ความคิดเห็นที่ 1 ที่กล่าวเช่นนี้หมายถึงว่า ในการสร้างบุคลิกของตัวละครเช่นนี้นั้น เท่ากับว่า เป็นการแยกแยะความดี-ความชั่ว เป็นขาว-ดำ ซ้าย-ขวา แบบรวบรัดคู่ตรงข้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่ล้าสมัยมากมาย และยิ่งถ้าลองวิเคราะห์ตัวละครโลกิ ให้ลึกเข้าไปแล้ว การทำลายงานพิธี เพื่อไม่ให้ ธอร์ ได้เป็นกษัตริย์ แต่กลับเปิดทางให้ยักษ์เข้ามาเอาอาวุธ ซึ่งไม่ต่างจากการเปิดสงครามครั้งใหม่ แล้วนั้น โลกิ จะได้เช่นไร นอกจากการสู้รบและความตาย ซึ่งยิ่งไกลห่างจากเป้าหมายที่ต้องการให้ตนเองได้รับความนิยมจากท่านพ่อ มากขึ้นทุกที นี่คือการยกตัวอย่างขึ้นมาเพื่อให้เห็นจุดที่บอกว่า ภาพยนตร์ Thor ใช้การวางบุคลิกตัวละครแบนราบไม่มีมิติ แม้ภาพยนตร์กำลังให้ ธอร์ ได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิต ในโลกมนุษย์ จนทำให้เปลี่ยนเป็นคนละคน มีความสุขุมและเยือกเย็นมากขึ้น ชัดเจนในฉากที่ ธอร์ เผชิญ หน้ากับ หุ่นยนตร์ที่โลกิ ส่งมาเพื่อฆ่าธอร์ (ผู้เขียนจะแกล้งละเลยว่า โลกิ ส่งหุ่นยนตร์มาฆ่า ธอร์ เพื่อเหตุใดแล้ว การหากการฆ่าธอร์สำเร็จนั้น เป็นไปได้หรือที่ท่านพ่อจะให้โลกิเป็นกษัตริย์)  แต่ก็ไม่แน่ใจนักว่า การเรียนรู้ในจุดใดของโลกมนุษย์ที่ทำให้ ธอร์เปลี่ยนไป นอกจากการได้พบ เจน (Natalie Portman) ซึ่งไม่ได้มีการเน้นย้ำอันใดเลย ที่บังเกิดถึงความรักขึ้นมา   ดังนั้นหากสรุปในสารของภาพยนตร์ที่สื่อออกมานั้น คงออกมาในรูปแบบที่โลกบนสวรรค์นั้นมันช่างบ้าสงคราม แก่งแย่งชิงดี ในอำนาจความเป็นใหญ่ ส่วนโลกของมนุษย์นั้นแม้จะพบเห็นในการค้นคว้าทดลองวิทยาศาสตร์ของกลุ่มคน  แต่ก็ยังไม่พบความดี ของโลกที่พอจะทำให้ ธอร์ เปลี่ยนไปได้พอ (ธอร์ ยังใช้ความรุนแรง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ) จึงอาจกล่าวสรุปได้ว่า ภาพยนตร์ Thor  นั้น แม้จะทำให้ดาวรุ่งสองนายบังเกิด ทั้ง ธอร์ (Chris Hemsworth) และ โลกิ (Tom Hiddleston)  ด้วยความมีเสน่ห์ทั้งแววตาและบุคลิกท่าทาง แต่ด้วยโครงเรื่องที่ค่อนข้างยึดติดเอาไว้ ว่าต้องเป็นไปในรูปแบบใด แต่ขาดซึ่งรายละเอียด ที่สมเหตุสมผล จนทำให้เกิดอาการสะเปะสะปะ แบบที่เห็น จุดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้จะอยู่ที่นักแสดงนำสองนาย บวกกับการเคลื่อนที่กล้องที่น่าสนใจ รวมทั้งมุมกล้องที่แปลกตา หลายต่อหลายครั้ง จนอาจเรียกได้ว่า เป็นสองจุดที่ประทับใจในภาพยนตร์ก็เป็นได้ ภาพยนตร์ Thor เป็นงานบันเทิง ที่แม้นจะทำให้ Chris Hemsworth และ Tom Hiddleston แจ้งเกิดขึ้นมา(หลังจากเรื่องนี้ ทั้งสองตารางงานแน่นชุก) ที่แฟนพันธ์แท้ของการ์ตูนมาร์เวลคอยอุดหนุนอยู่เสมอ ทำให้ตัวหนังจะออกมาเป็นเช่นไร รายรับทางการตลาดก็ยังสูงลิ่วอยู่ตลอดเวลา และหวังว่าจะไม่โกรธผู้เขียน หากจะเอ่ยว่า ภาพยนตร์เรื่อง Thor มันเป็นงานประโลมโลก ที่ไม่ได้จรรโลงความคิดอะไรใหม่ๆเสียเลย  นอกจากความบันเทิงแบบ ผ่านๆไป และรูปร่างหน้าตาของนักแสดงนำ เท่านั้นเอง คะแนน 6.75 ติดตามบล็อกของผมที่ : http://a-bellamy.bloggang.com เฟสบุค: http://www.facebook.com/A.Surrealism จากคุณ : A-Bellamy เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:13:47

ความคิดเห็นที่ 2 >การขัดขืนคำสั่งเทพโอดินของธอร์เพื่อเข้าไปบุก โยธันไฮม์ ฉากนี้โชว์ความสามารถในการโน้มน้าวจิตใจของโลกินะครับ สามารถยุธอร์ที่ชอบใช้กำลังอยู่แล้วให้บุกได้ >น่าแปลกที่ โลกิ เลือกใช้  การกระทำการเข้าร่วมกับศัตรู แผนโลกิคือฆ่าศัตรูเอาใจโอดิน ถ้าทำตามวิธีที่คุณบอกแล้วศัตรูจะไว้ใจโลกิจนถูกล่อให้มาโดนฆ่าได้ยังไงล่ะครับ จากคุณ : ยัยกำปุ๊ง เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:16:20

ความคิดเห็นที่ 3 เราวิจารณ์ไม่เป็น แต่รู้สึกว่า Thor ไม่สนุกอ่ะ จะว่าไปแล้วถ้าแยกเรื่องย่อยของแต่ละคนในทีม Avengers เราว่า Iron man สนุกอยู่เรื่องเดียวอ่ะ - -" จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:18:22

ความคิดเห็นที่ 4 กระจกวิเศษ  บอกข้าเถิด  ใครที่ไหนจะหล่อเลิศกว่าข้าอีกในปฐพี... ยังหาซื้อแผ่น THOR ได้ที่ไหนคะ  อยากดูอีก จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:20:12

ความคิดเห็นที่ 5 ผมกลับมองว่าธอร์ในตอนแรกเป็นเพียงหนุ่มวัยฉกรรกำลังบ้าบิ่นได้ที่ เมื่อถูกศัตรูหยามถึงในบ้านขนาดนี้ก็ไม่แปลก ที่จะไปหาเรื่องยักษ์น้ำแข็งถึงถิ่น ยิ่งต้นเรื่องปูมาว่าธอร์เป็นคนใจร้อนหุนหันพลันแล่น เอะอะก็สงครามก็ยิ่งชัดเจน เพราะงั้นประเด็นนี้ของหนังผมเลยไม่ติดใจ เห็นด้วยตรงที่เนื้อหาในการเปลี่ยนนิสัยของธอร์มันผิวเิผินไปหน่อย น่าจะใส่อะไรเข้ามาให้มันพีคได้กว่านี้ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับนางเอกยังไม่ค่อยสุด รักกันง่ายไปนิดส์ แต่โดยรวมแล้วหนังก็ยังดูเพลิน ไม่ขัดใจอะไรตรงไหนนัก เพราะเรื่องนี้กะเข้าไปดูเอาสนุกล้วนๆ ก็หนังฮีโร่นี่นะ จะไปซีเรียสอะไรเหมือนดาร์ค ไนท์ซะทุกอย่างมันก็ไม่ได้หรอก จากคุณ : Natakumaru เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:25:02

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องนี้ก็มาจากการ์ตูนจ้า มันจะแบนราบหรือมีแค่ 2 ขั้วก็เพราะต้องการให้ดูง่าย สื่อสารง่าย ถ้าอยากจะดูเรื่องที่เนื้อหาซับซ้อน ผมจะเลือกดู The Dark Knight (+Rise) จากคุณ : thep497 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:27:02

ความคิดเห็นที่ 7 #2 ผมเข้าใจตามนั้นอยู่เหมือนกันครับ แค่เพียงติหนัง ตรงที่ สร้างบุคลิกโลกิ แบบด้านเดียวไปหน่อยครับ แบบว่า อยู่ฝ่ายนึง พอไม่ได้ดั่งใจก็ไปอยู่อีก ฝ่ายนึง ทำให้ตัวละครไม่มิติเท่าไร เหมือนสมมติว่าผม อยากได้ สิ่งของบางชิ้น แต่ผมไม่มีเงินซื้อ ผมก็ไม่จำเป็นต้องเป็นโจร หนิครับ ยังมีทางอีกหลายทางให้เราเลือก แต่ตัวละครโลกิถูกสร้างให้แบนราบเช่นนั้น อันนี้ผมตั้งข้อสังเกตครับ เพราะผมเข้าใจในกระบวนการของหนังบล็อกบัสเตอร์ที่ไม่สามารถใส่รายละเอียดปลีกย่อยมากมายได้ เพราะถูกบีบบังคับด้วยโครงเรื่องที่ต้องดำเนินตามสูตรเช่นนั้น จากคุณ : A-Bellamy เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:32:20

ความคิดเห็นที่ 8 น้องแน็ตน่ารักขนาดนั้น ไม่รักง่ายไปหรอกค่ะ อิอิ ดูตอนแรกก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากค่ะ ดูเพราะอยากปูพื้นก่อนAvengersเข้าโรง แต่พอดูAvengersจบ ก็รีบไปสอยThorมาดูอีกรอบ คราวนี้กลับสนุกซะอย่างงั้น เรื่องของความชอบแล้วแต่คนและแล้วแต่อารมณ์จริงๆค่ะ จากคุณ : ปลาทองตาแหก เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:57:28

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนดูธอร์ มีบ่นเหมือนกันค่ะ ฉากบู๊น้อยจัง จบซะและ จากคุณ : Alilat เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 16:20:56

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรพีค 55+ ไม่มีอะไรที่ดูดใจ ทำให้ประทับใจ ชอบอย่างเดียวคือธอร์มาโลกแล้วตลกดี จากคุณ : ซูเปอร์ตุ่นซาก้า เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 16:56:13

ความคิดเห็นที่ 11 ผมดูแล้วก็ไม่สนุกครับ ดูจบไม่เชื่อด้วยซ้ำว่า นาตาลี พอร์ทแมนจะรับเล่นเรื่องนี้ จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 17:13:42

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องนี้ดูเพราะพระเอกล้วนๆเลย จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 17:17:14

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบทุกฉากที่พระเอกโผล่มา   ยิ่งฉากถูกรถชนก็ชอบบบ แต่ตอนจบดูเหมือนหนังเด็กไปหน่อย จากคุณ : MochaCoCo เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 17:19:48

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบเพื่อนนางเอกที่สุด น่ารักโครต เรียกค้อนโยเนียวว่าเมียวๆ จากคุณ : ยัยกำปุ๊ง เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 17:54:04

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า ในซีรีย์ฮีโร่แต่ละคน ไออ่อนแมน ธอร์ กัปตัน ฮัลค์ ธอร์นี่สนุกอันดับสองรองจากไออ่อนแมนนะคับ กัปตันอะธรรมดามากเกิน - -' แต่ส่วนตัวผมชอบธอร์มากกว่าไออ่อนแมน เพราะว่าดูพระเอกมันซื่อๆ ดี ไออ่อนแมนเฮียสตาร์คแกเกรียนไปหน่อย  - -' เรื่องที่ธอร์บุกไปทำสงคราม นี่ผมว่าก็ไม่น่าแปลกเท่าไหร่นะคับ เพราะว่ายังเป็นวัยรุ่นมาก แล้วก็โลกตรงนั้นมันเป็นโลกที่วัดกันที่พลังและมีสงครามกันอยู่มาก (ไม่เห็นโลกเราปัจจุบันเท่าไหร่) บวกกับธอร์เป็นคนที่มีอาวุธและพลังเยอะด้วย ก็ย่อมต้องอยากลองเป็นธรรมดา อย่าไปมองว่าเป็นเทพอะไรเลยคับ มองว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวดีกว่า จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:16:02

ความคิดเห็นที่ 16 นึกว่าจะมีคนชอบแต่ 2 พระเอก และ นางเอก มีคนชอบเพื่อนนางเอกด้วย ซะงั้นเลย เมียวๆ 55+ ถ้าหนังเรื่องนี้เน้น เรื่องความเป็นพี่น้องของ โลกิ กับ ธอร์ ให้ดราม่ากว่านี้เชื่อว่า หลายคนต้องชอบมากกว่านี้แน่ๆ จากคุณ : A-Bellamy เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:16:52

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งได้ดูเรื่องนี้เหมือนกัน  แต่เห็นต่างกับจขกท. นิดหน่อย โลกิ ผู้น้อง ชัดเจนว่าเขาอิจฉา ธอร์ ที่กำลังจะได้เป็นกษัตริย์ จึงจัดฉากในการทำให้ยักษ์น้ำแข็งเข้ามาขโมยอาวุธ แต่น่าแปลกที่ โลกิ เลือกใช้  การกระทำการเข้าร่วมกับศัตรู การทำลายงานพิธี เพื่อไม่ให้ ธอร์ ได้เป็นกษัตริย์ แต่กลับเปิดทางให้ยักษ์เข้ามาเอาอาวุธ ซึ่งไม่ต่างจากการเปิดสงครามครั้งใหม่ แล้วนั้น โลกิ จะได้เช่นไร <<< แรกเริ่มนั้น  จุดประสงค์ของโลกิได้บอกไว้ในตอนท้ายเรื่องแล้ว  ว่าแค่ต้องการป่วนวันแห่งชัยชนะของธอร์ให้วุ่นวายเท่านั้น  อารมณ์แบบเด็กน้อยใจและอิจฉาพี่ที่พ่อกับแม่ให้ของขวัญวันเกิดพี่ชิ้นเบ่อเร่อ  เลยแอบละเลงเค้กวันเกิดพี่ให้เละก่อนได้เป่าเทียนนั่นแหละ เรื่องขโมยของ  ในหนังไม่ได้บอกไว้ว่าโลกิคิดไปถึงขนาดตั้งใจเปิดสงครามมั้ย  เพราะตอนที่เกิดเหตุเฮียแกก็เดินแผนแบบแบ่งรับแบ่งสู้อยู่  มองว่าโลกิคาดไว้ได้ก่อนแล้วว่ากะแค่ยักษ์ไม่กี่ตัวดอดเข้ามา  เสร็จเดสทรอยเยอร์ที่คอยเฝ้าอยู่แน่นอน  ยังไงก็เอาหีบกลับไปไม่ได้  และ ณ ตอนนั้นโลกิน่าจะยังไม่ได้คิดจะให้เรื่องบานปลายขนาดนั้น แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้แผนของโลกิเตลิดไปไกลกว่าเดิมคือ  ตอนที่ไปบุกโยธันไฮม์แล้วถูกยักษ์ตัวหนึ่งแช่แข็งแขนซ้าย  แต่แขนของตัวเองกลับคืนสภาพเดิมได้โดยไร้รอยขีดข่วน  ทำให้เกิดกังขาขึ้นมาว่าทำไม  แล้วพอกลับเข้าไปในห้องลับอีกครั้ง  สัมผัสกับหีบที่เป็นแหล่งพลังของยักษ์น้ำแข็ง  คราวนี้ร่างกลายกลับเป็นยักษ์วูบหนึ่ง  โอดินเดินเข้ามาพอดี  เลยคาดคั้นถาม  พอรู้ความจริงว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แถมเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกสอนสั่งมาตลอดว่าเป็นเหมือนศัตรูของแอสการ์ด  ยิ่งกู่ไม่กลับเลยคราวนี้ ผู้เขียนจะแกล้งละเลยว่า โลกิ ส่งหุ่นยนตร์มาฆ่า ธอร์ เพื่อเหตุใดแล้ว การหากการฆ่าธอร์สำเร็จนั้น เป็นไปได้หรือที่ท่านพ่อจะให้โลกิเป็นกษัตริย์ <<< ณ ตอนนั้น  โลกิหน้ามืดไปแล้วครับ  รู้แค่ว่าจะให้ธอร์กลับมาไม่ได้  ตอนนั้นโอดินก็หลับแบบไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่  แม่ก็คอยเฝ้าแต่พ่อ  ไม่รับรู้เรื่องภายนอกห้อง  เห็นได้ชัดว่าแผนล่อหัวหน้ายักษ์เข้ามาสังหาร  จัดขึ้นเพื่อหลอกแม่ของตัวเอง  แต่ไอ้เรื่องหลอกพ่อนี่ก็คิดว่างงเหมือนกัน  เพราะขนาดหัวหน้ายักษ์ยังรู้เลยว่าโอดินแค่ไม่ได้สติแต่รับรู้ทุกอย่าง  คงต้องบอกว่าโลกิหน้ามืดไปแล้วจริง ๆ การเรียนรู้ในจุดใดของโลกมนุษย์ที่ทำให้ ธอร์เปลี่ยนไป นอกจากการได้พบ เจน (Natalie Portman) ซึ่งไม่ได้มีการเน้นย้ำอันใดเลย ที่บังเกิดถึงความรักขึ้นมา <<< จุดเปลี่ยนสำคัญน่าจะเป็นการที่ธอร์ยกค้อนของตัวเองไม่ขึ้นครับ  จะเห็นได้ว่าก่อนหน้ามาถึงตรงนี้  ธอร์มีความอหังการและถือดีในตัวเองมาก  ต่อให้ถูกเนรเทศตกลงมาต่างโลก  เขาก็ไม่ได้ท้อแท้สิ้นหวังเลย  ตัวเขา (และคนดู) คิดมาตลอดว่าค้อนนั้นเป็นของเขา  มีแต่เขาที่ยกขึ้น  พอกลายเป็นว่ายกไม่ขึ้น  ธอร์ก็สิ้นหวังและได้ตระหนักแล้วว่าตอนนี้ตัวเองสูญเสียทุกอย่างของจริง  ยิ่งมาเจอโลกิปั้นเรื่องหลอกว่าพ่อตายแล้วเพราะตรอมใจเรื่องเขา  และสงครามก็สงบลงเพราะเขาถูกเนรเทศ  ก็ยิ่งได้คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรอีกแล้ว  และช่วงที่กำลังเคว้งก็ป๊ะได้มาเจอศาสตราจารย์สั่งสอน  กับได้มาดูดาวกับเจนพอดี  ตรงนี้ถ้าจะมองว่าน้ำหนักมันน้อยไปก็คงน้อยไป  แต่ด้วยโทนเรื่องคิดว่าพอเหมาะดีแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 18:19:03 จากคุณ : bluemouse เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณ #17 bluemouse  มากเลยครับ จริงครับ การดำเนินเรื่องในแบบฉบับเรื่องนี้ ผมว่าน่าจะเต็มที่ได้เท่าที่เห็นแล้วจริงๆ ถ้าเปรียบเป็นเชือกก็คงตึงเต็มที่แล้ว เพราะ หนังใหญ่ๆ ทุนเยอะๆ ต้องเอาไปใส่ใจเรื่องนู้นเรื่องนี้อีกมากมาย  เพื่อให้องค์ประกอบมันครบรส เข้าถึงคนได้กว้าง เปรียบไปก็คง เหมือนการกินอาหาร ถ้าเราได้กินหลายๆ อย่าง กินอย่างละนิดละหน่อย เราก็คงกินหลายแบบ แต่ถ้าเรากินจานเดียวอย่างเดียว เราคงเต็มอิ่มในแบบเดียว แต่จะไปกินจานอื่นก็ไม่ได้เพราะอิ่มแน่นท้องแล้ว แต่เรื่อง ธอร์ อาจหลากหลายในรสชาติ แต่จุดที่ทำให้เน้นแบบว่า เป็นจุดขาย อาจยังเบาบาง จริงๆ มันเป็น สัจธรรมของหนัง บล็อกบัสเตอร์อยู่แล้วนะ แต่ถ้าเรื่องไหนได้รับความชมมากๆ แสดงว่า สามารถทำความหลากหลายให้กลมกล่อม อันนี้น่ายกย่อง คูณสอง เลยครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 19:00:34 จากคุณ : A-Bellamy เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:33:04

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่าน หนังเรื่องธอร์เป็นหนังที่ประทับใจจนดูไป4รอบ แต่พอมาอ่านที่ จขกท.เขียนแล้วรู้สึกว่า จขกท.ตีความได้ดูถูกตัวหนังยังไงไม่รู้สิ หรือดูถูกผู้กำกับ? แต่ คนเรารับความงามของภาพที่ชมได้ต่างกัน ฉันใดก็ฉันนั้น พอมาอ่าน คห 17 เลยรู้สึกดีขึ้น เพราะคิดเหมือนกัน เทพธอร์ ซื่อยังไงก็ยังคงซื่ออย่างนั้น แต่ก่อนอาจมุทะลุดดุดัน คิดน้อย เอาแต่อารมณ์ แต่นั้นคือความเป็นวัยรุ่น มาท้ายเรื่องธอร์พี่แกก็ยังคงซื่อ โลกิ ถือเป็นตัวละครที่มีสเน่ห์มากล้นจริงๆ ดูไปสงสัยไปว่า คิดอะไรอยู่ ทำไปทำไม หรือกระทั่งทุกครั้งที่บอกรักพี่ชาย ยังทำให้คนดูสงสัยว่า นั้นบอกเพื่อกดความอิจฉาของตัวเองลงหรือเปล่า จนกระทั่งความจริงเรื่องตัวเองเปิดเผย ก็แสดงความน่าสงสารออกมาจนปวดใจ คิดว่าตัวเองฉลาดมาตลอด คิดว่าจัดการทุกอย่างได้เสมอ แต่ั ท้ายสุด ตัวเองก็อาจเป็นแค่หมากตัวนึง พล๊อตเรื่องนี้อ่อน ฉากต่อสู้ก็ไม่เยอะ ที่ไปถล่มโลกยักษ์ยังสนุกกว่าตอนมาสู้บนโลก แต่ตอบจบลงท้ายได้ดี ดีจนอาจจะบอกได้ว่าหนังฮีโร่มาเวลเรื่องนี้ไม่ได้ขายเอฟเฟคสู้รบ ไม่ได้ขายอภินิหารเทพ เน้นอารมร์ความรู้สึกมากกว่าอื่นใด และทำให้ อเวนเจอร์สนุกขึ้น ^^ ปล.เรื่องนางเอก เคยถามพี่สาวตัวเอง ว่าทำไมต้องเจน พี่สาวตอบว่า ถ้าพี่ธอร์แกตื่นมาเจอพี่สาวคนแรก เจนก็ไม่ได้เป็นนางเอก -*- โอเค เริ่ด จากคุณ : besuto เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 19:00:09

ความคิดเห็นที่ 20 ธอร์ ดูสนุกดีครับ เป็นหนังที่เขาสร้างจากการ์ตูน กลุ่มคนดูส่วนใหญ่ก็คือแฟนการ์ตูน เขาไม่ทำให้หนังมันดูยากคิดยากหรอกครับ โจทย์ของหนังแค่ทำให้หนังมันดูสนุก ตรงตามจินตนาการของแฟนการ์ตูนที่เคยอ่านธอร์ ทำได้แค่นี้ ก็คือทำได้ดีแล้ว ถ้าจะทำอะไรที่ซับซ้อน คุณภาพเอารางวัล คงสร้างเรื่องใหม่ดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลา มาขายชื่อ ธอร์ หลอกแฟนการ์ตูนเข้าไปดูหรอก จากคุณ : ป่วนกระโทก เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 19:02:46

ความคิดเห็นที่ 21 รู้ส็กว่านาตาลีรับเล่น เพราะ เคนเนท บราน่า กำกับนะ.เป็นนักแสดงในดวงใจของเธอ จากคุณ : Chales_za (chales_za) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 19:40:58

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่าเรื่องนี้พล็อตหลวม (ขอออกความเห็นจากความทรงจำที่แอบเลือนลาง) ธอร์ดูไม่ค่อยฉลาด (จงใจหรือเปล่า?) สิ่งที่เสียดายที่น่าเพิ่มขึ้นมาคือเหล่าแก๊งเพื่อนธอร์ ที่ได้บทกันไม่มาก ถ้านับทีมอเวนเจอร์ สนุกสุดก็เป็นไอร่อนแมนอยู่แล้ว แต่อันดับสองเราชอบ hulk ของเอ็ดเวิร์ดนอร์ตัน (แต่เราดูไม่จบนะ แต่เราว่าเค้าทำเรื่องราวได้ดี) ถ้าเทียบกัปตัน กับธอร์ เรายังคิดว่ากัปตันทำได้ดีกว่า แต่ธอร์หล่อกว่า (ฮ่า) จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 19:42:21

ความคิดเห็นที่ 23 เพิ่งเอามาดูอีกทีเหมือนกันครับ ก็สนุกใช้ได้นะครับ แต่ Action อาจจะไม่สะใจเท่าไหร่ ตัวร้ายก็ไม่ได้แบบเชือดเฉือนบทกันเท่าไหร่มันเลยดูดร๊อปๆไปบ้าง แต่แอบมี Hawkeye โผล่มาแป๊ปนึงด้วยเพิ่งจำได้ แถมตอนสุดท้ายหลังเครดิตก็โยงเรื่อง Cosmic Cube กับตัว ดร. และโลกิ ได้ดีทีเดียวครับ จากคุณ : พี่หมีขั้วโลก เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 19:49:46

ความคิดเห็นที่ 24 รอดูภาคสองละกันคะ ว่าจะเป็นอย่างไร อาจจะดูดีขึ้นก็ได้ จากคุณ : nupei123 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 21:21:23

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นต่างอย่างแรง THOR เนี่ยตอนแรกผมไม่อยากดูเลยสักนิดครับ ดูมันเชยๆ พระเอกก็ไม่หล่อ อาวุธตล๊ก ตลก แต่พอลองเข้าไปดูแล้ว ผมหลงรักธอร์ยิ่งกว่าไอออนแมนซะอีก ตัวหนังพล็อตง่ายๆเนื้อหาเบาๆก็จริง แต่มันสนุกทุกตอนเลย ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ ฉากสวย มุกตลกก็น่ารัก ดูเพลินครับ ยิ่งตอนไคลแมกซ์สุดท้าย จากคนธรรมดาที่เสียสละชีวิตเพื่อคนอื่นเลยได้กลับมาเป็นเทพอีกครั้ง นั่นมันสุดๆไปเลย (ฉากนี้แอบคิดถึงการ์ตูนเรื่องเฮอร์คิวลิส) เห็นด้วยกับหลายๆท่านที่ว่าฉากต่อสู้มันสั้นไปหน่อย ทำให้หนังยังไม่สุดนัก แต่แค่นี้ก็ทำให้ผมประทับใจมากแล้วครับ จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 21:56:03

ความคิดเห็นที่ 26 หนัง Thor มันแนวดูสบายๆ ผมก็คนหนึ่งนะที่ก่อนดูเรื่องนี้ ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่เลย แต่พอเข้าไปดูแล้ว กลับกลายเป็นว่าเรื่อง Thor เป็นเรื่องที่ผมชอบพอๆกับ Ironman ในขณะที่ Captain และ Hulk ก็ดูได้แต่ยังชอบน้อยกว่า ที่จริงเรื่องธอร์มันมีซีนสำคัญๆบางอย่างที่โดนตัด โดยเฉพาะในส่วนควาสสัมพันธ์รหว่างธอร์และโลกิ กับกการตัดสินใจเนรเทศธอร์ของโอดิน ตรงนี้อยู่ในดีวีดี ซึ่งผมก็เสียดายนะที่เขาตัดออก ไม่งั้นจะเข้าถึงอารม์ตัวละครกว่านี้ สรุปแล้ว หนังธอร์เป็นเรื่องที่ โจทย์ในการสร้างเป้นหนังค่อนข้างยาก เพราะมันต้องเอามาเชื่อมกับฮีโร่คนอื่นในอเวนเจอร์ทั้งที่ธอร์เป็นเทพ แต่ผกก.ถือว่าทำได้โอเคทีเดียวที่ทำให้หนังรอดมาได้ อีกคนที่สร้างยากพอกันก็กัปตันอเมริกานี่แหละ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 22:16:42

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่สนุกก็ได้ ดูไปแค่ 4 รอบ เอ๊งงงงงง 55 จากคุณ : eLepUnk เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 22:26:59

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 17 แตกฉานและตรงใจเรามากเลย คือใน the avenger เนี่ย thor เป็นหนังที่เราชอบมากที่สุด เพราะเรารู้สึกว่าเป็นหนังที่ไม่ใช่ว่ามาถึงพระเอกสู้กับตัวโกง จบ... แต่กลับมีการปู้ถึงพื้นฐานตัวละคร และการเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้เป็นอย่างดี หลาย ๆ อย่างในเรื่องบางทีละเอียดอ่อนจนเราคิดว่ามันช่างมาแปลกจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่ว ๆ ไปด้วยซ้ำ ทั้งตัวธอร์และโลกิต่างมีทั้งมุมมืดและมุมสว่างของคนเอง ธอร์เนี่ยเป็นคนที่มั่นใจและหยิ่งทนงตามประสาลูกเทพ (พระหนึ่งเหมือนเป็นลูกนักการเมือง) แถมมีค้อนวิเศษอยู่ในมืออีก ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เหวี่ยงค้อนพลังก็มหาศาลแล้ว ส่วนเรื่องนิสัย เราว่าเค้าเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ใจร้อนมากกว่า แถมการที่ถูกริบอำนาจแล้วส่งลงมายังโลกเนี่ย เป็นบทเรียนที่เหมาะสมมาก นอกนั้นเหมือนที่ คห. 17 ว่ามา ส่วนโลกินี่ คห. 17 พูดมาตรงใจเราเด๊ะเลย  ไม่พูดซ้ำละกัน นี่เป้นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราชอบเรื่อง thor มากที่สุด เพราะเค้าสามารถกำกับให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า ได้นั่งดูพัฒนาการของตัวละคร ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือเลวลง แล้วที่สำคัญ เราทึ่งกับการคัดคนเล่นเรื่องนี้มาก ๆ คริสนี่ดูเหมือนแสงสว่างมาก ๆ ดูมีพลังเหมือนกับพร้อมที่จะขับเคลื่อนคนรอบข้างได้ ส่วนทอมนี่แบบว่า เหมือนบทโลกิเกิดมาเพื่อเค้าเลยอ่ะ สีหน้าท่าทางดูมีปริศนาเร้นลับ จะร้ายก็หน้าเจ้าเล่ห์มาก บทจะเศร้าก็น่าสงสารซะจนคนเกลียดไม่ลง นี่เราดู avenger จบก็ไปแวะซื้อ thor กลับมาดูเลยนะเนี่ย เพราะว่ามันไม่อิ่มอ่ะ ทั้งสองคนเล่นดีจริง ๆ แต่มันเหมือนยังปล่อยของมาไม่หมด แต่ขนาดยังไม่หมดนี่ หลายคนก็กรี๊ดจะแย่แล้ว คือจะบอกว่าด้วยหน้าตาดึงดูดเรารึก็ไม่ใช่ แหม....ทอม นี่ไม่ใช่สเปคเราเลย เห้ฯรูปนี่แบบว่าหล่อตรงไหนฟร๊ะ แต่พอดูจากการแสดงเท่านั้นเอง แม่เจ้า หล่อขึ้นมาเลย จับจิตเรามาก คริสก็อีกคน มันสุดยอดจริง ๆ ในบรรดาตัวละครใน the avenger เนี่ย มี thor นี่แหล่ะ ที่ดูจบแล้วเรายังมานั่งถกกับเพื่อนได้เป็นวรรคเป็นเวร ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้อย่างนู้นอย่างนั้นนะ แบบว่าสำหรับเรา เรื่องนี้เราให้ 9 คะแนนเลย (หักตรงที่ว่ารักกะเจนเร็วไปนิดเท่านั้นเอง T___T") จากคุณ : เสียงกระซิบจากท่อระบายน้ำ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 23:04:55

ความคิดเห็นที่ 29 ปกติจะเป็นคนที่ดูหนังแบบไม่ค่อยจับผิดอะไร ปล่อยผ่านไป ไม่ซีเรียส ดูทั้งเรื่องไม่ติดอะไร นอกจากประเด็นนึงก็คือ... ตอนแรกพระเอกใจร้อน แต่พอลงมาโลก อยู่ๆ นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คงเพราะเจอนางเอก (แบบว่า "เล่นหูเล่นตา" กันประมาณ ๑๗ รอบ ๕๕๕) ด้วยความที่เป็นหนัง ๒ ชั่วโมง เลยไม่มีเวลามาบิ๊วท์ มาปูอะไรมากมาย แต่มันก็น่าจะมีเหตุการณ์ จุดกดดัน ให้สมเหตุผลที่เปลี่ยนนิสัยมากกว่านี้หน่อย อย่างที่คห.๑๗ ว่ามาก็มีเหตุผล แต่ผกก.น่าจะทำให้เรา "รู้สึก" มากกว่านี้นะขอรับ ตอนนี้ไม่รู้สึกเลยว่า พระเอกโดนกดดันจนต้องเปลี่ยนนิสัย (อาจเพราะมัวแต่เล่นหูเล่นตากับนางเอกอยู่ ๕๕๕) ติดแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวขอรับ โดยส่วนตัวชอบ Captain America มากกว่า ชอบปมของตัวเอกขอรับ มันดูเป็นฮีโร่ดี ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ใครว่ากงจื้อล้วนกรุ้งกริ่ง  เรากงจื้อจริงๆ แค่สำราญ ใครว่ากงจื้อล้วนกรุ้มกริ่ม  เรากงจื้อกินอิ่มก็สำราญ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 23:26:39 จากคุณ : กงจื้อสำราญ : D เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 23:22:47

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนตัวผมดู THOR แล้วรู้สึกสนุกกว่า Iron man เยอะเลย จากคุณ : Silent of me เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 23:35:34

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบThor มากกว่า iron man เช่นกันจ้า มีความรู้สึกว่าiron man เน้นบทพูดมากไปหน่อย ส่วนThorดูสนุกตั้งแต่ต้นจนจบไม่ต้องคิดมาก มาอ่าน คห.ของป๋ากงจื้อ แล้วก็คิดตรงกันเลย ชอบกัปตันอเมริกาที่สุดในบรรดาหนังก่อนอเวนเจอร์ ธีมของหนังแม้จะดูเชย แต่ทำออกมาได้ดีและดูดราม่าได้นี่ก็เจ๋งแล้ว ดูthorไป3รอบ แต่ดูกัปตันไป4รอบแล้ว ถ้าอเวนเจอร์ออกเป็นแผ่นBDคิดว่าคงจะดูไม่ต่ำกว่า10รอบ จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 00:41:06

ความคิดเห็นที่ 32 ^ เจ๊ฮิว นิสัยแบบป๋า นี่ นิสัยโทนี่ สตาร์คเลยฉะนั้นโดนมาก ข้างบนแค่บอกว่าเทียบกับ Thor แล้วชอบ Cap มากกว่าเท่านั้นเอง ๕๕๕ เสียใจด้วย เอากีบคืนไม่ทันแล้วเน่อ ขออภัยท่านจขกท. นอกเรื่องนิด ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ใครว่ากงจื้อล้วนกรุ้งกริ่ง  เรากงจื้อจริงๆ แค่สำราญ ใครว่ากงจื้อล้วนกรุ้มกริ่ม  เรากงจื้อกินอิ่มก็สำราญ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 55 01:47:25 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 55 01:10:02 จากคุณ : กงจื้อสำราญ : D เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 01:06:23

ความคิดเห็นที่ 33 ^^ นิสัยแบบป๋า เป็นแบบโทนี่ เลยเรอะ  งั้นก็แบบพูดมากอ่ะดิ อิอิอิ   ในหนังไอออนแมน เฮียโทนี่แกพูดมว้ากมากจริงๆ แล้วชอบพูดแข่งกับแฟนสาวด้วย  แบบว่าต่างคนต่างไม่ฟังซึ่งกันและกัน แข่งกันพูดอยู่นั่นแหละ  ยิ่งมาเจอแบบพากย์ไทยด้วยนะป๋า  ปวดหูมากมาย (คนที่บ้านชอบดูไอออนแมนน่ะ  เปิดพากย์ไทยตลอดด้วย) จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 09:12:35

ความคิดเห็นที่ 34 คิดว่าตัวตนของโลกิดูแบนไปนิดเพราะโดนตัดฉากสำคัญไป แต่แค่นี้ก็ชอบละ จากคุณ : MoonyuE เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 09:12:38

ความคิดเห็นที่ 35 เราเห็นด้วยกะ จขกท นะว่าบทมันค่อนข้างอ่อน (ตอนที่รู้ว่าในมะเขือเน่าได้คะแนนเท่าไหร่ ช็อคเลย) แต่เหตุผลไม่เหมือนกัน แต่ส่วนที่ดีของหนังเรื่องนี้สำหรับเราก็คือแคสติ้ง ซึ่งดีพอจะชดเชยบทที่ไม่ค่อยมีน้ำหนักได้ บางจุดที่มีน้ำหนักดี เราว่าเขาไม่ค่อยเน้นนะ (เรียกว่าไง ลำดับเรื่องราวไม่ค่อยดีอะ) เรื่องนี้เราให้เกรด C นะ เหมือนจะน้อยแต่เป็นมาตรฐานของเราอะนะอ้างอิงใครไม่ได้ง่ะ ปมของธอร์กับโลกิเราคิดว่าหนังทำได้โอเคดีทีเดียว แต่ฉากบนพื้นโลกนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกปร่าๆไปหน่อย อย่างความสัมพันธ์ของธอร์กับนางเอก ตัวละครฝั่งแอสการ์ดหลายตัวเหมือนกัน อย่างเพื่อนธอร์งี้ เฉลี่ยความเด่นกันไม่ค่อยพอดี เคมีไม่ค่อยสอดรับ คือแต่ละคนน่ะเล่นดีนะแต่มาอยู่ด้วยกันแล้วดูไม่ส่งบทกันน่ะ  เราก็อธิบายไม่ค่อยถูกนะ แต่มีความรู้สึกว่าหนังน่าจะถ่ายไว้มากกว่านี้แล้วตัดทิ้งไปหลายฉากหรือเปล่า บางฉากมันเลยไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร ถ้าพูดถึงฮีโร่ใน Avengers เราได้ดูแค่ธอร์กับกัปตันอเมริกา โดยส่วนตัวเราคิดว่ากัปตันอเมริกาบทดีกว่า แต่แคสติ้งสู้ธอร์ไม่ได้ จากคุณ : p_nijitet เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 09:12:40

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับความคิดที่ 17 จากคุณ : june_ju เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 02:15:57

ความคิดเห็นที่ 37 คิดว่าหนังสั้นไปหน่อยค่ะ  หรืออาจจะตัดรายละเอียดออกไป บางตอนก็เลยดูเร็วๆ ข้ามๆ  แต่รวมแล้ว ก็สนุกดี  ดูง่ายเหมือนอ่านการ์ตูน มาดูจากแผ่นเลยได้เห็น Barton (Hawkeye) ในฉากหนึ่ง ซึ่งจำไม่ได้ เลยจากที่ดูในโรง หรืออาจจะไม่ได้สนใจcharacter นี้เท่าไร  พอดู Avengers แล้วเลยจำได้ทันที   Casting เรื่องนี้ดีจริงๆค่ะ  โดยเฉพาะเทพพี่น้อง Thorหน้าตาดูซื่อๆ และ ภูมิใจในความมีอำนาจของตัวเอง  ส่วนLoki ก็ดูแบบขี้อิจฉา เจ้าคิดเจ้าแค้น จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 03:24:37