Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[ONE PIECE] - การค้นหาตัวเอง วันพีช และเออิจิโระ โอดะ ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาต เจ้าของ Blog จาก เว็ป บล็อคเว็ปหนึ่งนะครับ

บทความโดยคุณ : พอกลอน ซาเสียง

ลิงค์จาก : http://porglon.exteen.com/20120520/entry


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ถ้าคุณอยากเข้าใจปัจจุบัน คุณต้องค้นหาวันวาน”

เพิร์ล เอส.บั๊ก



การค้นหาตัวเองเป็นสิ่งที่ไอดอลตัวจี๊ดทั่วโลกเน้นย้ำในเรื่องนี้อยู่เสมอ หลักประการแรกของการค้นหาตัวเอง คือการอยู่เงียบๆ เพื่อพูดคุยกับตัวเอง สำรวจว่าเราเป็นใคร มาจากไหน และต้องการจะไปที่ใด รวมถึงต้องการอะไรในชีวิต หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ มองย้อนกลับไปในตัวตน ว่าเราชอบ รัก หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ อยากอยู่กับการงานและวิถีชีวิตแบบไหนไปตลอดชีวิต ชอบพบปะผู้คน ชอบค้าขาย ชอบบัญชี ชอบตรวจสอบ ชอบเจรจา ชอบวาดรูป ชอบเขียนหนังสือ ชอบวางแผน หรือชอบอะไรสักอย่างที่คิดว่าใช่ ให้ลองถามตัวเองอย่างซื่อตรงโดยไม่มีข้อแม้

ซึ่งหลายครั้งสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดในชีวิตมักจะเป็นความรู้สึกประทับใจเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก เช่น การกินขนมอร่อยๆ บางชิ้นในวัยเยาว์แล้วรู้สึกตัวเบาหัวใจพองโต การอ่านหนังสือการ์ตูนที่ทำให้หัวเราะหรือร้องไห้ ภาพวาดเล็กๆ บนผนังที่เห็นแล้วอิ่มใจ เพลงจากวิทยุที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง หนังบางเรื่องที่กระตุ้นต่อมจินตนาการและให้ข้อคิด ฯลฯ เป็นความรู้สึกประทับใจเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต เพียงแต่ว่าเราหลงลืมมันไป ถูกค่านิยมของสังคมและความเป็นผู้ใหญ่ซ่อนไว้จนหาไม่เจอ

ผมคิดว่าการค้นหาตัวเองให้เจอผ่านวัยเยาว์นี้น่าจะอธิบายผ่านการ์ตูนวันพีชได้ดีที่สุด เพราะตัวละครเก้าตัวบนเรือโกอิ้งแมรี่ (ปัจจุบันคือ เทาวน์ซันซันนี่) ต่างใช้วัยเยาว์ของตัวเองเป็นเชื้อเพลิงในการเติบโตและผลักดันตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า

ลูฟี่ กัปตันเรือที่อยากแข็งแกร่ง เพราะคนที่ช่วยชีวิตเขาต้องเสียแขนไปในวันที่เขาอ่อนแอ

โซโล รองกัปตันเรือที่อยากเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดเพราะสัญญากับเพื่อนสาวที่ตายไปเอาไว้

ซันจิ พ่อครัวที่อยากค้นพบออลบลู แหล่งรวมพันธ์ปลาในตำนานแทนผู้มีพระคุณ

ชอปเปอร์ แพทย์ประจำเรือที่อยากเป็นหมอเพราะต้องการสืบทอดปณิธารของคนที่เคยเลี้ยงเขา

นามิ ต้นหนที่ต้องการเก็บเงินซื้อเกาะของคุณเบลเมลคืนจากเหล่าอันธพาลเงือก และอยากเขียนแผนที่โลกให้สำเร็จ

อุซุป พลแม่นปืนผู้ขี้ขลาดแต่อยากเป็นโจรสลัดที่เก่งแบบพ่อเพื่อเอาชนะใจตนเอง

นิโคโรบิน ลูกเรือที่อยากเป็นนักโบราณคดีเช่นเดียวกับแม่เพื่อตามหาประวัติศาสตร์ที่แท้จริง

บรู๊คโครงกระดูกเอฟโร่ผู้ไม่ยอมตายเพราะสัญญาไว้ว่าจะกลับไปหาปลาวาฬลาบูนที่ทิ้งไว้ที่ทางเข้าแกรนไลน์

และแฟรงกี้ช่างต่อเรือสุดเกรียนที่อยากสร้างเรือที่ไปได้ทุกที่

ทุกคนต่างรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไรและอยากไปที่ไหน พวกเขาทั้งเก้าคนเริ่มต้นจากระดับธรรมดา เผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อสู้กับปัญหาที่ใหญ่เกินตัว เจอกับผู้ยิ่งใหญ่ที่บอกปฏิเสธและไล่ให้กลับไปเสมอ หลายครั้งที่พ่ายแพ้ ร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม เจ็บปวดจนลุกไม่ขึ้น ทว่าเศษเสี้ยวแห่งความคิดที่บอกว่าเป้าหมายยังอยู่อีกไกลจะยอมตายที่นี่ไม่ได้ ทำให้ใจที่อยากหยุด อยากจะหนี อยากจะล้มเลิก ค่อยๆ ลุกขึ้นจากบ่อโคลนแห่งความผิดหวัง แล้ววิ่งเข้าใส่ปัญหาตรงหน้าด้วยร่างกายที่บอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า มีใจที่ไม่เคยท้อเป็นเพื่อน จนในที่สุดก็ใช้สติปัญญาและการฝึกฝนที่มากพอ ก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นได้สำเร็จ

เรื่องราวเต็มไปด้วยการเดินทางตามหาความฝันโดยไม่อินังขังขอบต่อสิ่งใดของตัวละคร ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้มากมายยิ่งนัก มันช่วยดึงความเชื่อ สัญชาตญาณ และศักยภาพอันเต็มเปี่ยมที่ซ่อนอยู่ในตัวเราออกมา บอกเราว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ ทุกครั้งที่ผมอ่านการ์ตูนเล่มนี้จึงเข้าใจได้ดีว่า ทำไมมันถึงสร้างยอดขายถล่มทลายที่ญี่ปุ่นได้สำเร็จ

ทว่าผมคิดว่า คงมีผู้ใหญ่หลายคนที่อยู่กับโลกความจริงมานานอาจแย้งว่า “โธ่เอ๊ย มันก็แค่การ์ตูนไร้สาระจะเขียนอะไรก็ได้ ให้เอามาใช้ในชีวิตจริงคงไม่ได้หรอก”

สำหรับคำถามนี้ผมตอบได้ไม่ยากครับ สำหรับวันพีชที่ อ.เออิจโร่ โอดะ เขียน ผมถือว่าเป็นตัวแทนของทัศนคติและการทำงานทั้งชีวิตของเขา ถ้าอยากเรียนรู้ก็ให้เรียนรู้ผ่านชีวิตของเขา ที่อยากเป็นนักวาดการ์ตูนเหมือนเด็กญี่ปุ่นอีกเป็นล้านคน อ. โอดะ ในวัย 19 ปีได้มาสมัครทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้เขียนซามูไรพเนจร ระหว่างนั้นก็เขียนผลงานส่งเข้าประกวดด้วยหลายเรื่อง (หนังสือแปลไทยชื่อ WANTED) ทว่าหลายเรื่องที่วาดก็ไม่โดนนัก จนเมื่อจุดหนึ่งที่แกหยิบเรื่องราวของโจรสลัดที่ตัวเองชอบมาเขียนดู ก็กลายเป็นต้นฉบับร่างแรกของวันพีชขึ้นมาจนได้

จะเห็นว่าการที่อ.โอดะ ค้นหาวัยเยาว์ของตัวเองเจอได้เป็นก้าวแรกสู่ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเขา ไม่นับในช่วงเวลานั้นที่แกฝึกฝนฝีมือตัวเองทุกวันผ่านการทำงานเป็นผู้ช่วย ซึ่งกินเวลาทั้งหมดในชีวิตไปอยู่แล้ว ทว่าก็ยังเอาวันพักผ่อนมาเขียนการ์ตูนของตัวเองอีก ซึ่งคงจะมีเพียงความรักในสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ เท่านั้น ที่จะมอบพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ให้เกิดขึ้นได้ (สตีฟ จอบส์มักจะพูดถึงความรักเช่นนี้เสมอ)

และผมเชื่อว่า 14 ปีในการเขียนการ์ตูนเรื่องเดียวทุกสัปดาห์โดยไม่หายไป พิสูจน์สิ่งที่ อ.โอดะ เขียนไว้ในวันพีชได้เป็นอย่างดี ถึงเรื่องการต่อสู้ การฝ่าฟันอุปสรรค เพราะในระหว่าง 14 ปีของการเขียนผมเชื่อว่า อ.โอดะ เจออุปสรรคหลายครั้งหลายครา โดยเฉพาะหลังจบศึกสุดมันส์กับครอกโคไดน์ที่อลาบัสต้า แล้วเดินทางไปยังเกาะบนท้องฟ้า นักอ่านที่มีประสบการณ์หลายคนต่างเชื่อว่า อ.ได้ออกทะเลไปอย่างกู่ไม่กลับแล้ว เพราะขึ้นไปสู้กับเทพเอเนลูนานมากกก (ประมาณเกือบสองปีในชีวิตจริง) แถมช่วงนั้นเรื่องเริ่มยืด และรวมเล่มประมาณ 30 เล่มในเวลานั้นมักจะเป็นจุดจบของการ์ตูนดังรุ่นพี่หลายๆ เรื่อง ถึงขนาดเพื่อนผมเอาวันพีชมาทิ้งให้เพื่อนที่คณะอ่านยกชุด และในเวลานั้นที่ร้านมือสองเราจะเห็นวันพีชมือสองจำนวนมาก

ทว่าหลังจากที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกลับลงสู่ทะเลแล้วเข้าสู่แก่นหลักของเรื่อง ณ เมืองวอร์เตอเซเว่น / การต่อสู้กับ CP9 / เฉลยปมหลักของนิโคโรบิน และการบอกลาครั้งสุดท้ายของเรือแมรี่ก็ทำให้นักอ่านส่วนใหญ่เสียน้ำตากันเป็นลิตร

ส่วนตัวผมคิดว่าถึงแม้ส่วนใหญ่จะร้องไห้เพราะอินกับเนื้อเรื่อง ทว่าเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการร้องไห้ของนักอ่านจำนวน 52 ล้านคนที่ญี่ปุ่น และอีกกว่าแสนคนที่ไทย เพราะนักอ่านสัมผัสได้ถึงพลังใจ ความพยายาม ความทุ่มเท และความรัก ของอ.โอดะ ที่หลั่งไหลออกมาจากหนังสือ

จากเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่อยากเป็นนักวาดการ์ตูนเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป พออายุ 19 ปีก็มาสมัครเป็นผู้ช่วยนักวาดการ์ตูนโดยไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ลงมือวาดการ์ตูนของตัวเองหลังเลิกงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ค้นหาตัวเองจนเจอเป็นครั้งที่สอง(ในเรื่องความชอบเกี่ยวกับโจรสลัด) แล้วก็ทำงานอย่างตั้งใจ วางโครงเรื่องเป็นอย่างดี ใส่รายละเอียดมากมายลงไปในงาน ฝ่าฝันทุกอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต และยังคงทำงานที่รักต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดพัก ถึงแม้วันนี้จะกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นแล้วก็ตาม

ผมคิดว่าชีวิตของ อ.โอดะในตอนแรก ก็คงเป็นเหมือนลูฟี่ในตอนแรกที่ไม่มีใครรู้จักเช่นกัน ครั้งนั้นเด็กหนุ่มไม่มีค่าหัว มีความสามารถที่ดูน่าตลกคือร่างกายเป็นยางยืด1 ต้องต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรค และพิสูจน์ตัวเอง จนค่อยๆ มีค่าหัวเพิ่มขึ้น จาก 0 เป็น 15 ล้าน  จาก 30 ล้านเป็น 100 ล้าน และสูงถึง 300 ล้านตามลำดับ เช่นเดียวกับการโด่งดังของ อ.โอดะ ที่เริ่มจากศูนย์(เหมือนการ์ตูนใหม่เรื่องอื่นๆ) และค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกปี ยอดขาย 52 ล้านเล่มที่ญี่ปุ่นในปีล่าสุดนั้นมันไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากความรัก ความสามารถ ความเพียรพยายาม ความสม่ำเสมอ การเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง(วันพีชมีความหลากหลายของศาสตร์หลายแขนง) รวมถึงความมั่นใจ และความศรัทธาในเส้นทางที่ตัวเองเลือกเดิน

ซึ่งบางครั้งการค้นหาเข้าไปในตัวเองก็ตอบแทนสิ่งดีๆ กลับมาเหมือนกัน







ปล: 1ทักษะยางยืดของลูฟี่ในเชิงสัญลักษณ์ ถ้านำมาเปรียบเทียบในชีวิตจริงคงหมายถึงความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต มีการผ่อนปลน ไม่ยึดมั่นมากเกินไป ไม่เหลวไหลเกินไป เรียนหรือทำงานอย่างสนุก มีชีวิตชีวา ใช้ชีวิตในทางสายกลาง มองเรื่องร้ายๆ ให้เป็นเรื่องตลกเหมือนอย่างที่ลูฟี่ชอบทำ รวมถึงปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ได้ตลอด




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากคุณ : Navyblue1990
เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 10:25:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com