไหนครับป้า ดูยังไงก็ไม่เห็นจะใหญ่เลย
ปร้าผิดไปแล้วจ้า พ่อสงกรานต์ แก่แล้วก็นัย์ตาฝ้าฟางแบบนี้แหละ อย่าถือสาปร้าเลย 
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเห็นภาพน้องแอฟที่ไหน
อิชั้นเป็นต้องเหลือบมองต้นแขนของน้อง แล้วก็พบว่ามันช่างเล็ก กลมกลึง และเรียวงาม
สีผิวก็สม่ำเสมอ เรียกว่าเป็นต้นแขนในอุดมคติของผู้หญิงหลายๆ คนเลยก็ว่าได้
ก็เลยยิ่งตอกย้ำความรู้สึกผิดในใจ
ถ้าใครได้เจอน้องแอฟ ฝากบอกด้วยนะคะ ว่าอิชั้นพลั้งปากไป ไม่ได้ตั้งใจ
จริงๆ แล้ววันนั้น มีคำชมน้องแอฟที่แอบชมอยู่ในใจเป็นร้อยคำ แต่ไม่กล้าพูด ดันพูดอะไรออกไปก็ไม่รู้
เรื่องมันช่างน่าอายยยยยยยย 
แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 21:06:04