ส่วนหนึ่งเพราะค่านิยมครับ
เมื่อก่อนเรา ใส่ผ้าคาดอก หรือแม้ไม่ใส่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะบ้านเมืองเราร้อน
แต่พอวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา แล้วดันมีนโยบายทำให้บ้านเมืองเจริญตามแบบอย่างตะวันตก โดยที่ต้องการขจัดสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมเดิมๆของเรา (ที่ตอนนั้นมองว่าไม่ใช่แบบผู้เจริญ) ทำให้วัฒนธรรมของเราถูกกลืนหายไป และเริ่มรู้สึกแปลกแยกมาตั้งแต่นั้นครับ
ยิ่งปัจจุบัน ไอ้คนรักษาวัฒนธรรม ก็พยายามรักษาแบบดั้งเดิมสุดๆ ไม่คิดดันแปลงให้เข้ากับยุคสมัยเลย ช่องว่างก็เลยยิ่งห่างเข้าไปอีก เด็ก วัยรุ่น ก็มองว่าเป็นเรื่องของคนยุคเก่า ผู้ใหญ่ก็มองว่าเด็กไม่สนใจวัฒนธรรมของชาติ ทั้งๆที่ไม่คิดปรับเข้าหาเด็กเลย เลยเข้ากันไม่ติด
ในขณะที่ญี่ปุ่นคิดพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมแบบอย่างตะวันตก
"แต่ไม่คิดเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของตัวเอง"
แล้วพัฒนาประเทศในรูปแบบนั้นมาตลอด คือเทคโนโลยี นวัตกรรมก็พัฒนาไป แต่วัฒนธรรมประเพณี ก็ยังรักษาไว้อย่างปกติ และไม่ได้เก็บเข้ากรุ แต่ยังให้มันเข้าถึงทุกชนชั้น การใส่ชุดของเขาเลยไม่ได้ดูแปลกตาครับ
แต่จุดที่สำคัญที่สุดของเขา ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ รวมถึงชาวต่างชาติอย่างเราๆ สนใจ และรู้จักวัฒนธรรมของเขา และทำให้รู้สึกมันเป็นเรื่องใกล้ตัวไม่แปลกแยก
คือการที่สื่อ อย่างหนัง ละคร หรือการ์ตูน คอยสอดแทรกวัฒนธรรมของเขามาตลอด โดยเฉพาะการ์ตูน ที่มักทำให้สิ่งของโบราณอย่างดาบญี่ปุ่น หรือชุดของเขา เป็นสิ่งที่เท่ ไม่ล้าสมัย ด้วยการเอาเข้ามาผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ตลอดอยู่เนืองๆ
คาตะนะ ที่เด็กวัยรุ่นใช้ ก็เห็นอยู่หลายเรื่อง ชุดญี่ปุ่น อย่างซามูไร ก็ถูกนำเข้ามากับตัวละครเท่ห์ๆอยู่ตลอด ถ้ายุคปัจจุบันก็ บลีชนะแหละ ตัวอย่างที่ดี ญี่ปุ่นจ๋าเลย
แล้วมีการนำประวัติศาสตร์มาเล่นตลอด ไม่ว่าจะประวัติศาสตร์จริง หรือนิยายพื้นบ้าน โดยมีการยอมให้ดัดแปลง เล่นได้ ก็เลยมีหนัง การ์ตูน นิยายออกมาอยู่เรื่อยๆ
เอาเป็นว่าคนในห้องนี้ไม่น่าจะไม่มีใคร ไม่รู้จัก ตัวละครอย่าง เจ้าหญิงคางุยะ หรืออุราชิม่า ทาโร่ หรือบุคคลในประวัติศาสตร์อย่าง โนบุนากะ และอิเอยาสึ
เพราะตัวละครเหล่านี้มักถูกนำมา "เล่น" บ่อยมาก
ในขณะที่เรา จะรู้จักตัวละครในวรรณกรรม หรือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์กี่คนกันเชียว ถ้าไม่ได้บังคับให้เรียน
หลักๆก็คือเขาผลักดันวัฒนธรรมของเขามานานนั่นแหละครับ มันเลยยังอยู่ และไม่ทำให้รู้สึกเก่าเลย แต่ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปแล้ว
ในขณะที่ไทย พอหายไปช่วงหนึ่งใหญ่ๆ แล้วไม่คิดจะทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ นอกจากบังคับดู/เรียน แบบเดิมๆอย่างนั้น พอคิดจะฟื้นฟูวัฒนธรรม มันก็ต่อกันไม่ติดเสียแล้ว
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 55 13:31:57